คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : - ( sleepwith ) - file one
FILE ONE
วันที่ฝนตก... ไหลลงที่หน้าต่าง
Nants ingonya mabagi thi Baba [Here comes a lion, Father] !!!!
เสียงเพลง Circle of Life จากเรื่อง Lion King ดังลั่นห้องพักหลังมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง (ใครไม่เคยฟังลอง Search ใน Youtube เลย จะได้รู้ว่าซาวน์มันกระแทกโสตประสาทแค่ไหน)
“โอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!”
เสียงโอดครวญของเด็กหนุ่มวัยแรกแย้มที่ต้องพยายามลากตัวเองลุกขึ้นจากเตียงเพื่อเข้าคณะเอารายงานชิ้นสุดท้ายก่อนสอบไฟนอลไปส่ง ร่างโปร่งกดปิดเสียงนาฬิกาปลุกเตรียมทำท่าจะนอนต่อ แต่พอหลับตาลงปุ๊บจิตใต้สำนึกดันบอกให้หยิบมือถือมาดูก่อนว่ากี่โมงแล้ว พอเห็นเวลาก็ทำเอาตาแทบถลน
9.45 AM
“ชิบหายแล้ว!!”
เวลาเดทไลน์ส่งงานคือในคาบเรียนวันนี้และคาบเรียนวันนี้เริ่มเรียนตอนสิบโมงตรง!
ร่างโปร่งรีบเด้งตัวคลานลงจากเตียงไปที่ห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน น้ำเนิ้มไม่อาบเพราะไม่มีเวลาแล้ว หยิบกางเกงยีนตัวโปรดที่ใช้มาร่วม 3 ปีแล้ว (กางเกงที่ไม่เคยผ่านน้ำ) กับเสื้อนักศึกษามาใส่ ติดกระดุมไปแปรงฟันไป ความสามารถนี้คงหาจากเด็กคณะไหนไม่ได้แล้วนอกจากเด็กสถาปัตย์อย่างเขา
“เอ้า... ฝนเสือกตกอีก!! กูอยากจะบ้าตาย...”
ปากบางเบ้ก่อนจะก้มลงไปถกขากางเกงยีนขึ้น เตรียมลุยน้ำฝนไปโบกแท็กซี่หน้าปากซอยหอเข้ามหาลัย แต่โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดันสั่นขึ้นมาขัดจังหวะซะก่อน
สายเรียกเข้า ‘เจ้าสัว’
พอดีเลย...
“โหล... พี่... พี่มารับผมเข้ามอหน่อยได้ป่ะพี่”
<ห้ะ?> จากเสียง... ปลายสายคงจะงง เพราะเขาเป็นคนโทรมา แต่เซฮุนดันรับสายแล้วเปิดประเด็นเองก่อน
“นะพี่นะ ผมรีบจริงๆ ผมรออยู่หน้าหอผมนะพี่”
<โอเคๆ แป๊บนึงละกัน>
ถึงจะงงแดกแต่ปลายสายก็ตอบสนองต่อความต้องการของเซฮุนได้เป็นอย่างดี อีกห้านาทีเริ่มเรียน สายสักห้านาทีสิบนาทีก็ยังโอเคอยู่ล่ะนะ ได้แต่ภาวนาว่าอาจารย์จะไม่ล็อกประตูห้อง
ความเย็นชื้นจากสายฝนที่ตกลงมาไม่ช่วยให้เซฮุนรู้สึกใจเย็นขึ้น เพราะครั้งนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่อาจารย์ประจำวิชามอบให้เขาแล้ว... จากการที่เขาเข้าเรียนเพียงแค่ 3 ครั้งตลอดเทอมที่ผ่านมา ครั้งนี้นับว่าเป็นจุดแตกหักของชีวิตเลยก็ว่าได้ การติด F วิชาภาษาเกาหลีไม่ใช่เรื่องตลกนะครับ คนเกาหลีที่ F วิชาภาษาเกาหลี เอาทรานสคริปไปสมัครงานที่ไหนคงเป็นอันต้องอายที่นั่น
ระหว่างที่ร่างโปร่งกำลังคิดถึงความอัปยศของชีวิต รถฟอร์ดเฟียสต้าสีแดงสดก็เข้ามาจอดตรงหน้า พอเห็นแบบนั้นเซฮุนรีบวิ่งฝ่าฝนไปขึ้นรถโดยไม่ปล่อยให้เสียเวลากันอีกต่อไปแล้ว
“ไปส่งคณะผมทีพี่”
เจ้าของรถมองร่างที่เกือบจะเปียกเพราะฝนที่เทลงมาอย่างหนักแบบสงสัย แต่ดูเหมือนอีกคนจะรีบมากจนไม่มีเวลาให้เขาได้สงสัยอะไร เลยจำต้องเข้าเกียร์เหยียบคั่นเร่งตรงไปยังที่หมายที่อีกคนบอกมา...
‘คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์’
“เห้ยพี่ชานยอล ขอบคุณมากพี่ ว่าแต่พี่โทรมามีไรเปล่า”
เซฮุนที่เหมือนจะเพิ่งนึกออกว่าอีกฝ่ายโทรมาหาเขาซึ่งนั่นหมายความว่าอาจจะมีเรื่องอะไรก็ได้... พอถูกถามแบบนั้นชานยอลเองก็คิดขึ้นมาได้ว่าตอนแรกเขาเป็นคนโทรหาเซฮุนเองนี่หว่า
“พี่ลืมไปแล้วว่ะ... รีบไม่ใช่หรอ รีบไปสิ”
“ครับๆ งั้นผมไปก่อนนะพี่ มีไรโทรมาๆ”
พูดจบก็ปิดประตู... กอดกระเป๋าไว้แน่นประหนึ่งของรักของข้า แต่จริงๆ แล้วเปล่าเลย ถ้าไม่ติดว่ามีรายงานอยู่ในนั้นเขาคงจะเอากระเป๋าขึ้นมากันฝน ไม่ทนให้หัวเปียกไปเข้าเรียนแบบนี้หรอก
“กว่าจะมา กูนึกว่ากูต้องลงเรียนใหม่ละครับเพื่อน!”
เพื่อนที่ยืนรออยู่หน้าห้องทำหน้าบอกบุญไม่รับ... ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่มันเกิดจากการที่พวกเขาสองคนโดดเรียนวิชานี้พร้อมกันและมันเป็นวันที่อาจารย์สั่งรายงานกลุ่ม... ซึ่งตามปกติแล้ว... พวกเขาจะไม่มีวันทำงานกลุ่มด้วยกันเด็ดขาด เพราะรู้ว่ามันไปไม่รอด!! ส่วนใหญ่จะไปเกาะเด็กคณะอื่นเอาเพราะมันเป็นวิชาเรียนรวมทั้งมหาวิทยาลัย แต่เพราะกลุ่มอื่นเขาจับกลุ่มกันไปหมดแล้ว... นั่นเลยเป็นเหตุผลที่เขาทั้งสองคนต้องมาทำงานร่วมกัน ไม่มีกลุ่มให้อยู่ ไม่มีใครรับ ไม่มีใครสนใจและไม่มีใครต้องการ
“กูบอกแล้วให้เอางานไว้ที่มึง”
“เซฮุนเพื่อน... ก็เมื่อคืนกูนอนหอมึง...”
“แล้วเมื่อเช้าทำไมมึงไม่เอาไปกับมึงด้วยวะ ตื่นไม่บอกกู”
ต่างคนต่างพยายามโยนความผิดให้อีกฝ่าย ไม่มีใครคิดว่าตัวเองผิดทั้งนั้น... นี่แหละเพื่อนแท้ คิดอะไรก็พูด ไม่มีคำว่าเกรงใจหรือถ่อมตัวหรือรู้สึกผิดใดๆ ทั้งสิ้น
“ก็กูรีบกลับมาเปลี่ยนชุดนักศึกษา มึงบอกมึงจะตื่นแล้วนี่หว่า... ช่างมัน... เข้าไปได้ละไอ้สัด ติด F กูไม่ซี แต่ให้กูมานั่งเรียนใหม่กูไม่เอา!”
“จงอิน...”
“อะไร...”
“เดี๋ยวค่อยเข้าได้ป่ะวะ ดูดบุหรี่แป๊บนึง”
ถ้าจงอินซื้อหวยก็คงจะถูกไปแล้ว ร่างดำทมิฬได้แต่คิดในใจ แต่ก็พยักหน้า... เพราะเขารู้ว่าเพื่อนเขาเลือดขาดนิโคตินไม่ได้และการเข้าเรียนสายก็ทำให้เขาไม่มีหน้าจะขอออกมานอกห้อง... มันเป็นจุดเด่นเกินไป...
“มึงมีบุหรี่ป่ะวะ กูไม่ได้หยิบมา”
จงอินควานเอาไอเท็มในกระเป๋ากางเกงนักศึกษาออกมาส่งให้เพื่อนรัก ดีนะที่เขายังมีสติพอที่จะหยิบมา ไม่งั้นเซฮุนได้ร้องโวยวายลากเข้าออกไปซื้อนอกมหาลัยอีก ไม่ต้องส่งพอดีรายงาน เป็นคนที่ต่อให้มีเรื่องรีบเร่งด่วนแค่ไหนก็ขอให้ได้ดูดบุหรี่ก่อน... ไม่งั้นจะทำอะไรต่อไม่ได้ ไม่รู้จะบำบัดเด็กคนนี้ยังไง
“พี่ชานยอลโทรหามึงยัง”
“โทรมาละ... เขาเป็นคนมาส่งกูเอง ทำไมวะ”
“อ่าว เขายังไม่ได้มึงหรอว่าวันนี้เลี้ยงสาย”
“เลี้ยงอีกแล้วหรอวะ!!”
บุหรี่ที่คาบอยู่แทบร่วงจากปาก เลี้ยงสายที่ว่านั่นคือสายรหัสแต่ไม่ใช่สายรหัสของมหาลัยหรอกนะ เพราะชานยอลกับเซฮุนเรียนคนละคณะ... เป็นสายรหัสตั้งแต่ทั้งคู่อยู่ม.ปลาย ซึ่งเรียกกันว่าสายเทพ (โรงเรียนฮานานิม) เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในประเทศเลยมีกิจกรรมสานสัมพันธ์กระชับมิตรอะไรทำนองนี้ค่อนข้างเยอะ (บางทีอาจจะว่างไม่รงไม่เรียนหาอะไรเกรียนๆ ทำไปเรื่อย ให้มันเด่นให้มันต่างจากคนอื่นเขา) แต่มันก็ทำให้รุ่นพี่รุ่นน้องรักกันดีนั่นแหละ
“ก็มึงอยู่สายใครล่ะ สายเจ้าสัวเลยนะไอ้สัด กูว่าเขามีเงินพอเลี้ยงมึงทุกวันแหละ”
เจ้าสัวคนนั้นก็คือชานยอลนั่นเอง เป็นรุ่นพี่ที่ฐานะทางบ้านค่อนข้างดี ทำให้เซฮุนและจงอินได้รับผลบุญผลกรรมไปด้วยกันมาแต่ไหนแต่ไร
“แรกๆ ก็ดีนะไอ้สัด หลังๆ กูเริ่มเอียนละ แดกกับพี่แกแม่งเหนื่อยชิบหาย กูแดกจะเมาแล้วเมาอีก สร่างแล้วเมาอีก พี่ชานยอลแม่งไม่ยอมเมาสักที...”
“คอพี่แกเอามีดแทงยังไม่เข้าเลยกูว่า แข็งจัด ฮ่าๆ”
พูดไปก็ขำไป... ยังดีที่มีจงอินมาเป็นติ่งอยู่ในสายเดียวกัน เพราะว่ารหัสนักเรียนจงอินมันเป็นเลขท้ายๆ เลยไม่มีพี่รหัสตัวเอง ก็เลยเลือกรุ่นพี่ได้... แล้วก็เหมือนเป็นก้าวที่พลาด ที่เลือกมาอยู่สายเดียวกับเซฮุน...
“ป่ะ เข้าห้องกัน”
เซฮุนโยนก้นบุหรี่ลงพื้นแล้วเหยียบก่อนจะหยิบขึ้นมาเพื่อเอาไปใส่ถังขยะ ซึ่งนั่นนับว่าเป็นจิตสำนึกที่ดีเพียงน้อยนิดที่เซฮุนมีอยู่...
ก็แค่ไม่อยากให้ที่ๆ มันสะอาดต้องสกปรก... เพราะคงมีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นแหละที่แอบมาสูบบุหรี่ข้างตึกเรียน ถ้าที่อื่นมันมีก้นบุหรี่อยู่แล้ว เซฮุนก็จะไม่ลังเลเลยที่จะทิ้งไปเฉยๆ
“มึงเข้าไปก่อนดิ!”
“มึงมาช้าอะเซฮุน มึงนั่นแหละเข้าไปก่อน”
นิสัยแบบนี้ไม่ว่าใครก็ต้องเป็น... จริงๆ แล้วยังไงก็ต้องเข้าไปด้วยกัน ยังไงก็เด่นทั้งคู่ แต่มันมีจุดประกายความคิดเล็กๆ ที่ว่า เข้าไปก่อนเด่นกว่า แต่จริงๆ มันไม่จริงเลย
เซฮุนถูกจงอินผลักเข้าไปในห้อง... และนั่นก็ทำให้นักเรียนทุกคนหันมาสนใจพวกเขาทั้งสองคนเพราะว่าประตูเข้าห้องมันอยู่หน้าห้องเรียนเลย ทั้งคู่ตั้งสติก่อนจะโค้งและยิ้มให้อาจารย์ก่อนจะรีบวิ่งไปหาเก้าอี้เล็กเชอร์ตัวที่อยู่ไกลอาจารย์ที่สุด นั่นคือหลังห้องแล้วรีบนั่งก้มหน้าหลบสายตาของเพื่อนร่วมเซค... เดี๋ยวพออาจารย์เริ่มสอนก็ไม่มีใครสนใจพวกเขาแล้ว... ทั้งคู่คิดแบบนั้น
“เซฮุน... เอารายงานมาส่งท้ายคาบด้วยนะ”
สิ่งที่เซฮุนเกลียดที่สุดในห้องเรียนคือ... การที่อาจารย์จำชื่อเขาได้
ถ้าจำได้เพราะการเป็นเด็กเรียนดี เข้าเรียนทุกคาบมันจะให้ความรู้สึกตรงข้ามกับตอนนี้มาก นี่ถูกอาจารย์จำชื่อได้เพราะขาดเรียนบ่อย... ทุกครั้งที่ถูกเรียกชื่อมันชวนให้ขนลุก... แล้วเรียกทีถูกคนอื่นมองที กลายเป็นจุดรวมสายตาของเพื่อนในห้อง...แบบนี้ทุกที!
“ครับอาจารย์...”
นี่มันลางร้ายชัดๆ!!!
ความคิดเห็น