ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผจญภัยในโลกต่างมิติ

    ลำดับตอนที่ #9 : มุ่งหน้าสู่เมืองอาวารอน (2)

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 58


    ตอนที่ 9  มุ่งหน้าสู่เมืองอาวารอน (2)

              “เอ้า  ลุกขึ้นได้แล้ว เช้าแล้ว  เตรียมตัวเดินทางได้แล้ว” รอนตะโกนปลุกทุกคน

              กร  โจเซฟ และปีเตอร์ ก็ค่อยๆทยอยลืมตาตื่นมาเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางต่อไป  และก่อนจะออกเดินทางต่อนั้น รอนก็มอบอุปกรณ์บางอย่างแก่ กร และ โจเซฟ

              “เจ้าหนูกร  มารับเจ้านี่ไป”

    รอนมอบดาบไม้ให้กับเจ้าหนูกร  รอนแอบทำดาบไม้ให้กรตอนที่เขาหลับเมื่อคืน  รอนนั้นแอบห่วงใยเจ้าหนูกรตลอดเวลา  ถึงแม้จะเจอกับกรนั้นได้ไม่นาน แต่เขากลับรู้สึกผูกพันธ์  รอนคิดกับกรเหมือนลูกเขาอีกคนหนึ่ง

    “ถ้ามีเวลาว่างละก็ฝึกหวดดาบไม้นั้นสะ  ถ้าเจ้ายังไม่อยากจะตายตอนสู้กับ MONTER ครั้งหน้าละนะ”

    “ครับ”  กรตอบรับและพกดาบไม้ไว้กับตัวตลอด 

    เมื่อพวกเขาทั้ง 4 จัดเก็บสัมภาระกับเรียบร้อยแล้ว  พวกเขาก็รีบมุ่งหน้าเดินทางต่อไปโดยไม่หยุดพักเหมือนเดิม  พวกเขาเดินทางไปตามทางเรื่อยๆ จนถึงเวลาเที่ยงวัน จึงทำการหยุดพักเพื่อหาอาหารลองท้องกันก่อน  โดยคราวนี้รอนจะเป็นผู้ออกล่ามอนเตอร์เพื่อเอาไว้ทำเป็นอาหารและเสบียงสำหรับเดินทางต่อไป  ส่วนโจเซฟให้รับหน้าที่จุดไฟแทน  และปีเตอร์เป็นคนออกไปหาฟืนทำไฟแทนกร   ส่วนกรนั้นรอนไม่ได้สั่งอะไร  ทุกคนต่างก็แยกย้ายไปทำหน้าที่   ในขณะที่ทุกคนมีงานของตัวเองต้องทำ  กรก็เริ่มหยิบดาบไม้ที่ได้จากลุงรอนขึ้น

    กรจับดาบไม้ทั้ง 2 มือ และยกมันขึ้นเหนือหัว และฟาดลงมาตรงพื้นดิน  เมื่อฟาดเสร็จก่อนก็นับ

    “1”   กรฝึกหวดดาบไม้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า....

    “987...  988... 999... 1,000” 

    “ฟู่”  กรพ่นลมหายใจออกมาในที่สุดก็ถึง 1,000 ที สะที  สภาพกรในตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อ

    เมื่อกรฝึกเสร็จแล้วนั้น  ก็มีเสียง ติ๊ง เกิดขึ้นในหัวเข้าแล้วขึ้น สเตตัสว่า

    [คุณได้รับทักษะการใช้ดาบ LV 1]  [คุณได้เพิ่มค่าความอึดเป็น LV 1]

     

    “เย้... ยินดีด้วยกรแค่ 30 นาที ก็ฝึกหวดดาบไม้ได้ตั้ง 1,000 ทีแนะ  ถ้าเป็นผมคงยอมตั้งแต่ 5 นาทีแรกแล้วและ” โจเซฟพูดชมกรในความตั้งใจที่จะทำให้ตัวเองเก่งขึ้นจริงๆ

    “ไม่หลอกแค่นี้ยังไม่ดีพอ”  กรพูดออกมาพร้อมจะทำท่าฝึกหวดดาบไม้ต่อ

    “พอแค่นั้นแหละเจ้าหนู”  รอนตะโกนให้กรหยุดฝึก

    รอนพึ่งกลับมาถึงพร้อมกันกับปีเตอร์

    “ขยันฝึกก็ดีอยู่หลอก แต่นี้ได้เวลาอาหารแล้ว  ไปเช็ดเนื้อเช็ดตัวแล้วมาช่วยทำอาหารกัน”

    “ครับ”

     

    พวกเขาทั้ง 4 ก็รีบจัดเตรียมวัตถุดิบและลงมือทำอาหารและรับประทานอาหารกัน

     

    “อ้ำ ....  อร่อยจังครับคุณรอน”  โจเซฟชมอาหารที่เขาพึ่งกินไป

    “555+  มันก็ต้องอร่อยอยู่แล้วละสิ  ก็พวกเราเล่นเดินทางมาตั้งแต่เช้าโดยไม่กินอะไรกันเลย”

    “เอ้ารีบๆกินเข้าจะได้เดินทางต่อ”

     

    พวกเขาทั้งก็รีบจ้วงอาหารลงกะเพาะโดยเร็วไว  เมื่อกินกันเสร็จแล้ว พวกเขาทั้ง 4 ก็เดินทางต่อทันที

    เดินทางจนกระทั่งถึง 6 โมงเย็น

              “พวกเราจะพักแรมที่นี่แหละ  หยุดพักได้แล้ว” 

              แยกย้ายกันไปทำหน้าที่เหมือนเดิมนะ  รอนสั่งทุกคน  พวกเราก็ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของแต่ละคน  โดยกรที่ไม่มีหน้าที่อะไรก็ฝึกหวดดาบไม้ต่อ

              “1.. 2.. 3.. 4..”

              “100.. 101.. 102..”

              “998.. 999.. 1,000”

              “ฟู่” กรเป่าลมออกจากปาก

    ในที่สุดก็ฝึกเสร็จสักที แต่รอบนี้รู้สึกจะเสร็จเร็วกว่าเดิมนิดหน่อยแหะ  แถมเหงื่อก็ไม่เยอะเหมือนกับรอบแรกด้วย  แสดงว่านี่คงเป็นจากการได้ทักษะความอึด มาสินะ....    แต่ทักษะการใช้ดาบ กับ ค่าความอึด ก็ไม่ยักจะเพิ่มขึ้นแหะ  แสดงว่าเรายังฝึกไม่พอสินะ   กรครุ่นคิดในใจ

    “โป๊ก”  เสียงของแข็งบางอย่างกระทบหัวกร

    “อูย... เจ็บจัง”  กรเอามือมาประคบที่หัว 

    “ท่าอยากเก่งขึ้นก็ฝึกนี่ด้วยสิ”

    ปีเตอร์ที่เก็บกิ่งไม้แห้งเสร็จแล้ว  ก็บอกให้กรฝึกการใช้ดาบไม้ปัดกิ่งไม้ที่เขาเก็บมา โดยที่ปีเตอร์จะขว้างกิ่งไม้เข้าหากรอย่างรวดเร็วและรุนแรง

    “ขอบคุณมากครับ ปีเตอร์ที่ช่วยฝึกผม”

    ขณะที่กรฝึก โจเซฟก็เข้ามาร่วมชมด้วย  พร้อมทั้งให้กำลังกร

    “จะเริ่มละนะ”  ปีเตอร์พูด

    “ครับ ขอความกรุณาด้วย” กรตอบรับ

    ปีเตอร์ขว้างกิ่งไม้ด้วยความแรงแค่ 30 % แต่กิ่งไม้ก็พุ่งมาถึงกรด้วยความไวมาก

    “ป๊าป” เสียงกิ่งไม้กะแทกที่ใบหน้าของกร

    “อูย...  เจ็บจริง   นี่ปีเตอร์อย่าพึ่งเอาจริงตั้งแต่แรกสิ แบบนี้ใครจะหลบทันอะ”  กรร้องออกมา

    “ชั้นยังไม่ได้เอาจริงด้วยซ้ำ  เมื้อกี้แค่ 30% ของฉันเองได้มั้ง”

    กรถึงกับหน้าซีดทันที  แต่ว่ากรก็ไม่ยอมแพ้หลอก

    “ขอความกรุณาต่อด้วยครับ”

    กรขอให้ปีเตอร์ฝึกเขาต่อ  กรฝึกต่อเป็นเวลา 10 นาที

              “พอแค่นี้แหละ  ข้าโยนกิ่งไม้หมดแล้ว  แถมท่านรอนก็กลับมาถึงนานแล้ว ไปทำอาหารกันเหอะ”  ปีเตอร์พูดกล่าวให้พอและเริ่มทำกับข้าวกินกันได้แล้ว

              การฝึกครั้งนี้ทำให้ [สกิลทักษะของกรด้านการหลบหลีกเพิ่ม LV 1]  แต่ก็แลกมากับรอยกิ่งไม้ที่อยู่เต็มบนใบหน้ากร

              **** **** **** **** ****

              พวกเราทั้ง 4 ก็นั่งรวมกันเพื่อรับประทานอาหาร  

              “เป็นการฝึกที่ยอมเยี่ยมมากปีเตอร์” รอนกล่าวชมปีเตอร์

              “ไม่หลอกครับนี่มันเป็นการฝึกขั้นพื้นฐาน  คนเรานั้นต้องรู้จักป้องกันตนเองก่อนถึงจะไปโจมตีใครได้ ถ้าเราฝึกแต่ให้กรโจมตีศัตรูเบื้องหน้าแต่ไม่รู้จักป้องกันตัวเองละก็  กรคงมีชีวิตได้ไม่นานแน่ๆ”  ปีเตอร์พูดออกมา

              “สมแล้วที่มีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย  ดูเหมือนว่าข้ามองเจ้าผิดไปหน่อย  ท่าทางเจ้าก็คงฝึกพื้นฐานประจำสินะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ออกไปสู้รบกับใครมานาน”  รอนยังคอยชื่นชมปีเตอร์ตลอด

     

              “นี่นี่  ผมก็อยากฝึกด้วยอะ โปรดสอนผมมั้งสิ อย่าฝึกแต่กรคนเดียวสิ”  โจเซฟพูดอ้อนปีเตอร์และรอน

              “ท่านโจเซฟ  กระผมไม่อาจสอนท่านได้หลอกครับ เพราะท่านฝึกเรื่องเวทมนต์ ซึ่งข้าไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย”  ปีเตอร์กล่าวด้วยวาจาสุภาพ

              โจเซฟถึงกับทำสีหน้าเซ็งเมื่อได้ยินคำตอบนั้นจากปีเตอร์

              “เรื่องเวทมนต์ข้าก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ด้วยสิ  แต่ว่า...ให้ฝึกความแม่นยำข้าอาจจะพอสอนให้เจ้าได้” รอนเปิดปากพูดอกมา

              “...จริงหรือครับ...” 

              “จริงสิ  ยังไงหลักการยิงธนูกับเวทมนต์ก็ต้องโจมตีระยะไกลและให้โจมตีให้โดนเป้าหมาย มันคงเป็นแนวทางเดียวกันละนะ”

              เมื่อโจเซฟได้ยินดังนั้นถึงกับ กะโดดร้องเย้ เหมือนกับเด็กที่ได้สิ่งของที่ถูกใจ

              “แต่ว่าเอาไว้ค่อยฝึกพรุ่งนี้ละกัน  วันนี้ก็รีบๆกินและก็รีบๆนอนสะละจะได้มีแรงเดินทางต่อพรุ่งนี้”

              “โอเค และใครจะเป็นคนเฝ้าเวรกะแรกละ” ปีเตอร์ถาม

              “ผมเองครับ”  กรอาสาเฝ้ากะแรก

              “โอเคงั้นฝากด้วยละ”

              ในขณะที่ทุกคนกำลังหลับ   กรก็เอาเวลานี้ฝึกหวดดาบไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง

              [คุณได้รับทักษะการใช้ดาบ LV 2]  [คุณได้เพิ่มค่าความอึดเป็น LV 2]

              กรจึงปลุกปีเตอร์เพื่อให้มาเฝ้ากะต่อไปแล้ววันเองก็ลงไปนอน....

              .............

    ณ วันรุ่งขึ้น  เหลือเวลาอีก 6 วันที่จะชี้ชะตาลูกของรอน

              “ทุกคน ตื่นได้แล้วเช้าแล้วนะ”

              โจเซฟที่ทำหน้าที่ในเวรกะสุดท้าย เรียกปลุกทุกคนพร้อมเขย่าตัว

              “อึบ... เช้าแล้วหรือเนี่ย”

              กรบิดขี้เกียจ  ก่อนลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาและเตรียมเก็บสัมภาระเพื่อออกเดินทางต่อ

              “เอ้า เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วหรือยัง  เตรียมเดินทางต่อได้แล้ว”

              “เรียบร้อยแล้วครับ”  กร  โจเซฟ และ ปีเตอร์ ตอบพร้อมๆกัน

              “โอเค งั้นเริ่มออกเดินทางต่อได้” 

     

              พวกเขาทั้ง 4 ก็เริ่มต้นออกเดินทางเพื่อให้ไปถึงเมืองอาวารอน ในตอนนี้เขาได้เดินทางมาเป็นเวลา 4 ชม. แล้ว  อยู่รอนก็ทำสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา 

              รอนรู้สึกว่าบรรยากาศรอบๆตัวนี้เหมือนโดนใครจ้องมองอยู่  แต่รอนก็มองไปรอบๆก็ไม่เห็นวี่แวว MONTER หรือ ใครที่อยู่บริเวณรอบๆเลยนอกจากลุ่มของพวกเขา   รอนอาจคิดไปเอง  แต่เมื่อเดินต่อไปได้สักพัก  ปีเตอร์ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันเบื้องหน้า

              “รอน” ปีเตอร์เรียกรอนเบาๆ

              รอนสบตากับปีเตอร์สักครู่ เหมือนทั้งคู่เริ่มรับรู้ถึงสิ่งปกติได้ว่ามีอะไรบางอย่างแปลกๆ

              “ทุกคนหยุดพักก่อนนะ”  รอนพูดออกมาเหมือนกับรู้ว่าทิศทางเบื้องหน้าของตนนั้น ต้องมีอะไรอยู่แน่นอน

              “เดี่ยวข้าขอออกสำรวจอะไรรอบๆ นี่สักแปป  รออยู่ที่นี่ก่อนละอย่างไปไหน” รอนพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

              ปีเตอร์เหมือนเข้าใจความหมายของรอน 

              “ท่านโจเซฟ  กร โปรดเตรียมตัวหใพร้อมที่จะสู้ด้วยครับ” ปีเตอร์พูดออก

              “ทำไมละปีเตอร์  มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ”  โจเซฟ ถาม ปีเตอร์ด้วยความงุนงงว่าจะให้พวกเขาเตรียมตัวต่อสู้ขึ้นมาทำไม   เพราะปกติบริเวณนี้ที่กลุ่มพวกกรอยู่จะเป็นที่อยู่ของ MONTER รักสงบ จะไม่เข้าไปโจมตีใครก่อน

              “พวกท่านไม่คิดว่ามันแปลกบ้างหรือขอรับ   วันนี้เราเริ่มออกเดินทางมาก็หลาย ชม. แล้ว แต่เรายังไม่พบ MONTER สักตัวเลยนะ”

              “นั้นสิน่ะ   แต่ว่า MONTER บริเวณนี้รักสงบนี้เลยอาจจะไม่ออกมาให้เราเห็นตัวก็ได้” โจเซฟตอบกลับปีเตอร์

              “นั้นก็อาจเป็นได้ท่านโจเซฟ  ข้าก็ขอให้สิ่งที่ข้าคิดคิดผิดละกัน”

              “ปีเตอร์คุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นหรอครับ”  กรถามด้วยความอยากรู้

              “สิ่งที่ข้ากับท่านรอนคิดมีความเป็นไปได้ว่า  MONTER บริเวณนี้อาจโดน MONTER ต่างถิ่นเข้ามายึดอาณาเขตบริเวณแถบนี้   และข้ารู้สึกได้ถึงความกดดันเบื้องหน้า  ที่เรากำลังจะไปถึงบริเวณป่าหิน  ซึ่งมันเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการซุ่มโจมตี” ปีเตอร์คาดเดาถึงสถานการณ์รอบด้าน

              “แล้วพวกเราจะเอาไงดีปีเตอร์  เรารอคุณรอนกลับมาและเดินทางอ้อมไปทางอื่นดีไหม  ถึงจะเสียเวลาสัก 4-5 วัน แต่ก็น่าจะปลอดภัยกว่าเดินทะลุลัดป่าหินนะ” โจเซฟถามปีเตอร์

              “ไม่ละ  ผมกับลุงรอนไม่อาจเสียเวลาไปนานกว่านี้ได้”  กรพูดปฏิเสธการเดินทางอ้อมป่าหิน

              “ทำไมละกร  ถึงเสียเวลาสักนิดแต่ความปลอดภัยมันสูงกว่าเดินตรงไปนะ” ปีเตอร์ถามกร

              .......... กรนั้นไม่ได้พูดอะไร

              ในขณะนั้นรอนก็กลับมาจากการสำรวจ

              “ท่านรอน  บริเวณข้างหน้าเป็นไงมั้งครับ” ปีเตอร์ถามเพราะอยากรู้ถึงสถานการณ์เบื้องหน้า

              “ข้าพบร่องรอยเก้าของก๊อบบลิน  ประมาณ  3-4 ตัวมุ่งหน้าไปบริเวณป่าหิน   ข้าคิดว่าบริเวณป่าหินนั้นคงเป็นรังของมันแน่นอน”  รอนพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

              “งั้น  พวกเราเดินอ้อมป่าหินกันดีกว่า  เพื่อความปลอดภัยของพวกเราในการเดิน”  ปีเตอร์เสนอความเห็นให้รอน

              “ไม่ละ  ถ้าพวกเจ้าจะเดินอ้อมไปก็ได้นะ  แต่ข้าไม่ไปแน่”

              “ทำไมละรอน  ถึงท่านจะไม่ห่วงความปลอดภัยของข้าก็ไม่เป็นไร แต่กับท่านโจเซฟและกรละ พวกเขาจะทำไง” 

              “เพราะว่าข้าไม่มีเวลาแล้ว  ถ้าข้ากลับไปที่บ้านของข้าไม่ทัน 6 วันละก็ ลูกของข้าจะตาย” รอนพูดออกมาทั้งน้ำตา

             

              เมื่อรอนพูดดังนั้น  โจเซฟและปีเตอร์ก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา  เพราะพวกเขาคิดถึงแต่ชีวิตของตนเองมากเกินไป เราไม่รู้เรื่องราวของรอนและกรที่พยายามมุ่งตรงไปเมืองอาวารอนโดยเร็วเลย

              “ข้าขอโทษต่อท่านด้วย คุณรอนและกร”

              โจเซฟ ออกปากขอขมาต่อรอนและกร ที่พวกเขาไม่ได้รู้เรื่องราวว่าทำไมถึงต้องรีบเดินทางไปอาวารอนโดยไว  ส่วนปีเตอร์ก็โค้งคำนับเป็นการขอโทษเหมือนกัน

              “ปีเตอร์ข้าตัดสินใจแล้วข้าจะไปพร้อมคุณรอน กับ กร แล้วนายละว่าไง”

              “ขอรับท่านโจเซฟ  ท่านจะเดินทางไปไหนข้าก็จะติดตามท่านไปด้วย”

              “ผมไงก็ไปกับลุงอยู่แล้ว  ลุงไม่ต้องกลัวโดนผมทิ้งหลอก 55+” 

              เมื่อรอนได้ยินคำพูดนั้นถึงกับพูด “ขอบคุณนะ  ทุกคน”

     

              “แล้วพวกเราจะเอายังไงดี  เราไม่รู้ด้วยว่าเจ้าพวกก๊อบบลินมีจำนวนเท่าไหร่  ถ้าเจอแค่ 3-4 ตัวคงไม่ใช่ปัญหา แต่หากป่าหินเป็นรังพวกมันละก็แย่แน่”  ปีเตอร์ปรึกษากับรอน

              “เอางี้พวกเราพักตรงนี้เพื่อหาแผนการที่จะผ่านป่าหินกันก่อน  เมื่อเราคิดได้แล้วเราจะตะลุยฝ่าป่าหินไปให้ถึงเมืองอาวารอนให้ได้รวดเดียวเลย” รอนกล่าวออกมา

                                                    (จบตอนที่ 9) 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×