ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผจญภัยในโลกต่างมิติ

    ลำดับตอนที่ #18 : แหวนแห่งปัญญาชน

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 58


    ตอนที่  18   แหวนแห่งปัญญาชน

              ณ  วันรุ่งขึ้น

              “อูย  ปวดหัวจัง”  กรลื่มตาตื่นขึ้นมาโดยยังมีอาการเมาค้าง

              “ที่นี่  ที่ไหนกันเนี่ย   เรามาอยู่ที่นี่ได้ไง”  กรเลิกนึกถึงเรื่องเมื่อวานว่าเกิดอะไรขึ้น

     

              “ตื่นแล้วหรอค่ะ   ข้าวเช้าเตรียมให้พร้อมแล้วนะค่ะ รีบมากินข้าวเถอะค่ะเดี่ยวกับข้าวจะเย็นสะก่อน”
     

    สาวน้อยลาล่า (อายุ 16 ปี)

              “เออ....  ครับ.. ว่าแต่เธอเป็นใคร  และผมอยู่ที่ไหน ผมมาที่นี่ได้ไง” 

             

              “นั้นสินะค่ะ  เมื่อคืนคุณเมาหนักมากก็คงจะจำอะไรไม่ได้  ฉันไม่คิดเลยนะค่ะว่าเมื่อคืนคุณจะรุนแรงได้ขนาดนั้น  ฉันถึงกับเหนื่อยอดหลับอดนอนเกือบทั้งคืนเลยค่ะ”

             

              อา... รุนแรง...  เราไปทำอะไรกับเธอเข้าเนี่ย  หรือว่า..... เราไปมีอะไรกับเธอคนนี้  โอวมายก็อดความซิง 16 ปีของเราสูญสิ้นแล้ว  อ๊าก--  กรคิดในใจ

              “ผมขอโทษด้วยครับ  ผมจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่ผมกระทำต่อคุณ  ผมจะแต่งงานกับคุณ”  กรพูดพร้อมก้มขอขมาและรับผิดชอบต่อสิ่งที่เขาทำไป

     

              “อิอิ”  ลาล่าหน้าแดงเล็กน้อยก่อนขำออกมาเล็กน้อย

              “คุณกร  คุณคงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าค่ะ  เมื่อคืนตอนคุณหลับ  คุณกรนและละเมอเสียงดังมากจนทำให้ฉันและคุณพ่อแทบไม่ได้นอนกันทั้งคืน”

              “อ่อ  เรื่องเป็นแบบนี้นี่เอง” 

              เราก็หลงนึกว่าไปอาปะจิเห้กับเธอเข้าให้    แสดงว่าเวอร์จิ้นของเรายังไม่เสียเอกราชให้ผู้หญิงคนนี้ไป กรคิดในใจพร้อมกับทำท่าจ้องมองไปที่ฝ่ามือซ้าย, ขวา ของตัวเอง

     

              “เออ..  ฉันชื่อลาล่ายินดีที่ได้รู้จักนะค่ะคุณกร”

              “สวัสดีครับลาล่า  ส่วนผมกร....  เออลาล่าทำไมรู้จักชื่อผมได้ละครับ”  กรทำหน้าสงสัย

              “อิอิ  ก็ต้องรู้จักสิค่ะ  ก็คุณเป็นผู้มีพระคุณของฉัน”

              “ผู้มีพระคุณ !!  ผมว่านี่น่าจะเป็นการเจอกันครั้งแรกของเรา  ผมนึกไม่ออกว่าผมไปช่วยลาล่าตอนไหน”

              “ใช่คะนี่เป็นการเจอกันครั้งแรกของเรา”

              กรก็ยิ่งสงสัยหนักกว่าเดิมว่าเราไปทำอะไรให้กับลาล่า ถึงกับให้ลาล่าติดหนี้พระคุณเรา

     

              “ลาล่ารีบปลุกเจ้าหนูกรได้แล้ว  เดี่ยวกับข้าวจะเย็นหมด”

              “ค่ะคุณพ่อ”

     

              “นั้นเสียงลุงรอนนิ  งั้นหรือว่าลาล่าเป็น....”

              “ใช่คะ  ฉันเป็นลูกสาวของลุงรอนที่คุณกรพูดถึง”

              “รีบๆลงข้างล่างเถอะค่ะ  เดี่ยวกับข้าวจะเย็นหมด”

     

              กรและลาล่าก็เดินมาชั้นล่างและร่วมรับประทานอาหารกับรอน

     

              หลังจากรับประทานเสร็จเรียบร้อย  กรและรอนก็มุ่งตรงไปยังอาคารหลังหนึ่งที่อยู่ใจกลางเมืองอาวารอน  สถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ไว้แจ้งเรื่องร้องเรียนต่างๆ หรือมารับของรางวัลจากภารกิจต่าง  กรและรอนก็ไปรับบัตรคิว ซึ่งเป็นบัตรคิวหมายเลข 70    พวกเขานั่งรอจนกว่าจะถึงคิวของตัวเอง

     

              “หมายเลข 70 เชิญห้องหมายเลข 5 ค่ะ”  มีเสียงจากประชาสัมพันธ์คอยขานเรียงตามบัตรคิว

     

              “สวัสดีค่ะ  มาทำเรื่องอะไรหรอค่ะ”  พนักงานสาวในห้องเบอร์ 5 สอบถามข้อมูล

              “พอดีผมกับเจ้าหนูนี่ทำภารกิจขับไล่พวก Dog kobold จึงจะมารับของรางวัลครับ”

              “ขอบัตรประจำตัวด้วยค่ะ”

              รอนและกรก็ยื่นส่งบัตรประจำตัวให้พนักงานสาวดู    เมื่อพนักงานสาวดูบัตรประจำตัวแล้วตรวจสอบรายชื่อของผู้ที่ได้รับรางวัลภารกิจนี้  ก็มอบเหรียญทองให้แก่รอน 50 เหรียญ  ส่วนคุณอากร...  พนักงานสาวไล่ดูรายชื่อของอากร ถึงกับขมวดคิ้วเล็กน้อย   พนักงานสาวกดสัญญาณบางอย่างใต้โต๊ะ  อยู่ๆก็มีทหารเข้ามาภายในห้อง 2 นาย

              “เออขอโทษ  ครับเกิดเรื่องอะไรกันขึ้น”  กรเอยถามด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ยักจะมีคำตอบจากนายทหารทั้ง 2 และ พนักงานสาว

     

              นายทหารทั้ง 2 เข้าไปคุยกับพนักงานสาวสักพักหนึ่งก็หันมาให้คำตอบแก่กร

              “เออ  ท่านใดคือคุณอากรหรอครับ”  นายทหารหนุ่มกล่าวด้วยวาจาสุภาพ

              “ผมเองครับ”  กรพูดตอบพร้อมยกมือขึ้นแสดงตัว

              “คุณอากร  คุณช่วยมากลับพวกเราสักครู่ได้ไหมครับ”

              “เห้คุณทหาร  จะพาเจ้าหนูนี่ไปไหน”  รอนพูดพร้อมทำมือมาขวางตัวกร

              “เออ..  และคุณเป็นใครไม่ทราบ”

              “ข้ารอนไควร์  มีปัญหาอะไรหรือไม่”

             

              เมื่อทหารได้ยินชื่อรอนไควร์  ก็ทำหน้าครุ่นคิดสักนิด

              “อ่อท่านรอนไควร์  ข้าน้อยยินดีที่ได้รู้จัก”

              “พอดีท่านเซอร์ปีเตอร์  ต้องการจะพูดคุยกับคุณอากรเป็นการส่วนตัว  แต่ถ้าคุณรอนไควร์จะขอมาด้วยท่านเซอร์ปีเตอร์ก็ขอให้พาไปด้วยครับ”

             

              รอนและกรก็หันมามองหน้ากันเล็กน้อย และครุ่นคิดกันว่าปีเตอร์จะเรียกพวกเขาไปพบทำไม แต่เมื่อพวกเขาไม่ได้ทำผิดอะไรอยู่แล้ว แถมก็ยังสนิทกับปีเตอร์ในระดับหนึ่ง  การไปหาปีเตอร์ครั้งนี้ก็คงไม่เสียหายอะไร

              “โอเคครับ  เชิญนำทางให้เราด้วย”

              “เออ....  แต่ก่อนไปผมขอรับของรางวัลภารกิจขับไล่ Dog kobold ก่อนได้ไหมครับ”

             

              เมื่อนายทหารได้ยินดังนั้นก็ส่งมอบเหรียญทอง 50 เหรียญให้แก่กร  และนำพารอนและกรไปหาเซอร์ปีเตอร์ที่ห้องชั้นบนสุดของอาคารนี้

     

              “เชิญพวกท่านนั่งรอสักครู่  เดี่ยวข้าจะตามท่านเซอร์ปีเตอร์ให้ขอรับ”  นายทหารผู้นั้นกล่าวก่อนเดินออกจากห้องไป  สักครู่เซอร์ปีเตอร์ก็เข้ามาที่ห้องรับรอง

     

              “สวัสดีท่านกร  ท่านรอน”

              “สวัสดีครับคุณปีเตอร์”  “สวัสดีปีเตอร์”

              “คุณปีเตอร์เรียกผมมามีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”  กรเปิดประเด็นทันทีที่ทักทายกันเสร็จ

              อยู่ๆปีเตอร์ก็ทำสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา  “พอดีพระราชาไกโดเขามอบของสิ่งหนึ่งมาให้เจ้านะ”

              “ของอะไรหรือครับ  แล้วทำไมพระราชาถึงยกสมบัติชิ้นนั้นมาให้ผมละ”

              “พอดีข้าเล่าเรื่องภารกิจขับไล่ Dog kobold  ว่าได้แผนของเจ้าทำให้พวกนายทหารที่เหลือรอดตายจากภารกิจนั้นได้   พระราชาจึงมอบของสิ่งนี้ให้กับเจ้า”  ปีเตอร์พูดพร้อมส่งมอบของให้กับกร

              “เออ...  นี่มันแหวนนิครับ”
     

              “ใช่มันคือแหวน  แต่มันไม่ใช่แหวนธรรมดาที่จะพบเจอทั่วไป  นี่คือแหวนแห่งปัญญาชน  มีคนลือกันว่าผู้ที่สวมใส่แหวนนี้จะได้รับพรจากพระเจ้าให้มีความรู้ในทุกสรรพสิ่ง”

              “เออ.. คุณปีเตอร์มันจะไม่เวอร์ไปหน่อยหรือครับแค่ใส่แหวนนี้จะรอบรู้ทุกๆเรื่อง  ผมว่าข่าวลือนั้นน่าจะมั่วแล้วละครับ”

              “ตัวเรานั้นก็ไม่รู้รายละเอียดของแหวนวงนี้เท่าไหร่  แต่ปกติแหวนวงนี้จะสืบทอดตกต่อกันมาของกษัตริย์แต่ละรุ่น”

              “เอาเหอะเจ้าหนูไหนๆก็ได้มาแล้วก็ลองทดสอบกันดูสิว่ามีไรเปลี่ยนแปลงไหม” 

              “โอเคครับลุงรอน  เดี่ยวผมลองใส่ดู”

     

              กรใส่แหวนที่นิ้วชี้ข้างซ้าย  แต่ก็ไม่ยักจะมีปฏิกิริยาหรืออะไรเปลี่ยนแปลงเลย

     

              “เป็นไงมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างไหมเจ้าหนู  มีความรู้แล่นผ่านในหัวบ้างไหม”  รอนถามด้วยอาการตื่นเต้น

              “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยครับ  ผมว่ามันก็แค่แหวนธรรมดาละครับ คุณปีเตอร์ ลุงรอน”

              “งั้นหรือ  งั้นตัวเราก็ค่อยสบายใจหน่อย ตัวเรานั้นได้ยินข่าวลือในทางที่ไม่ดีของแหวนนี้มาบ้าง  แต่ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแสดงว่าข่าวลือมันก็คือข่าวลือ  หาใช่เป็นเรื่องจริงได้”  ปีเตอร์พูดด้วยท่าทีสบายใจ

     

              “งั้นตัวข้าขอลากลับก่อน เนื่องจากตัวเรานั้นยังมีธุระต้องไปเข้าเฝ้าพระราชาไกโดก่อน  จึงขอลาทุกท่าน” 

              “โชคดีปีเตอร์”  “ลาก่อนครับคุณปีเตอร์”

              “งั้นเจ้าหนูต่อไปทำไรต่อดีละ”

              “ผมอยากศึกษาเกี่ยวกับแหวนนี้หน่อยครับ”

              “งั้นหรือ  งั้นข้าขอตัวก่อนเหมือนกัน  ได้เงินมา 50 เหรียญทองสักที จะซื้ออาหารอร่อยมาให้ลาล่ากินสักหน่อย”

              “ถ้าเจ้ายังไม่มีที่ค้าง  หรือยังไม่ไปจากเมืองนี้ก็แวะมาพักบ้านข้าได้นะเจ้าหนูกร”

              “ขอบคุณมากครับลุงรอน”

              เมื่อกล่าวล่ำลากันเรียบร้อยแล้วภายในห้องรับรองก็เหลือเพียงแต่กรเท่านั้น  กรตอนนี้ที่มีทักษะสามารถตรวจสอบอุปกรณ์ได้  จึงเพ็งมองไปยังแหวนแห่งปัญญาชน  จนมีรายละเอียดโผล่ขึ้นมา

              (อุปกรณ์ – แหวนแห่งปัญญาชน)

              ความสามารถ – สามารถเรียนรู้ภูมิปัญญาต่างๆได้โดยจะเสียความทรงจำบางส่วนที่มีค่าเท่าเทียมกัน)

     

              เมื่อกรอ่านค่าสถานะนั้นแล้วถึงกับหน้าซีดเลย  เมื่อเห็นข้อความจะเสียความทรงจำบางส่วน  แต่ถึงกระนั้นกรก็อยากจะลองใช้แหวนแห่งปัญญาชนดูสักครั้ง  กรจึงนำมือมาลูบๆบริเวณแหวน  อยู่ๆแหวนก็เรืองแสงตัวอักษรออกมาและตัวอักษรเหล่านั้นก็ลอยออกมาจากแหวน  โดยลอยรอบๆตัวกร

     

              อยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นในภายในห้องนั้น  “ข้าคือเทพีแห่งผู้ปัญญาชน เจ้าเรียกข้าออกมาด้วยความประสงค์ใด”

              “เออ  ข้าขอสอบถามท่านเทพีแห่งผู้ปัญญาชนได้ไหมครับ”

              “ว่ามา”

              “ผมสามารถเลือกหัวข้อที่ผมต้องการจะเรียนรู้  และสามารถลบความทรงจำที่ผมไม่ต้องการได้ไหมครับ”  กรถามด้วยท่าทีสงสัย

              “ได้สิ  แล้วเจ้าจะประสงค์ความรู้ของสรรพสิ่งใด  และจะให้ลบความทรงจำใด”

              “ข้าขอความรู้เกี่ยวกับภาษาอาณาจักรเอ็มขอรับ  และขอลบความทรงจำเกี่ยวกับตัวเองตอนอยู่ ป.3 ได้ไหมครับ”

              “เรื่องกล้วยๆ  จัดไป”

              อยู่ๆความทรงจำของอากรตอน ป.3 ที่โลกของเขาก็ค่อยๆจางหายไปจากความทรงจำของกร  และสักพักอยู่ๆก็มีตัวอักษรและวิธีอ่านภาษาอาณาจักรเอ็มลอยเข้ามาในหัวกรอย่างรวดเร็ว  ตาของกรถึงกลับเหมอลอยไปพักใหญ่  เมื่อทำการอัพโหลดความรู้เข้าไปในหัวกรเรียบร้อยแล้ว  กรก็ถึงกลับหงายหลังล้มตึงเหมือนกับหมดสติไป

                                                              (จบตอนที่ 18)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×