คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : มุ่งหน้าสู่เมืองอาวารอน (END)
ตอนที่ 12 มุ่งหน้าสู่เมืองอาวารอน (END)
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง”
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง”
เสียงเจ้าตูบปลุกทุกคนในยามเช้าของวันใหม่
“อืมพอได้แล้วเจ้าตูบ ฉันตื่นแล้ว”
“ขอบใจเจ้ามากที่เฝ้าเวรให้ทั้งคืนนะ”
กรกล่าวขอบใจเจ้าตูบที่เสียสละเวลาในการเฝ้าระวังความปลอดภัยให้พวกเขา กรลูบหัวเจ้าตูบอย่างอ่อนโยน เจ้าไปพักผ่อนได้แล้วนะ
“Air woof off” กรเรียกอัญเชิญเจ้าตูบกลับไปในหนังสือ
กรรีบรวบรวมเก็บสัมภาระและล้างหน้าล้างตา
“ลุงรอนผมพร้อมออกเดินทางแล้วครับ”
“โอเครงั้นเรารีบเดินทางกัน”
พวกเขาทั้ง 4 มุ่งหน้าสู่เมืองอาวารอน ......... พวกเขาเดินทางได้เป็นเวลา 5 ชม. พวกเขาก็พบกับเมืองอาวารอน
เมืองอาวารอนนั้นเป็นเมืองที่ใหญ่มาก และเป็นเมืองที่สวยงามมากมีกำแพงยาวรอบ 4 ด้านโดยมีปราสาทที่ใหญ่โตตั้งอยู่ใจกลางเมืองอาวารอน
“ว้าว... ที่นี่คือเมืองอาวารอนหรอครับ ลุงรอน”
“ใช่ที่นี่แหละเมืองอาวารอน”
“ผมนึกว่าเมืองอาวารอน จะเป็นเมืองเล็กๆสะอีก แต่ดูนี่สิมันทั้งกว้างใหญ่ ยิ่งดูเมืองอาวารอนจากด้านนอกเมือง รู้สึกว่าโลกทั้งโลกนี่เล็กไปเลย”
“เจ้าก็เวอร์ไปเจ้าหนู โลกนะจะเล็กกว่าเมืองได้ไง”
“เอ้ารีบเข้าเมืองกันเหอะ”
พวกเขาทั้ง 4 รีบมุ่งหน้าเข้าไปตรงประตูทางเข้าเมือง
“หยุด” มีนายทหาร 2 คนสั่งให้พวกเขาทั้ง 4 คนหยุด
“เออ... มีไรหรอครับคุณทหาร” กรถามด้วยความสงสัย
“พวกเจ้าเป็นใคร จงแสดงตัวมาเดี่ยวนี้”
“เอ.อ..... แสดงตัว ?..”
“กรใจเย็นแค่เอาบัตรประจำตัวแต่ละคนให้เขาดูแค่นั้นแหละ” รอนพูดกับกร
“เอ้านี่”
รอนยื่นบัตรประจำตัวของเค้าให้กับทหาร ทหารตรวจสอบดูบัตรของรอน
“รอนไควร์ อาชีพ นายพราน เป็นพลเมือง อาวารอน” ทหารอีกคนดูบัตรของรอน
“โอเค เจ้าเข้าเมืองไปได้”
รอนรับบัตรประจำตัวของเค้าคืน
“เจ้า รีบแสดงบัตรออกมา” ทหารชี้หน้ากรให้รีบนำบัตรประจำตัวออกมาให้เค้าดู
“เออ... ผมไม่มีมันครับ”
เมื่อกรพูดเช่นนั้นออกไป ทหารทั้งสองชักดาบออกมาและเข้าจับกุมกร
“อะไรเนี่ย.. จับผมทำไม ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย” กรถึงกับตกใจที่ทหารทั้ง 2 ต่างจับกุมเขา
“คนที่ไม่มีบัตรประจำตัว ถือว่าเป็นคนต่างด้าว และคนต่างด้าวในเมืองอาวารอนนั้นต้องโดนทำการตรวจสอบก่อน ถึงจะเข้าเมืองไปได้”
กรถึงกลับหน้าซีด กรคิดในใจว่าเราจะไปมีบัตรประจำตัวของเราเองได้ไง ก็เพราะเรามาจากต่างโลก ถ้าโดนตรวจสอบและไม่รู้ที่มาที่ไปของเราละก็คงโดนจับยัดเข้าคุกเป็นแน่แท้
“หยุดแค่นั้นและทหาร เขาคนนั้นมากับเรา” โจเซฟเปิดปากพูดกับทหารให้ปล่อยตัวกร
“แกเป็นใครมาบังอาจหยุดการปฏิบัติหน้าที่ของเรา เอาบัตรประจำตัวของแกมาให้เราดูสิ”
เมื่อปีเตอร์ได้ยินวาจาของทหารนายนั้นถึงกับอารมณ์เดือด เมื่อมีใครพูดจาไม่ดีกับโจเซฟ
โจเซฟเอามือขวางปีเตอร์ไว้ และโจเซฟก็หยิบบัตรของเขาออกมาให้กับนายทหารทั้ง 2 คนดู
“นี่ครับ”
นายทหารรับบัตรประจำตัวของโจเซฟมาดู เมื่อพวกเขาหยิบมาตรวจสอบหน้าตาทหารของ 2 คนนั้นถืงกลับเหงื่อแตก ร่างกายสั่นเทา
“โปรดขอประทานอภัยด้วยพะยะค่ะองค์ชาย” ทหารทั้ง 2 คุกเข่าและพูดออกมาด้วยเสียงสั่นๆ
“ไม่เป็นไร พวกเจ้าแค่ปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งพวกเจ้าก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีแล้ว เพราะฉะนั้นปล่อยเพื่อนของข้าคนนี้ที และปฏิบัติหน้าที่ของพวกท่านอย่างเคยต่อไป
“พะยะค่ะ” ทหารทั้ง 2 รีบไขกุญแจมือที่ลามกรออกและปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ตอนนี้ประชาชนที่กำลังเข้าไปในเมืองถึงกับตกใจเมืองนายทหารทั้ง 2 ถึงกับคุกเข่าให้กับเด็กชายแปลกหน้าที่อยู่ในชุดคลุม
“เออ พวกเรารีบเข้าเมืองกันเหอะ ข้าไม่อยากเป็นจุดสนใจ” โจเซฟบอกกับพรรคพวกของเขา
พวกเราทั้ง 4 รีบวิ่งหลบสายตาเข้ามาในเมืองอาวารอน
“โจเซฟ นายเป็นใครกันแน่” กรถามโจเซฟ ในสิ่งที่เค้าเห็นคือทหารยามทั้ง 2 ถึงกับคุกเข่าให้กับโจเซฟ
“ไม่มีอะไรหลอกกร”
“แต่ว่าที่นี่ทำไมต้องให้มีบัตรประจำตัวด้วยละ” กรพูดในสิ่งที่สงสัย
“55+ โทดทีข้าลืมบอกเจ้าไป ที่เมืองอาวารอนใครจะเข้ามาในเมืองนี้ได้ต้องทำบัตรประจำตัวก่อนถึงจะเข้ามาได้นะ ถ้าคนไม่มีละก็เค้าจะทำการจับกุมในก็หาอาจเป็นสปายจากอาณาจักรอื่นละน่ะ”
“เพราะที่นี่เป็นเมืองใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการค้าขายของอาณาจักรเอ็ม จึงมีการตรวจตราอย่างเข็มงวด ผู้คนที่จะมาค้าขายที่นี่ได้ก็ต้องทำการตรวจสอบและลงทะเบียนก่อนนะ” ปีเตอร์กล่าวเสริม
“เออ และผมจะต้องไปทำการตรวจสอบและลงทะเบียนก่อนไหมครับ ผมกลัวจะโดนอย่างเมื้อกี้อีกถ้าไม่มีโจเซฟละก็งานเข้าแน่” กรพูดแบบไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก
“นั้นสินะ ปีเตอร์ โจเซฟ ข้าฝากวานพวกเจ้าพากรไปทำบัตรประจำตัวหน่อยละกัน ถ้าเป็นพวกเจ้าละก็คงไม่มีทหารหน้าไหนทำอะไรกรแน่”
“ได้ครับ เดี่ยวผมพากรไปทำบัตรประจำตัวเองครับ”
“เออ.. ท่านโจเซฟและท่านไม่ไป...”
“ยังมีเวลานะปีเตอร์ แค่ทำบัตรประจำตัวใช้เวลาแค่ 1 ชม ก็เสร็จแล้ว”
ปีเตอร์ได้แต่ถอนหายใจ พูดไปโจเซฟก็คงไม่ปฏิบัติตามเขาอยู่ดี
“และคุณรอนไม่ไปด้วยหรอครับ” โจเซฟถามถึงรอน
“ไม่ละ ข้าต้องรีบไปรักษาลูกข้าก่อน และจุดหมายของเราก็แค่มาถึงเมืองอาวารอน พวกเราต่างก็มีภาระและเส้นทางของแต่ละคนที่ต้องก้าวเดินนะ ถ้าวาสนามีจริงละก็พวกเราคงได้พบกันอีก”
ทุกคนต่างเข้าใจในความหมายของรอนที่พูด
“นี่ครับลุงรอน ขอบคุณที่ช่วยดูแลและสั่งสอนผมนะครับลุงรอน”
กรกล่าวขอบคุณรอนพร้อมหยิบ [บัวน้ำทิพย์] ที่เหลือให้กับรอน
“ที่ขอบคุณต้องข้ามากกว่าเจ้าหนู เพราะเจ้าลูกข้าถึงยังมีโอกาสอยู่รอดต่อในโลกนี้ได้”
“ขอให้พวกเจ้าโชคดี” รอนกล่าวลาทุกคน
“โชคดีครับลุงรอน”
“ขอบคุณที่พามาส่งครับคุณรอน”
ปีเตอร์ก็โค้งคำนับให้รอนเป็นการกล่าวลา
“เอาละกรตามเรามาทางนี้สิ เดี่ยวเราพาไปลงทะเบียนตัวตนให้ เจ้าจะได้เข้าออกเมืองในอาณาจักรเอ็มได้”
กรรีบเดินตามโจเซฟและปีเตอร์ พวกเขามาหยุดอยู่ตรงอาคารหลังหนึ่งมีคนมากมายที่เข้าออกในอาคารหลังนั้น
“ที่นี่แหละกร ที่ลงทะเบียนระบุตัวตน”
“โวว คนเยอะจริง แบบนี้ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะเสร็จเนี่ย”
“อย่างเร็วก็คงประมาณ 10 นาที อย่างช้าสุดก็ประมาณ 2-3 ชั่วโมงแล้วแต่คนที่เข้ามาทำการลงทะเบียนครับกร”
“งั้นผมไปต่อคิวก่อนนะครับ ขอบคุณมากครับที่พามาส่ง”
“เออคุณกรเดี่ยวผมช่วยลัดคิวให้ไหม” โจเซฟช่วยหาวิธีจะได้ทำบัตรประจำตัวเร็วๆ
“ไม่เป็นไรโจเซฟ ผมดูจากท่าทีของทหารยามที่เฝ้าหน้าประตูแล้ว นายคงเป็นคนใหญ่คนโต และคนใหญ่คนโตทำเรื่องแบบนี้เดี่ยวมีคนเอาไปนินทาว่าร้ายเปล่าๆ”
โจเซฟถึงกับยิ้มออกว่า โจเซฟไม่คิดว่ากรจะคำนึงถึงสถานะของเขา
“โอเครกร ผมและปีเตอร์จะรออยู่แถวนี้นะครับ”
“โอเค เดี่ยวเจอกัน”
กรรีบวิ่งไปรับบัตรคิว คิวของกรเป็นคิวที่ 92
“โหคิวที่ 92 เลยหรอนิ ตอนนี้เรียกถึงคิวที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย”
“คิวหมายเลขที่ 70 เชิญเข้าไปข้างในได้แล้วคะ”
กรได้ยินเสียงเรียกหาคิวที่ 70 เพื่อเข้าไปลงทะเบียนทำบัตร
โห นี่เราต้องรออีกตั้ง 22 คิวแหนะ อ๊ากอยากจะบ้าตาย กรบ่นในใจ
เวลาผ่านไปประมาณ 4 ชั่วโมงได้ กรเผลอหับไป
“คิวหมายเลขที่ 92 เชิญเข้ามาข้างในได้แล้วค่ะ”
“คิวหมายเลขที่ 92 อยู่ไหมคะ คิวหมายเลขที่ 92 ถ้าไม่อยู่จะข้ามไปคิวถัดไปนะคะ”
กรสะดุ้งตื่น เมื่อมีคนเรียกขานคิวของเขา
“อยู่ครับ คิวหมายเลข 92 อยู่นี่ครับ”
“คะงั้นเชิญเข้าด้านในได้แล้วคะ”
กรเดินตรงเข้าไปด้านใน และเดินเข้าไปในห้องด้านในสุด กรเปิดประตูเข้าไปก็พบเจอคน 3 คนนั่งคอยรอผู้ที่ลงมาทะเบียนอยู่
“หมายเลข 92 ใช่ไหมครับเชิญนั่ง” ชายหนุ่มวัย 20 ต้นๆเชิญผู้ที่มาลงทะเบียนนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างไว้ตรงหน้าพวกเขา
กรเดินและเข้าไปนั่ง กรคิดว่าสถานที่นี้เหมือนกับโรงเรียนของเขาเลยเวลาที่เราจะคัดเลือกใครจะต้องมีการสอบสัมภาษณ์อะไรประมาณนั้น
“โปรดแนะนำตัวด้วยคะ” หญิงวัย 40 ปลายๆกล่าวออกมา
“เออ ผมชื่ออากรครับ อายุ 16 ปี อาชีพ นักสำรวจครับ”
“และเกิดที่ไหน และเข้ามาที่เมืองอาวารอนทำไม” ชายหน้าตาวัย 60 กว่าถามกร
“เออ..” กรไม่รู้จะตอบไงดี จะบอกว่าเขามาจากอีกโลกหนึ่งก็คงไม่มีใครเชื่อ จะทำไงดีหวา
“ตอบมาสักทีสิ จะให้เสียเวลารอแค่ไหนแค่บอกสถานที่เกิดของเจ้า” ชายแก่ กล่าว
“ถ้าไม่ตอบละก็ข้าจะเรียกทหารมาจับเจ้า”
แว๊กอะไรเนี่ยวันนี้อะไรจะดวงซวยขนาดนี้จะโดนทหารจับขังเป็นรอบที่ 2 อีกแล้วหรือนิ กรบ่นในใจ
“แอ้ด..... ปัง” มีเสียงคนเปิดประตูเข้ามาและปิดประตู
“ขอโทดทีครับคณะผู้ตรวจตราลงทะเบียน ชายผู้นี้เขาเป็นนักสำรวจในหน่วยของข้าเอง”
“และท่านเป็นใคร บังอาจเข้ามาในห้องนี้โดยพละการได้ไง”
เขาได้ยื่นบัตรประจำตัวให้แก่คณะผู้ตรวจตราลงทะเบียน พวกคณะผู้ตรวจทั้ง 3 ต่างมองดูบัตรใบนั้น
เมื่อพวกเขามองดูท่าทางของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“โอ้วท่านเซอร์ปีเตอร์ ทำไมองครักษ์ของกษัตริย์ถึงเสด็จมาเยี่ยมเยียนถึงที่นี่ได้ ช่างเป็นเกียรติเหลือเกินที่ได้ต้อนรับท่าน” ชายแก่พูดประจบ
“พอดีลูกน้องข้าเขายังไม่ได้ทำบัตรประจำตัว ข้าเลยพาเขามาทำนะ”
“โอ้วบุคคลท่านนี้เป็นลูกน้องของท่านหรือขอรับ เดี่ยวพวกเราจะเร่งออกบัตรประจำตัวคุณกรให้โดยไว”
“คุณกร เชิญทางนี้ได้เลย”
ดูเหมือนพอปีเตอร์เข้ามาทุกอย่างกลับง่ายดายไปหมด พวกขุนนางหรือนักปกครองที่นี่ก็คงเหมือนกับนักการเมืองของโลกเราละมั้งที่มีการประจบสอพอเล่นเส้นเล่นสาย กรคิดในใจไม่ว่าโลกไหนก็คงมีแต่คนประเภทนี้อยู่เยอะเต็มไปหมด
“เอาละคุณกร หันหน้ามาทางนี้”
กรหันหน้าตามที่ชายแก่บอก อยู่ๆก็มีแสงสีขาวแว๊บออกมา
“เอาละคุณกร บัตรประจำตัวของท่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
ตาแก่ยื่นบัตรประจำตัวของกรมาให้ดู กรรับบัตรและเอามาดูว่ามีรูปร่างหน้าตาอย่างไร
รูปกร ชื่อ อากร
อายุ 16 ปี
อาชีพ นักสำรวจ
ระดับ B[1]
|
กรมองดูบัตรประจำตัวนี่เหมือนกับบัตรประจำตัวประชาชนของโลกเราเลยแหะ แต่ที่แตกต่างคือระดับนี่คืออะไรหวา - -* กรงุนงงสักพัก
“ขอบคุณครับ” กรกล่าวขอบคุณก่อนเดินออกมา
“ปี... เซอร์ปีเตอร์ผมทำบัตรประจำตัวเรียบร้อยแล้วครับ” กรเกือบเรียกชื่อปีเตอร์ห้วนๆ
“โอเคร ขอบคุณมากคณะผู้ตรวจตราลงทะเบียน ข้าขอไปก่อนละ”
“เชิญครับท่านเซอร์ปีเตอร์” คณะผู้ตรวจตราลงทะเบียนทั้ง 3 กล่าวลาแบบน้อบน้อม
“เป็นไงมั้งกร ได้บัตรประจำตัวมาหรือยัง” โจเซฟถามเมื่อเห็นกรเดินออกมาจากอาคาร
“ได้มาเรียบร้อยแล้วโจ... ท่าน”
“เรียกข้าเหมือนเดิมแหละกร” โจเซฟขอให้กรพูดกับเขาอย่างสนิทสนม
“อ่าส์ ... ได้โจเซฟ พอดีเซอร์ปีเตอร์เข้ามาช่วยเราได้ทันพอดี ไม่งั้นมีหวังไปนอนคุกแน่ๆ”
“55+ ไม่เป็นไรหลอกข้าก็คิดไว้แล้วทำไมท่านกรถึงออกมาช้าจัง และโปรดเรียกผมว่าปีเตอร์เหมือนเคยเหอะ พวกเราเป็นมิตรสหายกันนะ แต่ถ้าอยู่กับพวกขุนนางหรือทหารละก็ก็ให้เรียกเซอร์ปีเตอร์ด้วยละกัน”
“ครับ... ปีเตอร์ผมขอถามหน่อยสิในบัตรประจำตัวมันมีคำว่าระดับอยู่มันคืออะไรหรอครับ และผมได้ระดับ B[1] มันคืออะไรหวาไม่เข้าใจ” กรถามแบบงงๆ
“อ่อ ระดับอันนั้นนะหรอ มันก็เหมือนการบอกยศละน่ะ เดี่ยวเล่าย่อๆให้ฟัง”
ระดับแบ่งออกเป็น S>A>B>C>D>F โดยแต่ละระดับนั้นจะมีแบ่งย่อย 1<10
- ระดับ S กษัตริย์ของราชอาณาจักรนั้น
- ระดับ A จะเป็นพวกขุนนางและรัชทายาท
- ระดับ B จะเป็นพวกทหารหรือข้าราชการระดับล่าง
- ระดับ C พ่อค้าแม่ค้าหรือพวกนักพจญภัยที่มาจากต่างแดน
- ระดับ D พลเมืองของอาณาจักรเอ็ม
- ระดับ F ก็พวกนักโทษ, เชลยศึก, ทาส
โดยเลข 1-10 นั้นจะแสดงถึงอิทธิพลของบุคคลคนนั้นละนะ
“อืม อย่างงี้นี้เองและของปีเตอร์ระดับอะไรหรอครับทำไมพวกข้างในท่าทางกลัวท่านจัง”
“55+ ระดับของข้าก็ไม่ใหญ่มากหลอก แค่ระดับ B[10] เอง”
“ระดับ B[10] นี่นะไม่ใหญ่ และของโจเซฟละ”
“อ่าส์ของผม ระดับ A[7] ครับ”
“โว้ว นี่เรามีมิตรสหายเป็นคนใหญ่คนโตหรือนี่” กรตกใจระดับของปีเตอร์และโจเซฟ
“พอแค่นี้ก่อนกร เราหิวแล้วนี่ก็ดึกแล้วด้วยไปหาไรกินกัน”
“โอเค” กรตกลงทันทีโดยไม่คิดอะไร
(จบตอนที่ 12)
ความคิดเห็น