ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผจญภัยในโลกต่างมิติ

    ลำดับตอนที่ #7 : จุดมุ่งหมายเดียวกัน

    • อัปเดตล่าสุด 7 มี.ค. 58


    ตอนที่ 7 จุดมุ่งหมายเดียวกัน

                    ในระหว่างที่เดินทางกลับกะท่อมนั้น

                    กรก็คิดว่าตัวเองในตอนนี้ช่างอ่อนหัดอย่างมาก  ขนาดตอนที่สู้กับเจ้า Air woof ในถ้ำนั้นที่เขากำลังใช้หัวสมองในการหาทางหลีกเลี่ยงที่จะสู้กับเจ้า Air woof   เขาถูกเจ้า Air woof จู่โจมถึงตัวได้อย่างง่ายดาย      ถ้าเรายังเป็นแบบนี้ต่อไปละก็เราได้ตายจริงๆแน่

                    กรคิดว่าเราคงต้องฝึกทักษะสัก 2-3 อย่างเพื่อที่จะสามารถปกป้องชีวิตตนเองได้

                    กรลองคิดวิธีฝึกบางอย่างตอนกลับกะท่อม   กรหาเส้นทางที่มีกิ่งไม้แห้งเยอะๆ และลองฝึกเดินผ่านพวกมันดู

                    “แกร็ก-  แกร็ก-”  เสียงฝีเท้ากรเวลาเดินเหยียบกับกิ่งไม้ที่ตกอยู่กับบนพื้น

                    เสียงดังจังแหะ  กรคิดในใจ   ตอนนี้กรเดินเหยียบกิ่งไม้โดยทิ้งน้ำหนักทั้งตัวไปที่เท้าที่จะเก้าเดิน

                    เดินแบบนี้ไม่ได้แน่  เราต้องเปลี่ยนวิธีการเดินใหม่  กรลองเปลี่ยนท่าทางการเดินและวิธีการถ่ายน้ำหนักตัวไปได้สักพักใหญ่ๆ

    คุณได้รับทักษะ 

              การย่องเบา/ติดตาม (ระดับต่ำ)              LV 1

                    ติ๊งติง  (มีเสียงดังขึ้นมาในหัวกร พร้อมขึ้นสถานะได้รับทักษะการย่องเบา/ติดตามระดับต่ำ  LV 1)

                    โอ้ว  เราได้ทักษะใหม่มาแล้ว   กรลองเริ่มทดสอบทักษะที่ได้รับมา 

                    “แก็ก”   เสียงฝีเท้าของกรที่เดินผ่านกองกิ่งไม้เริ่มมีเสียงเบาลง

                    ว้าว   กรร้องออกมาด้วยความจริงใจ     เยี่ยมแบบนี้เวลาเราแอบสะกดรอยตามใครก็มีโอกาสสำเร็จมากขึ้นแล้ว   ก็ฝึกซ้ำไปซ้ำมา เป็นเวลา 2 ชั่วโมง             

    คุณได้รับทักษะ 

              การย่องเบา/ติดตาม (ระดับต่ำ)              LV 3

                    กรก็ได้ทักษะ   การย่องเบา/ติดตาม (ระดับต่ำ)  ถึง   LV 3 แล้ว

                    เยี่ยม  กรร้องออกมาด้วยความดีใจ

                    กรแหงนหน้ามองดูบนท้องฟ้าและคาดกว่านี้คงประมาณ 4-5 โมงเย็นแล้ว

                    เรารีบกลับกะท่อมดีกว่า  เดี่ยวค่ำสะก่อน

                    กรก็รีบเดินทางกลับกะท่อมทันที  

                    โอ๊ะ..  กรอุทานออกมาเบาๆ    กรเห็นควันไฟออกมาจากกะท่อม   กรคิดว่าลุงรอนคงกลับมาถึงก่อนเขาแล้ว

                    “ครืด”   “ลุงรอนกลับมาแล้วครับ   ผมเจอ.....”   กรรีบเปิดประตูกะท่อมแล้วกำลังจะบอกกับลุงรอนว่าเขาเจอเจ้า [บัวน้ำทิพย์แต่กรก็หยุดพูดสะก่อน  เพราะสิ่งที่เขาเจอนั้นกลับไม่ใช่ลุงรอน

                    แต่กลับเป็นคนใส่ชุดเกราะ 1 คนและคนใส่ชุดผ้าคลุมปกปิดใบหน้าอีกคนอยู่ในกะท่อมนั้น และกำลังย่างปลาอยู่

                    “เจ้าหนูแกเป็นใคร”   คนแปลกหน้าที่ใส่ชุดเกราะ  หันกลับมาถามพร้อมชักดาบออกมาชี้หน้าของกร

                    “เออ..  ผมพักอาศัยอยู่ที่นี่กับลุงของผม   พวกคุณเป็นใครมาอยู่ในที่พักอาศัยของเราและยังมาเอาดาบชี้หน้ามาทางผมอีก”  กรพูดตอบออกไปและคิดว่าทั้งๆที่เป็นคนแปลกหน้ากลับมาพูดจายังกลับตัวเองเป็นเจ้าของ  กรคิดในใจด้วยความขุ่นเคืองในใจ

                    “ข้าขอโทษทีเจ้าหนุ่ม   พอดีพวกข้ากำลังจะไปเมืองอาวารอนแต่พอเห็นกะท่อมจึงแวะพักก่อนจึงจะค่อยออกเดินทางไปพรุ่งนี้  และเมื่อครู่เจ้ารีบเปิดประตูเข้ามาทำให้คนติดตามของข้านึกว่าเจ้าเป็นโจรที่คอยดักปล้นนักเดินทางนะ” ชายคนที่คลุมผ้าปกปิดใบหน้าพูดออกมา  เขาถอดชุดคลุมใบหน้าออกพร้อมโค้งคำนับให้กรเป็นการขอโทษแก่การเสียมารยาทที่คนติดตามของเขาพูดจาและชี้ดาบของเขาให้กับกรแบบนั้น

                    “เออ..  ทำไมท่านพูดเช่นนี้ เราไม่......”  คนติดตามที่สวมชุดเกราะพูด แต่ยังไม่ทันจะพูดจบประโยค ชายในชุดคลุมก็ยกมือทำท่าให้หยุดพูด

                    “ครับ  ผมไม่ถือสาหรอกครับ”   กรพูดตอบกลับ   กรสังเกตุหนุ่มที่อยู่ในชุดคลุมเป็นใบหน้าที่ช่างใสสะอาดเกลี้ยงเกลาไม่ดูเหมือนนักเดินทางด้วยซ้ำ  กรคิดว่าชายหนุ่มผู้นี้ต้องเป็นลูกขุนนางแน่ๆ

                    “เอ้ารับ”  ชายหนุ่มในชุดคลุมโดนปลาย่างให้กรหนึ่งตัว

                    กรรีบเอามือไปรับปลาที่ชายหนุ่มโยนมาทันที  โอยร้อน กรเผลอเอามือไปรองตัวปลาแทนที่จับตรงไม้ที่เสียบปลาย่างเอาไว้

                    “ฟู ฟู  ...... ขอบคุณครับ”   กรเปาลมใส่มือเพราะความร้อนจากการจับปลาย่าง พร้อมขอบคุณ นักเดินทางทั้ง 2 ที่มอบปลาย่างให้เขา

                    พวกเค้าทั้ง 3 ก็นั่งกินปลาย่างกันอย่างเงียบๆ โดยไม่พูดไม่จากันเลย

                    “เออ...  ผมชื่ออากร  เรียกผมว่ากรเฉยๆก็ได้ครับ  ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณ...”  กรแนะนำตัว

                    “ข้าชื่อโจเซฟ   ส่วนนี่ ปีเตอร์ ยินดีที่ได้รู้จักนะกร และขอบคุณที่ให้เราพักอาศัยอยู่ที่นี่ด้วย” ชายในชุดคลุมแนะนำตัวเองและผู้ติดตามของเขา

    **ที่จริงกรสามารถรู้ชื่อพวกเขาได้โดยไม่ต้องถาม  เพียงกรแค่เพ็งสมาธิจ้องมองไปที่พวกเขา  กรก็สามารถรู้ได้ว่าแต่ละคนชื่ออะไร    กรคิดว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนเลวหรืออันตรายจึงไม่ใช้ความสามารถนี้ตรวจสอบพวกเขา**

                    “ไม่เป็นไรหลอก  ที่จริงเราก็อยากจะไปเมืองเอวารอนเหมือนกัน”    กรพูดตอบ

                    “งั้นก็กรก็มาเดินทางพร้อมพวกเราสิ”  โจเซฟออกปากชวนกร

                    “อืม... เราก็อยากไปนะแต่เราต้องถามลุงรอนก่อน  เพราะเรารับปากลุงรอนไว้แล้วว่าพวกเรานั้นจะไปด้วยกัน”   กรพูดตอบกลับทันที

                    “งั้นเหรอ  น่าเสียดายนะ”  โจเซฟเมื่อได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

                    “ดีแล้วท่านโจเซฟ  ที่เจ้าหนูนั้นไม่ตามพวกเราไปด้วย”

                    “ถ้าขืนเจ้านั้นมาด้วย  จะมาเป็นตัวเกะกะเราเปล่าๆ”  ปีเตอร์พูดตอบกลับท่านโจเซฟ

                    กรได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเคืองอยู่ในใจ   แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเขานั้นไม่ใช่ตัวถ่วง

                    “กรไม่เป็นตัวถ่วงเราหลอก  กรอาศัยอยู่ในป่าไผ่นี้น่าจะชำนาญเส้นทางแถวนี้เป็นแน่” โจเซฟพูดเถียงปีเตอร์ พร้อมมองไปที่กร

                    กรกำลังจะพูดว่าตัวเองก็ไม่ได้ชำนาญทางแถวนี้นัก เพราะตัวเองนั้นก็เป็นนักเดินทางเหมือนกัน

                    “ครืด.....   ปึ้ง”  เสียงเปิดปิดประตูกะท่อมดังขึ้น

                    “อ้าวกลับมาแล้วหรอเจ้าหนูกร    โอ๊ะ...แล้ว 2 คนนั้นใครละน่ะ”  รอนกลับมาถึงกะท่อมแล้ว 

                    “อ่อ  ลุงรอน  คนๆนี้ชื่อโจเซฟ ครับ  ส่วนนี้ผู้ติดตามของเขา ชื่อ ปีเตอร์ ครับ”  กรแนะนำพวกเขาให้ลุงรอนรู้จัก

                    “สวัสดีครับคุณรอน  พอดีพวกเราเป็นนักเดินทางจะไปเมืองอาวารอน แต่พวกเราพบกะท่อมที่นี่กลางทาง เลยคิดว่าจะพักที่นี่สักคืนก่อนเดินทางไปเมืองอาวารอนต่อนะครับ”  โจเซฟ พูดทักทายพร้อมขอโทดที่เข้ามาพักอาศัยในกะท่อมโดยไม่ได้รับอนุญาต

                    ส่วนปีเตอร์ที่เป็นผู้ติดตามโจเซฟ ก็แค่ลุกและคำนับรอนเหมือนเป็นการทักทายรอนและขอโทดไปพร้อมกัน

                    “โอเค.. ข้าไม่ถือสาเรื่องพวกนี้หลอก  ยิ่งมีคนพักที่นี่เยอะก็ดี  ที่นี่จะได้มีคนคุยเพิ่มหน่อยข้าขี้เกียจคุยกับเจ้าหนูนี่แล้ว”  รอนพูดออกมาโดยไม่รังเกียจผู้ที่มาขอพักอาศัย

                    “เอ้า  พวกเจ้ากินอะไรกันยัง  ข้าล่ากวางมาได้เดี่ยวพวกเรามากินกัน”  รอนพูดพร้อมชักชวนให้มากินอาหารด้วยกัน

                    ถึงแม้พวกเขาจะกินปลาย่างมาแล้ว แต่ปลาย่างแค่คนละตัวที่พวกเขากินไม่สามารถประทังความหิวได้หลอก  จึงไม่มีใครพูดขึ้นมาว่ารับประทานอาหารไปแล้ว

                    “นี่ลุงรอน  ผมก็ล่ากระต่ายมาได้ด้วยนะ  เรามาทำกินกันด้วยเหอะ”  กรพูดโออวดบอกตัวเองเป็นคนจับได้ ทั้งๆที่กระต่ายตัวนี้ Air woof เป็นคนล่าและให้มันกับกร

                    “เยี่ยมมากเจ้าหนูกร”  รอนเอยปากชมกร

                    “แหะ แหะ”  กรหัวเราะแลลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

                    หลังจากพวกเขาทั้ง 4 ร่วมกันทำอาหารและรับประทานเรียบร้อยแล้ว

                    “เออ... คุณรอนครับ   ผมได้ยินจากกรว่าพวกคุณก็กำลังจะไปเมืองอาวารอนเหมือนกัน  ทำไมพวกเราไม่ไปพร้อมกันพรุ่งนี้ทั้ง 4 คนเลยละครับ”  โจเซฟ เอยปากชวนรอนและกรไปพร้อมกับพวกเขา

                    “อืม..... จะว่าไงดีละ  จริงอยู่ที่ข้าจะไปเมืองอาวารอน  แต่พอดีข้าติดธุระแถวนี้อยู่นะสิ” รอนตอบกลับเพราะเขาต้องการรีบหาเจ้า [บัวน้ำทิพย์] เพื่อไปรักษาลูกของเขา

                    “ลุงรอน   ผมเจอมันแล้วนะ”  กรพูดกลับรอน

                    รอนเมื่อได้ยินดังนั้นถึงกลับหันหน้าไปหาเจ้าหนูกร  “ที่พูดนะจริงหรอเจ้าหนู”  รอนถามด้วยเสียงอันดัง

                    “อืม.. ผมเจอมันแล้ว” กรพูดตอบพร้อมรอยยิ้ม

                    รอนถึงกับหลั่งน้ำตาอออกมา และเข้าไปสวมกอดเจ้าหนูกรทันที  “ขอบใจนะ ขอบใจมากนะ เจ้าหนู” 

                    โจเซฟ กับ ปีเตอร์ ก็มึนงงในสิ่งที่พวกรอนกับกรพูดกัน

                    “โอเค  งั้นพรุ่งนี้ข้ากับเจ้าหนูกรจะไปพร้อมกับพวกเจ้าด้วย” รอนพูดกับโจเซฟและปีเตอร์

                    “เย้”  โจเซฟถึงกับร้องเย้ออกมาด้วยความดีใจ   ส่วนปีเตอร์ก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับ

                    “เจ้าหนูกร  เจ้าไปพบกับเจ้า [บัวน้ำทิพย์] ที่ไหนละ”  รอนถามกรด้วยความสงสัยว่าได้มันมาได้ไง

                    “ความลับ”  กรพูดพร้อมกับยิ้มให้กับลุงรอน

    ** กรไม่อยากบอกสถานที่นี้ให้ใครรู้ เพราะถ้ามีใครรู้สถานที่นี้ละก็ พวกที่ต้องการเจ้า [บัวน้ำทิพย์] ต้องไปทำร้ายเจ้า Air woof และลูกๆของมันเป็นแน่  กรจึงปิดเรื่องนี้เป็นความลับ**

                    รอนเมื่อมองดูสีหน้ากรแล้ว  ก็ไม่เอยถามคำถามนี้อีกเป็นครั้งที่ 2

                    “เอาละพวกเรานอนกันได้แล้วเดี่ยวพรุ่งนี้เช้า  พวกเราจะได้มุ่งหน้าสู่เมืองอาวารอนกัน” รอนพูดกับพวกเราทั้งหมด

                    “คร๊าบ— ครับ—งึก งึก”  โจเซฟ กับ กรพูดตอบกลับพร้อมกัน ส่วนปีเตอร์ก็แค่พงกหัวเหมือนเดิม

    (จบตอนที่ 7)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×