คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : การเผชิญหน้ากันครั้งที่ 2
ตอนที่ 5 การเผชิญหน้ากันครั้งที่ 2
...................zzZZ zzZZ zzZZ
“........กร ......กร .......เจ้าหนูกร” รอนเรียกเจ้าหนูกรพร้อมเขย่าตัวกรเบาๆ
กรค่อยๆลืมตาขึ้น และสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นลุงรอนอยู่ตรงหน้า
“เจ้าหนูกร เป็นไรมากไหม เกิดอะไรขึ้น” รอนพูดด้วยเสียงสั่นๆ เพราะเห็นร่างกายกรเต็มไปด้วยบาดแผล
“.....อืม.... ไม่เป็นไรครับ ได้หลับไปสักครู่ทำให้ผมอาการดีขึ้นแล้วครับ” กรพูดพร้อมขยับแขนขาให้รอนดูว่าตัวเองนั้นปลอดภัยดีไม่มีอันตรายร้ายแรงเกิดขึ้น
“แล้วไปทำไรมาถึงมีบาดแผลเต็มตัวเนี่ยเจ้าหนู” รอนถามหาสาเหตุถึงบาดแผลที่เกิดขึ้นตามตัวกร
แหะ แหะ กรหัวเราะแห้งๆ แล้วเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อเล่าเรื่องราวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ผมขอโทษครับลุงรอน ที่ไม่ปฎิบัติตามกฎของลุงรอนจนทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น” กรพูดออกมาด้วยเสียงดังและสำนึกผิด พร้อมก้มหัวขอโทษราวกับจะบอกว่ากรจะไม่แหกกฎของเขาอีกเป็นครั้งที่ 2
“โป๊ก” รอนเขกหัวกร
“อูย... เจ็บ. เจ็บ.. ลุงรอนอะ...” กรกำลังพูด.. แต่ว่ารอนก็เอามือมาลูบหัวกร
“เจ้านะ ไม่ได้ทำผิดกฎของข้าสะหน่อย เจ้าก็ยังไม่ได้ตายสักหน่อยเจ้าหนู แค่นั้นสำหรับข้าถือว่าเป็นกฎที่สำคัญมาก เพราะหากเจ้าตายไปแล้วสิ่งต่างๆก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่นี้เจ้ายังไม่ตายเจ้าก็ควรมองก้าวไปข้างหน้าดีกว่ามองอดีตนะ ไอ้หนู” รอนพูดพร้อมยิ้มให้กร
กรรู้สึกทราบซึ้งมากที่มีใครมาพูดแบบนี้กับเขา กรนั้นเปรียบรอนเหมือนกับ [คนในครอบครัว] เพราะตั้งแต่มาที่โลกนี้ก็ไม่มีใครหวงใยเขามาก่อน
“เจ้าหนู เจ้านี่เก่งมากเลยนะขนาดเจอเจ้า Air woof เจ้ายังสามารถหลบหนีและยังสามารถจัดการเจ้า Air woof นั้นได้อีก ถ้าเป็นข้าคงจัดการเจ้า Air woof นั้นไม่ได้แน่”
“ไม่จริงหลอกครับ ถ้าเป็นลุงรอนต้องสามารถจัดการเจ้า Air woof นั้นได้แน่ และที่ผมรอดจากเจ้า Air woof นั้นได้มันก็คงเพราะผมโชคดีที่ผมหลบหนีไปที่ดงกอไผ่ที่หนาทึบ และเจ้าต้นไผ่นั้นหวดไปที่ Air woof จนมันสลายไป” กรพูดกลับทันทีเพราะเชื่อว่าถ้าเป็นลุงรอนที่มีอาชีพนายพราน LV 10 แล้วละก็จะต้องชนะได้สบายแน่ๆ
“เจ้าหนู..... การต่อสู้ระหว่างความเป็นความตายนะ โชคดีนั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าเราไม่ลงมือกระทำหรอกนะ การที่เจ้าหนีที่ไปดงไผ่ทึบนั้นเจ้าก็คำนวณว่าจะสามารถจะหลบหนีจากมันได้ไม่ใช่หรือไง และการที่เจ้ากำลังและเอามือไปขว้าต้นไผ่นั้นเจ้าก็เป็นคนทำไม่ใช่หรือ หรือแม้กระทั่งที่เจ้าปล่อยมือจากต้นไผ่และต้นไผ่นั้นไปสังหารเจ้า Air woof ตัวนั้นได้นั้นก็ฝีมือของเจ้า โชคดีนะมันไม่เกิดขึ้นกับผู้ไม่แสวงหาการกระทำให้เกิดขึ้นหลอกนะ โชคดีที่เกิดขึ้นนะมันเป็นเพราะฝีมือและการกระทำของเจ้าที่ทำให้มันเกิดขึ้นมาเองเจ้าหนู” รอนพูดตอบกร
“..............” กรครุ่นคิดในใจถึงเหตุการณ์ต่างๆ และคิดว่าตามที่ลุงรอนพูดนั้นคือความจริง ความจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ถ้าเราไม่แสวงหาการกระทำให้เกิดโชค กรได้แต่พงกหัวเพื่อตอบลุงรอน
“เอาเหอะ... เรื่องนี้เอาไว้แค่นี้ก่อน นี่ก็ใกล้ค่ำแล้วมาจุดไฟทำอาหารเหอะ ข้าชักหิวแล้ว” รอนพูด
“ครับ” กรพูดแล้วยิ้มออกมา
“งั้นเดี่ยวผมทำเองนะครับ ลุงรอนพักก่อนก็ได้ครับ ลุงรอนพึ่งกลับมาจากการสำรวจอาจจะยังเหนื่อยอยู่” กรพูดออกมาอย่างใสซื่อ
“ฮา ฮา ฮา เจ้าคิดว่าข้าแก่หรือไงแค่นี้ข้าไม่เหนื่อยหลอก” รอนพูดพร้อมกับเขกหัวกรอีกที “โป๊ก”
“ครับ.... แค่พูดอย่างเดียวก็ได้ไม่เห็นต้องเขกหัวเลย” กรบ่นเบาๆ
**************************************************
หลังจาก กรและรอน รับประทานอาหารเสร็จแล้ว พวกเค้าก็สนทนากันว่าสำรวจไปเจออะไรมาบ้าง
กรก็เล่าแค่ว่าเดินไปทางเหนือสัก 30 นาทีได้แต่ก็ไม่พบเบาะแสอะไรที่จะนำพาไปพบเจ้า [บัวน้ำทิพย์] เลยครับ และผมก็เดินตามรอยเจ้า Air woof ไป แต่ก็จำรายละเอียดไม่ค่อยได้เพราะมัวแต่วิ่หงหนีเจ้า Air woof อยู่
ส่วนรอนนั้นมุ่งหน้าไปทางตะวันตก ก็สำรวจแล้วก็ไม่พบอะไรที่เป็นเบาะแสที่จะพาไปพบเจ้า [บัวน้ำทิพย์] เลย นอกจากกลุ่มมอนเตอร์ที่เขาล่านำมาเป็นอาหารคืนนี้
“ยังไงเราก็ต้องเจอ [บัวน้ำทิพย์] แน่ๆครับ” กรให้กำลังใจ
รอนก็แค่ยิ้มตอบกลับกรเล็กน้อย
รอนกับกรก็ตกลงกันว่าจะไปสำรวจแถวไหนต่อไป
“ผมคงไปทิศเหนือเหมือนเดิมครับ เพราะวันนี้ผมสำรวจไปได้แค่ระยะทางแค่นิดเดียวเอง” ก็พูดบอกกับรอน
“โอเค... งั้นเดี่ยวข้าจะลองไปแถวตะวันตกเฉียงใต้ดูสักหน่อย” รอนพูดออกมาเพราะรอนคิดว่าตำแหน่งที่โอกาศเจอเจ้า [บัวน้ำทิพย์] สูงคงอยู่แถวตะวันตกเฉียงใต้ ถึง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะพื้นที่แถบนี้เป็นพื้นที่แบบมีเนินเขา และมีแอ่งน้ำอยู่มากจึงมีสิทธิ์ที่เจอเจ้า [บัวน้ำทิพย์] ที่นี่
เมื่อพวกเขาได้ข้อสรุปกันแล้ว กรและรอนก็ต่างกันพากันไปนอนเนื่องจากอ่อนเพลียจากการสำรวจและต้องสะสมพลังงานเพื่อที่จะสำรวจหา [บัวน้ำทิพย์] ต่อไปในวันพรุ่งนี้
**********************************************
รุ่งเช้าของวันถัดมา [เหลือเวลาอีก 9 วันที่จะกำหนดชะตาชีวิตลูกของรอน]
“ไปก่อนนะเจ้าหนู” รอนพูดลาก่อนเดินลับเข้าไปในป่าไผ่ทางตะวันตกเฉียงใต้
“ครับ” กรกล่าวทักตอบไปในมันที
แต่ว่ากรนั้นยังไม่มุ่งหน้าไปทางป่าไผ่ทางเหนือสักที แต่เขากลับหยุดนิ่งและหันไปดูรอนว่าเขาไม่อยู่แถวนี้จริงๆ เมื่อกรสังเกตุว่ารอนไม่อยู่แถวนี้แล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยกรจึงกลับเข้าไปในกะท่อม
“White book on” กรเรียกหนังสือสีขาวออกมา
ตามสันนิฐานของกรและรอนคิดว่าเจ้า [บัวน้ำทิพย์] นั้นต้องอยู่ในแหล่งน้ำที่ไหนสักแห่งในป่านี้
กรจึงคิดได้ว่าตอนที่กรเจอเจ้า Air woof นั้นมันก็อยู่ริมลำธารพอดี กรจึงคิดว่าจุดนั้นต้องสามารถเป็นจุดเริ่มต้นหาได้เป็นอย่างดี ดีกว่าเดิมหาไปแบบสุ่มๆ
กรรีบเปิดดูหนังสือสีขาวที่เป็นแผนที่ และหาตำแหน่งสถานที่ลำธารนั้น เมื่อกรรู้ตำแหน่งแล้วก็รีบออกเดินทางทันที
กรไปถึงสถานที่แห่งนั้นด้วยระยะเวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น แถมตอนนี้ยังไม่รู้สึกเหนื่อยและหอบเหมือนเมื่อตอนมาสำรวจเมื่อวันก่อน กรคิดว่านี่คงได้รับผลกระทบจากทักษะของอาชีพนักสำรวจ
กรสำรวจที่ลำธารแห่งนั้น น้ำในลำธารนั้นใสมาก ใสจนกระทั่งเห็นก้อนหินที่นอนจมอยู่ในลำธาร
กรคิดว่าการหาเจ้า [บัวน้ำทิพย์] ความจะตามหาจากต้นลำธารดีกว่า เพราะส่วนมากปลายลำธารจะเป็นการบรรจบแม่น้ำของแต่ละสายซึ่งกรคิดว่าแถวนั้นน่าจะไม่มี [บัวน้ำทิพย์] อยู่
กรเดินสำรวจไปต้นลำธารเป็นเวลาอีก 30 นาที ก็พบเจอน้ำตกเข้าให้
“ว้าว” กรร้องว้าวออกมาในทันที เพราะในโลกปัจจุบันของกรนั้น เขาเรียนอยู่ในตัวเมืองจึงไม่ได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติมากนัก
กรรีบไปตรงใกล้ๆน้ำตก เพื่อรองน้ำไว้สำหรับดื่มกิน
“อึก อึก อึก .....อ่า- สดชื่นจังเลย แถมน้ำก็เย็นกำลังดีด้วย อากาศก็สดชื่นไม่เหมือนกับที่กรอยู่เลย” (**ก็แน่ละกรเติบโตในเมืองใหญ่จึงมีแต่ตึก อาคาร ก่อสร้างต่างๆ พวกต้นไม้ ลำธารที่ใสสะอาดแบบนี้หาเจอไม่ได้แน่ท่าอยู่ในเขตเมือง**)
เหอ.. เดินมาตั้งนานก็ไม่ยักจะเจอเบาะแสของเจ้า [บัวน้ำทิพย์] เลยแหะ แถมระหว่างที่เดินมาไม่พบมอนเตอร์สักตัวเลยด้วยสิมันน่าแปลกแหะ (**ไม่น่าแปลกหลอกจริงๆพื้นที่แถบนี้นั้นเป็นบริเวณของเจ้า Air woof ที่ดุร้ายตัวนั้น จึงไม่มีมอนเตอร์ตัวไหนเข้ามาพื้นที่ของเจ้า Air woof**)
อึ๊บ... กรบิดขี้เกียจ สงสัยต้องขึ้นไปค้นหาเบาะแสที่ต้นน้ำตกละมั้งเนี่ยกรคิดในใจพร้อมมองขึ้นไปข้างบน
“ทำไมสูงจังฟะ” กรบ่นออกมา
(ขนาดความสูงของน้ำตกนั้นก็คงราวๆ ตึก 10 ชั้นได้)
กรมองไปรอบๆ ก็ดูเหมือนไม่มีตำแหน่งไหนพอจะปีนได้ มีแค่ตำแหน่งเดียวคือบริเวณด้านข้างน้ำตก แต่ว่าบริเวณนั้นก็อันตรายอยู่ดี เพราะแรงน้ำที่ตกมาจากข้างบน+กระแสน้ำไหลของแม่น้ำถ้าน้ำตรงนั้นมาโดนตัวแล้วละก็ต้องเจ้บมากแน่ๆ และตำแหน่งหินและดินตรงนั้นลื่นมาก ถ้าก้าวพลาดไปก็อาจทำให้บาดเจ้บสาหัสได้ กรแค่คิดก็สั่นแล้ว
“เพี๊ยะ” กรตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติกลับมา
“เอาว่ะ.... ไม่มีทางเลือกแล้วจะอ้อมไปก็เสียเวลา ไปทางนี้แหละประหยัดเวลาที่สุดแล้ว” กรพูดคนเดียวออกแนวบ่นไปเรื่อยเปื่อย
กรเริ่มขยับมือขยับเท้าไปอย่างช้าๆ เพื่อให้มั่นคงและคอยระมัดระวังสเก็ดน้ำที่กระเด็นออกมา
“อัก” เสียงน้ำที่กระเด็นมาโดนตัวกร
อูย เจ็บชะมัด กรคิดอยู่ในใจ
โอยไม่อยากปีนแล้ว เจ็บ เจ็บ เจ็บโว้ย กรคิดว่าไม่อยากปีนแล้วแต่ก็ทำไม่ได้เพราะกรปีนมาได้ประมาณตึก 4 ชั้นได้ (**การปีนขึ้นที่สูงนั้นขาขึ้นง่ายกว่าขาลงครับเพราะเราสามารถหาตำแหน่งจับและวางตำแหน่งขาได้ง่ายกว่า**)
เมื่อปีนไปได้อีกสักพักกรก็พบเจอถ้ำอยู่ในบริเวณนั้น
กรรู้สึกหมดแรงกายเป็นจำนวนมาก การปีนน้ำตกนี้ใช้พลังกายสูงจริงๆ กรคิด
แวะพักที่นี่สักแปปดีกว่า กรคิดได้และรีบพุ่งเข้าไปหลบน้ำถ้ำสักแปป
กรพักอยู่ได้ประมาณสัก 2-3 นาที กรเริ่มรู้สึกได้ถึงเสียงบางอย่าง
“โฮง โฮง โฮง” กรได้ยินเสียงคล้ายลูกหมาจากข้างในถ้ำ
กรเดินไปตามเสียงภายในถ้ำ กรถึงกับเสียวสันหลังขึ้นมากระทันเมื่อได้พบกับลูก Air woof 2 ตัว ทำให้กรนึกถึงประสบการณ์ที่ได้เจอกับเจ้า Air woof ครั้งแรกได้
แต่กรก็ตั้งสติขึ้นได้นี่แค่ลูก Air woof คงไม่มีอันตรายกับเรามากนัก แต่กรก็ต้องระวังตัวมากขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อคิดได้ว่า ถ้าที่นี่มีลูก Air woof อยู่แสดงว่าที่นี่เป็นรังของ Air woof ก็แสดงว่าต้องมี Air woof ตัวพ่อและแม่อยู่ใกล้ๆ แน่
กรกวาดสายตารอบๆอย่างไว และก็ไปสะดุดกับเจ้าสิ่งหนึ่งเข้าเจ้าสิ่งนั้นคล้ายๆดอกบัวบานที่มีน้ำขังอยู่ข้างใน กรรีบเดินไปตรวจสอบตรงนั้นในทันทีและเพ็งการจ้องมองไปที่ดอกบัวบานตรงนั้น อยู่ๆก็มีหน้าต่างค่าสถานะเปิดขึ้น
[บัวน้ำทิพย์] ความยากในการค้นหา B
มีคุณสมบัติ : น้ำที่ขังอยู่ในดอกบัวนี้สามารถแก้โรคภัยไข้เจ็บและสถานะต่างๆที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ทุกชนิด
|
“ในที่สุด..... ในที่สุดเราก็เจอมันแล้ว” กรพูดเบาๆออกมาพร้อมกับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
กรรีบเข้าไปเก็บ [บัวน้ำทิพย์] โดยไว โดยเก็บก้านดอกบัว 2 ดอก และเทน้ำที่ขังในดอกบัวบานใส่กระติกน้ำที่เขาพกมา
เรารีบออกจากที่นี่ดีกว่าเดี่ยวเจ้า Air woof ตัวพ่อหรือแม่กลับมามีเรื่องแน่
“โฮง โฮง โฮง” เจ้าลูก Air woof ก็ยังคงส่งเสียงร้องต่อไป
ในขณะที่กำลังเดินออกจากถ้ำนั้น อยู่ๆกรก็ตัวสั่นขึ้นมาทันที มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมอยู่กรถึงได้ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าสะขนาดนั้น
สายตากรจ้องมองไปที่ Air woof ที่อยู่ตรงเบื้องหน้า
(จบตอนที่ 5)
ความคิดเห็น