ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผจญภัยในโลกต่างมิติ

    ลำดับตอนที่ #12 : มุ่งหน้าสู่เมืองอาวารอน (END)

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 58


    ตอนที่ 12  มุ่งหน้าสู่เมืองอาวารอน (END)

     

              “โฮ่ง  โฮ่ง  โฮ่ง”

              “โฮ่ง  โฮ่ง  โฮ่ง”

              เสียงเจ้าตูบปลุกทุกคนในยามเช้าของวันใหม่

              “อืมพอได้แล้วเจ้าตูบ  ฉันตื่นแล้ว”

              “ขอบใจเจ้ามากที่เฝ้าเวรให้ทั้งคืนนะ”

              กรกล่าวขอบใจเจ้าตูบที่เสียสละเวลาในการเฝ้าระวังความปลอดภัยให้พวกเขา  กรลูบหัวเจ้าตูบอย่างอ่อนโยน เจ้าไปพักผ่อนได้แล้วนะ

    Air woof off” กรเรียกอัญเชิญเจ้าตูบกลับไปในหนังสือ

    กรรีบรวบรวมเก็บสัมภาระและล้างหน้าล้างตา

    “ลุงรอนผมพร้อมออกเดินทางแล้วครับ”

    “โอเครงั้นเรารีบเดินทางกัน”

     

    พวกเขาทั้ง 4 มุ่งหน้าสู่เมืองอาวารอน  .........  พวกเขาเดินทางได้เป็นเวลา 5 ชม. พวกเขาก็พบกับเมืองอาวารอน

    เมืองอาวารอนนั้นเป็นเมืองที่ใหญ่มาก  และเป็นเมืองที่สวยงามมากมีกำแพงยาวรอบ 4 ด้านโดยมีปราสาทที่ใหญ่โตตั้งอยู่ใจกลางเมืองอาวารอน

    “ว้าว...  ที่นี่คือเมืองอาวารอนหรอครับ ลุงรอน”

    “ใช่ที่นี่แหละเมืองอาวารอน”

    “ผมนึกว่าเมืองอาวารอน  จะเป็นเมืองเล็กๆสะอีก  แต่ดูนี่สิมันทั้งกว้างใหญ่ ยิ่งดูเมืองอาวารอนจากด้านนอกเมือง  รู้สึกว่าโลกทั้งโลกนี่เล็กไปเลย”

    “เจ้าก็เวอร์ไปเจ้าหนู  โลกนะจะเล็กกว่าเมืองได้ไง”

    “เอ้ารีบเข้าเมืองกันเหอะ”

    พวกเขาทั้ง 4 รีบมุ่งหน้าเข้าไปตรงประตูทางเข้าเมือง

     

    “หยุด”  มีนายทหาร 2 คนสั่งให้พวกเขาทั้ง 4 คนหยุด

    “เออ... มีไรหรอครับคุณทหาร”  กรถามด้วยความสงสัย

    “พวกเจ้าเป็นใคร  จงแสดงตัวมาเดี่ยวนี้” 

    “เอ.อ.....  แสดงตัว ?..”

    “กรใจเย็นแค่เอาบัตรประจำตัวแต่ละคนให้เขาดูแค่นั้นแหละ”  รอนพูดกับกร

    “เอ้านี่”

    รอนยื่นบัตรประจำตัวของเค้าให้กับทหาร  ทหารตรวจสอบดูบัตรของรอน

    “รอนไควร์  อาชีพ นายพราน  เป็นพลเมือง อาวารอน”  ทหารอีกคนดูบัตรของรอน

    “โอเค  เจ้าเข้าเมืองไปได้”

    รอนรับบัตรประจำตัวของเค้าคืน

    “เจ้า  รีบแสดงบัตรออกมา” ทหารชี้หน้ากรให้รีบนำบัตรประจำตัวออกมาให้เค้าดู

    “เออ...  ผมไม่มีมันครับ”

    เมื่อกรพูดเช่นนั้นออกไป  ทหารทั้งสองชักดาบออกมาและเข้าจับกุมกร

    “อะไรเนี่ย..    จับผมทำไม ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย”  กรถึงกับตกใจที่ทหารทั้ง 2 ต่างจับกุมเขา

    “คนที่ไม่มีบัตรประจำตัว  ถือว่าเป็นคนต่างด้าว  และคนต่างด้าวในเมืองอาวารอนนั้นต้องโดนทำการตรวจสอบก่อน ถึงจะเข้าเมืองไปได้” 

    กรถึงกลับหน้าซีด  กรคิดในใจว่าเราจะไปมีบัตรประจำตัวของเราเองได้ไง  ก็เพราะเรามาจากต่างโลก  ถ้าโดนตรวจสอบและไม่รู้ที่มาที่ไปของเราละก็คงโดนจับยัดเข้าคุกเป็นแน่แท้

     

    “หยุดแค่นั้นและทหาร  เขาคนนั้นมากับเรา”  โจเซฟเปิดปากพูดกับทหารให้ปล่อยตัวกร

    “แกเป็นใครมาบังอาจหยุดการปฏิบัติหน้าที่ของเรา   เอาบัตรประจำตัวของแกมาให้เราดูสิ”

    เมื่อปีเตอร์ได้ยินวาจาของทหารนายนั้นถึงกับอารมณ์เดือด  เมื่อมีใครพูดจาไม่ดีกับโจเซฟ

    โจเซฟเอามือขวางปีเตอร์ไว้  และโจเซฟก็หยิบบัตรของเขาออกมาให้กับนายทหารทั้ง 2 คนดู

     

    “นี่ครับ”

    นายทหารรับบัตรประจำตัวของโจเซฟมาดู  เมื่อพวกเขาหยิบมาตรวจสอบหน้าตาทหารของ 2 คนนั้นถืงกลับเหงื่อแตก ร่างกายสั่นเทา 

    “โปรดขอประทานอภัยด้วยพะยะค่ะองค์ชาย” ทหารทั้ง 2 คุกเข่าและพูดออกมาด้วยเสียงสั่นๆ

    “ไม่เป็นไร  พวกเจ้าแค่ปฏิบัติตามหน้าที่  ซึ่งพวกเจ้าก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีแล้ว  เพราะฉะนั้นปล่อยเพื่อนของข้าคนนี้ที และปฏิบัติหน้าที่ของพวกท่านอย่างเคยต่อไป

    “พะยะค่ะ”  ทหารทั้ง 2 รีบไขกุญแจมือที่ลามกรออกและปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

     

    ตอนนี้ประชาชนที่กำลังเข้าไปในเมืองถึงกับตกใจเมืองนายทหารทั้ง 2 ถึงกับคุกเข่าให้กับเด็กชายแปลกหน้าที่อยู่ในชุดคลุม

    “เออ  พวกเรารีบเข้าเมืองกันเหอะ  ข้าไม่อยากเป็นจุดสนใจ”  โจเซฟบอกกับพรรคพวกของเขา

     

    พวกเราทั้ง 4 รีบวิ่งหลบสายตาเข้ามาในเมืองอาวารอน

     

    “โจเซฟ  นายเป็นใครกันแน่”  กรถามโจเซฟ ในสิ่งที่เค้าเห็นคือทหารยามทั้ง 2 ถึงกับคุกเข่าให้กับโจเซฟ

    “ไม่มีอะไรหลอกกร”

    “แต่ว่าที่นี่ทำไมต้องให้มีบัตรประจำตัวด้วยละ”  กรพูดในสิ่งที่สงสัย

    “55+  โทดทีข้าลืมบอกเจ้าไป ที่เมืองอาวารอนใครจะเข้ามาในเมืองนี้ได้ต้องทำบัตรประจำตัวก่อนถึงจะเข้ามาได้นะ  ถ้าคนไม่มีละก็เค้าจะทำการจับกุมในก็หาอาจเป็นสปายจากอาณาจักรอื่นละน่ะ”

    “เพราะที่นี่เป็นเมืองใหญ่  ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการค้าขายของอาณาจักรเอ็ม  จึงมีการตรวจตราอย่างเข็มงวด  ผู้คนที่จะมาค้าขายที่นี่ได้ก็ต้องทำการตรวจสอบและลงทะเบียนก่อนนะ”  ปีเตอร์กล่าวเสริม

    “เออ  และผมจะต้องไปทำการตรวจสอบและลงทะเบียนก่อนไหมครับ  ผมกลัวจะโดนอย่างเมื้อกี้อีกถ้าไม่มีโจเซฟละก็งานเข้าแน่”  กรพูดแบบไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก

    “นั้นสินะ   ปีเตอร์  โจเซฟ  ข้าฝากวานพวกเจ้าพากรไปทำบัตรประจำตัวหน่อยละกัน  ถ้าเป็นพวกเจ้าละก็คงไม่มีทหารหน้าไหนทำอะไรกรแน่”

    “ได้ครับ  เดี่ยวผมพากรไปทำบัตรประจำตัวเองครับ”

    “เออ.. ท่านโจเซฟและท่านไม่ไป...”

    “ยังมีเวลานะปีเตอร์  แค่ทำบัตรประจำตัวใช้เวลาแค่ 1 ชม ก็เสร็จแล้ว”

    ปีเตอร์ได้แต่ถอนหายใจ  พูดไปโจเซฟก็คงไม่ปฏิบัติตามเขาอยู่ดี

    “และคุณรอนไม่ไปด้วยหรอครับ”  โจเซฟถามถึงรอน

    “ไม่ละ  ข้าต้องรีบไปรักษาลูกข้าก่อน  และจุดหมายของเราก็แค่มาถึงเมืองอาวารอน  พวกเราต่างก็มีภาระและเส้นทางของแต่ละคนที่ต้องก้าวเดินนะ   ถ้าวาสนามีจริงละก็พวกเราคงได้พบกันอีก”

    ทุกคนต่างเข้าใจในความหมายของรอนที่พูด

    “นี่ครับลุงรอน  ขอบคุณที่ช่วยดูแลและสั่งสอนผมนะครับลุงรอน”

    กรกล่าวขอบคุณรอนพร้อมหยิบ [บัวน้ำทิพย์] ที่เหลือให้กับรอน

    “ที่ขอบคุณต้องข้ามากกว่าเจ้าหนู  เพราะเจ้าลูกข้าถึงยังมีโอกาสอยู่รอดต่อในโลกนี้ได้”

    “ขอให้พวกเจ้าโชคดี”  รอนกล่าวลาทุกคน

    “โชคดีครับลุงรอน”

    “ขอบคุณที่พามาส่งครับคุณรอน”

    ปีเตอร์ก็โค้งคำนับให้รอนเป็นการกล่าวลา

     

    “เอาละกรตามเรามาทางนี้สิ  เดี่ยวเราพาไปลงทะเบียนตัวตนให้  เจ้าจะได้เข้าออกเมืองในอาณาจักรเอ็มได้”

    กรรีบเดินตามโจเซฟและปีเตอร์   พวกเขามาหยุดอยู่ตรงอาคารหลังหนึ่งมีคนมากมายที่เข้าออกในอาคารหลังนั้น

    “ที่นี่แหละกร  ที่ลงทะเบียนระบุตัวตน”

    “โวว  คนเยอะจริง แบบนี้ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะเสร็จเนี่ย”

    “อย่างเร็วก็คงประมาณ 10 นาที  อย่างช้าสุดก็ประมาณ 2-3 ชั่วโมงแล้วแต่คนที่เข้ามาทำการลงทะเบียนครับกร”

    “งั้นผมไปต่อคิวก่อนนะครับ  ขอบคุณมากครับที่พามาส่ง”

    “เออคุณกรเดี่ยวผมช่วยลัดคิวให้ไหม”  โจเซฟช่วยหาวิธีจะได้ทำบัตรประจำตัวเร็วๆ

    “ไม่เป็นไรโจเซฟ  ผมดูจากท่าทีของทหารยามที่เฝ้าหน้าประตูแล้ว นายคงเป็นคนใหญ่คนโต และคนใหญ่คนโตทำเรื่องแบบนี้เดี่ยวมีคนเอาไปนินทาว่าร้ายเปล่าๆ”

    โจเซฟถึงกับยิ้มออกว่า  โจเซฟไม่คิดว่ากรจะคำนึงถึงสถานะของเขา

    “โอเครกร  ผมและปีเตอร์จะรออยู่แถวนี้นะครับ”

    “โอเค  เดี่ยวเจอกัน”

     

    กรรีบวิ่งไปรับบัตรคิว  คิวของกรเป็นคิวที่ 92

              “โหคิวที่ 92 เลยหรอนิ  ตอนนี้เรียกถึงคิวที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย”

              “คิวหมายเลขที่ 70 เชิญเข้าไปข้างในได้แล้วคะ” 

              กรได้ยินเสียงเรียกหาคิวที่ 70 เพื่อเข้าไปลงทะเบียนทำบัตร 

              โห  นี่เราต้องรออีกตั้ง 22 คิวแหนะ  อ๊ากอยากจะบ้าตาย  กรบ่นในใจ

              เวลาผ่านไปประมาณ 4 ชั่วโมงได้  กรเผลอหับไป

              “คิวหมายเลขที่ 92 เชิญเข้ามาข้างในได้แล้วค่ะ”

              “คิวหมายเลขที่ 92 อยู่ไหมคะ  คิวหมายเลขที่ 92  ถ้าไม่อยู่จะข้ามไปคิวถัดไปนะคะ”

              กรสะดุ้งตื่น  เมื่อมีคนเรียกขานคิวของเขา

              “อยู่ครับ  คิวหมายเลข 92 อยู่นี่ครับ”

              “คะงั้นเชิญเข้าด้านในได้แล้วคะ”

     

              กรเดินตรงเข้าไปด้านใน และเดินเข้าไปในห้องด้านในสุด  กรเปิดประตูเข้าไปก็พบเจอคน 3 คนนั่งคอยรอผู้ที่ลงมาทะเบียนอยู่

              “หมายเลข 92 ใช่ไหมครับเชิญนั่ง”  ชายหนุ่มวัย 20 ต้นๆเชิญผู้ที่มาลงทะเบียนนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างไว้ตรงหน้าพวกเขา

    กรเดินและเข้าไปนั่ง  กรคิดว่าสถานที่นี้เหมือนกับโรงเรียนของเขาเลยเวลาที่เราจะคัดเลือกใครจะต้องมีการสอบสัมภาษณ์อะไรประมาณนั้น

     

    “โปรดแนะนำตัวด้วยคะ” หญิงวัย 40 ปลายๆกล่าวออกมา

    “เออ  ผมชื่ออากรครับ  อายุ 16 ปี  อาชีพ นักสำรวจครับ”

    “และเกิดที่ไหน  และเข้ามาที่เมืองอาวารอนทำไม”  ชายหน้าตาวัย 60 กว่าถามกร

    “เออ..”  กรไม่รู้จะตอบไงดี  จะบอกว่าเขามาจากอีกโลกหนึ่งก็คงไม่มีใครเชื่อ  จะทำไงดีหวา

    “ตอบมาสักทีสิ จะให้เสียเวลารอแค่ไหนแค่บอกสถานที่เกิดของเจ้า” ชายแก่ กล่าว

    “ถ้าไม่ตอบละก็ข้าจะเรียกทหารมาจับเจ้า”

    แว๊กอะไรเนี่ยวันนี้อะไรจะดวงซวยขนาดนี้จะโดนทหารจับขังเป็นรอบที่ 2 อีกแล้วหรือนิ  กรบ่นในใจ

     

    “แอ้ด..... ปัง”   มีเสียงคนเปิดประตูเข้ามาและปิดประตู

    “ขอโทดทีครับคณะผู้ตรวจตราลงทะเบียน  ชายผู้นี้เขาเป็นนักสำรวจในหน่วยของข้าเอง”

    “และท่านเป็นใคร  บังอาจเข้ามาในห้องนี้โดยพละการได้ไง” 

     

    เขาได้ยื่นบัตรประจำตัวให้แก่คณะผู้ตรวจตราลงทะเบียน  พวกคณะผู้ตรวจทั้ง 3 ต่างมองดูบัตรใบนั้น

    เมื่อพวกเขามองดูท่าทางของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

              “โอ้วท่านเซอร์ปีเตอร์  ทำไมองครักษ์ของกษัตริย์ถึงเสด็จมาเยี่ยมเยียนถึงที่นี่ได้  ช่างเป็นเกียรติเหลือเกินที่ได้ต้อนรับท่าน” ชายแก่พูดประจบ

              “พอดีลูกน้องข้าเขายังไม่ได้ทำบัตรประจำตัว  ข้าเลยพาเขามาทำนะ”

              “โอ้วบุคคลท่านนี้เป็นลูกน้องของท่านหรือขอรับ   เดี่ยวพวกเราจะเร่งออกบัตรประจำตัวคุณกรให้โดยไว” 

              “คุณกร เชิญทางนี้ได้เลย”

              ดูเหมือนพอปีเตอร์เข้ามาทุกอย่างกลับง่ายดายไปหมด  พวกขุนนางหรือนักปกครองที่นี่ก็คงเหมือนกับนักการเมืองของโลกเราละมั้งที่มีการประจบสอพอเล่นเส้นเล่นสาย  กรคิดในใจไม่ว่าโลกไหนก็คงมีแต่คนประเภทนี้อยู่เยอะเต็มไปหมด

     

              “เอาละคุณกร หันหน้ามาทางนี้”

              กรหันหน้าตามที่ชายแก่บอก  อยู่ๆก็มีแสงสีขาวแว๊บออกมา

              “เอาละคุณกร  บัตรประจำตัวของท่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว”

              ตาแก่ยื่นบัตรประจำตัวของกรมาให้ดู  กรรับบัตรและเอามาดูว่ามีรูปร่างหน้าตาอย่างไร

    รูปกร                ชื่อ      อากร

                           อายุ    16  ปี

                           อาชีพ  นักสำรวจ

                           ระดับ  B[1]

     

    กรมองดูบัตรประจำตัวนี่เหมือนกับบัตรประจำตัวประชาชนของโลกเราเลยแหะ  แต่ที่แตกต่างคือระดับนี่คืออะไรหวา - -*   กรงุนงงสักพัก

              “ขอบคุณครับ”  กรกล่าวขอบคุณก่อนเดินออกมา

             

              “ปี...  เซอร์ปีเตอร์ผมทำบัตรประจำตัวเรียบร้อยแล้วครับ”  กรเกือบเรียกชื่อปีเตอร์ห้วนๆ

              “โอเคร  ขอบคุณมากคณะผู้ตรวจตราลงทะเบียน ข้าขอไปก่อนละ”

              “เชิญครับท่านเซอร์ปีเตอร์”  คณะผู้ตรวจตราลงทะเบียนทั้ง 3 กล่าวลาแบบน้อบน้อม

     

              “เป็นไงมั้งกร  ได้บัตรประจำตัวมาหรือยัง”  โจเซฟถามเมื่อเห็นกรเดินออกมาจากอาคาร

              “ได้มาเรียบร้อยแล้วโจ...  ท่าน”

              “เรียกข้าเหมือนเดิมแหละกร”  โจเซฟขอให้กรพูดกับเขาอย่างสนิทสนม

              “อ่าส์  ...  ได้โจเซฟ  พอดีเซอร์ปีเตอร์เข้ามาช่วยเราได้ทันพอดี  ไม่งั้นมีหวังไปนอนคุกแน่ๆ”

              “55+ ไม่เป็นไรหลอกข้าก็คิดไว้แล้วทำไมท่านกรถึงออกมาช้าจัง  และโปรดเรียกผมว่าปีเตอร์เหมือนเคยเหอะ   พวกเราเป็นมิตรสหายกันนะ  แต่ถ้าอยู่กับพวกขุนนางหรือทหารละก็ก็ให้เรียกเซอร์ปีเตอร์ด้วยละกัน”

              “ครับ...   ปีเตอร์ผมขอถามหน่อยสิในบัตรประจำตัวมันมีคำว่าระดับอยู่มันคืออะไรหรอครับ  และผมได้ระดับ B[1]  มันคืออะไรหวาไม่เข้าใจ”  กรถามแบบงงๆ

              “อ่อ ระดับอันนั้นนะหรอ มันก็เหมือนการบอกยศละน่ะ  เดี่ยวเล่าย่อๆให้ฟัง”

              ระดับแบ่งออกเป็น  S>A>B>C>D>F  โดยแต่ละระดับนั้นจะมีแบ่งย่อย 1<10

                        - ระดับ S กษัตริย์ของราชอาณาจักรนั้น

                        - ระดับ A จะเป็นพวกขุนนางและรัชทายาท

                        - ระดับ B จะเป็นพวกทหารหรือข้าราชการระดับล่าง

                        - ระดับ C พ่อค้าแม่ค้าหรือพวกนักพจญภัยที่มาจากต่างแดน

                        - ระดับ D พลเมืองของอาณาจักรเอ็ม

                        - ระดับ F ก็พวกนักโทษ, เชลยศึก, ทาส

                        โดยเลข 1-10 นั้นจะแสดงถึงอิทธิพลของบุคคลคนนั้นละนะ 

              “อืม  อย่างงี้นี้เองและของปีเตอร์ระดับอะไรหรอครับทำไมพวกข้างในท่าทางกลัวท่านจัง”

              “55+ ระดับของข้าก็ไม่ใหญ่มากหลอก แค่ระดับ B[10] เอง”

              “ระดับ B[10] นี่นะไม่ใหญ่  และของโจเซฟละ”

              “อ่าส์ของผม  ระดับ A[7] ครับ”

              “โว้ว  นี่เรามีมิตรสหายเป็นคนใหญ่คนโตหรือนี่”  กรตกใจระดับของปีเตอร์และโจเซฟ

              “พอแค่นี้ก่อนกร  เราหิวแล้วนี่ก็ดึกแล้วด้วยไปหาไรกินกัน”

              “โอเค”  กรตกลงทันทีโดยไม่คิดอะไร

                                                    (จบตอนที่ 12)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×