คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : คทาใต้กลีบเมฆ
เช้าวันใหม่มาพร้อมอากาศสดใส นอกหน้าต่างข้างล่างมีนักศึกษาอยู่ไม่น้อย สระว่ายน้ำสีฟ้าที่เขาเห็นจนเจนตาก็ยังคง
เหมือนเดิม จักรยานหลายคันนอนจอดแอ้งแม้งที่ขอบรั้ว เสาชิงช้าที่แกว่งไกว สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นเช่นทุกปีที่เขาอยู่ที่นี่ แต่อะไร
หนอที่ทำให้เขารู้สึกเปลี่ยนไป รู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ที่นี่จะไม่ใช่สโนเฟลค แผ่นดินที่เขาเกิด แต่ทำไมเขาถึง
ได้รู้สึกว่าอยู่ที่นี่แล้วอุ่นใจ บางทีอาจจะรู้สึกอบอุ่นมากกว่าบ้านเกิดของเขาเองเสียอีก เขายังจำได้ดี วันนั้น วันที่ท่านพ่ออภิเษก
ใหม่ ทุกคนต่างชื่นชมยินดี แต่ไม่ใช่เขา เขายังจำได้ถึงพระสุรเสียงของท่านแม่ที่สั่นเครือ ยังจำได้ถึงเสียงสะอื้นไห้ของแคนดริก
แล้ววันที่สเฟียร์เกิด เขาและแคนดริกก็กลายเป็นส่วนเกินของชีวิตท่านพ่อไป เขาเป็นเพียงพระโอรสที่ท่านพ่อจะเรียกหาเมื่อต้อง
การให้ทำภารกิจแทน ต่างจากสเฟียร์ที่ท่านพ่อจะทรงเอาใจเสมอ เขาจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางให้ท่านพ่อพอพระทัย เขาต้อง
ทำงานทุกอย่างที่ท่านพ่อทรงต้องการ จนเขากลายเป็นที่รู้จักของปวงชน
“เฮ้ย ใจลอยไปถึงไหนวะ เร็วเข้า เดี๋ยวไปเรียนสาย”เสียงเจ้าชายแห่งสโนไอศปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์
“วันนี้เรียนอะไรวะ กริซ”เฟร็นส์เอ่ยถามขณะที่เดินมาถึงหน้ามหาลัย
“ศิลปะการวาดภาพสีน้ำมัน”กริซตอบพลางยิ้มให้
“ชั้นล่ะไม่เข้าใจ วิชานี้เรียนไปทำไมวะ”เฟร็นส์โพล่ง ขณะอยู่หน้าห้องเรียน
“เอาไว้จีบสาวล่ะมั้ง”เขาแซว แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะโดนตอกกลับ
“แหม เดี๋ยวนี้คุณเจ้าชายของเราชักจะพัฒนาไปเยอะเลยนะเนี่ย”เฟร็นส์ตอกกลับพร้อมเสียงผิวปากเฟี้ยวฟ้าวในวินาทีเดียวกับที่
พวกเขาเดินเข้ามาในห้องศิลปะ ที่วันนี้ดูแปลกตาไปมาก หน้ากระดานเวทย์ที่เคยว่างเปล่า บัดนี้ติดภาพหญิงสาวไว้มากมายหลาก
หลายอริยบถ และไม่นานอาจารย์ประจำวิชาก็ปรากฎตัวขึ้น “วันนี้จะไม่สอนอะไรมาก แค่จะสั่งงานเท่านั้น ให้พวกเธอทุกคนวาด
ภาพเหมือนลงบนผ้าใบที่จะแจกให้ จัดมุมทุกอย่างให้สวยงามตามชอบ”อาจารย์สั่งงานพลางชี้ไปยังผ้าใบกองใหญ่ที่วางอยู่ที่พื้น
หน้าห้อง”ไม่กำหนดหัวข้อหรือฮะ”สนิชที่นั่งไม่ไกลจากเขามากยกมือถามเป็นคนแรก มันเป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้ เพราะ
ปกติจะมีไม่บ่อย ที่คนอย่างอาจารย์บูชจะเปิดโอกาสให้วาดรูปตามอิสระ อย่างน้อยก็จะมีบ้างไม่ว่าจะเป็นการใช้เงา การไล่สี ภาพ
ธรรมชาติ ภาพเคลื่อนไหว หรือคราวนี้หัวข้อจะเป็นภาพเหมือน! “พวกเธอยังมองไม่เห็นหัวข้อที่จะให้วาดอีกเรอะ งานในคราว
นี้ก็คือรูปผู้หญิง ผู้หญิงที่อ่อนหวาน.....”อาจารย์พล่ามไปเรื่อย โดยที่เขาไม่ได้สนใจฟังสักนิด เขามัวแต่หันไปหัวเราะกับเจ้า
เพื่อนด้านหลัง เพราะท่าทางของอาจารย์ดูเพ้อฝัน เหมือนอยู่ในโลกส่วนตัว”อะแฮ่ม อาจารย์จะให้เราวาดรูปเหมือนของผู้หญิงที่
อ่อนหวานเนี่ยนะฮะ”ฟาโรตัดบท เพื่อไม่ให้อาจารย์ฝันหวานไปมากกว่านี้ สายตาก็ปรามเหล่าเพื่อนพ้องให้สงบสติอารมณ์ หยุด
หัวเราะ “ใช่ เธอมีปัญหาอะไร ฟาโร”อาจารย์บูชหันมาถามเสียงแข็ง ตาขวาง “เปล่าฮะ”ฟาโรปฎิเสธแล้วรีบนั่งลง อาจารย์บูชออก
จากห้องก่อนเวลาเกือบชั่วโมง พวกเขาเลยนั่งคุยกันในห้องอย่างสนุกสนาน
“เฮ้ย นายว่าบูชประสาทรึป่าว อยู่ดี ๆ ให้พวกเราวาดรูปผู้หญิง แถมเป็นภาพเหมือนอีก จะไปหาผู้หญิงอ่อนหวานที่ไหนมาเป็น
แบบวะ นายก็รู้ว่าหอเราหาผู้หญิงแบบนั้นง่ายซะที่ไหน”บริชโวยวาย”สงสัยจะอินเลิฟว่ะ ฮ่า ๆๆๆๆ”เอ็ดหัวเราะดังลั่น ขณะที่บริ
ชหลบวงค้อนเพื่อนผู้หญิงในหอที่พวกหล่อนพร้อมใจกันส่งมาให้”ไม่ตลกเลยนะเว่ย งานหนักแบบนี้”สนิชตีหน้าเครียด “แหม
พวกนายจะคิดอะไรมากวะ เรื่องแค่นี้เอง”เฟร็นส์พูดอย่างสบายอารมณ์ “ชั้นไม่ได้เสน่ห์แรงเหมือนนายนี่หว่า เหร็นส์”สนิชโต้
กลับ เฟร็นส์หัวเราะชอบใจ “เรื่องแค่นี้เดี๋ยวชั้นสอนให้เว่ย เพื่อน”สนิชส่ายหน้า ไม่ยอมเป็นศิษย์ “อย่างนายก็สบายสิ เค็นดิว วาด
เมดิซ่าไปก็สิ้นเรื่อง ส่วนนาย เฟร็นส์ก็แค่ขอให้แฟนนายมานั่งเป็นแบบ”สนิชเครียดจัด”ใครบอกว่าชั้นจะวาดเมดิซ่า”เค็นดิวสวน
กลับทันที”อ้าว”เสียงเพื่อน ๆ อุทานกันเป็นเสียงเดียว “ทำไมนายถึงไม่ชอบเมดิซ่าวะ เค็นดิว สวยก็สวย แถมยังป๊อบอีก”เฟร็นส์
หันมาถามอย่างจริงจัง “ชั้นยังไม่ได้พูดแบบนั้นเลยนะ”เค็นดิวยิ้มกว้าง “นายไม่ได้พูด แต่สายตานายมันฟ้อง”กริซแหย่
เพื่อนอย่างสนุก”เฮ่อ อย่าพูดเรื่องชั้นเลย กลับหอกันดีกว่า”เค็นดิวเฉพูดเรื่องอื่น วันนี้เป็นวันหยุด แต่เนื่องจากมหาลัยมีกิจกรรม
มาก ชั่วโมงเรียนเลยมีน้อย ต้องเรียนพิเศษเพิ่มในบางวิชา
“เฮ้ย พวกนายรู้ป่าว ว่าบูช....”เสียงทักระหว่างการเดินทางกลับหอของเพื่อนต่างหอ ทำให้ทั้งหมดหยุดชะงัก ก่อนสนิชจะ
พูดแทรก”ถ้านายมายถึงเรื่องที่บูชสั่งให้พวกเราวาดรูปผู้หญิงอ่อนหวานล่ะก็ ชั้นรู้แล้ว”เสียงขัดของสนิช ทำให้ผู้มาใหม่ถึงกับยิ้ม
กว้าง “ไม่ใช่หรอก เรื่องนั้นชั้นรู้มาตั้งแต่กลางอาทิตย์แล้ว”ลานิส เพื่อนต่างหอที่พอจะคุยกันรู้เรื่องเดินตรงมาหาก่อนบอกข่าวดี ที่
พวกเขาไม่อยากจะได้ยินเอาเสียเลย”งั้นนายกำลังจะบอกว่าบูชอินเลิฟ”ฟาโรเอ่ยอย่างขบขัน”ใช่ แต่มีอีกเรื่อง วันนี้ชั้นไปที่ห้อง
ท่านเคิร์ทมาเมื่อเช้านี้ ได้ยินบูชกำลังขอสถานที่จัดแสดงงานศิลปะ และชั้นสังหรณ์ใจว่าบูชจะเอาภาพเหมือนที่สั่งให้พวกเราวาด
ไปจัดแสดงในงานครบรอบ 500 ปีของมหาลัยเรา พวกนายก็รู้ ว่าการคาดคะเนของชั้นไม่เคยผิดพลาด”เรื่องที่ลานิสมาส่งข่าวนั้น
ทำให้พวกเขาถึงกับตาค้างก่อนจะสะดุ้งตัวโหยงเมื่อเสียงทรงอำนาจที่คุ้นเคยดังขึ้น “ฟาโร กรุณามาที่ห้องผู้อำนวยการ
ด่วน”ตราประทานนักศึกษาสว่างวาบก่อนเสียงของท่านเคิร์ท ผู้อำนวยการแห่งเจววิสจะเรียกตัวประทานนักศึกษาแห่งPearl “รับ
ทราบครับผม”ฟาโรแตะที่ตรานั้น แล้วแสงสว่างก็พุ่งวาบ ร่างของฟาโรหายไปเสมือนไม่เคยยืนอยู่ ทิ้งไว้เพียงไอเวทย์ที่แสนจะ
เบาบาง “หมอนี่เร็วชะมัด” เฟร็นส์สบถ”ก็คงจะเรียกไปคุยเรื่องการจัดงาน”ลานิสเอ่ยลอย ๆ ใช่สิ หมอนี่คงเพิ่งโดนเรียกตัวเมื่อ
เข้านี้ ก็มันเป็นถึงประทานนักศึกษาหอ Ruby ไม่น่ามันถึงไปที่ห้องท่านเคิร์ทเมื่อเช้านี้
“จะไปไหนน่ะ”เมฟลุยที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโต๊ะในห้องนอนเงยหน้ามาถาม เมื่อเห็นเพื่อนร่วมห้องกำลังเปิด
ประตู”ห้องสมุด”เธอตอบเรียบ ๆ ด้วยใบหน้าที่หงุดหงิดและเครียดจัด จะไม่ให้เธอเครียดได้อย่างไร ในเมื่ออาจารย์ชามัส สั่ง
รายงาน 50 หน้า เกี่ยวกับทวีปเซฟีล่า จะเขียนยังไงให้มันครบ 50 หน้า เธอก็ไม่รู้ ส่วนวาเนซ่าน่ะสบายมาก เพื่อนคนนี้เป็นถึงเจ้า
หญิงรัชทายาทแห่งวิชท์แลนด์ เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ประเด็นก็คือวาเนซ่าเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทที่ทุกคนยอมรับ เวลาอยากรู้
อะไร พวกมหาดเล็กกับนางกำนัลก็รีบวิ่งเอาใส่พานมาถวายให้ถึงที่ ดังนั้นวาเนซ่าจึงทำรายงานเสร็จตั้งแต่เมื่อวานตอนหัวค่ำแล้ว
ต่างจากเธอที่อยากรู้อะไรก็ต้องค้นคว้าหาเอง แล้วบางทีพวกอำมาตย์ชั้นสูงก็อมภูมิไม่ยอมปริปาก จริง ๆ แล้วถ้าเธอจะลอกวาเนซ่า
น่ะ ง่ายมาก เพราะเพื่อนคนนี้ไม่ใช่คนหวงวิชา แต่เธอจะรู้สึกผิดน่ะสิ นี่คือปัญหา เธอถอนใจพลางมองไปยังวาเนซ่าที่หลับสนิท
อย่างสบาย เมฟลุยพยักหน้ารับรู้ “ได้ ถ้าวาเนซ่าตื่น ชั้นจะบอกให้” เหมือนกับเมฟลุยจะอ่านใจเธอออก เธอพยักหน้าก่อนจะ
จากไปพร้อมสมุดโน้ตเล่มเล็กและปากกาวิเศษ
ห้องสมุดที่เธอเคยมาแล้วครั้งหนึ่งยังคงดูเหมือนเก่า แต่วันนี้นักศึกษาเยอะพอดู คงเป็นเพราะวันนี้เป็นวันหยุดด้วย
กระมัง สาว ๆ จากหอ Emerald เดินกันให้ว่อนจนเธอเริ่มเวียนหัว เธอเดินตรงไปยังโซนค้นคว้าเดี่ยว โซนนี้จะค่อนข้างเงียบ
และเป็นส่วนตัว เพราะโซนนี้มีไว้สำหรับนักศึกษาที่ต้องการสมาธิอย่างสูง เธอวางสมุดโน้ตลงบนโต๊ะเล็ก ๆ ที่พอนั่งเพียงคน
เดียว ก่อนจะผละไปหาหนังสือที่ต้องการ แผนกประวัติศาสตร์ที่เธอเลือกเป็นแผนกแลก บนชั้นหนังสือมีหนังสือประวัติศาสตร์
หลายเล่ม แต่ละเล่มมีประเด็นสำคัญที่แตกต่างกันไป เช่น หนังสือประวัติศาสตร์โกวด์ หนังสือประวัติศาสตร์สโนเบิร์ก เธอ
พยายามหาประวัติศาสตร์ทวีปเซฟีล่า แต่ก็ไม่พบ แล้วเธอก็รับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวจากด้านหลัง ก่อนจะกระโดดหลบ เมื่อมือ
ใหญ่ตบลงที่บ่าของเธออย่างแรง “หาหนังสือเล่มนี้อยู่ใช่ไหม”เสียงเรียบคุ้นหูดังแผ่วมาจากด้านหลัง “กล้าดียังไงมาแตะเนื้อต้อง
ตัว”เธอสวนกลับไปอย่างฉุนกึก “ไม่ได้จับตัว จับเสื้อต่างหาก”เจ้าชายด้านหลังโต้กลับ เขาทำหน้าใสซื่อ จนคนอย่างเธอชักจะ
หมั่นไส้ “ขอโทษก็ได้ พอดีเห็นคนบางคนกำลังตั้งใจหาหนังสือ เกรงว่าถ้าเรียกเบา ๆ แล้วจะไม่ได้ยิน”คำพูดที่ทำให้เจ้าหญิง
แห่งไวท์โรสถึงกับเบิกตากว้าง “พูดขอโทษกับเค้าก็เป็นหนิ”เธอพูดกลั้วหัวเราะ “หาเล่มนี้อยู่ใช่ไหมล่ะ”เขากลับมาพูดเรื่องเดิม
พลางยื่นหนังสือสันสีทองเล่มหนาให้ “รู้ได้ไงเนี่ย”เธอโพล่งอย่างตกใจ มันหลายรอบแล้วนะ ที่เจ้าชายบ้านี่เดาใจเธอถูก “ก็แหม
ถ้าเจ้าหญิงแห่งไวท์โรสไม่หาหนังสือเกี่ยวกับเซฟีล่าแล้ว จะไปหาหนังสืออะไรกันล่ะ”เขากลบเกลื่อนก่อนจะยิ้มให้”ไม่จริงอะ
ต้องมีอะไรแน่ ๆ ไม่เห็นเกี่ยวเลย หนังสือที่โรริน่าอยากอ่านมีตั้งหลายเรื่อง”เธอเถียงก่อนจะเห็นแววตามีลับลมคมนัยจากเจ้า
ชายแห่งสโนเฟลค “อย่าทำตัวขี้สงสัยไปหน่อยเลยน่า มาเดี๋ยวพี่จะอาสาเป็นติวเตอร์ให้ก็แล้วกัน”เขาพูดพลางดึงหนังสือแล้วนำ
ไปยังโต๊ะตัวเล็กที่เธอเลือกสรรไว้แล้ว “ไม่ต้องเลย ถ้าให้พี่ติว มีหวังรายงานไม่เสร็จแน่”เธอปฏิเสธเสียงแข็ง ขณะเจ้าชายน่า
รำคาญวางหนังสือเล่มหนาลงบนโต๊ะ “ที่ไม่เสร็จน่ะ ไม่ใช่เพราะพี่ แต่เป็นลูกศิษย์ต่างหาก ที่ชอบเถียง ไม่ยอมเชื่อฟัง”เขาบ่น
จนเ.ธอต้องส่ายหน้า”นี่ ถามจริง ๆ เหอะ พี่ว่างมากเลยหรอ”เขากระตุกยิ้มก่อนจะเชิดหน้า”พี่ก็ไม่ได้ว่างนักหรอก แต่อย่าลืมสิว่า
ราชินีเฟมีล่าได้ฝากฝังโรริน่าไว้”เขาเริ่มหาข้ออ้างให้เด็กสาวตรงหน้า “โอเค ถ้างั้น พี่ทำงานดีกว่า ในเมื่อเด็กดื้อแถวนี้ ไม่ต้อง
การความช่วยเหลือ”เขาเริ่มชวนทะเลาะพร้อมลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ โต๊ะตัวเล็กจึงแน่น นั่งไม่สะดวก อึดอัดไปหมด “นี่เดี๋ยวนัก
ข่าวจอมจุ้นก็แห่มาทำข่าวอีกหรอก ยังไม่เข็ดอีกเรอะ”เธอรีบหาทางไล่ให้เจ้าชายแห่งสโนเฟลคไปนั่งไกล ๆ เขาไม่ตอบเพียงแต่
ยิ้มให้ แล้วก้มลงไปขีด ๆ เขียน ๆ ในกระดาษแผ่นใหญ่ ที่มีตารางเป็นช่อง ๆ “พี่พอจะรู้เรื่องโกวด์เบิร์ดมั้ย”เธอตัดสินใจถาม เขา
เงยหน้ามามองอย่างแปลกใจ “ความลับของราชวงศ์ทั่วโลก ทำไมจะไม่รู้” อะไรกัน โกวด์เบิร์ด เป็นความลับของราชวงศ์ทั่วโลกงั้น
หรือ นึกว่าจะเป็นความลับเฉพาะกับราชวงศ์ในเซฟีล่าเท่านั้น ไม่แปลก ถ้าเมฟลุยจะรู้เหมือนกัน เธอคิดย้อนกลับไปในวันเปิด
เทอม ที่เมฟลุยกำลังจะบอกทางออกทางเดียวของเซฟีล่า “ว่ากันว่าผู้ปลดปล่อยโกวด์เบิร์ดจะเป็นผู้ที่นำเซฟีล่าให้รอดพ้นจากภัย
อันตรายต่าง ๆ” เขาอธิบาย”ไม่มีใครรู้ว่าโกวด์เบิร์ดมีลักษณะเป็นอย่างไร แต่คาดกันว่าจะเป็นนกสีทองตามความหมายที่แปลออก
มา”เค็นดิวพูดต่ออย่างไม่เว้นโอกาสให้เด็กสาวตรงหน้าได้เถียง “ใครถาม เรื่องแบบนี้ โรริน่ารู้ตั้งแต่เด็กแล้ว”เธอเชิดหน้าอย่าง
หยิ่งยะโส ก่อนจะหันไปเขียนรายงานต่อ
“เฮ้ย พวกนายจะไปไหนกันวะ ยกกันไปทั้งชั้นปีแบบนี้”เสียงฟาโรตะโกนถามเพื่อนร่วมรุ่นที่ทยอยกันลงบันใด ในมือ
เพื่อน ๆ ถือเครื่องเขียนกันเป็นแถว “ได้ข่าวว่าวันนี้สาว ๆ หอเรา ไปเล่นน้ำกันที่สระหน้าหอ พวกเราเลยถือโอกาสไปสเก็ตภาพ
ส่งบูชว่ะ”สนิชตอบอย่างสบายอารมณ์ คำตอบที่ทำให้ประทานนักศึกษาถึงกับส่ายหัวยอมแพ้“ทำแบบนี้มันไม่น่าเกลียดไปหน่อย
หรอวะ”เฟร็นส์กลั้วหัวเราะ”แล้วนายจะให้ทำไงวะ งานชิ้นใหญ่นะเว่ย”สนิชหันกลับมาถามตรง ๆ “พวกนายก็กล้า ๆ หน่อย
สิวะ”เฟร็นส์แนะนำ “ชั้นไม่ใช่นายว่ะเฟร็นส์”เอ็ดยิ้มกว้าง ขณะนำพวกพ้อง เดินลงบันใดไปอย่างแน่วแน่
“แหม ไม่คิดว่าคนอย่างนายจะมานั่งแถวนี้กับเค้าด้วย”กริซตบบ่าเพื่อนรักที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะริมสระน้ำ”เฮ่ย ไม่เกี่ยว
เว่ย ชั้นแค่หาที่นั่งเคลียงานสงบ ๆ”เค็นดิวเงยหน้ามาแก้คำพูดของเพื่อนรัก”แล้วนาย วาดรูปใครวะ”กริซชะเง้อคอมาดูผ้าใบผืน
ใหญ่ที่เพื่อนรักกำลังบรรจงวาดอยู่ แต่เค็นดิวรู้ทันจึงรีบม้วนผ้าใบเก็บ “โห่ ทำเป็นมีลับลมคมนัย ไอ้เพื่อนบ้า ขอดูหน่อยก็ไม่
ได้”กริซโวยวาย “เอาไว้เสร็จแล้วจะให้ดู”เขาเก็บของพลางลุกขึ้นยืน เตรียมจะเดินขึ้นห้อง “แล้วนายจะรีบไปไหน”เฟร็นส์ที่
เดินลงมาดูสถานการณ์ของเพื่อน ๆ ถามอย่างสงสัย”ก็หาที่สงบ ๆ ทำงานน่ะสิ”เค็นดิวตอบเรียบ ๆ ตามแบบฉบับ ก่อนเสียงอุทาน
ของเพื่อนจะทำให้เขาเปลี่ยนความตั้งใจ”นั่นมันยัยเด็กตัวแสบ ไม่ยักรู้ว่าว่ายน้ำเป็น”ฟาโรอุทานเสียงดัง เขาหันกลับไปยัง
ตำแหน่งที่เพื่อน ๆ สนใจ เด็กสาวผมยาวสีน้ำตาล ในชุดลำลองหอบสำภาระพลุงพลัง “มีเวทย์ช่วยถือของก็ไม่รู้จักใช้ เฮ่อ”เขา
พึมพำในลำคออย่างเอ็นดู ก่อนสายตาจะเหลือบเห็นคู่หูของเด็กสาว ที่วันนี้มาดนางพญาดูจะหายไป แสดงถึงอารมณ์ที่แจ่มใสของ
รุ่นน้องคนนี้ และที่น่าแปลก คู่กัดคนสำคัญ เมฟลุย เดินตามหลังมาพร้อมโชเว็วเพื่อนรัก เด็กพวกนี้เข้ากันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ? เขา
ยิ้มให้กับตัวเองพลางเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลงหน้าตาเฉย “เฮ่ย ไหนว่าจะหาที่สงบ ๆ ทำงาน”กริซแหย่เข้าอย่างจัง”ดูไปดูมา ที่นี่ก็สงบ
ดี”เค็นดิวตอบยิ้ม ๆ กริซยิ้มกลับอย่างรู้กันเอง”ที่นี่เนี่ยนะสงบ เสียงดังโหวกเหวกแบบนี้ บ้านนายเรียกสงบหรอวะ ไอ้เค็น
ดิว”เฟร็นส์ตาโตกับคำพูดของเพื่อน”แหม เฟร็นส์ เรื่องแบบนี้ นายก็น่าจะรู้ ไอ้เพื่อนเรามันจะเป็นไม้กันหมาต่างหาก”เอ็ดแซว
ก่อนจะหัวเราะจนน้ำตาไหล เมื่อเห็นใบหน้าปั้นยากของเจ้าชายรัชทายาท”ไม้กันหมาอะไรกัน เอ็ด ชั้นก็แค่จะทำหน้าที่พี่รหัสที่ดี
ก็แค่นั้น”เค็นดิวตอบพลางหลบสายตาผองเพื่อน “เอ้อ พี่รหัสก็พี่รหัส อย่าลืมคำพูดนายล่ะ อย่างโรริน่าน่ะ เป็นได้แค่น้องสาว”กริ
ซเลียนประโยควรรคหลังได้เหมือนมาก จนเพื่อน ๆ พากันหัวเราะร่า ไอ้เพื่อนคนนี้ มันกัดเขาแรงชะมัด เห็นทีต้องเอาคืนมัน
บ้าง ปล่อยไว้แบบนี้เดี๋ยวจะกำแหง เค็นดิวเขม่นเพื่อนรักในใจ
“เร็วเข้า จะลงมั้ย”เมฟลุยตะโกนพร้อมโบกมือเรียกเพื่อนอีกสามคน ที่ยืนลองเชิงอย่างไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไร “คนเยอะมาก
เลย ชั้นไม่ลงดีกว่า”โชเว็วเริ่มถอยหนี “ใช่ ด้านนู้นมีของกินเยอะเชียว ไปกินกันดีกว่า”โรริน่าถอนสายตาจากสระน้ำก่อนจะชวน
ไปหาของอร่อยกิน “พวกเธอนี่จะกลัวอะไรกัน กล้า ๆ หน่อยสิ”เมฟลุยแหวใส่ “ก็ได้ ลงก็ลง”วาเนซ่าตัดสินใจอย่างเฉียบขาด โร
ริน่าหันกลับไปมองก่อนทั้งสี่จะพร้อมใจกันกระโดดลงน้ำ รุ่นพี่หลายคนยกปากกาขีดเขียนพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
“งานฉลองมหาลัยปีนี้ ทางมหาลัยจะจัดให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีเพราะปีนี้เป็นปีที่มหาลัยก่อตั้งครบ 500 ปี”ฟาโรเริ่มการประชุมใน
ชั่วโมงชมรมเนิบ ๆ รุ่นพี่หลายคนหาวหวอด ก็แหม มันเป็นชั่วโมงบ่ายด้วย แถมสายตาคมกริบของท่านประทานยังกวาดไปซะ
รอบโต๊ะ เล่นเอาพวกพี่ปีสองไม่กล้าขยับ แล้วไหนจะสายตาจับผิดของพวกอัศวินม้าดำอีก “นอกจากการแข่งขันเนโลดี้ ที่เราแข่ง
กันทุกปีแล้ว ยังมีงานแสดงต่าง ๆ และที่สำคัญปีนี้มหาลัยได้รับเกียร์ติจากกษัตริย์และราชินีแห่งเลิฟลี่แลนด์ ทั้งสองพระองค์จะ
เสด็จมาเป็นแขกผู้มีเกียร์ติในงาน รวมถึงกษัตริย์บางพระองค์ด้วย และข่าวดีที่ชั้นจะบอกก็คือการอารักขาในครั้งนี้ มหาลัยเราจะไม่
จ้างหน่วยรักษาความปลอดภัย เพราะจากการสำรวจของพวกDiamond การจ้างหน่วยรักษาความปลอดภัยพิเศษเป็นการสิ้นเปลือง
งบโดยใช่เหตุ ดังนั้นท่านเคิร์ทจึงได้ปรึกษากับเทพประจำหอทั้ง 10 มีความเห็นว่าให้ทุกหอส่งนักศึกษาที่มีความสามารถสูงอย่าง
น้อย 8 คนไปดูแล และจะต้องไม่ใช่ผู้ที่มีหน้าที่ในสภา” เสียงบ่นดังเซ็งแซ่หลังจากที่ฟาโรพูดมาถึงตรงนี้ “แล้วจะมากันทุก
พระองค์เหมือนวันงานคืนสู่เหย้ามั้ยเนี่ย”เสียงหนึ่งในทนายทั้งสามถามอย่างเซ็ง ๆ “คิดว่าไม่ หรอก เพราะส่วนใหญ่ทรงติด
ภาระกิจ แต่อาจจะส่งรัชทายาทมาแทน แต่พวกเราก็ไม่ต้องห่วงหนิ คงมีไม่มากหรอก เพราะรัชทายาทส่วนใหญ่ก็ยังทรงศึกษาอยู่ที่
เจววิส”เสียงถอนใจดังกันเป็นแถว “ชั้นจะมอบหน้าที่นี้ให้เฟร็นส์ นายต้องไปคัดสันนักศึกษาที่มีฝีมือ นายคงรู้ว่าถ้าเกิดปัญหา
หอเราจะเป็นยังไง”ฟาโรหันไปสั่งเพื่อนที่ยิ้มกว้างรับหน้าที่อย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อน “ส่วนเรื่องการแข่งเนโลดี้ พวกเราควรจะ
ฝึกซ้อมกันได้แล้ว ปีนี้ชั้นหวังถ้วยรางวัล”เสียงเฮดังสนั่นจากกลุ่มรุ่นพี่ที่เรียกความฮึกเหิมให้กับสมาชิก”แล้วใครรับหน้าที่ทำ
สนามเนโลดี้ล่ะครับ”แคนดริกยกมือถามอย่างสุภาพ”อาจจะเป็นความโชคดีของเราเพราะปีนี้ไม่ใช่หอเราที่ต้องทำ แต่เป็น
Diamond ต่างหาก”ฟาโรยิ้มร่าก่อนจะยิ้มเจื่อนด้วยเสียงขัดของรุ่นพี่อลิสซ่า พี่สาวของเมฟลุย ที่ดำรงตำแหน่งผู้พิทักษ์
หญิง“อย่างนี้ พวกนั้นก็โกงเราได้สิ จำไม่ได้หรอเมื่อปีที่แล้ว Ruby ตกหลุมกับดักของพวก Emerald”เสียงเออออดังกันไป
ทั่ว”จริงด้วยชั้นลืมคิดถึงจุดนี้ไป แคนดริก นายรับหน้าที่นี้ไปเลย คอยจับตาดูพวกนั้นให้ดี ถ้าเห็นความผิดปกติ ก็ให้รีบมา
รายงาน”แคนดริกในตำแหน่งผู้ใช้เวทย์พยักหน้ารับคำสั่งของรุ่นพี่ “และนอกจากเนโลดี้แล้วหอเรายังได้รับมอบหมายให้จัดซุ้ม
เกมส์ หน้าที่นี้ชั้นจะมอบหมายให้อลิสซ่ากับสนิชจัดการ”ฟาโรหันไปยิ้มให้สนิชที่คิ้วขมวด”และมีอีกเรื่อง เรื่องนี้สำคัญพอ ๆ กับ
การแข่งเนโลดี้ ท่านเคิร์ทมีคำสั่งให้ทุกหอจัดการแสดงบนเวที เรื่องนี้ชั้นไม่ค่อยถนัดคงต้องให้เอ็ดอธิบาย”เอ็ดพยักหน้าพร้อมรับ
หน้าที่แจกแจงข่าวสาร”เท่าที่ชั้นได้ฟังจากฟาโร เราต้องจัดการแสดงบนเวที ซึ่งรูปแบบของการแสดงเราสามารถเลือกได้ และการ
แสดงนี้จะมีการให้คะแนนป๊อบปูล่าโวท์ ซึ่งคะแนนนี้จะนำไปรวมกับคะแนนที่กรรมการจะให้ในการแข่งเนโลดี้”เสียงฮือฮาดัง
สนั่น”ซึ่งชั้นจะให้ออกความเห็นว่าจะจัดในรูปแบบไหนดี”ฟาโรมีสีหน้าเครียด “จากที่คุยกับหออื่น ๆ พวกเค้าจัดเป็นการเต้น
ระบำ”ฟาโรพูดต่อ”โห จะให้ใครไปเต้นวะ สาว ๆ หอเรานายก็รู้......”เฟร็นส์โพล่ง ก่อนจะยิ้มเจื่อนให้ผู้พิทักษ์หญิงทั้ง 5 “งั้น
แสดงละครสิ”บริชเสนอ และเมื่อลงมติแล้ว เสียงก็เป็นเอกฉันท์”แล้วใครจะทำหน้าที่นี้วะ ไหนจะคัดเลือกนักแสดง เรื่องบท แล้ว
ยังการกำกับ”เอ็ดยิ้มเครียด “ว่าไงอาคาเดีย พอไหวไหม”ฟาโรหันไปถามเพื่อน หนึ่งในห้าผู้พิทักษ์หญิง “สบายมาก”รุ่นพี่อาคา
เดีย ดูท่าทางใจดีและเป็นมิตร “แต่ชั้นอยากได้ลูกมือสักคน”พี่อาคาเดียยิ้มหวาน”ได้สิ แล้วใครกัน”ฟาโรถามอย่างสงสัย เพราะใคร
ๆ ก็รู้ว่าพี่อาคาเดียเก่งขนาดไหน แค่จัดการแสดงน่ะ ไม่ยากเกินความสามารถพี่เค้าหรอก และที่สำคัญพี่เค้ายังเป็นดาวมหาลัยด้วย
นะ “โรริน่า ตกลงไหม”เจ้าตัวสะดุ้งเฮือก เธอไม่เคยคุยกับพี่เค้าเป็นการส่วนตัวเลยนะ พี่เค้ามีแผนอะไรหรือเปล่า สายตาของเธอ
ก็เหลือบไปเห็นคิ้วที่เลิกขึ้นของรุ่นพี่ฟาโร ทำให้อดยิ้มไม่ได้”ฮะ อะไรนะคะ”เธอถามตะกุกตะกัก”เอาเป็นว่าตกลงนะ”รุ่นพี่อาคา
เดียยิ้มให้อย่างเป็นมิตร “และยังมีอีกเรื่อง การรักษาความปลอดภัย รอบนอก เรื่องนี้นายรับไป เค็นดิว”รุ่นพี่กริซหันไปยิ้มให้
เพื่อนรัก ที่ทำท่าหนักใจอย่างรู้กัน “งั้นทุกคนเริ่มทำงานได้ ใครที่เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบก็อย่าลืมประสานงานให้ดี ส่วนผู้ที่เป็นคลีดี้
ในชั้นปีต่าง ๆ ก็อย่าลืมไปประสานงานกับรุ่นของตัวเอง เพื่อรอการติดต่อขอความช่วยเหลือจากทางสภา”ฟาโรปิดประชุม
“โรริน่า พี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ”รุ่นพี่อาคาเดียเรียกตัวหลังอาหารเช้ารสเลิศ “พี่ขอแรงเราช่วยติดประกาศนี่หน่อยนะ”ติดประกาศ
นี่รุ่นพี่อาคาเดียต้องใช้เด็กอย่างเธอติดประกาศหรอนี่ อย่างรุ่นพี่น่ะ แค่โบกคทาใบประกาศพวกนี้ก็ลอยไปอยู่ตามที่บอร์ดแล้ว เธอ
ชักสีหน้าสงสัยจนรุ่นพี่ยิ้มให้ “แล้วฝากบอกเค็นดิวด้วยนะ ว่าให้ไปพบพี่ที่ห้องทำงาน”โรริน่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ พูดง่าย ๆ ก็คือ
จะวานให้เธอไปตามไอ้เจ้าชายบ้านั่น ส่วนเรื่องใบประกาศเป็นแค่ผลพลอยได้ เธอวิ่งโล่ไปยังชั้นหนึ่งและพบพวกอัศวินม้าดำกำ
ลังสารวลกับใบประกาศต่าง ๆ เธอยื่นใบประกาศคัดเลือกนักแสดงในมือให้ก่อนความคิดอยากฆ่าคนจะแล่นวูบขึ้นมาในสมอง”ใบ
ประกาศของใคร ก็ไปติดเองสิ”เค็นดิวปฎิเสธที่จะรับใบประกาศจากเธอ แต่หันไปรับใบประกาศของเมฟลุย ที่ประสานงานกับฝ่าย
จัดเกมส์แทน “รุ่นพี่อาคาเดียให้ไปพบ”เธอบอกเขาห้วน ๆ หลังจากโบกคทาเพียงเล็กน้อยเพื่อติดใบประกาศ และเธอก็จงใจติดตรงส่วนที่เด่นที่สุด “ที่ตรงนั้นมันไว้สำหรับประกาศของเฟร็นส์ คัดคนไปอารักขา”เค็นดิวชี้พลางทำเสียงขรึม “ช่วยไม่ได้ งั้นพี่ก็จัดเองละกัน อย่าลืมไปหาพี่อาคาเดียล่ะ หมดหน้าที่แล้ว ขอตัว”เธอใช้น้ำเสียงหยิ่งยะโสบวกถือตัว จนเค็นดิวต้องกัดฟันกรอดพลางตะโกนไล่หลัง “วันนี้อย่าลืมไปซ้อม เนโลดี้ที่สนามหน้าหอพักล่ะ”
“เฮ้ย เค็นดิว เอาน้องปกครองนายไปฝึกซิ”เฟร็นส์ตะโกนเรียกเพื่อนที่กำลังตรวจดูพลังเวทย์ของรุ่นน้องและสภาพคทาเมื่อเห็นเธอเดินตรงเข้ามาในสนามหน้าหอพัก สนามที่เคยมีนักศึกษานั่งเล่น บัดนี้มีแต่สมาชิกในสภาเท่านั้น คงเป็นเพราะรุ่นพี่ฟาโรได้ติดประกาศตารางฝึกซ้อมเนโลดี้เอาไว้แล้ว เค็นดิวหันมามองพลางโบกมือเรียก “เรียกคทาสิ”เค็นดิวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ใบหน้าที่แดงเพราะความร้อนทำให้เขาดูน่ารักในสายตาของสาว ๆ แต่คงไม่ใช่กับเธอ “เรื่องอะไร”เธอปฏิเสธอย่างไร้เหตุผล”นี่เป็นกฎของเรา”เค็นดิวเริ่มรำคาญ “กฎของพี่คนเดียวต่างหาก”เธอเถียงอย่างไม่สบอารมณ์ “เพื่อป้องกันอันตราย”เขาบอกเหตุผล ที่ทำให้เธอต้องยอมจำนน ยังไงเธอก็ยังไม่อยากตายในการแข่งขันครั้งนี้ เธอยังต้องพิสูจน์อะไรอีกหลายอย่าง “ใต้กลีบเมฆ”เสียงเรียกของเจ้าของทำให้คทาที่ดูแปลกตาส่องสว่างวาบและปรากฎในมือผู้เป็นเจ้าของ รุ่นพี่ปีสองหลายคนแอบหัวเราะกับรูปร่างคทาของเธอที่ดูแปลกไปจากคทาอื่น ๆ ตรงกันข้ามกับเจ้าชายตรงหน้า ที่พินิจพิเคราะห์คทาทรงประหลาดอย่างสนใจ ใต้กลีบเมฆ คทาคู่กายของเธอ มันเล็กพอดีกับมือเธอจนหน้าแปลกใจ หัวคทาไม่ได้เป็นลูกแก้วกลม ๆ อันใหญ่เทอะทะเหมือนคทาทั่วไป แต่เป็นไข่มุกที่ถูกเจียระไนให้เป็นรูปดาวห้าแฉกอันเล็ก แถมยังไม่มีพู่ที่ห้อยตรงส่วนปลาย รวมถึงอักขระโบราณแปลก ๆ ที่สลักไว้อย่างวิจิตตรงด้ามคทา “เฮ่ย นั่นมันคทาอะไรวะ ไม่มีพู่ แล้วจะเอาพลังจากไหน”เฟร็นส์อุทานอย่างตกใจ “ใครว่ามันไม่มีพู่ แค่พู่มันถูกฝังลงไปในด้ามคทาแล้วต่างหาก”เค็นดิวอธิบาย ก่อนจะดึงคทาจากมือเธอไปไว้ในมือ และเพ่งพินิจจนเธอชักรำคาญ”ตายจริง โรริน่า เธอได้คทานี้มาจากไหน”รุ่นพี่เอ้ดอุทานอย่างตกตะลึง “มีอำมาตย์ผู้นึงนำมาถวายในวันที่โรริน่าถูกสาป”เธอตอบตามความจริง ทำให้บรรดารุ่นพี่ตาโต “เหมือนคทาในตำนาน ที่พ่อชั้นเคยเล่าให้ฟังเลย”เอ้ดโพล่งพลางคว้าคทาจากมือเค็นดิวเอาไปพิจรณา “คทานี้ทำจากขนหงส์วิเศษ”เอ้ดเอ่ยขณะส่งคทาคืนให้กับเจ้าของ”แต่อักขระนั้น แปลกมาก เพราะพี่ไม่เคยเจอคทาที่มีอักขระแบบนี้เลย ขนาดคอยช่วยงานพ่อบ่อย ๆ”แน่ล่ะสิ พี่คนนี้ใช้ฉายาเป็นพ่อมด ที่บ้านคงทำงานด้านเวทย์มนตร์และผลิตคทา “ในเมื่อมีอาวุธดีแล้ว งั้นเรามาดูฝีมือกันดีกว่า”เสียงเยาะของฟาโรดังมาจากด้านหลัง “เอาเป็น สู้กับอลิสซ่า ไหวไหม”ฟาโรส่งสายตาไปปรามเพื่อน ๆ ที่พยายามจะห้ามพลางวาดคทาแบ่งเขตแดน “ไหวค่ะ” เธอตอบอย่างไม่ต้องคิด เรื่องแบบนี้จะมาหยามกันได้ไง แข่งเวทย์สำหรับเธอน่ะชิว ๆ แต่ถ้าดาบยังพอว่า “สู้ให้เต็มที่เลยนะ ไม่ต้องออมมือ” อลิสซ่ายิ้มอย่างมั่นใจ ก่อนจะส่งเมฆฝนมายังเขตแดนของเธอ แต่ยังไม่ทันที่ฝนจะตก ลมก็พัดกรรโชก ส่งผลให้เมฆฝนที่อลิสซ่าส่งมาลอยหายไป และโรริน่าก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่ออยู่ดี ๆ หิมะก็ตกกระหน่ำอย่างไม่มีทีท่าหยุด ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ อีกไม่นาน เธอต้องแข็งตายแน่ เธอร่ายเวทย์เพิ่มอุนหภูมิ และไม่กี่วินาที หิมะก็ละลายกลายเป็นน้ำไปจนหมด โรริน่ายังร่ายเวทย์ต่อ คราวนี้เธอส่งงูยักษ์ไปยังเขตแดนของอลิสซ่า สร้างเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ เธอสั่งให้งูนั้นพันรอบตัวเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งไอศซี่ และสั่งให้มันอ้าปากกว้าง แลบลิ้นยาว อลิสซ่าหน้าซีด แต่โชคยังเข้าข้าง อลิสซ่าโบกคทาในมือ แล้วชั่ววินาที งูใหญ่ก็ถูกหิมะเกาะจนแข็ง เธอขี้เกียจเสียเวลากับเกมส์ตรงหน้า จึงใช้แผนแรก เธอโบกคทาไปมาแล้วก็ต้องยิ้มร่าเมื่อผึ้งฝูงใหญ่บินตรงไปยังเขตแดนของอลิสซ่าตามคำสั่ง อลิสซ่าพยายามเสกหิมะให้ฝูงผึ้งแข็งตาย แต่เสียดาย ที่ผึ้งฝูงใหญ่ไม่ได้หมดไปง่าย ๆ กลับเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ตามคำสั่ง ต่อไปเธอก็เริ่มใช้แผนสอง ส่งลูกไฟไปบุกโดยไม่ให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว เสื้อของอลิสซ่าไหม้ไปเป็นแถบ สภาพอลิสซ่าในตอนนี้ดูแย่มาก และก่อนที่เธอจะใช้แผนเด็ด เสียงฟาโรก็เอ่ยห้ามเสียก่อน “พอได้แล้ว สู้กันไปตอนนี้ ก็เท่ากับตัดกำลังกันเอง” เสียงเฮของอัศวินม้าดำดังสนั่น ให้กับการยอมแพ้อ้อม ๆของเพื่อน ก่อนฟาโรจะหนีหน้าด้วยคำสั่งที่เฉียบขาด “พรุ่งนี้ไปฟังบรรยายการแข่งขันเนโลดี้รวมที่ห้องประชุมใหญ่ด้วย” ก่อนที่จะแวบหายไปด้วยมนตรา
ความคิดเห็น