ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ใต้กลีบเมฆ

    ลำดับตอนที่ #3 : เจ้าหญิงผู้ถูกสาป

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 51


       ก้อก ๆๆ เสียงเคาะประตูห้องทรงพระอักษรดังขึ้น

    และเมื่อได้รับอนุญาตประตูไม้บานใหญ่ลายวิจิตรก็ถูกเปิด

    ออก


    "
     ท่านแม่ ได้ข่าวว่าพี่หญิงโรริน่าจะเสด็จกลับวันนี้หรือเพ
     
    คะ
    " เด็กหญิงวัย 12 เอ่ยขึ้นหลังจากก้าวเข้ามาในห้องอย่าง

    รีบร้อน
      ราชินีแห่งไวท์โรสพยักหน้าให้ ก่อนจะเอ่ยกับพระ

    ธิดาอย่างเอ็นดู
    " สายข่าวลูกนี่ไวจังนะ เฟโลอา" เจ้าหญิง

    น้อยยิ้มรับคำกระเซ้าก่อนจะหุบยิ้มด้วยถ้อยดำรัสต่อมาของ

    พระมารดา
    " ลูกมาก็ดีแล้ว ช่วยนำจดหมายพวกนี้ไปแจก

    ตามปราสาทต่าง
    หน่อยนะ
    " ราชินีตรัสพลางยื่นปึกซอง

    จดหมายให้

    " หม่อมชั้นอีกแล้ว อะไร ก็เฟโลอาทุกที ว่าแต่นั่นเป็น

    จดหมายเชิญมางานเลี้ยงต้อนรับแขกต่างเมืองหรือเพคะ
    "

    ราชินีหันไปมองพระธิดาเป็นเชิงถาม
     เจ้าหญิงน้อยจึงรีบ

    สารภาพทันที
    " พอดีเอ็มมี่ไปได้ยินพวกมหาดเล็กคุยกัน

    เรื่องการซ้อมรักษาความปลอดภัยน่ะเพคะ
    " เจ้าหญิงเฟโล

    อาทูลตอบ
    " ที่แท้ก็พวกสอดแนม" ราชินีสรุปแต่คำถามถัด

    มาของพระธิดาองค์เล็กทำให้ราชินีผู้องอาจชะงัก
    อ้าพระโอษฐ์

    ค้าง
    พระเนตรเบิกกว้าง
    " ท่านแม่ หม่อมชั้นได้ยินมาว่าพี่

    หญิงโรริน่าเป็นเจ้าหญิงผู้ถูกสาปจริงหรือเพคะ
    " ดวงเนตร

    ทั้ง
    2 คู่ประสานกันนิ่ง ดั่งจะอ่านใจของอีกฝ่าย และไม่น่า

    เชื่อว่าผู้ที่หลบพระเนตรก่อนจะเป็นผู้สูงวัยกว่า


    .....
    12 ปีมาแล้วสินะ...ที่โรริน่าถูกแม่มดร้ายแห่งวิชท์แลนด์

    สาป....เมื่อเธออายุครบ
    19 ผลของคำสาปนั้นจะสมบูรณ์....

    แต่ต้องขอบใจราชินีแห่งวิชท์แลนด์ที่ช่วยแก้คำสาป...ถึงจะ

    แก้คำสาปไม่ได้หมด....แต่ก็ยังมีทางที่จะทำลายคำสาปนั้น

    ได้....ด้วยตัวของโรริน่าเอง


    "
    โรริน่าถูกแม่มดร้ายแห่งวิชท์แลนด์สาปเมื่อ 12 ปี

    ก่อน
    " ราชินีตรัสด้วยพระสุรเสียงเรียบ

    "
    คำสาปอะไรหรือเพคะ" เจ้าหญิงเฟโลอาทูลถามอย่างสนใจ 

    "
     แม่บอกเจ้าได้แค่นี้ แล้วอย่าพูดเรื่องนี้ให้โรริน่าได้ยิน พี่

    เค้าจะเสียใจ
    เข้าใจไหม
    " ราชินีทรงย้ำด้วยพระสุรเสียงที่

    หนักแน่น

         
         ท้องฟ้ายามเย็นฉาบด้วยแสงสีส้มของดวงอาทิตย์

    ก่อนลาลับขอบฟ้า
    นกกาพากันกลับรังเพื่อรอคอยแสง

    แห่งอรุณในยามเช้า
    บรรยากาศที่ชวนวังเวงแต่ไม่ใช่ที่วัง

    ไวท์โรสแห่งนี้
      ปราสาทตอนกลางถูกตบแต่งอย่างสวยงาม

    และหรูหรา
    พรมสีแดงปูเป็นทางยาวเพื่อรับเสด็จแขกต่าง

    เมือง
    โคมระย้านับสิบแข่งกันส่องแสง โมบายและสายรุ้ง

    ห้อยเรียงกันอย่างมีสไตล์
      โต๊ะบุฟเฟ่ถูกนางกำนัลฝีมือดี

    จัดการตบแต่งอย่างงดงาม
      รวมทั้งเสียงดนตรีและเสียง

    ทักทายพูดคุยของเหล่าราชนิกูล
    ทำให้ปราสาทตอนกลางของ

    วังไวท์โรสครึกครื้นเป็นพิเศษ


         วูด
    !  เสียงแตรรับเสด็จดังขึ้น พร้อมธงประจำชาติ

    เลิฟลี่แลนด์ที่โบกสบัดอยู่เหนือกำแพงวัง
    โรอา เมอชาร์น

    คิงแห่งไวท์โรส
    และเฟมีล่า เมอชาร์น ราชินีแห่งไวท์โรส

    ทรงออกมาต้อนรับแขก
    " ถวายพระพร ฝ่าบาท" ราชินีเฟมี

    ล่าตรัสตามมารยาท
    " เช่นกัน ท่านเฟมีล่า" แอน ฮ็อกก้า

    ราชินีแห่งเลิฟลี่แลนด์ตรัสตอบ
    "เราคงเป็นเมืองแรกที่มา

    ถึงสินะ
    " เค็ท  ฮ็อกก้า กษัตริย์แห่งเลิฟลี่แลนด์ เปิดบท

    สนทนากับโรอา
    คิงแห่งไวท์โรส  คิงโรอาพยักหน้ารับ

    พร้อมยิ้มให้และเอ่ยแนะนำพระธิดา
    " นี่พระธิดาองค์เล็ก

    ของข้า
    เฟโลอา
    " เจ้าหญิงเฟโลอาทำความเคารพอย่างสง่า

    งาม 
    " และเลโอ โอรสองค์เดียวของข้า"  กษัตริย์เค็ทแนะ

    นำบ้าง
    " องค์นี้น่ะเหรอที่ถูกสาป" ราชินีแอนตรัสถามราชินี

    เฟมีล่า
    " ไม่ใช่หรอกท่าน นั่นเจ้าหญิงโรริน่าธิดาองค์แรก

    ของข้า
    " ควีนเฟมีล่าตอบด้วยพระสุรเสียงแผ่วเบา " พวก

    ท่านเดินทางมาไกล
    ขอเชิญพักผ่อนด้านในดีกว่า
    " กษัตริย์

    โรอาตัดบท


    หวูด
    ! เสียงแตรรับเสด็จถูกเป่าอีกครั้ง  พร้อมธงลายหิมะที่

    โบกไสวอยู่เหนือกำแพงวัง
      มังกรน้ำแข็งหลายตัวค่อย

    บินต่ำลงและอีกเช่นเคยคำพูดยอดนิยมก็ถูกนำมาใช้อีกครั้ง


    "
    เรายินดีที่ได้มาเยือนไวท์โรส  ไวท์โรสเป็นอีกเมืองที่เรา

    ไฝ่ฝันอยากมาเยือน  แล้ววันนี้ความฝันของเราก็เป็น

    จริงเสียที
    " เค็น กษัตริย์แห่งสโนเฟลคตรัส " ทางไวท์โร

    สเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านมาเยือน
    ยินดีต้อนรับ
    " กษัตริย์

    โรอาตรัสอย่างเป็นมิตร


    "
     เราขอแนะนำให้ท่านรู้จักกับเค็นดิว โอรสองค์โตของ

    เรา
    " ราชินีเอ็ทดิว แห่งสโนเฟลคเปิดบทสนทนาบ้าง " ส่วน

    นี่เฟโลอา
    ธิดาองค์เล็กของข้า
    " ควีนเฟมีล่าผายมือไปทางเจ้า

    หญิงเฟโลอา
    " หากพวกท่านมีอะไรขัดข้อง โปรดแจ้งให้

    ทางเราทราบด้วย
    ไม่ต้องเกรงพระทัย
    " กษัตริย์โรอากล่าวปิดท้าย 

    .....ถึงแม้แขกต่างเมืองที่มาในวันนี้จะเป็นพระสหายเก่า....

    แต่พวกเขาก็ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว...วันเวลาเปลี่ยน...

    คนย่อมเปลี่ยนไปด้วย...โดยเฉพาะกับผู้นำประเทศต่างทวีป...ยากนักที่


    จะอ่านใจ

      

         ากเย็ฯกลายเป็นค่ำ แขกต่างแดนมากันครบแล้ว แต่

    กษัตริย์โรอาและราชินีเฟมีล่าก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของโรริ

    น่าเลย


    "
     เฟโลอา พี่เราจะกลับมาถึงกี่โมง นี่ก็ค่ำแล้วนะ" ท่านลุง

    แอทต้าเอ่ยถามเฟโลอาด้วยความเป็นห่วง
    " ไม่ทราบเพคะ"

    เจ้าหญิงเฟโลอาทูลตอบด้วยความเบื่อหน่าย " เฟโลอา

    หลานช่วยไปหยิบน้ำพลับปี้ให้อาหน่อยสิจ๊ะ
    " ท่านอาจีน่า

    ตรัสด้วยพระสุรเสียง
    เนิบ   ยังไม่ทันที่เจ้าหญิงน้อยจะได้

    ก้าวเดิน
    โครม
    ! เสียงดังโครมใหญ่ก็ดังมาจากลานกว้าง

    หน้าปราสาทและไม่กี่นาทีต่อมาประตูห้องโถงก็ถูกเปิดออก
     


    เผยให้เห็นร่างของเด็กสาวผมสีน้ำตาล
    นัยน์ตาสีเขียว  โรริ

    น่า ซึ่งบัดนี้ดูยังไงก็ไม่เหมือนเจ้าหญิงรัชทายาทเลยสักนิด
    ผมสีน้ำตาล

    ยุ่งเหยิง
      เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น  ถ้าสังเกตดี จะ

    เห็นแผลสดตามแขนและขาเดินเข้ามาในห้องโถงและขอ

    อภัยแขกต่างเมืองที่ตนมาช้า
    เธอกลายเป็นจุด
    talk of the

    hall
     
    บางคนก็พูดเรื่องที่เธอมาสาย  บางคนก็คุยกันเรื่องที่

    เธอถูกสาป
    และอีกหลายคนก็พูดถึงตำแหน่งรัชทายาทที่เธอ

    ควรสละให้น้องสาว
     

    "
    โตเป็นสาวแล้วนะเรา" ราชินีวาน่าแห่งวิชท์แลนด์ทัก

    อย่างเอ็นดู  โรริน่ายิ้มให้
    " เมื่อกี้ข้าได้ยินเสียงโครมใหญ่

    จากด้านนอก
    เราไปก่อวีรกรรมอะไรอีกล่ะ หือม์
    " กษัตริย์

    โพลาซแห่งวิชท์แลนด์ตรัสพร้อมสรวลเล็กน้อย
    " หม่อมชั้น

    ต้องขออภัยด้วย
    เรื่องก็คือมังกรพระที่นั่งไม่สบายเป็นลม

    กระทันหันเพคะ
    " แขกทั้งหลายพากันมองโรริน่าอย่างขบ

    ขัน
    " เอ้อ ข้าได้ข่าวว่าเราสอบเข้าที่เจววิสได้ใช่ไหม เก่งนะ

    ขนาดโดนคำสาปร้ายนั่น
    ยังมีกะใจไปสอบอีก อีก
    3 ปี คำ

    สาปนั่นก็จะสมบูรณ์แล้วสินะ
    " ราชินีเรน่าแห่งมาเมโล่ตรัส

    ขึ้น
     โรริน่าพยายามปั้นสีหน้าให้เป็นปกติแล้วก้มหน้าทาน

    อาหารที่ตักมาก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อ
    เฟโลอา เจ้าหญิงน้อย

    ช่างเจรจาเปรยขึ้นลอย
    " ขนาดพี่หญิงโรริน่ายังสอบได้

    เจ้าพี่เลโอ
      พี่หญิงนาเนีย พี่หญิงวาเน

    ซ่า
    แล้วก็เจ้าพี่ชามมิ่งก็ต้องสอบได้อยู่แล้ว
    "  ถ้อยคำนั้นทำ

    ให้โรริน่าแทบสำลักอาหาร
    " พูดเก่งจริงนะเรา" ควีน

    แอนตรัสด้วยรอยยิ้ม
      แต่ก่อนที่โรริน่าจะสกัดกั้นน้ำตาที่

    เกิดจากความอายและความเสียใจไม่ไหว
    เจ้าชายเลโอก็ลุก

    ขึ้นเดินไปทางเจ้าหญิงนาเนียหรืออีกนามหนึ่งก็คือ
    นาเนีย

    เฟลอ
    คนปรุงยาแห่งมาเมโล่นั่นเอง

    " เต้นรำกับชั้นซักเพลงสิ" เลโอโค้งให้  นาเนียรีบลุกขึ้น

    ทันที
    แต่โดนขัดเสียก่อน 
    " แหม เลโอเวลาขอสาวเต้นรำ

    น่ะ
    เค้าพูดกันอย่างนี้เรอะ
    " เค็ท คิงแห่งเลิฟลี่เเลนด์

    กระเซ้าพระโอรส
    " ไม่ไวเลยนะ เลโอ" ต่อด้วย

    ควีนแอนที่ส่งรอยยิ้มและคำหยอกล้อไปให้
    " อีกหน่อยเรา

    คงต้องเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วกระมัง
    " ควีนแอนหันไป

    ตรัสกับควีนเรน่าและสรวลเล็กน้อย
    " ท่านตรัสอย่าง

    นี้ข้าจะหมายความว่าท่านเอ่ยจองธิดาข้านะ
    ท่านแอน
    " แล้ว

    สองสหายเก่าก็พากันสรวลอย่างชอบใจ


    "
     ไม่เอากับเค้าบ้างเหรอ เค็นดิว"  ชามัส กษัตริย์แห่งเวนิ

    ก้าหันไปส่งคำถามให้เจ้าชายเค็นดิวแห่งสโนเฟลค ผู้ที่เงียบขรึมอยู่

    นาน
     
    " ใช่ จะเอาเจ้าหญิงวาเนซ่า อมีเลีย โอปอล เฟโลอา....."  ก่อนที่

    กษัตริย์แห่งเลิฟลี่แลนด์จะกล่าวพระนามเจ้าหญิงทั้งหมดในโต๊ะ

    เสวย จบ  กษัตริย์เค็นแห่งสโนเฟลคก็ทัดทานขึ้นเสียก่อน
    " พวก

    ท่านอย่ายัดเยียดให้โอรสข้านักเลย
    " แล้วทั้งหมดก็พากัน

    สรวลอย่างเบิกบาน
    ยกเว้นสาวน้อยผู้มอมแมมแห่งไวท์โรส

         ด
    วงจันทร์สีนวลดวงโตลอยเด่นอยู่บนนภาอันเวิ้งว้าง


    มีเพียงดวงดาวและสายลมเป็นเพื่อนคลายเหงา
      เงาของใคร

    คนหนึ่งที่นั่งอยู่บนขอบสระสะท้อนลงสู่ผิวน้ำ
      นัยน์ตาสี

    เขียวมรกดเลื่อนลอยไปไกล
    และตามมาด้วยเสียงถอนใจ

    เฮือกใหญ่

    ......ดวงจันทร์หนอดวงจันทร์....เจ้าจะเข้าใจชั้นไหม...จะรู้

    บ้างไหม....ว่าตำแหน่งไหนที่ชั้นควรยืน...ทำไมโลกนี้ถึงไม่

    ยุติธรรม...หรือนี่จะเป็นความจริงของชีวิต...ไม่ใช่ความฝัน

    และจินตนาการ...การที่ชั้นสอบเข้าเจววิสได้...มันไม่มีความ

    หมายกับไวท์โรสเลยใช่ไหม...ไม่มีใครคิดจะให้กำลังใจ....มี

    แต่คำดูถูกเหยียดหยาม....แล้วชั้นผิดหรือที่ถูกสาป
    พลัน

    น้ำตาหยดใส
    ก็ไหลรินอาบแก้ม มันคงไม่เป็นเช่นนี้แน่

    ถ้าหากท่านพ่อและท่านแม่จะไม่เรียกเธอไปต่อว่าเรื่องการ

    ตอบคำถามที่ไม่เข้าท่าเกี่ยวกับมังกร
    เรื่องที่เธอมาสายกับ

    สภาพที่มอมแมม
    เรื่องที่เธอทำน้ำหกหลังเจ้าชายเค็นดิวขอ

    เฟโลอาเต้นรำ
    และเรื่องที่เธอเป็น
    talk of the hall แถม

    ยังเปรียบเทียบเธอกับเฟโลอาอย่างน่าเจ็บใจ

    .....ใครบ้างที่อยากให้มังกรพระที่นั่งเป็นลมสลบเหมือด ใคร

    บ้างที่อยากมอมแมมเข้างานสำคัญ....ใครบ้างที่อยากทำตัว

    เซ่อซ่าต่อหน้าแขกต่างเมือง....แล้วใครบ้างที่อยากถูกพูดถึง

    ในแง่ลบ...ถ้าชั้นเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทที่ไม่ได้เรื่อง.....

    ทำไมไม่ปลดชั้นออกแล้วแต่งตั้งเฟโลอาเป็นแทน...บางที

    ไวท์โรสอาจยิ่งใหญ่และเจริญกว่านี้ก็ได้
    จะเอาอะไรกับเธอ

    นัก
    ท่านครูเวโอล่าเคยเล่าให้ฟังว่าตอนที่เธอถูกสาป เธอ

    เกิดอาการแพ้คำสาปทำให้เกือบเอาชีวิตไม่รอด
    ท่านพ่อกับ

    ท่านแม่ไม่ขออะไรอีกนอกจากให้เธอฟื้นคืนมา
      แล้วเวลา

    ผ่านมา
    12 ปี กลับเปลี่ยนแปลง มาคาดหวังจะให้เธอทำอย่าง

    นั้นอย่างนี้
    ถึงจะไม่มากเท่าที่คาดกับเฟโลอา แต่ก็มากพอที่

    จะทำให้เธอเครียด
    เธอจะไม่ขอทำอะไรเพื่อคนอื่นอีกแล้ว

    เธอจะสู้เพื่อตัวเธอเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×