คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เจ้าหญิงผู้ถูกสาป
ก้อก ๆๆ เสียงเคาะประตูห้องทรงพระอักษรดังขึ้น
และเมื่อได้รับอนุญาตประตูไม้บานใหญ่ลายวิจิตรก็ถูกเปิด
ออก
" ท่านแม่ ได้ข่าวว่าพี่หญิงโรริน่าจะเสด็จกลับวันนี้หรือเพ
คะ" เด็กหญิงวัย 12 เอ่ยขึ้นหลังจากก้าวเข้ามาในห้องอย่าง
รีบร้อน ราชินีแห่งไวท์โรสพยักหน้าให้ ก่อนจะเอ่ยกับพระ
ธิดาอย่างเอ็นดู " สายข่าวลูกนี่ไวจังนะ เฟโลอา" เจ้าหญิง
น้อยยิ้มรับคำกระเซ้าก่อนจะหุบยิ้มด้วยถ้อยดำรัสต่อมาของ
พระมารดา " ลูกมาก็ดีแล้ว ช่วยนำจดหมายพวกนี้ไปแจก
ตามปราสาทต่าง ๆ หน่อยนะ" ราชินีตรัสพลางยื่นปึกซอง
จดหมายให้
" หม่อมชั้นอีกแล้ว อะไร ๆ ก็เฟโลอาทุกที ว่าแต่นั่นเป็น
จดหมายเชิญมางานเลี้ยงต้อนรับแขกต่างเมืองหรือเพคะ"
ราชินีหันไปมองพระธิดาเป็นเชิงถาม เจ้าหญิงน้อยจึงรีบ
สารภาพทันที " พอดีเอ็มมี่ไปได้ยินพวกมหาดเล็กคุยกัน
เรื่องการซ้อมรักษาความปลอดภัยน่ะเพคะ" เจ้าหญิงเฟโล
อาทูลตอบ " ที่แท้ก็พวกสอดแนม" ราชินีสรุปแต่คำถามถัด
มาของพระธิดาองค์เล็กทำให้ราชินีผู้องอาจชะงัก อ้าพระโอษฐ์
ค้าง พระเนตรเบิกกว้าง " ท่านแม่ หม่อมชั้นได้ยินมาว่าพี่
หญิงโรริน่าเป็นเจ้าหญิงผู้ถูกสาปจริงหรือเพคะ" ดวงเนตร
ทั้ง 2 คู่ประสานกันนิ่ง ดั่งจะอ่านใจของอีกฝ่าย และไม่น่า
เชื่อว่าผู้ที่หลบพระเนตรก่อนจะเป็นผู้สูงวัยกว่า
.....12 ปีมาแล้วสินะ...ที่โรริน่าถูกแม่มดร้ายแห่งวิชท์แลนด์
สาป....เมื่อเธออายุครบ 19 ผลของคำสาปนั้นจะสมบูรณ์....
แต่ต้องขอบใจราชินีแห่งวิชท์แลนด์ที่ช่วยแก้คำสาป...ถึงจะ
แก้คำสาปไม่ได้หมด....แต่ก็ยังมีทางที่จะทำลายคำสาปนั้น
ได้....ด้วยตัวของโรริน่าเอง
" โรริน่าถูกแม่มดร้ายแห่งวิชท์แลนด์สาปเมื่อ 12 ปี
ก่อน" ราชินีตรัสด้วยพระสุรเสียงเรียบ ๆ
" คำสาปอะไรหรือเพคะ" เจ้าหญิงเฟโลอาทูลถามอย่างสนใจ
" แม่บอกเจ้าได้แค่นี้ แล้วอย่าพูดเรื่องนี้ให้โรริน่าได้ยิน พี่
เค้าจะเสียใจเข้าใจไหม" ราชินีทรงย้ำด้วยพระสุรเสียงที่
หนักแน่น
ท้องฟ้ายามเย็นฉาบด้วยแสงสีส้มของดวงอาทิตย์
ก่อนลาลับขอบฟ้า นกกาพากันกลับรังเพื่อรอคอยแสง
แห่งอรุณในยามเช้า บรรยากาศที่ชวนวังเวงแต่ไม่ใช่ที่วัง
ไวท์โรสแห่งนี้ ปราสาทตอนกลางถูกตบแต่งอย่างสวยงาม
และหรูหรา พรมสีแดงปูเป็นทางยาวเพื่อรับเสด็จแขกต่าง
เมือง โคมระย้านับสิบแข่งกันส่องแสง โมบายและสายรุ้ง
ห้อยเรียงกันอย่างมีสไตล์ โต๊ะบุฟเฟ่ถูกนางกำนัลฝีมือดี
จัดการตบแต่งอย่างงดงาม รวมทั้งเสียงดนตรีและเสียง
ทักทายพูดคุยของเหล่าราชนิกูล ทำให้ปราสาทตอนกลางของ
วังไวท์โรสครึกครื้นเป็นพิเศษ
หวูด ! เสียงแตรรับเสด็จดังขึ้น พร้อมธงประจำชาติ
เลิฟลี่แลนด์ที่โบกสบัดอยู่เหนือกำแพงวัง โรอา เมอชาร์น
คิงแห่งไวท์โรส และเฟมีล่า เมอชาร์น ราชินีแห่งไวท์โรส
ทรงออกมาต้อนรับแขก " ถวายพระพร ฝ่าบาท" ราชินีเฟมี
ล่าตรัสตามมารยาท " เช่นกัน ท่านเฟมีล่า" แอน ฮ็อกก้า
ราชินีแห่งเลิฟลี่แลนด์ตรัสตอบ "เราคงเป็นเมืองแรกที่มา
ถึงสินะ" เค็ท ฮ็อกก้า กษัตริย์แห่งเลิฟลี่แลนด์ เปิดบท
สนทนากับโรอา คิงแห่งไวท์โรส คิงโรอาพยักหน้ารับ
พร้อมยิ้มให้และเอ่ยแนะนำพระธิดา " นี่พระธิดาองค์เล็ก
ของข้า เฟโลอา" เจ้าหญิงเฟโลอาทำความเคารพอย่างสง่า
งาม " และเลโอ โอรสองค์เดียวของข้า" กษัตริย์เค็ทแนะ
นำบ้าง " องค์นี้น่ะเหรอที่ถูกสาป" ราชินีแอนตรัสถามราชินี
เฟมีล่า " ไม่ใช่หรอกท่าน นั่นเจ้าหญิงโรริน่าธิดาองค์แรก
ของข้า" ควีนเฟมีล่าตอบด้วยพระสุรเสียงแผ่วเบา " พวก
ท่านเดินทางมาไกล ขอเชิญพักผ่อนด้านในดีกว่า" กษัตริย์
โรอาตัดบท
หวูด ! เสียงแตรรับเสด็จถูกเป่าอีกครั้ง พร้อมธงลายหิมะที่
โบกไสวอยู่เหนือกำแพงวัง มังกรน้ำแข็งหลายตัวค่อย ๆ
บินต่ำลงและอีกเช่นเคยคำพูดยอดนิยมก็ถูกนำมาใช้อีกครั้ง
" เรายินดีที่ได้มาเยือนไวท์โรส ไวท์โรสเป็นอีกเมืองที่เรา
ไฝ่ฝันอยากมาเยือน แล้ววันนี้ความฝันของเราก็เป็น
จริงเสียที" เค็น กษัตริย์แห่งสโนเฟลคตรัส " ทางไวท์โร
สเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านมาเยือน ยินดีต้อนรับ" กษัตริย์
โรอาตรัสอย่างเป็นมิตร
" เราขอแนะนำให้ท่านรู้จักกับเค็นดิว โอรสองค์โตของ
เรา" ราชินีเอ็ทดิว แห่งสโนเฟลคเปิดบทสนทนาบ้าง " ส่วน
นี่เฟโลอา ธิดาองค์เล็กของข้า" ควีนเฟมีล่าผายมือไปทางเจ้า
หญิงเฟโลอา " หากพวกท่านมีอะไรขัดข้อง โปรดแจ้งให้
ทางเราทราบด้วย ไม่ต้องเกรงพระทัย" กษัตริย์โรอากล่าวปิดท้าย
.....ถึงแม้แขกต่างเมืองที่มาในวันนี้จะเป็นพระสหายเก่า....
แต่พวกเขาก็ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว...วันเวลาเปลี่ยน...
คนย่อมเปลี่ยนไปด้วย...โดยเฉพาะกับผู้นำประเทศต่างทวีป...ยากนักที่
จะอ่านใจ
จากเย็ฯกลายเป็นค่ำ แขกต่างแดนมากันครบแล้ว แต่
กษัตริย์โรอาและราชินีเฟมีล่าก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของโรริ
น่าเลย
" เฟโลอา พี่เราจะกลับมาถึงกี่โมง นี่ก็ค่ำแล้วนะ" ท่านลุง
แอทต้าเอ่ยถามเฟโลอาด้วยความเป็นห่วง " ไม่ทราบเพคะ"
เจ้าหญิงเฟโลอาทูลตอบด้วยความเบื่อหน่าย " เฟโลอา
หลานช่วยไปหยิบน้ำพลับปี้ให้อาหน่อยสิจ๊ะ" ท่านอาจีน่า
ตรัสด้วยพระสุรเสียงเนิบ ๆ ยังไม่ทันที่เจ้าหญิงน้อยจะได้
ก้าวเดิน โครม ! เสียงดังโครมใหญ่ก็ดังมาจากลานกว้าง
หน้าปราสาทและไม่กี่นาทีต่อมาประตูห้องโถงก็ถูกเปิดออก
เผยให้เห็นร่างของเด็กสาวผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีเขียว โรริ
น่า ซึ่งบัดนี้ดูยังไงก็ไม่เหมือนเจ้าหญิงรัชทายาทเลยสักนิด ผมสีน้ำตาล
ยุ่งเหยิง เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น ถ้าสังเกตดี ๆ จะ
เห็นแผลสดตามแขนและขาเดินเข้ามาในห้องโถงและขอ
อภัยแขกต่างเมืองที่ตนมาช้า เธอกลายเป็นจุด talk of the
hall บางคนก็พูดเรื่องที่เธอมาสาย บางคนก็คุยกันเรื่องที่
เธอถูกสาป และอีกหลายคนก็พูดถึงตำแหน่งรัชทายาทที่เธอ
ควรสละให้น้องสาว
" โตเป็นสาวแล้วนะเรา" ราชินีวาน่าแห่งวิชท์แลนด์ทัก
อย่างเอ็นดู โรริน่ายิ้มให้ " เมื่อกี้ข้าได้ยินเสียงโครมใหญ่
จากด้านนอก เราไปก่อวีรกรรมอะไรอีกล่ะ หือม์" กษัตริย์
โพลาซแห่งวิชท์แลนด์ตรัสพร้อมสรวลเล็กน้อย " หม่อมชั้น
ต้องขออภัยด้วย เรื่องก็คือมังกรพระที่นั่งไม่สบายเป็นลม
กระทันหันเพคะ" แขกทั้งหลายพากันมองโรริน่าอย่างขบ
ขัน " เอ้อ ข้าได้ข่าวว่าเราสอบเข้าที่เจววิสได้ใช่ไหม เก่งนะ
ขนาดโดนคำสาปร้ายนั่น ยังมีกะใจไปสอบอีก อีก 3 ปี คำ
สาปนั่นก็จะสมบูรณ์แล้วสินะ" ราชินีเรน่าแห่งมาเมโล่ตรัส
ขึ้น โรริน่าพยายามปั้นสีหน้าให้เป็นปกติแล้วก้มหน้าทาน
อาหารที่ตักมาก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อเฟโลอา เจ้าหญิงน้อย
ช่างเจรจาเปรยขึ้นลอย ๆ " ขนาดพี่หญิงโรริน่ายังสอบได้
เจ้าพี่เลโอ พี่หญิงนาเนีย พี่หญิงวาเน
ซ่า แล้วก็เจ้าพี่ชามมิ่งก็ต้องสอบได้อยู่แล้ว" ถ้อยคำนั้นทำ
ให้โรริน่าแทบสำลักอาหาร " พูดเก่งจริงนะเรา" ควีน
แอนตรัสด้วยรอยยิ้ม แต่ก่อนที่โรริน่าจะสกัดกั้นน้ำตาที่
เกิดจากความอายและความเสียใจไม่ไหว เจ้าชายเลโอก็ลุก
ขึ้นเดินไปทางเจ้าหญิงนาเนียหรืออีกนามหนึ่งก็คือ นาเนีย
เฟลอ คนปรุงยาแห่งมาเมโล่นั่นเอง
" เต้นรำกับชั้นซักเพลงสิ" เลโอโค้งให้ นาเนียรีบลุกขึ้น
ทันที แต่โดนขัดเสียก่อน " แหม เลโอเวลาขอสาวเต้นรำ
น่ะ เค้าพูดกันอย่างนี้เรอะ" เค็ท คิงแห่งเลิฟลี่เเลนด์
กระเซ้าพระโอรส " ไม่ไวเลยนะ เลโอ" ต่อด้วย
ควีนแอนที่ส่งรอยยิ้มและคำหยอกล้อไปให้ " อีกหน่อยเรา
คงต้องเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วกระมัง" ควีนแอนหันไป
ตรัสกับควีนเรน่าและสรวลเล็กน้อย " ท่านตรัสอย่าง
นี้ข้าจะหมายความว่าท่านเอ่ยจองธิดาข้านะ ท่านแอน" แล้ว
สองสหายเก่าก็พากันสรวลอย่างชอบใจ
" ไม่เอากับเค้าบ้างเหรอ เค็นดิว" ชามัส กษัตริย์แห่งเวนิ
ก้าหันไปส่งคำถามให้เจ้าชายเค็นดิวแห่งสโนเฟลค ผู้ที่เงียบขรึมอยู่
นาน " ใช่ ๆ จะเอาเจ้าหญิงวาเนซ่า อมีเลีย โอปอล เฟโลอา....." ก่อนที่
กษัตริย์แห่งเลิฟลี่แลนด์จะกล่าวพระนามเจ้าหญิงทั้งหมดในโต๊ะ
เสวย จบ กษัตริย์เค็นแห่งสโนเฟลคก็ทัดทานขึ้นเสียก่อน " พวก
ท่านอย่ายัดเยียดให้โอรสข้านักเลย" แล้วทั้งหมดก็พากัน
สรวลอย่างเบิกบาน ยกเว้นสาวน้อยผู้มอมแมมแห่งไวท์โรส
ดวงจันทร์สีนวลดวงโตลอยเด่นอยู่บนนภาอันเวิ้งว้าง
มีเพียงดวงดาวและสายลมเป็นเพื่อนคลายเหงา เงาของใคร
คนหนึ่งที่นั่งอยู่บนขอบสระสะท้อนลงสู่ผิวน้ำ นัยน์ตาสี
เขียวมรกดเลื่อนลอยไปไกลและตามมาด้วยเสียงถอนใจ
เฮือกใหญ่
......ดวงจันทร์หนอดวงจันทร์....เจ้าจะเข้าใจชั้นไหม...จะรู้
บ้างไหม....ว่าตำแหน่งไหนที่ชั้นควรยืน...ทำไมโลกนี้ถึงไม่
ยุติธรรม...หรือนี่จะเป็นความจริงของชีวิต...ไม่ใช่ความฝัน
และจินตนาการ...การที่ชั้นสอบเข้าเจววิสได้...มันไม่มีความ
หมายกับไวท์โรสเลยใช่ไหม...ไม่มีใครคิดจะให้กำลังใจ....มี
แต่คำดูถูกเหยียดหยาม....แล้วชั้นผิดหรือที่ถูกสาป พลัน
น้ำตาหยดใส ๆ ก็ไหลรินอาบแก้ม มันคงไม่เป็นเช่นนี้แน่
ถ้าหากท่านพ่อและท่านแม่จะไม่เรียกเธอไปต่อว่าเรื่องการ
ตอบคำถามที่ไม่เข้าท่าเกี่ยวกับมังกร เรื่องที่เธอมาสายกับ
สภาพที่มอมแมม เรื่องที่เธอทำน้ำหกหลังเจ้าชายเค็นดิวขอ
เฟโลอาเต้นรำ และเรื่องที่เธอเป็น talk of the hall แถม
ยังเปรียบเทียบเธอกับเฟโลอาอย่างน่าเจ็บใจ
.....ใครบ้างที่อยากให้มังกรพระที่นั่งเป็นลมสลบเหมือด ใคร
บ้างที่อยากมอมแมมเข้างานสำคัญ....ใครบ้างที่อยากทำตัว
เซ่อซ่าต่อหน้าแขกต่างเมือง....แล้วใครบ้างที่อยากถูกพูดถึง
ในแง่ลบ...ถ้าชั้นเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทที่ไม่ได้เรื่อง.....
ทำไมไม่ปลดชั้นออกแล้วแต่งตั้งเฟโลอาเป็นแทน...บางที
ไวท์โรสอาจยิ่งใหญ่และเจริญกว่านี้ก็ได้ จะเอาอะไรกับเธอ
นัก ท่านครูเวโอล่าเคยเล่าให้ฟังว่าตอนที่เธอถูกสาป เธอ
เกิดอาการแพ้คำสาปทำให้เกือบเอาชีวิตไม่รอด ท่านพ่อกับ
ท่านแม่ไม่ขออะไรอีกนอกจากให้เธอฟื้นคืนมา แล้วเวลา
ผ่านมา 12 ปี กลับเปลี่ยนแปลง มาคาดหวังจะให้เธอทำอย่าง
นั้นอย่างนี้ ถึงจะไม่มากเท่าที่คาดกับเฟโลอา แต่ก็มากพอที่
จะทำให้เธอเครียด เธอจะไม่ขอทำอะไรเพื่อคนอื่นอีกแล้ว
เธอจะสู้เพื่อตัวเธอเอง
ความคิดเห็น