คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การเริ่มต้น
บทที่1 การเริ่มต้น
ภาพที่ เรเวน สาวน้อยวัย 16 ปี เห็นอยู่เบื้องหน้าไม่ใช่ภาพที่แสนโสภาเลยแม้แต่น้อย กองขยะพิษสูงเรียง
ราย ฝุ่นละอองและหมอกควันที่ฟุ้งกระจายอยู่ทั่วบริเวณโดยรอบแทบทำให้เธอหายใจไม่ออก
เมื่อ 3 วันก่อน
“ อะไรนะ แม่จะให้ฉันไปเรียนที่ร.ร.เบอร์มิว” เสียงร้องลั่นจากเด็กสาวหน้าตาน่ารัก รูปร่างเพรียวบางสม
ส่วน ผิวขาวอมชมพู ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนดูรับกันได้ดีกับผมสีน้ำตาลเข้มเป็นลอนเหมือนตุ๊กตาของเธอมอง
แล้วน่าทะนุถนอมยิ่งนัก
“เออ แกฟังไม่ผิดหรอกแล้วไม่ต้องแหกปากลั่นขนาดนั้นหูจะแตก” เสียงผู้เป็นแม่ดังขึ้น
“ ไม่ ฉันไม่ไป ทำไมฉันต้องไปด้วย ฉันจะเดินทางไปกับแม่ ฉันรู้นะว่าแม่จะออกไปที่โลกมนุษย์”
“เออแล้วไง แกก็รู้ดีว่าฉันไม่มีเงินพออีกแล้ว หากเราไปด้วยกันเราจะอดตายทั้งคู่ ฉันคนเดียวยังเอาตัวรอดได้
แต่ถ้าแกมาด้วยมีหวังได้เป็นขอทานข้างถนนแน่ แกไปที่นั่นดีแล้วเขามีคนดูแลแกสารพัดทั้งเรื่องกินเรื่อง
นอน เผลอๆ แกอาจได้เป็นผู้พิทักษ์กะเขาด้วย” เสียงแม่อธิบายดังขึ้นกว่าเก่า
“ แต่แม่ก็รู้ว่าที่นั่นเข้าได้ง่ายๆที่ไหน ฉันไปสู้รบปรบมือกับใครเขาเป็นที่ไหน ดาบก็ไม่เคยจับ เวทมนตร์ก็
ไม่เคยใช้ แล้วก็ไม่มีอาวุธไฮเทคแพงๆ เหมือนคนอื่นด้วยอีกอย่างฉันก็อายุไม่ถึงด้วย เขารับเด็กอายุ 17 นะ
แม่” เสียงลูกยังชี้แจงอย่างลดละความพยายาม
“ว่ะแกก็โกหกไปสิว่าแกอายุ 17 ไม่เห็นจะยากแล้ว ไอ้พวกที่ไปสอบเขาก็ไม่รู้อะไรมากกว่าแกนักหรอกมีแต่
พวกลูกหลานผู้พิทักษ์รุ่นก่อนๆหรืออะไรเทือกๆนั้นแหละที่ได้รู้มากกว่าแกหน่อย”
“แล้วเขาจะทดสอบยังไงล่ะแม่”
“ ได้ยินว่าการทดสอบที่นี่เขาจะให้ใช้ไหวพริบปัญญามากกว่า ถ้าเรื่องนี้แกก็ไม่ต้องห่วงเพราะเรื่องเล่ห์
เหลี่ยมแกได้เชื้อจากแม่แกมาเต็มสายเลือดอยู่แล้ว” ผู้เป็นแม่ยิ้มอย่างพอใจ
ส่วนผู้เป็นลูกได้แต่จนใจกับความคิดของแม่เหลือเกิน
..................................................
ด้วยเหตุนี้ทำให้เรเวนต้องเข้ารับการทดสอบ แต่การทดสอบที่นี่กลับแปลกไม่เหมือนใคร
“ โธ่ ไม่น่าเชื่อแม่เลย ดูซิฉันถูกส่งมาอยู่ที่ไหนของโลกก็ไม่รู้” เจ้าตัวบ่นไปพลางมองกระดาษคำสั่งที่ทาง
รร.ส่งให้สำหรับผู้ทดสอบ
1.ให้ผู้เข้าสอบทุกคนขึ้นแตะลูกบอลที่ทางร.ร.ส่งไปให้ มันจะพาทุกท่านไปยังสนามสอบ
“ สนามสอบบ้านไหนเขาเป็นกองขยะอย่างนี้ฟะ” ว่าแล้วก็พลางก้มหน้าอ่านต่อ
2. ให้ผู้เข้าสอบค้นหาของที่ทางร.ร.จัดไว้ให้พบโดยจะมีคำใบ้คอยช่วยเหลือ
3. หากหาของสิ่งนั้นพบแล้วให้จับลูกบอลเพื่อจะนำทางกลับมาส่งที่ร.ร.โดยต้องใช้เวลาไม่เกิน1 วัน
4. นำสิ่งของมามอบให้เจ้าพนักงานหากหาของได้ถูกต้องทางร.ร.จะถือว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมและอนุญาต
ให้เข้ารับการศึกษาได้
คำใบ้ 1. บ้างว่ามันมีคุณเหลือคณา บ้างว่ามันมีโทษร้ายแรงนัก
2. บ้างว่ามันสวยงามดุจของสวรรค์ บ้างว่ามันน่าเกียจน่าสะพรึงกลัว
3. ไม่ว่าใครจะเห็นเช่นไร แต่มันเกิดจากสิ่งที่งดงามที่สุดในโลก
คำใบ้ที่ยิ่งทำให้เรเวนสติแตก หลังจากถูกส่งมาที่กองขยะ ในความคิดของเรเวนของที่เกิดจากสิ่งสวยๆ
งามๆจะมาอยู่ในกองขยะได้ยังไง มันต้องอยู่ในปราสาท คฤหาสน์ถึงจะถูก กองขยะจึงเป็นสถานที่สุดท้ายที่
เธอจะมา แต่ไอ้ลูกบอลกลับส่งเธอมาที่นี่เฉยเลย
“สงสัยจะเจ๊งซะแล้วไอ้ลูกบอลนี่” ว่าแล้วพลางทอดสายตาไปยังกองขยะที่เธอต้องคุ้ยมันออกมา
“ เฮ้อไหนๆก็มาขนาดนี้แล้วลองหาดูสักตั้ง สู้โว้ย”
........................................................
และแล้วการคุ้ยขยะก็เริ่มต้นขึ้น
“โอ๊ย” เสียงเรเวนร้องขึ้นหลังจากการก้มหน้าก้มตาคุ้ยขยะโดยไม่ทันเห็นผู้มาใหม่ ซึ่งต้อนรับเธอด้วยการ
ปากระป๋องปลาเปล่ามาโดนหัวเธออย่างจัง
“ออกไปซะ ที่นี่เป็นที่ของฉัน” เสียงมาจากเด็กชายตัวเล็กๆคนที่ปากระป๋องใส่เธอเมื่อกี้ ด้วยความโมโหเร
เวนจึงตวาดกลับไปด้วยเสียงอันดัง
“หนอย ไอ้เด็กบ้า ปามาได้ หัวคนนะไม่ใช่ปูนซีเมนต์ อีกอย่างฉันก็อยากอยู่นักหรอกไอ้กองขยะเน่าๆเนี้ย”
สิ้นเสียงตวาด เด็กชายคนนั้นก็น้ำตาเล็ดออกมาทันที
“เฮ้ย อะไรอีกเนี้ย” อารามตกใจทำให้เรเวนวิ่งเข้าไปปลอบทันทีด้วยเหตุผลที่ว่าแม่สอนว่าอย่าทำเด็กร้องไห้
แต่แล้ว ...
“ฮ่า ฮ่า สมน้ำหน้ายัยโง่”
“โอ๊ย ไอ้เด็กเลว” เสียงเรเวนร้องอย่างเจ็บแค้นพร้อมวิ่งตามเด็กที่หนีไปหลังจากที่เธอเข้าไปปลอบและโดน
เด็กชายพลักกองขยะมาทับเข้าอย่างจัง
เรเวนวิ่งตามเด็กชายจนไปถึงซอกตึกแห่งหนึ่ง เธอพบหญิงชราคนหนึ่งนอนหอบอยู่บนเสื่อขาดๆ
“อย่ามายุ่งกับแม่ฉันนะ” เสียงเด็กชายร้องขึ้น พร้อมหยิบท่อนไม้ผุๆอันหนึ่งมาคอยปัดเธอให้ออกไปห่างๆ
เมื่อเรเวนเห็นภาพนั้นแล้วความโกรธก็จางหายไปทันทีเพราะมันทำให้เธอนึกถึงตัวเองที่เคยปกป้องแม่เมื่อ
ตอนยังเด็ก
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ทำอะไรหรอก” เรเวนพูดอย่างอ่อนโยน
“ฉันไม่เชื่อหรอกคนหลอกลวง พวกแกเป็นพวกเดียวกับคนที่จะมาซื้อที่แถวนี้ไปสร้างคฤหาสน์สินะ ฉันไม่
ยอมหรอกไอ้พวกคนใจดำ” เรเวนเกิดอาการฉงนขึ้นมาทันที
“แค่กๆ ลูกอย่าทำพี่สาวคนนี้เขาเลยนะ เขาไม่ใช่คนพวกนั้นหรอก”
“ไม่จริงอ่ะ ผมเห็นมันสำรวจกองขยะอยู่นี่คงคิดจะเอาไปขายทิ้งแน่ ”
“ไม่ใช่สักหน่อย ฉันมาหาของต่างหาก แล้วฉันก็อยากช่วยแม่เธอด้วย” เสียงเรเวนแย้ง
“ถ้าหากแกอยากช่วย แน่จริงก็ไปขโมยอควาไนท์มาให้ฉันสิ”เด็กชายพูดท้าทายโดยคิดว่าเธอคงไม่ทำอยู่แล้ว
“หืม อควาไนท์ มันคืออะไร”เรเวนถามอย่างสงสัย
“อควาไนท์เป็นอัญมณีมีค่าหากวันพระจันทร์เต็มดวงจะทอแสงสวยงามสามารถรักษาโรคทุกชนิด แต่วัน
เดือนดับจะเปล่งรังสีน่าสะพรึงกลัวและจะทำลายอวัยวะของผู้ที่สัมผัสมัน” เสียงหญิงชราอธิบายซึ่งทำให้เร
เวนสะดุ้งเฮือก
หรือจะเป็นของที่ร.ร.ให้หา เพื่อความมั่นใจเธอจึงถามหญิงชราต่อไปว่า
“มันเกิดจากอะไรหรือจ๊ะ”
“ได้ยินว่ามันเกิดจากน้ำค้างบริสุทธิ์บนดอกโทเนียที่สวยงามที่สุดในโลก”
ใช่แหงๆไอ้สิ่งนี้แหละที่ฉันต้องการ
“ลูกชายฉันต้องการเพื่อจะมารักษาฉันที่ป่วยอยู่ให้หาย เดิมทีเราจะออกไปตั้งต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน แต่ฉันกลับ
มาป่วยจึงเดินทางไม่ได้ สงสารก็แต่ลูกที่ต้องคอยดูแลเป็นภาระ และยังไปมีเรื่องกลับคนที่จะมาสร้างคฤหาสน์
อีก”
“ก็ฉันเกลียดพวกมันนี่ มันจะไล่พวกเราไป”
บทสนทนาที่ทำให้เรเวนชะงักทันที
จริงสิ หากเราได้อควาไนท์ไปแม่ลูกคู่นี้ก็จะลำบาก แต่หากเราไม่เอาไปเราก็จะลำบาก แล้วจะทำไงดี
“ไอ้อควาไนท์นั่นอยู่ที่ไหนล่ะ” เธอถาม ‘หาให้เจอก่อนค่อยว่ากันใหม่แล้วกัน’
“หืม อยู่ที่กองขยะนั่นแหละ นึกว่าจะรู้แล้วสักอีกเห็นค้นอยู่นี่ ไอ้คนพวกนั้นน่ะโง่มีอัญมณีมีค่าซ่อนอยู่กลับ
จะสร้างคฤหาสน์แทน”
สงสัยไอ้กองขยะนี่จะเป็นเพชรในตมจริงๆ
“ดี งั้นเรามาช่วยกันหาก่อนที่คนพวกนั้นจะมา” เรเวนตอบอย่างมั่นใจ
5 ชั่วโมงผ่านไป
‘โอ๊ย ทำไมมันเหนื่อยอย่างนี้หามาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะเจอไอ้เด็กนั่นหลอกฉันรึเปล่าเนี้ย’
“นี่ ของดีก็หายากแหละฉันเองก็หามาตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่เจอ แต่แม่ฉันบอกว่าชีวิตเกิดมาทั้งที ต้องรู้จัก
พยายามให้ได้ของที่ต้องการมา เพราะหากได้มาง่ายๆ ของสิ่งนั้นก็จะไม่มีค่าให้เราได้ภูมิใจจะอยู่ไปอย่างวัน
โดยไร้ค่า ฉันกับแม่จึงฝ่าฟันชีวิตมาถึงทุกวันนี้แหละ”เสียงเด็กชายที่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่สอนปรัชญาเธอดูน่าขบ
ขันนัก แต่เธอก็แปลกใจที่เด็กคนนี้คิดดีถึงขนาดนี้
“เฮ้ยพวกแกมาทำอะไรว่ะ” เสียงโวยวายดังมาแต่ไกลของชายสองคน
“แย่แล้วพวกมันมาแล้ว หนีเร็ว” เสียงเด็กชายเตือนเธอพร้อมวิ่งหนีชายกลุ่มหนึ่งที่ตรงเข้ามา แต่เรเวนหนี
ไม่พ้นเธอถูกคว้าแขนไว้
เด็กชายเห็นดังนั้นจึงปากระป๋องเปล่าในกองขยะใส่พวกมันทันที ทำให้เธอหนีออกมาได้แต่เด็กชายเจ้า
กรรมกลับโดนจับซะนี่
“หนีไปก่อนยัยโง่” เรเวนวิ่งไปหลบที่กองขยะข้างๆ พลางคิดหาหนทางช่วยเหลือ
ฉันจะทำไงดี เด็กนั่นถูกจับเพราะเราแท้ๆ เรากลับมาหลบอยู่นี่ ต้องช่วยให้ได้ สายตาเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นของเธอ
ทอประกายกล้า “ดีหล่ะ” และแล้วเธอก็ทำสี่งที่บ้าบิ่นที่สุดโดยการออกไปประจันหน้ากับมัน
“นี่พวกแกรู้ไหมที่เนี่ยมีอัญมณีซ่อนอยู่ด้วย” เสียงเรเวนตะโกนเผชิญหน้ากับคนพวกนั้น
“ฮ่า ๆ เฮ้ยไอ้หนูนี่มันบอกว่ากองขยะนี่มีของดีซ่อนอยู่ว่ะ จะโกหกก็ให้มันสมจริงหน่อยสิ”
“ฉันพูดจริงตามมาสิ ฉันจะพาไปเองฉันพบมันแล้ว หากฉันโกหกก็จับฉันไปได้เลย พวกแกคงไม่กลัวผู้หญิง
อย่างฉันหรอกนะ” เรเวนตอบอย่างยียวน
เด็กชายมองดูเรเวนอย่างงุนงงโดยไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน จากสายตาใสซื่อที่เคยเห็นกลับกลายเป็นสายตา
เย็นชา สุขุมเด็ดเดี่ยวไม่กลัวใคร ทำให้แม้แต่เด็กชายยังหวาดเกรง
“ฮึ ดีหากแกโกหก แกได้ลงนรกแน่ ตามมันไป” เรเวนซ่อนรอยยิ้มเหี้ยมเจ้าเล่ห์และพอใจที่มันหลงกลเธอ
เดี๋ยวเป็นได้เห็นดีกันแน่ ฮึฮึ
“ถึงแล้ว” เธอเดินมาถึงบริเวณบ่อน้ำแห่งหนึ่งข้างกองขยะ
“ไม่เห็นจะมีอะไรเลย”เสียงผู้ชายคนหนึ่งแสดงอาการไม่พอใจ
“ก็นี่ไง” ว่าแล้วเรเวนก็วิ่งขึ้นไปบนกองขยะที่สูงที่สุดแถวนั้นแล้วกระโดดลงมาถีบชายคนหนึ่งตกบ่อน้ำ
ส่วนเด็กชายคนนั้นก็รีบผลักกองขยะทับชายอีกคนไว้แบบเดียวกับที่เคยทำกับเธอ แล้วทั้งคู่ก็รีบวิ่งหนีไปโดยมี
ชายสองคนนั้นตามมาติดๆ
“นี่จะทำอะไรน่ะ”เสียงเด็กชายถาม
“อยู่เฉยๆเหอะน่า ทำตามที่ฉันบอกนะ” แล้วเธอก็กระซิบแผนการบางอย่างกับเด็กชาย
“เข้าใจนะ โอเคงั้นไป”ว่าแล้วเรเวนกับเด็กชายก็แยกทางจากกัน
“แกไปทางซ้าย ส่วนฉันจะตามนังนั่นเอง จับมันให้ได้”ชายคนหนึ่งบอก
ดีหล่ะเป็นไปตามแผน ที่เหลือก็ต้องหาอุปกรณ์ช่วยหน่อย อืม ขยะพวกนี้น่าจะใช้ได้ เรเวนคิดอย่างพอใจ
“มันหายไปไหนว่ะ นังนั่นมันเร็วจริงๆ”
“เฮ้ย ฉันอยู่นี่แน่จริงก็มาจับสิ” เสียงยั่วโมโหลอยมาแต่ไกล
“หึ ถ้าฉันจับแกได้เมื่อไรล่ะก็” ว่าแล้วชายคนนั้นก็เหลือบเห็นสายลวดเก่าๆเล็กที่ขึงพาดไว้เกือบติดพื้นที่เต็ม
ไปด้วยน้ำมัน
“วางแผนกระจอกปัญญาอ่อนอย่างนี้ ใช้กับฉันไม่ได้หรอก”
“อ้อหรองั้นก็คอยดูแล้วกัน” ฉับพลันตู้ไม้เก่าๆก็เอนหล่นทับมาที่ชายคนนั้นอย่างพอดิบพอดี
แท้จริงแล้วลวดเส้นนั้นเธอไว้ใช้ล่อให้ชายคนนั้นหยุดดูมันเพื่อที่จะให้เชือกเส้นเก่าๆขาดทันเวลา และทำ
ให้ตู้ที่เธอผูกติดไว้เอนลงมาแต่ด้วยความฉลาดของเรเวนเธอรู้ดีว่าเพียงแค่นี้คงหยุดชายคนนั้นไม่ได้เธอจึง
เตรียมของขวัญพิเศษไว้ให้อีกด้วย...
มันคือไม้ขีดไฟที่เธอจุดแล้วทิ้งมันลงพื้นซึ่งเต็มไปด้วยน้ำมัน และจากการที่ชายคนนั้นล้มลงจึงทำให้ตัว
ของเขาชุ่มไปด้วยน้ำมัน และผลของมันก็คือ
“โอ๊ย ร้อน ช่วยด้วย”ชายคนนั้นร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
เสร็จไปหนึ่ง
ทางด้านเด็กชายก็ได้ทำตามที่เรเวนบอกโดยวิ่งไปตามทางจนพบทั้งถังสีที่เธอเตรียมไว้
“นี่แน่” เด็กชายสาดของในถังใสคนที่ตามมาทันที และภายในถังซึ่งเต็มไปด้วยยาฆ่าแมลง แอลกอฮอล์ และ
สารเคมีอีกมากมายที่เธอหาเจอในกองขยะ และแน่นอนว่ามันคือยาพิษชั้นดีทีเดียว
“เป็นไงบ้าง” เรเวนถามหลังมาพบกันตามที่ตกลงไว้
“สบายมาก โดนจัดการเรียบร้อย”เด็กชายตอบ
ตะวันคล้อยต่ำลับขอบฟ้าสีส้มราวกับเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าหมดเวลาของเธอแล้ว
“เฮ้อ นี่ฉันต้องกลับแล้วนะ”เธอบอกเด็กชายขณะนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน
“กลับ?ไปไหน” เรเวนไม่ตอบแต่เธอเดินห่างจากเด็กชายไปเรื่อยๆ ..เรื่อยๆ..จนหายลับไป
“นี่จะไปไหนน่ะ กลับมานะ เธอยังหาของไม่พบนะ”เด็กชายยังพร่ำตะโกนเรียกโดยที่ไม่รู้เลยว่าเธอกลับไป
ยังมิติลี้ลับที่เด็กชายจะไม่มีวันได้พบเธออีกเลย...
“กลับมาก่อน พี่สาว..” เสียงเรียกสุดท้ายที่เรเวนไม่มีวันได้รับรู้
เด็กชายเดินตรงกลับไปหาแม่ด้วยถ้าทีเศร้าสร้อย แต่เมื่อเขาพบแม่เขาก็ต้องประหลาดใจ เพราะแม่ของ
เขาดูอาการดีขึ้นอย่างน่าประหลาด
“แม่เกิดอะไรขึ้นน่ะ”เด็กชายถามอย่างตื่นเต้น
“พี่สาวคนนั้นเขานำอควาไนน์มาให้แม่ไงจ๊ะ”
“หา อย่างนี้ก็แปลว่าเขาหามันเจอน่ะสิ”
“ไม่ใช่หรอกจ๊ะ พี่เขาก็แค่มาชี้ทางให้แม่ให้แม่ได้รับรู้ว่าอควาไนน์ที่แท้จริงนั้นอยู่กับแม่ตลอดเวลาซึ่งก็คือลูก
ยังไงล่ะ สิ่งที่จะช่วยเยียวยาจิตใจของคนได้คือกำลังใจจากคนรอบข้างที่จะทำให้เราได้รับรู้ว่ายังมีคนที่ห่วงใย
ซึ่งมันจะทำให้แม่ต้องเข้มแข็งเอาชนะโรคร้ายให้ได้ ไม่มียาอะไรที่จะดีกว่านี้อีกแล้ว..”
ด้วยเหตุนี้ทำให้เรเวนต้องเข้ารับการทดสอบ แต่การทดสอบที่นี่กลับแปลกไม่เหมือนใคร
“ โธ่ ไม่น่าเชื่อแม่เลย ดูซิฉันถูกส่งมาอยู่ที่ไหนของโลกก็ไม่รู้” เจ้าตัวบ่นไปพลางมองกระดาษคำสั่งที่ทาง
รร.ส่งให้สำหรับผู้ทดสอบ
1.ให้ผู้เข้าสอบทุกคนขึ้นแตะลูกบอลที่ทางร.ร.ส่งไปให้ มันจะพาทุกท่านไปยังสนามสอบ
“ สนามสอบบ้านไหนเขาเป็นกองขยะอย่างนี้ฟะ” ว่าแล้วก็พลางก้มหน้าอ่านต่อ
2. ให้ผู้เข้าสอบค้นหาของที่ทางร.ร.จัดไว้ให้พบโดยจะมีคำใบ้คอยช่วยเหลือ
3. หากหาของสิ่งนั้นพบแล้วให้จับลูกบอลเพื่อจะนำทางกลับมาส่งที่ร.ร.โดยต้องใช้เวลาไม่เกิน1 วัน
4. นำสิ่งของมามอบให้เจ้าพนักงานหากหาของได้ถูกต้องทางร.ร.จะถือว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมและอนุญาต
ให้เข้ารับการศึกษาได้
คำใบ้ 1. บ้างว่ามันมีคุณเหลือคณา บ้างว่ามันมีโทษร้ายแรงนัก
2. บ้างว่ามันสวยงามดุจของสวรรค์ บ้างว่ามันน่าเกียจน่าสะพรึงกลัว
3. ไม่ว่าใครจะเห็นเช่นไร แต่มันเกิดจากสิ่งที่งดงามที่สุดในโลก
คำใบ้ที่ยิ่งทำให้เรเวนสติแตก หลังจากถูกส่งมาที่กองขยะ ในความคิดของเรเวนของที่เกิดจากสิ่งสวยๆ
งามๆจะมาอยู่ในกองขยะได้ยังไง มันต้องอยู่ในปราสาท คฤหาสน์ถึงจะถูก กองขยะจึงเป็นสถานที่สุดท้ายที่
เธอจะมา แต่ไอ้ลูกบอลกลับส่งเธอมาที่นี่เฉยเลย
“สงสัยจะเจ๊งซะแล้วไอ้ลูกบอลนี่” ว่าแล้วพลางทอดสายตาไปยังกองขยะที่เธอต้องคุ้ยมันออกมา
“ เฮ้อไหนๆก็มาขนาดนี้แล้วลองหาดูสักตั้ง สู้โว้ย”
........................................................
และแล้วการคุ้ยขยะก็เริ่มต้นขึ้น
“โอ๊ย” เสียงเรเวนร้องขึ้นหลังจากการก้มหน้าก้มตาคุ้ยขยะโดยไม่ทันเห็นผู้มาใหม่ ซึ่งต้อนรับเธอด้วยการ
ปากระป๋องปลาเปล่ามาโดนหัวเธออย่างจัง
“ออกไปซะ ที่นี่เป็นที่ของฉัน” เสียงมาจากเด็กชายตัวเล็กๆคนที่ปากระป๋องใส่เธอเมื่อกี้ ด้วยความโมโหเร
เวนจึงตวาดกลับไปด้วยเสียงอันดัง
“หนอย ไอ้เด็กบ้า ปามาได้ หัวคนนะไม่ใช่ปูนซีเมนต์ อีกอย่างฉันก็อยากอยู่นักหรอกไอ้กองขยะเน่าๆเนี้ย”
สิ้นเสียงตวาด เด็กชายคนนั้นก็น้ำตาเล็ดออกมาทันที
“เฮ้ย อะไรอีกเนี้ย” อารามตกใจทำให้เรเวนวิ่งเข้าไปปลอบทันทีด้วยเหตุผลที่ว่าแม่สอนว่าอย่าทำเด็กร้องไห้
แต่แล้ว ...
“ฮ่า ฮ่า สมน้ำหน้ายัยโง่”
“โอ๊ย ไอ้เด็กเลว” เสียงเรเวนร้องอย่างเจ็บแค้นพร้อมวิ่งตามเด็กที่หนีไปหลังจากที่เธอเข้าไปปลอบและโดน
เด็กชายพลักกองขยะมาทับเข้าอย่างจัง
เรเวนวิ่งตามเด็กชายจนไปถึงซอกตึกแห่งหนึ่ง เธอพบหญิงชราคนหนึ่งนอนหอบอยู่บนเสื่อขาดๆ
“อย่ามายุ่งกับแม่ฉันนะ” เสียงเด็กชายร้องขึ้น พร้อมหยิบท่อนไม้ผุๆอันหนึ่งมาคอยปัดเธอให้ออกไปห่างๆ
เมื่อเรเวนเห็นภาพนั้นแล้วความโกรธก็จางหายไปทันทีเพราะมันทำให้เธอนึกถึงตัวเองที่เคยปกป้องแม่เมื่อ
ตอนยังเด็ก
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ทำอะไรหรอก” เรเวนพูดอย่างอ่อนโยน
“ฉันไม่เชื่อหรอกคนหลอกลวง พวกแกเป็นพวกเดียวกับคนที่จะมาซื้อที่แถวนี้ไปสร้างคฤหาสน์สินะ ฉันไม่
ยอมหรอกไอ้พวกคนใจดำ” เรเวนเกิดอาการฉงนขึ้นมาทันที
“แค่กๆ ลูกอย่าทำพี่สาวคนนี้เขาเลยนะ เขาไม่ใช่คนพวกนั้นหรอก”
“ไม่จริงอ่ะ ผมเห็นมันสำรวจกองขยะอยู่นี่คงคิดจะเอาไปขายทิ้งแน่ ”
“ไม่ใช่สักหน่อย ฉันมาหาของต่างหาก แล้วฉันก็อยากช่วยแม่เธอด้วย” เสียงเรเวนแย้ง
“ถ้าหากแกอยากช่วย แน่จริงก็ไปขโมยอควาไนท์มาให้ฉันสิ”เด็กชายพูดท้าทายโดยคิดว่าเธอคงไม่ทำอยู่แล้ว
“หืม อควาไนท์ มันคืออะไร”เรเวนถามอย่างสงสัย
“อควาไนท์เป็นอัญมณีมีค่าหากวันพระจันทร์เต็มดวงจะทอแสงสวยงามสามารถรักษาโรคทุกชนิด แต่วัน
เดือนดับจะเปล่งรังสีน่าสะพรึงกลัวและจะทำลายอวัยวะของผู้ที่สัมผัสมัน” เสียงหญิงชราอธิบายซึ่งทำให้เร
เวนสะดุ้งเฮือก
หรือจะเป็นของที่ร.ร.ให้หา เพื่อความมั่นใจเธอจึงถามหญิงชราต่อไปว่า
“มันเกิดจากอะไรหรือจ๊ะ”
“ได้ยินว่ามันเกิดจากน้ำค้างบริสุทธิ์บนดอกโทเนียที่สวยงามที่สุดในโลก”
ใช่แหงๆไอ้สิ่งนี้แหละที่ฉันต้องการ
“ลูกชายฉันต้องการเพื่อจะมารักษาฉันที่ป่วยอยู่ให้หาย เดิมทีเราจะออกไปตั้งต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน แต่ฉันกลับ
มาป่วยจึงเดินทางไม่ได้ สงสารก็แต่ลูกที่ต้องคอยดูแลเป็นภาระ และยังไปมีเรื่องกลับคนที่จะมาสร้างคฤหาสน์
อีก”
“ก็ฉันเกลียดพวกมันนี่ มันจะไล่พวกเราไป”
บทสนทนาที่ทำให้เรเวนชะงักทันที
จริงสิ หากเราได้อควาไนท์ไปแม่ลูกคู่นี้ก็จะลำบาก แต่หากเราไม่เอาไปเราก็จะลำบาก แล้วจะทำไงดี
“ไอ้อควาไนท์นั่นอยู่ที่ไหนล่ะ” เธอถาม ‘หาให้เจอก่อนค่อยว่ากันใหม่แล้วกัน’
“หืม อยู่ที่กองขยะนั่นแหละ นึกว่าจะรู้แล้วสักอีกเห็นค้นอยู่นี่ ไอ้คนพวกนั้นน่ะโง่มีอัญมณีมีค่าซ่อนอยู่กลับ
จะสร้างคฤหาสน์แทน”
สงสัยไอ้กองขยะนี่จะเป็นเพชรในตมจริงๆ
“ดี งั้นเรามาช่วยกันหาก่อนที่คนพวกนั้นจะมา” เรเวนตอบอย่างมั่นใจ
5 ชั่วโมงผ่านไป
‘โอ๊ย ทำไมมันเหนื่อยอย่างนี้หามาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะเจอไอ้เด็กนั่นหลอกฉันรึเปล่าเนี้ย’
“นี่ ของดีก็หายากแหละฉันเองก็หามาตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่เจอ แต่แม่ฉันบอกว่าชีวิตเกิดมาทั้งที ต้องรู้จัก
พยายามให้ได้ของที่ต้องการมา เพราะหากได้มาง่ายๆ ของสิ่งนั้นก็จะไม่มีค่าให้เราได้ภูมิใจจะอยู่ไปอย่างวัน
โดยไร้ค่า ฉันกับแม่จึงฝ่าฟันชีวิตมาถึงทุกวันนี้แหละ”เสียงเด็กชายที่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่สอนปรัชญาเธอดูน่าขบ
ขันนัก แต่เธอก็แปลกใจที่เด็กคนนี้คิดดีถึงขนาดนี้
“เฮ้ยพวกแกมาทำอะไรว่ะ” เสียงโวยวายดังมาแต่ไกลของชายสองคน
“แย่แล้วพวกมันมาแล้ว หนีเร็ว” เสียงเด็กชายเตือนเธอพร้อมวิ่งหนีชายกลุ่มหนึ่งที่ตรงเข้ามา แต่เรเวนหนี
ไม่พ้นเธอถูกคว้าแขนไว้
เด็กชายเห็นดังนั้นจึงปากระป๋องเปล่าในกองขยะใส่พวกมันทันที ทำให้เธอหนีออกมาได้แต่เด็กชายเจ้า
กรรมกลับโดนจับซะนี่
“หนีไปก่อนยัยโง่” เรเวนวิ่งไปหลบที่กองขยะข้างๆ พลางคิดหาหนทางช่วยเหลือ
ฉันจะทำไงดี เด็กนั่นถูกจับเพราะเราแท้ๆ เรากลับมาหลบอยู่นี่ ต้องช่วยให้ได้ สายตาเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นของเธอ
ทอประกายกล้า “ดีหล่ะ” และแล้วเธอก็ทำสี่งที่บ้าบิ่นที่สุดโดยการออกไปประจันหน้ากับมัน
“นี่พวกแกรู้ไหมที่เนี่ยมีอัญมณีซ่อนอยู่ด้วย” เสียงเรเวนตะโกนเผชิญหน้ากับคนพวกนั้น
“ฮ่า ๆ เฮ้ยไอ้หนูนี่มันบอกว่ากองขยะนี่มีของดีซ่อนอยู่ว่ะ จะโกหกก็ให้มันสมจริงหน่อยสิ”
“ฉันพูดจริงตามมาสิ ฉันจะพาไปเองฉันพบมันแล้ว หากฉันโกหกก็จับฉันไปได้เลย พวกแกคงไม่กลัวผู้หญิง
อย่างฉันหรอกนะ” เรเวนตอบอย่างยียวน
เด็กชายมองดูเรเวนอย่างงุนงงโดยไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน จากสายตาใสซื่อที่เคยเห็นกลับกลายเป็นสายตา
เย็นชา สุขุมเด็ดเดี่ยวไม่กลัวใคร ทำให้แม้แต่เด็กชายยังหวาดเกรง
“ฮึ ดีหากแกโกหก แกได้ลงนรกแน่ ตามมันไป” เรเวนซ่อนรอยยิ้มเหี้ยมเจ้าเล่ห์และพอใจที่มันหลงกลเธอ
เดี๋ยวเป็นได้เห็นดีกันแน่ ฮึฮึ
“ถึงแล้ว” เธอเดินมาถึงบริเวณบ่อน้ำแห่งหนึ่งข้างกองขยะ
“ไม่เห็นจะมีอะไรเลย”เสียงผู้ชายคนหนึ่งแสดงอาการไม่พอใจ
“ก็นี่ไง” ว่าแล้วเรเวนก็วิ่งขึ้นไปบนกองขยะที่สูงที่สุดแถวนั้นแล้วกระโดดลงมาถีบชายคนหนึ่งตกบ่อน้ำ
ส่วนเด็กชายคนนั้นก็รีบผลักกองขยะทับชายอีกคนไว้แบบเดียวกับที่เคยทำกับเธอ แล้วทั้งคู่ก็รีบวิ่งหนีไปโดยมี
ชายสองคนนั้นตามมาติดๆ
“นี่จะทำอะไรน่ะ”เสียงเด็กชายถาม
“อยู่เฉยๆเหอะน่า ทำตามที่ฉันบอกนะ” แล้วเธอก็กระซิบแผนการบางอย่างกับเด็กชาย
“เข้าใจนะ โอเคงั้นไป”ว่าแล้วเรเวนกับเด็กชายก็แยกทางจากกัน
“แกไปทางซ้าย ส่วนฉันจะตามนังนั่นเอง จับมันให้ได้”ชายคนหนึ่งบอก
ดีหล่ะเป็นไปตามแผน ที่เหลือก็ต้องหาอุปกรณ์ช่วยหน่อย อืม ขยะพวกนี้น่าจะใช้ได้ เรเวนคิดอย่างพอใจ
“มันหายไปไหนว่ะ นังนั่นมันเร็วจริงๆ”
“เฮ้ย ฉันอยู่นี่แน่จริงก็มาจับสิ” เสียงยั่วโมโหลอยมาแต่ไกล
“หึ ถ้าฉันจับแกได้เมื่อไรล่ะก็” ว่าแล้วชายคนนั้นก็เหลือบเห็นสายลวดเก่าๆเล็กที่ขึงพาดไว้เกือบติดพื้นที่เต็ม
ไปด้วยน้ำมัน
“วางแผนกระจอกปัญญาอ่อนอย่างนี้ ใช้กับฉันไม่ได้หรอก”
“อ้อหรองั้นก็คอยดูแล้วกัน” ฉับพลันตู้ไม้เก่าๆก็เอนหล่นทับมาที่ชายคนนั้นอย่างพอดิบพอดี
แท้จริงแล้วลวดเส้นนั้นเธอไว้ใช้ล่อให้ชายคนนั้นหยุดดูมันเพื่อที่จะให้เชือกเส้นเก่าๆขาดทันเวลา และทำ
ให้ตู้ที่เธอผูกติดไว้เอนลงมาแต่ด้วยความฉลาดของเรเวนเธอรู้ดีว่าเพียงแค่นี้คงหยุดชายคนนั้นไม่ได้เธอจึง
เตรียมของขวัญพิเศษไว้ให้อีกด้วย...
มันคือไม้ขีดไฟที่เธอจุดแล้วทิ้งมันลงพื้นซึ่งเต็มไปด้วยน้ำมัน และจากการที่ชายคนนั้นล้มลงจึงทำให้ตัว
ของเขาชุ่มไปด้วยน้ำมัน และผลของมันก็คือ
“โอ๊ย ร้อน ช่วยด้วย”ชายคนนั้นร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
เสร็จไปหนึ่ง
ทางด้านเด็กชายก็ได้ทำตามที่เรเวนบอกโดยวิ่งไปตามทางจนพบทั้งถังสีที่เธอเตรียมไว้
“นี่แน่” เด็กชายสาดของในถังใสคนที่ตามมาทันที และภายในถังซึ่งเต็มไปด้วยยาฆ่าแมลง แอลกอฮอล์ และ
สารเคมีอีกมากมายที่เธอหาเจอในกองขยะ และแน่นอนว่ามันคือยาพิษชั้นดีทีเดียว
“เป็นไงบ้าง” เรเวนถามหลังมาพบกันตามที่ตกลงไว้
“สบายมาก โดนจัดการเรียบร้อย”เด็กชายตอบ
ตะวันคล้อยต่ำลับขอบฟ้าสีส้มราวกับเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าหมดเวลาของเธอแล้ว
“เฮ้อ นี่ฉันต้องกลับแล้วนะ”เธอบอกเด็กชายขณะนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน
“กลับ?ไปไหน” เรเวนไม่ตอบแต่เธอเดินห่างจากเด็กชายไปเรื่อยๆ ..เรื่อยๆ..จนหายลับไป
“นี่จะไปไหนน่ะ กลับมานะ เธอยังหาของไม่พบนะ”เด็กชายยังพร่ำตะโกนเรียกโดยที่ไม่รู้เลยว่าเธอกลับไป
ยังมิติลี้ลับที่เด็กชายจะไม่มีวันได้พบเธออีกเลย...
“กลับมาก่อน พี่สาว..” เสียงเรียกสุดท้ายที่เรเวนไม่มีวันได้รับรู้
เด็กชายเดินตรงกลับไปหาแม่ด้วยถ้าทีเศร้าสร้อย แต่เมื่อเขาพบแม่เขาก็ต้องประหลาดใจ เพราะแม่ของ
เขาดูอาการดีขึ้นอย่างน่าประหลาด
“แม่เกิดอะไรขึ้นน่ะ”เด็กชายถามอย่างตื่นเต้น
“พี่สาวคนนั้นเขานำอควาไนน์มาให้แม่ไงจ๊ะ”
“หา อย่างนี้ก็แปลว่าเขาหามันเจอน่ะสิ”
“ไม่ใช่หรอกจ๊ะ พี่เขาก็แค่มาชี้ทางให้แม่ให้แม่ได้รับรู้ว่าอควาไนน์ที่แท้จริงนั้นอยู่กับแม่ตลอดเวลาซึ่งก็คือลูก
ยังไงล่ะ สิ่งที่จะช่วยเยียวยาจิตใจของคนได้คือกำลังใจจากคนรอบข้างที่จะทำให้เราได้รับรู้ว่ายังมีคนที่ห่วงใย
ซึ่งมันจะทำให้แม่ต้องเข้มแข็งเอาชนะโรคร้ายให้ได้ ไม่มียาอะไรที่จะดีกว่านี้อีกแล้ว..”
ความคิดเห็น