ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภารกิจลับแห่งเบอร์มิวด้า

    ลำดับตอนที่ #2 : การเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 49


    บทที่1 การเริ่มต้น

          ภาพที่ เรเวน สาวน้อยวัย 16 ปี เห็นอยู่เบื้องหน้าไม่ใช่ภาพที่แสนโสภาเลยแม้แต่น้อย กองขยะพิษสูงเรียง

    ราย ฝุ่นละอองและหมอกควันที่ฟุ้งกระจายอยู่ทั่วบริเวณโดยรอบแทบทำให้เธอหายใจไม่ออก

         
          เมื่อ 3 วันก่อน

     
    อะไรนะ แม่จะให้ฉันไปเรียนที่ร.ร.เบอร์มิว เสียงร้องลั่นจากเด็กสาวหน้าตาน่ารัก รูปร่างเพรียวบางสม

    ส่วน  ผิวขาวอมชมพู ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนดูรับกันได้ดีกับผมสีน้ำตาลเข้มเป็นลอนเหมือนตุ๊กตาของเธอมอง

    แล้วน่าทะนุถนอมยิ่งนัก

      
    เออ แกฟังไม่ผิดหรอกแล้วไม่ต้องแหกปากลั่นขนาดนั้นหูจะแตก เสียงผู้เป็นแม่ดังขึ้น

     
    ไม่ ฉันไม่ไป ทำไมฉันต้องไปด้วย ฉันจะเดินทางไปกับแม่ ฉันรู้นะว่าแม่จะออกไปที่โลกมนุษย์

      
    เออแล้วไง แกก็รู้ดีว่าฉันไม่มีเงินพออีกแล้ว หากเราไปด้วยกันเราจะอดตายทั้งคู่ ฉันคนเดียวยังเอาตัวรอดได้

    แต่ถ้าแกมาด้วยมีหวังได้เป็นขอทานข้างถนนแน่  แกไปที่นั่นดีแล้วเขามีคนดูแลแกสารพัดทั้งเรื่องกินเรื่อง

    นอน เผลอๆ แกอาจได้เป็นผู้พิทักษ์กะเขาด้วย
    เสียงแม่อธิบายดังขึ้นกว่าเก่า

     
    แต่แม่ก็รู้ว่าที่นั่นเข้าได้ง่ายๆที่ไหน ฉันไปสู้รบปรบมือกับใครเขาเป็นที่ไหน ดาบก็ไม่เคยจับ เวทมนตร์ก็

    ไม่เคยใช้ แล้วก็ไม่มีอาวุธไฮเทคแพงๆ เหมือนคนอื่นด้วยอีกอย่างฉันก็อายุไม่ถึงด้วย เขารับเด็กอายุ 17 นะ

    แม่
    เสียงลูกยังชี้แจงอย่างลดละความพยายาม

     
    ว่ะแกก็โกหกไปสิว่าแกอายุ 17 ไม่เห็นจะยากแล้ว ไอ้พวกที่ไปสอบเขาก็ไม่รู้อะไรมากกว่าแกนักหรอกมีแต่

    พวกลูกหลานผู้พิทักษ์รุ่นก่อนๆหรืออะไรเทือกๆนั้นแหละที่ได้รู้มากกว่าแกหน่อย

      
    แล้วเขาจะทดสอบยังไงล่ะแม่

     
    ได้ยินว่าการทดสอบที่นี่เขาจะให้ใช้ไหวพริบปัญญามากกว่า ถ้าเรื่องนี้แกก็ไม่ต้องห่วงเพราะเรื่องเล่ห์

    เหลี่ยมแกได้เชื้อจากแม่แกมาเต็มสายเลือดอยู่แล้ว
    ผู้เป็นแม่ยิ้มอย่างพอใจ

        
        ส่วนผู้เป็นลูกได้แต่จนใจกับความคิดของแม่เหลือเกิน

    ..................................................

       

        ด้วยเหตุนี้ทำให้เรเวนต้องเข้ารับการทดสอบ แต่การทดสอบที่นี่กลับแปลกไม่เหมือนใคร

      
    โธ่ ไม่น่าเชื่อแม่เลย ดูซิฉันถูกส่งมาอยู่ที่ไหนของโลกก็ไม่รู้เจ้าตัวบ่นไปพลางมองกระดาษคำสั่งที่ทาง

    รร.ส่งให้สำหรับผู้ทดสอบ

     
    1.ให้ผู้เข้าสอบทุกคนขึ้นแตะลูกบอลที่ทางร.ร.ส่งไปให้ มันจะพาทุกท่านไปยังสนามสอบ

       
    สนามสอบบ้านไหนเขาเป็นกองขยะอย่างนี้ฟะ ว่าแล้วก็พลางก้มหน้าอ่านต่อ


    2. ให้ผู้เข้าสอบค้นหาของที่ทางร.ร.จัดไว้ให้พบโดยจะมีคำใบ้คอยช่วยเหลือ


    3. หากหาของสิ่งนั้นพบแล้วให้จับลูกบอลเพื่อจะนำทางกลับมาส่งที่ร.ร.โดยต้องใช้เวลาไม่เกิน1 วัน


    4. นำสิ่งของมามอบให้เจ้าพนักงานหากหาของได้ถูกต้องทางร.ร.จะถือว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมและอนุญาต

    ให้เข้ารับการศึกษาได้

       
       
    คำใบ้ 1. บ้างว่ามันมีคุณเหลือคณา บ้างว่ามันมีโทษร้ายแรงนัก

                  
             2. บ้างว่ามันสวยงามดุจของสวรรค์ บ้างว่ามันน่าเกียจน่าสะพรึงกลัว

                  
             3. ไม่ว่าใครจะเห็นเช่นไร แต่มันเกิดจากสิ่งที่งดงามที่สุดในโลก

        

          คำใบ้ที่ยิ่งทำให้เรเวนสติแตก หลังจากถูกส่งมาที่กองขยะ ในความคิดของเรเวนของที่เกิดจากสิ่งสวยๆ

    งามๆจะมาอยู่ในกองขยะได้ยังไง  มันต้องอยู่ในปราสาท คฤหาสน์ถึงจะถูก กองขยะจึงเป็นสถานที่สุดท้ายที่

    เธอจะมา แต่ไอ้ลูกบอลกลับส่งเธอมาที่นี่เฉยเลย

       
    สงสัยจะเจ๊งซะแล้วไอ้ลูกบอลนี่ว่าแล้วพลางทอดสายตาไปยังกองขยะที่เธอต้องคุ้ยมันออกมา

        
    เฮ้อไหนๆก็มาขนาดนี้แล้วลองหาดูสักตั้ง สู้โว้ย

    ........................................................
      
    และแล้วการคุ้ยขยะก็เริ่มต้นขึ้น

         
    โอ๊ย เสียงเรเวนร้องขึ้นหลังจากการก้มหน้าก้มตาคุ้ยขยะโดยไม่ทันเห็นผู้มาใหม่ ซึ่งต้อนรับเธอด้วยการ

    ปากระป๋องปลาเปล่ามาโดนหัวเธออย่างจัง

       
    ออกไปซะ ที่นี่เป็นที่ของฉัน เสียงมาจากเด็กชายตัวเล็กๆคนที่ปากระป๋องใส่เธอเมื่อกี้ ด้วยความโมโหเร

    เวนจึงตวาดกลับไปด้วยเสียงอันดัง

       
    หนอย ไอ้เด็กบ้า ปามาได้ หัวคนนะไม่ใช่ปูนซีเมนต์  อีกอย่างฉันก็อยากอยู่นักหรอกไอ้กองขยะเน่าๆเนี้ย

     
    สิ้นเสียงตวาด เด็กชายคนนั้นก็น้ำตาเล็ดออกมาทันที

     
    เฮ้ย อะไรอีกเนี้ย อารามตกใจทำให้เรเวนวิ่งเข้าไปปลอบทันทีด้วยเหตุผลที่ว่าแม่สอนว่าอย่าทำเด็กร้องไห้


    แต่แล้ว ...

     

    ฮ่า ฮ่า สมน้ำหน้ายัยโง่


    โอ๊ย ไอ้เด็กเลว เสียงเรเวนร้องอย่างเจ็บแค้นพร้อมวิ่งตามเด็กที่หนีไปหลังจากที่เธอเข้าไปปลอบและโดน

    เด็กชายพลักกองขยะมาทับเข้าอย่างจัง

     
    เรเวนวิ่งตามเด็กชายจนไปถึงซอกตึกแห่งหนึ่ง เธอพบหญิงชราคนหนึ่งนอนหอบอยู่บนเสื่อขาดๆ


    อย่ามายุ่งกับแม่ฉันนะ เสียงเด็กชายร้องขึ้น พร้อมหยิบท่อนไม้ผุๆอันหนึ่งมาคอยปัดเธอให้ออกไปห่างๆ

     
    เมื่อเรเวนเห็นภาพนั้นแล้วความโกรธก็จางหายไปทันทีเพราะมันทำให้เธอนึกถึงตัวเองที่เคยปกป้องแม่เมื่อ

    ตอนยังเด็ก


    ไม่เป็นไร ฉันไม่ทำอะไรหรอก เรเวนพูดอย่างอ่อนโยน


    ฉันไม่เชื่อหรอกคนหลอกลวง พวกแกเป็นพวกเดียวกับคนที่จะมาซื้อที่แถวนี้ไปสร้างคฤหาสน์สินะ ฉันไม่

    ยอมหรอกไอ้พวกคนใจดำ
    เรเวนเกิดอาการฉงนขึ้นมาทันที


    แค่กๆ ลูกอย่าทำพี่สาวคนนี้เขาเลยนะ เขาไม่ใช่คนพวกนั้นหรอก


    ไม่จริงอ่ะ ผมเห็นมันสำรวจกองขยะอยู่นี่คงคิดจะเอาไปขายทิ้งแน่

           
    ไม่ใช่สักหน่อย ฉันมาหาของต่างหาก แล้วฉันก็อยากช่วยแม่เธอด้วย เสียงเรเวนแย้ง


    ถ้าหากแกอยากช่วย แน่จริงก็ไปขโมยอควาไนท์มาให้ฉันสิเด็กชายพูดท้าทายโดยคิดว่าเธอคงไม่ทำอยู่แล้ว


    หืม อควาไนท์ มันคืออะไรเรเวนถามอย่างสงสัย


    อควาไนท์เป็นอัญมณีมีค่าหากวันพระจันทร์เต็มดวงจะทอแสงสวยงามสามารถรักษาโรคทุกชนิด แต่วัน

    เดือนดับจะเปล่งรังสีน่าสะพรึงกลัวและจะทำลายอวัยวะของผู้ที่สัมผัสมัน
    เสียงหญิงชราอธิบายซึ่งทำให้เร

    เวนสะดุ้งเฮือก

     
         หรือจะเป็นของที่ร.ร.ให้หา เพื่อความมั่นใจเธอจึงถามหญิงชราต่อไปว่า


    มันเกิดจากอะไรหรือจ๊ะ


    ได้ยินว่ามันเกิดจากน้ำค้างบริสุทธิ์บนดอกโทเนียที่สวยงามที่สุดในโลก

          
            ใช่แหงๆไอ้สิ่งนี้แหละที่ฉันต้องการ


    ลูกชายฉันต้องการเพื่อจะมารักษาฉันที่ป่วยอยู่ให้หาย  เดิมทีเราจะออกไปตั้งต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน แต่ฉันกลับ

    มาป่วยจึงเดินทางไม่ได้ สงสารก็แต่ลูกที่ต้องคอยดูแลเป็นภาระ และยังไปมีเรื่องกลับคนที่จะมาสร้างคฤหาสน์

    อีก


    ก็ฉันเกลียดพวกมันนี่ มันจะไล่พวกเราไป

        
        บทสนทนาที่ทำให้เรเวนชะงักทันที


       จริงสิ หากเราได้อควาไนท์ไปแม่ลูกคู่นี้ก็จะลำบาก แต่หากเราไม่เอาไปเราก็จะลำบาก
    แล้วจะทำไงดี


    ไอ้อควาไนท์นั่นอยู่ที่ไหนล่ะ เธอถาม หาให้เจอก่อนค่อยว่ากันใหม่แล้วกัน


    หืม อยู่ที่กองขยะนั่นแหละ นึกว่าจะรู้แล้วสักอีกเห็นค้นอยู่นี่ ไอ้คนพวกนั้นน่ะโง่มีอัญมณีมีค่าซ่อนอยู่กลับ

    จะสร้างคฤหาสน์แทน

       
         สงสัยไอ้กองขยะนี่จะเป็นเพชรในตมจริงๆ


    ดี งั้นเรามาช่วยกันหาก่อนที่คนพวกนั้นจะมา เรเวนตอบอย่างมั่นใจ

           
              5 ชั่วโมงผ่านไป


    โอ๊ย ทำไมมันเหนื่อยอย่างนี้หามาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะเจอไอ้เด็กนั่นหลอกฉันรึเปล่าเนี้ย


    นี่ ของดีก็หายากแหละฉันเองก็หามาตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่เจอ แต่แม่ฉันบอกว่าชีวิตเกิดมาทั้งที ต้องรู้จัก

    พยายามให้ได้ของที่ต้องการมา เพราะหากได้มาง่ายๆ ของสิ่งนั้นก็จะไม่มีค่าให้เราได้ภูมิใจจะอยู่ไปอย่างวัน

    โดยไร้ค่า ฉันกับแม่จึงฝ่าฟันชีวิตมาถึงทุกวันนี้แหละ
    เสียงเด็กชายที่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่สอนปรัชญาเธอดูน่าขบ

    ขันนัก แต่เธอก็แปลกใจที่เด็กคนนี้คิดดีถึงขนาดนี้

     
    เฮ้ยพวกแกมาทำอะไรว่ะ เสียงโวยวายดังมาแต่ไกลของชายสองคน


    แย่แล้วพวกมันมาแล้ว หนีเร็ว เสียงเด็กชายเตือนเธอพร้อมวิ่งหนีชายกลุ่มหนึ่งที่ตรงเข้ามา แต่เรเวนหนี

    ไม่พ้นเธอถูกคว้าแขนไว้

     
          เด็กชายเห็นดังนั้นจึงปากระป๋องเปล่าในกองขยะใส่พวกมันทันที
    ทำให้เธอหนีออกมาได้แต่เด็กชายเจ้า

    กรรมกลับโดนจับซะนี่


    หนีไปก่อนยัยโง่ เรเวนวิ่งไปหลบที่กองขยะข้างๆ พลางคิดหาหนทางช่วยเหลือ

     
    ฉันจะทำไงดี เด็กนั่นถูกจับเพราะเราแท้ๆ เรากลับมาหลบอยู่นี่ ต้องช่วยให้ได้ สายตาเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นของเธอ

    ทอประกายกล้า
    ดีหล่ะ และแล้วเธอก็ทำสี่งที่บ้าบิ่นที่สุดโดยการออกไปประจันหน้ากับมัน


    นี่พวกแกรู้ไหมที่เนี่ยมีอัญมณีซ่อนอยู่ด้วย เสียงเรเวนตะโกนเผชิญหน้ากับคนพวกนั้น


    ฮ่า ๆ เฮ้ยไอ้หนูนี่มันบอกว่ากองขยะนี่มีของดีซ่อนอยู่ว่ะ จะโกหกก็ให้มันสมจริงหน่อยสิ


    ฉันพูดจริงตามมาสิ ฉันจะพาไปเองฉันพบมันแล้ว หากฉันโกหกก็จับฉันไปได้เลย พวกแกคงไม่กลัวผู้หญิง

    อย่างฉันหรอกนะ
    เรเวนตอบอย่างยียวน

     
           เด็กชายมองดูเรเวนอย่างงุนงงโดยไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน จากสายตาใสซื่อที่เคยเห็นกลับกลายเป็นสายตา

    เย็นชา สุขุมเด็ดเดี่ยวไม่กลัวใคร ทำให้แม้แต่เด็กชายยังหวาดเกรง


    ฮึ ดีหากแกโกหก แกได้ลงนรกแน่ ตามมันไป เรเวนซ่อนรอยยิ้มเหี้ยมเจ้าเล่ห์และพอใจที่มันหลงกลเธอ

      
           เดี๋ยวเป็นได้เห็นดีกันแน่ ฮึฮึ



    ถึงแล้ว เธอเดินมาถึงบริเวณบ่อน้ำแห่งหนึ่งข้างกองขยะ


    ไม่เห็นจะมีอะไรเลยเสียงผู้ชายคนหนึ่งแสดงอาการไม่พอใจ


    ก็นี่ไง ว่าแล้วเรเวนก็วิ่งขึ้นไปบนกองขยะที่สูงที่สุดแถวนั้นแล้วกระโดดลงมาถีบชายคนหนึ่งตกบ่อน้ำ


    ส่วนเด็กชายคนนั้นก็รีบผลักกองขยะทับชายอีกคนไว้แบบเดียวกับที่เคยทำกับเธอ แล้วทั้งคู่ก็รีบวิ่งหนีไปโดยมี

    ชายสองคนนั้นตามมาติดๆ

      
    นี่จะทำอะไรน่ะเสียงเด็กชายถาม


    อยู่เฉยๆเหอะน่า ทำตามที่ฉันบอกนะ แล้วเธอก็กระซิบแผนการบางอย่างกับเด็กชาย


    เข้าใจนะ โอเคงั้นไปว่าแล้วเรเวนกับเด็กชายก็แยกทางจากกัน


    แกไปทางซ้าย ส่วนฉันจะตามนังนั่นเอง จับมันให้ได้ชายคนหนึ่งบอก

     
    ดีหล่ะเป็นไปตามแผน ที่เหลือก็ต้องหาอุปกรณ์ช่วยหน่อย อืม ขยะพวกนี้น่าจะใช้ได้ เรเวนคิดอย่างพอใจ


    มันหายไปไหนว่ะ นังนั่นมันเร็วจริงๆ


    เฮ้ย ฉันอยู่นี่แน่จริงก็มาจับสิ เสียงยั่วโมโหลอยมาแต่ไกล


    หึ ถ้าฉันจับแกได้เมื่อไรล่ะก็ ว่าแล้วชายคนนั้นก็เหลือบเห็นสายลวดเก่าๆเล็กที่ขึงพาดไว้เกือบติดพื้นที่เต็ม

    ไปด้วยน้ำมัน

     
    วางแผนกระจอกปัญญาอ่อนอย่างนี้ ใช้กับฉันไม่ได้หรอก


    อ้อหรองั้นก็คอยดูแล้วกัน ฉับพลันตู้ไม้เก่าๆก็เอนหล่นทับมาที่ชายคนนั้นอย่างพอดิบพอดี

         
         แท้จริงแล้วลวดเส้นนั้นเธอไว้ใช้ล่อให้ชายคนนั้นหยุดดูมันเพื่อที่จะให้เชือกเส้นเก่าๆขาดทันเวลา และทำ

    ให้ตู้ที่เธอผูกติดไว้เอนลงมาแต่ด้วยความฉลาดของเรเวนเธอรู้ดีว่าเพียงแค่นี้คงหยุดชายคนนั้นไม่ได้เธอจึง

    เตรียมของขวัญพิเศษไว้ให้อีกด้วย
    ...

       
          มันคือไม้ขีดไฟที่เธอจุดแล้วทิ้งมันลงพื้นซึ่งเต็มไปด้วยน้ำมัน และจากการที่ชายคนนั้นล้มลงจึงทำให้ตัว

    ของเขาชุ่มไปด้วยน้ำมัน และผลของมันก็คือ


    โอ๊ย ร้อน ช่วยด้วยชายคนนั้นร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด

     
               เสร็จไปหนึ่ง


         ทางด้านเด็กชายก็ได้ทำตามที่เรเวนบอกโดยวิ่งไปตามทางจนพบทั้งถังสีที่เธอเตรียมไว้


    นี่แน่ เด็กชายสาดของในถังใสคนที่ตามมาทันที และภายในถังซึ่งเต็มไปด้วยยาฆ่าแมลง แอลกอฮอล์  และ

    สารเคมีอีกมากมายที่เธอหาเจอในกองขยะ และแน่นอนว่ามันคือยาพิษชั้นดีทีเดียว


    เป็นไงบ้าง เรเวนถามหลังมาพบกันตามที่ตกลงไว้


    สบายมาก โดนจัดการเรียบร้อยเด็กชายตอบ

         
          ตะวันคล้อยต่ำลับขอบฟ้าสีส้มราวกับเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าหมดเวลาของเธอแล้ว


    เฮ้อ นี่ฉันต้องกลับแล้วนะเธอบอกเด็กชายขณะนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน


    กลับ?ไปไหน เรเวนไม่ตอบแต่เธอเดินห่างจากเด็กชายไปเรื่อยๆ ..เรื่อยๆ..จนหายลับไป


    นี่จะไปไหนน่ะ กลับมานะ เธอยังหาของไม่พบนะเด็กชายยังพร่ำตะโกนเรียกโดยที่ไม่รู้เลยว่าเธอกลับไป

    ยังมิติลี้ลับที่เด็กชายจะไม่มีวันได้พบเธออีกเลย
    ...


    กลับมาก่อน พี่สาว.. เสียงเรียกสุดท้ายที่เรเวนไม่มีวันได้รับรู้

       
           
    เด็กชายเดินตรงกลับไปหาแม่ด้วยถ้าทีเศร้าสร้อย แต่เมื่อเขาพบแม่เขาก็ต้องประหลาดใจ เพราะแม่ของ

    เขาดูอาการดีขึ้นอย่างน่าประหลาด


    แม่เกิดอะไรขึ้นน่ะเด็กชายถามอย่างตื่นเต้น


    พี่สาวคนนั้นเขานำอควาไนน์มาให้แม่ไงจ๊ะ


    หา อย่างนี้ก็แปลว่าเขาหามันเจอน่ะสิ


    ไม่ใช่หรอกจ๊ะ พี่เขาก็แค่มาชี้ทางให้แม่ให้แม่ได้รับรู้ว่าอควาไนน์ที่แท้จริงนั้นอยู่กับแม่ตลอดเวลาซึ่งก็คือลูก

    ยังไงล่ะ สิ่งที่จะช่วยเยียวยาจิตใจของคนได้คือกำลังใจจากคนรอบข้างที่จะทำให้เราได้รับรู้ว่ายังมีคนที่ห่วงใย
    ซึ่งมันจะทำให้แม่ต้องเข้มแข็งเอาชนะโรคร้ายให้ได้ ไม่มียาอะไรที่จะดีกว่านี้อีกแล้ว..

        ด้วยเหตุนี้ทำให้เรเวนต้องเข้ารับการทดสอบ แต่การทดสอบที่นี่กลับแปลกไม่เหมือนใคร

      
    โธ่ ไม่น่าเชื่อแม่เลย ดูซิฉันถูกส่งมาอยู่ที่ไหนของโลกก็ไม่รู้เจ้าตัวบ่นไปพลางมองกระดาษคำสั่งที่ทาง

    รร.ส่งให้สำหรับผู้ทดสอบ

     
    1.ให้ผู้เข้าสอบทุกคนขึ้นแตะลูกบอลที่ทางร.ร.ส่งไปให้ มันจะพาทุกท่านไปยังสนามสอบ

       
    สนามสอบบ้านไหนเขาเป็นกองขยะอย่างนี้ฟะ ว่าแล้วก็พลางก้มหน้าอ่านต่อ


    2. ให้ผู้เข้าสอบค้นหาของที่ทางร.ร.จัดไว้ให้พบโดยจะมีคำใบ้คอยช่วยเหลือ


    3. หากหาของสิ่งนั้นพบแล้วให้จับลูกบอลเพื่อจะนำทางกลับมาส่งที่ร.ร.โดยต้องใช้เวลาไม่เกิน1 วัน


    4. นำสิ่งของมามอบให้เจ้าพนักงานหากหาของได้ถูกต้องทางร.ร.จะถือว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมและอนุญาต

    ให้เข้ารับการศึกษาได้

       
       
    คำใบ้ 1. บ้างว่ามันมีคุณเหลือคณา บ้างว่ามันมีโทษร้ายแรงนัก

                  
             2. บ้างว่ามันสวยงามดุจของสวรรค์ บ้างว่ามันน่าเกียจน่าสะพรึงกลัว

                  
             3. ไม่ว่าใครจะเห็นเช่นไร แต่มันเกิดจากสิ่งที่งดงามที่สุดในโลก

        

          คำใบ้ที่ยิ่งทำให้เรเวนสติแตก หลังจากถูกส่งมาที่กองขยะ ในความคิดของเรเวนของที่เกิดจากสิ่งสวยๆ

    งามๆจะมาอยู่ในกองขยะได้ยังไง  มันต้องอยู่ในปราสาท คฤหาสน์ถึงจะถูก กองขยะจึงเป็นสถานที่สุดท้ายที่

    เธอจะมา แต่ไอ้ลูกบอลกลับส่งเธอมาที่นี่เฉยเลย

       
    สงสัยจะเจ๊งซะแล้วไอ้ลูกบอลนี่ว่าแล้วพลางทอดสายตาไปยังกองขยะที่เธอต้องคุ้ยมันออกมา

        
    เฮ้อไหนๆก็มาขนาดนี้แล้วลองหาดูสักตั้ง สู้โว้ย

    ........................................................
      
    และแล้วการคุ้ยขยะก็เริ่มต้นขึ้น

         
    โอ๊ย เสียงเรเวนร้องขึ้นหลังจากการก้มหน้าก้มตาคุ้ยขยะโดยไม่ทันเห็นผู้มาใหม่ ซึ่งต้อนรับเธอด้วยการ

    ปากระป๋องปลาเปล่ามาโดนหัวเธออย่างจัง

       
    ออกไปซะ ที่นี่เป็นที่ของฉัน เสียงมาจากเด็กชายตัวเล็กๆคนที่ปากระป๋องใส่เธอเมื่อกี้ ด้วยความโมโหเร

    เวนจึงตวาดกลับไปด้วยเสียงอันดัง

       
    หนอย ไอ้เด็กบ้า ปามาได้ หัวคนนะไม่ใช่ปูนซีเมนต์  อีกอย่างฉันก็อยากอยู่นักหรอกไอ้กองขยะเน่าๆเนี้ย

     
    สิ้นเสียงตวาด เด็กชายคนนั้นก็น้ำตาเล็ดออกมาทันที

     
    เฮ้ย อะไรอีกเนี้ย อารามตกใจทำให้เรเวนวิ่งเข้าไปปลอบทันทีด้วยเหตุผลที่ว่าแม่สอนว่าอย่าทำเด็กร้องไห้


    แต่แล้ว ...

     

    ฮ่า ฮ่า สมน้ำหน้ายัยโง่


    โอ๊ย ไอ้เด็กเลว เสียงเรเวนร้องอย่างเจ็บแค้นพร้อมวิ่งตามเด็กที่หนีไปหลังจากที่เธอเข้าไปปลอบและโดน

    เด็กชายพลักกองขยะมาทับเข้าอย่างจัง

     
    เรเวนวิ่งตามเด็กชายจนไปถึงซอกตึกแห่งหนึ่ง เธอพบหญิงชราคนหนึ่งนอนหอบอยู่บนเสื่อขาดๆ


    อย่ามายุ่งกับแม่ฉันนะ เสียงเด็กชายร้องขึ้น พร้อมหยิบท่อนไม้ผุๆอันหนึ่งมาคอยปัดเธอให้ออกไปห่างๆ

     
    เมื่อเรเวนเห็นภาพนั้นแล้วความโกรธก็จางหายไปทันทีเพราะมันทำให้เธอนึกถึงตัวเองที่เคยปกป้องแม่เมื่อ

    ตอนยังเด็ก


    ไม่เป็นไร ฉันไม่ทำอะไรหรอก เรเวนพูดอย่างอ่อนโยน


    ฉันไม่เชื่อหรอกคนหลอกลวง พวกแกเป็นพวกเดียวกับคนที่จะมาซื้อที่แถวนี้ไปสร้างคฤหาสน์สินะ ฉันไม่

    ยอมหรอกไอ้พวกคนใจดำ
    เรเวนเกิดอาการฉงนขึ้นมาทันที


    แค่กๆ ลูกอย่าทำพี่สาวคนนี้เขาเลยนะ เขาไม่ใช่คนพวกนั้นหรอก


    ไม่จริงอ่ะ ผมเห็นมันสำรวจกองขยะอยู่นี่คงคิดจะเอาไปขายทิ้งแน่

           
    ไม่ใช่สักหน่อย ฉันมาหาของต่างหาก แล้วฉันก็อยากช่วยแม่เธอด้วย เสียงเรเวนแย้ง


    ถ้าหากแกอยากช่วย แน่จริงก็ไปขโมยอควาไนท์มาให้ฉันสิเด็กชายพูดท้าทายโดยคิดว่าเธอคงไม่ทำอยู่แล้ว


    หืม อควาไนท์ มันคืออะไรเรเวนถามอย่างสงสัย


    อควาไนท์เป็นอัญมณีมีค่าหากวันพระจันทร์เต็มดวงจะทอแสงสวยงามสามารถรักษาโรคทุกชนิด แต่วัน

    เดือนดับจะเปล่งรังสีน่าสะพรึงกลัวและจะทำลายอวัยวะของผู้ที่สัมผัสมัน
    เสียงหญิงชราอธิบายซึ่งทำให้เร

    เวนสะดุ้งเฮือก

     
         หรือจะเป็นของที่ร.ร.ให้หา เพื่อความมั่นใจเธอจึงถามหญิงชราต่อไปว่า


    มันเกิดจากอะไรหรือจ๊ะ


    ได้ยินว่ามันเกิดจากน้ำค้างบริสุทธิ์บนดอกโทเนียที่สวยงามที่สุดในโลก

          
            ใช่แหงๆไอ้สิ่งนี้แหละที่ฉันต้องการ


    ลูกชายฉันต้องการเพื่อจะมารักษาฉันที่ป่วยอยู่ให้หาย  เดิมทีเราจะออกไปตั้งต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน แต่ฉันกลับ

    มาป่วยจึงเดินทางไม่ได้ สงสารก็แต่ลูกที่ต้องคอยดูแลเป็นภาระ และยังไปมีเรื่องกลับคนที่จะมาสร้างคฤหาสน์

    อีก


    ก็ฉันเกลียดพวกมันนี่ มันจะไล่พวกเราไป

        
        บทสนทนาที่ทำให้เรเวนชะงักทันที


       จริงสิ หากเราได้อควาไนท์ไปแม่ลูกคู่นี้ก็จะลำบาก แต่หากเราไม่เอาไปเราก็จะลำบาก
    แล้วจะทำไงดี


    ไอ้อควาไนท์นั่นอยู่ที่ไหนล่ะ เธอถาม หาให้เจอก่อนค่อยว่ากันใหม่แล้วกัน


    หืม อยู่ที่กองขยะนั่นแหละ นึกว่าจะรู้แล้วสักอีกเห็นค้นอยู่นี่ ไอ้คนพวกนั้นน่ะโง่มีอัญมณีมีค่าซ่อนอยู่กลับ

    จะสร้างคฤหาสน์แทน

       
         สงสัยไอ้กองขยะนี่จะเป็นเพชรในตมจริงๆ


    ดี งั้นเรามาช่วยกันหาก่อนที่คนพวกนั้นจะมา เรเวนตอบอย่างมั่นใจ

           
              5 ชั่วโมงผ่านไป


    โอ๊ย ทำไมมันเหนื่อยอย่างนี้หามาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะเจอไอ้เด็กนั่นหลอกฉันรึเปล่าเนี้ย


    นี่ ของดีก็หายากแหละฉันเองก็หามาตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่เจอ แต่แม่ฉันบอกว่าชีวิตเกิดมาทั้งที ต้องรู้จัก

    พยายามให้ได้ของที่ต้องการมา เพราะหากได้มาง่ายๆ ของสิ่งนั้นก็จะไม่มีค่าให้เราได้ภูมิใจจะอยู่ไปอย่างวัน

    โดยไร้ค่า ฉันกับแม่จึงฝ่าฟันชีวิตมาถึงทุกวันนี้แหละ
    เสียงเด็กชายที่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่สอนปรัชญาเธอดูน่าขบ

    ขันนัก แต่เธอก็แปลกใจที่เด็กคนนี้คิดดีถึงขนาดนี้

     
    เฮ้ยพวกแกมาทำอะไรว่ะ เสียงโวยวายดังมาแต่ไกลของชายสองคน


    แย่แล้วพวกมันมาแล้ว หนีเร็ว เสียงเด็กชายเตือนเธอพร้อมวิ่งหนีชายกลุ่มหนึ่งที่ตรงเข้ามา แต่เรเวนหนี

    ไม่พ้นเธอถูกคว้าแขนไว้

     
          เด็กชายเห็นดังนั้นจึงปากระป๋องเปล่าในกองขยะใส่พวกมันทันที
    ทำให้เธอหนีออกมาได้แต่เด็กชายเจ้า

    กรรมกลับโดนจับซะนี่


    หนีไปก่อนยัยโง่ เรเวนวิ่งไปหลบที่กองขยะข้างๆ พลางคิดหาหนทางช่วยเหลือ

     
    ฉันจะทำไงดี เด็กนั่นถูกจับเพราะเราแท้ๆ เรากลับมาหลบอยู่นี่ ต้องช่วยให้ได้ สายตาเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นของเธอ

    ทอประกายกล้า
    ดีหล่ะ และแล้วเธอก็ทำสี่งที่บ้าบิ่นที่สุดโดยการออกไปประจันหน้ากับมัน


    นี่พวกแกรู้ไหมที่เนี่ยมีอัญมณีซ่อนอยู่ด้วย เสียงเรเวนตะโกนเผชิญหน้ากับคนพวกนั้น


    ฮ่า ๆ เฮ้ยไอ้หนูนี่มันบอกว่ากองขยะนี่มีของดีซ่อนอยู่ว่ะ จะโกหกก็ให้มันสมจริงหน่อยสิ


    ฉันพูดจริงตามมาสิ ฉันจะพาไปเองฉันพบมันแล้ว หากฉันโกหกก็จับฉันไปได้เลย พวกแกคงไม่กลัวผู้หญิง

    อย่างฉันหรอกนะ
    เรเวนตอบอย่างยียวน

     
           เด็กชายมองดูเรเวนอย่างงุนงงโดยไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน จากสายตาใสซื่อที่เคยเห็นกลับกลายเป็นสายตา

    เย็นชา สุขุมเด็ดเดี่ยวไม่กลัวใคร ทำให้แม้แต่เด็กชายยังหวาดเกรง


    ฮึ ดีหากแกโกหก แกได้ลงนรกแน่ ตามมันไป เรเวนซ่อนรอยยิ้มเหี้ยมเจ้าเล่ห์และพอใจที่มันหลงกลเธอ

      
           เดี๋ยวเป็นได้เห็นดีกันแน่ ฮึฮึ



    ถึงแล้ว เธอเดินมาถึงบริเวณบ่อน้ำแห่งหนึ่งข้างกองขยะ


    ไม่เห็นจะมีอะไรเลยเสียงผู้ชายคนหนึ่งแสดงอาการไม่พอใจ


    ก็นี่ไง ว่าแล้วเรเวนก็วิ่งขึ้นไปบนกองขยะที่สูงที่สุดแถวนั้นแล้วกระโดดลงมาถีบชายคนหนึ่งตกบ่อน้ำ


    ส่วนเด็กชายคนนั้นก็รีบผลักกองขยะทับชายอีกคนไว้แบบเดียวกับที่เคยทำกับเธอ แล้วทั้งคู่ก็รีบวิ่งหนีไปโดยมี

    ชายสองคนนั้นตามมาติดๆ

      
    นี่จะทำอะไรน่ะเสียงเด็กชายถาม


    อยู่เฉยๆเหอะน่า ทำตามที่ฉันบอกนะ แล้วเธอก็กระซิบแผนการบางอย่างกับเด็กชาย


    เข้าใจนะ โอเคงั้นไปว่าแล้วเรเวนกับเด็กชายก็แยกทางจากกัน


    แกไปทางซ้าย ส่วนฉันจะตามนังนั่นเอง จับมันให้ได้ชายคนหนึ่งบอก

     
    ดีหล่ะเป็นไปตามแผน ที่เหลือก็ต้องหาอุปกรณ์ช่วยหน่อย อืม ขยะพวกนี้น่าจะใช้ได้ เรเวนคิดอย่างพอใจ


    มันหายไปไหนว่ะ นังนั่นมันเร็วจริงๆ


    เฮ้ย ฉันอยู่นี่แน่จริงก็มาจับสิ เสียงยั่วโมโหลอยมาแต่ไกล


    หึ ถ้าฉันจับแกได้เมื่อไรล่ะก็ ว่าแล้วชายคนนั้นก็เหลือบเห็นสายลวดเก่าๆเล็กที่ขึงพาดไว้เกือบติดพื้นที่เต็ม

    ไปด้วยน้ำมัน

     
    วางแผนกระจอกปัญญาอ่อนอย่างนี้ ใช้กับฉันไม่ได้หรอก


    อ้อหรองั้นก็คอยดูแล้วกัน ฉับพลันตู้ไม้เก่าๆก็เอนหล่นทับมาที่ชายคนนั้นอย่างพอดิบพอดี

         
         แท้จริงแล้วลวดเส้นนั้นเธอไว้ใช้ล่อให้ชายคนนั้นหยุดดูมันเพื่อที่จะให้เชือกเส้นเก่าๆขาดทันเวลา และทำ

    ให้ตู้ที่เธอผูกติดไว้เอนลงมาแต่ด้วยความฉลาดของเรเวนเธอรู้ดีว่าเพียงแค่นี้คงหยุดชายคนนั้นไม่ได้เธอจึง

    เตรียมของขวัญพิเศษไว้ให้อีกด้วย
    ...

       
          มันคือไม้ขีดไฟที่เธอจุดแล้วทิ้งมันลงพื้นซึ่งเต็มไปด้วยน้ำมัน และจากการที่ชายคนนั้นล้มลงจึงทำให้ตัว

    ของเขาชุ่มไปด้วยน้ำมัน และผลของมันก็คือ


    โอ๊ย ร้อน ช่วยด้วยชายคนนั้นร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด

     
               เสร็จไปหนึ่ง


         ทางด้านเด็กชายก็ได้ทำตามที่เรเวนบอกโดยวิ่งไปตามทางจนพบทั้งถังสีที่เธอเตรียมไว้


    นี่แน่ เด็กชายสาดของในถังใสคนที่ตามมาทันที และภายในถังซึ่งเต็มไปด้วยยาฆ่าแมลง แอลกอฮอล์  และ

    สารเคมีอีกมากมายที่เธอหาเจอในกองขยะ และแน่นอนว่ามันคือยาพิษชั้นดีทีเดียว


    เป็นไงบ้าง เรเวนถามหลังมาพบกันตามที่ตกลงไว้


    สบายมาก โดนจัดการเรียบร้อยเด็กชายตอบ

         
          ตะวันคล้อยต่ำลับขอบฟ้าสีส้มราวกับเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าหมดเวลาของเธอแล้ว


    เฮ้อ นี่ฉันต้องกลับแล้วนะเธอบอกเด็กชายขณะนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน


    กลับ?ไปไหน เรเวนไม่ตอบแต่เธอเดินห่างจากเด็กชายไปเรื่อยๆ ..เรื่อยๆ..จนหายลับไป


    นี่จะไปไหนน่ะ กลับมานะ เธอยังหาของไม่พบนะเด็กชายยังพร่ำตะโกนเรียกโดยที่ไม่รู้เลยว่าเธอกลับไป

    ยังมิติลี้ลับที่เด็กชายจะไม่มีวันได้พบเธออีกเลย
    ...


    กลับมาก่อน พี่สาว.. เสียงเรียกสุดท้ายที่เรเวนไม่มีวันได้รับรู้

       
           
    เด็กชายเดินตรงกลับไปหาแม่ด้วยถ้าทีเศร้าสร้อย แต่เมื่อเขาพบแม่เขาก็ต้องประหลาดใจ เพราะแม่ของ

    เขาดูอาการดีขึ้นอย่างน่าประหลาด


    แม่เกิดอะไรขึ้นน่ะเด็กชายถามอย่างตื่นเต้น


    พี่สาวคนนั้นเขานำอควาไนน์มาให้แม่ไงจ๊ะ


    หา อย่างนี้ก็แปลว่าเขาหามันเจอน่ะสิ


    ไม่ใช่หรอกจ๊ะ พี่เขาก็แค่มาชี้ทางให้แม่ให้แม่ได้รับรู้ว่าอควาไนน์ที่แท้จริงนั้นอยู่กับแม่ตลอดเวลาซึ่งก็คือลูก

    ยังไงล่ะ สิ่งที่จะช่วยเยียวยาจิตใจของคนได้คือกำลังใจจากคนรอบข้างที่จะทำให้เราได้รับรู้ว่ายังมีคนที่ห่วงใย
    ซึ่งมันจะทำให้แม่ต้องเข้มแข็งเอาชนะโรคร้ายให้ได้ ไม่มียาอะไรที่จะดีกว่านี้อีกแล้ว..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×