ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : สองตระกูล สองแผ่นดิน
ณ สวนดอกไม้ตระกูลไป๋ ท่านไป๋เซิงและคนกลุ่มหนึ่งใส่ชุดสูทสีดำ ยืนอยู่หน้าซุ้มต้นไม้สองต้น ดอกซากุระและดอกโบตั๋นที่โค้งเข้าหากันเป็นเหมือนประตูดอกไม้ เทียนซินคนสนิทของท่านไป๋เซิงยืนอยู่ข้างๆ มองไปยังต้นไม้ทั้งสองต้นเหมือนกับคนชุดดำทั้งทั้งกลุ่มที่ไม่ขยับและไม่พูดอะไร
"ต้นไม้สองต้นให้ห่างกันแค่ไหนก็ยังยื่นกิ่งก้านโค้งหากันจนะได้" ท่านไป๋เซิงพูดขึ้นมาลอยๆ ตอนที่ท่านรับต้นไม้สองต้นเล็กๆมานั้น ก็จะปลูกห่างกันเพราะกลัวว่าเมื่อโตขึ้นรากจะพันกัน
"7 ปีแล้วนะครับ ต้นไม้โตเร็วมาก พวกเราจะเดินลอดต้นไม้ได้แล้ว" เทียนซินบอก
"ให้คนดูแลใส่ปุ๋ยต้นไม้ให้โตงอกงาม จะได้สอนใจว่าถึงอยู่กันคนละแผ่นดินคนละประเทศ เป็นมิตรกันได้" ท่านไป๋เซิงหันมาสั่งกับเทียนซิน
"ถ้าฉันไม่ตัดสินใจผิดพลาด ป่านนี้ทั้งสี่คนคงสร้างครอบครัวใหญ่ มีหลานให้กับฉันแล้ว" ท่านไป๋เซิงเดินผ่านซุ้มดอกไม้ไป มองไปยังท้องฟ้า
"อีกฝ่ายก็คงคิดเหมือนกันกับเรานะครับท่าน" เทียนซินเหม่อมองตามสายตาท่านไป๋เซิงไปไกลแสนไกล
สี่คนที่ท่านว่าสองคนเป็นเหมือนลูกสาวและลูกชายของท่าน แม้ไม่ใช่สายเลือดโดยตรงแต่ก็เป็นลูกของคนที่ท่านรักและรักท่านด้วยชีวิต
ภาพสุดท้ายของสามีภรรยาแซ่หลิวที่เป็นมือขวาของท่านเข้ามาหาพร้อมกับให้รีบข้บรถของเทียนซินหนีไป เขาจะเปลี่ยนไปขึ้นรถของท่านเพื่อล่อคนของโอรินไปอีกทาง ท่านไป๋เซิงแม้จะไม่เห็นด้วยแต่ก็ต้องไปกับเทียนซิน เมื่อแยกกันไปเขาได้ยินเสียงระเบิด เขาแทบจะไปตามหามือขวาคนสนิทของเขาให้ได้ แต่ลูกน้องของเขาก็ห้ามไว้เพราะไม่อย่างนั้นพวกของโอรินต้องรู้แน่ว่าผิดตัว พวกลูกน้องของเขาระลึกถึงคำพูดของคุณหลิวที่เข้ามาปรึกษาคืนก่อนหน้านั้นหนึ่่งวัน
"สายของเราส่งข่าวว่าทางโอรินพยายามจะลงมือสังหารท่านไป๋เซิงคืนพรุ่งนี้" คุณหลิวกับภรรยานั่งรวมกับเหล่าคนสนิทใหญ่ๆของไป๋เซิง
"แล้่วเราจะทำอย่างไรกันถึงจะป้องกันท่านไป๋เซิงจากโอรินได้" เทียนซินถามขึ้นมา
"ฉันคิดไว้แล้วเราจะสลับตัวกัน แต่ต้องไม่บอกท่านไป๋เซิงก่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอม" คุณหลิวเอ่ยถึงแผนการ
"หมายความว่าอย่างไรคุณหลิน" อู๋ไท่ถามความเข้าใจ
"เรามีเหมยจิงที่ชำนาญในการแปลงโฉม จะให้เขาแปลงฉันให้เหมือนกับท่านไป๋เซิงไม่ให้สังเกตหรือจับได้ หลังจากนั้นจากเปลี่ยนตัวกับท่านแล้วฉันจะนั่งรถประจำของท่านไป๋เซิงแทน ส่วนคุณนายหลิวไปกับฉันด้วย เพื่ออำพรางอีกที"
"อย่างนี้มันอันตรายนะครับคุณหลิน ถ้าฝ่ายนั้นตามไม่เลิกรา ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไรคุณคงรู้" เทียนซิินทักท้วง
"เราทั้งสองทำใจไว้แล้ว เป็นหนี้บุญคุณท่านไป๋มาตั้งแต่เราอพยพเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ ฉันยอมแม้จะเป็นตั๋วเดินทางเดียวไม่มีเดินกลับ" คุณหลินหันไปมองทุกคน
"คุณอย่าลืมลูกทั้งสองนะครับ ถ้าคุณไปอย่างนั้น เด็กสองคนนั่นไม่มีใครแล้วนะครับ" อู๋ไท่กล่าวเตือน
"ท่านไป๋ไม่ทิ้งพวกเขาแน่นอน ฉันรู้ พวกนายไปเตรียมการ เดี๋ยวฉันจะให้เหมยจิงช่วยแปลงโฉมให้" ทั้งหมดลุกขึ้นคำนับสามีภรรยาแซ่หลินอย่างสำนึกในสิ่งที่พวกเขาทำ
"บอกท่านไป๋ฝากลูกทั้งสองคนด้วย อย่าให้ท่านไป๋ออกไปจนกระทั่งเงียบสงบ" คุณหลินพูดพร้อมหันหลังกลับ นั่นคือคำพูดสุดท้ายของเขากับคนสนิทของท่านไป๋เซิง
เมื่อท่านไป๋เซิงได้มีโอกาสมามาเห็นรถของเขาที่น่าจะจะถูกไล่ล่าจนชนที่กั้นข้างทางรถตกเขาไปและเกิดระเบิดขึ้น ไม่มีใครรอด พิธีศพถูกอำพรางว่าเป็นศพท่านไป๋เซิงที่ต้องปลอมตัวอยู่ในกลุ่มขององครักษ์รอบด้าน
ในพิธีศพท่านไป๋เซิงเองได้แต่ยืนมองดูรูปตัวเองที่ต้องเคารพศพด้วยความเศร้าใจ
"เทียนซิน ฉันควรตั้งรูปสามีภรรยาแซ่หลินให้สมเกียรติ" ไป๋เซิงพึมพัมกับเทียนซิน
ขบวนรถสีดำของโอรินเคลื่อนเข้ามายังทางเข้างานคำนับศพ แต่ละคนถึงปักใจมั่นว่าเป็นฝีมือของโอรินแต่ก็ไม่มีใครกล้ายืนยันหรือทำอะไรมากกว่าต้อนรับเข้าคำนับศพ
คนของไป๋เซิงรวมทั้งไป๋เซิงเรียงแถวสองแถวรับขบวนของโอริน ทั้งหมดเดินผ่านหน้าตรงไม่หันและไม่เหลียวมองดูใคร ตรงเข้าไปคำนับศพและรูป
"มันไม่แสดงท่าทางอะไรออกมาเลย นิ่งมาก" เทียนซินพึมพำออกมา ทั้งหมดเข้าประจำจัดรักษาการณ์งานศพของไป๋เซิง
"ทำไมแขกของไป๋เซิงมาร่วมงานไม่มาก" โอรินเมื่อนัั่งที่สำหรับแขกได้พูดกับคนข้างตัว
"อาจจะไม่อยากให้คนรู้ก็ได้นะครับ ตำรวจก็ไม่มี" ทาเคชิพูดกับท่านโอรินเบาๆ
ทั้งหมดร่วมงานศพอย่างเรียบง่ายและกลับไปด้วยคำถามในใจบางอย่าง
เมื่อเสร็จงานเทียนซินเข้าไปคุยกับผู้หมวดจางที่ปลอมตัวเขามาในงานในฐานะองครักษ์คนหนึ่งของไป๋เซิง
"พบอะไรพิรุจบ้างไหมผู้หมวด" เทียนซินถามหาจุดสนใจของผู่้หมวด
"เหมือนทางโอรินจะสงสัยอะไรบ้างเหมือนกัน แต่ทางคุณคงจัดการเรียบร้อยนะครับ" ผู้หมวดจางตอบ
"ครับผม เรียบร้อย ต่อจากนี้ก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะท่านไป๋เซิงได้จากไปแล้ว" เทียนซินพูดพร้อมกับพยักหน้าให้
"ใช่ครับ จากไปเพื่อกลับมาใหม่ อาจจะสงบกันสักพักใหญ่ๆจริงไหมครับ" ผู้หมวดจางจับมือกับเทียนซิน
หลังจากนั้นไม่านเมื่่อเรื่องสงบลง ท่านไป๋เซิงให้คนพากลูกของสามีภรรยาแซ่หลินมาพบ
เด็กหญิงแบเบาะอายุไม่ถึง 2 เดือนกับเด็กชาย 2 ขวบกว่าถูกนำเข้ามาพบท่านไป๋เซิงหลังจากพิธีศพผ่านไป เด็กทั้งสองคุ้นกับท่านไป๋เซิงเพราะอุ้มชูกันมาตั้งแต่เล็ก รักเหมือนลูกของตน
"ต่อไปนี้ให้ทุกคนปกปิดเรื่อราวของเด็กทั้งสองคนนี้ และจะเป็นลูกชายลูกสาวของเรา ชื่อไป๋ชิว และไป๋ฮัว ให้ทุกคนให้เกียรติเด็กทั้งสองในนามของทายาท ใ้หสร้างหลักฐานทุกอย่างเพื่อให้เด็กทั้งสองเป็นลูกของเรา" ท่านไป๋เซิงหันไปสั่งการต่อหน้าลูกน้องทุกคน ด้านหลังคือป้ายวิญญาณของสามีภรรยาแซ่หลิว
ทางฝ่ายคฤหาสน์ท่านโอริน ในสวนก็มีต้นซากุระกับดอกโบตั๋นที่มีคนกลุ่มหนึ่งยืนมองอยู่เหมือนกัน คนอยู่หน้าสุดคือท่านโอรินในชุดกิโมโน กับด้านหลังลูกน้องอีกกลุ่มหนึ่งใส่ชุดกิโมโนแบบเดียวกันก็มองดูอยู่่เหมือนกัน
"ต้นไม้ทั้งสองต้นกลายเป็นซุ้มประตูไปแล้ว อยู่ห่างกันขนาดไหนก็โค้งหากันจนได้ จริงไหม อุนเรียว" ท่านโอรินเปรยกับคนสนิท
"ครับท่าน 7 ปีผ่านไปไวเหลือเกินครับท่าน" อุนเรียวก็มองดูต้นไม้ทั้งสองเหมือนกัน เขาเหมือนได้เห็นหน้าของคนสี่คนบนท้องฟ้าที่เขามองอยู่นั้น
"ถ้าฉันไม่ใจแคบนะ ถ้าฉันไม่ออกคำสั่งนั้นไป ฉันคงไม่เหงาเดียวดายแบบนี้" ท่านโอรินเหม่อมองออกไปนอกซุ้มดอกไม้
"อีกฝ่ายก็คงเสียใจไม่แพ้กันครับท่าน" อุนเรียวได้แต่ยืนมองท่านโอรินที่น้ำตาไหลอย่างสงสารท่านเหลือเกิน
ภาพของหนุ่มสาวสองคนที่ร่างกายชุ่มไปด้วยเลือดชี้ไปที่ต้นไม้เล็กๆสองต้นให้อุนเรียวเอากลับไปปลูกที่คฤหาสน์ น้ำรดต้นไม้แรกคือเลือดของคนสองคนที่หลั่งรินลงที่ต้นไม้สองต้น เมื่ออุนเรียวเอากลับมาให้ท่านโอริน เลือดสีแดงยังมีให้เห็นที่ต้นไม้นั้น
ท่านย้อนไปถึงภรรยาของท่านเมื่อคลอดลูกชายซึ่งเป็นบุตรคนที่สอง ซึ่งทำให้เสียเลือดมากและกำลังจะสิ้นใจ ได้ให้ท่านโอรินเลี้ยงลูุกทั้งสองให้เติบโตเป็นคนดี ในอ้อมกอดของนางยังมีบุตรสาวคนโตที่อายุเพียง 2 ขวบที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรมองหน้าพ่อแม่และเอานิ้วเขี่ยแก้มน้องชายดด้วยความเอ็นดู
"ดูแลลูกของเราให้เป็นคนดี ให้พวกเขามีชีวิตที่สบายไม่ต้องสู้รบกับใครนะ ฉันอยากให้เขาปลอดภัย คุณจำได้ไหมเราสองคนต้องหลบหนี ต้องปกป้องให่้เรามีชีวิตอยู่ต่อไป"
"ฉันจะทำอย่างนั้นเพื่อลูกของเรา แต่วิถีของผมก็ยังต้องดำเนินต่อไป คุณก็รู้เมื่อเราตกลงร่วมชีวิตกัน เราก็ไม่ปลอดภัยแล้ว" โอรินพูดกับภรรยา
"อย่าให้พวกเขาต้องหลบหนี หลบซ่อน ให้เขามีชีวิตที่ดี ฉันขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย" ภรรยาของโอรินได้มีโอกาสให้นมแก่เด็กชายไม่ถึงสามมื้อนางก็สิ้นลมโดยท่านโอรินร้องไห้แทบสิ้นสติ เด็กทั้งสองเมื่อได้ยินเสียงพ่อร้องไห้ ก็ร้องไห้กันระงม
ท่านโอรินไม่มีแม้หยดน้ำตาเมื่อผ่านพิธีศพของภรรยา เขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในระบบของเขาเป็นยากูซ่า แต่เขาต้องใหญ่กว่ายากูซ่าทั้งหมดเพื่อลูกของเขาจะปลอดภัย มีเพียงอุนเรียวเท่านั้นที่รู้ว่าท่านโอรินยังคงระลึกถึงคำพูดของภรรยา เพราะลูกทั้งสองไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับกิจการที่พ่อของพวกเขาทำอยู่
"ต้นไม้สองต้นให้ห่างกันแค่ไหนก็ยังยื่นกิ่งก้านโค้งหากันจนะได้" ท่านไป๋เซิงพูดขึ้นมาลอยๆ ตอนที่ท่านรับต้นไม้สองต้นเล็กๆมานั้น ก็จะปลูกห่างกันเพราะกลัวว่าเมื่อโตขึ้นรากจะพันกัน
"7 ปีแล้วนะครับ ต้นไม้โตเร็วมาก พวกเราจะเดินลอดต้นไม้ได้แล้ว" เทียนซินบอก
"ให้คนดูแลใส่ปุ๋ยต้นไม้ให้โตงอกงาม จะได้สอนใจว่าถึงอยู่กันคนละแผ่นดินคนละประเทศ เป็นมิตรกันได้" ท่านไป๋เซิงหันมาสั่งกับเทียนซิน
"ถ้าฉันไม่ตัดสินใจผิดพลาด ป่านนี้ทั้งสี่คนคงสร้างครอบครัวใหญ่ มีหลานให้กับฉันแล้ว" ท่านไป๋เซิงเดินผ่านซุ้มดอกไม้ไป มองไปยังท้องฟ้า
"อีกฝ่ายก็คงคิดเหมือนกันกับเรานะครับท่าน" เทียนซินเหม่อมองตามสายตาท่านไป๋เซิงไปไกลแสนไกล
สี่คนที่ท่านว่าสองคนเป็นเหมือนลูกสาวและลูกชายของท่าน แม้ไม่ใช่สายเลือดโดยตรงแต่ก็เป็นลูกของคนที่ท่านรักและรักท่านด้วยชีวิต
ภาพสุดท้ายของสามีภรรยาแซ่หลิวที่เป็นมือขวาของท่านเข้ามาหาพร้อมกับให้รีบข้บรถของเทียนซินหนีไป เขาจะเปลี่ยนไปขึ้นรถของท่านเพื่อล่อคนของโอรินไปอีกทาง ท่านไป๋เซิงแม้จะไม่เห็นด้วยแต่ก็ต้องไปกับเทียนซิน เมื่อแยกกันไปเขาได้ยินเสียงระเบิด เขาแทบจะไปตามหามือขวาคนสนิทของเขาให้ได้ แต่ลูกน้องของเขาก็ห้ามไว้เพราะไม่อย่างนั้นพวกของโอรินต้องรู้แน่ว่าผิดตัว พวกลูกน้องของเขาระลึกถึงคำพูดของคุณหลิวที่เข้ามาปรึกษาคืนก่อนหน้านั้นหนึ่่งวัน
"สายของเราส่งข่าวว่าทางโอรินพยายามจะลงมือสังหารท่านไป๋เซิงคืนพรุ่งนี้" คุณหลิวกับภรรยานั่งรวมกับเหล่าคนสนิทใหญ่ๆของไป๋เซิง
"แล้่วเราจะทำอย่างไรกันถึงจะป้องกันท่านไป๋เซิงจากโอรินได้" เทียนซินถามขึ้นมา
"ฉันคิดไว้แล้วเราจะสลับตัวกัน แต่ต้องไม่บอกท่านไป๋เซิงก่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอม" คุณหลิวเอ่ยถึงแผนการ
"หมายความว่าอย่างไรคุณหลิน" อู๋ไท่ถามความเข้าใจ
"เรามีเหมยจิงที่ชำนาญในการแปลงโฉม จะให้เขาแปลงฉันให้เหมือนกับท่านไป๋เซิงไม่ให้สังเกตหรือจับได้ หลังจากนั้นจากเปลี่ยนตัวกับท่านแล้วฉันจะนั่งรถประจำของท่านไป๋เซิงแทน ส่วนคุณนายหลิวไปกับฉันด้วย เพื่ออำพรางอีกที"
"อย่างนี้มันอันตรายนะครับคุณหลิน ถ้าฝ่ายนั้นตามไม่เลิกรา ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไรคุณคงรู้" เทียนซิินทักท้วง
"เราทั้งสองทำใจไว้แล้ว เป็นหนี้บุญคุณท่านไป๋มาตั้งแต่เราอพยพเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ ฉันยอมแม้จะเป็นตั๋วเดินทางเดียวไม่มีเดินกลับ" คุณหลินหันไปมองทุกคน
"คุณอย่าลืมลูกทั้งสองนะครับ ถ้าคุณไปอย่างนั้น เด็กสองคนนั่นไม่มีใครแล้วนะครับ" อู๋ไท่กล่าวเตือน
"ท่านไป๋ไม่ทิ้งพวกเขาแน่นอน ฉันรู้ พวกนายไปเตรียมการ เดี๋ยวฉันจะให้เหมยจิงช่วยแปลงโฉมให้" ทั้งหมดลุกขึ้นคำนับสามีภรรยาแซ่หลินอย่างสำนึกในสิ่งที่พวกเขาทำ
"บอกท่านไป๋ฝากลูกทั้งสองคนด้วย อย่าให้ท่านไป๋ออกไปจนกระทั่งเงียบสงบ" คุณหลินพูดพร้อมหันหลังกลับ นั่นคือคำพูดสุดท้ายของเขากับคนสนิทของท่านไป๋เซิง
เมื่อท่านไป๋เซิงได้มีโอกาสมามาเห็นรถของเขาที่น่าจะจะถูกไล่ล่าจนชนที่กั้นข้างทางรถตกเขาไปและเกิดระเบิดขึ้น ไม่มีใครรอด พิธีศพถูกอำพรางว่าเป็นศพท่านไป๋เซิงที่ต้องปลอมตัวอยู่ในกลุ่มขององครักษ์รอบด้าน
ในพิธีศพท่านไป๋เซิงเองได้แต่ยืนมองดูรูปตัวเองที่ต้องเคารพศพด้วยความเศร้าใจ
"เทียนซิน ฉันควรตั้งรูปสามีภรรยาแซ่หลินให้สมเกียรติ" ไป๋เซิงพึมพัมกับเทียนซิน
ขบวนรถสีดำของโอรินเคลื่อนเข้ามายังทางเข้างานคำนับศพ แต่ละคนถึงปักใจมั่นว่าเป็นฝีมือของโอรินแต่ก็ไม่มีใครกล้ายืนยันหรือทำอะไรมากกว่าต้อนรับเข้าคำนับศพ
คนของไป๋เซิงรวมทั้งไป๋เซิงเรียงแถวสองแถวรับขบวนของโอริน ทั้งหมดเดินผ่านหน้าตรงไม่หันและไม่เหลียวมองดูใคร ตรงเข้าไปคำนับศพและรูป
"มันไม่แสดงท่าทางอะไรออกมาเลย นิ่งมาก" เทียนซินพึมพำออกมา ทั้งหมดเข้าประจำจัดรักษาการณ์งานศพของไป๋เซิง
"ทำไมแขกของไป๋เซิงมาร่วมงานไม่มาก" โอรินเมื่อนัั่งที่สำหรับแขกได้พูดกับคนข้างตัว
"อาจจะไม่อยากให้คนรู้ก็ได้นะครับ ตำรวจก็ไม่มี" ทาเคชิพูดกับท่านโอรินเบาๆ
ทั้งหมดร่วมงานศพอย่างเรียบง่ายและกลับไปด้วยคำถามในใจบางอย่าง
เมื่อเสร็จงานเทียนซินเข้าไปคุยกับผู้หมวดจางที่ปลอมตัวเขามาในงานในฐานะองครักษ์คนหนึ่งของไป๋เซิง
"พบอะไรพิรุจบ้างไหมผู้หมวด" เทียนซินถามหาจุดสนใจของผู่้หมวด
"เหมือนทางโอรินจะสงสัยอะไรบ้างเหมือนกัน แต่ทางคุณคงจัดการเรียบร้อยนะครับ" ผู้หมวดจางตอบ
"ครับผม เรียบร้อย ต่อจากนี้ก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะท่านไป๋เซิงได้จากไปแล้ว" เทียนซินพูดพร้อมกับพยักหน้าให้
"ใช่ครับ จากไปเพื่อกลับมาใหม่ อาจจะสงบกันสักพักใหญ่ๆจริงไหมครับ" ผู้หมวดจางจับมือกับเทียนซิน
หลังจากนั้นไม่านเมื่่อเรื่องสงบลง ท่านไป๋เซิงให้คนพากลูกของสามีภรรยาแซ่หลินมาพบ
เด็กหญิงแบเบาะอายุไม่ถึง 2 เดือนกับเด็กชาย 2 ขวบกว่าถูกนำเข้ามาพบท่านไป๋เซิงหลังจากพิธีศพผ่านไป เด็กทั้งสองคุ้นกับท่านไป๋เซิงเพราะอุ้มชูกันมาตั้งแต่เล็ก รักเหมือนลูกของตน
"ต่อไปนี้ให้ทุกคนปกปิดเรื่อราวของเด็กทั้งสองคนนี้ และจะเป็นลูกชายลูกสาวของเรา ชื่อไป๋ชิว และไป๋ฮัว ให้ทุกคนให้เกียรติเด็กทั้งสองในนามของทายาท ใ้หสร้างหลักฐานทุกอย่างเพื่อให้เด็กทั้งสองเป็นลูกของเรา" ท่านไป๋เซิงหันไปสั่งการต่อหน้าลูกน้องทุกคน ด้านหลังคือป้ายวิญญาณของสามีภรรยาแซ่หลิว
ทางฝ่ายคฤหาสน์ท่านโอริน ในสวนก็มีต้นซากุระกับดอกโบตั๋นที่มีคนกลุ่มหนึ่งยืนมองอยู่เหมือนกัน คนอยู่หน้าสุดคือท่านโอรินในชุดกิโมโน กับด้านหลังลูกน้องอีกกลุ่มหนึ่งใส่ชุดกิโมโนแบบเดียวกันก็มองดูอยู่่เหมือนกัน
"ต้นไม้ทั้งสองต้นกลายเป็นซุ้มประตูไปแล้ว อยู่ห่างกันขนาดไหนก็โค้งหากันจนได้ จริงไหม อุนเรียว" ท่านโอรินเปรยกับคนสนิท
"ครับท่าน 7 ปีผ่านไปไวเหลือเกินครับท่าน" อุนเรียวก็มองดูต้นไม้ทั้งสองเหมือนกัน เขาเหมือนได้เห็นหน้าของคนสี่คนบนท้องฟ้าที่เขามองอยู่นั้น
"ถ้าฉันไม่ใจแคบนะ ถ้าฉันไม่ออกคำสั่งนั้นไป ฉันคงไม่เหงาเดียวดายแบบนี้" ท่านโอรินเหม่อมองออกไปนอกซุ้มดอกไม้
"อีกฝ่ายก็คงเสียใจไม่แพ้กันครับท่าน" อุนเรียวได้แต่ยืนมองท่านโอรินที่น้ำตาไหลอย่างสงสารท่านเหลือเกิน
ภาพของหนุ่มสาวสองคนที่ร่างกายชุ่มไปด้วยเลือดชี้ไปที่ต้นไม้เล็กๆสองต้นให้อุนเรียวเอากลับไปปลูกที่คฤหาสน์ น้ำรดต้นไม้แรกคือเลือดของคนสองคนที่หลั่งรินลงที่ต้นไม้สองต้น เมื่ออุนเรียวเอากลับมาให้ท่านโอริน เลือดสีแดงยังมีให้เห็นที่ต้นไม้นั้น
ท่านย้อนไปถึงภรรยาของท่านเมื่อคลอดลูกชายซึ่งเป็นบุตรคนที่สอง ซึ่งทำให้เสียเลือดมากและกำลังจะสิ้นใจ ได้ให้ท่านโอรินเลี้ยงลูุกทั้งสองให้เติบโตเป็นคนดี ในอ้อมกอดของนางยังมีบุตรสาวคนโตที่อายุเพียง 2 ขวบที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรมองหน้าพ่อแม่และเอานิ้วเขี่ยแก้มน้องชายดด้วยความเอ็นดู
"ดูแลลูกของเราให้เป็นคนดี ให้พวกเขามีชีวิตที่สบายไม่ต้องสู้รบกับใครนะ ฉันอยากให้เขาปลอดภัย คุณจำได้ไหมเราสองคนต้องหลบหนี ต้องปกป้องให่้เรามีชีวิตอยู่ต่อไป"
"ฉันจะทำอย่างนั้นเพื่อลูกของเรา แต่วิถีของผมก็ยังต้องดำเนินต่อไป คุณก็รู้เมื่อเราตกลงร่วมชีวิตกัน เราก็ไม่ปลอดภัยแล้ว" โอรินพูดกับภรรยา
"อย่าให้พวกเขาต้องหลบหนี หลบซ่อน ให้เขามีชีวิตที่ดี ฉันขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย" ภรรยาของโอรินได้มีโอกาสให้นมแก่เด็กชายไม่ถึงสามมื้อนางก็สิ้นลมโดยท่านโอรินร้องไห้แทบสิ้นสติ เด็กทั้งสองเมื่อได้ยินเสียงพ่อร้องไห้ ก็ร้องไห้กันระงม
ท่านโอรินไม่มีแม้หยดน้ำตาเมื่อผ่านพิธีศพของภรรยา เขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในระบบของเขาเป็นยากูซ่า แต่เขาต้องใหญ่กว่ายากูซ่าทั้งหมดเพื่อลูกของเขาจะปลอดภัย มีเพียงอุนเรียวเท่านั้นที่รู้ว่าท่านโอรินยังคงระลึกถึงคำพูดของภรรยา เพราะลูกทั้งสองไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับกิจการที่พ่อของพวกเขาทำอยู่
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น