คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1: ชีวิตในโรงเรียน 100%
ชีวิตในโรงเรียน
ออดด ออด..ดดดด!!!
เสียงออดของโรงเรียนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว ส่งผลให้นักเรียนที่กำลังวิ่งอย่างกระหืดกระหอบอยู่แถว ๆ หน้าทางเข้านั้นรีบรนกว่าเดิมจนชนเข้ากับเขาอย่างจัง
อ๊าก..กก
“โทษทีไอ้หัวเห็ด”
เพื่อนคนที่ชนหันมาพูดแค่นี้ ก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อยว่า ‘นายหัวเห็ด’ ที่กลิ้งล้มลงกับพื้นจะเจ็บแค่ไหน จนเพื่อนที่มาด้วยกันอีกคนต้องพยุงให้เขาลุกขึ้น
“ไอ้บ้าเอ๊ยวิ่งไม่ดู นายเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย” เจ้าของใบหน้าที่มีไฝเม็ดเป้งอยู่กลางหน้าผากเอ่ยถามขึ้น
“ก็เจ็บดิ่ก้นระบมแน่เลย อู๊ยย” นายหัวเห็ดกดย้ำจุดที่กระแทกลงพื้นด้วยความเจ็บปวดจนต้องร้องออกมา “รีบไปเหอะ เพราะนายอ่ะมัวแต่เมคอัพกระบนหน้า ดูดิ๊มาสายตั้งแต่วันแรก” เมื่อลงใส่ใครไม่ได้ เขาจึงหันมาทำหน้าค้อนใส่เพื่อนแทน
“ค่อย ๆ เดินก็ได้ คาเวียร์คนเจ็บก้น ฮ่าๆๆ”
เจ้าของไฝและกระบนหน้าหรือนาวินหัวเราะชอบใจเมื่อได้แซวเพื่อน ซึ่งนายหัวเห็ดก็ไม่ใช่ใครเลย เขาคือคาเวียร์ ไอดอลผู้เรียบร้อยนั่นเอง…
โรงเรียนเอกชนสุดหรูชายล้วนแห่งนี้เป็นสถานศึกษาของเหล่าไอดอลวง iCONIX พวกเขาวาดฝันไว้ว่า สถานที่แห่งนี้จะเรียบง่ายและสบาย ๆ แต่เปล่าเลยแม้ว่าทางโรงเรียนอนุญาติให้ใส่ชุดไปรเวทได้ แต่ก็ห้ามไม่ให้นักเรียนทำกิจกรรมในวงการบันเทิงทุกชนิด ทำให้เหล่าไอดอลต้องปกปิดตัวเองด้วยการปลอมตัวชนิดที่ว่าจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว….
อย่างเช่นคาเวียร์จะต้องใส่วิกผมทรงเห็ดและฟันปลอมคู่หน้าซีใหญ่ให้ดูเหมือนฟันกระต่ายแบบผิดปกติเพื่อปกปิดหน้าตาที่แท้จริง ส่วนนาวินเพียงแค่เพิ่มไฝเม็ดใหญ่ที่หว่างคิ้วและเพิ่มรอยกระบนใบหน้าจึงทำให้นาวินใช้เวลาในการเตรียมตัวนานไปนิดจึงทำให้ทั้งคู่มาโรงเรียนสาย
เหตุที่นาวินกับคาเวียร์ต้องมาด้วยกันนั้นก็เพราะที่นี่เป็นโรงเรียนประจำมีที่พักให้พร้อมแต่ทั้งสองคนไม่ได้เป็นรูมเมทกันหรอกนะ นาวินกับเคียวต่างหากที่เป็นรูมเมทกัน เพราะเขาสองคนไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่ นาวินเลยเลือกมาพร้อมกับคาเวียร์แทน แต่หอพักนั้นอยู่ไกลออกไปจากอาคารเรียนประมาณ 500 เมตรจึงต้องใช้เวลาเดินทางเล็กน้อย
นาวินประคองคาเวียร์ที่เดินอย่างกระท่อนกระแท่นเนื่องจากปวดก้นกบเลยทำให้ทั้งคู่ยิ่งสายเข้าไปใหญ่ เมื่อมาถึงห้องเรียนสายตาทุกคู่มองมาที่พวกเขาเป็นตาเดียวกัน เนื่องจากมาช้าจนอาจารย์ประจำชั้นให้ทั้งสองคนออกไปยืนหน้าห้องเพื่อเป็นการลงโทษ
“โห่เซ็ง ได้เรื่องตั้งแต่วันแรกเลย!” นาวินบ่นออกมาอย่างหัวเสีย
“ถ้านายไม่มัวแต่หาของป่านนี้ก็ไม่สายหรอก ฉันบอกแล้วว่าให้เก็บของให้เรียบร้อย…”
“คร๊าบบ คุณพ่อบ้านนน”
ก่อนที่คาเวียร์จะบ่นอะไรให้ยืดยาวกว่านี้ นาวินก็ชิ่งตัดบทเสียก่อน เขาฟังคาเวียร์บ่นมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบจนเอียนหมดแล้ว เพราะไอดอลผู้เรียบร้อยคนนี้นั้นเป็นคนที่มีระเบียบมาก ๆ ผิดกับนาวินที่ชอบวางอะไรเกะกะไม่เป็นที่เป็นทาง ทำให้คาเวียร์ต้องคอยบ่นบ่อย ๆ
“ฤกษ์เสียตั้งแต่วันแรกเลย มาถึงก็โดนชน....ก้นเจ็บ..แถมยังต้องมายืนหน้าห้องอีก!” คาเวียร์หันมามองนาวินอย่างฆาตโทษ “เลี้ยงข้าวฉันด้วย!!”
“โถ่ เรื่องของเรื่องคืออยากกินฟรีว่างั้น?”
นาวินหันมายิ้มกวน ๆ ให้เพื่อนจนคาเวียร์ต้องแยกเขี้ยวใส่ พวกเขาหยอกล้อเล่นกันเสมอ ๆ เพราะทำงานด้วยกันมานานตั้งแต่เริ่มขึ้นมัธยมปลายจนตอนนี้อยู่ชั้นปีที่ 5 แล้ว ความสนิทสนมจึงมากขึ้นเป็นทวีคูณ
“นี่ฉันให้พวกเธอมายืนสำนึกผิดนะ ไม่ใช่ให้มาคุยกัน!! หักคนละ 5 คะแนน!!”
อาจารย์สาวร่างถ้วมเดินออกมานอกห้องเพราะจบจากการโฮมรูมพอดี บังเอิญมาเห็นสองคนนี้กำลังคุยอยู่ เลยแจกแจ็กพ็อตกันตั้งแต่วันแรก นาวินได้แต่กรอกตาขึ้นลงอย่างเซ็ง ๆ ส่วนคาเวียร์ถอนหายใจอย่างยอมจำนนต่อสถานการณ์
ฟุบ!
“ซวยแต่เช้าเลยเว้ย!”
แม้ว่าอากาศในห้องเรียนจะเย็นเฉียบด้วยเครื่องปรับอากาศ แต่ก็ไม่สามารถทำให้ใจของนาวินเย็นลงได้ เลยบ่นออกมาลอย ๆ เพื่อระบายอารมณ์ แต่เพื่อนที่นั่งโต๊ะข้าง ๆ กันดันอยากมีส่วนร่วมด้วยซะงั้น
“มามะ ๆ เดี๋ยวปลอบใจ”
‘เคียว’ ไอดอลผู้ไม่ต้องปลอมตัวใด ๆ ทั้งสิ้นแค่ไม่แต่งหน้ากับทำหัวยุ่ง ๆ เท่านี้ก็ไม่มีใครจำเขาได้แล้ว สมกับเป็นหลุมดำของกลุ่มจริง ๆ เขาทำทีเป็นแกล้งปลอบใจนาวินด้วยการเข้าไปกอด…
“เห้ย! เอามือแกออกไปเลยเร็ว ๆ เลย!!” นาวินรีบผลักไสเคียวออกด้วยอาการขยะแขยงเต็มทน
แทนที่เคียวจะทำตามอย่างว่าง่ายแต่เปล่าเลย! เขากับใช้วงแขนรัดคอให้แน่นขึ้นไปอีก จนเพื่อน ๆ ในห้องต่างโห่ร้องส่งเสียงแซวหากดูจากภายนอกแล้วละก็ พวกเขาดูเป็นคู่ที่สนิทกันมากกก
“ฉันก็ไม่อยากกอดหรอกว่ะ แตไอ้บทบ้า ๆ ที่เราต้องสนิทกันมันทำให้….เลี่ยงไม่ได้นะฮ๊า” เคียวกระซิบเบา ๆ เพื่อให้รู้กันสองคน
อินไปมั้ย!!
--------------------------------------------------
แม้ว่าจะทำงานด้วยกันมานานแต่นาวินกับเคียวก็ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่เพราะเคียวคิดว่านาวินชอบแย่งซีน ทำให้สองคนนี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันในวง
แต่ยามอยู่ในโรงเรียนชายล้วนแห่งนี้เขาสองคนจะต้องทำตัวสนิทกันตามใบสั่งของค่ายที่หวังจะให้นาวินและเคียวทำตัวดีต่อกันมากขึ้นหารู้ไม่ว่ายิ่งทำให้เรื่องวุ่นวายไปกันใหญ่
นาวินคิดในใจอย่างหงุดหงิด โรงเรียนที่แสนจะหรูหราแวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพที่งดงามของตึกอาคารที่ออกแบบสไตล์ยุโรป แต่โทษทีเหอะ….หันไปทางไหนก็มีแต่ผู้ชายแค่นี้ก็เอียนจะแย่ แถมต้องมาทำตัวติดกับไอ้เคียวทีมีพฤติกรรมชวนอ้วกอยู่ตลอดเวลา เห็นมั้ยล่ะว่า ‘ชีวิตในโรงเรียน’ มันไม่ง่ายเลยสักนิด
ตลอดคาบเรียนช่วงเช้าเต็มไปด้วยการสอบพื้นฐานและการแนะนำสิ่งที่จะเรียนตลอดเทอมที่เต็มไปด้วยความน่าเบื่อ บรรยากาศก็ชวนหดหู่เพราะมีแต่เพื่อนผู้ชายทำให้อัศวันหวนคิดถึงบรรยากาศช่วงปิดเทอมที่เขาได้สนุกสนานอยู่บนเวทีที่รายล้อมไปด้วยเหล่าบรรดาแฟนคลับสาวๆ ที่แสนจะน่ารัก
“นั่งเหม่ออะไรวะ” เคียวถามขึ้นเมื่อเห็นนาวินเอาแต่จ้องปากกาอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ยุ่งไรนัก สักเรื่องเหอะ!” นาวินทำหน้ามุ่ยใส่
“ข้าคือผู้สอดส่องความเป็นไปของโลก ฮ่าๆๆ”
ไม่พูดเปล่าเคียวลุกขึ้นยืนผายมือออกภูมิใจเสียเต็มประตากับตำแหน่ง ‘สอดรู้สอดเห็น’ ประจำกลุ่มฉายานี้ก็ไม่มีใครตั้งให้หรอกนะ เพราะเขาแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ให้ตัวเองเสร็จสรรพ
“อายคนอื่นเขามั่งเหอะว่ะ” นาวินบอกพร้อมกับส่ายหน้าให้กับความด้านทนของเพื่อนจนต้องรีบดึงให้เคียวนั่งลงก่อนที่จะรู้สึกอายไปกว่านี้ แม้ว่าเขาจะคุ้นชินกับเพื่อน ๆ ในห้องเป็นอย่างดี แต่คนอย่างนาวินไม่ชอบเรื่องขายหน้าเป็นที่สุด
‘เฮ๊ย คู่นี้มันมุ้งมิ้งกันอีกแล้วเว้ย’
เสียงเพื่อนคนหนึ่งในห้องตะโกนขึ้นมาทำให้เพื่อนคนอื่น ๆ โห่ร้องแซวจนเสียงดังสนั่นห้อง จากสายตาของคนภายนอกนั้นมองว่านาวินกับเคียวเป็นคู่เกย์กัน เพราะไปไหนด้วยกันตลอดเวลา แต่ความจริงแล้วแตกต่างโดยสิ้นเชิงด้วยสถานการณ์แล้วทำให้ทั้งสองคนจำต้องเล่นบทเพื่อนสนิทกันต่อไป
“จ้ะ มุ้งมิ้งม๊ากก” นาวินกัดฟันพูดพร้อมกับดึงแก้มเคียวจนยืดเหมือนหนังสติ๊ก
โอ๊ยย..
“ฮึ่มม โดนทำคืนมั่งเป็นไง?”
เคียวไม่ปล่อยให้นาวินลงมือฝ่ายเดียว เพราะเขาก็โต้กลับด้วยการดึงแก้มคืนทำให้นาวินถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“เฮ๊ย พวกนายพอได้แล้ว เล่นเป็นเด็ก ๆ ”
คาเวียร์ที่นั่งอยู่ข้างหลังต้องเข้ามาห้ามทัพก่อนที่จะเล่นแรงกันไปกว่านี้ เพราะมีครั้งนึงที่แกล้งกันไปมาจนล้มกลิ้งเกือบต่อยกันบนพื้น แต่เพื่อนๆ ในห้องมองเป็นบทเลิฟซีนซะงั้น
“ก็ดูไอ้เคียวดิ่ กวนประสาทอยู่ได้” นาวินบอกพร้อมกับมองไปที่คนต้นเหตุด้วยสายตาขุ่นเคือง
“อะไร ๆ ฉันไปทำอะไรให้ นายแหละหาเรื่องก่อน” เคียวเถียงอย่างข้าง ๆ คู ๆ สำหรับเขาแล้วตัวเองคือศูนย์กลางของโลก
“ตกลงไม่หยุดว่างั้น อยากเห็นบทโหด?” คาเวียร์บอกพร้อมกับเลิกคิ้วสูงขึ้นเป็นเชิงคำถาม
เหตุที่พูดแบบนี้เพราะคาเวียร์หนุ่มสุดเรียบร้อย ต้องเล่นบทนักเลงหัวเห็ดประจำห้องนั่นเอง เพราะเขาเรียบร้อยเกินไปจนทางต้นสังกัดกลัวว่าเขาจะถูกทุกคนในวงบดบังรัศมี จึงยืนบทอันธพาลให้เขาได้กลายเป็นคนกล้าแสดงออกมากกว่านี้
ปัง!!
“เฮ๊ย สองคนเนี่ย! มีปัญหามากนักไงวะ?”
ไม่รอคำตอบใด ๆ ทั้งสิ้นคาเวียร์ลุกขึ้นเอามือทุบโต๊ะอย่างแรงจนทุกคนไม่กล้าพูดอะไรออกมา ไม่เพียงเท่านั้นคาเวียร์ยังเดินมาที่หน้าโต๊ะของทั้งสองคนด้วย
“นาย แล้วก็นาย” คาเวียร์ยกมือชี้เคียวและนาวินทีละคน
“ตัวให้มันดี ๆ หน่อยยย!!” ระหว่างที่พูดคาเวียร์ก็ได้เอามือยีหัวเคียวกับนาวินไปพร้อม ๆ กัน
คือ…นานไปละป่ะ
นาวินคิดแต่ไม่ได้พูดออกมา เพราะดูเหมือนคาเวียร์จะยีหัวของเขาเหมือนกำลังระบายอารมณ์ที่อัดอั้นมานาน ถ้าไม่จับข้อมือมันไว้ละก็หัวที่เซ็ทมาอย่างดีต้องกลายเป็นรังนก แบบที่ไอ้เคียวกำลังเป็นอยู่ตอนนี้แน่ๆ
และแล้วในที่สุดก็ถึงเวลาพักทานอาหารกลางวันซะที โรงอาหารอยู่ไม่ไกลจากตัวอาคารเรียนเท่าไหร่นัก แบบว่าโรงเรียนแห่งนี้แบ่งสัดส่วนสถานที่ต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน เช่นอาคารเรียนก็จะมีแต่ห้องเรียนแยกส่วนออกมาไม่เกี่ยวกับอย่างอื่น ฉะนั้นโรงอาหารก็จะอยู่ถัดไปจากตัวอาคาร
อย่าคิดว่าโรงอาหารของที่นี่จะกระจอกงอกง่อยนะครับ ลืมไปได้เลยสถานที่ทานข้าวแบบที่อื่น ๆ เพราะโรงอาหารของที่นี่หรูเลิศกว่าที่คุณจินตนาการไว้ซะอีก…
อาคารทรงยุโรปชั้นเดียวเพดานสูงสีเหลืองเด่นหลังใหญ่ ภายในตกแต่งสไตล์โรมันสุดหรูไม่เว้นแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ อย่างโต๊ะหรือเก้าอี้ตัวยาวก็เป็นสไตล์โรมันเช่นกัน แผงขายอาหารถูกตกแต่งให้เหมือนกับร้านค้าแบบฝรั่งเศสเว้นเสียแต่ว่าไม่มีประตูทางเข้าเพราะมีช่องกว้าง ๆ เอาไว้วางอาหารให้นักเรียนเลือกแทน
ด้านนอกเป็นสวนดอกไม้ที่มีโต๊ะอยู่หรอมแหรม พวกนักเรียนไม่ค่อยนิยมออกไปนั่งเท่าไหร่ แน่ละพวกผู้ชายไม่มีอารมณ์จะมาสุนทรีย์กับพันธุ์ไม้มากนักหากเป็นโรงเรียนหญิงก็ว่าไปอย่าง
“ป้าครับผมเอา หมูทอดกับผัดผักครับ แกจ่ายด้วยนะ”
คาเวียร์หันมาบอกนาวินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แน่ละเพราะต้นเหตุของความสายและความซวยเลยต้องเลี้ยงข้าวตามระเบียบ
“ไม่อ่ะ ฉันว่ามีคนจ่ายแทนแล้วละ….” นาวินหันไปมองเพื่อนที่กำลังต่อแถวหลังตน
‘นะโม ตัสสะ ภควะโต…’
เสียงสวดมนต์งึมงำดังออกมาจากนักเรียนชายคนหนึ่งที่กำลังก้มหน้าดูหนังสือสวดมนต์อย่างไม่สนใจโลก ซึ่งเขายืนอยู่หลังนาวินพอดี
“เฮ๊ยย ไงวะไม่เจอตั้งนาน วันนี้เลี้ยงข้าวเพ่หน่อยดิ๊” คาเวียร์ที่หันมาเห็นชายคนดังกล่าวก็วางท่าใส่ทันที ดูเหมือนคนที่ถูกเล่นงานจะมีอาการสั่น ๆ เหมือนหวาดกลัว ดูจากสายตาภายในกรอบแว่นหนาๆ นั่นก็รู้แล้วว่าเขากลัวคาเวียร์ขนาดไหน
มองโดยรวมแล้วชายคนนี้แต่งตัวได้เชยสะบัด เสื้อเชิ๊ตลายสก๊อตติดกระดุมคอกับกางเกงยีนส์ตัวหลวมเอวสูงที่เขาใส่ทำให้ดูมากกว่าเป็นเด็กเนิร์ด ยิ่งคิ้วหนา ๆ กับแว่นใหญ่ ๆ ของเขาทำให้ดูเป็นเด็กเอ๋อไปในทันที
“ว่าไงจะเลี้ยงไม่เลี้ยง ‘ไอ้นะโม’….”
ใช่แล้วไอดอลเจ้าชายของทุกคนเวลาอยู่โรงเรียนกลายเป็นเด็กเอ๋อไปในทันที นะโมไม่ได้โต้ตอบอะไรเพียงแค่ยัดเงินใส่มือให้กับคาเวียร์จอมไถ่ตามระเบียบ
จะว่าไปนับวันคาเวียร์ยิ่งเล่นได้สมบทบาทดีเหลือเกิน ไม่เสียแรงที่เพิ่งผ่านคลาสแอคติ้งไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ดูทุกคนจะอินกับบทซะเหลือเกิน อินจนน่าหมั่นไส้
‘แต่ทำไมผมถึงไม่ได้รับบทดี ๆ กับเขาบ้างนะ’
นาวินคิดอย่างตัดพ้อ บางทีเขาก็อยากจะรับบทเป็นนักเลงบ้างอะไรบ้างดีกว่าติดแหงกเป็นคู่ปาท่องโก๋กับเคียวเป็นไหน ๆ ทำไมต้องกลั่นแกล้งกันแบบนี้ด้วยนะ
“นายว่าคาเวียร์มันอินไปเปล่า” นะโมหันมากระซิบกับนาวินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“ได้ยินนะโว้ย เดี๋ยวปั๊ด!!” คาเวียร์หันมาทำตาขวางใส่พร้อมกับเงื้อมือหลังมือขึ้น
นะโมไม่รู้จะทำไงดี จึงก้มหน้าสวดมนต์ต่อพร้อมกับเดินไปสั่งอาหารที่ร้านอื่น ก่อนจะเดินมานั่งที่โต๊ะเดียวกับนาวิน เคียวและคาเวียร์ พวกเขาเลือกนั่งโต๊ะด้านในสุดที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้คุยกันอย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
“เป็นไงมั่งพวกนาย” นะโนถามขึ้นขณะที่กำลังจะตักข้าวใส่ปาก
“ซวยแต่เช้าดิ่ มาสายยืนหน้าห้อง แถมต้องมาติดแหงกกับไอ้เคียวอีก” นาวินบ่นออกมาอย่างไม่เกรงใจเพื่อน
“โถ่คิดว่าฉันชอบไง๊ รำคาญจะแย่” เคียวที่นั่งอยู่ข้างนะโมเถียงขึ้นทันควัน
“พวกนายก็ยังดีกว่าฉันละกัน เจ็บก้นแต่เช้าอภิมหาซวย” คาเวียร์บ่นขึ้นบ้าง
“โดนใครเล่นก้นหรอคาเวียร์น้อย”
เป็นเสียงของผู้มาใหม่ที่มีหน้าตาสไตล์ลูกครึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเดวิด หรือที่เพื่อน ๆ ในวงเรียกว่า ‘เดฟ’ ไอดอลผู้มีโลกส่วนตัวสูงเวอร์ ใบหน้าของเขาดูจะจัดเต็มไปด้วยพล็อบต่าง ๆ มากกว่าคนอื่นอย่างมีคิ้วที่หนากว่าปกติข้างปากมีไฟเม็ดเป้งแถมยังฟันเหยินอีก คือกลัวบดบังความหล่อไม่มิดว่างั้น….
“มาถึงก็ปากเสียเลยนะ ไอ้เหยิน เพราะหกล้มก้นกระแทกต่างหาก” คาเวียร์รีบแก้ตัวแต่ก็ไม่วายแอบเรียกเดฟอย่างจิกกัด
“อ๊อหรออ แล้วท่านั่งนั่นอะไร เรียบร้อยไปป่ะครับ นั่งซะหนีบเชียว”
“เออลืมตัว”
พอโดนเดฟทักคาเวียร์ก็นึกได้รีบนั่งอ้าขา 180 องศาทันที มันก็มีกันบ้างที่เผลอเรอแสดงความเรียบร้อยออกมา ก็แหมจากคนเรียบร้อยให้มาเล่นบทห้าว ๆ เถื่อน ๆ มันไม่ง่ายเลยว่ามั้ย
“อ่าวสวัสดีครับพี่มัคทายก” เดฟหันไปไหว้นะโม
“ไหว้พระเถอะ เฮ๊ยจะตลกไปไหน”
นะโมหันมารับมุขจนเพื่อนๆ พากันหัวเราะ นี่คือเรื่องปกติของกลุ่มไอดอลวงนี้ที่เมื่ออยู่ด้วยกันเมื่อไหร่พวกเขาจะสนุกสนานเฮฮาเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด
“คิดถึงเฮียแทนเน๊อะ ป่านนี้ไมรู้ทำอะไรอยู่” เคียวเอ่ยขึ้น
เพราะแทนจบการศึกษาไปแล้วเลยไม่ได้อยู่รวมวงสนทนาในวันนี้ หากเป็นแต่ก่อนเขาจะมานั่งกับกลุ่มน้อง ๆ แม้ว่าแทนจะแก่กว่าพวกเขาหนึ่งปี แต่ก็ไม่เป็นปัญหาในการคบค้าสมาคมกันในโรงเรียน
“ไปโทรหาเฮียกันมั้ย?” นะโมเสนอความคิดเห็นบ้าง
“โถ่นะโมเอ้ย แกมองไปทางนู้นนน เห็นมั้ยน่ะคนต่อใช้โทรศัพท์ยาวเป็นวา” นาวินพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปทางตู้โทรศัพท์ให้นะโมดู
แม้ว่าโรงเรียนแห่งนี้จะหรูจัดยังไง แต่ก็น่าแปลกเพราะที่นี่ไม่อนุญาติให้พกเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดในโรงเรียนโดยอ้างว่าเพื่อให้นักเรียนมีสมาธิในการเรียนมากที่สุด จึงมีเพียงโทรศัพท์สาธารณะให้ใช้เครื่องเดียวเท่านั้น และในแต่ละวันก็มีคนมารอใช้กันอย่างล้นหลาม
“ฉันรู้ละ งั้นเรารีบกินแล้วไปที่หอกัน” เคียวเสนอความคิดขึ้น
“ไปทำไมวะ?” นาวินถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“เอ๊า ก็ไปใช้คอมเพื่อติดต่อเฮียไงเล่าไอ้สมองช้าเอ้ย” เคียวได้ทีต่อว่านาวินเป็นการใหญ่
นาวินไม่ได้โต้ตอบอะไรเพียงแต่ส่งสายตาอาฆาตให้เท่านั้น เพราะเขาต้องรีบกินเพื่อให้มีเวลาเหลือพอที่จะได้พูดคุยกับพี่ใหญ่ของพวกเขา
หลังจากกินเสร็จกลุ่ม iCON ทั้งหมดก็วิ่งกระหืดกระหอบมาที่ตึกนอนของพวกเขา หอพักไม่ได้ห้ามใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตเพราะที่นี่ใช้สำหรับเวลาส่วนตัวจึงสามารถทำอะไรได้อย่างอิสระ และห้องที่อยู่ใกล้ที่สุดคือห้องของนาวินกับคาเวียร์ พวกเขาทั้งหมดจึงเข้าไปออกันในห้อง
นาวิน :เฮียๆๆๆ เป็นไงบ้าง
เคียว :คิดถึงเฮียอ่ะ โรงเรียนไม่สนุกเลย
เคียว : เฮียตอบๆๆ
หลังจากเข้าห้องมาแล้วพวกเขาไม่รีรอที่จะเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเชื่อมต่อกับโปรแกรมไลน์ทันที เพราะเวลาที่มีน้อยนักจึงต้องรีบพิมพ์
ตื่อ ดึ้ง..
แทน : ใจเย็น ๆ
“เฮียตอบ ๆ ให้ฉันพิมพ์มั่งดิ่” นะโมเบียดตัวเข้ามาเพื่อจะพิมพ์บ้าง
นะโม : นะโมเองเฮีย คิดถึงๆๆ
แทน : พวกนายไม่เรียนหรอวันนี้?
นะโม: เรียน ๆ แต่พักอยู่เลยแอบมาที่หอ
.”พิมพ์บ้างดิ่ ไอ้นะโมหลบๆ” เคียวแทรกตัวเข้ามาบ้าง
“พิมพ์บ้างดิ่ ๆ ” เดฟก็เป็นอีกคนที่เข้ามาร่วมวง
ทำให้ตอนนี้ที่หน้าคอมอัดแน่นไปด้วยคนที่ต่างก็อยากจะสนทนากับแทนจนทำให้ดูมั่วไปหมด นาวินที่นั่งอยู่ถึงกับโดนบังมิดไปด้วยบรรดามือที่ยื่นมาบนแป้นคีย์บอร์ด
“พวกนายแย่งกันแบบนี้จะพิมพ์ได้ยังไงเนี่ย เป็นระเบียบกันหน่อยสิ!!” คาเวียร์ว่าพร้อมกับปัดมือพวกนั้นให้พ้นคอม
แทน : พวกนายนี่ก็ เดี๋ยวเย็นนี้ก็เจอกันแล้ว พวกนายต้องมาซ้อมไม่ใช่หรอ’
“เออนั่นดิ่ โอ๊ะไปนอนเล่นดีกว่า” เดฟผู้มีโลกส่วนตัวปลีกร่างออกไปแผ่บนเตียง ปล่อยให้ที่เหลือออกันอยู่หน้าคอมต่อไป
นาวิน : จริงด้วยเฮีย อย่าลืมเตรียมขนมไว้ให้พวกเราเยอะ ๆ นะเฮีย แล้วเจอกัน
เขาบอกพร้อมกับตัดจบเพราะเดี๋ยวยังไงก็ได้เจอกันอยู่ดี พี่ใหญ่ของเขายังไม่ได้ออกจากวงไปสักหน่อย เมื่อนึกถึงเรื่องการซ้อมทำให้เขารู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาบ้างเพราะจะได้กลับไปในโลกของการเป็นไอดอลอีกครั้ง
Morningmoon Talk
ตอน 1 มาแล้วจ้าาา
หนุ่ม ๆ น่ารักน่าหยิกกันจริง ๆ เลยอ่ะ
ฟินกันบ้างมั้ยเอ่ยยยยยยย
------------------------------------------------------------------
อัพเต็ม 100% แล้วค๊าาาาา
มาฟินกับหนุ่ม ๆ กันต่อเลย แต่ละคนนี่
จัดเต็มมากเรื่องการปลอมตัว เหมือนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้!
15 Mar 2015
ความคิดเห็น