เจ้าหญิงเห็ด

เนื้อเรื่อง

โดย  นางสาวอชิรญา  กองคำ

เรื่อง เจ้าหญิงเห็ด

ณ เมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยเห็ดนานาชนิดที่มีสีสันสวยงาม มีพระราชาและพระราชินีทั้งสองครองรักกันและปกครองนครเข็มเห็ดทอง ได้มีพระราชธิดาอยู่พระองค์หนึ่งซึ่งมีพระสิริโฉมงดงามสง่าเหมือนดังหงส์  ต่างเป็นที่หมายปองของเจ้าชายต่างแดน  และได้มีลูกเลี้ยงอีกหนึ่งพระองค์  ซึ่งลูกเลี้ยงคนนี้เป็นคนที่ขี้อิจฉามาก  จนอยู่มาวันหนึ่งได้เกิดเรื่องที่ไม่น่าคราดฝันขึ้น  สาเหตุมาจากลูกเลี้ยงใจร้ายที่ให้แม่มดสาปเจ้าหญิงจนกลายเป็นเห็ดเพราะความอิจฉาในรูปโฉมของเจ้าหญิง  เมื่อพระราชาและพระราชินีรู้ข่าวว่าลูกสาวของตนถูกคำสาปก็หาหนทางเพื่อจะช่วยลูกโดยการประกาศว่าถ้าใครรักษาเจ้าหญิงได้จะยกเจ้าหญิงให้แต่งงานด้วยพร้อมทั้งยกทรัพย์สมบัติให้อีก  เมื่อผู้คนเห็นประกาศดังนั้นต่างก็มาสมัครเพื่อจะช่วยเจ้าหญิงกันเยอะแยะมากมาย  แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่จะช่วยเจ้าหญิงให้พ้นจากคำสาปได้ 

 เวลาผ่านไปข่าวได้แพร่กระจายไปยังแดนไกลจนถึงนครกล้าหาญ  เจ้าชายผู้ครองนครนี้มีรูปร่างสง่างาม  ชวนหลงใหล  เมื่อได้ยินประกาศจึงเสด็จมาจากขั้วโลกทางตอนใต้เพื่อจะมาช่วยเจ้าหญิงที่ถูกสาปเป็นเห็ด  เจ้าชายได้ปลอมตัวเป็นสามัญชนธรรมดาแล้วเข้าไปสืบหาสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดในพระราชวัง  เมื่อพบว่าสาเหตุมาจากลูกเลี้ยงใจร้ายของพระราชินีคนก่อนก็เข้าไปลวงถามให้เผยความลับออกมา   จนเจ้าชายรู้วิธีแก้คำสาป  คือให้ไปหาของสามสิ่ง ได้แก่ เชิงเทียนทองในถ้ำมังกร เห็ดสีชมพูที่ป่าภูเขามืด และปากกาทองคำในคุกใต้ดิน

 เจ้าชายได้เลือกหาประกาทองคำในคุกใต้ดินก่อน เจ้าชายได้เดินทางเข้าไปในคุกใต้ดินแล้วเจอกับสิงโตสองหัว เมื่อเจ้าชายเห็นเช่นนั้นจึงได้เอาครบเพลิงจากข้างผนังถ้ำ จุดรอบเป็นล้อมตัวสิงโตไว้ จากนั้นเจ้าชายได้หยิบกระดิ่งทอง ที่อยู่ในกระเป๋าออกมา ออกมาสั่นกระดิ่งสามครั้ง มังกรยักษ์ก็บินออกมาจากกระดิ่งทอง และจัดการฆ่าสิงโตในที่สุด  เจ้าชายได้อธิษฐานขอให้ปากกาทองปรากฏออกมา  ปากกาทองก็ลอยออกมาจากตัวของสิงโตวางอยู่บนมือเจ้าชาย  จากนั้นเจ้าชายก็ออกจากคุกใต้ดินแล้วเดินทางเข้าไปในป่าใหญ่เพื่อที่จะหาเห็ดสีชมพูและเชิงเทียนทองในถ้ำมังกรต่อไป  เจ้าชายเดินเข้าไปในป่าลึกแล้วเจอกับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่มีใบไม้เป็นสีชมพู  เจ้าชายจึงเดินรอบต้นไม้สามรอบแล้วอยู่ๆเห็ดสีชมพูก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเจ้าชาย  เจ้าชายรีบเก็บเห็ดสีชมพูนั้นใส่ในกระเป๋าแล้วออกเดินทางต่อไป  เจ้าชายเดินทางอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยจนถึงเวลากลางคืนและได้จุดครบเพลิงขึ้นแสงสว่างจากครบเพลิงทำให้พบปากอุโมงค์ถ้ำเป็นรูปปากมังกรสีดำอยู่ตรงหน้า  เจ้าชายจึงรีบเดินเข้าไปเพื่อตามหาเชิงเทียนทองแล้วได้พบกับมังกรยักษ์ตัวสีแดงเหมือนไฟนอนหลับอยู่ในถ้ำนั้น  เจ้าชายได้เหลือกไปเห็นเชิงเทียนทองที่ส่องสว่างอยู่ในกรงเล็บของมังกรจึงได้ย่องเข้าไปเพื่อที่จะไปเอาเชิงเทียนทองนั้น  แต่จู่ๆมังกรก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาพอดี  มันมองเห็นเจ้าชายและคำรามออกมาเสียงดังมันได้ใช้หางฟาดเจ้าชายแต่เจ้าชายหลบได้และคว้าเชิงเทียนทองติดมือมาได้  จากนั้นเจ้าชายได้วิ่งกลับออกมาจากปากถ้ำอย่างรวดเร็ว  แต่มังกรก็ยังไล่ตามเจ้าชายออกมา  เจ้าชายไม่รู้จะทำเช่นไรและรู้ว่าตัวเองไม่มีทางสู้มังกรไหวแต่จู่ๆปากกาทองก็ลอยขึ้นมาและกลายร่างเป็นดาบสองคม  เจ้าชายจึงหยิบดาบนั้นขึ้นมาฟันคอมังกรจนขาดออกเป็นสองท่อน  จากนั้นเจ้าชายจึงรีบกลับมายังพระราชวังเพื่อที่จะไปช่วยเจ้าหญิง

 เจ้าชายได้นำเชิงเทียนทองไปจุดตั้งไว้ใกล้ๆกับเห็ดเจ้าหญิงเป็นเวลาสองวันสองคืน  จากนั้นเจ้าหญิงก็คืนร่างจากเห็ดกลับกลายเป็นมนุษย์แต่เป็นเพียงเจ้าหญิงนิทราเท่านั้นและเจ้าชายได้นำเห็ดสีชมพูเพื่อที่จะนำไปต้มให้เจ้าหญิงกิน  เมื่อเจ้าหญิงได้ดื่มน้ำเห็ดสีชมพูต้มเจ้าหญิงก็ฟื้นขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ  เมื่อเจ้าชายได้เห็นหน้าเจ้าหญิงตอนที่ลืมตาขึ้นก็ตกหลุมรักเลยทันที  และบอกความจริงให้เจ้าหญิงได้รู้ว่าตนเป็นเจ้าชายต่างแดนที่เดินทางมาจากขั้วโลกทางตอนใต้  เมื่อพระราชาและพระราชินีรู้ว่าเจ้าหญิงฟื้นขึ้นก็ดีพระทัยเป็นอย่างยิ่งและได้ป่าวประกาศไปทั่วทั้งเมือง  หลังจากนั้นพระราชาจึงได้จัดงานฉลองอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าชายแห่งเมืองกล้าหาญกับเจ้าหญิงขึ้นและยกพระราชวังให้เจ้าชายเป็นผู้ปกครองสืบต่อไป  ส่วนลูกเลี้ยงใจร้ายถูกเจ้าชายจับขังในคุกใต้ดินเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้ที่พบเห็น  และตั้งแต่นั้นมาเจ้าชายและเจ้าหญิงก็ครองรักกันอย่างมีความสุขตราบชั่วนิรันดร์