Be love วาดฝันปันรัก
ชีวิตที่ไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ทำให้ฉันต้องดิ้นลนไปให้สุดทางของชีวิต โดยมี 'เขา' เจ้านายแสนใจดีและอบอุ่นที่เป็นเสมือนแรงบรรดาลใจทำให้ฉันวาดฝันชีวิตของตัวเองและดำเนินไปได้ในทุกวัน
ผู้เข้าชมรวม
237
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Be love วาดฝันปันรัก
เซนท์ / เนส
เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนฟาน จาก Be love แค่เธอ
“พอได้แล้วน่า” บอสที่คงทนไม่ได้กับอาการมึนเมาของฉันเดินเข้ามาแย่งแก้วที่ฉันถืออยู่ในมือไปถือไว้เอง หากแต่นิสัยถ้าได้ดื่มจนกรึ่มแล้วไม่สามารถหยุดได้ของฉัน ก็ทำให้ฉันใจกล้ามากพอที่ชิงแก้วนั้นกลับมายกซดรวดเดียวหมดแก้วได้อย่างไม่เกรงกลัวสายตาคมดุที่จ้องมายังฉันอย่างดุดัน
ตอนนี้บอสตรงหน้าไม่มีวี่แววใจดีอย่างที่เคยเห็น ท่าทางเขาดูน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
หากแต่ฉันหาสนใจไม่ ฉันมองหน้าบอสที่ทำหน้ายักษ์ใส่อย่างไม่เกรงกลัว ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ฉันสะสมไปมากโขในตัวทำให้ฉันยิ้มสู้ได้อย่างกล้าหาญ ภาพคนตรงหน้าที่เหมือนกำลังมีควันออกมาจากรูหูทั้งสองข้างทำเอาฉันยิ้มขำ
“ทำหน้ามุ่ยแบบนี้ก็หล่อไปอีกแบบเเฮะ” ฉันเผลอพูดออกไปโดยแทบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
“คุณเนสคุณเมามากแล้วนะ”
“ไม่เมา นี่คือไม่มาวววว”
“พอได้แล้ว” เสียงนุ่มทุ้มที่ดังขึ้นข้างหูทำเอาฉันต้องปรือตาขึ้นมามอง ก่อนจะเห็นว่าสุดหล่อของฉันกำลังย่นคิ้วใส่ด้วยอย่างมึนตึง
“ไม่ได้ๆ แค่นี้จิ๊บๆ” แล้วฉันก็ดันตัวเขาให้ออกห่าง ก่อนจะหันไปหยิบแก้วแชมเปญขึ้นมากระดกลงคออีกหลายอึก
“สภาพคุณไม่ไหวแล้วนะ”
“หวายยยย” แล้วฉันก็โยกร่างกายไปตามเสียงเพลงที่เปิดดังลั่น ราวกับอยู่ในผับในบาร์ตามอารมณ์มึนเมาของตัวเอง ฉันไม่ใช่สาวน้อยวัยใสที่ไม่รู้จักการเที่ยวอะไรแบบนี้ ตรงกันข้ามฉันเป็นสาวมั่นที่ชอบบุกผับบุกบาร์ตามเวลาและโอกาสที่จะได้ไป อย่างเช่นนัดเจอเพื่อนเก่าหรือไปเที่ยวแก้เบื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
หากแต่ครั้งนี้ฉันกลับลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองไม่ได้กำลังมาเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อน หากแต่กำลังมาทำงานกับเจ้านายที่ไม่แม้แต่จะสนิทด้วยสักนิด
“นี่คุณ!” แล้วสติฉันจะดับวูบ เห็นเพียงใบหน้าหล่อเหลาที่เลือนรางกำลังพุ่งมาหาฉันก่อนที่ภาพจะตัดลง“พอได้แล้วน่า” บอสที่คงทนไม่ได้กับอาการมึนเมาของฉันเดินเข้ามาแย่งแก้วที่ฉันถืออยู่ในมือไปถือไว้เอง หากแต่นิสัยถ้าได้ดื่มจนกรึ่มแล้วไม่สามารถหยุดได้ของฉัน ก็ทำให้ฉันใจกล้ามากพอที่ชิงแก้วนั้นกลับมายกซดรวดเดียวหมดแก้วได้อย่างไม่เกรงกลัวสายตาคมดุที่จ้องมายังฉันอย่างดุดัน
ตอนนี้บอสตรงหน้าไม่มีวี่แววใจดีอย่างที่เคยเห็น ท่าทางเขาดูน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
หากแต่ฉันหาสนใจไม่ ฉันมองหน้าบอสที่ทำหน้ายักษ์ใส่อย่างไม่เกรงกลัว ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ฉันสะสมไปมากโขในตัวทำให้ฉันยิ้มสู้ได้อย่างกล้าหาญ ภาพคนตรงหน้าที่เหมือนกำลังมีควันออกมาจากรูหูทั้งสองข้างทำเอาฉันยิ้มขำ
“ทำหน้ามุ่ยแบบนี้ก็หล่อไปอีกแบบเเฮะ” ฉันเผลอพูดออกไปโดยแทบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
“คุณเนสคุณเมามากแล้วนะ”
“ไม่เมา นี่คือไม่มาวววว”
“พอได้แล้ว” เสียงนุ่มทุ้มที่ดังขึ้นข้างหูทำเอาฉันต้องปรือตาขึ้นมามอง ก่อนจะเห็นว่าสุดหล่อของฉันกำลังย่นคิ้วใส่ด้วยอย่างมึนตึง
“ไม่ได้ๆ แค่นี้จิ๊บๆ” แล้วฉันก็ดันตัวเขาให้ออกห่าง ก่อนจะหันไปหยิบแก้วแชมเปญขึ้นมากระดกลงคออีกหลายอึก
“สภาพคุณไม่ไหวแล้วนะ”
“หวายยยย” แล้วฉันก็โยกร่างกายไปตามเสียงเพลงที่เปิดดังลั่น ราวกับอยู่ในผับในบาร์ตามอารมณ์มึนเมาของตัวเอง ฉันไม่ใช่สาวน้อยวัยใสที่ไม่รู้จักการเที่ยวอะไรแบบนี้ ตรงกันข้ามฉันเป็นสาวมั่นที่ชอบบุกผับบุกบาร์ตามเวลาและโอกาสที่จะได้ไป อย่างเช่นนัดเจอเพื่อนเก่าหรือไปเที่ยวแก้เบื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
หากแต่ครั้งนี้ฉันกลับลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองไม่ได้กำลังมาเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อน หากแต่กำลังมาทำงานกับเจ้านายที่ไม่แม้แต่จะสนิทด้วยสักนิด
“นี่คุณ!” แล้วสติฉันจะดับวูบ เห็นเพียงใบหน้าหล่อเหลาที่เลือนรางกำลังพุ่งมาหาฉันก่อนที่ภาพจะตัดลง“พอได้แล้วน่า” บอสที่คงทนไม่ได้กับอาการมึนเมาของฉันเดินเข้ามาแย่งแก้วที่ฉันถืออยู่ในมือไปถือไว้เอง หากแต่นิสัยถ้าได้ดื่มจนกรึ่มแล้วไม่สามารถหยุดได้ของฉัน ก็ทำให้ฉันใจกล้ามากพอที่ชิงแก้วนั้นกลับมายกซดรวดเดียวหมดแก้วได้อย่างไม่เกรงกลัวสายตาคมดุที่จ้องมายังฉันอย่างดุดัน
ตอนนี้บอสตรงหน้าไม่มีวี่แววใจดีอย่างที่เคยเห็น ท่าทางเขาดูน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
หากแต่ฉันหาสนใจไม่ ฉันมองหน้าบอสที่ทำหน้ายักษ์ใส่อย่างไม่เกรงกลัว ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ฉันสะสมไปมากโขในตัวทำให้ฉันยิ้มสู้ได้อย่างกล้าหาญ ภาพคนตรงหน้าที่เหมือนกำลังมีควันออกมาจากรูหูทั้งสองข้างทำเอาฉันยิ้มขำ
“ทำหน้ามุ่ยแบบนี้ก็หล่อไปอีกแบบเเฮะ” ฉันเผลอพูดออกไปโดยแทบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
“คุณเนสคุณเมามากแล้วนะ”
“ไม่เมา นี่คือไม่มาวววว”
“พอได้แล้ว” เสียงนุ่มทุ้มที่ดังขึ้นข้างหูทำเอาฉันต้องปรือตาขึ้นมามอง ก่อนจะเห็นว่าสุดหล่อของฉันกำลังย่นคิ้วใส่ด้วยอย่างมึนตึง
“ไม่ได้ๆ แค่นี้จิ๊บๆ” แล้วฉันก็ดันตัวเขาให้ออกห่าง ก่อนจะหันไปหยิบแก้วแชมเปญขึ้นมากระดกลงคออีกหลายอึก
“สภาพคุณไม่ไหวแล้วนะ”
“หวายยยย” แล้วฉันก็โยกร่างกายไปตามเสียงเพลงที่เปิดดังลั่น ราวกับอยู่ในผับในบาร์ตามอารมณ์มึนเมาของตัวเอง ฉันไม่ใช่สาวน้อยวัยใสที่ไม่รู้จักการเที่ยวอะไรแบบนี้ ตรงกันข้ามฉันเป็นสาวมั่นที่ชอบบุกผับบุกบาร์ตามเวลาและโอกาสที่จะได้ไป อย่างเช่นนัดเจอเพื่อนเก่าหรือไปเที่ยวแก้เบื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
หากแต่ครั้งนี้ฉันกลับลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองไม่ได้กำลังมาเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อน หากแต่กำลังมาทำงานกับเจ้านายที่ไม่แม้แต่จะสนิทด้วยสักนิด
“นี่คุณ!” แล้วสติฉันจะดับวูบ เห็นเพียงใบหน้าหล่อเหลาที่เลือนรางกำลังพุ่งมาหาฉันก่อนที่ภาพจะตัดลง
ผลงานอื่นๆ ของ R-JAREE ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ R-JAREE
ความคิดเห็น