คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : 13 - เดท?? [100%]
13 – เดท??
ที่ลานกว้างซึ่งอยู่ด้านหน้าของสิ่งก่อสร้างสีฟ้าขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างให้เป็นรูปปลาวาฬ เต็มไปด้วยเด็กๆวัยยังไม่เข้าเรียนชั้นมัธยมจำนวนมาก บางคนก็มากันเป็นครอบครัว บ้างก็มาเที่ยวกันเอง ทำให้วันเสาร์ธรรมดาๆ ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นวันเด็กไปเสียแล้ว เสียงดังเซ็งแซ่ของเด็กทำให้คนสองคนที่อายุเกินคำว่าเด็กไปแล้วต้องหยุดเดินและหันมามองหน้ากันชั่วขณะหนึ่ง
“เอ่อ ฉันคิดผิดจริงๆที่เลือกมาอควาเรียมวันนี้”
นารุโตะเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนจะหมดความสนุกไปแล้วครึ่งหนึ่ง เขาไม่ค่อยถูกกับเด็กสักเท่าไร ยิ่งเป็นเด็กประถมเกรียนๆก็ยิ่งแล้วใหญ่ ไม่ใช่แค่รำคาญเสียงเด็กเท่านั้น แต่เขาก็ยังกลัวว่าตัวเองจะเผลอไปทำร้ายร่างกายเด็กพวกนั้นเข้าหากถูกกวนประสาทมากๆ
“แค่เด็กเยอะคงไม่เป็นไรหรอก เข้าไปข้างในกัน ไหนๆก็มาแล้ว”
กาอาระพูด ก่อนจะเดินนำไปก่อน ทำให้คนข้างๆจำต้องเดินตามไปโดยไม่บ่นอะไร แต่ก็ยังแอบมองตามหลังไปด้วยความไม่ค่อยพอใจ ช่างไม่เข้าใจความรู้สึกของคนเกลียดเด็กบ้างเลย
เมื่อฝ่าดงผู้ปกครองและบุตรหลานมายืนอยู่ตรงหน้าอควาเรียมรูปปลาวาฬได้ นารุโตะก็รีบหนีกลุ่มเด็กๆไปต่อคิวรอซื้อบัตรเข้าชมอควาเรียม ปล่อยให้ร่างสูงยืนเด่นอยู่คนเดียวท่ามกลางกลุ่มเด็ก แม้จะเริ่มรู้สึกรำคาญเสียงที่ดังอยู่รอบๆตัวขึ้นมานิดๆ แต่เขาก็คิดว่าสภาพอย่างนี้ก็ยังดีกว่าการที่ต้องอยู่แต่ในห้องและนั่งเล่นเกมคนเดียวเหมือนทุกๆวันหยุดที่ผ่านมา ในตอนแรกกาอาระเองก็ไม่ค่อยอยากจะออกมาข้างนอก แต่พอคิดว่าน่าจะถือโอกาสที่นารุโตะมาอยู่ด้วย ออกไปเที่ยวด้วยกันบ้าง จึงตัดสินใจออกมา
“อ่ะ บัตรได้แล้ว”
“นายก็เป็นโรคเกลียดเด็กเหรอ?”
กาอาระถามขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปรับบัตรเข้าชมอควาเรียมมาถือไว้ใบหนึ่ง หลังจากที่เห็นนารุโตะทำสีหน้าแปลกๆเมื่อถูกเด็กวิ่งมาชน
“มาก!!”
ร่างเล็กตอบกลับมา เน้นเสียงดังเพื่อให้รู้ว่าระดับความไม่ชอบเด็กของเขามันมากขนาดไหน ก่อนจะเดินเร็วๆนำหน้าเข้าไปก่อน ทำให้คนข้างหลังต้องหลุดยิ้มออกมานิดหนึ่งเมื่อเห็นท่าทีอย่างที่ตนไม่เคยเห็นมาก่อน
เมื่อเข้ามาด้านในอควาเรียม โซนแรกที่ต้องผ่านเป็นทางเดินมืดๆที่มีตู้ปลาทรงกลมหลายขนาดพร้อมไฟต่างสีสันกันไปในแต่ละตู้ แสงไฟสีสวยจากตู้ปลาที่เหมือนเรืองแสงในความมืดทำให้บรรยากาศรอบๆดูสวยแปลกตา นารุโตะเดินเข้าไปดูที่ตู้ปลาตู้หนึ่ง ซึ่งมีปลารูปร่างแปลกประหลาดอยู่ในนั้น มันนิ่งมากเสียจนเขาต้องเพ่งดูว่ามันเป็นปลาจริงหรือของปลอมกันแน่ ขณะกำลังใช้สมาธิกับปลาประหลาด เสียงเบาๆจากคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆก็ดังขึ้นมา
“แบบนี้ใช่ไหม ที่เขาเรียกกันว่าเดทน่ะ”
“หา!!”
นารุโตะเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจจนเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆสะดุ้งแล้วรีบเดินหนีกลับไปหาแม่ เขาเหลือบมองกาอาระนิดหนึ่ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายก็กำลังจ้องปลาในตู้อยู่เหมือนกันก็ตอบกลับไปด้วยเสียงที่คิดว่าเบาที่สุด ก้าวถอยออกห่างจากแสงไฟของตู้ปลาเพื่อซ่อนใบหน้าที่กำลังขึ้นสีของตัวเอง
“จะว่าใช่ ...ก็ได้ล่ะมั้ง”
“เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ?”
“อ่ะ เอ่อ... เปล่าๆ ไม่มีไรหรอก ฮ่าๆ”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ยินสิ่งที่ตัวเองพูด นารุโตะจึงแกล้งทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นพร้อมกับหัวเราะกลบเกลื่อน ก่อนจะรีบเดินไปที่ตู้ปลาตู้อื่น
ร่างเล็กเดินไปหยุดอยู่ที่ตู้ปลาที่มีปลาสีส้มตัวเล็กๆหลายตัวว่ายอยู่ เด็กสองสามคนที่ยืนดูอยู่หลีกทางให้และรีบวิ่งหนีไปทันที ราวกับรู้ว่าพี่ชายที่เพิ่งเดินเข้ามานั้นเกลียดเด็กยิ่งกว่าอะไร ตาสีฟ้าคู่สวยจ้องมองปลาการ์ตูนในตู้ว่ายน้ำไปมาด้วยความสนใจ นึกอยากจะเลี้ยงปลาแบบนี้ไว้ที่บ้านตัวเองบ้าง ...ไม่นานนักก็รู้สึกตัวได้ว่ามีคนมายืนอยู่ข้างๆ เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นกาอาระที่เพิ่งเดินตามมา ร่างสูงมองปลาการ์ตูนในตู้ด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะพูดขึ้นมาลอยๆ
“น่ารัก”
“คิดเหมือนกันเลย! ฉันถึงชอบปลาการ์ตูนพวกนี้ไงล่ะ...”
“ไม่ใช่ปลา ...นายนั่นแหละ”
พูดจบก็เดินจากไปทันที ปล่อยให้นารุโตะที่ดูเหมือนว่าสมองกำลังประมวลผลยังไม่เสร็จ ยืนงงปนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินอยู่คนเดียว เวลาผ่านไปชั่วครู่ ร่างสูงที่เดินห่างออกมาก็ได้ยินเสียงโวยวายดังตามหลังมา ก่อนที่เจ้าของเสียงจะวิ่งตามมาหยุดอยู่ข้างๆด้วย
“บ้าเอ๊ย!! มาพูดแบบนี้ในที่สาธารณะได้ยังไงห๊ะ!!”
“เขาจะรู้กันหมดก็เพราะนายเสียงดังอ่ะนะ...”
กาอาระชี้ไปทางผู้ปกครองและบุตรหลานจำนวนมากที่หันมามองตามเสียงของนารุโตะ ทำให้ตัวต้นเหตุต้องรีบลากแขนของเขาให้เดินออกไปจากโซนนี้โดยเร็ว
ทั้งสองคนเดินมาเรื่อยๆจนถึงโซนที่เป็นห้องทรงกลมขนาดใหญ่ รอบห้องถูกล้อมไปด้วยกระจกใสของตู้ปลา ราวกับตู้ปลาเหล่านั้นเป็นทีวีขนาดยักษ์ที่มีปลาแหวกว่ายอยู่ข้างใน เว้นห่างออกมาจากกระจกนิดหนึ่ง มีที่นั่งที่ทำไว้เพื่อให้สามารถนั่งพักพร้อมกับดูปลาไปด้วยได้ จึงเข้าไปนั่งพักให้หายเหนื่อย
“เฮ้ออ เหนื่อยชะมัด”
นารุโตะบ่นออกมาทันทีที่ได้นั่งลงบนที่นั่งหน้าตู้ปลา ส่วนคนข้างๆที่ถูกลากไปๆมาๆหลายโซนก็เหนื่อยไม่แพ้กัน เพียงแต่ไม่ได้บ่นอะไรออกมาเท่านั้น
“แต่ก็สนุกดีนะ ตั้งแต่เกิดฉันไม่เคยมาเที่ยวที่แบบนี้เลย”
กาอาระพูดขึ้น สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่ตู้ปลาตรงหน้า นึกย้อนไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเขาตั้งแต่เด็ก ซึ่งแทบไม่มีความทรงจำดีๆถูกบันทึกอยู่เลย นี่คงเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่ามีความสุขกับสิ่งที่มองเห็นอยู่ตรงหน้า มันเป็นความรู้สึกที่มาจากใจจริงๆ จนเหมือนกับว่าสิ่งที่เขาเคยภาคภูมิใจมาตลอด อย่างการได้เป็นหัวหน้ากลุ่มแบลคครอส มีคนในกลุ่มที่ยอมรับในตัวตนของตัวเองนั้น กลายเป็นเพียงความสุขจอมปลอมที่เขาสร้างมันขึ้นมาเพื่อปลอบใจตัวเองก็เท่านั้น
“ใช่มะ นี่ถ้านายไม่มัวเอาเวลาไปไฝว้กับคนอื่นก็น่าจะสนุกอย่างนี้ได้ตั้งนานแล้ว”
“...เพราะตอนนั้นฉันยังไม่เจอคนที่เข้าใจความรู้สึกจริงๆของฉันไงล่ะ”
กาอาระตอบพร้อมกับหันกลับมามองคนที่ตนกำลังพูดถึงอยู่ ในตอนนี้ เขารู้แล้วว่าไม่มีอะไรที่จะสามารถเทียบได้กับความสุขที่ได้รับอยู่ในตอนนี้อีกแล้ว
...การมีคนที่เข้าใจและยอมรับในตัวตนของตัวเองยืนอยู่ข้างๆ มันก็มากเกินพอแล้วที่ทำให้ลืมความเจ็บปวดและความโกรธแค้นที่ต้องแบกรับเอาไว้ด้วยตัวคนเดียวมาโดยตลอด และมันก็ทำให้เขามั่นใจได้ว่าความรู้สึกที่มีต่อนารุโตะในตอนนี้ ไม่ใช่เพียงแค่คำว่า “ชอบ” แต่มันมากกว่านั้น มากเสียจนรู้สึกว่าอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้อีกฝ่ายได้รับรู้ และตอบรับความรู้สึกที่มีให้
“นี่จะมองอีกนานไหม? หรือหน้าฉันมีอะไรติดอยู่”
นารุโตะถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง เมื่อเห็นสายตาที่มองมานั้น ดูเหมือนกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แถมยังมองมานานจนชักจะเริ่มรู้สึกแปลกๆขึ้นมา
“เปล่า แค่จะบอกว่า... เดี๋ยวออกจากที่นี่ ขอคุยอะไรด้วยหน่อย”
“ทำไมอ่ะ! พูดตอนนี้ไม่ได้เหรอ อย่ามาทำให้อยากรู้แล้วไม่บอกดิ~”
“ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวก็ได้รู้”
ร่างสูงเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม ส่งผลให้คนตรงหน้าเริ่มรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี จนต้องรีบทำเนียนลุกไปมองปลาในตู้ใกล้ๆเพื่อซ่อนอาการของตัวเองที่ดูเหมือนจะ “เยอะ” ขึ้นทุกวัน
เมื่อออกมาจากอควาเรียมก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว ทั้งสองคนจึงอพยพตัวเองไปกินมื้อเย็นที่ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ใกล้ๆอควาเรียม กาอาระเดินนำไปเข้าก่อนเพื่อจะเลือกนั่งโต๊ะที่อยู่บริเวณที่ไม่ค่อยมีคนมากนัก ด้วยความที่ไม่อยากให้คนอื่นมาได้ยินสิ่งที่เขาต้องการจะพูด
สักพักอาหารที่สั่งเอาไว้ก็มาอยู่บนโต๊ะ ด้วยความเหนื่อยและหิว ต่างฝ่ายต่างก็นั่งกินมื้อเย็นตรงหน้าของตัวเองอย่างเงียบๆ แม้จะเป็นอย่างนั้น กาอาระก็ยังแอบรู้สึกว่าสายตาของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามนั้นมองมาเป็นระยะเหมือนรอจะให้เขาพูดอะไรออกมาเสียที ท่าทางเหมือนอยากรู้เต็มที แต่เขาเองก็ยังคงต้องทำเป็นไม่เห็นและจัดการกับอาหารของตัวเองให้เสร็จก่อน เพราะเกรงว่าถ้าพูดตอนนี้จะไม่เป็นอันกินข้าวกันทั้งสองคน
“ตกลงจะคุยเรื่องอะไรเหรอ”
เมื่อเห็นว่าทั้งตัวเองและอีกฝ่ายกินเสร็จเรียบร้อยแล้ว นารุโตะก็รีบถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้ หลังจากที่ต้องทนอยู่กับความสงสัยมานานหลายชั่วโมง
“คือ...”
“คือ? อะไร!”
ร่างบางมีท่าทีที่กระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมองเห็นว่ากาอาระกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่แต่ก็ยังไม่ได้พูดออกมาให้ได้รับรู้
“ใจเย็นแล้วฟังให้ดีๆ ...ตลอดเวลาที่ได้อยู่กับนาย ฉันรู้สึกดีมากที่นายเข้าใจความรู้สึกของฉัน ถึงตอนแรกที่เจอกันเราแทบจะฆ่ากันตายก็เถอะ”
“...”
ด้วยสายตาที่ดูจริงจัง ทำให้นารุโตะทำได้เพียงแค่ฟัง และไม่กล้าพูดอะไรขัดขึ้นมา ตอนนี้ที่เขารู้สึกมีเพียงอย่างเดียวคือ ...นี่แหละ ของจริง ไม่ใช่พูดกันเล่นๆเหมือนที่เคยทำ
“ฉันรู้สึกขอบคุณมากๆ ที่นายคอยอยู่ข้างๆฉัน สำหรับคนที่อยู่คนเดียวมาตลอด ฉันเพิ่งจะเคยมีความสุขจริงๆก็ครั้งนี้เอง ความรู้สึกนี้ฉันเองก็คิดมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้บอกเพราะยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจแล้ว มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกขอบคุณ หรือรู้สึกมีความสุขแบบทั่วๆไป”
“ฉันชอบนาย ที่จะพูดก็มีแค่นี้แหละ เพราะงั้น ...จะคบกับฉันได้ไหม นารุโตะ?”
ความคิดเห็น