ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานแห่งซีน: มรดกแห่งสวรรค์ (Chronicle of Ziene: Celestial Legacy) (ตีพิมพ์ สนพ อาเธน่า)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 : เหนือมังกรเพลิง ใต้ปีกสีเงิน (1/11)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 664
      55
      28 ธ.ค. 60



    ปี 4007 ประเทศเชสนา ทวีปกิงคารอน

    ท้องนภาสีฟ้าใสปรากฏเป็นอันดับแรกหลังจากลืมตาตื่นขึ้น ก้อนเมฆลอยเอื่อยเฉื่อยตามสายลมที่พัดพา กลิ่นหอมอันคุ้นเคยทำให้ชายหนุ่มยันกายขึ้นนั่งพบว่ารอบกายเขาคือทุ่งดอกไม้กว้างสุดลูกหูลูกตาแห่งหนึ่ง กว้างจรดกับผืนขอบฟ้าราวกับไร้ที่สิ้นสุด ดอกไม้หลายชนิดหลากสีสันส่งกลิ่นหอมสดชื่นไปทั่ว เหล่าผีเสื้อเกาะตอมตามยอดเกสรเพื่อดื่มด่ำความหอมหวาน บ้างบินวนคล้ายเด็กวิ่งหยอกล้อกัน

    ที่นี่มัน...

    พลันสายตาไปสะดุดกับหญิงสาวในชุดสีขาวพิสุทธิ์คนหนึ่ง หญิงสาวที่เขารู้จักดี ผู้ที่เขายอมมอบดวงใจทั้งหมดให้ สองมือของเธอโอบอุ้มทารกตัวน้อยที่กำลังหลับอย่างสบายอารมณ์ เธอช่างโดดเด่นและดูน่าดึงดูดกว่าดอกไม้เสียอีก

    “อลิเซีย” เขาตะโกนเรียก แต่หญิงสาวเจ้าของชื่อกลับไม่สนใจ ยังคงหลับตาพริ้มฮัมเพลงกล่อมให้ลูกน้อยของเธอต่อไป

    เขาไม่อยากตะโกนเสียงดังเกรงว่าจะทำให้ลูกของเขาตื่น จึงสาวเท้าเดินเข้าไปหาแทน แต่เพราะเหตุใดไม่ทราบได้ เดินอยู่นานกลับไม่เพียงแต่จะไม่เข้าใกล้เธอเลยสักนิด ซ้ำร้ายระยะทางกลับยิ่งห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ

    “อลิเซีย อลิเซีย...” เขาตะโกนซ้ำหลายรอบพร้อมเร่งฝีเท้าตามทว่าร่างนั้นกลับยิ่งลอยห่างออกไปเร็วขึ้นจนในที่สุดก็ลับสายตา ในวินาทีนั้นราวกับเห็นหญิงสาวหันมาแวบหนึ่ง ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความเศร้าพร้อม ๆ กับทุ่งดอกไม้ที่พลันเหี่ยวเฉาลง สรรพสิ่งรอบข้างกลายเป็นสีดำสนิทเหลือเพียงแต่เขาผู้เดียวที่พยายามวิ่งอย่างบ้าคลั่งและไร้จุดหมาย

    “ไม่นะ อลิเซีย อย่าทิ้งข้าไป!!!”


    บรรยากาศภายในพระราชวังแห่งเชสนาอันสงบสุขบัดนี้อึดครึมไปด้วยความตึงเครียดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ความกดดันแผ่ออกมาจากร่างเจ้าของปราสาทผู้เป็นนายเหนือหัวของทุกคนในที่แห่งนี้ อากาศที่นี่ไม่ได้หนาวเหน็บเลยแต่บรรดาทหารและอัศวินที่รายล้อมต่างรู้สึกเย็นยะเยือกถึงขั้วหัวใจ

    เวลาที่ค่อย ๆ ไหลผ่านไปกลับยิ่งบั่นทอนจิตใจของกษัตริย์หนุ่ม เขาตอกย้ำจิตใจตัวเองให้เชื่อ เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นเพียงฝันร้าย เป็นเพียงภาพหลอน เป็นเพียงสิ่งที่เขาคิดขึ้นมาเอง เขาเฝ้ารอ รอคนรักของเขามาเขย่าปลุกให้ตื่น รอสองมือเรียวงามที่เคยปลอบโยนเขามาตลอดฉุดเขาขึ้นจากฝันร้าย

    มือสองข้างกำหมัดเกร็งแน่น นัยน์ตาสีเพลิงจ้องเขม็งไปยังประตูห้อง

    เมื่อเห็นทหารนายหนึ่งวิ่งตรงมาอย่างรีบร้อน เขาก็ลุกพรวดพราดสาวเท้าออกจากห้องไปทันที ยังไม่ทันที่ทหารนายนั้นพูดรายงานแม้แต่คำเดียว

    “ฝ่าบาท” เสียงหนึ่งร้องเรียกด้วยความตกใจระคนเป็นห่วงก่อนจะรีบก้าวตามมาอย่างรวดเร็ว เขาไม่หันไปมองเสียด้วยซ้ำว่าใครจะตามมา ไม่แม้แต่จะสนใจ สองเท้ามุ่งหน้าไปยังจุดมุ่งหมายโดยด่วน

    ณ ลานเบื้องหน้าพระราชวังมีม้าเทียมเกวียนงามซึ่งมีตราสัญลักษณ์เฉพาะเชื้อพระวงศ์ประดับไว้จอดอยู่สองเล่ม มีคนรับใช้หลายคนกำลังง่วนอยู่กับขนย้ายบางอย่างจากเกวียนหรูขึ้นรถลาก แต่เมื่อคนเหล่านั้นเห็นผู้มาใหม่ต่างพลันชะงักงัน วางบางอย่างนั้นกลับลงบนเกวียนตามเดิมก่อนจะโค้งกายถอยห่างเพื่อเปิดทางให้เขา

    ความเร็วในการก้าวเท้าเชื่องช้าลงเรื่อย ๆ กระทั่งหยุดลงเบื้องหน้า “บางอย่าง” ที่เขาปฏิเสธมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา บางอย่างซึ่งอยู่ในกล่องยาวขนาดใหญ่ สองมืออันสั่นเทาเอื้อมไปเปิดผ้าซึ่งคลุมกล่องนั้นออก แล้วนัยน์ตาทั้งสองข้างพลันได้ประจักษ์ต่อความจริงว่าสิ่งที่เขาเพียรพยายามหลอกตัวเองนั้นช่างเพ้อฝันยิ่งนัก 

    “อะ..อลิเซีย ลืมตาขึ้นมาสิ” รีสเลย์กษัตริย์หนุ่มแห่งเชสนาเอ่ยเสียงสั่น เพราะสิ่งที่อยู่ในกล่องใบยาวนั่นก็คือร่างนอนทอดยาวของหญิงสาวผู้เป็นที่รัก นัยน์ตาสองข้างหลับพริ้มราวกับอยู่ในห้วงนินทรา เขายื่นมือหวังสัมผัสแก้มนวลเนียนอันอบอุ่นของร่างตรงหน้าแต่เขาชะงักค้างไปเมื่อรับรู้ได้เพียงความเย็นเฉียบจากใบหน้าขาวซีดได้เท่านั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอีกเกวียนหนึ่งต้องมีร่างไร้วิญญาณของลูกสาวในสภาพเดียวกัน

    “อลิเซีย! เรยาร์! ใครก็ได้บอกข้าสิว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง!” รีสเลย์แผดเสียงร้องจนทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างสะท้านไปด้วยความหวาดกลัวระคนเศร้าสลด ทุกคนต่างก็รู้สึกสงสารองค์กษัตริย์หนุ่มผู้เป็นที่รักของพวกเขาจับใจ

    นี่หรือคือ รีสเลย์ ลีออน กษัตริย์หนุ่มผู้อารมณ์ดีอยู่เป็นนิจและไม่เคยถือพระองค์ ผู้เป็นที่รักของทุกคน บัดนี้เขาดูไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่เต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ ทั้งโศกเศร้า ทั้งโกรธเกรี้ยว

    ชายหนุ่มกำหมัดแน่นจนเลือดซึม เขาไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกแล้ว คนที่เขารักที่สุดสองคนได้จากเขาไปตลอดกาล ใครก็ตามที่ทำเรื่องแบบนี้มันต้องชดใช้ด้วยชีวิต!

    “เจ้าบอกว่าเป็นฝีมือทหารโดนาเมสใช่ไหม” หันไปถามทหารราชองครักษ์นายหนึ่งเสียงเรียบ ใบหน้านิ่งสนิทอย่างคาดเดาอารมณ์ไม่ได้

    “ขะ... ขอรับ พวกมันแต่งกายเหมือนทหารโดนาเมส” ทหารราชองครักษ์ตอบด้วยเสียงสั่นเครือ ทั้งจากความเสียใจและละอายใจอย่างสุดซึ้งที่ตนไม่สามารถทำตามหน้าที่ที่ต้องถวายการอารักขาแก่องค์ราชินีและพระราชธิดาด้วยชีวิต

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×