ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานแห่งซีน: ลำนำผู้กล้ามังกร (Chronicle of Ziene: Dragon Knight)

    ลำดับตอนที่ #25 : บทที่ 3: ภารกิจระดับ S (6/6)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 69
      7
      21 ต.ค. 60

    ไม้เท้า!? เกิดอะไรขึ้น

    มอร์โดเองก็ไม่แน่ใจว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น แต่ที่แน่ ๆ คือตอนนี้ไม้เท้าของมันกระเด็นไปตกอยู่เบื้องหน้าของเรย์พอดิบพอดี เจ้าการ์กอยล์ตกใจสุดขีดมันหันมาทางเรย์แต่ทว่าช้าไป เรย์ไม่รั้งรอเขาใช้ดาบฟันส่วนลูกแก้วนั้นสุดแรง ไม้เท้าแตกสะบั้นในทันทีพร้อม ๆ กับพลังที่พวยพุ่งออกมาจากลูกแก้วนั้น เรย์ถอยห่างจากมวลพลังดังกล่าวและหลับตาเพราะแสงอันเจิดจ้าที่สว่างไปทั่วหลุมนั้น

    เขาพยายามที่จะมองว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งสายตาของเขากลับเข้าสู่สภาพเดิมเขาก็พบว่าเหล่ารูปปั้นทั้งหลายได้กลายร่างคืนเป็นมนุษย์แล้ว เหล่าชาวบ้านยังคงไม่ได้สติ พวกเขานอนสลบอยู่ที่พื้นถึงแม้จะแน่นิ่งแต่ก็มิได้ไร้ลมหายใจ หลังจากถูกสาปให้มาขุดหลุมนี้เป็นเวลานานในที่สุดพวกเขาก็ได้รับการปลดปล่อยเสียที ลาโตรวิ่งเข้าไปดูซิกมาและไกราที่นอนสลบอยู่ เมื่อตรวจดูก็พบว่าเขายังมีชีวิตเพียงแค่หมดสติเท่านั้น

    “เพราะแก!” มอร์โดคำรามเมื่อเห็นเหล่าชาวบ้านคืนร่างเดิม มันกระพือปีกขึ้นลงและคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว กล้ามเนื้อใต้ผิวหนังที่เป็นหินของมันแข็งเกร็งอย่างเดือดดาลหมายจะฆ่าเหล่าผู้คนตรงหน้าให้ตายคามือ มันพุ่งเข้าหาลาโตรด้วยความรู้สึกเคียดแค้นทั้งหมดที่มี

    “จะเอาอีกรึไง” ลาโตรตอบกลับด้วยท่าทางดูถูกพร้อมกับยกยิ้มอย่างกับผู้ชนะ ท่าทางดังกล่าวยิ่งทำให้มอร์โดโมโห มันพุ่งเข้ากระแทกลาโตรโดยไม่ระวัง บัดนี้มันเผลอหันหลังให้คนที่มันควรจะระวังที่สุดเสียแล้ว

    เรย์ที่คอยสังเกตการณ์อยู่ตลอดกระโดดมาจากข้างหลังของมันพร้อมกับดาบที่เงื้อจนสุดแขน

    กร๊อบ!

    หัวของการ์กอยล์นักสู้หลุดกระเด็นปลิวไปตามแรงดาบในขณะที่ร่างที่ไร้ศีรษะของมันกระแทกกับพื้นและแตกเป็นชิ้นอย่างง่ายดายราวกับว่าร่างที่เคยแข็งแกร่งเหมือนเหล็กของมันจนถึงเมื่อครู่นี้เป็นเรื่องโกหก หัวของมันกลายเป็นเพียงหินไร้ค่า เมื่อร่างของมันไร้หัวแล้วก็ตกลงสู่พื้นและแหลกสลายเช่นเดียวกัน

    “บทจะตายก็ตายเอาดื้อ ๆ เลยแฮะ” เรย์เองก็ไม่อยากเชื่อสายตา มันน่าเหลือเชื่อที่พวกเขาเอาชนะสัตว์ประหลาดระดับนี้แบบนี้ได้แม้จะด้วยความบังเอิญก็เถอะ เรย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่และเก็บอาวุธของตน

    “เฮ้ย อย่าเพิ่งหมดแรงสิ เราต้องแบกคนเหล่านี้กลับหมู่บ้านด้วยนะ” ลาโตรเห็นเรย์ทำท่าจะทรุดนั่งลงก็รีบร้องห้ามไว้เสียก่อน

    “หา!! ทั้งหมดนี้เนี่ยนะ” เรย์ถึงกับร้องอุทานเสียงดัง ในเมื่อซิกมาและไกรายังคงไม่ฟื้น หน้าที่จัดการคนทั้งหมู่บ้านจึงต้องตกเป็นหน้าที่ของทั้งสอง


    กว่าที่พวกเขาจะพาชาวบ้านกลับหมู่บ้านได้จนครบ ทั้งสองก็แทบจะหมดแรงหลับไปทั้งที่มีร่างชาวบ้านอยู่บนหลัง

    “ภารกิจระดับ S นี่ไม่ง่ายเลยจริง ๆ ไม่อยากนึกภาพว่าถ้าไม่มีลุงจะเป็นยังไง” เรย์กล่าวโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาจากพื้น เขาวางร่างของหญิงสาวลงและนอนราบอย่างหมดแรง ตัวของเรย์และลาโตรเปียกปอนไปด้วยเหงื่อจากการเดินหลายสิบรอบกว่าจะพาคนทั้งหมู่บ้านออกมาจากหลุมนั่นได้หมด

    “ลุงบอกไม่ใช่เหรอว่าพวกเราจำเป็นที่จะต้องเก่งให้เร็วที่สุด ถ้าลองได้เจองานระดับนี้อีกสักครั้งสองครั้งเราคงจะเก่งขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลย”

    “กลัวจะตายก่อนนี่สิ” เรย์พูดเสียงอ่อยและแทบจะหลับไปในท่านั้น ปล่อยให้ลาโตรที่อึดกว่าเขานั่งพักเอาแรงอยู่ข้าง ๆ กันนั้นสาธยายถึงตอนที่ตนสู้กับเจ้าการ์กอยล์อย่างกล้าหาญ...


    เมื่อรุ่งเช้ามาถึง ข่าวที่ว่าพวกเรย์เป็นวีรบุรุษก็รู้กันทั่วหมู่บ้านชาวบ้านคนแล้วคนเล่าต่างผลัดกันเข้ามาขอบคุณในความกล้าหาญของพวกเขา เรย์รู้สึกละอายใจ เขาคิดว่าตัวเขาแทบไม่ได้ทำประโยชน์เลย แต่ซิกมาไม่คิดเช่นนั้นเขาภูมิใจในตัวพวกเรย์ทุกคนและคิดว่าพวกเรย์เติบโตขึ้นในทิศทางที่ดีเยี่ยมแล้ว

    ผู้ใหญ่บ้านพยายามรบเร้าขอให้พวกเรย์พักที่หมู่บ้านต่ออีกสักสองสามวันเพื่อให้เขาได้มีโอกาสได้ตอบแทนน้ำใจบ้าง แต่ซิกมาปฏิเสธและขอรับไว้เพียงคำขอบคุณเท่านั้น

    ทุกคนในหมู่บ้านมาส่งพวกเรย์ที่หน้าหมู่บ้านซึ่งติดกับป่าทึบ ผู้ใหญ่บ้านยังคงยืนอยู่ด้านหน้าคนในหมู่บ้านที่ยืนเกาะกลุ่มกันมองพวกเขาด้วยความปลาบปลื้มใจ พวกเรย์กำลังจะกลับเข้าเมืองแต่ทางนี้ก็ยังคงรบเร้าให้พวกเขาพักผ่อนที่นี่ต่อ

    “ต้องขอโทษด้วยแต่พวกเรามีธุระจริง ๆ เอาไว้หากมีโอกาสภายหน้า พวกเราจะแวะมาที่นี่อีกครั้งก็แล้วกัน” ซิกมากล่าวทั้งรอยยิ้ม แม้จะอยากรับสินน้ำใจนี้ไว้เพียงใดแต่ภารกิจอันยิ่งใหญ่ยังคงรอพวกเขาอยู่

    “น่าเสียดาย น่าจะมีอะไรที่เราตอบแทนพวกท่านได้บ้าง” หัวหน้าหมู่บ้านทำเสียงเศร้า มองกลุ่มนักเดินทางที่สะพายกระเป๋าหนังเตรียมเดินทางต่อด้วยตาละห้อย เมื่อเรย์ลอบมองคนอื่น ๆ ดูท่าพวกเขาก็คงเสียดายไม่แพ้กัน

    “จริงสิท่านพ่อ สิ่งนั้นยังไงล่ะ ลูกแก้วที่พวกปีศาจให้เราขุดหานั่นน่าจะเป็นสิ่งมีค่านะ” ลูกสาวผู้ใหญ่บ้านที่ยืนข้าง ๆ กันเสนอ ผู้ใหญ่บ้านได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย เขาหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงส่งให้กับซิกมาที่กำลังประหลาดใจ

    “พวกเราเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่คิดว่าที่เราโดนใช้ให้ขุดที่นั่นก็น่าจะเพื่อหาของสิ่งนี้” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าว

    “ลูกแก้วอัสนี” ซิกมาพูดกับตนเองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ลูกแก้วสีเหลืองอำพันนั้นคือลูกแก้วแห่งสายฟ้าอย่างไม่ต้องสงสัย เขาหยิบมันเข้าไปจ่อใกล้ ๆ กับเรย์และพบว่าทันทีที่เข้าใกล้เรย์ลูกแก้วก็ส่งประกายแสงสีเหลืองนวลออกมา

    “ท่าทางจะเป็นของมีค่าสินะ ถ้าเช่นนั้นก็กรุณารับมันไว้ด้วยเถอะ”

    เรื่องราวทุกอย่างจบลงด้วยดีกว่าที่คิด พวกเรย์พบลูกแก้วลูกที่สองในที่ ๆ พวกเขาไม่คาดคิด ลาโตรเก็บไม้เท้าแตก ๆ ของมอร์โดกลับไปเป็นที่ระลึก จากนั้นซิกมาจึงเช่าเรือให้พวกเรย์เดินทางสู่ลีโอตาร์ส่วนตนเองนั้นจะนำลูกแก้วที่ได้มาไปฝากไว้ที่อัลกราดก่อนจะเดินทางต่อไป


    “ข้าคุยกับที่กิลด์ไว้แล้วว่างานครั้งนี้ขอแลกเรือกับรางวัลของภารกิจนี้” ซิกมากล่าวระหว่างการเดินทางกลับเข้าเมือง

    “เรือของพวกเรางั้นหรอ” ไกราพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจพลางทำหน้านึกถึงเรือของพวกเขาอย่างเพ้อฝันจนทำให้ทุก ๆ คนยิ้มเมื่อเห็นท่าทีของไกรานั้น

    “เยี่ยมเลย! แบบนี้ต่อไปพวกเราก็ไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระแล้วสินะ” ลาโตรเอ่ยหลังจากที่เห็นท่าทีดีใจจนเกินเหตุของไกรา

    “ถูกต้องแล้ว อ้อ อีกเรื่อง... ข้าจะนำลูกแก้วไปส่งแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะกลับมาเร็วแค่ไหน พวกเจ้ารับภารกิจอื่นไปก่อนได้เลย แต่อย่ารับภารกิจระดับ A ขึ้นไปโดยเด็ดขาด” ซิกมาพูดขึ้น ทุกคนในกลุ่มพยักหน้ารับและเดินทางออกจากป่าด้วยหัวใจอันภาคภูมิ หวังว่าหลังจากนี้พวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิมและเพียบพร้อมที่จะต่อกรกับเทพปีศาจ...

    บริเวณหลุมยักษ์

    หัวของมอร์โดที่ขาดนั้นแน่นิ่งมาตลอดจนกระทั่งร่าง ๆ หนึ่งหยิบมันขึ้นมา หัวของปีศาจการ์กอยล์ห้อยต่องแต่งอยู่กลางอากาศก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อรับรู้ถึงการมาของนายเหนือหัว

    “ท่านดาร์คเจสเตอร์ อภัยให้กับความผิดพลาดของข้าด้วย” มอร์โดที่เหลือแต่หัวอ้อนวอนร้องขอ มันมองตัวตลกที่ใส่หน้ากากเปื้อนยิ้มอย่างอ้อนวอน เสียงแหบพร่ากล่าวแผ่วเบาร้องขอการให้อภัย

    “แย่จริงน้า นึกว่าจะไม่มีสายเลือดเทพเหลือในยุคนี้แล้ว ดูท่าว่าการรวบรวมลูกแก้วจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้วสิ ฮี่ฮี่ฮี่” ทั้งที่งานผิดพลาดเจ้าตัวตลกชุดดำกลับหัวเราะเสียงแหลมอย่างสนุกสนาน

    “ได้โปรดสร้างร่างให้ข้าใหม่ ข้าสัญญาว่าจะแย่งมันกลับมาให้ท่าน” หัวการ์กอยล์พูดกับตัวตลก ผู้เป็นนายชะงักยกหัวของมันขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา แม้หน้ากากจะเป็นรูปยิ้มแต่รังสีอำมหิตที่แผ่ออกมานั้นตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง การ์กอยล์ถึงกลับหลับตาหวาดกลัว

    “ไม่ต้องแล้ว!” ดาร์คเจสเตอร์ตวาดใส่

    “ทะ... ท่านดาร์คเจสเตอร์” มอร์โดเรียกเสียงสั่น มันสัมผัสได้ถึงใบหน้าบูดบึ้งของดาร์คเจสเตอร์ใต้หน้ากากเปื้อนยิ้มจอมปลอมนั่น

    “อย่างไรเสียนายของเราก็คงตื่นขึ้นมาไม่ทันยุคนี้อยู่ดี...”

    “...” เจ้าการ์กอยล์นิ่งเงียบเพื่อรอดูท่าทีและต้องลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของผู้เป็นนาย

    “คราวนี้ปล่อยไปก่อนก็แล้วกัน ยังมีอะไรน่าสนุก ๆ ให้ทำอีกเยอะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×