ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานแห่งซีน: ลำนำผู้กล้ามังกร (Chronicle of Ziene: Dragon Knight)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1: ออกเดินทาง (1/7)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 299
      40
      29 ก.ย. 60

    บทที่ 1: ออกเดินทาง


    อาณาจักรโซดาเรีย คือประเทศที่แยกตัวโดดเดี่ยวอยู่บนเกาะที่ใช้ชื่อเดียวกัน ผืนดินที่ถูกล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีครามนี้มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งชื่อ สตาร์โรว์ หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวท่ามกลางป่าเขาและธรรมชาติอันเขียวขจีซึ่งอยู่ห่างไกลจากความวุ่นวายทั้งปวง


    ท่ามกลางเสียงจ้อกแจ้กที่ดังขึ้นพร้อมกับดวงอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ทอแสงเจิดจ้าในยามเช้าของวันนี้ ผู้คนในหมู่บ้านต่างดำเนินชีวิตอย่างปกติเหมือนเช่นเคย พ่อค้าออกมาตั้งร้านตามทางเดิน ชาวไร่แบกเครื่องไม้เครื่องมือขึ้นบ่าเตรียมทำไร่ทำสวน ชาวบ้านทั้งหลายออกมาดำเนินกิจวัตรประจำวันของตนเอง

    เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วและดอกไม้ยามเช้าที่แย้มบานรับแสงอรุณทำให้ทุกอย่างมีสีสัน ในขณะที่ลมพัดพาความเย็นบนเขาเข้ามาในหมู่บ้านผู้คนก็เริ่มเดินขวักไขว่ให้เห็นหนาตา ถึงแม้จะดูวุ่นวายแต่ก็ยังทิ้งกลิ่นอายธรรมชาติไม่เหมือนกับในเมืองใหญ่ ทุกอย่างดูเป็นปกติเหมือนวันธรรมดาทั่วไป ยกเว้นก็แต่ชายหนุ่มเรย์ ลีออนเท่านั้น เพราะวันนี้เป็นวันที่เขาจะเดินทางออกจากหมู่บ้านสตาร์โรว์เพื่อตามฝันของตนที่เคยวาดไว้ตั้งแต่วัยเยาว์


    เมื่อยังเล็กความฝันของเรย์คือการได้เป็นพ่อครัว ไม่ใช่ว่าเขาต้องการชื่อเสียงหรือเงินทองมากมายแต่เพราะเด็กหนุ่มหลงใหลใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของเหล่าผู้คนยามได้ลิ้มรสอาหารฝีมือของตนต่างหาก

    ครอบครัวของเขามีฐานะไม่ค่อยดีนักทั้ง ๆ ที่ต้นตระกูลของเรย์สืบเชื้อสายมาจากชนชั้นขุนนางของประเทศหนึ่ง กระทั่งถึงรุ่นพ่อของเขาซึ่งทำการค้า เพราะความผิดพลาดสมบัติที่เคยมั่งมีก็ร่อยหรอไปจนแทบไม่มีอะไรเหลือตกมาถึงเรย์เลย แต่เขาก็ไม่ได้น้อยใจในโชคชะตา เรย์เป็นคนมองโลกในแง่ดีและมุมานะ เขาพอใจกับสิ่งที่ตนเองมีกำลังพอที่จะไขว่คว้าหามาได้


    จนกระทั่งเรย์ค้นพบความฝันของเขา

    ในร้านอาหารที่ลูกค้ามากกว่าปกติหลายเท่า พ่อครัวเพียงคนเดียวของร้านเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับมือกับลูกค้าทั้งหมดและรายการอาหารที่มากมาย เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออยู่เลย เด็กล้างจานอย่างเรย์จึงถูกดึงมาเป็นลูกมือของพ่อครัว ท่ามกลางควันจากเตาไฟและกลิ่นหอมหวนของอาหาร นั่นคือครั้งแรกที่เขาได้ค้นพบพรสวรรค์ของตัวเอง แม้จะเป็นอาหารพื้น ๆ แต่เขาก็สามารถดัดแปลงมันจนผู้ที่ได้ลิ้มลองต้องถามหาเหล่านั้นอีกเป็นครั้งที่สอง

    แม้มันอาจจะดูเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ สำหรับคนอื่น แต่สิ่งนั้นกลายเป็นแรงบันดาลใจที่คอยผลักดันเรย์อยู่เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ น่าเสียดายที่ในหมู่บ้านแห่งนี้มีประชากรเพียงไม่กี่สิบหลังคาเรือน ซึ่งนั่นไม่อาจเพียงพอที่จะตอบสนองความใฝ่รู้และความฝันอันยิ่งใหญ่ของเขาได้


    ในที่สุดวันหนึ่งเรย์ก็ได้ตัดสินใจว่าเขาจำเป็นต้องออกเดินทางเพื่อหาความรู้เพิ่มเติม แน่นอนว่าย่อมต้องมีเสียงทัดทานจากผู้ใหญ่ที่เป็นห่วงเป็นใยเขา แต่มันก็ไม่อาจเพียงพอที่จะเหนี่ยวรั้งเขาไว้ได้อีกต่อไป นี่คืออนาคตที่เขาเลือก มันอาจจะไม่ใช่เส้นทางที่โรยไปด้วยกลีบกุหาบแต่มันก็คือหนทางที่เขาได้เลือกเอง เขาจะไม่เสียใจทีหลังแม้ว่าปลายทางของมันอาจจะไม่สวยงามอย่างวาดฝันไว้


    ในที่สุดวันที่เขารอคอยก็มาถึง เรย์ทั้งหมั่นฝึกฝน ทำงานและเก็บหอมรอริบค่าเดินทางมานานเพื่อวันนี้ เรย์ตื่นแต่รุ่งสาง เมื่อมองออกมานอกหน้าต่างไม้ก็ยังเพิ่งเห็นแสงอาทิตย์อยู่รำไร เขาเก็บข้าวของที่จำเป็นใส่กระเป๋าสะพายหนังสีน้ำตาลด้วยหัวใจเปี่ยมสุข

    อาจจะเป็นเวลานานกว่าเรย์จะกลับมาหรือบางทีเขาอาจจะไม่มีโอกาสกลับมาที่นี่อีกแล้วก็เป็นได้ เขาจึงตระเวนบอกลาทุกคนในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ให้ครบเสียก่อน ที่นี่มีความทรงจำของเรย์อยู่มากมาย ผู้คนที่นี่ล้วนหล่อหลอมให้เขาเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ได้ เขาจึงอยากบอกลากับผู้คนเหล่านั้นด้วยตนเอง

    เรย์เดินไปตามทางของหมู่บ้านทักทายและบอกลาพอเป็นพิธี ปิดท้ายด้วยการโอบกอดแนบแน่นราวกับจะจดจำความอบอุ่นของผู้คนในหมู่บ้านสตาร์โรว์แห่งนี้เอาไว้ให้นานตราบเท่าที่จะทำได้ เมื่อยกมือโบกลาเขาก็เดินมาถึงปากทางของหมู่บ้านแล้ว

    สิ่งก่อสร้างที่ทำขึ้นอย่างเรียบง่ายโดนโอบล้อมไปด้วยป่าสีเขียวขจี เรย์ลอบมองทางที่จากมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่หมู่บ้านจะถูกทิ้งให้อยู่เบื้องหลัง ในขณะที่เขาเดินหน้าต่อไปจิตใจส่วนหนึ่งของเขาก็ยังคงสถิตอยู่ที่นั่น


    แม้เสียเวลาไปบ้างแต่เรย์ก็ออกจากหมู่บ้านได้ก่อนเที่ยง เป้าหมายแรกของเขาคือเมืองหลวงของอาณาจักรโซดาเรีย เขาน่าจะพอหาตำราดี ๆ สักเล่มได้ที่นั่น และหากคิดจะเดินทางรอบโลกล่ะก็แผนที่โลกกับหนังสือแนะนำเมืองต่าง ๆ ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไปไม่ได้เลย เมื่อตัดสินใจได้แล้วเรย์จึงมุ่งหน้าเดินลึกเข้าไปในป่ามุ่งสู่เมืองหลวงของอาณาจักรโซดาเรียที่อยู่ไกลออกไปโดยมีแผนที่เขียนด้วยลายมือจากคุณป้าข้างบ้านเป็นสิ่งนำทาง


    ดวงตาสีน้ำตาลมองไปรอบกาย สุดท้ายก็พบเพียงป่าเขียวขจีที่มีแต่จะแน่นขนัดมากขึ้นเท่านั้น เรย์เสยผมสีทองของตนขึ้นไปเหนือหน้าผากเพื่อระบายความร้อน ชายหนุ่มเดินวนที่เดิมมาหลายรอบแล้วแต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนเส้นทางสักกี่ครั้งเขาก็จะวกกลับมาที่ต้นไม้ที่ทำรอยไว้เมื่อหลายชั่วโมงก่อน เรย์หยิบแผนที่ซึ่งเขียนขึ้นโดยคุณป้าข้างขึ้นมาดูอีกครั้งหลังเขาหมุนแผนที่ไปทุกทิศทางเขาก็ยังดูไม่ออกอยู่ดีว่ามันบอกให้เขาไปทางใดกันแน่

    ออกจากหมู่บ้านได้ไม่เท่าไหร่ก็หลงแล้ว ไหใครบอกว่าวันนี้ฤกษ์ดีเหมาะแก่การเดินทางไง” ชายหนุ่มยัดแผนที่กลับเข้ากระเป๋าสะพายแล้วเริ่มทอดน่องเดินอีกครั้ง เรย์เดินผ่านช่องว่างระหว่างต้นไม้เข้าไปอีกครา เผื่อว่าจะพอมีหนทางที่จะไปยังเมืองหลวงได้ เขาเดินลัดเลาะอยู่นานผ่านเถาวัลย์และพุ่มไม้ที่รกครึ้ม เมื่อเห็นแสงสว่างอยู่รำไร เรย์ก็ยิ้มร่ารีบแทรกตัวผ่านต้นไม้ออกไปอย่างไม่รอช้า ชายหนุ่มหันมองซ้ายขวาเมื่อพบกับลำต้นสีน้ำตาลที่ถูกขีดลวก ๆ ด้วยมีดทำครัว เรย์ก็ถึงกับคอตกและถอนหายใจออกมา

    เฮ้อ... ไม่น่าเชื่อแผนที่ของคุณป้าเลย”

    ใช่... เรย์รู้ตัวช้าเกินไป ตอนนี้เขาหลงทางในป่าเสียแล้ว...


    สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจนั่งพักเอาแรง เรย์หย่อนร่างกายอันเหนื่อยล้าใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เขาขีดรอยเอาไว้ สายลมที่พัดเอื่อย ๆ ประจวบเหมาะกับร่มไม้ที่แผ่กว้างส่งผลให้เรย์เคลิ้มหลับไปโดยไม่รู้ตัว


    กุบกับ กุบกับ กุบกับ!

    เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่มิอาจทราบได้ เสียงฝีเท้าของม้ากระทบกับพื้นดินดังกุบกับพร้อมกับเสียงโลหะที่ปะทะกันดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เสียงเอะอะโวยวายของกลุ่มบุคคลดังก้องอยู่ในหูทำให้เรย์สะดุ้งตื่นด้วยสัญชาตญาณที่รู้สึกถึงอันตราย เรย์รีบกระโดดพุ่งเข้าไปหลบในพุ่มไม้หนาทึบใกล้ ๆ กัน เสียงควบม้าเข้ามาใกล้ขึ้น ๆ แม้ว่าเรย์จะรู้สึกหวาดกลัวแต่ความอยากรู้อยากเห็นนั้นมีมากกว่า ทำให้อดไม่ได้ที่จะต้องสอดสายตาลอดพุ่มไม้ออกมาเพื่อสังเกตการณ์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×