ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานแห่งซีน: มรดกแห่งสวรรค์ (Chronicle of Ziene: Celestial Legacy) (ตีพิมพ์ สนพ อาเธน่า)

    ลำดับตอนที่ #19 : บทที่ 3: ราชันย์ไร้พ่ายแห่งมาดารัส (3/9)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 104
      10
      15 ต.ค. 60

    แค่นั้นข้าปัดทิ้งได้น่า” กาดิออสบ่นอุบเพราะพี่ชายของเขาเข้ามาแทรก ได้ยินดังนั้นเจ้าของโล่ยักษ์จึงหันมาตีหน้าขึงขังใส่

    ช่วยไม่ได้ หน้าที่ของข้าคือเป็นโล่ให้ฝ่าบาทนี่นา”

    ...” กาดิออสกลอกตาอย่างระอาใจและพูดอะไรไม่ออก ก่อนสายตาไปสะดุดกับศัตรูผู้หลบคมดาบของเขาไปอย่างไม่น่าเชื่อซึ่งกำลังฉวยโอกาสนี้ย่องหนี

    ทหารรับจ้างผู้เหลือรอดคนสุดท้ายส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างไม่สบอารมณ์เมื่อรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเห็นเข้าแล้ว หันมายืนกอดอกวางท่าพลางเหยียดยิ้ม

    ไม่ใช่ว่าข้าจะหนีนะ ข้าจะกลับไปตั้งหลักต่างหาก" ทหารรับจ้างชี้หน้า "แล้วจำชื่อข้าไว้ให้ดี ๆ ด้วยล่ะ ข้าน่ะชื่อ... อั่ก!”

    พูดอะไรของมัน” กาดิออสเกาคอพึมพำหลังจากซัดดาบใส่จนอีกฝ่ายทรุดลงไป บีชมายักไหล่แล้วทั้งสองก็หันไปสนใจกับเกวียนตรงหน้า

    เหล่าทหารช่วยกันรื้อรถม้าและพบข้าวของมีค่ามากมาย แต่รถม้าของขบวนนี้มิได้มีแต่เพียงเครื่องบรรณาการดังที่พวกกาดิออสเข้าใจ แต่กลับมีสิ่งอื่นอยู่ด้วย หนึ่งในรถม้ามีหญิงสาวนางหนึ่งนอนสลบอยู่ ดูเหมือนเธอจะหมดสติไปตอนที่ม้าตื่นจากการโจมตีของพวกกาดิออส

    นี่ใครน่ะ?” กาดิออสเปรยถามขึ้น เขายืนพิจารณาหญิงสาวนิ่ง รูปหน้าเรียวงามหมดจด จมูกโด่งเชิด ริมฝีปากเป็นกระจับ ผิวสีน้ำผึ้ง จัดว่าเป็นหญิงที่งดงามมากทีเดียวตั้งแต่ที่เขาเคยเห็นมา เหล่านางรำในวังที่ว่าสวยหาได้เทียบไม่

    บีชมาเห็นหญิงงามผู้นี้แล้วรู้ได้ทันทีว่าคือใคร

    งามสมคำล่ำลือจริง ๆ ข้าเคยเห็นรูปของนาง นางคือ วารีส เดลเฟออน แห่งตระกูลเดลเฟออน ข่าวลือในความงดงามของนางทำให้จิตรกรมีชื่อหลายคนต่างเคยมาร้องขอให้นางเป็นแบบวาดรูป”

    พวกเดลเฟออนคงอยากจะเอาใจคุนาสินะ แต่ส่งหญิงงามแบบนี้ให้พวกนั้นก็เสียของเปล่า ๆ” กาดิออสแค่นยิ้ม ดาบยักษ์ในมือสลายไปก่อนจะช้อนร่างบางนั้นขึ้นมาด้วยสองมือแกร่ง

    อย่าบอกนะว่าฝ่าบาทจะพานางไปด้วย ข้าว่าถ้าหากไม่สังหารนาง ก็ทิ้งนางไว้ที่นี่เสียจะดีกว่า มิเช่นนั้นนางจะนำภัยมาสู่เราภายหลังอย่างแน่นอน” บีชมาเอ่ยเตือน แต่กาดิออสกลับทำเฉยต่อเสียงทัดทานของพี่ชาย เขายกตัวเธอขึ้นพาดไหล่ราวกับนางเป็นผ้าแพรที่เบาบาง จากนั้นจึงแบกทั้งหญิงงามและของมีค่ากลับไปยังค่ายพัก

    กาดิออสอุ้มร่างบางไปนอนพักในกระโจมที่จัดขึ้นมาพิเศษส่วนตัวและสั่งทหารคอยเฝ้ายามเอาไว้ เมื่อกาดิออสเข้าไปตรวจดูอีกครั้งก็พบว่าเธอฟื้นแล้ว สิ่งแรกที่เธอทำยามได้สติคือกวาดตามองไปรอบ ๆ และประเมินสถานการณ์ ความประหลาดคือเธอไม่ได้โวยวายหรือร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวอย่างที่กาดิออสคาด

    เป็นอย่างไรบ้าง บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า” กาดิออสถามขึ้น แต่ไร้คำตอบจากคนตรงหน้า มีเพียงสายตาโกรธขึ้งที่จ้องมองมาเท่านั้น

    เจ้าคือวารีส แห่งเดลเฟออนสินะ”

    เธอเงียบ ไม่ได้แสดงท่าทางปฏิเสธหรือตอบรับใด ๆ

    ไม่ตอบอะไรแสดงว่าใช่จริง ๆ”

    ...”

    จากที่ข้าดูท่าทางเจ้าคงรู้แล้วสินะว่าข้าเป็นใครและที่นี่ที่ไหน แต่สงสัยล่ะสิว่าทำไมมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” กาดิออสหลับตานับหนึ่งถึงสิบแล้วเอ่ยถามอย่างใจเย็นอีกรอบ

    ...”

    เจ้าโกรธข้ารึ ข้าอุตส่าห์ช่วยเจ้ามาจากการการกระทำเสมือนว่าเจ้าเป็นสิ่งของแลกเปลี่ยนนะ” กาดิออสเริ่มขึ้นเสียงเนื่องจากคนตรงหน้ายังไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรแม้เขาจะชวนคุยด้วยท่าทางเป็นมิตรแล้วก็ตาม เขาเองก็ไม่ใช่คนใจเย็นที่เจรจาเอาใจใครและมันไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำแบบนั้นด้วย

    วารีสกำมือจิกกระโปรงแน่น ริมฝีปากเม้มสนิทเพื่ออดกลั้นประโยคเผ็ดร้อนที่พร้อมจะพ่นใส่จากอารมณ์ของตน แต่เธอฉลาดพอที่จะไม่ทำให้คำพูดเป็นภัยมาทำร้ายตัวเอง

    คงหิวแล้วสินะ เดี๋ยวข้าจะสั่งคนนำอาหารมาให้”

    แต่ในที่สุดกาดิออสก็ถอนหายใจยอมแพ้แล้วเดินออกไปอย่างง่ายดายท่ามกลางความโล่งใจของหญิงสาวแปลกถิ่น

    วารีสคลายมือที่กำกระโปรงออก พบว่ามันสั่นน้อย ๆ อย่างควบคุมไม่อยู่ก่อนจะนั่งผ่อนลมหายใจให้สงบ สมองประมวลหาทางออกอย่างรวดเร็ว เธอได้ยินเสียงสั่งการของกษัตริย์ใจร้ายว่าให้เฝ้าเธอให้ดี อย่าให้หนีไปได้ นั่นแสดงว่าต้องมีคนเฝ้าอยู่แน่นอน เธอต้องรอให้ฟ้ามืดเพื่อเพิ่มโอกาสการหนีของเธอให้มากขึ้น

    ไม่นานมีหญิงรับใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมถาดอาหาร เมื่อสายตาสบกับวารีสสาวใช้พลันยืนตะลึงอยู่หน้ากระโจมอยู่ครู่หนึ่ง

    สวยจังเลย...” ประโยคหนึ่งหลุดออกมาจากปากสาวใช้ เธอรีบลนลานนำถาดอาหารมาวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง

    ข้าไม่เคยเห็นใครงดงามเท่าท่านมาก่อนเลยจริงๆ นะคะ” สาวใช้จ้องตาไม่กระพริบก่อนจะได้สติเมื่อประสานสายตาอันขุ่นมัวของผู้ที่ตนเสียมารยาทใส่อยู่ “ขะ..ข้าขอโทษค่ะ พอดีว่าตื่นเต้นไปหน่อย ข้าเลยทำตัวไร้มารยาทไปทั้ง ๆ ที่แค่มีหน้าที่มารับใช้ท่านหญิงเท่านั้น”

    แต่วารีสเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอเหม่อมองไปทางเข้ากระโจมแล้วเอ่ยปากถามว่า “ด้านนอกมีคนเฝ้ากี่คนหรือ”

    นอกกระโจมนี้มีทหารยามเฝ้าอยู่แค่สองนายค่ะแต่ตรงนี้อยู่เขตที่พักส่วนตัวของฝ่าบาท ไม่ค่อยมีทหารมาโหวกเหวกโวยวายเสียงดังเท่าไหร่นัก ไม่ต้องกังวลว่าจะรบกวนการพักผ่อนเลยล่ะค่ะ แล้วใกล้ ๆ กันมีน้ำตกด้วยนะคะ น้ำที่นั่นใสสะอาดมาก ตักมาดื่มได้เลยหรือจะลงไปอาบให้สดชื่นก็ได้ แถมยังต่อเป็นลำธารยาวไหลลงสู่แม่น้ำใกล้ ๆ นี่ด้วย อ้อ แต่ข้าเองยังไม่เคยลงไปอาบหรอกนะคะ รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะลงไป น่าจะให้พวกท่าน ๆ เหนือหัวลงไปใช้มากกว่า...” สาวใช้พูดเรื่อยเจื้อยไม่หยุด แม้จะฟังดูน่ารำคาญอยู่บ้างแต่วารีสก็ตั้งใจฟังทุกอย่างเพื่อเก็บข้อมูลแม้เพียงเล็กน้อย

    วารีสเฝ้าสังเกตอยู่หลายวัน กาดิออสเองถึงแม้จะมาหาเธอและซักถามนู่นนี่ทุกวัน แต่ก็ไม่ได้มีเวลาว่างมาเฝ้าเธอ อีกทั้งเธอยังไม่ยอมตอบคำถามใด ๆ อีกด้วยจึงเป็นฝ่ายกาดิออสเองที่ต้องหงุดหงิดออกไปในที่สุด ส่วนสาวใช้แม้จะคอยดูแลเธอตลอดเวลา แต่หากเธอเอ่ยปากไล่แล้วล่ะก็จะยอมออกไปแต่โดยดีและกลับมาใหม่ทุก ๆ มื้ออาหาร เนื่องจากสาวใช้เป็นคนพูดมากเธอจึงเก็บข้อมูลโดยรอบได้ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยออกไปข้างนอกเลย

    เธอสืบจนรู้ว่าทหารยามสองคนเปลี่ยนกะกันวันละครั้งเท่านั้น จึงมีเวลาที่เผอเรอไปบ้างเช่นตอนใกล้รุ่งสาง ซึ่งนั่นเป็นโอกาสอันดี เวลาใกล้รุ่งสางเป็นช่วงที่ทุกอย่างเงียบสงัด อากาศเย็นและมีหมอกลง ทหารยามทั้งสองจะผลัดกันหลับกระทั่งเผลองีบไปทั้งคู่ในที่สุด

    คืนหนึ่งหลังจากวารีสแกล้งนอนหลับมาตลอดจนทหารวางใจ เธอลุกขึ้นแล้วลองโยนช้อนออกไปนอกกระโจมเพื่อทดสอบบางอย่าง และเมื่อไม่พบปฏิกิริยาใดจากทหารยามจึงค่อย ๆ ย่องชะเง้อคอออกมามอง

    หญิงสาวพบว่าทหารทั้งสองหลับยามอยู่ดังคาด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×