คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 2: บทเรียนของซิกมา (4/11)
เรย์พุ่งตัวเองออกไปขวางระหว่างนักดาบทั้งสอง
“ลมหายใจแห่งสายฟ้า” ชายหนุ่มพลั้งปากออกไปก่อนจะรับรู้สถานะของตนเองซะอีก ลมหายใจของเขาถูกส่งออกไปกลายเป็นสายฟ้า กลุ่มก้อนไฟฟ้าของเขาผลักลมหายใจแห่งน้ำแข็งของเวิร์นให้ห่างออกไป ทำให้ชายชรารอดพ้นจากความตายไปเสี้ยววินาที
ลมหายใจมังกรน้ำแข็งและมังกรสายฟ้าของทั้งคู่ปะทะกันกลางอากาศ สายฟ้าของเรย์แล่นแปลบปลาบปะทะกับเกล็ดน้ำแข็ง มันบิดมวลและเสียดสีกันรุนแรงจนประกายแสงสาดไปทั่วบริเวณก่อนจะเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง แรงกระแทกจากการสลายตัวของท่าไม้ตายซัดร่างของเรย์ที่อยู่ใกล้ที่สุดจนหมดสติแทบจะทันทีก่อนที่ร่างของเขาจะร่วงลงสู่พื้นเสียอีก
หลายชั่วโมงต่อมา เรย์ฟื้นขึ้นเพราะกลิ่นฉุนของยาที่เข้ามากระทบโสตประสาท เขาลืมตาตื่นแล้วพบว่าตนนอนอยู่บนเตียงสีขาวในห้องเล็ก ๆ ห้องหนึ่ง ชายหนุ่มกวาดสายตาไปยังรอบ ๆ ก็พบกับโต๊ะเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ข้างหน้าต่างซึ่งมีเด็กสาวนั่งอยู่พร้อมกับกาน้ำและแก้วโลหะ นอกนั้นก็ไม่มีของตกแต่งใดอื่นจะเห็นก็แต่ประตูไม้อีกบ้านที่เขาคาดว่าน่าจะเป็นห้องอาบน้ำเท่านั้น
เรย์นอนมองเพดานและพยายามขยับร่างกายของตนเอง ตามแขนของเขารู้สึกเจ็บเล็กน้อย อวัยวะต่าง ๆ ยังอยู่ครบไม่ได้บาดเจ็บรุนแรง จะมีแค่อาการมึนหัวและหมดแรงเท่านั้นที่ทำให้เขายังไม่สามารถลุกขึ้นมาเดินได้ตามปกติ ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมศีรษะตัวเองและบีบนวดเบา ๆ ครั้นจะส่งเสียงเรียกเด็กสาวก็มิอาจทำได้เพราะลำคอนั้นแห้งผากทั้งสายตาก็ยังพร่ามัวเพราะเพิ่งฟื้นจากการสลบ ที่เรย์ทำได้ก็คงมีแต่เพียงมองไปรอบ ๆ อย่างเงียบ ๆ เท่านั้น
หญิงสาวตัวเล็กที่นั่งอยู่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเรย์หันไปมอง เธอจึงรีบรินน้ำใส่แล้วและยื่นให้เขาทันที เรย์ผงกหัวขึ้นมาจิบน้ำเล็กน้อยก่อนจะส่งแก้วโลหะคืนให้เธอ คอที่แห้งผากจึงพอคลายความเจ็บลงบ้างแต่ก่อนที่เขาจะถามอะไรหญิงสาวก็วิ่งออกจากห้องไปทันทีที่เก็บภาชนะเข้าที่เดิม
เสียงฝีเท้าเดินกระทบพื้นไม้ดังเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ในขณะที่เขาเงี่ยหูฟังและรอดูอย่างตั้งใจ เมื่อประตูเปิดออกเรย์ก็พบว่าเจ้าของเสียงคือซิกมาและลาโตรนั่นเอง ทั้งสองแทรกตัวผ่านธรณีประตูและมายืนอยู่ข้างเตียงของเขาโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูให้เรียบร้อย เรย์เห็นดังนั้นจึงขยับกายลุกขึ้นแต่ความเจ็บปวดจากแรงกระแทกก็แล่นไปตามร่างกายจนเขาทำหน้าเหยเก ซิกมาจึงปรามเขาให้นอนลงดังเดิม
“ยังไม่ต้องลุก เจ้าน่ะโดนเข้าไปไม่น้อยเลย โชคดีนะที่มีสายเลือดคุ้มครองไม่งั้นมีหวัง...” เขาเว้นช่วงของคำที่เรย์น่าจะไม่อยากได้ยินมากที่สุดเอาไว้
เรย์ขมวดคิ้วในขณะที่ค่อย ๆ กลับลงไปนอนอีกครั้งอย่างหมดแรง “สายเลือด?”
หรือว่าซิกมาจะรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร
ชายหนุ่มคิดในใจและเลื่อนสายตาไปยังเพื่อนชายอย่างคาดโทษ ซึ่งลาโตรที่ยืนข้าง ๆ ก็ส่ายหน้ายกไม้ยกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“ตอนอยู่ในงานแข่งขัน เจ้าบอกข้าเองว่าชื่อ เรย์ ลีออน จำไม่ได้เรอะ” ซิกมาหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางดังกล่าว
“พอข้าเอาจดหมายแนะนำไปให้ก็เลย...” ลาโตรหัวเราะแก้เก้อ แต่เรย์รู้สึกเจ็บใจที่พลาดท่าเสียแล้ว เป็นอันว่าแผนสลับตัวล้มเหลวไม่เป็นท่าตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม ชายหนุ่มผมทองถอนหายใจยาวก่อนจะใช้ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองซิกมาและเอ่ยถาม
“ว่าแต่ ของรางวัลล่ะ” เรย์เปลี่ยนเรื่อง
“น่าเสียดายที่โดนเจ้านั่นชิงไปได้” ลาโตรตอบคำถามนั้นแทน เรย์มองไปยังลาโตรและขมวดคิ้ว นักดาบเก่งกล้าขนาดนั้นจะเอาถุงมือนั่นไปทำอะไรกัน
“เราตรวจสอบแล้วพบว่าถุงมือนั่นอาจจะไม่ใช่ถุงมือธรรมดาก็ได้ มีความเป็นไปได้ว่ามันเป็นหนึ่งในหกอุปกรณ์ของซิลเวอร์” ซิกมาบอกเหตุผลที่ตนลงแข่งและคลายข้อสงสัยของเรย์ไปในตัว ชายหนุ่มบนเตียงพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ถ้าเจ้าเวิร์นนั่นเป็นเชื้อสายซิลเวอร์จริง ของนั่นก็อาจจะควรเป็นของมันอยู่แล้วก็ได้ แต่วิธีการของหมอนั่นยังไงก็รับไม่ได้จริง ๆ” ลาโตรพูดอย่างขุ่นเคือง เขาส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ หากเจ้าตัวอยู่ที่นั่นด้วยล่ะก็ คงช่วยเป็นอีกแรงไม่ให้ของสำคัญถูกชิงไปได้!
เรย์มองตามลาโตรที่ดูท่าจะยังแค้นใจศัตรูอยู่ ชายหนุ่มกำมือแน่นและจ้องมองเพดานพลางกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น เรย์เองก็ดูท่าจะโกรธไม่แพ้กัน
“น่าเสียดายจริง ๆ ถ้าใช้เจ้านั่นดี ๆ น่าจะทำของอร่อย ๆ ออกมาได้มากมายแท้ ๆ” เรย์ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดาย ดูท่าความเชื่อว่าถุงมือนั้นจะมีไว้ใช้ทำอาหารจะฝังหัวเขาไปเสียแล้ว
หลังจากนั้นทุกคนจึงปล่อยเรย์ให้พักอย่างเต็มที่ในห้องที่ซิกมาเตรียมเอาไว้ ลาโตรเองจึงแยกตัวไปพักที่ห้องข้าง กัน อาการของเรย์นั้นดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะมีบาดแผลเล็กน้อยตามแขนที่ชายหนุ่มยกมาป้องกันใบหน้าตัวเองและอาการปวดศีรษะ แต่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเขาก็หายเป็นปลิดทิ้งอย่างน่าอัศจรรย์
ซิกมากลับมาเยี่ยมเขาอีกครั้งหลังจากที่จัดการกับกระโจมที่สภาพเละเทะจากการต่อสู้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นว่าเขาอาการดีขึ้นแล้ว ซิกมาจึงตัดสินใจที่จะสอนวิชาให้กับเรย์และลาโตรหลังจากจบงานเทศกาลในอีกสองวันข้างหน้า วันที่เหลือจึงเป็นช่วงเวลาที่จะให้เรย์ได้เตรียมทำใจบ้าง
แต่เหมือนลาโตรจะร้อนใจเกินกว่าจะรอให้สองวันนั้นมาถึง เขาอยากจะฝึกกับซิกมาใจจะขาดแล้ว ด้วยความที่เวลานั้นช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า เขาจึงเริ่มฝึกด้วยตนเองและพยายามหาวิธีลัดที่จะพัฒนาตนเองให้เร็วที่สุดอย่างมีประสิทธิภาพ
วันก่อนจบงานเทศกาลลาโตรและเรย์แยกกันไปเดินดูของที่ตนสนใจ เรย์ไปหาดูตำราที่เดินทางมาจากเมืองไกลซึ่งเขาอาจจะไม่มีวันหาได้หากไม่ได้มางานเทศกาลนี้ ส่วนลาโตรเองก็เดินลัดเลาะอยู่แถวที่พักของเรย์ ซึ่งบริเวณนั้นยังมีร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่ ส่วนบางกระโจมที่ว่างเปล่า คงเพราะขายดีจนของหมดก็เป็นได้
แดดยามเที่ยงไม่ร้อนเท่าที่เขาคิดไว้นัก ลาโตรยังสามารถเดินไปตามตรอกซอยได้อย่างสบาย ๆ เสียงเพลงของงานก็ยังดังอยู่ไม่ขาดสาย ผู้คนมากมายยังมีให้เห็นหนาตา ลาโตรเดินชมร้านค้าอย่างเพลิดเพลินจนกระทั่ง
“เฮ้! พ่อหนุ่ม สนใจยาเวทมนตร์ไหม” ลาโตรชะงักฝีเท้า เขาหันไปตามเสียงเรียก
“ยาเวทมนตร์ ?” ชายหนุ่มถอยกลับไปดูร้านดังกล่าว เขาเห็นขวดแก้วรูปทรงประหลาดนับไม่ถ้วนเรียงรายอยู่บนผ้ากำมะหยี่สีแดงซึ่งถูกปูทับกับโต๊ะไม้ที่ต่อกันอย่างง่าย ด้านในขวดมีของเหลวหลากสีบรรจุอยู่ น้ำเหล่านั้นสะท้อนกับแดดเป็นประกายภายใต้เพิงหนังสัตว์ ลาโตรจ้องมองมันอย่างสนใจพลางหยิบขวดขึ้นมาดูด้วยความสงสัย
“หน่วยก้านแบบนี้เป็นนักรบสินะ สนใจไหม ข้ามียาเสริมกำลัง เพิ่มความเร็ว เพิ่มสติปัญญาและอีกสารพัดเลยนะ” ชายวัยกลางคนเจ้าของร้านเอ่ยชวน เขาสวมผ้าคลุมสีแดงก่ำและมีฮู้ดปิดบังใบหน้า พ่อค้าลึกลับผายมือไปยังยาสารพัดที่วางอยู่อย่างเชื้อเชิญ
ลาโตรขมวดคิ้วพลางขบคิด แค่กินยาพวกนี้ก็จะเก่งขึ้นได้เนี่ยนะ โลกเรามันจะมีอะไรง่าย ๆ แบบนั้นเลยรึ
“ก็เหมือนกับคนที่มีกล้ามใหญ่ ๆ ยังไงล่ะ รู้ไหมว่านอกจากการออกกำลังกายที่ถูกต้องก็ยังจำเป็นต้องกินอาหารให้ถูกต้องด้วย” เมื่อพ่อค้าเห็นว่าเป้าหมายสนใจจึงรีบเอ่ยโฆษณาชวนเชื่อและอธิบายสรรพคุณนานหลายนาที ลาโตรเองก็ยังคงยืนฟังไม่ไปไหน ยิ่งทำให้พ่อค้าเริ่มได้ใจ สายตาเลศนัยที่ลาโตรไม่ทันสังเกตฉายอยู่ใต้ผ้าคลุมสีแดง
“นั่นแค่ยาทั่วไปนะ แต่ยาเวทมนตร์ของข้าเนี่ย ได้ผลมากว่าอาหารเสริมเป็นสิบ ๆ เท่าเลย เจ้าคิดว่าคนเก่ง ๆ เนี่ยเขาฝึกฝนยังอย่างเดียวเหรอ เขากินไอ้นี่กันทั้งนั้นแหละ” พ่อค้ากล่าวและหยิบขวดยาทรงน้ำเต้าให้ลาโตรดู
“จริงรึ ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าคนเก่ง ๆ เขากินกันด้วย” ลาโตรได้ยินสรรพคุณดีล้ำเลิศนี้ก็ยิ่งตาลุกวาวด้วยความสนใจ ถึงแม้เขาจะไม่เคยคิดว่าตัวเองด้อยกว่าใครก็เถอะ แต่ถ้ามีทางลัดที่จะเก่งขึ้น ทำไมจะไม่สนใจเล่า
“เริ่มจากไอ้นี่ก่อนเลย ยานี่ช่วยไขกระดูกในการสร้างเลือด ต้านการแข็งตัวของเลือด ลดโอกาสของโรคสมองและยังบำรุงปอด ตับ และระบบประสาทด้วย” พ่อค้าเริ่มอวดอ้าง “คนอ้วนกินแล้วผอมลง คนผอมกินแล้วอ้วน”
ลาโตรเริ่มรู้สึกแปลกตงิด ๆ เขาขมวดคิ้ว
“แล้วยานี่ล่ะ” เขาชี้ไปที่ยาอีกตัวที่อยู่ข้าง ๆ กันกับยาที่พ่อค้าหยิบขึ้นมาให้เขาดู พ่อค้าเริงร่าหยิบขวดของเหลวสีชมพูขึ้นมาและว่าต่อ
ความคิดเห็น