ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hey guy พี่ครับรับรักผมหน่อย {Yaoi}

    ลำดับตอนที่ #3 : Hey Guy

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 56



     

          


     ไม่ต้องถามหรอกนะว่าผมวิ่งได้หรือเปล่าแค่ครึ่งรอบผมก็ไปเฝ้าพระอินทร์ก่อนเพื่อนแล้ว อยู่ๆโลกมันเอียงแล้วก็วูบ...

    คนนี้เป็นน้องของเพจเองเหรอเราไม่รู้อ่ะ ไม่งั้นเราจะช่วยดูแลให้”

    ไม่เป็นไรหรอกโอม เราขอบคุณมากนะน้องเราไม่ค่อยสบายอยู่แล้วน่ะเลยเป็นลม”

    ถ้าเกิดมีอะไรให้เราช่วยบอกนะ ไม่ต้องเกรงใจ” ^^

    ขอบคุณนะ”

     งั้นเราไปก่อนนะ”

    บ๊ายบายจ้า”
    ^^
    ไงเรา”

    ผมสะดุ้งนิดหน่อยกับสายตาของเพจเหมือนมีประกายไฟแลบออกมายังไงก็ไม่รู้

    เจ๊เพจจจจจจ”ผมเรียกเสียงอ่อย

    ไม่ต้องมาเรียกเลย ไม่สบายทำไมไม่รู้จักบอกพี่เขาถ้าเป็นหนักกว่านี้ขึ้นมาจะทำยังไง” ถึงเพจจะดุแต่ร่างบางก็เคลื่อนตัวมาข้างเตียงผมพร้อมเปิดขวดน้ำเสียบหลอดให้ผมดื่ม ผมยันตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงแล้วยกขวดดื่มอึกๆอย่างกระหาย แม่งโคตรร้อนเลย

    ลุกไหวหรือเปล่าจะได้กลับกันเลย”

    ผมพยักหน้ารัวๆแล้วใช้แขนเสื้อเช็ดปากรีบโดดลงจากเตียงพรึ่บ

    โอ๊ย!!!

    เป็นไรที่รัก” เพจถลามาประคองผมไว้ไม่งั้นคงได้จูบพื้น

    เอวเคล็ด” ผมบอกน้ำตาจะไหล อะไรกันวะทำไมมันเจ็บปวดรวดร้าวขนาดนี้อยากจะกรี๊ด

    ไปทำอะไรมาเนี่ย” เพจทั้งบ่นทั้งประคองพาผมไปขึ้นรถ

    ไม่มีป้ายชื่อเลยโดน”ผมบอกเสียงอ่อยแล้วเดินกะเผลกๆไปด้วย

    สมน้ำหน้าแล้วย่ะ”

    เจ็บปวดดดดดดดดดดดดด TTT^TTT

     

     Nukrob Part

    ผมกอดอกยืนมองร่างบางที่ถูกประคองไปโดยผู้หญิงคนนึงอย่างรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย

    มาช้าไปเหรอวะมึง”

    เออ” ผมกระแทกเสียงตอบไอ้นาวาที่เดินมากอดคอลากไปพักด้วยกัน ไอ้ซันเพิ่งจะสั่งปล่อยน้องไปพักแล้วพวกผมเองก็ต้องรีบกินข้าวรีบไปเตรียมตัวกันต่อเหมือนกัน ทั้งๆที่ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว

    เป็นห่วงเด็กนั่นหรือไงถึงรีบมาดู”

    ก็แค่มีอะไรสงสัยนิดหน่อย”

    สงสัยอะไร อย่าบอกนะว่าเกี่ยวกับเด็กที่มึงพาด้วยคืนนั้นน่ะ”

    ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน กูยังไม่รู้จักชื่อน้องเค้าเลย”

    ก็ลองพิสูจน์ดูสิ”

    จะให้พิสูจน์ยังไงคิดว่ามันจะลอยมาเข้าปากกูง่ายๆแบบคราวที่แล้วเหรอวะ”

    2วันต่อมา

    ทำไมทำคิ้วขมวดจังคะรบ มินนี่นวดให้นะคะ”

    ไม่ต้องหรอก ชงเหล้าก็พอแล้ว”

    ก็ได้ค่ะรบ”

    ผมบอกปัดอย่างรำคาญคนที่นั่งทับอยู่บนตักไม่ค่อยชอบให้ใครมาแตะหน้าเท่าไหร่ มินนี่เป็นคู่ควงคนล่าสุดของผมอีกไม่นานก็จะเลื่อนขั้นเป็นคู่ขาหลังจากกินเหล้าเสร็จ  พี่ว๊ากก็เครียดเป็นนะครับ ร่างบางที่นั่งทับอยู่ก็ทั้งเบียดทั้งกระแซะแถมยังเป็นฝ่ายเริ่มก่อนอีก ผมยกแก้วเหล้าสาดลงคอดึงแขนมินนี่ลุกขึ้น เมื่อเห็นร่างๆหนึ่งที่คุ้นตาเดินไปทางห้องน้ำ

    จะไปไหนนักรบ” พายที่เป็นพี่ว๊ากถามอย่างรู้กันดี

    ไปทำศึก”

    ใจเย็นๆสิคะรบไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้”

     

    ผมเหยียดยิ้มแต่ก็ยังคงลากแขนผู้หญิงคนนี้เดินเร็วแซงหน้าคนคุ้นตาที่มัวแต่เดินเบียดกับคนอื่นอยู่ จะเรียกว่าโชคดีหรือเปล่าที่ตอนนี้ห้องน้ำในผับไม่มีคน ผมยกร่างของมินนี่ขึ้นวางที่ขอบอ่างล้างหน้า มินนี่เริ่มเป็นฝ่ายแกะกระกระดุมเสื้อผมออกก่อนมือเล็กลูบไล้ร่างกายผมอย่างช่ำชอง ผมเองก็ปลดบราเซียร์เธอออกลูบไปตามร่างกายอีกฝ่ายอย่างเชื่องช้า มือเรียวเล็กของอีกฝ่ายพยายามปลดเข็มขัดผมออกอย่างรีบร้อน

    แอ๊ดดดดด

    ว๊าย!!!

    เห้ย!!!ขอโทษครับ”

    ผมเหลือบมองคนที่เปิดประตูเข้ามาทำสีหน้าอ้ำอึ้งแล้วลอบยิ้ม เมื่อคนที่ต้องการให้เข้ามาเห็นภาพนี้เข้ามาจังหวะพอดีกับที่ต้องการ ผมช่วยมินนี่ติดตะขอบราเซียเพื่อให้เธอวิ่งออกจากห้องน้ำได้เร็วขึ้นแล้วดึงแขนคนสูงอีกคนเข้ามาแทน

     “มึงทำผู้หญิงกูหนีจะรับผิดชอบยังไง”

    เอ่อ...”

    ว่าไง” ผมกระชากเสียงถาม

    ผมยังไม่ได้อะไรถ้าเกิดพี่อยากมากผมไปตามเขากลับมาให้ก็ได้” คนตัวเล็กกว่าว่า

    ไม่ต้องมึงนั่นแหละต้องรับผิดชอบ”

    ให้รับผิดชอบอะไร”

    เดี๋ยวก็รู้...

    ผมเหวี่ยงร่างเล็กกว่าที่กว่าที่ตัวเองลากมาด้วยลงบนเตียงแล้วยืนมองไอ้เด็กเอ๋อที่ลากมาด้วยกระโดดหนีลงจากเตียง

    “พี่จะทำอะไรผมเนี่ย” เด็กเอ๋อที่เพิ่งตั้งสติได้ทำท่าจะกระโจนหนีออกไปจากห้อง

    “ทำอะไรกันไง”ผมพูดเสียงเย็นแล้วเอื้อมมือไปกระชากแขนคนที่ยืนอีกฝั่งลงมาอยู่ใต้ร่างตัวเองก่อนที่จะโดดหนีออกไปได้ ร่างเล็กกว่าดิ้นไปมาบนเตียงหน้าซีดทำเอาผมอยากจะหัวเราะ

    “ทำยังกับไม่เคยไปได้” ผมใช้น้ำหนักตัวที่มีมากกว่ากดคนที่อยู่ใต้ร่างจมลงไปกับฟูกที่นอน

    “เคยบ้าอะไร”

    หึ ผมแค่นหัวเราะเมื่อคนพูด พูดปากคอสั่น

    “หุบปากเก็บเสียงไว้ครางตอนกูพิสูจน์เองดีกว่า”

    Teerak Part

    “ปล่อยนะโว้ย” ผมดิ้นสุดแรงพอรู้ว่าคนที่คร่อมร่างอยาจะทำอะไร ผมถีบพลักเข้าที่ท้องของอีกฝ่ายเต็มแรงแล้วตะกายลงจากเตียงอีกรอบแล้วเปิดประตูห้องนอนวิ่งหนีออกมา ไม่อยากจะสาธยายถึงความโง่ของตัวเองเลยที่วิ่งชนโต๊ะไปเต็มแรงกว่าจะมาถึงประตูห้องที่เป็นทางออก

    กึก กึก กึก

    ผมกระชากประตูเต็มแรงแต่เปิดไม่ออก คีย์การ์ด แม่งเอ้ย รอบที่แล้วผมค้นเอาคีย์การด์จากตัวเขามาถึงหนีออกจากห้องได้ แต่คราวนี้...

    “หาอะไรอยู่หรือเปล่า”

    ผมหันควับกลับไปมองคนที่ยืนกอดอกพิงกรอบประตูห้องนอนอยู่ในท่าสบายๆ ผิดกับผมที่ร้อนใจจนเหงื่อตก ในมือของร่างสูงมีคีย์การด์สีดำโบกไปมากลางอากาศ

    “อยากได้มาเอาเอง” ร่างสูงกว่าพูดแต่กลับย่างสามขุมเข้ามาหาพริบตาเดียวร่างผมก็ถูกเหวี่ยงไปนอนที่พื้นเย็นๆตามด้วยร่างสูงที่ใช้ร่างกายทาบทับผมไว้ปิดกั้นทางหนี

    “พี่ต้องการอะไรเนี่ย ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ” ผมขืนตัวหนีทั้งที่ถูกรวบมือไว้เหนือศีรษะ จะอะไรกับกูนักหนาวะ

    “หุบปากเงียบๆได้มั้ย” ร่างสูงกว่าตะคอกใส่แล้วปิดปากผมด้วยฝ่ามือหนา  ใบหน้าคมก้มลงซุกเข้าที่ซอกคอผมจนต้องบิดตัวหนี ไอร้อนจากลมหายใจที่เป่ารดผิวกายทำให้ไรขนอ่อนในร่างกายผมลุกอย่างห้ามไม่อยู่

    “อื้ออออออ”ผมพยายามร้องเตือนสติคนที่คร่อมอยู่แล้วหาทางหนีให้ตัวเองไปด้วย ผมใช้ขาเรียวที่เป็นอิสระเตะดิ้นหนีเพื่อเอาตัวรอด แต่ร่างสูงกว่ากลับแทรกตัวเข้ามาแล้วใช้ท่อนขากดทับผมไว้แทบขยับตัวไม่ได้ ฝ่ามือหนาที่ปิดปากผมอยู่ปล่อยริมฝีปากผมให้เป็นอิสระ แต่นั่นก็แค่ชั่วคราวเมื่ออีกฝ่ายใช้ริมฝีปากของตัวเองบดเบียดลงมาอย่างรุนแรงปลายลิ้นร้ายสอดแทรกเข้ามาเกี่ยวพันและกวาดไปทั่วโพรงปากของผมอย่างร้อนแรงแทบสำลักลมหายใจ มือหนาที่เป็นอิสระสอดเข้าใต้ชายเสื้อที่ผมสวมอยู่ลูบไล้ขึ้นมาจนถึงยอดอกและบีบเคล้นร่างกายผมอย่างเอาแต่ใจตัวเอง ผมพยายามบิดกายหนีสัมผัสที่รุกรานนั่นอย่างสุดกำลังแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก เมื่อริมฝีปากร้อนปล่อยเรียวปากผมให้เป็นอิสระผมรีบหายใจเอาอากาศเข้าปอดก่อนที่จะสำลักลมหายใจตัวเองเพราะความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย ร่างกายผมถูกจับยกขึ้นเพื่อที่ร่างสูงจะได้ดึงถลกเสื้อออกได้อย่างถนัดผมรีบจับเสื้อที่เป็นเหมือนเกราะคุ้มครองตัวเองไว้แต่เสียงเนื้อผ้าฉีกแยกออกจากกันก็บ่งบอกได้ดีว่าตอนนี้คนตรงหน้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เรียวปากร้อนของอีกฝ่ายเข้าครอบครองยอดอกผมอย่างย่ามใจลมหายใจร้อนที่ปัดเป่าโดนยอดอกสลับกันไปมาทั้งสองข้างทำเอาผมรู้สึกราวกับว่าแขนขาจะหมดแรงขึ้นมาดื้อๆ มือหน้าตรงเข้าแกะเข็มขัดผมออกแล้วถอดทิ้งอย่าไม่ไยดีระหว่างนั้นก็ดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองออกจากร่างกายไปด้วย ซิกซ์แพคของคนตรงหน้าทำให้ผมรู้ว่าเขาดูแลตัวเองดีแค่ไหนจนทำให้ผมสู้แรงเขาไม่ได้ ขณะที่มือร้อนแตะลงที่เอวผมเพื่อจะดึงกางเกงที่ผมสวมอยู่ออกผมรีบกลั้นหายใจพูดก่อนที่ทุกอย่างมันจะซ้ำรอยเดิมกับวันที่ผมเมา

    พี่เคยได้ผมแล้วปล่อยผมไปเถอะ!!!
     

    ผมเห็นร่างสูงชะงักไปชั่วครู่แล้วหลับตาแน่นไม่กล้ามองคนตรงหน้าภาพความทรงจำที่ผมเคยนอนกับเขาลอยเข้าหัวเป็นฉากๆ ตอนนั้นเขาเมา ผมก็เมา แต่ตอนนี้ผมไม่ได้เมามีสติครบถ้วนถึงจะเพิ่งกลับคืนมาก็เถอะ

    “พูดออกมาแล้วนะ”

    เป็นนานกว่าที่ใครซักคนจะยอมพูดออกมา น้ำหนักที่กดทับตัวผมหายไปเมื่อร่างสูงผละลุกขึ้น

    “พี่ต้องการอะไรกันแน่เนี่ย” ผมขยับตัวลุกขึ้นมองตามร่างสูงที่เดินไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่แล้วหยิบรีโมตมาเปิดทีวีแล้วหันหน้ามาหาผมพร้อมกับบุหรี่ที่จุดแล้วในปาก

    “มึงกลับไปได้แล้วไป”

    หะ

    “ไม่เข้าใจที่กูพูดหรืออยากต่อ...” คนพูดดึงบุหรี่ออกจากปากก่อนจะแสยะยิ้มให้

    “พี่ทำเสื้อผมขาด” สถานะการณ์แบบนี้คงไม่ต้องรอให้ไล่ซ้ำสองหรอกผมรู้ แต่กว่าจะหารอรถแท็กซี่ผ่านมาซักคันยุงไม่ดูดเลือดผมหมดตัวก่อนเหรอ

    “มึงนี่” ร่างสูงว่าเหมือนหมดความอดทนคว้าเสื้อนักที่พาดอยู่แถวนั้นโยนส่งๆใส่หน้าผม พอหยิบมาดูมันเป็นเสื้อเชิตร์นักศึกษาสีขาวที่คงใส่แล้ว พอจะอ้าปากบอกสายตายดุดันที่จ้องมาทำให้ผมหุบปากตัวเองลงรีบติดกระดุมเสื้อให้ตัวเองเงียบๆ

    “พี่...”ผมทำใจกล้าเรียกอีกครั้ง

    “อะไรของมึง”

    “คีย์การด์”

    ปั่ก!!!

    เสียงแผ่นพลาสติกบินกระแทกหน้าผากผมเข้าอย่างจังแต่คนโยนไม่สนใจจะหันมอง ผมก้มหยิบคีย์การด์ขึ้นมารีบเสียบเข้ากับช่องของมันที่ข้างประตูห้องเพื่อเปิดออกไป ก่อนที่จะปิดประตูห้องคืนให้เจ้าของเหมือนเดิม รู้สึกเหมือนจะได้ยินเสียงสบถอะไรตามมายาวเหยียดไม่แน่ใจ คิดมากไปเองมั้งกูรอดมาได้ก็ดีละ 

     

    วันรุ่งขึ้น

    “วันนี้เข้าห้องเชียร์ด้วยกันนะที่รัก”

    รู้สึกเหมือนตาขวากระตุกยังไงแปลกๆพอได้ยินคำชวนของเพื่อนที่แสนดีอย่างเจมส์

    “ไม่เอา ไม่อยากไป”ตอนที่นอนสลบข้างสนามยังสามวันเจ็ดวันไม่หาย จนป่านนี้ทั้งคณะลือหึ่งกันไปหมดแล้วว่าผมไอ้เจมส์เป็นแฟนกันยอมรับโทษแทนกันแถมสวีทกันมากกกกกกกกกกก เรียกกันที่รงที่รักตลอดเวลาเพราะผมไม่ยอมแขวนป้ายชื่อ มันอยู่ที่ห้องของของใครซักคนแน่ๆแต่ไม่มีใครคิดจะหา

    “ไปเป็นเพื่อนกันหน่อยดิ พีท โชกุนก็ไม่เข้าอยู่แล้วอ่ะ”

    “ไม่เอา ไม่ไป” ผมยังยืนยันคำเดิม นอกจากเรื่องอายแล้ว ผมยังไม่อยากไปเจอหน้าพี่ว้ากบางคนด้วย

    “ถ้ากังวลเรื่องพี่ว้ากล่ะก็นะ จบเชียร์เสร็จเดี๋ยวดักตีให้”

    “เบาๆ เดี๋ยวก็โดนพี่ว้ากกระทืบก่อนได้จบเชียร์หรอก”ผมว่าแล้วเอาขนมที่กำลังกินอยู่ยัดใส่ปากเจมส์

    “ตกลงว่าไปนะ”

    “ไม่”ผม

    “ไป”เจมส์

    “ไม่”

    “ไปๆๆๆๆๆ”

    “ไม่ๆๆๆๆๆ”

    “ไม่”เจมส์

    “ไป”ผม

    “เย่” เจมส์

    อะ อะไอ้เจมส์หลอกกันได้ไง พอจะบอกอีกทีว่าไป เพื่อนรักก็วิ่งนำหน้าไปซะแล้ว ผมถอนหายใจออกมาแล้วมองถุงเสื้อที่ถือติดมือมาด้วย ไปก็ได้วะเลิกกิจกรรมจะได้เอาเสื้อไปคืนพี่เขา แลดูเป็นคนดีจริงๆเลยกู

    นี่น่ะเหรอที่เรียกว่าความสามัคคี

    พวกคุณทำได้แค่นี้ใช่ไหม

    วันนี้พวกคุณไม่ผ่าน

    ขอบคุณครับ/ค่ะ

    กูว่าละ ผมพึมพำเบาๆกับตัวเองโดยมีไอ้เจมส์ตบบ่าปลอบหลังจากที่พวกพี่ว้ากและผู้นำเชียร์ชักแถวเดินออกจากห้องเชียร์กันไปแล้ว

    น้องๆคะหยิบกระเป๋าตั้งแถวค่ะพี่จะพาออกจากห้องเชียร์

    ไอ้เจมส์ ผมกับเพื่อนคนอื่นๆตั้งแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่งเดินออกจากห้องประชุมเชียร์อย่างล้าๆ ไอ้การมานั่งหลังตรงไม่กระดุกกระดิกนานๆแล้วต้องมาตะโกนร้องเพลงติดต่อกันนานเป็นชั่วโมงแบบนี้เหนื่อยมหาประลัยเลย

    ใครที่พักอยู่หอใน ม. แถวนี้

    ใครที่พักอยู่หอนอก แถวนี้

    ใครที่ไม่มีรถยนต์แถวนี้

    ใครที่มีรถมอไซค์แถวนี้

    ใครที่มีรถสามารถไปส่งเพื่อนได้ แถวนี้

    ใครที่ผู้ปกครองมารับ แถวนี้

    ผมกับไอ้เจมส์วิ่งไปยืนแถวตอนเรียงหนึ่งในแถวที่ผู้ปกครองมารับ ผู้ปกครองที่ว่าคือเจ้เพจ ไอ้เจมส์ความจริงมันมีรถส่วนตัวแถมยังมีอู่รถเป็นของตัวเองอีกแต่มันขี้เกียจขับรถเพราะเลยให้เจ้เพจไปส่งแทน

    “มึงว่าเจ้เพจจะมายังวะ” “ไอ้เจมส์หันมาถามระหว่างรอปล่อยแถว

    “ถึงแล้วเพจจะโทรหาเอง” ผมกระซิบบอก ถึงแม้ว่าจะอยู่ในแถวแล้วรุ่นพี่ก็ใกล้จะปล่อยแล้วพวกผมก็ยังไม่สามารถจะคุยกันได้เลยต้องพยายามกระซิบกระซาบให้เนียนที่สุด ยุงก็กัด คันก็คัน เกาก็ไม่ได้

    แถวนี้ตามพี่มาเลยค่ะ

    ผมขยับเท้าเดินตามรุ่นพี่สันทนาการผู้หญิงที่แขวนป้ายชื่อว่าพี่ฟ้าที่เดินนำหน้าพาแถวพวกผมไปรอที่หน้าคณะเพื่อให้ผู้ปกครองมารับ

    นั่งรอกันก่อนนะระวังยุงกัด

    ผมมองพี่ฟ้ายิ้มๆเพราะพี่แกดูกระตือรือล้นมากในการดูแลพวกผม

    “ยิ้มอะไรคะแฟนน้องเจมส์แฟนนั่งอยู่ข้างๆยังกล้ามองคนอื่นอีกเหรอ”

    ผมหุบยิ้มฉับทำหน้าไม่ถูก แต่ไอ้เจมส์แม่งหัวเราะลั่นไปแล้ว

    “อย่าแซวที่รักผมสิครับพี่ ดูหน้ามันดิเขินหน้าแดงเป็นตูดลิงไปหมดแล้ว”

    “กูร้อนต่างหาก”ผมบิดแขนมันไปทีนึง

    “ผมกับไอ้เจมส์ไม่ได้เป็น...”

    “ฟ้าพี่รบเรียก”

    ยังไม่ทันที่จะได้แก้ตัวรุ่นพี่สันทนาการอีกคนที่น่าจะชื่อพี่นางก็วิ่งมาเรียกพี่ฟ้าซะเสียงดังกลบเสียงผมไปหมด

    “อ๋อจ้ะ”

     “เอ่อ...พี่ฟ้าครับ” ผมชั่งใจก่อนเรียกนิดหน่อย

    “ว่าไงจ้ะ” พี่ฟ้าหันมายิ้มให้อย่างใจดี

     “ฝากถุงนี้ให้พี่รบหน่อยได้มั้ยครับ”  ผมหยิบค้นเอาถุงเสื้อออกจากกระเป๋าเป้แล้วส่งให้พี่ฟ้าไป

    “ได้จ้ะ”

    “ขอบคุณมากครับ” ผมยิ้มตอบ

    “ไม่แขวนป้ายชื่อก็งี้แหละว้าคนเข้าใจผิดกันหมด ว่าแต่มึงเอาอะไรไปให้พี่เขาวะ”

    “ไม่มีไรหรอก มีคนฝากมาอีกทีน่ะ” ผมเลือกจะโกหกออกไปเดี๋ยวเรื่องมันจะยาวกว่านี้

    เดาซิกันหน่อยมั้ยผมโดนทำโทษหรือเปล่าวันนี้ จะเหลือเรอะ โดนวิดพื้นห้าสิบรอบแทบจูบพิ้นอยู่แล้วคราวนี้คนสั่งเป็นพี่ว้ากอีกคนชื่อสาม หล่อโคตรเหอะ ผมเป็นผู้ชายด้วยกันมองยังอดนึกชมไม่ได้

    “นั่นเจ้ป่าววะ”

    “ไหน” ผมเอี้ยวตัวมองเข้าไปในคณะมองหาเพจ แต่สายตาเจ้ากรรมดันมองไปเห็นพี่ฟ้ากำลังส่งถุงเสื้อคืนเจ้าของเสื้อที่ชื่อนักรบ แถมยังชี้ไม้ชี้มือมาทางนี้ด้วย ผมเอนหลบหลังไอ้เจมส์ทันที มันเป็นปฎิกิริยาอัตโนมัติโดยไม่ได้ตั้งใจนะ

    “เจ้เจ๋งว่ะ”

    “ทำไมวะ” ผมไม่ชะเง้อมองทั้งที่อยากรู้

    “กลุ่มพี่ว้ากทั้งกลุ่มมองเจ้หมดเลยดิวะ เฮ้ยๆๆรุ่นพี่คนอื่นๆก็มองเว้ย”

    “ไหนวะ” ทนไม่ไหวละ ผมชะเง้อคอมองแล้วร้องอ๋อในใจ จะไม่ให้มองได้ไงเสื้อนักศึกษาแบบพอดีตัวแต่ไม่ได้รัดมากจนฟิตไปหมดทั้งตัวอย่างที่ใครๆชอบใส่กัน ทรงเอสั้นเหนือเข่าขึ้นมาโชว์ความขาวโอโม่ของเรียวขา แถมเจ้ยังสวมส้นสูงไม่ต่ำกว่าสี่นิ้วสีดำตัดกับสีผิวทำให้เรียวขาที่สวยอยู่แล้วดูเพรียวสวยขึ้นไปอีกสวยเชิดขนาดนี้ไม่มองก็ไม่ใช่ผู้ชายละ

    “แหล่มเลย” ผมมองไอ้เจมส์แล้วแพ่นกบาลมันไปทีนึง

    “แม้แต่มึงก็เป็นเหรอวะ”

    “สวยแบบนี้ไม่มองได้”ไอ้เจมส์ว่าแล้วโบกไม้โบกมือให้เพจที่กำลังคุยอยู่กับไอ้พี่โอมที่ดูปลื้มจนออกนอกหน้าเห็น เหมือนเพจจะขอตัวแล้วกวักมือเรียกให้พวกผมเดินไปหา จะว่าหวงเจ้ก็หวงละวะ แป๊ปเดียวผมกับไอ้เจมส์ก็วิ่งพรวดเดียวไปถึงที่เจ้เพจยืนอยู่เป็นเวลาเดียวกับพี่ว้ากพากันเดินแยกย้ายไปทางอื่นแล้ว ไม่งั้นผมคงทำหน้าไม่ถูกเหมือนกันถ้าเกิดเจอหน้าคนคนนั้นอีก

    “พอดีหาที่จอดรถหน้าคณะไม่ได้เลยได้ไปจอดหลังคณะน่ะ” เพจว่า

    “ถึงแล้วทำไมเจ้ไม่โทรมาบอกอ่ะ” ผมเกาะแขนเจ้ถามหวงๆขณะที่เดินไปลานจอดรถหลังคณะ

    “มือถือแบตหมด”

    “เย็นแล้วยังสวยเป๊ะอยู่เลยนะ” ไอ้เจมส์ถามแล้วถือโอกาศคล้องแขนเจ้เพจอีกข้างไปด้วย

    “ปากหวานนะเจมส์” เพจหางตาที่กรีดด้วยอายไลน์เนอร์คมสวยอย่างหมั่นไส้

    “เจ้คนสวยหิวแล้วอ่ะพาไปกินหนมหน่อย” ผมอ้อนบ้าง

    “แป๊ปเจ้” เจมส์บอกเผลอกระตุกแขนเพจอย่างลืมตัวขณะที่ชะเง้อคอเหมือนจะมองหาใครไปด้วย

    “หืมหาอะไรเหรอ” เพจถาม

    “เปล่าเจ้”

    เหมือนเราจะคุยกันดังไปหน่อยกลุ่มพี่ว้ากที่ผมคิดว่าแยกย้ายกันไปแล้วหันมามองพรึ่บโดยเฉพาะสายตาตำหนิจากเฮดว้ากอย่างพี่ซันที่ทำเหมือนกวาดมองตั้งแต่หัวจรดเท้า เพจผลักผมกับเจมส์เบาๆให้เดินไปขึ้นรถก่อน ส่วนตัวเองกอดอกจิกตามองพี่ซันก่อนจะเดินตามมานั่งประจำที่คนขับแล้วถอยรถออกไปอย่างรวดเร็ว ผมกับไอ้เจมส์มองหน้ากันอย่างทึ่งนิดหน่อยที่เพจกล้าประจันหน้ากับเฮดว้ากอย่างพี่ซันที่ขึ้นชื่อว่าโคตรดุ ผมหันกลับไปมองผ่านกระจกหลังรู้สึกเหมือนพี่ซันจะมองตามรถมาเหมือนสนใจอะไรบางอย่าง ผมเลื่อนสายตากลับมามองร่างบางที่กำลังขับรถอยู่รับรู้ถึงกระแสความไม่พอใจที่แผ่ออกจากร่างบาง อยู่ในม. มานานก็พอจะได้ยินกิตศัพท์ของรุ่นพี่อย่างพี่ว้าก โดยเฉพาะพี่ซันที่สนใจอะไรแล้วก็ไม่ยอมปล่อยอะไรให้ผ่านไปง่ายๆ หวังว่าคงไม่มีเรื่องยุ่งยากตามมาทีหลังหรอกนะ


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×