คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12 หน้าที่เชลย (2)
ถึงแม้ว่าในตอนแรกเชอรีนจะรู้สึกอึดอัด ไม่ชอบใจนักกับทุกครั้งที่ได้ยินบูรณ์อ้างตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แต่อย่างน้อยเขาก็มีจิตใจดี... เชอรีนพยายามทำความเข้าใจกับมัน ว่าเขาทำไปด้วยความจริงใจ อันที่จริงบูรณ์เป็นสุภาพบุรุษโดยเนื้อแท้ ไม่เคยฉกฉวยโอกาส
ที่เขาพูดเช่นนั้นไป เพราะเขาเพียงแต่แค่พยายามจะช่วยเท่านั้น..
และเมื่อครู่บูรณ์ถึงกับอาสารับหน้าที่แบกน้ำ ออกรับแทนนาง เมื่อเห็นว่านางทำไม่ไหว..
เขาช่วยเธออีกแล้ว ทั้งๆที่เขาเองก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่แตกต่างจากเธอเลย...
เชอรีนรู้ดี บูรณ์ไม่เหมือนตั้ม เขาเป็นบัณฑิตที่คร่ำเคร่งศึกษาเพียงแต่ตำราอย่างเดียวทำให้เขาค่อนข้างที่จะมีรูปร่างบอบบาง
ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายก็ตามที แต่คนไม่เคยโหมงานหนัก ยังไงก็ไม่ไหวเป็นแน่..
แต่แล้ว...ในระหว่างนั้นเอง
"เอา งั้นตกลงตามนี้ งั้นเจ้าก็แบกแทนนางแล้วกัน"กัปตันหนุ่มกล่าวลอยหน้าลอยตา
"..."
เชอรีนยืนอ้าปากค้าง งงเป็นไก่ตาแตก... ตกลงกลายเป็นว่าบูรณ์กล่าวกับเจ้ากัปตันว่าอาสาที่จะหาบน้ำแทนเธอ แล้วเขาก็ตอบตกลง!
ง่ายๆแบบนี้เรอะ... ไม่มีอิดออด ไม่มีแสดงความเป็นสุภาพบุรุษออกมาสักนิดเลยรึไง!?
ให้ตายเถอะ! แรกเริ่มเดิมที เชอรีนเองก็แอบอุตส่าห์คิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจะเป็นคนดีสักหน่อย นางนึกว่าเขาจะมีศีลธรรมสักหน่อยเชียว นึกว่าเขาจะใจอ่อน ยอมให้นางไปทำงานอย่างอื่นแทนที่จะต้องมาใช้แรงงานนี่! แต่เขากลับบอกให้บูรณ์ชดเชยในส่วนของนางแทนหรือนี่!?
ชักจะชั่วเกินไปแล้ว!
เห็นทีนางคงจะมองเขาในแง่ดีจนเกินไป
เฮอะ! ไม่อยากจะเชื่อ จู่ๆนางตาบอด เห็นไอ้พวกโจรห้าร้อยนี่เป็นคนดีได้ยังไง
หลงผิดจริงจริ๊ง!
แต่อย่างไรก็ดีเชอรีนเองรู้สึกผิด รู้สึกเหมือนดั่งตัวเองคอยแต่เป็นตัวถ่วงและสร้างความลำบากใจให้กับบูรณ์เสมอมา...
เขาต้องลำบากเพราะนางอีกแล้ว...ใช่ไหม?
แล้วนางจะยอมให้ไอ้โจรบ้าครึ่งพันมากฎขี่ข่มเหงพระอาจารย์กันซึ่งๆหน้าอย่างนี้ได้อย่างไร
นางจะต้องแสดงสปิริตบ้างให้เห็นบ้างว่าองค์หญิงเชอรีนแห่งราชวงศ์บานัต ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอไร้ความสามารถ!
"โจรชั่วอย่างพวกเจ้า ที่แท้ก็ดีแต่ปาก จะคุณธรรมหรือศีลธรรม พวกเจ้าคงสะกดไม่เป็น"นางพูดก่อนเชิดหน้าขึ้น
"เขาจะไปทำไหวได้ยังไงกันฮะ!? พวกเจ้ามันช่าง...ช่าง...ช่างไร้สามัญสำนึก!"เชอรีนเสริมเข้าไปอีก พยายามที่จะราดน้ำมันเข้ากองไฟ หวังจะทำให้ชายหนุ่มนั้นปะทุจุดเดือดบ้าง...
และดูท่าทางมันจะได้ผล.. กัปตันหนุ่มหน้าอ่อนหันขวับมาทางเธอทันที
อ้นลูบคาง...ในขณะที่จ้องหน้าเชอรีน พลางยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยแปลกๆ ที่นางต้องผงะเล็กๆเมื่อเห็นสายตาวิบวับนั่น
"หึๆ..."กัปตันหนุ่มหัวเราะในลำคอ ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึก พยายามที่จะข่มอารมณ์ด้วยการขบกราม..
นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงที่ดูอ่อนหวานน่ารักอย่างนางจะปากคอเลาะร้ายใจคอเหี้ยมโหดกับเขาได้ถึงขนาดนี้... แหม๊! ว่ากันถึงขนาดนี้ ถอดรองเท้ามาตบหน้ากันสักสิบฉาดเถอะ...
มันไม่ได้ต่างอะไรกันเลย... แถมยังว่าเขาต่อหน้าลูกน้องนับสิบขนาดนี้อีก
ฮรึ่ม! ไม่เกรงใจกันเลยใจไหม!?
ใจเย็นน่ากรกฎ นางเป็นผู้หญิง นางทำได้อย่างมากก็แค่ด่าปาวๆๆ...
เขาคิดพลางพยายามควบคุมอารมณ์
หึ! แต่ถ้านางจะแสบถึงขนาดนี้แล้วล่ะก็ เขาก็คงต้องหาวิธีแก้เผ็ดซักหน่อยเหมือนกัน
ในเมื่อนางอยากจะช่วยไอ้หน้าอ่อนนั่น... มีหรือพระเอกอย่างเขาจะขัดใจสาวน้อยน่ารักได้ลงเล่า...?
"โถๆ ท่านช่างน่าเลื่อมใสซะจริง ไม่ทันไรภรรยาของท่านก็ออกรับแทนท่านเสียแล้ว..."กัปตันกรกฏลงความเห็นพลางฉีกยิ้ม
"เอาอย่างนี้... ในเมื่อเจ้าอยากช่วยสามีเจ้ามากนักละก็...จงตามข้ามา"เขากล่าวกับเชอรีนพลางตรงรี่เข้ามาคว้าแขนทันที
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วธันยบูรณ์ก็ชะงักทันที เขารีบร้องห้าม
"อย่านะ!"
"ข้าไม่ทำอะไรต่ำช้าอย่างที่จิตอกุศลของท่านคิดหรอก รับรองได้...ข้าเพียงแต่มีงานให้นางทำเท่านั้น.."อ้นยิ้มในขณะที่ลอบแขวะชายหนุ่มที่ดูร้อนใจเสียจนเนื้อเต้น
"ส่วนท่าน ก็ทำหน้าที่ของท่านตามเดิมไปเสีย"เขากล่าวพลางลากแขนเชอรีนไปจากบริเวณนั้น ที่สาวเจ้าพยายามขัดขืน ทั้งทุบทั้งตีแต่ไม่เป็นผล
ด้านบูรณ์เองนั้นก็ไม่รอช้า ณ วินาทีนี้เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว สวัสดิภาพของหญิงสาวที่เขาฝากหัวใจไว้นั้นสำคัญที่สุด เขาวางหาบบนพื้นเรือก่อนที่ทำท่าจะตามไป แต่ทว่าก็ถูกร่างใหญ่ๆของใครบางคนมากันท่าเอาไว้เสียก่อน
"เจ้าอยู่ตรงนี้ ทำตามที่พี่อ้นสั่ง... ข้ารับประกันได้ว่าเขาไม่ผิดคำพูด"รองกัปตันหนุ่มกล่าวอย่างแน่วแน่
"ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?"บูรณ์ลังเล แต่ถึงอย่างไรสีหน้าที่เคร่งเครียดของนัทธพงศ์ ก็ทำให้เขาเชื่อ..
"เอาหัวเป็นประกัน..."ชายหนุ่มร่างหนาเสริม
"ดี..ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนาง ข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าไว้แน่..."บูรณ์พูดเสียงเย็นก่อนที่จะยอมกลับไปทำงานของตนเองต่อ..
'ปัดโถ่... พูดอะไรไม่เจียมตัวดูหุ่นตัวเองเลย!'ดิวคิดแต่ก็พยักหน้าตบปากรับคำ ก่อนที่เขาจะทิ้งให้เหล่าลูกเรือคอยควบคุมและเฝ้าดูบูรณ์... ส่วนตัวเขาเองนั้นก็เดินตามพี่ชายกลับไปยังเคบินกัปตัน ด้วยความสนใจใคร่รู้
อยากจะรู้จริงๆ ว่าอ้นจะจัดการอย่างไรกับนาง..?
ลำพังเอาเข้าจริง เขาก็ไม่ไว้ใจพี่ชายเขาสักเท่าไหร่หรอกในยามนี้...
ยิ่งไอ้สายตาวิบวับเมื่อครู่แล้วนะ... เห็นแล้วน่าเขกกะโหลกซะไม่มี!
หึ! คนเป็นผู้ชายเหมือนกัน มันดูกันออกอยู่แล้ว... ดูออกอย่างชัดเจน ว่าเขาคิดอะไรอยู่ในหัว...
พี่ชายของเขาก็คงไม่ต่างอะไรจากเขา... เห็นทีศัตรูหัวใจงานนี้คงหนีไม่พ้นพี่ชายแท้ๆของเขาเอง
เมื่อครู่ดิวก็แค่พูดกับบูรณ์ไปอย่างนั้นเอง เขาพูดให้ชายหนุ่มวางใจเช่นนั้นก็เพียงเพื่อจะกันท่าไม่ให้ตามไปอีกคนให้เรื่องมันวุ่นวายก็เท่านั้น..
หนุ่มหน้าเข้มได้แต่ถอนหายใจอีกครั้ง... ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่เคบินกัปตัน
'
'
'
ภายในเคบินกัปตัน
กัปตันหนุ่มหยุดอยู่ที่กลางห้อง ก่อนจะปล่อยมือหญิงสาวที่เขาฉุดกระชากลากถูมาตลอดทาง.. เห็นได้ชัดว่านางโกรธเสียจนหน้าแดง... แหงล่ะ นางขัดขืนเขามาตลอดทาง
แล้วมือนางก็ใช่ว่าจะเบาๆซะที่ไหน ลำพังสักกำปั้นสองกำปั้นยังพอทำเนา... แต่นี่เล่นทุบมาตลอดทาง อ้นขบกรามด้วยความเจ็บปวด...
ให้ดิ้นตาย! เขาล่ะอยากจะเล่นบทพระเอกสุดโหดบ้างให้มันรู้แล้วรู้แรดไปเสีย...ฮุๆ
แต่ไม่เป็นไรหรอก... ถ้าหากว่านางแรงเยอะขนาดนี้ ก็ถือว่าเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า แม่ของลูกในอนาคตของเขาสุขภาพดี จริงไหม?
กัปตันหนุ่มคิดแล้วฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนกล่าวว่า
"เอ้านี่... อาวุธของเจ้า"อ้นพูดพลางชี้ไปที่ถังน้ำที่อยู่กลางห้องพร้อมกับไม้ถูพื้น
เชอรีนเข้าใจในทันทีว่าเขาต้องการจะให้นางทำความสะอาดห้องนี้... แต่เรื่องอะไรนางจะทำล่ะ!? นางอุตส่าห์ขัดขืนเขามาตลอดทาง ทั้งทุบทั้งตี ฮึ่ย! ไม่รู้ว่าคนหรือว่าหุ่นขี้ผึ้งกันแน่ถึงได้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเสียขนาดนี้... จนสุดท้ายนางเองก็ต้องยอมแพ้
หญิงสาวหน้าหวานได้แต่มองหน้าเขาแล้วทำยืนนิ่งเป็นบื้อใบ้ ราวกับว่านางไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด...
"อะไรล่ะ?"
"ถูพื้นสิ"
"แล้วทำไมข้าต้องเชื่อฟังเจ้าด้วย?"นางทำหูทวนลม
"ก็เจ้าน่ะเป็นเชลยไง แหม้...เจ้าก็ยังสาวอยู่นี่นา... ทำไมต้องให้ข้าเตือนหลายๆรอบเหมือนกับป้าแก่หนังเหี่ยวด้วย?"อ้นพูดพลางยิ้มเยาะ
"กรี๊ดดดด เจ้า! เจ้าว่าข้าเป็นป้าแก่หนังเหี่ยวหรอ!?"
เมื่อได้ยินดังนั้นองค์หญิงเชอรีนก็ทรงกริ้วทันที อดไม่ได้ที่จะร้องเสียงแหลม
ฮึ่ย! เอาสิ! มาด่าว่าทั้งแก่ทั้งหนังเหี่ยวแบบนี้ คนเป็นผู้หญิงเป็นใคร..ใครไม่โกรธกันฮะ!?
"ข้ายังไม่ได้ว่าเจ้าสักคำเลยนะ แค่เปรยเฉยๆ.. เจ้าจะร้อนตัวไปทำไมกัน ฮ่าๆๆๆ"ชายหนุ่มพูดพลางหัวเราะขบขันด้วยความชอบใจ
อ๊ากกกก ให้ตายสิ! ไอ้พูดชายคนนี้มันเหนือคำบรรยายจริงๆ นางล่ะเกลียด เกลียด เกลียด เกลียด ไอ้ผู้ชายที่กวนบาทา กวนฝ่าเท้าขนาดนี้! ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครกล้าทำกับนางถึงขนาดนี้สักคน ถึงแม้บูรณ์จะคอยขัดใจนางบ้างเป็นบางครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยทำให้นางรู้สึกเช่นนี้
แต่ทำไมผู้ชายคนนี้... ไอ้กัปตันบ้าที่เพิ่งเจอกันไม่ถึงสี่สิบแปดชั่วโมงนี่.. เขาต้องทำให้นางเกิดความรู้สึกที่พ่ายแพ้ตลอดเวลา
"เฮอะ! โจรชั่วอย่างพวกเจ้า ทางการน่าจะรีบๆจับตัวไปเสีย"เชอรีนพูดอย่างขัดใจ
ประโยคนั้นถูกกล่าวออกมาอย่างไม่ได้คิด ทว่านางไม่ได้ระแคะระคายสีหน้าของชายตรงหน้าที่มักจะถูกรอยยิ้มแต่งแต้มหายไป
ชั่วขณะนั้นเองที่ใบหน้าอันหล่อเหลานั้นดูเย็นชาพิลึก เจ้าของเรือแมดิสันกล่าวด้วยเสียงเย็นว่า
"คำก็ชั่วสองคำก็ชั่ว... อยากรู้จริงๆไหมว่าชั่วจริงๆเป็นยังไง?"
และแล้วเหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว... เพียงชั่ววินาทีนั้นเอง ร่างบางก็ถูกเกี่ยวกระวัดให้เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนกำยำ
เชอรีนรู้สึกราวกับว่าหัวใจของนางแทบจะหยุดเต้น... นางไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนกอดด้วยระยะประชิดขนาดนี้ ถ้าหากไม่นับเหล่าบรรดาพระเชษฐาของนาง... ดวงตากลมโตสีช็อคโกแล็ตเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง ก่อนที่หัวใจจะเต้นรัว เมื่อรู้สึกตัวอีกทีว่าถูกลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดที่แก้มนวล
ดวงตาสีน้ำตาลซุกซนไล่สำรวจทุกอนูบนหน้าหยกด้วยความเชยชม แม้แต่ขนคิ้วสักเส้น ก็มิอาจจะเล็ดลอดสายตานางไปได้...
อันที่จริง
หากจะพินิจกันให้ใกล้...ก็ถือได้ว่าชายผู้นี้นั้นมีใบหน้าที่ดูคมคายอยู่ไม่ใช่น้อย
หญิงสาวมัวชื่นชมความหล่อเหลาบนใบหน้าหยกเสียจนกระทั่งอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ...
กรกฎเห็นสายตาที่สาวน้อยนั้นเพ่งพินิจใบหน้าของเขาด้วยความเชยชม ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ด้วยความภาคภูมิใจ... อันที่จริงแล้วแรกเริ่มเดิมทีเขาชักรู้สึกโกรธที่นางว่าเขาอย่างเสียๆหายๆ ทั้งหยามกันต่อหน้าลูกน้องนับสิบ ทั้งยังคงพูดจาเสียดสีเขาได้ทุกชั่วขณะ คลับคล้ายคลับคลาว่าแผลเก่ายังไม่หาย ยังจะมาย้ำแผลเดิมให้ซ้ำมันลึกลงไปอีก...
ทว่าตอนนี้ ความโมโหโกรธาของเขาหายไปจนหมดสิ้น นางช่างดูไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน.. เหมือนดั่งลูกนกตัวน้อยในกำมือของเขา
"อ๊ะ..."หญิงสาวอุทานออกมาเบาๆ
"ปละ..ปล่อยข้านะ"นางกล่าวเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว เมื่อรู้ตัวว่าถูกจ้องตอบก็รีบเบือนหน้าหนี ทว่ากลับถูกมือหนาข้างหนึ่งล็อคใบหน้าน้อยๆเอาไว้ให้สบตา
ดวงตาสีนิลของชายหนุ่มดูหยาดเยิ้ม หวานฉ่ำพิลึกดั่งคนเมาเหล้าก็ไม่ปาน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ยินที่นางพูดแม้แต่น้อย ชายหนุ่มกลับค่อยๆโน้มใบหน้าคมคายของตนเข้ามาใกล้ๆ...
เชอรีนเตรียมที่จะเบือนหน้าหนี ทว่ามือหนายังคงยึดท้ายทอยเอาไว้ แต่ในไม่ช้าเจ้าตัวก็ค่อยๆผ่อนกำลังลง ไต่นิ้วเรียวไปตามท้ายทอยเข้าไปซุกไซ้ที่เส้นผม
ในวินาทีนั้นหญิงสาวได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อราวกับต้องมนต์... ใบหน้าของกัปตันหนุ่มอยู่ห่างจากนางเพียงแค่คืบ
หล่อนทำอะไรไม่ถูกนอกจากหลับตาปี๋...
และแล้วทันใดนั้นเอง...
"พี่อ้น!"
เสียงแหบห้าวทำให้ทั้งคู่รีบผละออกจากกันทันทีราวกับถูกช็อตด้วยปลาไหลทะเล กัปตันกรกฎรีบหันไปตามเสียงต้นตอ...ซึ่งเจ้าของเสียงนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากน้องชายสุดที่รักของเขา...
ไอ้บ้าเอ๊ย! มาขัดจังหวะซะได้ คนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม
ยิ่งคิดเขายิ่งยัวะ...ให้ตายเถอะ! ไอ้น้องชายบ้า มันจะไม่ปล่อยให้เขาได้มีความสุขจริงๆใช่ไหม!?
อ้นทำหน้าเห่ยแล้วถอนหายใจ ก่อนที่จะกล่าวว่า..
"เอา...เจ้ามาก็ดีแล้ว งั้นเจ้าอยู่คุมนางก็แล้วกัน"เขาทิ้งท้ายก่อนที่จะจากไปเพื่อสงบสติอารมณ์บางอย่างที่กำลังคุกกรุ่น... ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่ยืนสับสนอยู่ลำพัง
ดิวมองคล้อยหลังพี่ชายของเขาที่จากไป...
ตัวปัญหาได้จากไปแล้ว
เขาคิดก่อนที่จะเดินไปบริเวณตรงหน้าร่างบาง เฝ้ามองดูหญิงสาวที่จ้องไปทางประตูที่ถูกปิดไปไม่นานด้วยสายตาเลื่อนลอย... และแล้วเมื่อนางระแคะระคายว่าร่างหนาทึบของใครบางคนนั้นมายืนอยู่ข้างๆก็สะดุ้งด้วยความตกใจ ก่อนที่ร่างบางจะรีบถอยกรูดด้วยความหวาดกลัว
"เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก...ข้าไม่ใช่คนที่ชอบล่วงเกินสุภาพสตรี"ชายหนุ่มกล่าวอย่างนุ่มนวล ดิวเข้าใจในอากัปกิริยานั้นทันที... เห็นทีกิริยาเช่นนั้นคงหนีไม่พ้นความหวาดวิตกจากเหตุการณ์เมื่อครู่ที่พี่ชายของเขาก่อเอาไว้เป็นแน่..
ดิวนึกเคืองแค้นพี่ชายตัวเองพิลึก... เขาชักรู้สึกเหม็นขี้หน้าอ้นขึ้นมาตะหงิดๆ ไม่รู้ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกัน.. เขารู้สึกเหมือนอกแทบระเบิด...
เขากำลังอิจฉาตาร้อน... อิจฉาที่พี่ชายเขานั้นได้ใกล้ชิดกับนางเชอรีนเสียขนาดนี้
หนุ่มหน้าเข้มมองหน้าหญิงสาว ยิ่งคิดเขายิ่งเห็นใจนาง เพราะชายหนุ่มยังคงสามารถมองเห็นสีหน้าที่ดูไม่ค่อยจะพอใจระคนระทึกขวัญบนใบหน้านวล..
'ฮึ่ย! ไอ้คนบ้า ไอ้ผู้ชายจอมฉวยโอกาส เอ๊ย!'
เชอรีนคิดอย่างคับแค้นอุรา หลังที่เพิ่งจากเหตุการณ์ระทึกเมื่อครู่ ...อันที่จริง ถ้าหากเมื่อสักครู่นายรองกัปตันหน้าโหดนี่ไม่ได้เข้าขัดจังหวะ.. จะเกิดอะไรขึ้นกับนางก็ไม่รู้!?
หญิงสาวเลิกคิ้วเสียหนึ่งครั้งอย่างไม่แน่ใจ แต่แล้วก็ยิ้มออกมา
"งั้นหรือ? ขอบคุณนะ"
"..."รองกัปตันหนุ่มพยักหน้า เขาไม่พูดอะไรต่อ แต่ดวงตาคมเข้มยังคงจับจ้องมาที่นาง ก่อให้เกิดความรู้สึกอึดอัดแปลกๆ... ก็แหงล่ะถูกผู้ชายหน้าโหดจับตามองซะขนาดนี้...นางต้องรู้สึกหวาดวิตกบ้างเป็นธรรมดา
แล้วทำไมเขายังไม่ไปสักทีล่ะเนี่ย... ไหนๆอีตากัปตันมือปลาไหลนั่นก็ทิ้งให้นางทำความสะอาดห้องนี้แล้ว นางก็ต้องสำรวจมันเล็กๆน้อยๆหน่อยถึงจะคุ้มกัน จริงไหม?
แต่แล้วหญิงสาวก็ระลึกขึ้นได้ว่า เมื่อครู่ก่อนที่ไอ้คนบ้าจอมเผด็จการนั่นออกไป เขาได้สั่งให้น้องชายของเขาเฝ้านางไว้ด้วย...
...อีตาหมอนี่ก็คงจะมาเป็นยามเฝ้านางไม่ให้นางก่อเรื่อง
ให้ตายเถอะ! อีตากัปตันนี่ก็ขี้ระแวงเสียจริง อย่างนี้แผนของนางที่จะสำรวจห้องนี้ก็เป็นหมันน่ะเซ่!
เฮ้อ...
นางคิดแล้วถอนหายใจ ก่อนที่จะยอมยกไม้ถูพื้นขึ้นมา จุ่มลงไปในน้ำที่มีฟองฟ่อด ก่อนที่จะถูไถไปตามพื้นไม้กระดานไปสะเปะสะปะอย่างยอมแพ้
"เจ้าคงไม่เคยถูพื้น..."ชายหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่นานเอ่ยขึ้น เขาเฝ้ามองดูท่าทีของหญิงสาวอยู่นาน
"เอ้อ อื้ม...แหะๆ"นางหัวเราะแห้งๆ รู้สึกขวยเขินเล็กๆที่โดนจับได้
ก็แหงล่ะเซ่! องค์หญิงผู้แสนสุขสบายอย่างนางจะเคยซะที่ไหนกันเล่า!?
นางคิดด้วยความหงุดหงิดใจ ในใจก็นึกพาลไปโทษถึงคนที่ออกปกาศิตอีกครั้ง... หญิงสาวนึกสาปแช่งหักกระดูกชายหนุ่มด้วยความเดือดดาล
ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้ถึงคราวนางบ้างละกัน... อย่าให้นางมีโอกาสนะ นางจะไม่รอที่จะหักคอเขาแน่! คอยดูสิ! ไอ้ผู้ชายลามก โรคจิต วิปริต..
"..."
ทันใดนั้นเองในระหว่างที่เชอรีนกำลังก่นด่าสาปแช่งเจ้าของเรืออยู่นั้น จู่ๆชายหนุ่มร่างสูงผู้เป็นน้องชายก็เอื้อมมือหนาของเขามากระตุกที่ไม้ถูพื้นเบาๆ
"มา... ข้าสอนเจ้าให้เอง"ชายหนุ่มอาสา
"ต้องทำแบบนี้.."
หญิงสาวมองใบหน้าคมเข้ม...
โอ้โห ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของชายผู้นี้จะดูโหดเหี้ยมน่ากลัว แต่แท้จริงแล้วเขาดูมีจิตใจที่อารีมากกว่าที่นางคิดเสียอีก..
"นึกไม่ถึงว่ารองกัปตันอย่างท่านจะถูพื้นเป็นด้วย"หญิงสาวออกปากชม
ท่าทีของเขาทำให้นางหวนนึกไปถึงบูรณ์... เขาดูอ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรษ ผิดกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูน่าเกรงขาม
ไม่เหมือน....
ไม่เหมือน ใครบางคน หน้าตาก็ไม่ได้ดูโหดไม่ได้ดูน่ากลัวแม้แต่น้อย แต่ทำม้ายยย!? ทำไม!? อุปนิสัยมันถึงสวนทางกันขนาดนี้!?
ชายหนุ่มมองใบหน้าหวานนวลอยู่ครู่หนึ่ง... รู้ว่าเจตนานั้นไม่ได้จงใจจะดูแคลน เขายิ้มที่มุมปากครึ่งหนึ่งให้กับประโยคนั้น
"เขาเองก็ใช้งานท่านให้ทำเหมือนกันใช่ไหม?"
เขาที่นางหมายถึงคงหนีไม่พ้นกัปตันหนุ่ม
"เปล่าหรอก ใครก็ทำเป็นทั้งนั้น ถ้าหัดทำ..."ดิวว่าพลางเหลือบมองหญิงสาว.. อันที่จริงเขาก็ไม่ได้จงใจจะแขวะนางขนาดนั้นหรอก เขาเพียงแต่อยากจะหยอกนางเล่นเฉยๆ
แต่ดูเหมือนว่าหน้าตาและบุคลิกของเขาจะไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่นัก บางทีเมื่อครู่น้ำเสียงของเขาอาจจะห้วนไปหน่อย
และแล้ว...ก็เป็นดั่งที่เขาคาดเอาไว้จริงๆ ใบหน้านวลดูจ๋อยสนิทไปทันที ดูน่าขบขันยิ่งนักสำหรับเขา
"หึๆๆๆ"ว่าแล้วชายหนุ่มก็หัวเราะหึๆในลำคอ
"ขำอะไรน่ะ?"คนตัวเล็กร้อง เสียงแหลมสูงเชียว
"ไม่มีอะไร"เขากล่าวก่อนที่จะส่งไม้ถูพื้นคืนให้กับเชอรีน
"ขอบคุณนะ...เอ่อ...ท่านรองกัปตัน"นางกล่าวพลางยิ้มเล็กๆ
ทว่าเพียงคำพูดไม่กี่คำก็สามารถทำให้หัวใจของชายหนุ่มพองโตทันที...
"อันที่จริง...เรียกข้าว่าพี่ดิวเฉยๆก็ได้"เขากล่าวก่อนที่จะเกาท้ายทอยด้วยความเขินอาย เมื่อชวนให้หญิงสาวเรียกด้วยสรรพนามที่สนิทสนม
โชคยังดีนักที่หนวดเคราหรอมแหรมนั้นพอที่จะซ่อนจุดสีชมพูจางๆบนใบหน้าอันหล่อเหลาไว้ได้...
ความคิดเห็น