ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    once of life สักครั้งหนึ่งของชีวิต

    ลำดับตอนที่ #9 : trip 13 พฤติกรรม (แย่ๆ) ที่ไม่ควรกระทำเมื่ออยู่บนเครื่องบิน

    • อัปเดตล่าสุด 8 ต.ค. 53


     

    Behavior 13 (bad) that should not be done on the aircraft.
    1. ปรับระดับที่นั่งเอนลง (แบบว่า..ไม่ดูตาม้าตาเรือ)
    ทุก
    ครั้ง ก่อนเพิ่มความสะบายด้วยการปรับเบาะเอนลงนอน ควร (อย่าลืม!)
    สังเกตผู้ที่นั่งอยู่ทางด้านหลังเราก่อนว่าขณะนั้นเขากำลังทำอะไรอยู่ เช่น
    กำลังก้มเก็บของ หรือทานอาหารอยู่หรือไม่
    (โดยเฉพาะช่วงที่พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟ) จึงไม่ควรปรับเบาะลงเลยทันที
    หากเป็นไปได้ ~ อาจบอกให้คนด้านหลังทราบก่อนได้ก็ดีนะค่ะ

    2. ผายลม (ตด...!)
    อัน นี้คงห้ามได้ยาก
    เพราะไม่รู้ว่าธรรมชาติจะเรียกร้องความต้องการตอนไหนแต่ตามกฎ กติกา
    มารยาทแล้ว การผายลม หรือภาษาชาวบ้าน (ตด...!)
    นั้นเป็นสิ่งที่สมควรกระทำใน "ห้องน้ำ" เท่านั้นนะค่ะ
    เพราะฉะนั้นหากธรรมชาติเรียกร้องมาเมื่อใด ควรอดทนกั้นไว้
    และเดินไปปล่อยเบาๆข้างในห้องน้ำ


    3. ถอดถุงเท้า-รองเท้า
    หาก ไม่มั่นใจว่า "เท้า"
    สะอาดปราศจากกลิ่นอันไม่พึ่งประสงค์ แบบว่า..ใส่รองเท้าคู่เก่งแสนเก่า
    ทั้งลุยแดดลุยฝนมานาน ไม่เคยผ่านการซักล้างทำความสะอาดเลย
    ก็อย่าถอดรอง-เท้าถุงเท้าบนเครื่องบินเลยนะค่ะ
    เครื่องอาจสูญเสียการทรงตัวได้!


    4. ทานอาหารตระกะ มูมมาม เคี้ยวเสียงดัง และเรอ
    เมื่อ
    เจออาหารอร่อยๆบนเครื่องบิน จากพนักงานเสิร์ฟสวยๆอย่างแอร์
    อาจเกิดอาการเจริญอาหารขึ้นมาทันที แต่ไม่ควรเคี้ยวอาหารเสียงดัง
    ทานมูมมาม อิ่มแล้วเรอ เผลอแคะขี้ฟัน ในขณะที่คนข้างๆยังทานอยู่
    ซึ่งถือได้ว่าการกระทำเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ
    และเป็นการไม่ให้เกียรติอย่างแรง


    5. เปิดลำโพงเสียงดัง
    เราอาจ
    ผ่อนคลายตัวเองด้วยการ ดูหนัง ฟังเพลง
    เพื่อค่าเวลาขณะอยู่บนเครื่องก็ควรใช้หูฟัง
    แต่ถึงจะเสียบหูฟังก็ไม่ควรเปิดเสียงดังๆจนรบกวนคนนั่งข้าง
    แล้วอย่าเผลอแสดงอาการเหล่านี้ออกมา ซึ่งเป็นการรบกวนคนนั่งข้างๆคะ
    หากกำลังมันกับหนัง หรือเสียงเพลงเลย ผิวปาก ร้องเพลงคลอ
    หรือเคาะจังหวะตาม หรือนักกว่านั้นออกท่าทางมือไม้แสดงอารมณ์ไปด้วย
    เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ นอกจากรบกวนคนอื่นแล้ว
    ยังกลายเป็นตัวประหลาดในสายตาคนอื่นอีกด้วย


    6. ยืดแขนขาตามอำเภอใจ
    นั่ง นานๆอาจรู้สึกเมื้อย
    จนต้องยืดเส้นยืดสายกันหน่อย ถ้าทำแต่น้อยพอควร
    ไม่ไปล้ำเขตแดนไปอาณาเขตคนอื่นเค้า ก็ไม่น่าเกียจหลอกค่ะ
    แต่ถ้ามากจนเกินอาณาเขตถือเป็นการเสียมารยาท
    หากถ้ายิ่งมีกลิ่นตัวแรงด้วยแล้ว ยังยกแขนขึ้นโชว์อีกไม่ควรทำอย่างยิ่ง


    7. นอนซบไหล่คนอื่น
    อย่า เผลองีบหลับจนคอตก
    ซบลงไหล่คนนั่งข้าง ถึงแม้จะไม่ได้เจตนาแต่ก็ไม่ควรทำ
    และอย่าหลับลึกจนเกิดอาการน้ำลายไหลยืดลงไหล่เค้าโดยเด็ดขาด


    8. คุยข้ามหัวผู้โดยสารคนอื่น
    เรา
    อาจได้ที่นั่งบนเครื่องไม่ติดกันกับเพื่อนที่ไปด้วย
    แต่ต้องการเจรจาขณะนั้น อย่าลุกคุยตะโกนข้ามหัวคนอื่นที่นั่งอยู่ด้วย
    เพราะเป็นการรบกวน สร้างความรำคาญ แถมยังเสียมารยาทอย่างแรง
    ห้ามทำโดยเด็ดขาด ควรเดินเข้าไปนั่งคุยใกล้ๆ อย่างสำรวม


    9. ชวนคนอื่นคุย (ตอนไม่รู้เวร่ำเวลา)
    หาก
    ผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ กำลังนอนหลับตาหรือเสียบหูฟังอยู่
    ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายแล้วล่ะก็ ห้ามชวนคุยเป็นอันขาด
    เพราะในเวลานั้นเค้าต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่อยากคุยกับใคร


    10. ถีบหรือดันเบาะนั่งด้านหน้า
    เวลา
    อยู่บนเครื่องบินพยายามอย่าใช้เข่า หรือใช้เท้า ดัน ยัน ถีบ
    เบาะนั่งทางด้านหน้า เพราะเป็นการเสียมารยาทอย่างแรง
    ซึ่งการกระทำนี้หากเป็นผู้ใหญ่คงรู้ดี
    แต่ถ้าหากมีเด็กไปด้วยก็ต้องคอยดูแลเด็กไม่ให้แสดงการกระทำดังกล่าวนี้เช่น
    กัน


    11. ลุกเข้าห้องน้ำ หรือลุกจากที่นั่งบ่อยๆ
    หากเป็น
    คนที่ ช้ำรั่วต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆ แต่ดันได้ที่นั่งด้านใน
    จนต้องรบกวนคนนั่งข้างตลอดเวลาเพื่อต้องลุกไปเข้าห้องน้ำ
    ทางออกที่ดีจึงควรเลือกที่นั่งเบาะริม หรือขอสลับที่นั่งกับคนด้านข้าง
    เพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนผู้อื่น


    12. เอาที่วางแขนขึ้น
    ไม่ควรยกที่วางแขนซึ่งกั้น
    กลางระหว่าง 2 ที่นั่งขึ้นโดยพลการ หากไม่ได้รับการยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่ง 
    จะทำได้ก็ต่อเมื่อได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
    เพื่อไม่เป็นการรุกล้ำความเป็นส่วนตัว


    13. ออกจากที่นั่งด้วยการปีนข้ามผู้โดยสารคนอื่น
    หาก
    ต้องการลุกจากที่นั่งในขณะที่ผู้โดยสารข้างๆ กำลังนอนหลับอยู่
    อันนี้ฝรั่งเค้าไม่ถือ [ตราบใดที่มั่นใจว่าจะไม่ทำให้เค้าตื่น]
    แต่ทางที่ดีควรทำตามวิธีในข้อที่ 11 ดีกว่านะค่ะ

    แหล่งที่มา: http://www.news.com.au/travel/story/0,28318,26103057-36335,00.html


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×