ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Lion Queen ! 31 วัน ท้าพิสูจน์ดีกรีรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : Lion : Chapter III My first kiss

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 57


    3

    My first kiss!

     

                “แสดงว่าเขาก็ย้ายมาเรียนกับเราเพื่อแกโดยเฉพาะ -0-:;”

                ยัยยุงพูดขึ้นประโยคแรกหลังจากที่ฉันเล่าความเป็นมาระหว่างฉันกับอีตาแชมเปญให้เธอฟัง แน่นอนล่ะ ยัยยุงทั้งฟังทั้งอัดเสียงเลยล่ะ ฉันล่ะ ไม่เข้าใจว่าเธอจะอัดเสียงบ้า ๆ นี่ไว้ทำไมกัน ไม่รู้ว่าเพื่อนฉันยังต้องการเรียนวิศวะอยู่มั้ย !

                “แสดงว่าแกไม่ได้อยากนอนกับเขา แต่เขาอยากนอนกับแกว่างั้นเถอะฉันรู้สึกขอบคุณยัยยุงมากที่เชื่อทุกคำพูดของฉัน ถ้าเป็นคนอื่นคงจะไม่ และที่สำคัญยัยนี่ก็เลิกใช้คำว่าเซ็กซ์ทันที

                ก็คงจะเป็นอย่างนั้น -_-” ฉันยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ

                แล้วถ้าวันนั้นแกดันรักเขาขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ !” ยัยยุงท้วงขึ้นอย่างรวดเร็ว

                มันจะไม่เกิดขึ้นแน่นอนย่ะฉันมั่นใจว่ามันจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป

                “ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนนะ อย่าลืมสิ !” ยัยยุงยังคงเถียงต่ออย่างคนไม่ยอมแพ้ แล้วที่สำคัญที่สุดต่อให้ฉันจะปากจัดมากถึงมากที่สุด นังยุงก็จะเป็นฝ่ายชนะเสมอในทุกเรื่อง เพราะนางรู้ทุกเรื่อง ยกเว้นแบรนด์เนม =_=

                “สาบานได้ว่าฉันไม่มีทางหลวมตัวไปรักเขาแน่ ๆ

                “พอถึงเวลานั้น อย่ามาโวหารคร่ำครวญเชียวนะยะ

                “ฉันเนี้ยนะ โวหารคร่ำครวญ -0-*”

                “นั่นสิ อย่างแกต้องโวหารคำราม…” จู่ ๆ ยัยยุงก็เงียบไป แต่สายตาของหล่อนมองเตลิดหัวฉันไปยังฝั่งด้านหลัง เอ๊ะ ! หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่จะบ้าหรอ ไม่เห็นได้ยินอะไรเลย และยัยยุงก็พูดออกมา สุดหล่อของแกมานู้นแล้ว -0-”

                “หา ! แกหมายถึงแชมเปญหรอ

                ฉันหันไปมองอย่างไม่รอคำตอบยัยยุง และแน่นอนสิ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าฉันคือผู้คนเดินไปมา ซึ่งไม่มีวี่แววของอีตาหื่นนั่นเลยด้วยซ้ำ เอ๊ะ ๆ หรือว่าเขาหลบอยู่ กรี๊ดด ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันคงรีบเผ่น แต่ก็ที่ฉันจะคิดเป็นตุเป็นตะฉันของถามยัยยุงก่อนดีกว่า ไหนอ่ะ แก ไม่เห็นมีเลย

                ……..คำตอบที่ได้ คือ ความเงียบ

                แก หมอนั่นมันอยู่ไหนล่ะฮะ !”

                “หึ อยากรู้จริงดิเสียงยัยยุงบ่งบอกได้ชัดว่ากำลังกลั้นหัวเราะอยู่ นี่ฉันเจอมันแกล้งหรอ อ้าก ฉันหันไปหาเพื่อนตัวแสบที่กำลังหัวเราะจนหน้าแดงไปหมดแล้ว และมันยังพูดยียวนประสาทฉันอีก ก็อยู่ในหัวใจแกไง กิ้ว ๆ >.<//”

                “ยัยยุง !”

                “อ๊ะ ๆ เขินล่ะสิ หน้าแดงเชียว ^0^” ยังไม่หยุดอีก

                “ไม่ใช่ ฉันกำลังโกรธต่างหาก -_-*” ฉันเถียงตอบอย่างรวดเร็ว

                ฉันไม่มีทางหลวมตัวไปรักเขาแน่ ๆ *0*” ยัยยุงพูดพร้อมทำท่าทาง

                “….”

                “ชักจะเป็นห่วงเพื่อนสาวสิงโตที่รักแล้วสิ กลัวจะไปหลงรักหนุ่มราซสีห์

                “ยัยยุง หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ !” เอาล่ะ ฉันยอมรับว่าฉันเดือดจัดแล้วนะ L

                “ถ้าบอกว่า ไม่หยุดล่ะ -O-” ยัยยุงยังไม่หยุด แถมยังทำหน้ายียวนประสาทอีก

                ฉันยากที่จะยอมรับจริง ๆ ว่าสิงโตสาวสวยทรงเสน่ห์อย่างฉันจะแพ้ยัยยุงลายตัวแพร่เชื้อและยังเซอร์อีกต่างหาก ให้ตายสิ ! ให้มันได้อย่างนี้ สิ รู้ถึงไหน ฉายาสิงโตอย่างฉันก็หมดกันพอดีให้ตายเถอะ เฮ้อ….. เกิดฉันไม่ทำท่ายอมรับ ยัยยุงคงจะตื้อไม่เลิกแน่ ๆ ย้ำว่า ทำท่ายอมรับ ไม่ใช่ความจริงนะเฟ้ย -_-*

                “เออ ๆ ฉันยอมรับว่าหมอนั่นมันหล่อ เท่ อยู่ใกล้แอบใจสั่นนิดนึง -.,-”

                “…..” ยัยยุงเงียบ และเหมือนจะตั้งใจฟัง แต่ตากลับมองไปข้างหลังฉัน บางทียัยยุงอาจจะมองฉัน แต่ฉันดันคิดว่ายัยยุงมองไปข้างหลังแน่ ๆ

                เอ่อ….แล้วฉันก็ชอบกลิ่นตัวเขาด้วย มันก็หอมอ่อน ๆ ไม่ฉุนดี แต่ก็แค่กลิ่นน้ำหอมแหละ -3-”

                “กะ กะ แก -O-:;” เพื่อนฉันมันอะไรนักหนา พอเล่าก็ดันหน้าซีดซะงั้น -_-

                “แต่ฉันยืนยันกับแกได้เลยว่าฉันจะไม่รักหมอนั่นแน่ ๆ >O<”

                ยัยยุงไม่ตอบอะไร แต่ชี้ไปทางด้านหลังฉันแทน แถมยังชูสองนิ้วลิโพมาให้ฉันอีก และฉันก็เริ่มจะเดาทางเพื่อนฉันออก หึ ! นังยุงเอ๊ย แกคิดว่ารอบนี่ฉันจะหลงกลแกรึไงไม่มีทางแน่ ๆ

                แกคิดว่าฉันจะหลงกลแกอีกรอบหรอยะ ฝันไปเถอะ มันไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ ๆ

                “ยัยหมี่เน่า ยัยงี่เง่า โอ๊ย บอกก็ไม่เชื่อ งั้นเชิญแกไม่เชื่อต่อไปแล้วกัน ฉันไปแล้ว โชคดี !”

                อย่าบอกนะ ยัยยุงลายงอน นี่มันครั้งแรกของประวัติศาสตร์ไทยเลยนะ ที่ยัยยุงสะบัดก้นหนี โฮะ ๆ สงสัยคงต้องจารึกไว้ซะหน่อยแล้ว โฮะ ๆ

                ยัยยุงเลี้ยงแกะ โกหกไปแล้ว ถ้าโกหกอีกก็ไม่มีใครเชื่อหรอก

                “แต่ฉันเชื่อนะ

                ………เอ่อ…..มันคือเรื่องจริงอย่างที่ยัยยุงว่า……

                ฉันค่อย ๆ หันไปมองด้านหลังของฉันอย่างหวังว่าจะไม่ใช่คนที่ฉันกล่าวถึงเมื่อนาทีที่แล้วน่ะนะ เอาล่ะ ฉันหันไปเจอคนที่อยู่ด้านหลังแล้ว ใบหน้ายียวนกวนประสาท คล้ายหมอนั่นชะมัด แต่ฉันว่าฉันคงตาฝาดไปแน่ ๆ ใช่แล้ว….ฉันตาฝาดไป ไม่ใช่หมอนั่น มันต้องไม่ใช่หมอนั่นนนน TOT

                ฉันหันไปอีกที เพื่อยืนยันว่าไม่ใช่อีตาแชมเปญหล่อลากพรากเว่อร์จิ้นนั่นน่ะนะ พอเห็นผลลัพธ์ฉันก็รีบหันหน้าหนีทันที เพราะสิ่งที่เห็นก็ได้ยืนยันแล้วว่ามันเป็นเขาจริง ๆ แง ๆ อีตาแชมเปญต้องมาพรากเว่อร์จิ้นฉันแน่เลย T0T

                และเขาก็คร่อมจากข้างหลัง….คือสภาพตอนนี้ คือฉันนั่งหันหลังให้เขา โดยมีเขาที่คร่อมอยู่ข้างหลัง เหมือนคร่อมโต๊ะ แต่มันไม่ใช่ T_T เอาล่ะ ๆ บะหมี่ใจเย็น ๆ

                “โปรดให้เกียรติ์กันบ้างนะ เอาตัวนายออกไปห่าง ๆ ฉันหน่อย -*-”

                “หือเมื่อกี้เธอยังบอกว่าชอบกลิ่นตัวฉันอยู่เลย หึ ! ใกล้ ๆ อย่างนี้ไม่ดีรึไง ^^”

                มันจะไปดียังไง ระยะประชิดอย่างนี้ มันผิดวัฒนธรรมไทยอย่างรุนแรง และมันก็รุนแรงขึ้นเมื่อนายชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ฉันเนี้ย ปัดโธ่เอ๊ย ระยะปลอดภัยเหลือไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์

                นี่นาย ช่วยเอาหน้านายออกไปไกล ๆ ด้วยได้ป่ะ -0-*”

                “เธอบอกว่าหล่อ เท่ ไม่อยากดูใกล้ ๆ หรอ เผื่อเธอจะได้แพ้ไว ๆ ไงที่รัก

                “ฝันอยู่รึไง ฉันไม่ยอมแพ้นายหรอก แชมเปญ !”

                ทันทีที่ฉันกล่าวคำประกาศิต ฉันหันไปผลักเค้าเต็มแรง แน่นอนถ้าปกติแล้ว ฉันจะผลักเขาไม่ออกด้วยซ้ำ แต่นี่เขาไม่ฝืนแรงผลักฉันเลยด้วยซ้ำไป นี่มันผิดปกติรึเปล่า ไหน ๆ เขาก็เปิดทางออกให้อยู่แล้ว ฉันจะรอช้าทำไมกัน !

                ฉันลุกออกจากม้านั่งอย่างรวดเร็ว หนี หนี หนี หนีอีตาบ้ากาม ขณะที่ขาของฉันกำลังทำงานตามที่สมองสั่ง ก็ถูกหยุดการทำงานนั้นทันที เมื่อข้อมือของฉันถูกดึงไว้ด้วยมือของคนที่คุณรู้ว่าใคร  เอ่อหมายถึงพระเอกเรื่องนี้นะ  

                “มีอะไรอีกไม่ทราบ -_-+” ฉันถามด้วยน้ำเสียงพยายามนิ่งบวกแววตาแข็ง ๆ

                มีสิ เยอะด้วย ^_^”

                ยังไม่ทันที่ฉันจะตั้งตัว เขาก็ดึงตัวฉันไปอยู่ในอ้อมกอดเขาแล้ว แถมหน้ายังห่างกันไม่กี่เซนต์ อ้ากก ไม่นะ ฉันเหล่ตามองไปรอบ ๆ หวังว่าจะไม่มีใครเห็นภาพนี้ แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะตอนนี้ทุกคนกำลังให้ความสนใจกันอย่างคึกคักราวกับดูสัตว์โลกผู้น่ารักกำลังจะสืบพันธุ์เพื่อผลิตทายาทไว้คลองบัลลังก์ โธ่ ! หมดกันภาพพจน์กุลสตรีไทยของฉัน TT__TT

                …..เอ๊ะ แต่เราแก้สถานการณ์ แค่บอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แอร๊ยยย ทำไมฉันฉลาดอย่างเน้ >O< !

                “นี่ปล่อยนะ นายไม่เห็นหรอคนอื่นกำลังมองที่เราอยู่น่ะฉันพยายามพูดเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้

                เห็นสิ Jเห็นแล้วยังจะมายิ้มยียวนกวนประสาทอยู่ได้

                เห็นแล้วก็ปล่อยสิ -0-*”

                “ฉันไม่ได้ติดหนี้เธอซะหน่อยอะไรของอีตาบ้านี่เนี้ย และเขาก็ตะโกนขึ้นว่า…..ไม่ต้องสนใจหรอกครับ พอดีว่าวันนี้วันวาเลนไทน์ ผมกับแฟนก็แค่จะพลอดรักกันแค่นั้นเองครับ J

                “ไอ้แชมเปญญญ นี่นายจะ….อุ๊บส์ !”

                ความรู้สึกอุ่น ๆ จากริมฝีปากของใครคนนั้นมันถูกทาบบนริมฝีปากของฉัน ใช่ ! มันไม่ได้ดูดดื่มลึกซึ้ง แต่มันก็ประกบกัน อ้ากกกกกก ฉันจะถอนขนหัวแกให้หมดเลย อีตาแชมเปญญญญ !!!

                “นี่นายทำบ้าอะไรน่ะ นายบังอาจมากที่มาจูบปากฉัน ไอ้หื่น ไอ้บ้ากาม ไอ้ตัณหาจัด ขอให้นายได้เมียกะเทย ไม่งั้นก็ถูกตัดงวง ขอให้….ให้ ให้อะไรไม่รู้แล้วเว้ย !!!”

                “หมดรึยังน่ะ -_-+”

                “ยัง ฉันขอคิดก่อนได้ป๊ะ !?

                “งั้นฉันก็ขอจูบก่อนเหมือนกัน ^^”

                “หาาาา….อุ๊บส์ !!!”

                ริมฝีปากของเขาประกบกับริมฝีปากฉันทันที แต่รอบนี้มันต่างจากรอบแรก เพราะฉันรู้สึกว่ากำลังจะถูกบีบบังคับ และราวกับว่าเขากำลังพยายามจะดูดดื่ม แต่ฝันไปเถอะ !

                อ่อยอั๊นอ้ะ ! (ปล่อยฉันนะ)

                และบะหมี่คนนี้ก็ทำพลาดไปแล้ว ที่เผลออ้าปากอย่างพยายามพูด เพราะอีตาแชมเปญได้ละลาบละล้วงและจ้วงเข้าไปสัมผัสลิ้นฉันแล้ว อ้ากกก พระเจ้า ช่วยหมี่ด้วย หมี่ยังไม่อยากเจอมันปล้ำกลางมหาลัย TT0TT

                ฉันพยายามจะผลักร่างเขาออก แต่ก็ไม่ได้ผลเลยสักนิด ราวกับว่าฉันถูกโอบกอดร่างโดยรูปปั้นหิน ทั้ง ๆ ที่มันเป็นอีตาหื่น ฉันเลยละความพยายามจากผลักตัวมาผลักหน้าแทน แต่ราวกับว่าอีตาบ้านี่จะรู้ดี เลยใช้มือข้างหนึ่งมารวบข้อมือทั้งสองข้างของฉันมาไว้ตรงหน้าอกของเขา ส่วนอีกข้างก็ใช้รัดตัวฉันให้แน่น โอ๊ยย ฉันจะไม่ด่านางเอกในละครตอนเจอพระเอกขืนใจแล้ว T.T

                และแล้วความดูดดื่มของรสชาติจูบที่เขายัดเยียดให้โดยที่ฉันไม่ได้เต็มใจก็เริ่มที่จะหลอมละลาย เผาผลาญ ราวกับว่าเขาสูบพลังงานทั้งหมดของฉันไป เพราะตอนนี้แข้งขาฉันเริ่มอ่อนกำลังและจะทรุดลงกับพื้น แต่เขาก็พยุงฉันไว้ นี่ฉันควรจะขอบคุณเขาดีมั้ย แต่ที่แย่ไปกว่านั้น คือ สมองฉันเริ่มจะเบลอราวกับว่าขาดออกซิเจนมาเป็นเวลานานแสนนาน และเริ่มต้องการเครื่องช่วยหายใจ

                ฉันใช้แรงที่เหลืออยู่ ทุบหน้าอกเขาเบา ๆ เพื่อให้สัญญาณว่า ตูจะตายแล้ว อะไรเถือก ๆ นี้ และดูเหมือนเขาจะรู้ดี จึงค่อย ๆ ถอนจูบอย่างอ้อยอิ่งโดยไม่คำนึงเลยด้วยซ้ำว่าฉันกำลังจะตาย รีบถอนจูบให้มันเร็ว ๆ หน่อยก็ไม่ได้ยังจะมาอ้อยอิ่งอีก =_=

                “ไหวรึเปล่า ?เขาถามฉันในขณะที่เขาพยายามพยุงร่างฉันไว้

                ไหวหรือไม่ไหวก็เรื่องของฉัน !!!”

                ฉันผลักหน้าอกเขาออกจากตัวฉันอย่างแรง และผลลัพธ์ที่ฉันได้คือลงไปกองกับพื้นนั่นเอง ไม่รู้ว่าฉันจะทำร้ายตัวเองไปถึงไหน ในขณะที่อีตาบ้ากามก็ยื่นมือมาคล้ายกับว่าจะมาช่วยดึงฉันขึ้น แต่ฝันไปเถอะ ว่าฉันจะรับความหวังดีนั้นน่ะ นายทำลายภาพพจน์กุลสตรีไทยฉันจนปนปี้ไปแล้ว TOT

                ฉันปัดมือเขา ก่อนจะยันตัวขึ้นมาเผชิญหน้า เขามองฉันด้วยนัยน์ตาที่ส่อแววเสน่หา (เธอคิดไปเองรึเปล่า : Mon Chou) กับริมฝีปากที่คลี่ยิ้มอย่างละไม นายนี่มัน….หน้าด้านจริง ๆ นี่ไม่กังวลกับเรื่องที่จะเกิดเลยใช่มั้ย ถ้าพรุ่งนี้ เรื่องในวันนี้ เกิดขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัย U ฉันจะเอาหน้าไว้ที่ไหนกันนน อาเมนนน !

                เธอนี่มันอ่อนหัดจริง ๆ จูบไม่ได้เรื่องเล้ย ^0^” แชมเปญพูดขึ้น และสาวเท้ามาใกล้ฉันเรื่อย ๆ

                ไม่ได้อ่อนและไม่ได้จูบไม่ได้เรื่อง แค่ฉันไม่จูบกับนาย =[]=*”

                “ไม่เอาน่ะ ที่รัก อย่าพูดอย่างนี้สิผมเสียใจนะ :)เสียใจบ้านพ่องงงง ! รอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขมันฟ้องอยู่ชัด ๆ

                 โคตรจะเสียใจเลยนะ คนที่เสียใจมันเป็นฉันต่างหาก ที่จูบแรกดันไปเสียให้กับผู้ชายหน้าตัวเมีย หวังเอาแต่ได้ นายมันเสื่อม ทำให้ประเทศชาติเสียหาย อ่ออีกอย่างนะ นายคงไม่ต้องรุงต้องเรียนแล้ว มหาลัยน่ะ ฉันแนะนำให้นายไปขายบริการทางเพศเลย นอกจากจะได้ฟาดสาว ฟาดกระเทย ยังได้เงินอีกต่างหาก -0-::”

                “หรอ -_-” อ้ากกก นี่ไม่ใช่ด้านแระ มันอมตะ =[]=*

                 นี่นายแชมเปญบ้า ! ช่วยโต้ตอบมาบ้าง ไม่ใช่สาวเท้ามาใกล้ฉันอย่างนี้ และระยะห่างนี้มันก็อันตรายมากสำหรับฉันแล้วนะ ฉันค่อย ๆ ก้าวหนีเขา ในขณะที่เขาเองก็ก้าวเข้ามาเรื่อย ๆ ฉันกวาดสายตาไปมองรอบ ๆ หวังจะพึ่งพาอาศัยใครสักคนให้ช่วย แต่ก็ได้แค่หวัง เพราะผู้คนเหล่านั้นทำหน้าอย่างกับจะดูหนังสดอะไรอย่างนั้นแหน่ะ T^T

                …..และในที่สุดฉันก็เดินทางมาถึงจุดจบของเว่อร์จิ้น เมื่อแผ่นหลังของฉันได้ไปชนกับต้นไม้ TT0TT

                “นายจะทำอะไรน่ะ ?!” ฉันถามด้วยน้ำเสียงพยายามนิ่ง ก็ใครจะไม่กลัวเล่า T^T

                “ฉันไม่เคยให้ใครมาต่อว่าฉันฟรี ๆ หรอกนะ

                ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ถามปัญหาอะไรเอ่ยกับเขา เขาก็โน้มตัวลงมาจูบฉันซะแล้ว ฮือออ นี่มันจูบรอบที่เท่าไหร่ต่อวันฟะเนี้ย และความรู้สึกก็ต่างไปจากจูบสองจูบแรกมาก เนื่องจากฉันรู้สึกถึงความรุนแรงและเร่าร้อนเกินไปกว่าคนอย่างฉันจะต้านทาน ฉันพยายามผลักและเม้มปากเพื่อหลีกเลี่ยงจูบนั้น แต่มันก็ไม่ได้ผล

                เขาพยายามปลดริมฝีปากฉันออกและบดขยี้มันราวกับโกรธแค้นอะไรฉันตั้งแต่ชาติปางก่อน ท้ายที่สุดฉันก็ต้องยอมจำนนให้แก่ผู้ชายตัณหาจัดอย่างเขา ความรุนแรง เร่าร้อน และดูดดื่ม มันแทบจะเผาร่างของฉันให้มอดไหม้ ความรู้สึกที่เขาถ่ายทอดมาทางรสจูบนั้น มันอาจจะทำให้บรรดาสาว ๆ ทั้งหลายหลงใหลและเคลิบเคลิ้ม แต่มันไม่ใช่กับผู้หญิงอย่างฉันที่รู้สึกเกลียดความรู้สึกนี้เหลือเกิน อยากจะถอนจูบนี้ให้เร็วที่สุด….

                …ราวกับว่าเขาอ่านความคิดของฉันได้ เขาจึงรีบถอนจูบ แล้วมองฉันด้วยแววตาและสีหน้าที่จริงจัง

                จำไว้ เห็นอย่างนี้ฉันก็เลือกแชมเปญพูดจบก็ผละตัวออกจากฉัน ก่อนจะเดินจากไป

                .......ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก ตึก ตัก ตัก !!!!

                แต่ในขณะเดียวกัน หัวใจของฉันกลับเต้นรัวอย่างไร้วี่แววว่าจะนิ่งสงบ หน้าร้อนผ่าวอย่างกลับถูกไฟลวก รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ คล้ายจะเป็นไข้ กรี๊ด อีตาบ้านั่นทำอะไรกับร่างกายฉันกันเนี้ย เขาต้องเอาอะไรบางอย่างใส่ลงในร่างกายฉันตอนที่เราจูบกันแน่ ๆ …..ไม่สิ ๆ ฉันไม่ได้จูบเขา เขาต่างหากที่มาจูบฉัน เอ๊ะ เมื่อกี้จูบกันนานแค่ไหนกัน อ้ากก ต่อหน้าผู้คนนับร้อย ถึงร้อยป่ะเนี่ย ฉันว่าน่าจะถึงนะ เอ่อ….ฉันพล่ามถึงไหนแระนะ อ๋อ ใช่ ๆ แล้วก็จูบกันในที่สาธารณะอย่างในมหาวิทยาลัยตรงใต้ต้นไม้ อ้ากก นี่ฉันจูบกับเขาในที่สาธารณะ T/////T

                ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ขยับเขยื้อนฝีเท้าออกจากใต้ต้นไม้ นายแชมเปญก็เดินย้อนกลับมาแล้ว แต่ในขณะเดียวกันยัยยุงที่ไปอยู่มุมไหนของโลกก็รีบสาวเท้ามาหาฉันทันที โอ๊ย ฉันอยากจะด่าเพื่อนฉันที่ไม่มาตั้งแต่แรก และฉันอยากจะอัดหน้าอีตาแชมเปญที่บังอาจมาละลาบละล้วงปากของฉัน

                ฉันไม่ใช้น้ำหอมนะฮะ ! นายปัญญาอ่อนรึเปล่า เดินกลับมาเพื่อบอกเรื่องแค่นี้ -_-*

                “เขากำลังจะบอกว่ากลิ่นตัวของเขาที่แกว่าใช้น้ำหอมอ่ะ ความจริงเขาไม่ได้ใช้น้ำหอม นั่นกลิ่นตัวเขาจริง ๆเอ๊ะ ยัยยุงนี่ยังไงกัน มายืนข้าง ๆ ฉันเพื่อมาตีความให้ฉันหรอกหรอ โด่ ! นี่ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะ

                ฉันรู้แล้วน่ะ !!” ฉันหันไปตะคอกใส่ยัยยุงอย่างไม่รู้จะไประบายใส่ใคร =.,=

                “อีกอย่าง ฉันชอบกลิ่นตัวเธอนะ ^__^” แชมเปญ

                “โอ๊ะ O.,O” ยุงลาย

                “O[]O” ฉันอึ้ง

                ….และเขาก็เดินจากไปในที่สุด โดยที่ฉันไม่ลืมที่จะหันไปบ่นยัยยุงทันที โฮกก หวังว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มีคอลัมน์ข่าวนี้นะ ฉันยิ่งเป็นตัวแทนวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยอยู่ ตายอย่างสิงโตถูกถกขนแน่ ๆ เลย T0T


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×