คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Lion : Chapter II ปรากฏตัว...ราชสีห์ !!
2
ปรากฏตัว...ราชสีห์ !!
7: 21 A.M.
ฉันลืมตาขึ้นมามองดูเช้าวันใหม่ หลังจากที่เมื่อคืนฉันได้วางแผนและเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อันตรายและเสี่ยงต่อการเสียเวอร์จิ้นทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ยกเว้นสถานการณ์นี้ที่แสนจะเลวร้ายเมื่อตารางเรียนวันนี้ได้บ่งบอกกับฉันว่า วิชาแรกจะเริ่มขึ้นแปดโมงครึ่ง !!
ทันทีที่ฉันตั้งหลักได้ ฉันก็ลุกขึ้นจากเตียงนอนอันเสนนุ่ม และเตรียมตัวเข้าห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันที่บะหมี่ สิงโตสาวจะได้ก้าวเข้าไปในห้องน้ำ เสียงเมสเสจจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
‘1 new message’
ใครกันนะ ส่งมาแต่เช้าขนาดนี้ หรือว่าจะเป็นพ่อกับแม่ ไม่น่าจะส่งมากวนฉันแต่เช้าเลยนะ ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่จะไปทำงานอเมริกาก็เหอะ ถ้าเป็นธุระสำคัญส่งไปหามาม่าก็ได้จะได้นี่
ฉันสัมผัสหน้าจอโทรศัพท์ เพื่อเปิดดูว่าหนึ่งเมสเสจที่ว่านั่นมาจากใครกันแน่ พ่อหรือว่าแม่กัน จะได้ลงโทษที่ส่งมาแต่เช้าโดยการสั่งซื้อเสื้อผ้าสักตัว โฮะ ๆ
‘Unknown’
เดาผิดซะแล้วสิ ! ว่าแต่จะเป็นใครกัน ??? ฉันสัมผัสที่หน้าจออีกที
‘ตื่นได้แล้วนะครับ บะหมี่ที่รัก เดี๋ยวไปมหาลัยสายนะ
จาก สุดที่รักของเธอ’
ถึงฉันจะหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราก็เฮอะนะ แต่ถ้าข้อความอย่างนี้ก็ไม่ต้องเดาให้ลำบากเลย หมอนั่นคือ อีตาหื่น ชัวร์ป๊าบ ๆ แหง ๆ ฉันกล้าพนันเลย ฮึ่ย ! กวนประสาทแต่เช้า
….แต่เอ๊ะ ! หมอนั่นรู้ได้ไงว่าฉันมีเรียนน่ะ =[]=!!
@ U University [8: 12 A.M.]
ฉันชักสงสัยจริง ๆ แล้วนะ ว่าฉายาฉันคือสิงโตหรือลิง รู้สึกว่าฉันจะทำภารกิจช่วงเช้าเสร็จเร็วมาก นี่ฉันเปล่าสกปรกนะ แค่เฉพาะวันเร่งด่วนน่ะนะ -_-+
เฮ้ ว่าแต่นั่นมัน…แลตตี้ น้องฉันนี่นา เฮ้ย ๆ ทำไมน้องฉันคล้ายคนบ้าอย่างนี้ เดินไปยิ้มไป บิดซ้ายแล้วก็บิดขวา ก็อย่างว่าแหละนะ วันนี้มันวันวาเลนไทน์นี่นา น้องฉันก็กำลังมีความรักอันสดใส ส่วนฉันก็ต้องลุ้นต่อไปว่าจะได้เจอกับ ‘เขา’ คนนั้นอีกหรือเปล่า เฮ้อ…คิดบ้าอะไรเนี้ย เสียเวลาชะมัด รีบเข้าเรียนดีกว่า เดี๋ยวอาจารย์ประไพร จะด่าเอาว่าบ้านไม่มีนาฬิกา -0-
“แปดโมงครึ่ง ตรงเวลาเหมือนเดิมเลยนะแก ยัยหมี่เน่า” สาวผมดำมัดหางม้ายกสูงอย่างลวก ๆ ที่สวมแว่นตาอันเทอะทะและแต่งตัวแนวประหลาดๆ ทักฉันขึ้น
“มามหาลัยนะจ้ะ ไม่ใช่โรงพยาบาลบ้า คุณพาหะนำเชื้อโรค”
“น้อย ๆ หน่อย ฉันแค่ชื่อยุงเองนะเว้ย -0-”
“งันก็ตรัสรู้ไว้ด้วยเหมือนกันว่าฉันชื่อบะหมี่ ไม่ใช่หมี่เน่า”
ขอแนะนำสั้น ๆ ยุง เพื่อนสาวที่ฉันสนิทที่สุดในห้อง ตั้งแต่เรียนมหาลัยมา หล่อนคนนี้มักจะรอบรู้ข่าวสารนู่นนี่นั่นมากมาย ยกเว้นข่าวสินค้าแบรนด์เนม หล่อนคนนี้จัดได้ว่าเป็นผู้หญิงสวย ถ้าหล่อนไม่แต่งตัวบ้า ๆ และทำหน้าตาน่ากลัวใส่ใครอ่ะนะ เอาเป็นว่าจบเรื่องของยุง !
“ทุกคนเงียบ !” ยัยยุงตะโกนพร้อมส่งสายตาอำมหิตที่อยู่ใต้กระจกแว่นใส่เพื่อน ๆ ในห้อง และแน่นอนเพื่อน ๆ ในห้องต่างก็พากันเงียบกริบ ยกเว้นฉัน
“อะไรกัน เลยมาตั้งห้านาที อาจารย์ประไพรยังไม่โผล่มาอีกหรอ” ฉันโวยวายเมื่อเข้ามาถึงยังไม่เจอหน้าอาจารย์ประไพรสักที
“ก็ฉันจะประกาศอยู่นี่ไง” ยุงหันมาพูดกับฉัน ก่อนจะเดินไปหนาห้อง และพูดขึ้นต่อ “อาจารย์ฝากมาบอกว่า วันนี้อาจารย์เข้าช้าสามสิบนาทีหรืออาจจะมากกว่านั้น เพราะฉะนั้น วันนี้เราอาจจะได้เรียนถึงบ่าย โอเค๊ ?”
“ว่าแต่อาจารย์ไปทำอะไร” เพื่อนในห้องถามยัยยุง ซึ่งเพื่อนฉันมักตอบได้เสมอ
“อาจารย์กำลังไปทำการรับรองเด็กที่จะย้ายจากหลักสูตรอินเตอร์มาเรียนภาครัฐปกติเหมือนเรา และฉันก็รู้ด้วยว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร ?”
“….” เพื่อน ๆ ในห้องและฉันพากันเงียบกริบเพื่อรอฟัง
“เป็นผู้ชาย ที่มีความประสงค์จะย้ายมาเรียนภาครัฐปกติเพราะเขาจะมาปฏิบัติภารกิจบางอย่างน่ะนะ ถ้าฉันได้ยินมาไม่ผิด”
“ภารกิจอะไรกัน” นักเรียนชายในห้องถามขึ้น ซึ่งฉันในตอนนี้ได้แต่หัวใจเต้นแรงด้วยความลุ้นจัด
“ภารกิจนอนกับผู้หญิงในห้องเราล่ะมั้ง ฉันก็ไม่รู้จะมองเขาในแง่ไหนดี ก็ช่วยไม่ได้นี่ หมอนั่นน่ะ ขึ้นชื่อเรื่องผู้หญิงที่สุดในมหาลัยเลยนี่นา หรืออาจจะที่สุดของประเทศก็ได้เลยล่ะมั้ง”
“กรี๊ดดดด แชมเปญแน่ ๆ อ๊าย ๆๆๆ >///<” เพื่อน ๆ ผู้หญิงในห้องพร้อมส่งเสียงดีใจสุดขีด แต่…
“ฮะ ! ไอ้นั่นอีกแล้วหรอวะ !! =[]=” เพื่อนชายทั้งหลายต่างทำท่าทีเกลียด และแค้นมาก -0-
“โธ่ พวกนายจะอะไรนักหนากับแชมเปญยะ!” ฝ่ายหญิงพูดขึ้น
“ ไอ้หมอนั่นแย่งแฟนฉันนะเว้ย! หรือผู้หญิงเป็นอย่างนี้กันหมด ชอบให้ไอ้ม่อนั่นฟันฟรี ทำไมก็แค่มันหล่อ เท่ รวย ดัง มีเสน่ห์ ประสบการณ์เยอะ และชั่วงั้นหรอ” เอ่อ…มีข้อเสียแค่จุดเดียวหรอเนี้ย
“จะบอกอะไรให้นะ ฉันยอมให้เขาฟันฟรีแถมบ้านสิบหลังเลยล่ะย่ะ”
และทันทีที่ฝ่ายหญิงต่อขึ้น ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อฝ่ายหญิงมาทะเลาะกันเอง เพราะแต่ละคนก็ต่างพากันอยากได้ ผู้ชายที่กล่าวถึงกันทั้งนั้น ส่วนฝ่ายชายเองก็พากันนั่งปรับทุกข์กันที่น่าจะเป็นเรื่องการถูกแย่งคนรักโดย ผู้ชายที่ถูกกล่าวถึง และยัยยุงเพื่อนฉัน ก็เดินออกมาจากหน้าห้องและลากฉันออกไปจากห้องอันแสนวุ่นวาย นาทีแรกที่ออกมาจากห้อง ฉันก็อ้าปากถามแม่นางยุงทันที
“นี่แก ใครนะที่แกบอกอ่ะ –[]-” แน่นอน ฉันรู้แต่ฉันไม่แน่ใจ ??
“นี่แกไม่รู้จักเขาหรอ แชมเปญอ่ะ ที่หล่อ ๆ เท่ ๆ ขาว ๆ ที่เขามีข่าวลือบ่อย ๆ ว่ามีเซ็กซ์กับผู้หญิงได้ทุกที่ทุกเวลาอ่ะ !”
แชมเปญ ! แชมเปญ !! ชื่อนี้มันคุ้นหูชะมัด ฉันไปได้ยินชื่อผู้ชายเฮงซวยแบบนี้ที่ไหนกันนะ นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ที่ฉันนึกออกก็มีแต่แชมเปี้ยน ว่าแต่ในโลกนี้มีคนที่หื่นกว่านายแชมเปี้ยนอีกหรอ นี่ฉันชักสงสัยแล้วนะ ผู้ชายในโลกนี้นอกจากจะเป็นเกย์ เป็นตุ๊ด ก็เหลือแต่พวกหื่นๆ หรอเนี้ย แล้วไอ้ผู้ชายดี ๆหายไปไหนหมดกัน นี่ถ้าฉันไม่รู้จัก ‘เขา’ คนนั้นนะ ฉันคงจะคิดว่าผู้ชายดี ๆ ไม่มีในโลกแน่ ๆ เอ๊ะ ว่าแต่ไอ้บ้ากามที่ยัยยุงพูดถึงจะหล่อแค่ไหนกันเชียว
“ยัยยุง แกมีรูปหมอนั่นป่ะ ?” ฉันหันไปหายัยยุง ที่กำลังนั่งจิ้มไอเพดอยู่
“ทำไมอ่ะ แกอยากเซ็กซ์กับหมอนั่นหรอ !”
“จะบ้าหรอ -0-!”
“ถ้าแกไม่อยากเซ็กซ์กับเขาก็ไม่ต้องขอดูรูปก็ได้ ยังไงหมอนั่นก็ต้องโผล่มาเรียนอยู่ดี -_-”
โธ่ ! ยัยยุงบ้าเอ๊ย ขอดูหน่อยก็ไม่ได้ เชอะชิชะ ! เอาไว้เห็นหน้าก่อนแล้วกันเถอะ จะได้ประณามไปเลย ไอ้พวกคนแบบนี้ต้องเจอฝีปากคนอย่างฉันด่าจะได้เข็ดเลย โฮะ ๆ
9: 42 A.M.
“โทษทีนะจ้ะ นักเรียนที่วันนี้อาจารย์มาช้านิดหน่อยน่ะ เพราะวันนี้อาจารย์ไปทำธุระเรื่องรับรองเด็กนิดนึง อาจารย์เดาว่านักเรียนคงจะรู้จักเขาแล้ว แต่อาจารย์ก็ขอแนะนำอย่างเป็นทางการอีกทีแล้วกัน”
พออาจารย์ว่าจบ นักเรียนใหม่ของห้องเราก็เดินเขามาทันที เหล่าหนุ่ม ๆ ต่างพากันมองอย่างเซ็ง ๆ ในขณะที่เหล่าสาว ๆ ต่างพากันกรี๊ดกร๊าด ยกเว้นยัยยุงที่นั่งกัดตูดปากกาและมองเขาอย่างพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า และฉันที่กำลังตะลึงจนแทบจะช็อคไม่ใช่เพราะเขาหล่อ แต่เพราะเขาคือ….
“นี่คือแชมเปญ รังสิมันต์ เดอลองก์ ปิเย่”
อีตาหื่นกามมมม ! กรี๊ดดด นี่ฉันลืมไปได้ไงว่าหมอนั่นมันชื่อแชมเปญ โฮกก วิญญาณฉันแทบจะหลุดออกจากร่าง ฉันไม่ได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์แบบนี้เลยนะ ฉันไม่คาดคิดว่าหมอนี่จะมาเรียนกับฉันที่นี่น่ะ โอ พระสงฆ์ นี่ฉันจะขอบคุณท่านดี หรือจะด่าท่านดีล่ะเนี้ย !
“เขาหล่อจริง ๆ ไม่งั้นเธอคงไม่เบิกตากว้างและอ้าปากค้างอย่างนี้หรอกใช่มั้ย -0-”
ทันทีที่ยัยยุงทักขึ้น ฉันรีบหุบปากและนั่งสงบทันที โธ่ ! นี่มันต้องเป็นกรรมแน่ ๆ เลยที่ฉันดันไปทำผิดศีลข้อสี่ ดื่มสุราและของมึนเมา แง ๆ ความผิดยัยมาม่าที่ชวนฉันเข้าผับ T^T!
“มอร์นิ่งครับ มายเลดี้ ^^” จู่ ๆ อีตาแชมเปญก็เดินมานั่งข้าง ๆ แถมทักฉันแบบ...!
“โอ๊ะ โอ O.O” และยัยยุงที่นั่งอยู่ข้างฉันอีกฝั่งก็ได้ยินด้วย
จะโทษฟ้าโทษดินโทษน้ำ ใครส่งอีตานี่มา มาแบบปกติก็ไม่ได้ ดันมาแบบเล่นของแถมซะด้วย ของแถมที่ว่าคือผู้หญิงในห้องต่างส่งสายตาหมั่นไส้มาทางฉัน กรี๊ด ฉันจะแปลงร่างแล้วนะ !
“นี่พวกเธอ พ่อแม่เสียเงินเพื่อให้พวกเธอมาเรียนนะ ไม่ใช่มาทำตัวเสื่อม ๆ อย่างนี้ มองหน้าฉันอย่างนี้อยากมีเรื่องหรือไง หันกลับไปมองหน้าห้องเรียนเลยไป ถ้าพวกเธอไม่อยากสอบตกกันน่ะ !”
“เจ๊บะหมี่ของเรา ฮิ้ว ๆๆ” เพื่อนชายในห้องพูดขึ้นพร้อมปรบมือเสียงดัง จนอาจารย์หันมามอง
นี่แหละ ร่างแท้จริงของฉัน ฉันไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ที่จะปล่อยให้ธาตุแท้ของฉันออกมาโชว์โลก เพราะมันไม่ค่อยดูดีสักเท่าไหร่ แถมมันจะทำให้เราเดือดร้อนด้วย เพราะแทนที่ฉันจะได้เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่ฉันดันได้เป็นถึงกับสิงโตสาวคำรามสายฟ้าแลบ ซึ่งนั่นมันไม่ใช่ฉันแน่ ๆ ผู้หญิงอย่างฉันน่าจะได้ฉายาเป็นกวาง เป็นกระต่าย เป็นแมว เป็นหงส์ เป็นนกพิราบ เป็นอะไรก็ได้ที่มันไม่ดุร้าย =0= !
“เอาล่ะ วันนี้ครูไม่อยากให้นักเรียนเครียดมากหรอก เพราะเป็นวันวาเลนไทน์ อืม เอางี้ ครูจะตั้งคำถามเด็กๆ ให้พวกเธอแล้วกัน เริ่มจากบะหมี่ ครูต้องพูดชื่อจริงกับนามสกุลเธอด้วยหรือเปล่าจ้ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
ฉันตอบอย่างใม่ลังเลเลยสักนิด บังเอิญว่าฉันดันไม่ค่อยปลื้มกับชื่อจริงและนามสกุลของฉันสักเท่าไหร่ เพราะฉันชื่อนางสาวพจีรจิต ไพริณรัตนวัชระญาณสินอนุกูล ชื่อฉันมันแปลว่าคำพูดที่เรียบร้อยถ้อยคำ ส่วนนามสกุลมันก็ย้าว ยาว =_=+
“เธอคิดว่าเธอเหมือนสัตว์อะไรที่สุดจ้ะ” ฉันยังเรียนคณะวิศวะใช่มั้ย -0-:;
“ฉันคิดว่าฉันเหมือนหนูแฮมสเตอร์ เพราะมันตัวเล็ก แต่คนอื่นมองว่าฉันเหมือนสิงโต ฉันเลยต้องจำใจเป็นสิงโตค่ะ U.U”
“แน่นอน เธอไม่เหมือนหนูแฮมสเตอร์หรอก ถึงเธอจะตัวเล็ก แต่แฮมสเตอร์อ่ะนะ ไม่คำรามกึกก้องหรอก” นี่อาจารย์ด่าหรือชมฉันเนี้ย T0T “ว่าแต่หนุ่มหล่อแชมเปญล่ะ คุณคิดว่าคุณเหมือนอะไร ?”
“ราชสีห์ครับ เพราะราชสีห์เป็นพ่อ สิงโตเป็นแม่ไงครับ J” อึ้ง !
“โอ้โห ถือเป็นการบอกรักอีกแบบ ว่าแต่พวกเธอคบกันนานแค่ไหนแล้ว”
กรรมเวรของแท้เลย อาจารย์เข้าใจมั่วเฉยเลย และฉันว่าอีตาหื่นนั่นก็ไม่เหมือนราชสีห์เลยสักนิด เหมือนสัตว์นรกมากกว่า ฉันหันไปมองเพื่อนรอบ ๆ ที่กำลังจ้องมองฉันกับอีตาบ้ากามนี่ ไม่เว้นแม้แต่ยัยยุงที่ยักคิ้วท้าฉันให้ตอบ
“คือว่า...เราไม่ได้คบกันนะคะ อาจารย์ !” ฉันปฏิเสธทันที
“หึ หึ” แชมเปญส่งเสียงออกมา
“อะไรของนาย เงียบไว้ก็มีคนมองแล้ว จะส่งเสียงเรียกร้องความสนใจไปทำไม !”
“เปล่าซะหน่อย ฉันแค่สงสัยเธอจะปฏิเสธทำไม ทั้ง ๆ ที่เราก็กำลังคบหาดูใจกันอยู่ หรือเธอกำลังกลัวว่าบรรดาแฟนคลับฉันจะรุมทำร้ายร่างกายเธอกัน ^^”
“ฉันไปคบกับนายตอนไหนกัน ไอ้หมาบ้ากาม!” ฉันเริ่มไม่เกรงใจอาจารย์แล้วนะ T^T
“ขอโทษทีครับ อาจารย์ ผมกับยัยนี่คบกันมาได้สามวันแล้วครับ ^_^” หมอนั่นรีบตะครุบปากฉันทันที แล้วมากระซิบข้าง ๆ หูฉันว่า ”นั่งลงเงียบ ๆ ก่อนที่ฉันจะปิดปากเธอด้วยปากฉันนะ”
เอาล่ะ ฉันยอมแพ้เขาเลย ไม่ใช่ว่าฉันกลัวเขาจะจูบฉันนะ แต่ฉันเกรงใจเพื่อน ๆ และอาจารย์ต่างหาก ที่สำคัญพ่อกับแม่เสียเงินเพื่อจ่ายค่าเรียนให้ฉันไม่ใช่เสียเงินเพื่อให้ฉันมาเถียงกับหมา !
“เอ่อ…พวกเธอดูรักกันดีนะ แฮ่ ๆ ^^:;” ขนาดอาจารย์ยังเหงื่อตกกับอีตาหมอนี่เลย “เอาล่ะ ๆ เข้าสู่บทเรียนวันนี้กันเลยดีกว่า”
หลังจากเสียเวลาไปยี่สิบนาทีกับเรื่องไร้สาระ อาจารย์ก็ตรัสรู้สักทีว่าควรจะสอนได้แล้ว ยัยยุงที่นั่งอยู่ด้านข้างหันมามองฉันด้วยฉันด้วยสายตาคาดคั้นจะเอาคำตอบ แต่ฉันปฎิเสธโดยการยักไหล่เบา ๆ ก่อนจะมองตรงไปที่หน้าห้อง โดยที่แอบเหล่สายตาไปมองผู้ชายด้านข้างอย่างหวังจะจิกตาใส่เพราะผู้ชายคนนี้ได้แย่งที่ ‘เขา’ คนนั้นไปซะแล้ว แต่แล้วฉันก็ต้องหยุดชะงักสายตาเมื่อได้เห็นใบหน้าที่ตั้งใจของเขาอย่างชัดเจน
ผมสีน้ำตาลแดงที่ซอยยาวประบ่าที่รวบเป็นหางม้า และมีผมม้าเบี่ยงอยู่ด้านหน้า นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มที่แทบจะเป็นสีดำกำลังฉายแววมุ่งมั่น จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากสีส้มอมชมพูที่ได้รูปนั่น ทำให้ฉันไม่แปลกใจเลยที่เพื่อน ๆ พูดว่าจะยอมให้เขาฟันฟรีแถมบ้านอีกสิบหลังน่ะ !
@11: 53 A.M.
ดีนะที่วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ไม่อย่างนั้นอาจารย์คงจะให้ต่อถึงบ่ายแน่นอน ก็อย่างว่าแหละนะอาจารย์จวนจะสามสิบปลาย ๆ อยู่แล้ว ถ้าวาเลนไทน์ปีนี้อาจารย์ไม่ไปเดทกับแฟน คงจะไม่ถูกขอแต่งงานไปชั่วชีวิตแน่ ๆ
“นี่ยัยหมี่ แกเล่ามาให้หมดเลย” ยัยยุงถามฉันทันทีที่ถึงห้องน้ำ
“ใจเย็นหน่อยสิแก ทำเป็นรีบร้อนไปได้” ฉันเลี่ยงที่จะตอบเต็มที่
“ตอนนี้หัวใจฉันมีอุณหภูมิถึงร้อยองศาเซลเซียสแล้ว” ยัยยุงทำหน้าบูดทันที ซึ่งถ้าไม่สนิทกับยัยนี่จริง ๆ คุณจะไม่ได้เห็นใบหน้าอารมณ์ต่าง ๆ ของยัยนี่เลย
“เออก็ได้”
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้อ้าปากเล่าเรื่องทั้งหมดให้ยัยยุงฟัง เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้น ยัยยุงที่เห็นท่าว่าจะได้ยินอะไรดี ๆ ก็ดึงฉันวิ่งเข้าห้องน้ำทันทีเพื่อที่จะแอบฟังหวังได้ข่าว แต่ที่แย่ไปกว่านั้นยัยนี่ดันลากฉันเข้ามานั่งห้องเดียวกันซะได้ แถมยังมาบังคับให้ฉันขึ้นมานั่งเบียด ๆ เสียด ๆ กับเจ้าตัวบนชักโครกเดียวกันอีก มันอึดอัดนะเว้ย
“ลูกหมี ทอปัด แกว่าเรื่องที่แชมเปญเขาพูดจะเป็นจริงมั้ย ที่ว่าเขาคบกับบะหมี่น่ะ ฮึก ฮือ เขาบอกว่าเขารักฉันคนเดียว เขาไม่เคยคิดที่จะมีใครอื่น ฮือ ๆ”
เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีฉันกับยัยยุงนั่งฟังกันอย่างเงียบ ๆ และที่สำคัญยัยยุงยังอัดเสียงไว้อีกต่างหาก
“อย่าร้องไห้เลยนะ ครีม สองคนนั่นน่ะคบกันได้ไม่นานหรอก เชื่อฉันสิ เดี๋ยวก็เลิกกัน ฉันเชื่อนะว่าเขาต้องเลือกเธอ”
“ฉันก็หวังให้เป็นอย่างนั้นเหมือนกันนะ ลูกหมี งั้นฉันออกไปสั่งอาหารรอพวกแกก่อนนะ ฮือ ๆ”
“อืม ๆ”
ฉันกับยัยยุงอ้าปากพะงาบ ๆ คุยกัน แถมยังพากันส่งสายตาพร้อมกับหน้าแปลก ๆ ให้กันอย่างงงๆ กับเรื่องที่เจอ ซึ่งฉันอ่านปากยัยยุงได้ว่า ‘เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติของอีตาแชมเปญ !!’
“เฮอะ ! แชมเปญน่ะหรอรักแต่ยัยครีม หมอนั่นไม่เดยแลยัยนั่นด้วยซ้ำไป เขาแค่เล่น ๆ กับผู้หญิงหลาย ๆ คน ฉันจะบอกอะไรให้นะ ทอปัด แชมเปญ เขาบอกกับฉันว่าเขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาคบฉัน เดี๋ยวฉันจะเจอแฟนคลับของเขาทำร้ายน่ะ”
“ฮะ ! ไม่ใช่แค่ครีมหรอ เธอก็ด้วย !”
“เออ ฉันอ่ะตัวจริง ฉันไปดีกว่า เดี๋ยวยัยครีมรอ!”
โอ้โห นี่เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดหรอเนี้ย ฉันเห็นยัยยุงอ้าปากพะงาบ ๆ เป็นประโยคเดิมว่าเป็นเรื่องปกติของอีตานั่นอยู่แล้ว สรุปว่าหมอนี่ไม่เลือกระยะทางการใกล้ชิดของแต่ละคน หวังว่าหมอนี่คงไม่จีบฉัน และน้อง ๆ ของฉันทั้งหมดหรอกนะ
“พวกแกสองคนน่ะหรอ ที่แชมเปญเลือก ไม่มีทาง เพราะฉันต่างหากที่คือที่หนึ่ง ไม่ใช่ใครทั้งนั้น แม้แต่ยัยบะหมี่ หึ ! ไม่ว่าใครหน้าไหนที่มาแย่งแชมเปญจากฉันไป ฉันจะจัดการมัน”
ทันทีที่เสียงฝีเท้าเริ่มห่างหายจากห้องน้ำไป ฉันกับยัยยุงก็ลุกออกจากชักโครกทันที โอ้ว์ แล้วให้ตายเฮอะ ! ยัยคนสุดท้ายทิ้งคำพูดไว้อย่างน่ากลัวเลย
“อย่าเครียดเลยนะ ผู้ชายไม่ได้มีแค่คนเดียว” ยัยยุงพูดอย่างตรงกันข้ามกับความคิดของฉันมาก
“ยัยยุง ฉันไม่ได้เครียดเรื่องนั้น ฉันเครียดกับประโยคสุดท้ายย่ะ !”
“อ่าว เรื่องเป็นงั้นเองหรอ”
“เออดิ ฉันว่าเราไปหาที่นั่งคุยสงบ ๆ ดีกว่า ฉันจะเล่าให้แกฟังเอง”
ว่าจบฉันก็ลากยัยยุงออกจากห้องน้ำทันที โดยไม่ลืมที่จะขอไฟล์บันทึกเสียงนั้นไว้ เผื่อมันจะมีประโยชน์กับฉันอ่ะนะ เพราะบทท้าพิสูจน์รัก ฉันสรุปได้เลยว่าเขาแพ้ชัวร์
....นายเสร็จฉันแน่ อีตาแชมเปญ !
อ่านแล้วว่าไง ก็ว่าตามกันอ่ะเจ้า
เม้น ๆ ด้วยนะ >.<
ความคิดเห็น