คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Lion : Chapter I คำท้า ที่ฉันไม่น่ารับ
1
คำท้า…ที่ฉันไม่น่ารับ
ทันทีที่ฉันออกจากผับ ฉันก็รีบโบกมือเรียกแท็กซี่ทันที ฉันคงจะอยู่ไม่วุงไม่ไหวแล้วนะไอ้ผับที่มีคนประสาทเสื่อมขนาดนี้ เฮ้อ….อยากจะกลับไปพักผ่อน นอนหลับบนที่นอนนุ่ม ๆ ให้หายอารมณ์เสียสักที สงสัยพรุ่งนี้คงต้องไปทำบุญล้างซวยสักหน่อย
และแท็กซี่ก็จอดเทียบหน้าบ้านฉัน ฉันก้มลงมองนาฬิกาที่บ่งบอกว่าตอนนี้เพิ่งจะสี่ทุ่ม นี่มันเป็นประวัติศาสตร์ของโลกจริง ๆ ที่ฉันไปผับแล้วกลับบ้านเร็วขนาดนี้ ฉันจ่ายเงินและรีบลงจากรถ และกำลังจะเปิดประตูรั้วบ้านแต่…..
ขวับ !
“หยุดคุยกันก่อนสิ ^^” ใครล่ะ…หมาติดสัตว์ไง ! หน็อย กล้าจับแขนฉันหรอ ฉันบิดแขนตัวเองออก แล้วหันไปมองหน้าเขาอย่างเคือง ๆ ถ้าฉันเป็นหมาคงจะแยกเขี้ยวอยู่ แต่นี่ฉันเป็นสิงโตเลยต้องคำรามแทน -_-
“ไม่ – มี – อะ – ไร – จะ - คุย !” น่ารำคาญจริง ๆ หมอนี่ มันโรคจิตชัด ๆ
“เธอกำลังกลัวฉันหรอ -O- ?” สบประมาทกันมากไปแล้วนะ = =* ฉันรีบหันไปเผชิญหน้ากับเขาทันที แน่ละ สิงโตผู้สง่างามในสวนสัตว์เขาเขียวอย่างฉัน ไม่ยอมพ่ายแพ้กับสุนัขตัวเดียวแน่ ชิ !
“ฉันไม่ได้กลัวนายเลย !” ฉันเชิดหน้าขึ้นก่อนจะกอดอก
“งั้นก็ดี ขึ้นรถเถอะครับ J” เขาเดินไปเปิดประตูรถ พร้อมกับผายมือเชิญฉัน
“ฉันไม่ได้ตกลงจะไปกับนายนะ -O-”
“’ฉันเข้าใจผิดเองหรอนี่ เฮ้อ….เสียดาย T.T”
“ไอ้โรคจิต ! นายไม่มีสิทธิ์เสียดายนะเว้ย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงข้างทาง ถึงจะยอมให้นายหิ้วปีกไปน่ะ และที่สำคัญนะ นายออกไปจากชีวิตฉันเลย” ฉันพูดรัวอย่างรวดเร็ว แต่เขาไม่มีท่าทีว่าจะไปเลย
“เพื่อความยุติธรรมของเราทั้งสองฝ่าย ฉันขอท้าพิสูจน์ความรักของฉันที่มีต่อเธอภายในสามสิบเอ็ดวัน และถ้าเธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกนั้น แล้วเธอรักฉันตอบ เธอจะแพ้ แต่ถ้าเธอไม่รักฉัน เธอก็จะชนะ แล้วขออะไรจากฉันก็ได้ เคป่ะ ?”
มันยุติธรรมตรงไหนฟะ ? แล้วที่สำคัญหมอนี่เพิ่งจะเห็นหน้าฉันไม่ถึงชั่วโมงถึงกับขั้นรักฉันเลยหรอเนี้ย เขามันป่วยจิตจริง ๆ เอ่อ…..แล้วถ้าฉันตอบว่าไม่ล่ะ -O- !
“ถ้าฉันไม่โอเค !”
“ฉันก็จะตามเธอไปทุกที่ทุกแห่งตลอดชาติ!” นายทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันสวยมาก
“แล้วถ้าฉันตกลง แล้วฉันดันแพ้ล่ะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่แพ้ก็เหอะ แล้วอะไรจะเกิดอะไรขึ้น -O-”
“เธอก็เป็นของฉันไงล่ะ J” ขนลุก !
“ตกลง ฉันจะขอบอกนายตรงนี้เลยว่าฉันไม่ยอมแพ้นายแน่!”
เขากระตุกยิ้มมุมปาก แล้วเดินกลับไปที่รถของเขา ในขณะที่ฉันเองก็กำลังเปิดประตูรั้วบ้าน แต่ยังไม่ทันที่ประตูจะได้ถูกเปิดออก เสียงเขาก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“ว่าแต่เธอชื่ออะไร? ฉันแชมเปญนะ” นายไม่ถามภพหน้าเลยล่ะ -0-
“บะหมี่ !!!”
“อยากกินบะหมี่ซะแล้ว *0*”
ฉันอ้าปากเตรียมโวย แต่ไม่ทันซะแล้ว เพราะอีตาแชมพู (แชมเปญ !) หายเข้าไปในรถซะแล้ว โธ่ ! ยัยบะหมี่เอ๊ย มันกรรมซัดกรรมซ้อนชัด ๆ เธอไปเออออห่อหมกกับหมอนั่นทำไมเนี้ย ฮึ่ย ! ฉันหวังว่าภายในสามสิบเอ็ดวัน เวอร์จิ้นน้อย ๆ ของฉันจะยังคงอยู่รอดคงกระพันนะเออ U.U
ตะวันทอแสงอ่อน ๆ มาทางหน้าต่าง หลังจากที่ฉันได้นอนไม่เต็มอิ่ม เพราะมัวแต่กังวลเรื่องความปลอดภัยของเวอร์จิ้น T.T ฉันก็ตื่นขึ้นมาพบกับวันแรกของการพิสูจน์รักผีบ้าผีบออะไรนั้น ฉันลุกออกจากเตียงก่อนจะรีบไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วลงมาชั้นล่าง ซึ่งพบกับน้อง ๆ ทั้งสาม ขาดยัยไอติม
ฉันมองบรรดาน้องใหญ่น้องรองน้องกลาง ซึ่งที่สังเกตได้ชัดที่สุดคือยัยแลตหรือช็อกโกแลตนั่นเองที่มีใบหน้าสีแดงจัด โอ๊ยยย น้องแลตผู้เรียบร้อยที่สุดในบ้าน เป็นไข้หรอเนี้ยหน้าถึงแดงจัดขนาดนี้ -.,- ฉันส่งสายตาไปทางมาม่า กับพายเค้ก ที่กำลังจับกลุ่มนั่งจ้องยัยแลตอยู่
และแล้วยัยมาม่าก็รีบกวักมือให้ฉันเข้าไปร่วมวงสนทนา ฉันที่เห็นสัญญาณนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปร่วมทันที พร้อมกับไอติม น้องเล็กสุดที่วิ่งมาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ -*-
“นี่ๆดูแลตสิเป็นไรไม่รู้เขินบ่อยๆ แหะ” มาม่าเปิดประเด็นร้อนสุด ๆ ทำให้สายตาฉันเลื่อนหันไปมองยัยแลตทันที ก่อนที่ฉันจะพูดว่า….
“ก็นั้นสิก็ว่าแปลกๆอยู่หรือ...ว่า....เป็นบ้า !!! =[]=”
“เหมือนพี่แลตจะออกไปซื้ออะไรซักอย่างนะค่ะ ><” พายเค้กเอ่ยออกมา
“งั้นเราแอบตามไปพี่แลตกันไหมฮะ >O<” ไอติมสาวดุ้นเอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบไอติมแท่งขึ้นมาดูด
“โอเค!! งั้นรอแลตแต่งตัวเสร็จแล้วแอบตามไปกัน” ฉันสรุปแผนทันทีที่ไอติมพูดจบ
ระหว่างที่รอยัยแลตตี้ (เริ่มเปลี่ยนชื่อไปเรื่อย) ฉันก็นั่งอ่านนิตยสารกุลสตรีไทยรอ ในขณะที่ไอติมกำลังดูดไอติมแท่งดังซู๊ด ๆ ยัยมาม่ากำลังทาเล็บแล้วทำหน้าหยิ่ง ๆ เอ๊ะ ! ยัยนี้หน้ามันหยิ่งอยู่แล้วนี่นา และพายเค้กกำลัง….เมื่อคืนฉันเจอพายเค้กที่ผับ !
“ยัยพายเค้ก เมื่อคืนเธอไป K&Q Pub มาใช่มั้ย ( +- -)” ฉันส่งสายตาเฉือดเฉือนไปทางยัยพายเค้กเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ
“ฉันลืมไปได้ไงเนี้ย ! ยัยพาย แกลองบอกว่าไม่ดูสิ ฉันเห็นแกเต็มสองตาเลยนะ”
“ไม่รู้ไม่ชี้ -_-”
“ใจร้ายเป็นที่สุดเลยฮะ..เพราะเหตุใดถึงไม่ชวนผมอ๋า T^T” ไอติมเริ่มส่อแววมาก -*-
“อย่ามาปฏิเสธหน่อยเลย ถ้าเธอไม่ยอมรับ พี่จะฟ้องท่านบิดา ท่านมารดานะ !”
“ยอม -_-”
“นั่นไง ยัยน้องบ้า ! แกอายุยังไม่ถึงเลยนะ แกนี่มัน !” ฉันไม่รอให้มาม่าบ่นจบ เพราะตอนนี้ฉันจะแทรกแล้ว…
“แกนี่มันนิสัยเสียมาก ๆ เลย แก่แดด ทำตัวเกินเด็ก ฉันเคยสั่งเคยสอนแกให้ทำอย่างนี้มั้ยยะ นังพาย !!!” จบ !
“ใช่ๆๆ นี่ไง -3- โทษของการไม่ชวนผมไปด้วย แบร่ ”
ทันทีที่ไอติมพูดจบแบบส่อแววมาก ฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของช็อกโกแลตที่กำลังเดินลงจากบันได ฉันรีบกวักมือเรียกน้องทั้งสามไปซ่อนตัว เพื่อปฎิบัติแผนการแซวแลตตี้ เอาล่ะ หลังจากที่แลตตี้ น้องสาวผู้ได้ฉายากวางน้อยที่น่ารัก เดินไปอย่างไม่รู้ตัว พวกเราก็ย่องตามไปอย่างเบา ๆ
ชักหงุดหงิดแล้วนะ ทำไมยัยช็อกโกแลตถึงเดินมาไกลขนาดนี้ แล้วมาทำอะไรย่านร้านค้าที่ขายพวกขนมหวานล่ะนี่ หาเรื่องมาซื้อของไปทำขนมอีกแน่เลย -0-
ในขณะที่พวกเราทั้งสี่พากันยอง ๆ เดิน ฉันก็ไม่ไหว ฉันเลยลุกขึ้นยืน แต่รู้สึกว่ายัยแลตจะเกือบเห็นหรือเห็น แต่เราสบตากันแล้ว กรี๊ดสิ ! ฉันนั่งทันทีที่ได้สบตากับยัยแลต โอ๊ย ๆ สาธุ ยัยแลตอย่าเห็นพี่หมี่เลยนะ ฉันหันไปมองน้อง ๆ ที่หันหน้ามาจ้องฉันอย่างเอาเป็นเอาตาย ยกเว้นพายเค้กที่กำลังส่องอยู่ แต่แล้วก็....!
“อ้าว!? พี่แลตหายไปไหนแล้วเนี่ย” พายเค้กส่งเสียงดัง
ชู่ ! ฉัน มาม่า และไอติมแทบจะเอานิ้วแตะปากไม่ทัน กรรมเวรอะไรเนี้ย แค่ฉันคนเดียว ยัยแลตก็ต้องเอะใจแล้ว ยัยพายเค้กยังจะมาส่งเสียงอีก ฉันไม่กล้ามองหน้าแลตตี้แล้ว T^T
“ตามแลตมาทำไมเนี่ย!!!” ยัยแลตก้าวออกมาเหมือนกวางน้อย พร้อมตะโกนส่งเสียง
“ก็แค่อยากรู้อะ!!!” ฉัน มาม่า พายเค้ก ไอติม ตอบพร้อมกันอย่างสามัคคี
“ก็…ไม่อะไรนี่คะ แลตแค่ออกมาซื้อของเอง (. .)” แลตตี้ตอบเสียงเบา
“พี่รู้หรอกนะว่าแลตจะไปซื้อช็อกโกแลตให้หนุ่มที่ไหนสักคน *[]*” ฉันตั้งประเด็นทันที
“พวกเราจะได้ไปช่วยแซว เอ๊ย ช่วยเลือกไง ” มาม่าแซวขึ้น พร้อมกับท่าทีอยากแกล้งน้อง -*-
“ช่ายยย ” ไอติมกับพายเค้กช่วยกันสนับสนุนเต็มที่
“งั้นก็ได้ค่ะ….”
แลตตี้ตอบเสียงเบา พร้อมกับใบหน้าที่ไม่เต็มใจ แต่ก็ช่วยไม่ได้ ฉันก็อยากรู้เรื่องของน้องบ้างอะไรบ้าง ยัยแลตเดินไปนู่นนี่นั่น จนมาถึงร้านขายขนมปัง ขนมเค้กและช็อกโกแลตแบรนด์ดังของย่านนี้ ฉันได้ข่าวมาว่าช็อกโกแลตนำเข้าจากเบลเยี่ยมเชียวนะ >.<
“แลตตี้ มีแฟนแล้วทำไมไม่บอกกล่าวกันบ้างล่ะ กวางน้อย” ยัยมาม่าแย่งแซวก่อนจนได้
“ใครกันหนอคือคนที่แลตตี้จะให้เนี้ย ถ้าพี่เป็นผู้ชายคนนั้นนะ พี่คงจะรักแลตตี้มากแน่นอน ♥”
ใครกันล่ะจะไม่รักน้องฉัน ดูสิ น่ารักน่ากอดขนาดนี้ แถมขนมน่ากินทุกอย่างเลย ถ้าไม่ติดว่าฉันกลัวอ้วนที่สุดนะ ฉันจะกินหมดร้านนี้เลย คอยดูไว้เฮอะ
“เค้กชิ้นดูน่ากินดีจัง –O-”
“ฮะ ฮะ ดูซิช็อคโกแลตอันนี้ มีหัวใจแปะตรงกลางด้วย พี่แลตฮะ อันนี้เหมาะน้า ฮิฮิ ♥ ”
ขณะที่ฉันกำลังมองไอติมที่กำลังแกล้งให้แลตตี้เขินอยู่นั้น สายตาฉันก็เหลือบไปเห็นผู้ชายร่างสูงโปร่ง สวมแว่นกันแดดสีดำ กำลังนั่งจิบชาอยู่ในร้านเครื่องดื่มที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับฝั่งที่ฉัน เวรแล้ว ! สิงโตเผ่น -0-
….นั่นมัน อีตาบ้ากาม กรี๊ดดดดดดด
ฉันเตรียมเดินหนีทันทีโดยไม่สนน้อง ๆ ที่กำลังหลงระเริงกับของกินต่าง ๆ นานาที่น่ากินมากมายเป็นที่สุด ซวยสะบัดปลิ้น ! ใครใช้ให้นายมาจิบชาร้านนี้กัน L
…..และทันทีที่ฉันจะไป บุคคลแปลกหน้าก็เดินมาพร้อมกับพายเค้กที่ร้องเสียงหลงว่า…
“เฮ้ย =()= นายเท็น เอ๊ย เทร์น!” พายเค้ก…ทำเอาฉันต้องหันไปมองและหยุดฟัง
“โอ้! เป็นเกียรติ์นะที่เธอจำได้น่ะ ^^” นายแทน (?) ที่ว่าเอ่ยขึ้น
“นายมาได้ไง =_=” ใช่ ๆ พายเค้ก เธอถามถูก ไอ้หมอนี่มายังไง กรี๊ด ! อีตาบ้ากามเห็นฉันแล้วแหง T.T
“ก็...เคยบอกแล้วนะครับ ว่าจะจีบน่ะ ^^” สมาธิฉันหลุดทันทีที่ได้ยินประโยคนี้
“หา ! จีบ ! นายเป็นใครกันฮะ ??” เอาล่ะ ฉันถามขึ้นด้วยความรู้สึกตะลึงมากก
“นั่นใครน่ะ…ดูดีนะ” ยัยมาม่าเริ่มส่งสายตา ฉันว่านังนี่กินผู้ชายแน่ ๆ
“ช็อกโกแลต (กระซิบพายเค้กว่าเขาเป็นใคร)”
ฉันหันไปมองยัยพายเค้กที่ถูกไอติมซุบซิบ ๆ อะไรอยู่ก็ไม่รู้ ก่อนจะมองไปฝั่งตรงข้าม โอ๊ย หมอนั่นอย่าเพิ่งเห็นฉันเลย
“คำถามเยอะจังครับ ตอบทีล่ะนิดแล้วกัน ผมชื่อเทร์นครับ ^_^ เป็นเพื่อนกับพายเค้ก แต่ตอนนี้กำลังจะจีบเป็นแฟน”
“=[]=!!!” อึ้ง !
“อ่า...พูดอะไรผิดเหรอครับ งั้นผมขออนุญาตเอาตัวพี่น้องของคุณไปนะครับ” ขอไม่พอ หมอนี่ยังถือวิสาสะถึงเนื้อถึงตัว น้องฉันอีก นิสัยไม่ดี ถ้าไม่ติดว่าฉันกำลังจะเผ่นคงจะด่าดังลั่นตลาด -0-*
“ไม่ไปๆ พี่ๆ ช่วยฉันหน่อยสิ” พายเค้กจ้า พี่ก็อยากช่วยน้อง แต่ตอนนี้พี่ขอช่วยตัวเองก่อนนะ เพราะตอนนี้มองนั่นถอดแว่นและจ่ายเงินเตรียมจะเดินมาแล้ว YOY
“ไหน ๆ ก็ขายออกแล้ว ก็รีบไปซะสิ !”
ฉันรีบขับไสไล่ส่งน้องสาวอันเป็นที่รักอีกคน ก่อนจะรีบเผ่นทันที ฉันล่ะอยากจะร้องเพลงพี่เบน ชราปิ๊บ ดัง ๆ ว่า เธอทำให้ฉันหลอนใจหมด ไม่อาจถอน หัวใจมันคอยจะวิ่งหนี โอ๊ย ๆ (ร้องมั่วสุด ๆ -.,-) สิงโตหมดสภาพ เพราะสุนัข (ติดสัตว์) ตัวเดียวเลย
ฉันกึ่งเดินกึ่งวิ่งจนมาถึงหน้าบ้านของตัวเอง ก่อนจะหอบหายใจถี่ โอ๊ย ~ ทำไมมันเหนื่อยอย่างนี้ ให้ตายเฮอะ นี่มันเวรกรรมหรือยังไงกัน แทนที่ฉันจะได้อยู่อย่างสงบสุข แต่กลับต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของเวอร์จิ้นของตัวเอง สงสัยต้องไปทำบุญล้างซวยซะแล้ว U.U
“เหนื่อยมากมั้ยครับ ^^”
ขนาดฉันหนีมาถึงหน้าบ้าน หน้าอีตาบ้ากามยังตามมาหลอกหลอน แถมเสียงนั่นอีก ที่สำคัญมันเหมือนจริงมาก เดี๋ยวนะ ! หรือว่ามันเป็นของจริง ฉันเงยหน้าขึ้นมามองอีกที….
“ขอให้โลกแตกเถอะ T[]T!!!” มันของจริงนะนั่น
“อยากเจอฉันเป็นคนสุดท้ายในวันโลกแตกมากขนาดนั้นเลยหรอ -0-”
“ฉันขอเอาหน้าจุ่มขี้ควายตายยังดีซะกว่า =O=^”
“พูดอย่างนี้ ฉันเสียใจนะ บะหมี่ที่รัก T^T” ขนลุก ! หมอนี่กล้าพูดออกมาได้ไง -0-*
“เชิญนายเสียใจอยู่ตรงนี้ให้เต็มที่ เพราะฉันจะเข้าบ้าน” ฉันก้าวเท้าเตรียมจะเดินไปเปิดรั้วบ้านแต่อีตาบ้ากามก็ดันมาขวางทางไว้ซะได้ ชิ ! อยากจับหมอนี่บวชชะมัด “หลีกไป ชมพู -0-!”
“-_-+” มันเอาหูมาด้วยรึเปล่าเนี่ย -0-
“ชาบู ฉันบอกให้นายหลีกไปไง ไม่ได้ยินหรอหา !” และในที่สุดเขาก็ยอมหลีกทางให้แก่ฉันอย่างว่าง่าย แต่ในขณะที่ฉันกำลังใช้มือดันรั้วอยู่นั้น ร่างของฉันก็ถูกอีกร่างหนึ่งโอบมาจากทางด้านหลังอย่างรวดเร็วและถูกแขนอันแข็งแรงรัดตัวฉันไว้แน่น กรี๊ด ! อีตาบ้ากามกอดฉันอ่ะ หน้าบ้านอีกต่างหาก มันเกินไปแล้ว “นี่นาย ปล่อยนะ นายแชมพูปล่อย นายจะมาทำอย่างนี้ไม่ได้นะ -0-!”
“บอกให้ปล่อยหรอ เรียกชื่อให้ถูกก่อนสิจ้ะ ที่รัก -3-” ฉันว่าฉันก็เรียกถูกแล้วนะ
“นี่มันหน้าบ้านฉันเลยนะยะ ไอ้บ้ากาม ไอ้คนฉวยโอกาส ไอ้นิสัยเสีย” ฉันกัดฟันด่าโดยให้เสียงเล็ดลอดจากไรฟันเท่านั้น เพราะการโวยมากมันก็ไม่ดี เดี๋ยวคนอื่นเขาแห่มาดู
“พูดอย่างนี้แสดงว่าเป็นที่อื่นก็ทำได้อ่ะดิ”
“ไม่ใช่ย่ะ มันไม่ดีไม่งามอย่างยิ่ง นายจะปล่อยฉันได้ยังเนี่ย -0-+” ฉันชักจะโมโห มันกอดนานไปแล้วนะยะ อากาศเมืองไทยก็ร้อน ไม่จำเป็นต้องกอดให้ความอบอุ่นกันหรอก
“ก็บอกให้เรียกชื่อให้ถูกไง รู้มั้ย ฉันน้อยใจนะที่เธอจำชื่อฉันไม่ได้ L”
“นายก็บอกมาสิ นายชื่ออะไรน่ะ -0-”
“ฉันก็เคยบอกเธอไปแล้วนี่ =_=*” บอกตอนไหนวะ ?
“แล้วฉันจำได้มั้ยเล่า !”
“งั้นจำไว้นะ ฉันชื่อแชมเปญ” เขาโน้มมากระซิบใกล้ ๆ ใบหูของฉัน พร้อมกับเสียงนุ่ม ๆ ที่เล่นเอาซะฉันขนลุกซู่ไปทั่วร่างกาย
“แชมเปญ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ -0-*” ฉันพูดชื่อแล้วนะ
“พูดไม่เพราะเลย อย่างนี้คงปล่อยไม่ได้” แล้วนายจะให้ฉันพูดว่าอะไรเล่าฮะ นี่ฉันใจเย็นสุด ๆ แล้วนะ
“แล้วจะให้ฉันพูดว่าอะไรฮะ !”
“แชมเปญคะ….ปล่อยบะหมี่ได้แล้วค่ะ” กร๊าสสสส ! นี่มันไพเราะเสนาะหูไปแล้วนะ รู้สึกกระดากปาก มันพูดยากมาก ฉันกำลังพยายามควบคุมสติก่อนที่มันจะระเบิด แต่ยังไม่ทันจะได้รวบรวมสติ อีตาบ้านี่ก็ส่งเสียงเร่งขึ้น “เร็ว ๆ สิ ขอเสียงหวาน ๆ ด้วยนะ J”
“นี่มันกระดากปากเกินไปนะ L” ฉันพยายามดิ้นสุดชีวิต แต่เป็นเพราะว่าฉันตัวเล็กเกินไปรึเปล่า ฉันถึงไม่หลุดจากอ้อมกอดของเขา แถมเขายังรัดแน่นขึ้นอีก Y.Y
“อย่าพยายามดิ้นเลย ที่รัก เพราะถ้าเธอไม่พูด ฉันก็ไม่ปล่อย” เลวง่ะ T^T
“เออ ๆ พูดก็ได้ แชมเปญ…คะ ปล่อยบะหมี่ได้แล้วค่ะ -0-!” ฉันพูดออกมาแล้ว แต่เขาไม่ปล่อย !
“ให้เสียงมันหวาน ๆ นุ่ม ๆ หน่อยสิ” กรี๊ดดด เรื่องมากจริง
“แชมเปญคะ ปล่อยบะหมี่ได้แล้วค่ะ (- -* )” ฉันพูดเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้
“ไม่ได้ยินเลย ขอดัง ๆ หน่อยสิ -*-” แกล้งฉันชัด ๆ
“ไอ้….! แชมเปญคะ ปล่อยบะหมี่ได้แล้วค่ะ >O<!!!!” เอาล่ะ ถ้าไม่ได้ยินนะ ฉันจะแช่งให้หมอนี่หูตึงตลอดชาติและทุกภพไปเลย -0-:;
“อย่างนี้สิ ถึงจะเรียกว่าน่ารัก J”
ทันทีที่เขาคลายอ้อมกอดออก ฉันก็หันมาเผชิญหน้ากับเขาก่อนจะ…..
“โอ๊ย ! ยัยแสบ TT_TT*”
เขากุมเป้าตัวเองก่อนจะชี้หน้าฉันที่กำลังสะใจอยู่เป็นอย่างมาก และขณะที่เขาเองก็หน้าเขียวมากเช่นกัน ใช่ ! ฉันใส่เข่าที่จุดอ่อนของผู้ชายหรือจะเรียกอีกอย่างว่าจุดรักจุดหวงนั่นเอง ชิ อยากซ่ากับใครไม่ซ่า รู้จักบะหมี่ใส่พริกน้อยไปซะแล้ว ฉันเดินเข้าบ้าน โดยไม่ลืมที่จะทิ้งคำลา
“เฮ้ ! อย่าลืมทานยาแก้อักเสบ แก้ปวด หรือจะหายามาทาก็ได้นะ ที่สำคัญ ไอ้ตรงนั้นน่ะ น่าจะพักการใช้งานสักอาทิตย์นึงคงจะหายดี แต่ถ้าจะให้ดีจริงๆ ต้องเดินขาถ่างหลายๆ วัน ขอให้หายไว ๆ นะ แล้วนี่….ฉันให้ !(t-_-t ) ”
ฉันหันไปโชว์นิ้วกลางให้เขา แล้วเดินเข้าบ้านด้วยอารมณ์ที่ดีเกินดี แน่นอน ! ครั้งหน้า ฉันจะเอาให้หมอนี่เป็นหมันเลย โฮะ ๆ
อีโมชั่นเป็นอะไรก็ไม่รู้อ่ะตัว
ไอ้หน้ายิ้ม ๆ เป็นตัว J ไอ้หน้าบูด ๆ เป็นตัว L
ขอให้ รีดเดอร์จินตนาการกันเองนะคะ
ความคิดเห็น