คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ผู้พิทักษ์เงา : Part II
The Forth Guardian
Part II.
Author : Silver-lake-lanturn
Status : รู้สึกเฟลอย่างแรงเลยอ่ะ
pairing : ???
มิวนิทมองมือที่เปื้อนเลือดของตนอย่างใจลอย ในระหว่างที่ยังติดค้างพันธสัญญาว่าจ้างกับอิลทอร์และอัลทอร์อยู่ เธอจะหนีไปไหนไม่ได้เด็ดขาด...และตราประทับที่ข้อมือก็เริ่มเรืองแสงที่แดงวาบขึ้น
ร่างบางเบิกตากว้างขึ้น...อิลทอร์เหรอ? ...หรือจะเป็นอัลทอร์
มิวนิทกดบาดแผลตราประทับนั่นเอาไว้ เธอกลั้นเสียงกรีดร้องและแสงสว่างที่เปล่งออกมาจากข้อมือได้ดี...อย่างน้อยก็ในช่วงแรก
ความเจ็บปวดแล่นเข้ามา ริมฝีปากที่ถูกเม้มกลั้นเสียงเอาไว้เริ่มเป็นห้อเลือด เลือดไหลซิบออกมาจากข้อมือที่เปล่งแสง ...ความร้อนรุ่มนี่มันอะไรกัน...
...อย่างกับว่า...จะโดนไฟเผา...งั้นแหล่ะ... เมดสาวคิด ใบหน้าเริ่มมีเหงื่อผุดไหลเป็นสาย ...ความกลัวเริ่มถาโถมเข้ามา เป็นความกลัวที่จะต้องหายไป
‘อึก...อ๊ากกก!’ เสียงกรีดร้องดังขึ้นในหัว เป็นเสียงกรีดร้องของเด็กสาวที่ดูห่างไกลคนหนึ่ง...
“อึก... เงียบซะ” มิวนิทกลั้นความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้แค่ในความคิด... พยายามรวบรวมสมาธิปัดเสียงเด็กสาวคนนั้นทิ้งออกไป
‘อึก...’ เสียงนั้นก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ...ไม่ไหว...ตั้งสมาธิไม่ได้เลย...มิวนิทคิด
“เงียบ...เดี๋ยวนี้นะ เซ...ริน เมกามิ” มิวนิทพยายามขู่ แต่เสียงของเธอเป็นเหมือนแค่เสียงครางด้วยความเหนื่อยล้าที่เธอสะสมเอาไว้เท่านั้น เสียงในหัวดังก้องอีกเล็กน้อยแล้วเงียบไป
มิวนิทแทบจะทรุดลงไปในทันที “แฮก... แฮก... ความรู้สึก...ที่โดนทำลายจิตใจ...อึก ดั้งเดิม...มันเป็นอย่างนี้...งั้นเหรอ” เธอคราง
มิวนิทหลับตาลง ...กลับไปที่นั่นอีกครั้ง... เธอภาวนา
แล้วร่างบางของมิวนิทก็ค่อยๆ สลายไป...
อื้อ...ที่ไหน... ซินเรียนาคิด หัวที่ถูกตีด้วยของแข็งยังคงเจ็บระบม...แต่ร่างบางก็ยังไม่อาจขยับไปไหนได้เนื่องจากข้อมือถูกมัดไพล่หลังเอาไว้ เสื้อคลุมตัวโปรดหายไป ความรู้สึกถึงฮารุกะก็บางเบา...สัญญาณคงถูกตัดขาด... เธอคิด ...แต่ยัยนั่นยังมีพลังไม่พอเลยเนี่ยสิ มีปัญหาแล้วล่ะ...
พลังของร่างบางมีมากพอที่จะตัดขาดออกจากเจ้าของร่างแล้ว แต่ก็ยังมีสิ่งที่รั้งทั้งสองเอาไว้อยู่...นั่นก็คือ บาปของซินเรียนา... ทำให้เจ้าของร่างหากไม่เข้มแข็งพอก็อาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตและถูกสูบวิญญาณเข้าไปในตัวของเธอแน่
ร่างบางนึกเป็นห่วง ฮารุกะยังไม่พลังพอที่จะทำได้...
เธอชะงักไปเมื่อหูแว่วเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ ร่างบางดูสงบนิ่งภายในห้องมืดๆ สีดำ ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกช้าๆ โดยเด็กสาวคนหนึ่ง เธอสวมผ้าคลุมปิดบังหน้าตา ปอยผมหน้าถูกปล่อยสยายลงมาเคลียไหล่ ผิวขาวซีดที่เผยออกมาจากเนื้อผ้าสีเข้มตัดกับริมฝีปากสีอ่อนที่โผล่พ้นเนื้อผ้าที่ยาวเพียงแค่ปิดบังใบหน้าครึ่งบนเท่านั้น
แล้วเด็กสาวอีกคนก็ถูกผลักเข้ามาในห้อง...ถึงจะดูเรือนรางแต่ก็มีไอของพลัง ร่างบางในชุดนักศึกษาที่เปื้อนฝุ่น ผิวขาวนวลเต็มไปด้วยบาดแผลถลอก ชุดที่ใส่มีรอยฉีกระชาก ขาด และรอยเลอะต่างๆ รวมไปถึงรอยเลือดด้วย เส้นผมที่สวยงามยาวลงมาจรดกลางหลังตอนนี้กระเซิงยุ่ง สภาพของเธอเหมือนถูกรุมซ้อมมา
เด็กสาวคนก่อนหน้าปิดประตู ความมืดกลับเข้ามาอีกครั้ง
เด็กสาวที่อยู่ข้างๆ เธอล้มลงไป ร่างบางดูอ่อนแรงและหอบหายใจไม่หยุด ใบหน้าหวานมีเหงื่อผุดพราว ซินเรียจึงนาใช้พลังของเธอช่วยสงบอาการของเด็กสาว
เซริน เมกามิเริ่มสงบลงแล้ว แต่เธอก็ยังหอบหายใจเป็นพักๆ อยู่ “ซิน...ฮอล์โร” เธอละเมอ
ซินเรียนามองเด็กสาว เธอแทบจะสลบไปในทันที แต่เพราะความติดใจในคำพูดของเซรินทำให้เธอไม่อาจจะข่มตาหลับลงได้ อีกทั้งยังเป็นสถานการณ์ที่มีหนทางรอดแค่ริบหรี่อีกด้วย...
และทันใดนั้น ความรู้สึกที่รุนแรงบางอย่างก็ลอดเข้ามา...
นานาโอะ ฮิเมะ อยู่บนดาดฟ้าของโรงพยาบาล G ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชื่อดัง ...ค่ารักษาจึงแพงมหาศาลจนไม่ค่อยมีใครอยากจะเข้า แต่เป็นเพราะมิวนิทโทรฯ ตามทางบ้านของเธอให้ช่วยมารับตัวไปอยู่โรงพยาบาล และเธอยังเดินไปเรื่อยๆ จนขึ้นมาถึงดาดฟ้าในช่วงที่พยาบาลกำลังรีบร้อนดูแลคนไข้ที่ยอมเสียค่ารักษาเพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์... ร่างเล็กเดินอย่างใจลอยไปที่ระเบียง
ฮิเมะมองภาพของเมืองในยามราตรีที่มักจะเต็มไปด้วยแสงสีจากหลอดไฟฟ้าตามสถานที่ต่างๆ ...แต่ตอนนี้กลับดูเงียบเหงาลงมากเพราะคนส่วนใหญ่ต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยสาเหตุเดียวกันเป็นจำนวนหลายแสนคน
ปอยผมสีเข้มของฮิเมะปลิวไสวอยู่ท่ามกลางสายลมเย็นของยามราตรี บ้านส่วนใหญ่ก็เริ่มปิดไฟกันแล้ว... ดังนั้น มันจึงเป็นเวลาที่ดึกพอสมควรแล้ว ฮิเมะหมุนตัวกลับ
โชคร้ายที่ตรงระเบียงกันมีรูโหว่ขนาดใหญ่พอที่จะให้เด็กสาวตัวเล็กๆ อย่างฮิเมะตกลงไปสู่ความตายได้เปิดอยู่!!...และทันทีที่ร่างเล็กของฮิเมะลื่นล้ม เธอจึงเสียหลักตกลงไปสู่ความมืดยามค่ำคืนและเสียงกรีดร้อง
ผู้พิทักษ์คนที่ 4 ชะงักไป เพราะพลังของเจ้าของความเกลียดชังและความกลัวที่เธอเพิ่งจะได้มาในตัวของเธอกำลังกรีดร้องอย่างรุนแรง และอ่อนแอลงเรื่อยๆ ราวกับคนที่ถูกทำลายสิ่งยึดเหนี่ยวของตนในตอนที่เป็นมนุษย์ออกไปแล้ว
ซินลิเฟียร์กรีดร้อง เธอรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายของตัวเองกำลังแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความรู้สึกที่ขาดห้วงไป แต่ตัวเธอก็ยังไม่หายไป ทิ้งความเจ็บปวดสาหัสเอาไว้ราวกับเป็นของขวัญที่ไม่ได้ต้องการ
...นานาโอะ ฮิเมะ กำลังถูกทำลายอย่างช้าๆ... ซินลิเฟียร์รู้สึกได้ เธอกรีดร้องก่อนเสียงของเธอจะขาดหายไป พร้อมกับความรู้สึกเจ็บปวดก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน
“มีอะไรอย่างนั้นหรือ” เด็กสาวถาม ซินลิเฟียร์ดูสงบลง เธอไม่ได้กรีดร้องอย่างบ้าคลั่งเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว ร่างเล็กส่ายหน้าเป็นเชิงว่า ไม่เป็นอะไร
ซินลิเฟียร์รู้สึกอบอุ่น พลังงานที่ไหลเวียนอยู่ในตัวของเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว... มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นที่เกิดขึ้นในใจของเธอเองในภายหลังจากที่เธอถูกดูดกลืนเข้ามา ซินลิเฟียร์ยิ้มออกมาอย่างสบายใจ ราวกับเด็กสาวไร้เดียงสาในเปลนอน...
...หายไปแล้ว...ซินเรียนาคิด ความรู้สึกที่รุนแรงก่อนหน้าหายไปแล้ว ซึ่งก็หมายความว่าคนที่จะสูญเสียจิตใจปลอดภัยแล้ว ซึ่งมันอาจจะเป็นมิตรหรือศัตรูก็ได้ ซินเรียนารู้สึกเจ็บใจอยู่ลึกๆ ที่ถึงจะรู้สึกได้แต่ก็ไม่ลึกพอที่จะรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร
ซินเรียนามองประตูบานใหญ่เบื้องหน้า คนที่ได้แต่มองดูอย่างเธอก็เปรียบเทียบมันว่าเป็นภูเขาสูงที่ไร้ยอด มองเห็นแต่ก็ไม่อาจเอื้อมมือไปจับหรือแตะต้องได้
แสงสว่างวาบขึ้นจากทางด้านหลัง เธอหันไปมองทันที
ร่างบางของมิวนิทปรากฏขึ้นต่อหน้า ตราประทับที่ข้อมือของเธอเรืองแสงสีแดงสว่างจ้า ...เซริน เมกามิ เบิกตาโพล่งขึ้น เธอจ้องมิวนิทอย่างตกใจ
เซรินพยายามตะเกียดตะกายลุกขึ้น เธอเอื้อมมือไปคว้าชายกระโปรงสีเข้มของมิวนิทเอาไว้ “ซินฮอล์โร...เธอ ช่วย...ฉันด้วย” เธอคราง
มิวนิทจับมือของเซรินเอาไว้ เธอเข้าประคองร่างของเซรินขึ้น และหลังจากจัดให้เซรินยืนได้แล้ว เธอก็กางแขนออก “เข้ามารวมกับฉันสิ”
เซรินเอื้อมมือออกไป มันทะลุเข้าไปในร่างของมิวนิท แล้วร่างของทั้งคู่ก็ซ้อนทับกันพอดี
มิวนิทสูดหายใจ แล้วเธอก็พูดขึ้นด้วยเสียงของเซริน “ซินเรียนา...ตอนนี้เราไม่มีเวลาแล้ว... เดี๋ยวฉันจะช่วยแก้มัดมือให้ แล้วเราจะหนีออกไปด้วยกัน”
ไม่นานนัก ข้อมือของซินเรียนาก็เป็นอิสระจากพัธนาการ
“แล้วเราจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไรกันล่ะ” ซินเรียนาลูบแผลถลอกที่ถูกเชือกกัดตรงข้อมือขณะที่มองประตูขนาดใหญ่ตรงหน้า
มิวนิทในร่างของเซริน เมกามิยิ้ม “เรื่องนั้นฉันจัดการเอง”
ฮิเมะสะดุ้งตื่น เธอพยายามจะขยับตัวแต่ก็สะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซึมเข้ามา แพขนตากระพริบถี่ๆ เพื่อปรับ ตัว แล้วมือข้างหนึ่งก็วางลงมาทับบาดแผลของร่างเล็ก ฮิเมะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เจ้าของมือข้างนั้นชะงักไป และรีบชักมันออกทันที
เมื่อร่างเล็กพอจะมองเห็นได้รางๆ ยามชาดแว่นสายตาที่เจ้าตัวใส่อยู่เป็นประจำ ฮิเมะก็พบว่าเจ้าของมือนั้นคือเด็กสาวคนหนึ่ง เธอสวมชุดของโรงพยาบาล ที่ศีรษะมีผ้าพันแผลพันเอาไว้ นัยน์ตาสีน้ำผึ้งสั่นระริกราวกลับเด็กน้อยที่ตื่นกลัว
“เอ่อ... แคกๆ” ฮิเมะกำลังจะขยับริมฝีปากถามเด็กสาวแต่ลำคอรู้สึกแห้งผากจนเธอพูดไม่ได้ ร่างเล็กจึงรีบยกมือขึ้นปิดปากและไอออกมาติดต่อกัน เด็กสาวคนนั้นสะดุ้งก่อนจะกระวีกระวาดไปรินน้ำมาส่งให้ ฮิเมะรีบรับไปดื่มจนหมดแก้ว...เธอจึงรู้สึกดีขึ้นและเริ่มสงบลง
“แคกๆ เอ่อ...เธอเป็นใครอย่างนั้นหรือ” ฮิเมะเริ่มถาม แต่เด็กสาวคนนั้นกลับส่ายหน้า เธอทิ้งตัวลงไปนั่งกับพื้นห้องของโรงพยาบาล ฮิเมะชะงักไปก่อนจะรู้สึกตัวว่าเด็กสาวนั้นเริ่มหายใจหอบ นอนขดตัวเข้าหากัน และใบหน้าขึ้นสีระเรื่อด้วยพิษไข้ เธอหันซ้ายหันขวาอย่างลนลานไม่รู้จะต้องทำอย่างไรดี ก่อนจะรีบเข้าประคองร่างของเด็กสาวมานอนที่เตียง และตัวเองก็รีบร้อนไปเตรียมน้ำมาเช็ดตัวโดยลืมความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นหลังจากที่เธอตกลงมาจากดาดฟ้าชั้นสูงที่สุดของโรงพยาบาลไปสนิท
นับว่าเป็นโชคดีของเด็กสาวคนนั้นที่นานาโอะ ฮิเมะมักจะช่วยเหลือตัวเองเวลาเป็นไข้อยู่เสมอ...เธอจึงรู้ดีว่าควรจะต้องจัดเตรียมอะไรบ้าง ร่างเล็กคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กที่วางพาดเอาไว้กับราวในห้องน้ำของโรงพยาบาลมาผืนหนึ่ง จากนั้นก็ค้นตู้หาถ้วยใส่อาหารซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในห้องมารองน้ำ... และหายาลดไข้ชนิดไม่เป็นอันตรายแต่มีฤทธิ์อ่อนในตู้ยาข้างเตียงมาด้วย 2 เม็ด
เด็กสาวคนนั้นรินน้ำเผื่อเอาไว้แล้วสำหรับเพิ่มเติม ฮิเมะจึงสามารถคว้าไปใช้ได้ในทันที
ร่างเล็กประคองร่างของเด็กสาวขึ้นก่อนจะกรอกยาลงไปในปากและตามด้วยน้ำ เด็กสาวซึ่งสลึมสลือก็กลืนยานั้นลงไป ฮิเมะจัดท่าของเด็กสาวให้นอนราบตามปกติ ก่อนจะให้ผ้าขนหนูที่บิดน้ำหมาดเช็ดตัวให้
“...ซิน...เรียนา ยัย...นั่น อื้อ...” เด็กสาวขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเพ้ออะไรบางอย่างออกมา นานาโอะ ฮิเมะ นิ่งไปเมื่อได้ยินชื่อที่คุ้นเคยจากปากของเด็กสาว
“อือ...นานา...โอะ ฮิ...เมะ” เด็กสาวได้แต่เพ้อออกมาราวกับตกอยู่ในความฝันอันเลวร้าย
นานาโอะ ฮิเมะ จับมือของเด็กสาวที่สลบไปขึ้นมา มันทั้งสั่นและทั้งร้อน แต่ก็เต็มไปด้วยอารมณ์ ฮิเมะหลับตาลง ทำได้ก็แต่ภาวนาขอให้ทุกอย่างจบลงด้วยดีนั้น...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ อย่าเพิ่งหนีนะคะ งานเราเยอะจริงๆ ค่ะ
เฮ้อ! เบื่อจังเลยชีวิต ตอนนี้กำลังรู้สึกเฟลอย่างแรงเลยล่ะค่ะ
อัพนิยายก่อนแล้วจะดองชั่วคราวนะคะ (ทำหน้าเฟล)
Silver-Lake-Lanturn.
ความคิดเห็น