คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตัวแทนจากความมืด : Part II
Vampire's Slave
Part II.
Author : Silver-lake-lanturn
Status : ได้ฤกษ์กลับบ้านแล้ว...(ไปอยู่หอมา ยัยน้องสาวตัวดีกับเจ้ามาโร่มันดูแลไอดีเราหรือเปล่านะ)
pairing : ???
@ Magnet News
‘เหตุเกิด!! ลักพาตัวนักเรียนมหา’ ลัยเอกชนชื่อดัง!’
‘นักเรียนดีเด่น ‘เซริน เมกามิ’ แห่งมหา’ ลัย G หายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุระหว่างเดินทางกลับบ้าน ปากคำของผู้เห็นเหตุการณ์ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า อยู่ๆ เธอก็หายไปจากตรงนั้นแบบมองตามไม่ทัน...’
ร่างเล็กของ ‘นานาโอะ ฮิเมะ’ เปิดหนังสือพิมพ์ดูเพื่อฆ่าเวลารอ นัยน์ตาสีเขียวออกเทาที่อยู่ใต้แว่นเลนส์หนาไล่สายตาไปตามหัวข้อข่าวต่างๆ อย่างเหม่อลอย พอดีกับที่กระเป๋าสีน้ำตาลเข้มใบใหญ่ตกลงมาข้างๆ เท้าของเธอ
“ขอโทษนะ... ช่วยเก็บกระเป๋านั่นให้หน่อยสิ” เสียงเรียบๆ ดังขึ้นที่ข้างหู ทำให้ร่างเล็กสะดุ้งจนเผลอทำหนังสือพิมพ์ในมือตกพื้นด้วยเช่นกัน เธอหันไปเพื่อที่จะขอโทษ แต่เมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาสีแดงฉานของอีกฝ่าย ทำให้ร่างเล็กเป็นฝ่ายหลบสายตาออกมาแทนด้วยความกลัว
“ดะ...ได้ค่ะ” ร่างเล็กส่งกระเป๋าให้ด้วยมือที่สั่นเทา เธอหลบสายตาอย่างไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมอง เพราะว่าเธอกลัวว่าจะถูกร่างบางตรงหน้าทำร้ายอีก...
ซินเรียนามองภาพนั้นด้วยความรู้สึกสมเพช... ร่างเล็กๆ ที่กำลังสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวนั่นก็ดูอ่อนแอเกินกว่าที่จะเป็นอันตรายต่อใครก็ตาม บางทีเธออาจจะแค่คิดมากจนเกินไป...
“อ่ะ...” ร่างบางเผลอร้องออกมาเบาๆ เมื่อสัมผัสกระเป๋าของเธอที่ถูกส่งคืนด้วยมือเล็กๆ นั่น...ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าจะมี...
“ขอโทษด้วยนะคะ... ตะ ต้องขอตัวก่อนแล้วค่ะ” ร่างเล็กละลักละล่ำบอก ก่อนจะวางหนังสือพิมพ์ลงและวิ่งออกไป ทำให้ร่างบางที่กำลังจะเรียกเธอไว้ทำไม่ได้
“เดี๋ยวสิ...” เพราะร่างเล็กวิ่งหนีไปเสียแล้ว... เหลือไว้ก็แต่ร่างบางที่กำลังยืนมองประตูร้าน ที่เพิ่งจะปิดไปเมื่อครู่นี้อย่างครุ่นคิด...
‘ตึง...’
“บ้าจริง...!! ใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” นี่เป็นครั้งแรก ที่ร่างบางได้เห็นร่างสูงของชายที่มีนัยน์ตาสีดำสนิทดูสุภาพถึงกับสบถออกมาอย่างตกใจ ส่วนร่างสูงนัยน์ตาสีแดงฉานก็ยังคงทำท่าทางสบายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“กะ...เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอคะ!?” ร่างบางถามอย่างเป็นกังวล ร่างสูงนัยน์ตาสีดำสนิทได้แต่ส่งยิ้มบางๆ ให้ แต่คนที่ปากไม่เคยว่างก็พูดแทรกขึ้นมาว่า
“ไอพวกที่ชอบวางระเบิดชาวบ้านมันก่อเรื่องขึ้นอีกน่ะสิ... หมอนั่นมันห่วงแต่บ้านตัวเองแค่นั้นแหล่ะ”
เจ้าของชื่อสะดุดกึก หันมาส่งรอยยิ้มให้...แต่สายตาอาฆาตมาดร้ายกลับส่งไปให้ชายนัยน์ตาสีแดงแบบสุดๆ แต่ร่างสูงก็ยังคงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป
“เปล๊า... ฉันเปล่าหมายถึงนายซะหน่อย ฉันแค่พูดว่า ‘หมอนั่น’ เอง...” ร่างสูงพูดอย่างยียวนกวนประสาทอีก 2 ร่าง นั่นทำให้ร่างบางดูเป็นเดือดเป็นแค้นขึ้นมาอย่างมาก
“นี่นาย...!! หัดพูดจาดีๆ ซะบ้างสิยะ” ร่างบางตวาดเสียงสูง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างสูงตรงหน้ารู้สึกสะเทือนแม้แต่น้อย
“แล้วเธอล่ะ...แม่คนรับใช้”
“พันธสัญญาเสร็จสมบูรณ์...” เสียงหนึ่งดังออกมาจากความมืดมิดโดยรอบ... ดูแล้วคล้ายกับว่าพายุหมุนวนอยู่ภายในห้องนั้น...แสงสว่างริบหรี่ในห้องทำให้เห็นร่าง 2 ร่างเพียงรางๆ
“ความลับระหว่างรา...คงจะถูกปิดผนึกไปโดยสมบูรณ์แล้วสินะ” ร่างสูงบอก พลางสบตาเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำผึ้งที่ดูสวยหวานของอีกฝ่ายเล็กน้อย “หากรั่วไหลออกไปอาจทำให้สมดุลของโลกนี้เกิดความไม่เสถียรอีกแน่...”
ร่างเล็กอีกร่างยิ้มที่มุมปากแค่บางเบา “ไว้ใจฉันเถอะ...ฉันไม่ปล่อยไว้เฉยๆ แน่”
แต่แล้ว... อยู่ๆ พื้นก็เริ่มสั่นเบาๆ ซึ่งนั่นไม่ได้ทำให้ร่างสูงผิดสังเกต แต่กับร่างเล็กแล้ว... นั่นก็แค่ทำให้เธอรู้สึกสนุกมากขึ้นเท่านั้น
ทันใดนั้นเอง... ก็มีเสียงเหมือนคนวิ่งผ่านไปจากห้องที่ร่างทั้ง 2 อยู่ “โอ๊ะ!! ...ดูเหมือนว่าจะมีคนแอบได้ยินพันธสัญญานี้เข้าแล้วล่ะสิ” ร่างเล็กพูดพลางเหยียดรอยยิ้มที่มุมปาก
“ว่าอย่างไรนะ...!!” ร่างสูงตวาดเสียงลั่น พร้อมเสียงกระซิบจากความมืดว่า...
...หึ หึ หึ ได้เวลาที่นาฬิกาเรือนนั้นจะเดินอีกครั้งแล้วสินะ...
ร่างบางที่นั่งขัดสมาธิเชื่อมต่อตนเองเข้ากับใต้ศูนย์กลางของโลก ลืมตาขึ้นมาทันทีที่ทุกอย่างถูกตัดขาดไปจากการรับรู้ของเธอ นัยน์ตาที่ยังคงเป็นสีแดงฉานอยู่กวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างรู้สึกแปลกใจ
“ห้องนี้... หึ มีเรื่องให้สนุกกันต่อแล้วสินะ...”
ภาพเบื้องหน้าคือห้องทรงสี่เหลี่ยมสีโทนทึบ ตกแต่งห้องในสไตล์ยุโรป เฟอร์นิเจอร์สีขาวออกหม่นที่น่าจะเป็นสีแบบนั้นอยู่แล้วตั้งแต่ซื้อ...เพราะมีรอยเช็ดถูทำความสะอาด แต่มันกลับเป็นสีแบบนั้น ของใช้อย่างอื่นก็ดูหรูหราดี ทั้งโซฟากลมใกล้ชั้นหนังสือสีขาวหม่นที่ถูกวางไว้บนชั้นอย่างเป็นระเบียบและจัดหมวดหมู่เสียเรียบร้อย แก้วกาแฟดำที่ยังอุ่นๆ อยู่ถูกวางทิ้งเอาไว้บนโต๊ะที่เกลื่อนกลาดไปด้วยเศษกระดาษมากมาย และบนเตียงสีขาวดูหนานุ่มนั้น...มีร่างสูงของผู้ชายผิวสีขาวซีด สีผมออกเทาๆ ดำๆ และแต่งตัวเรียบๆ ในโทนดำทั้งตัวนอนหลับสนิทอยู่
‘ก๊อก ก๊อก’
“ขอเข้าไปทำความสะอาดหน่อยนะ” เสียงเคาะประตูและตามมาด้วยเสียงหวานใสของผู้หญิงดังมาจากนอกประตูห้อง ทำให้ซินเรียนาต้องรีบเข้าไปซ่อนในตู้เสื้อผ้าสีขาวที่มุมห้องทันที
‘แอ๊ดดด’
ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างบางในชุดสาวเมดที่เดินเข้ามา ในมือบางทั้งสองข้างถืออุปกรณ์ทำความสะอาด และขาขวาก็ลากเครื่องดูดฝุ่นเข้ามาไว้ในห้องก่อนจะปิดประตูลงเบาๆ
แต่เมื่อร่างบางเห็นคนที่กำลังหลับเป็นตายอยู่บนเตียง ริมฝีปากบางสวยนั้นก็ฉีกยิ้มที่มุมปาก... ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะที่มีกระดาษวางกองเกลื่อนอยู่บนโต๊ะ และลากลังใส่ขวดไวน์เปล่าๆ ที่เจ้าของห้องกินหมดและออกมา
ร่างบางหยิบขวดไวน์ขึ้นมาหนึ่งขวดก่อนจะหักมันกับโต๊ะตัวนั้นเสียงดัง ‘เปรี้ยง’ อย่างแผ่วเบา และเดินเข้าไปหาคนบนเตียงช้าๆ เงื้อขวดที่ถูกหักและมีเศษแก้วคมกริบขึ้นสูง
...แต่ดวงตาสีแดงฉานที่เคยหลับสนิทกลับลืมโพล่งขึ้นมา และคว้าขวดไวน์ไปจากมือร่างบางอย่างรวดเร็ว
“ทำบ้าอะไรของเธออยู่น่ะ รู้ตัวหรือเปล่า” ร่างสูงตวาดลั่น เขาเลยลืมตัวไปเผลอกำข้อมือบางแน่นจนร่างบางหลุดเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
“อ้าว อ้าว... อย่างเพิ่งรีบร้อนจบสิ” เสียงหวานที่คุ้นเคยบอกอย่างจงใจยั่วโมโห “...ถ้าจบก่อนไม่ก็ไม่สนุกน่ะสิ”
...ร่างบางระหงยืนอยู่บนราวระเบียงสีหม่น เส้นผมสีขาวพิสุทธิ์ปลิวไสวไปตามสายลม ชุดกระโปรงยาวสีเทาอ่อนผ่าลึกขึ้นไปจากชายกระโปรงจนถึงต้นขาขาวนวล เธอสวมรองเท้าส้นสูงสีฟ้าอ่อน รับกับกำไลข้อมือข้างขวาสีฟ้าเทาสลับดำ ต่างจากมือซ้ายที่สวมกุญแจมือเอาไว้ นัยน์ตาสีน้ำผึ้งสวยหวานที่ใช้สะกดให้อยู่ในภวังค์ ตอนนี้กำลังมองมาทางร่างสูงและร่างบางอย่างนึกสนุก ริมฝีปากบางที่เคลือบสีชมพูอ่อนจากลิปสติกกำลังคลี่ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก...
“ใช่ไหมล่ะคะ... คุณตรงนั้นน่ะ” ร่างบางระหงส์ชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้า ก่อนที่ซินเรียนาจะก้าวออกมา
“ไม่รู้สิ...”
ร่างเล็กนั่งขดตัวสั่นอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมทึบๆ แว่นสายตากระเด็นไปอยู่ส่วนไหนของห้องแล้วเธอก็ไม่อาจจะทราบได้ เพราะความไม่เคยชินกับการถอดแว่นและความหนาวเย็นของอากาศภายในห้องทำให้เธอกลัวจนตัวสั่น แสงที่รำไรภายในห้องทำให้เธอพอจะรู้ว่า มีตุ๊กตาที่ดูเจือจางตัวหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนพื้นห้องด้วยอีกตัว...
“อ๊ะ...!!” ฮิเมะร้องออกมาอย่างตกใจ... เมื่อรู้สึกถึงของเหลวเย็นๆ มากระทบกับปลายเท้า ร่างเล็กรีบมองไปรอบๆ ห้องเพื่อจะหาสาเหตุ และก็ต้องพบว่า ที่พื้นใกล้ๆ มีรูช่องระบายน้ำทิ้งขนาดเล็กที่ตอนนี้มีน้ำไหลซึมออกมา เธอจึงถอยร่นไปอยู่อีกฟากของห้อง ฮิเมะคว้าแว่นสายตาขึ้นมาสวมเอาไว้ และรู้สึกหวาดกลัวกับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ
‘อย่าหลับนะ!’ ฮิเมะคงเกือบจะสลบไปด้วยความตกใจเสียแล้ว ถ้าไม่ได้ยินเสียงร้องเรียกดังขึ้นมา ‘...เธอไม่จำเป็นต้องตกใจไปหรอก ฉันอยู่ตรงนี้...’
ร่างเล็กยกมือขึ้นมาปิดปากของเธอไว้อย่างหวาดกลัว...ตุ๊กตาตัวนั้นพยายามลุกขึ้นมาอย่างยากลำบากเพราะขาที่บาด เจ็บ และในที่ สุดฮิเมะก็เข้าใจ...นั่นไม่ใช่ตุ๊กตา แต่เป็นวิญญาณต่างหากล่ะ!!
‘ฉันจะถ่วงเวลาเอาไว้ให้เธอเอง ในระหว่างนั้น...รีบหนีออกไปให้ไกลที่สุดเลยนะ’ ร่างนั้นบอก
“แต่อย่างไรล่ะ...!?” ฮิเมะถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล “...ที่นี่มีแต่ผนัง และก็รูท่องระบายทิ้งที่เล็กนิดเดียว...!!! ถ้ามันเป็นอย่างนั้นแล้วจะเหลือทางออกให้หนีอีกงั้นเหรอ...!?”
‘เธอรู้สึกหรือไม่ล่ะว่าที่นี่มีแสง... ถึงจะแค่แสงเล็กๆ ก็ตาม’ ร่างนั้นเกริ่นกึ่งบอกใบ้ ฮิเมะคิดตามคำพูดนั้น ก่อนจะหันไปเจอหน้าต่างระบายลมเล็กๆ แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อมันมีขนาดเล็กเกินกว่าจะหนีออกไปได้
“ทำไม่ได้หรอก” ฮิเมะพูดอย่างสิ้นหวัง ตอนนี้น้ำเริ่มสูงขึ้นมาถึงข้อเท้าแล้ว ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยจะดีเลย... ร่างนั้นก็ดูกระวนกระวายมากด้วย ก่อนที่จะถอนหายใจแล้วพูดว่า
‘ช่วยไม่ได้...ทางมหาลัยไม่อย่างให้เรื่องถูกเปิดโปงออกสู่สารธารณะนักหรอกนะ แต่ฉันจะเล่าให้เธอฟังก็แล้วกัน...’ ร่างวิญญาณสาวกระแอมเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มต้นเล่า ‘...มหาลัย G ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคนอยากที่จะเข้าเรียนด้วยมากที่สุด เพราะชื่อเสียงของพวกเขา ทำให้พวกเขาเริ่มทำการทดลองบางอย่างกับฉันที่เป็นนักเรียนดีเด่น ฉันถูกพวกเขาใส่สารเคมีอะไรสักอย่างเข้าไป และมันก็ส่งผลกระทบกับร่างกายของฉัน พวกเขาเรียกการทดลองนี้ว่า ‘เมกามิ แซมเปิล 001’ เป็นการทดลองการสร้างพลังจิตให้แก่มนุษย์ เพื่อความร่ำรวยของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงปิดเรื่องการทดลองครั้งนี้ไว้เป็นความลับ’
ฮิเมะแอบกลืนน้ำลายด้วยความหวาดกลัว
‘และแน่นอนว่า...หากฉันจะใช้มัน พลังนี้จะมีผลข้างเคียงกับร่างกายของเธอที่จะเป็นร่างกายให้ฉันด้วยเช่นกัน...’ เซริน เมกามิกล่าวเรียบๆ ก่อนจะหันมาถาม ‘พร้อมจะรับความเสี่ยงหรือยัง’
ฮิเมะไม่ตอบ เพียงแต่พยักหน้าเบาๆ เท่านั้น...
ร่างบางเอาเสื้อโค้ทสีดำสนิทไปลอยน้ำอย่าง (พยายาม) ใจเย็น ด้านหลังคือผู้ชายในชุดทหารอีกจำนวนหนึ่งที่กำลังจ่อปืนเล็งแผ่นหลังของเธออยู่ แวมไพร์หนุ่มถูกด้ามปืนกระแทกอย่างแรงจนหมดสติไป... ซินเรียนายืนอยู่ข้างๆ ร่างบางระหงที่ขอบระเบียง เมดสาวคาดเดาว่าพวกเธอน่าจะเป็นพวกเดียวกัน
“อย่าโอ้เอ้...!! ทิ้งอาวุธทุกอย่างลงไปในน้ำให้หมด พวกเกราะกันกระสุนนั่นด้วย!!” ชายในชุดทหารตวาด ร่างบางระหงหัวเราะคิกคัก ต่างจากซินเรียนาที่ยังดูนิ่งเฉย
จากทางหางตา...ร่างบางเห็นซินเรียนากระซิบอะไรบางอย่างกับร่างบางระหงนั่นเบาๆ แล้วทั้งคู่ก็เดินหายเข้าไปในห้องของอิลทอร์...แวมไพร์หนุ่มที่นอนสลบอยู่ในหมู่พวกผู้ชายในชุดทหาร เธอนึกสงสัยว่าอัลทอร์จะหนีไปได้ไกลแค่ไหนกันใน 1 ชั่วโมง หรือบางทีเขาอาจจะถูกจับได้ หรือ...
คำถามซักร้อยล้านข้อปรากฏขึ้นในความคิดของเธอ
...ซินเรียนามองเด็กสาวร่างเล็กที่มีโครงหน้าเหมือนกับฮิเมะทุกประการตรงหน้า ซึ่งก็จ้องกลับมาเช่นกัน ก่อนที่ร่างบางระหงจะเป็นฝ่ายค้อมหัวลงอย่างสง่างาม
“คงจะไม่ต้องแนะนำตัวอะไรกันมาก เธอคือซินเรียนาสินะ”
“ตามมารยาทแล้วเธอจะต้องแนะนำตัวก่อนแล้วค่อยถามชื่ออีกฝ่ายไม่ใช่หรือ...” ซินเรียนาย้อนถาม ซึ่งร่างตรงหน้าก็ตีสีหน้าเสแสร้งตกใจทันทีก่อนจะยิ้มหวาน
“แหม... ต้องขอโทษด้วยนะคะ” แล้วเธอก็โค้งหัวอีกครั้ง “ชั้นเป็นบาปแห่งความกลัว ‘ซินลิเฟียร์’ ค่ะ”
“ซินเรียนา” ซินเรียนาตอบสั้นๆ ก่อนจะพุ่งเข้าหาซินลิเฟียร์ในพริบตาเดียว...ซึ่งซินลิเฟียร์ก็หยุดมันเอาไว้ด้วยการสะบัดพัดเพียงแค่ครั้งเดียว ซินเรียนาผงะถอยไปข้างหลัง
...คราวนี้ซินลิเฟียร์เป็นฝ่ายรุกเข้ามาบ้าง เธอไล่ต้อนซินเรียนาจนมาอยู่ชิดขอบระเบียง...แค่การขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็อาจจะทำให้เธอพลาดท่าตกลงไปได้...
“หึ...” ซินลิเฟียร์หัวเราะในลำคอ เธอถอดกำไลข้อมือและกางมันออก ปรากฏเป็นมีดเล่มหนึ่ง ร่างบางระหงจ่อมันเข้าที่คอของซินเรียนา และไล่ดันเธอให้พลาดตกลงไปข้างล่าง
ซินเรียนายิ้มเล็กน้อย...แต่เป็นยิ้มเครียดๆ
ซินลิเฟียร์ไม่ปล่อยโอกาสนั้นแน่นอน เธอตวัดปลายมีดเข้ามาหาร่างบางทันที ซินเรียนาเบี่ยงตัวหลบ...และเธอก็ตกลงไปจากระเบียง...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ได้กลับบ้านแล้ว...หลังจากทนอยู่กับเพื่อนร่วมหอที่ทำตัวน่ารำคาญ มาก...+ เอฟเฟกต์ลากเสียงยาวๆ <<<[นอกเรื่องละ]
คิดถึงข้าพเจ้าไหมเอ่ย คิดถึงไหม คิดถึงไหม...
แหะๆ ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่เป็นโรคคิดถึงบ้าน (กับรีดเดอร์ที่รัก) เท่านั้นเองค่ะ
ไว้จะทยอยอัพนะคะ ติดตามกันด้วยล่ะ +o+
Silver-Lake-Lanturn.
ความคิดเห็น