คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เสียงกรีดร้องของเจ้าหญิง : Part I
The Princess Of Doll
Part I.
Author : Silver-lake-lanturn
Status : ขี้เกียจตัวเป็นขน
pairing : ???
มนุษย์... คือสิ่งที่สูงส่ง
แต่แล้วอย่างไร... ถ้าจิตใจนี้จมดิ่งลงสู่ความมืดมิดแล้วล่ะก็...
ร่างกายนี้ก็เป็นแค่หุ่นเชิดสำหรับด้านมืดในจิตใจเท่านั้นแหล่ะ...!!!
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“อย่าวิ่งเร็วนักสิ... ฉันตามเธอไม่ทันแล้วนะ” เด็กสาวร่างบางที่ยืนหอบหายใจอยู่อย่างเหนื่อยๆ ตะโกนบอกเพื่อนสาวที่วิ่งนำหน้าเธอไปไกลเสียแล้ว เธอจึงตัดสินใจเลิกตามและเงยหน้าขึ้นมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกแทน...
“นี่มัน... อะไรกัน” เด็กสาวพูดอย่างติดๆ ขัดๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองกระจกอยู่นานแล้วแต่ก็ยังเห็นภาพสะท้อนของใครบางคน... ใครบางคน ที่ไม่ใช่เธอ...!!!
‘หึ หึ หึ... ถ้าจิตใจของเธอจมดิ่งไปเมื่อไร ร่างกายนั้นก็เป็นแค่หุ่นเชิดของฉันเท่านั้นแหล่ะ’
“อะ... ทำไมกัน” มือบางสั่นระริกขณะที่จับด้ามปืนพกสำหรับซ้อมยิงเอาไว้ “ทำไมฉันถึงควบคุมไม่ได้...”
‘หึ หึ บ๊ายบาย ลายก่อนและลาขาด หึ หึ’
‘ปัง!’ เสียงลั่นไกปืนดังขึ้นในขณะที่ร่างบางนั้นล้มฟุบลงไป นัยน์ตาที่เบิกกว้างสีน้ำตาลอ่อนที่เคยสดใส กลับกลายเป็นนัยน์ตาที่ดูไร้แวว ของเหลวสีชาตไหลออกมาไม่หยุด
“กรี๊ดดดด!!” เสียงกรีดร้องอย่างตื่นตระหนกดังขึ้น บรรดาคนที่เดินผ่านไปมาก็หันมาให้ความสนใจกับร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นพร้อมกับปืนที่อยู่ในมือ
“ว๊าย!! ตายแล้ว”
“เด็กสมัยนี้นี่จริงๆ เลยนะ ทำไมถึงชอบคิดสั้นกันจังเลย ไม่นึกถึงหัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่บ้างเลย”
“เค้ากลัวจังเลยอ่ะตัว ตัวช่วยปลอบเค้าหน่อยได้ป่ะ” เสียงบ่นนินทาดังขึ้นจากรอบทิศ แต่มันก็ไมได้รบกวนถึงร่างบางของเธอเลยแม้แต่น้อย ผิวกายของเธอเพียงแต่ซีดลงยิ่งกว่าเก่าจนน่ากลัวเท่านั้น...
ทุกเสียงถูกหยุดลงด้วยเสียงจากรถพยาบาลที่ขับตรงมายังที่เกิดเหตุ และตามหลังมาด้วยรถตำรวจ บริเวณตรงนั้นก็ดูจะแตกตื่นกันขึ้นมาทันที เสียงร้องโวยวายดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย แต่ทั้งหมดก็เลี่ยงไม่ได้ ต้องยอมไปให้ปากคำที่โรงพักแต่โดยดี...
กลิ่นอายแห่งความเศร้าดังมาพร้อมกับบทสวดขอพรให้ไปสู่สถานที่หลังความตายอย่างเป็นสุข ไม่ติดค้างใดๆ ต่อทางครอบครัว หญิงสาววัยกลางคนที่มีใบหน้าหมองคล้ำของคนที่เพิ่งจะผ่านการร้องให้มาอย่างหนักกำลังยืนอวยพรแด่ผู้เป็นลูกสาวสุดที่รักยิ่งอย่างเศร้าโศก และทิ้งดอกฮอลลี่ลงไปหน้าโลงศพด้วยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา
“แม่ไม่เหลือใครอีกแล้วล่ะลูก... พ่อก็จากไปแล้ว ลูกยังจะจากไปอีก แม่...ไม่เหลือใครแล้ว” หญิงสาวเอ่ยพึมพำราวกับกำลังเพ้ออยู่ มือของเธอเลื่อนไปปาดน้ำตาออก และอวยพรให้เป็นครั้งสุดท้าย...
แต่ก่อนที่หญิงสาวจะได้เดินออกจากสุสาน... สารวัตรหนุ่มก็เข้ามาเอ่ยขอคุยด้วย ซึ่งเธอก็ไม่ได้ตกใจอะไร
“เราได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยแล้วว่า ไม่มีใครพบเห็นตัวคนร้าย แต่มีพยานคนหนึ่งบอกว่าเห็นเธอยกปืนขึ้นมาลั่นใส่ตัวเอง พอเราถามว่าทำไมเขาถึงไม่ร้องโวยวาย เขาก็ตอบมาว่า คิดว่าเด็กคนนั้นกำลังเล่นอยู่ เลยไม่ได้เอะใจ...” ชายหนุ่มเริ่มเปิดประเด็น ส่วนหญิงสาวก็นั่งนิ่งฟังด้วยอาการสงบจนน่าแปลกใจ
“ค่ะ...”
“นี่... เธอว่าอย่างไรล่ะ เทียร์รา” หญิงสาวในชุดโจ๊กเกอร์ถาม ตุ๊กตาหุ่นเพียงแต่ขยับปากตอบ
“ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม... เพียงแค่นายท่านคิด ดิฉันก็พร้อมจะเห็นด้วยเสมอค่ะ” รอยยิ้มอย่างพอใจปรากฏที่มุมปากของเด็กสาว “ในเมื่อดิฉัน... เป็นของนายท่านคนเดียว”
“หึ หึ... น่ารักมาก เทียร์ราที่รัก” เด็กสาวพูดพลางเชยคางตุ๊กตาตัวนั้นขึ้นมา และแนบริมฝีปากลงกับปากเย็นเฉียบของตุ๊กตาตัวนั้นเบาๆ “ทั้งร่างกายและหัวใจของเธอ... ต้องเป็นของฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น”
“ค่ะ นายท่าน” ปากของตุ๊กตาขยับรอยยิ้มบางๆ เด็กสาวในชุดโจ๊กเกอร์จึงหัวเราะเบาๆ ในลำคอและดึงตุ๊กตาหุ่นตัวนั้นเข้ามากอด จากนั้นก็แนบริมฝีปากลงไปอีกครั้ง
“ใช่... ของฉันคนเดียว ของฉันตลอดไป!!”
“หึ หึ... ในที่สุดเธอก็ต้องมอบร่างกายนี้ให้กับฉันจนได้ หึ หึ...” เด็กสาวพูดพลางยกมือขึ้นมามองเล็กน้อย ริมฝีปากบางยกยิ้มแสยะที่มุมปาก เมื่อมองมือขาวซีดของตนเองอย่างพอใจ ก่อนที่จะต้องเบ้ปากน้อยๆ อย่างรังเกียจ “...แต่สกปรกเป็นบ้าเลย...”
เด็กสาวลุกขึ้นยืน ปัดเนื้อปัดตัวอย่างนึกรังเกียจกลิ่นสาบที่ลอยอยู่รอบๆ เธอเบ้ปากอย่างไม่พอใจ แต่ก็จำเป็นที่จะต้องรีบออกมาจากบริเวณหลุมฝังศพนี่ก่อนที่ตนเองจะเหม็นสาบไปมากกว่านี้...
“เหม็นชะมัด... มนุษย์พวกนั้นทนกันเข้าไปได้อย่างไรนะ” เด็กสาวบ่น เธอเดินเลียบถนนใหญ่โดยไม่สนใจสายตาที่มองมาอย่างสงสัยหรือรังเกียจใดๆ เลยแม้แต่น้อย เพราะจุดหมายของเธอ... สำคัญยิ่งกว่าที่จะต้องมาเกรงกลัวสายตาของใครสักคนเสียอีก!!
@ Phantom’s café
“นี่ๆ ได้ข่าวหรือยัง เรื่องที่มีคนขอพบท่านดยุกเมื่อเช้านี้น่ะ...” พนักงานเสิร์ฟสาวถามบาร์เทนเนอร์หนุ่มที่เป็นคนรักของตนด้วยความอยากรู้อยากเห็น ซึ่งชายหนุ่มก็พยักหน้าตอบ
“อื้อ... (^_^) (_ _ ได้ข่าวแล้ว เห็นเขาบอกว่าเป็นเด็กผู้หญิงในชุดโจ๊กเกอร์ ท่าทางดูโรคจิตนิดๆ ใช่ไหม?” บาร์เทนเนอร์หนุ่มถามกลับบ้าง
“ใช่จ้ะ... แต่ท่านดยุกนี่ก็แปลกนะ เชิญเข้าบ้านเหมือนรู้จักกันอย่างนั้นแหล่ะ”
“นี่ๆ ฉันว่าลูกค้าโต๊ะ 6 เค้ามองเราแปลกๆ นะ” พนักงานเสิร์ฟสาวอีกคนสะกิดไหล่คนทั้งสองให้หันไปมองตาม ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวต่างก็ต้องตกใจเล็กๆ
“เด็กคนนั้นใช่ ‘เด็กหญิงในชุดโจ๊กเกอร์’ หรือเปล่า...?”
“คิดว่าอย่างนั้นล่ะมั้ง... แต่มองตุ๊กตานั่นซะตาหวานเชื่อมเลย” ทั้งคู่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหวาดๆ เกี่ยวกับเรื่องของเด็กสาวในชุดโจ๊กเกอร์ โดยที่ไม่รู้สึกตัวเลยว่า... ยังมีคนแอบจับตามองพวกเขาอยู่อย่างลับๆ
“นี่เทียร์รา ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ช่างดูน่าเบื่อจังเลยนะ” เมื่อเด็กสาวในชุดโจ๊กเกอร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเบื่อๆ ตุ๊กตาสาวก็หันหน้ามามองอย่างแปลกใจเล็กๆ แต่ก็ตอบกลับเด็กสาวตามปกติ
“ถ้านายท่านคิดเช่นนั้นแล้วล่ะก็... ดิฉันก็ต้องคิดเช่นเดียวกันอยู่แล้วล่ะค่ะ” คำตอบนั้นเรียกรอยยิ้มเหยียดจากมุมปากของเด็กสาวได้ดี
“ดังนั้น... ฉันก็เลยคิดว่า จะมาหา ‘เหยื่อ’ จัดการแก้เบื่อน่ะ” เด็กสาวตอบ จากนั้นเธอก็หันมาถามตุ๊กตาว่า “แล้วเธอล่ะ เทียร์รา... อยากจะไปหรือเปล่า”
“ค่ะ... เพราะดิฉันเป็นของนายท่าน ของนายท่านแต่เพียงผู้เดียว”
“น่ารักมาก... เทียร์ราที่รัก” เด็กสาวพูดพลางคว้าร่างของตุ๊กตาสาวไปประทับริมฝีปากลงไปเบาๆ “ถ้าอย่างนั้น เราก็ไปกันเถอะ...”
“อย่านะ...! คิดจะทำอะไรกับฉันน่ะ” เด็กสาวอายุประมาณ 12 - 13 ปีตวาดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เมื่อมองตุ๊กตาหุ่นที่ทำขึ้นมาเพื่อการแสดงมายากล กับ เด็กสาวในชุดโจ๊กเกอร์ที่ยืนหัวเราะชั่วร้ายอยู่ด้านหลังอย่างหวาดระแวง ในมือของเธออุ้มตุ๊กตาหมีสีชมพูอ่อนที่เพื่อนชายของเธอซื้อให้เอาไว้
“หึ... เทียร์รา อย่าไปสนใจสิ่งที่เธอพูดเลย... จัดการกับเธอเสียเถอะ หึ หึ...” เด็กสาวในชุดโจ๊กเกอร์ออกคำสั่งพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ในลำคอ
“ค่ะ นายท่าน...”
“พวกแกต้องการอะไร... เงินเหรอ หรือว่าสมบัติ” เด็กหญิงถามเสียงสั่น พลางคว้าเอากระเป๋าเงิน โทรศัพท์ และของใช้อย่างอื่นทั้งหมดที่เธอคิดว่ามีค่าออกมาโยนใส่มือของตุ๊กตาหุ่น “อยากได้ก็เอาไปเลยสิ...”
“จัดการเธอเสียเถอะ... เทียร์ราที่รัก เพราะว่าถึงจะถ่วงเวลาแค่ไหน... ก็ไม่มีประโยชน์หรอก หึ หึ...” เด็กสาวในชุดโจ๊ก-เกอร์รับของมาจากมือของตุ๊กตาสาวและโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี
“ค่ะ...”
“พวกแกจะเอาอะไรจากฉัน... ฉันก็ให้ไปหมดแล้วนะ” เด็กหญิงตวาดสียงสั่น แต่มันช่างเป็นคำถามที่เรียกรอยยิ้มจากเด็กสาวในชุดโจ๊กเกอร์ได้เป็นอย่างดี...
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก... พวกเราเพียงแต่อยากให้เธอตายไปก็เท่านั้น” เด็กสาวในชุดโจ๊กเกอร์ตอบยิ้มๆ แต่... ช่างเป็นรอยยิ้มที่น่าขนลุกเสียจริง...
“อย่านะ...!! คิดจะทำอะ... กรี๊ดดดด!!” เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนก็ยังคงดังขึ้นติดต่อกัน พร้อมๆ กันกับเสียงหัวเราะลั่นอย่างมีความสุขของเด็กสาวในชุดโจ๊กเกอร์เท่านั้น...
“หืม... อยากจะลองงั้นเหรอ” เสียงทุ้มถามอย่างระรื่นเล็กน้อย เมื่อมองเด็กสาววัย 16 ปีที่เขาเชิญเข้ามา หน้าตาสวยติดคมเล็กน้อยมองตามกระดานหมากรุกอยู่เงียบๆ
“หึ... ใช่แล้วค่ะ” เด็กสาวหัวเราะเบาๆ ในลำคอ
“ต่อให้หน่อยเอาไหม... เดี๋ยวจะกล่าวหาว่าฉันเอาจริงกับเด็กหัดเล่นใหม่น่ารักๆ อย่างเธอ”
“ไม่ล่ะค่ะ...” เธอบอกด้วยสีหน้ายิ้มน้อยๆ ก่อนจะพูดต่อว่า “แต่คุณจะต้องเล่นกับฉันนะคะ”
“รู้จักต่อรองซะด้วย.... เล่นตัวเหมือนกันนะสาวน้อย” ชายหนุ่มหยอกเย้าเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดี “กี่นาทีดีล่ะ... ซักครึ่งชั่วโมงเป็นไง...”
เด็กสาวเหยียดรอยยิ้มแสย่ะบางๆ ที่มุมปาก “...แค่ 10 นาทีก็เหลือเฟือแล้วค่ะ”
“หึ หึ... ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ช่างเป็นเด็กสาวที่ร้ายกาจจริงๆ” เด็กหญิงในชุดโจ๊กเกอร์พูด เมื่อมองลงไปจากกระจกใสที่ใช้กันห้อง โดยมีตุ๊กตาสาวยืนอยู่ข้างๆ กาย “ดูแล้ว...เป็นจิตด้านมืดที่น่าสนใจพอสมควรเลยนี่...”
“ค่ะ นายท่าน”
“นั่นสินะ... เธอนี่น่ารักจริงๆ เลย” เด็กสาวพูด พลางคว้าร่างของตุ๊กตามาไว้ในอ้อมกอด “แล้วเธอล่ะ... เทียร์ราที่รัก เธอจะรักฉันแบบที่ฉันรักเธอหรือเปล่า...?”
“ท่านเป็นเพียงคนเดียวที่สร้างดิฉันขึ้นมา” นัยน์ตาที่ไร้แววของตุ๊กตาสาวถูกเลื่อนขึ้นมาสบกับดวงตาที่ฉายแววเจ้าเล่ห์ของเด็กสาวช้าๆ “ดิฉันก็ต้องรักท่านอยู่แล้วค่ะ...”
“ดีมาก... เทียร์ราที่รัก” เด็กสาวหลบสายตาเล็กน้อย ก่อนจะแสย่ะรอยยิ้มที่มุมปากออกมา “เธอน่ารักมาก...”
“อย่างที่บอกไงเพคะ ฝ่าบาท” เพราะสรรพนามที่ถูกเปลี่ยนกะทันหัน ทำให้ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘เจ้าชายลำดับที่ 3’ ถึงกับตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะถามเสียงระรื่น
“รู้ตัวแล้วเหรอ... เธอสินะที่มาขอพบฉัน”
“เพคะ ฝ่าบาท” เด็กสาวตอบยิ้มๆ พลางมองหมากบนกระดาน ที่ตอนนี้คิงขาวของเธอรุกฆาตอีกฝ่ายไปเรียบร้อยแล้วด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนที่จะแสย่ะรอยยิ้มกว้าง “หม่อมฉันมีเรื่องที่จะต้องถามท่านอยู่อย่างหนึ่ง...”
“อะไรงั้นหรือ...” ชายหนุ่มถามด้วยท่าทีสบายๆ ราวกับว่ากำลังพูดกับสหายสนิท มิใช่ประชาชน “...ที่เจ้าอยากจะถามข้า”
“ท่านปรารถนาความตายรึไม่...?”
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เสร็จแล้ว... [นอนดีดดิ้น... >_<]
นั่งคิดอยู่นานกว่าจะเลือกเอามาลง (-_-^^
พอดีว่ามันหมดอารมณ์แต่งง่ายๆ ก็เลยจะแจ้งว่า...ถ้าจะอ่านก็ต้องทำใจรอนะคะ >o<
Silver-Lake-Lanturn.
ความคิดเห็น