" />
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC MISFORTUNE เรียกง่ายๆว่า "ซวย": wonhyuk ft. kihae kyumin

    ลำดับตอนที่ #3 : เรื่องนี้ไม่มีซวย : กลางวันมันร้อนกว่ากลางคืน : bartender part (แก้แล้วคะ >

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 53


    เรื่องนี้ไม่มีซวย : กลางวันมันร้อนกว่ากลางคืน

     

    ถ้าจะถามว่าทำไมผมถึงเกลียดตอนกลางวัน คงเป็นเพราะร้อนล่ะมั๊งครับ มันร้อนและเหนียวตัวอีกตะหาก ผมจึงเลือกที่จะเป็นบาร์เทนเดอร์ครับ มีหลายคนทาบทามให้ผมเป็นโฮตส์แต่...ผมรักในอาชีพนี้นี่ครับแม้ว่ามันจะรายได้ไม่สูงเท่ากับอาชีพโฮตส์แต่ผมก็มีความสุขดีกับน้ำสีสันสวยๆและเสียงเพลงอึกกระทึกได้เห็นผู้คนแต่งตัวดูดีมาเที่ยวผ่อนลืมความเศร้าด้วยน้ำเมา...แม้มันจะไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่ดีนักแต่ผมก็มีแรงอยากมาทำงานทุกคืน...

    “ว่าไง!เพื่อน ทำไมวันนี้มาสาย”เสียงปวดประสาทของฮีชอลเจ้าของผับแห่งนี้ดังขึ้นทันทีที่ผมเปลี่ยนชุดเสร็จ

    “ก็ไม่มีอะไร...แค่...ทะเลาะกับทงเฮน่ะ”ดวงตากลมโตใสแจ๋วของเพื่อนผมก็เบิดกว้างขึ้นด้วยท่าทางประหลาดใจ ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละครับ...ทงเฮน่ะ...พูดน้อยมาก มนุษย์สัมพันธ์แย่เข้าขั้นวิกฤตเลย...ตกใจง่ายมาก...แม้ว่าการเรียนจะไม่น่าเป็นห่วงเท่าฮยอกแจแต่การที่ไม่มีเพื่อนเลยมันทำให้ผมเป็นห่วงมากขึ้นเรื่อยๆ...ทงเฮเป็นคนเดียวที่ถูกนำมาฝากช้าที่สุด เพราะต้องไประหกระเหินกับแม่ของเค้าอยู่หลายปี...ฮยอกแจ ทงเฮ และซองมินเป็นลูกของพี่สาวผม...ที่เกิดจากคนละพ่อทั้งสิ้นซึ่งเจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าพ่อของหลานผมเป็นใคร...พ่อแม่เราเสียไปทั้งคู่แล้วตั้งแต่ผมอายุเพียงห้าขวบ...ผมมีพี่สาวคนเดียว เธอทำทุกอย่างเพื่อให้ผมกินอิ่มนอนหลับแม้ว่าเธอจะไม่ได้จริงจังอะไรกับชีวิตเลย...ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่สาวผมเธอทำงานอะไร แต่อยู่มาวันนึงเธอก็หายตัวไปพร้อมกับทิ้งเงินเอาไว้มากซะจนผมสามารถจ่ายค่าเทอมได้หลายเทอมและใช้จ่ายได้อย่างสบายๆไปเป็นปีๆทีเดียวและจากนั้นอีกสองปีเธอก็กลับมาพร้อมกับเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักน่าชัง พี่ผมไม่ได้บอกอะไรนอกจาก จองซู พี่ฝากเลี้ยงลูกพี่หน่อยนะ เด็กคนนี้ชื่อฮยอกแจ ลี ฮยอกแจ พี่รู้ว่าเราอายุยังน้อยแต่ยังไงเธอคงจะดูแลเด็กคนนี้ได้ดีกว่าพี่...พี่ต้องไปแล้วนะ นี่ค่าเลี้ยงดูพี่จะส่งมาให้ทุกสามเดือนนะ พี่ไปแล้วนะและจากนั้นอีกสามปีเด็กชายทงเฮอีกคนก็ถูกนำมาฝากไว้...และถัดมาอีกสิบเดือนทารกน้อยซองมินก็ถูกพามาที่นี่...ในสภาพที่พี่สาวผมยังอยู่ในชุดคนไข้...

    “นายว่าไงนะ!ทะเลาะกับทงเฮ! พระเจ้าฉันคิดว่าเด็กนั่นเป็นใบ้ไปซะแล้ว”ผมมองฮีชอลด้วยสายตาดุๆก่อนที่เค้าจะเดินมาเกาะแขนผมไว้...

    “แล้วตกลงนี่ทะเลาะกันเรื่องอะไรเหรอ?”

    “ทงเฮมีแฟน”ตาโตๆของเพื่อนรักผมโตขึ้นมากกว่าเมื่อกี๊อีกหลายเท่า

    “ไหน แกบอกว่าเพื่อนยังไม่มีสักคนนี่...แล้วจู่ๆก็มีแฟนเลยเนี่ยนะ??”ผมเองก็ตกใจไม่แพ้ฮีชอลเมื่อแรกเห็นแฟนของทงเฮ...คิม คิบอมทายาทตระกูลคิมที่เป็นลูกนายพลระดับสูงคนนั้น...จะมาเป็นแฟนกับหลานชายผม...ไม่มีทางซะหรอก

    “อืม...แถมยังเป็นลูกนายพลด้วย คิมคิบอมน่ะ”ตาของฮืชอลแถบถล่นออกมาอยู่แล้ว..เฮ้อออจะไม่ช็อกได้ไงในเมื่อทงเฮไม่มีเพื่อนเลยแต่มีทั้งทีมีแฟนเลย...แล้วยังเป็นลูกผู้มีอิทธิพลอีกอะไรแบบนี้อีก...ผมว่าเรื่องนี้มันชักจะไม่ชอบมาพากลซะแล้ว...

    “เฮ้ยยยยยย!คิมคิบอม!”ฮีชอลร้องเสียดังลั่นหลังร้านมันเป็นอะไรกันเนี่ย ผีเข้าเหรอ?  - -

    “เป็นอะไรของแก! แกจะร้องหาสวรรค์อะไร”ผมตำหนิมันก่อนที่พวกพนักงานในร้านจะนึกว่าผมดักฆ่าเจ้าของร้าน

    “ก็คิบอมอะมันเป็นลูกพี่ลูกน้องฉัน!

    “จริงดิ!งั้นนายช่วยสืบหน่อยได้มั๊ย ว่าคิบอมมันต้องการอะไรถึงได้มาเป็นแฟนกับทงเฮน่ะ?”ฮิชอลส่ายหน้าเป็นพัลวัน ทำไมอีกนะไอ้เพื่อนคนนี้?

    “ไม่เอาอะ!ฉันไม่ชอบขี้หน้ามัน แถมฉันไม่อยากมีปัญหาด้วย แกก็รู้ว่าฉันมีปัญหากับบ้านนั้นขนาดไหน”ผมรู้ดีว่าฮีชอลมันมีปัญหากับญาติฝั่งพ่อมันเพราะมันเป็นลูกเมียน้อย ก็เลยโดนเล่นงานสรรพัดจนต้องตัดความสัมพันธ์กันไปฝั่งนั้นแสบฝั่งเดียวที่ไหนฝั่งนี้ก็ใช่ย่อยเล่นสาดน้ำใส่คุณย่าซะจนเปียกก่อนจะสะบัดตูดหนีมา

    “ระวังไว้เหอะ เจ้าคิบอมอะมันนิสัยไม่ค่อยดี”ไม่ช่วยแล้วยังมาเพิ่มความเครียดให้อีกเจ้าเพื่อนบ้านี่!

    “ถึงได้อยากให้แกช่วยไง ไม่มีทางเลยเหรอวะ?”ผมทำหน้าเว้าวอนขอร้องจนมันใจอ่อน

    “ฉันพอจะสนิทกับพี่ชายคิบอม แต่นายไปคุยเองนะ”ให้ไปคุยเองเนี่ยนะ?รู้จักก็ไม่รู้จัก...จะให้ไปคุยได้ไง

    “ไม่เอาอะ แกก็ถามให้หน่อยไม่ได้เหรอ?”

    “แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น ถ้าแกอยากรู้แกก็ถามไปก็แค่นั้นเอง พี่ยองอุนเค้าใจดีหรอกน่า”ฮิชอลขมวดคิ้วพร้อมกับเท้าเอวด้วย...น่าหมั่นใส่จริงๆ

    “ก็ได้...นายนัดมาละกันว่าจะให้คุยวันไหน”

    “ไม่ต้องหรอกแกแค่เดินไปร้านฝั่งตรงข้ามที่เป็นร้านกาแฟอะ พี่จองอุนเป็นเพื่อนเจ้าของร้านแกอยากคุยวันไหนเดี๋ยวฉันโทรไปบอกพี่ยองอุนให้”เจ้านั่นอธิบายก่อนจะตบบ่าของผมหนักๆสองที

    “พี่ยองอุนเป็นคนดีแกอย่าไปทำร้ายพี่เค้าละ”หนอยยยยแน่ะ

    “แต่ฮีชอลกำลังจะโดนทำร้าย...นี่แน่ะ...นี่แน่ะ”ผมจึ้เอวมันอย่างสนุกสนานจนมันหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเหมือนคนบ้าเลยไม่นานคุณสามีมันก็มา

    “เล่นอะไรกันอยู่ครับ?”มาแล้วครับสุภาพบุรุษตัวจริงฮันเกิงดูเค้าสิออกจะหล่อ รวย แถมยังนิสัยดีไม่น่ามาติดบ่วงเจ้าเพื่อนจอมร้ายกาจคนนี้เลยให้ตายสิน่าสงสาร

    “มาแล้วเหรอฮัน! ช้าชะมัด ไปแอบหลีหญิงมารึเปล่าเนี่ย??”ฮันเกิงอมยิ้มกับท่าทางงอนๆเหมือนเด็กของฮีชอลก่อนจะโอบเอวบอบบางของเพื่อนผมเข้ามาแนบตัว

    “ผมจะไปมองใครได้อีกครับคุณนาย...ที่มาช้าเนี่ยเพราะว่าแวะไปซื้อเค้กร้านโปรดมาฝากคุณและจองซูตะหาก จองซูครับผมซื้อมาฝากพวกเด็กด้วยนะครับ ^^”พ่อเทพบุตรผู้แสนดี >< แม้ว่าผมจะเสียดายก็ตามแต่เค้าเหมาะกับเพื่อนผมมากจริงๆสองคนนี้ตามจีบตามง้อกันมาหลายปีก่อนจะมาคบกันได้ลองถ้ามีใครมาแยกสองคนนี้นะผมนี่แหละจะตบบ้องหูให้กระจายเลย!

    “ขอบคุณมากนะครับฮันเกิง เจ้าซองมินมันคงดีใจจนกระโดดรอบบ้านแน่ๆ”

    “จะว่าไปแล้วเราก็ไม่ได้ไปเยี่ยมพวกเด็กเลยนะครับ...เดี๋ยวเดือนหน้าผมกลับจากสิงคโปร์แล้วแวะไปหากันนะครับฮีชอล”พูดไปก็จับกันไป คนมีความรักนี่ดีจังนะครับ...ผมพูดคุยกับสองคนนั้นเรื่องทงเฮกันสักพักผมก็ขอตัวไปทำงาน เห็นเพื่อนมีความสุขเพราะรักแบบนี้มันก็ดีนะครับ ไม่ใช่ว่าผมจะหาแฟนไม่ได้หรอกนะครับแต่ว่า...ผมต้องดูแลหลาน...ที่จริงแล้วมันคงจะเป็นข้ออ้างสำหรับคนที่กลัวความรักอย่างผมซะมากกว่า...ผมกลัวว่าวันนึงถ้ามีความรักแล้ว...ถ้ามันไม่เป็นไปอย่างที่หวัง...ก็จะทำใจไม่ได้...

    “คนสวยจ๋า ขอแรงๆมากระแทกปากหน่อยเร๊ว!”ไม่ใช่ประโยคแรกของวันที่ทักทายกันแบบนี้แต่เป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันตะหาก...ถ้าอยู่ข้างนอกผมคงกระโดดเตะปากมันไปแล้วละแต่นี่มันเป็นลูกค้าก็คงต้องยิ้มรับเท่านั้นสินะ - -

    “นี่ครับ! รับรองแรงกระแทกใจ”ผมจัดชุดใหญ่ให้ไปเมากันชุดนึงก่อนที่เจ้านั่นจะหมุนตัวกลับไปนั่งหันหลังในเคาน์เตอร์แล้วเอาศอกท้าวกับเคาน์เตอร์เพื่อหันไปดูเหล่านักเต้นเท้าไฟที่หลงใหลในแสงไฟเฝ้าคอยจะได้ตัณหากลับไปเชยชมต่อที่บ้าน

    “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์...คนสวยว่างั้นมั๊ย?”เค้าหันมาถามผมในขณะที่ผมกำลังเชิดแก้วสีใสเนื้อดีอยู่...นี่มันเมาแล้วจะเป็นนักปราชญ์เหรอ?

    “หึ...คนเรามันก็คบกันเพียงแค่ร่างกายแหละ! จะมีซักกี่คนที่รักเราจริง...บางคนก็รักเงิน...บางคนก็รักหน้าตา...บางคนก็รักหน้าที่การงานของเรา...ไม่รู้ว่าเราจะมีจิตใจเอาไว้ทำไม..ในเมื่อมีไปเพื่อรักเค้าแต่เค้ากลับไปรักอย่างอื่นที่ไม่ใช่หัวใจ”เห็นแบบนี้แต่ก็คมคายใช่เล่นนะเนี่ย...แต่จะเอาอะไรกับคนเมา...เมาแล้วก็พูดเพ้อเจ้อไปเรื่อยแหละครับ

    “...ผมขอพูดอะไรอย่างนะ...ถ้าคุณมีความรัก...ก็อย่ามองที่อื่นเลย...มองดูที่หัวใจของเค้าคนนั้นเถอะนะ...ละทิ้งเหตุผลร้อยแปดไปเถอะ...แม้ว่าความสุขนั้นมันจะไม่ยาวนานแต่มันก็สวยงามนะ...อ้วกกกกก”สาธุ อ้วกกลบท้ายด้วย - - พาลเดือดร้อนพนักงานในร้านเค้ามาเคลียร์พื้นที่กันอย่างเร่งด่วน...จะว่าไปแล้ว...ฟังไปฟังมาผมก็เห็นด้วยกับเค้านะว่า...ความรักแม้มันจะไม่ยาวนานแต่มันก็สวยงาม...แต่ถ้ามันมีวันที่ความสวยงามมันจบลง...ผมยังจะเดินต่อไปได้อยู่มั๊ยนะ??

     

     

    เวลาตีหนึ่งสามสิบหกนาทีผมกับกระเป๋าเป้และเค้กที่คุณฮันเกิงซื้อมาฝากผมกำลังเดินกลับบ้าน บ้านผมกับที่ทำงานมันห่างกันไม่มากแต่ค่อนข้างมืดนิดหน่อยตอนแรกที่ผมมาทำงานที่นี่เจ้าซองมินก็ดื้อจะตามออกมารับด้วย แต่งานผมมันเลิกช้าจะให้ซองมินออกมารับได้ยังไงเลยตัวเดือดร้อนใหญ่โดยการสอนศิลปะป้องกันตัวให้ผมกันยกใหญ่...ผมยังกังวลเรื่องทงเฮมากเพราะผมกลัวว่าถ้าเกิดวันนึงที่คิมคิบอมมันเกิดทำทงเฮเสียใจ...ทงเฮจะมีใครอยู่ข้างๆมั๊ย? คนที่ไม่เคยเข้าใจความสัมพันธ์ในเรื่องแบบนี้...จะเสียใจมากนะถ้าวันนึงมันเกิดขึ้น ผมไม่ได้ใจร้ายใจดำจะกีดกันอะไร...ผมคงเข้าไปยุ่งด้วยไม่ได้...แต่ผมโกรธแค่เพราะว่าทงเฮไม่ยอมบอกว่าเพราะอะไรถึงคบกัน...มันทำให้ผมสงสัยมากน่ะสิ ถามเจ้าฮยอกแจรายนั้นก็ขี้ขลาดกลัวโดนหางเลขเลยไม่ยอมบอกอะไร...ยังไงผมก็ต้องรู้ให้ได้ว่าคิมคิบอมมันมาคบกับทงเฮทำไม!!

    dae’Dream”ป้ายร้านที่ตกแต่งอย่างน่ารักอยู่ฝั่งตรงข้ามมาตลอด...แต่ผมไม่เคยเห็นมันเปิดเลยคงเพราะว่าพอร้านนั้นปิดร้านผมก็เพิ่งเปิด...มันคงเป็นเส้นขนานสำหรับร้านกาแฟกับผับนั่นแหละ...มันสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง...


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×