รักเธอ เธอที่รัก - นิยาย รักเธอ เธอที่รัก : Dek-D.com - Writer
×

    รักเธอ เธอที่รัก

    เพราะคุณปู่กับคุณย่าของเขากับคุณย่าของเธอเป็นเพื่อนสนิทกัน ทำให้เธอและเขาต้องมาพบกันอย่างไม่ต้องพึ่งพรหมลิขิต

    ผู้เข้าชมรวม

    80

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    80

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  4 ก.ย. 53 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     แล้วเราก็ได้พบกัน  Part ปานชีวา

                ยัยหนูวา วันเสาร์นี้ทำตัวให้ว่างน่ะ  เสียงของย่าพูดกับฉันตอนที่ที่ฉันกำลังตักข้าวต้มกุ้งเข้าปาก  และก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรต่อย่าก็พูดต่อขึ้นมา

                วันเสาร์คุณย่านวลกับคุณปู่สิน จะมาทำตัวให้ว่างน่ะ แล้วก็บอกเจ้าว่านน้องชายตัวดีของเราด้วยว่าอย่าออกไปไหน  เข้าใจมั้ยยัยหนูวา ย่าสายใจของฉันพูดจบแล้วยังไม่พอต้องมีการจิกสายตาบังคับข่มขู่หลานสาวที่น่ารักอย่างฉันอีก

                    ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะวาจะพยายามไม่ไปไหนน่ะค่ะแล้วจะบอกเจ้าวุ่นให้  ว้ายสายแล้ววาไปน่ะค่ะสวัสดีค่ะ  ฉันรีบตอบรับแล้วก็ต้องรีบวิ่งออกจากบ้านก่อนที่ย่าจะบ่นมากกว่านี้

                    ขอแนะนำตัวก่อนน่ะค่ะ  ฉันชื่อ  ปานชีวา หรือเรียกง่าย ๆ ว่า วา ก็ได้น่ะค่ะ  ฉันมีน้องชายหนึ่งคนชื่อ  วายุภักดิ์ หรือนายว่าน  เราสองคนอยู่กับคุณปู่กับคุณย่ามาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ เพราะว่าพ่อกับแม่แยกทางกันและต่างก็ไปมีครอบครัวใหม่เราสองคนพี่น้องก็เลยต้องมาอยู่กับคุณปู่คุณย่า   ตอนนี้ฉันและน้องเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วและกลับมาทำงานที่โรงงานเซรามิกส์เล็ก ๆ ที่คุณปู่ยกให้ก่อนที่ท่านจะเสีย  ทั้งฉันและนายว่านตั้งใจดูแลโรงงานนี้มากเพราะเป็นของสิ่งเดียวที่เราเห็นมาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ และเพราะโรงงานนี้คุณปู่และคุณย่าสามารถดูแลส่งเสียให้เราสองคนร่ำเรียนจนจบได้อีกทั้งคุณปู่ก็ยังยกให้เราสองคนดูแลอีกด้วย 

                    พี่วา มาโรงงานแต่เช้าเลยน่ะ เสียงของนายว่านน้องชายตัวแสบรีบเดินมาทักฉัน  ทันทีที่ฉันจอดรถ

                    เมื่อคืนนอนโรงงานเหรอว่าน ฉันถามกลับโดยไม่สนใจคำถามของน้อง

                    อืม  ก็เมื่อวานเตาฟืนมีปัญหานิดหน่อยเมื่อคืนก็เลยอยู่ดูอาการ

                    จะกลับบ้านมั้ย  เอารถพี่ไปจะได้ไม่ต้องปั่นจักรยานกลับ  ฉันยื่นกุญแจรถยนต์ให้น้องชายสุดทีรักเพราะนายวา  ชอบปั่นจักรยานมาทำงานมากกว่าขับรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์มา  เมื่อก่อนฉันก็ชอบปั่นจักรยานมาทำงานเหมือนกันแต่หลัง ๆ มานี้ฉันต้องออกไปพบลูกค้าบ่อย ๆ เลยต้องขับรถมา

                    ไม่เอาอ่ะ  เดี๋ยวพี่ให้ใครที่บ้านเอาเสื้อผ้ามาให้ว่านหน่อยดิ  เดี๋ยวว่านอาบน้ำที่นี่ยังไม่อยากเข้าไปบ้านเดี๋ยวโดนคุณนายสายใจบ่น  นายว่านพูดพร้อมเบ้ปากเพราะรู้ตัวดีว่าถ้าเข้าบ้านไปตอนนี้หล่ะก็เขาต้องโดนย่าสวดอย่างน้อย ๆ 3 ชั่วโมงแน่ ๆ เพราะว่านายตัวดีแอบมานอนที่โรงงานได้หลายวันแล้ว

                    พี่ว่านายกลับบ้านมั่งก็ดีน่ะว่าน  ย่าเขาคอยเราทุกวันน่ะ  อ๋อแล้ววันเสาร์ห้ามไปไหนด้วยย่าบอกว่าคุณย่านวลกับคุณปู่สินจะมาให้อยู่บ้านด้วย  ฉันบอกนายตัวดีเพราะสงสารย่าที่ต้องรอหลานชายกลับไปทานข้าวเย็นด้วยแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงามาหลายวันแล้ว

                    วันเสาร์เหรอพี่วันนี้วันพฤหัส ก็วันมะรืน  ได้ ๆ ว่านจะไม่ไปไหนเลยจะอยู่เอาใจจนย่าเบื่อขี้หน้าเลยพี่วา

                    อย่าลืมน่ะ  พี่ไปก่อนล่ะแล้วเดี๋ยวจะโทรบอกย่าให้ว่าหลานชายอยากได้เสื้อผ้าสักชุดน่ะไปหล่ะ ฉันรีบย้ำกับนายตัวแสบอีกครั้งก่อนจะรีบเดินเข้าออฟฟิท และโทรศัพท์บอกที่บ้านให้เอาเสื้อผ้ามาให้เจ้าน้องชาย

    เช้าวันเสาร์

                    วันนี้ฉันมารอใส่บาตรที่หน้าบ้านพร้อมกับย่าเป็นปกติที่วันเสาร์และวันอาทิตย์ฉันจะมาใส่บาตรพร้อม ๆ กับท่าน  แต่ที่น่าแปลกวันนี้ก็ที่หน้าบ้านมีรถเก๋งสีดำฟิล์มสีดำสนิททั้งสองคันมาจอดอยู่หน้าบ้านคล้าย ๆ กับรถของลูกน้องเจ้าพ่อมาเฟียในหนังฮ่องกง 

                    สงสัยจะเป็นรถลูกน้องปู่สิน เสียงของย่าบ่นเบา ๆ  ปู่สินกับย่านวลเป็นเพื่อนสนิทของปู่กับย่าและเมื่อก่อนก็ยังเคยทำปางไม้ด้วยกันอีกด้วย   จนกระทั่งปู่อยากย้ายลงมาอยู่ในเมืองเพราะต้องเลี้ยงฉันกับน้องปู่กับย่าเลยย้ายลงมาอยู่ที่บ้านหลังนี้   ส่วนที่ปางไม้ตอนนี้ปู่สินก็ยกให้ลุงชัยลูกชายคนเดียวของปู่ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของฉันดูแลแทน   ส่วนคุณปู่สินกับคุณย่านวลก็ทำไร่ชาและสวนลิ้นจี่อยู่ใกล้ ๆ  แต่ที่ต้องมีคนติดตามอย่างนี้ก็เพราะว่าลุงชัยมีธุรกิจหลายอย่างและปู่สินเมื่อก่อนก็เป็นนักเลงเก่าด้วยทำให้เวลาไปไหนถึงต้องมีคนคอยคุ้มกันอย่างนี้ 

                    หนูวาใส่บาตรเสร็จก็ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่น่ะ  สักพักคุณย่านวลกับคุณปู่สินก็คงจะมา  แล้วก็อย่าลืมไปปลุกน้องเราด้วยน่ะ ย่าของฉันสั่งขณะที่เราเดินกลับจากตักบาตรแล้ว  ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมต้องให้ฉันแต่งตัวใหม่ทั้ง ๆ ที่ชุดเสื้อยืดลายการ์ฟิล  กับกางเกงขา 3 ส่วน  ฉันว่ามันก็เรียบร้อยดีและฉันก็แต่งตัวอย่างนี้ทุกทีที่คุณย่านวลกับคุณปู่สินมา  แล้วทำไมครั้งนี้ย่าต้องให้ฉันไปแต่งตัวใหม่ด้วย  งงน่ะเนี่ย

                    ย่ามีอะไรให้ช่วยมั้ยค่ะ  ฉันเอ่ยถามหลังจากที่ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาเจอย่ากำลังเกณฑ์คนงานในบ้านทำกับข้าวอยู่ในครัว  แม้แต่ป้าศรีและป้าภาแม่บ้านที่โรงงานก็ยังมาช่วยย่าด้วย

                    ยัยหนูวาแต่งตัวเสร็จแล้วเหรอไหนมาดูซิ ย่าส่งเสียงเรียกให้ฉันเดินเข้าไปหา  ฉันเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อยืดลายโดเรมอนกับกางเกงขาสั้นจะว่าไปมันก็ไม่ได้แตกต่างจากชุดเมื่อกี้สักเท่าไหร่

                    ตายแล้ว   ยัยหนูวาทำไมแต่งตัวแบบนี้ ย่าเอ็ดฉันเสียงดังแล้วยังเอื้อมมือมือตีแขนฉันด้วย

                    ทำไมล่ะย่าทุกทีหนูก็แต่งตัวแบบนี้  แล้วย่าจะให้หนูแต่งตัวแบบไหน ฉันย้อนถามหลังจากที่เขยิบออกมาให้ห่างจากฝ่ามือของย่าแล้ว

                    มานี่เลย  โตจนป่านนี้แล้วยังแต่งตัวเป็นเด็ก ๆ ไปได้ ย่าพูดพลางเดินลากฉันออกมาจากห้องครัวและพาฉันกลับเข้ามาในห้องอีกรอบหนึ่ง  แล้วย่าก็เปิดตู้เสื้อผ้าฉันแล้วเลือกกระโปรงผ้าฝ้ายสีน้ำตาลและเสื้อแขนกุดสีขาวพอดีตัวออกมาให้

                    เปลี่ยนใส่ชุดนี่แล้วก็ตามน้องชายเราลงไปด้วย  เข้าใจมั้ย  ย่าพูดจบแล้วก็เดินออกไปทันทีปล่อยฉันยืนงงกับเสื้อผ้าที่ย่าเลือกให้   ยังไงก็คงต้องใส่เพราะไม่อย่างงั้นฉันต้องโดนตีอีกแน่ ๆ

                    ก๊อก ๆๆ ๆๆๆ

                    เฮ้ย พี่หนูวาแต่งตัวจะไปไหนเนี่ย  ไหนบอกว่าวันนี้ปู่สินจะมาไม่ใช่เหรอ 

                    ไม่ไปไหนหรอก  ย่าอ่ะดิอยู่ ๆ ก็จับพี่แต่งตัวแบบนี้  ฉันตอบนายว่านก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้องชาย

                    แปลก ๆ มั้ยพี่วา ทำไมย่าจะต้องจับพี่วาแต่งตัวแบบนี้เนี่ย  แค่คุณปู่สินกับคุณย่านวลจะมาเท่านั้น น้องชายฉันถามอย่างสงสัย  ไม่ใช่แค่น้องฉันหรอกที่สงสัยฉันเองก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกัน

                    คงไม่มีอะไรหรอกมั่ง ฉันตอบออกไปอย่างไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน

                    ป่ะ พี่หนูวาไปหาอะไรกินข้างล่างดีกว่าเริ่มหิวหล่ะ แล้วฉันกับน้องชายก็พากันเดินลงมาข้างล่าง  ย่าไล่เราสองคนให้ออกมานั่งอยู่ข้างนอกหลังจากที่นายว่านเข้าไปป่วนขอชิมนั่นชิมนี่

                    ปิ้น ปิ้น 

                    เสียงแตรรถดังอยู่หน้าบ้านทำให้นายว่านต้องรีบวิ่งออกไปเปิดประตูให้ฉันยืนมองอยู่ในบ้านเห็นรถที่เลี้ยวเข้ามาในบ้านแค่ 2 คัน  แต่มีที่จอดอยู่ข้างนอกอีก 3 คัน

                    สวัสดีค่ะ คุณปู่ คุณย่า ฉันรีบยกมือไหว้ทันทีที่ทั้งสองท่านเดินเข้ามาในบ้าน

                    ไหว้พระเถอะหนูวา  เป็นไงไม่เจอกันนานเลยน่ะดูซิสวยขึ้นเยอะเลย  คุณย่านวลเอ่ยทักฉัน

                    แล้วนี่ย่าเราไปไหนล่ะ คุณปู่สินถามถึงย่าของฉันหลังจากที่เข้ามานั่งในบ้านแล้ว  ฉันสังเกตเห็นผู้ชายคนนึงเดินตามคุณปู่กับคุณย่าเข้ามาด้วย  แล้วเขาก็มองฉันเหมือนกับว่าฉันไปทำอะไรให้เขาโกรธอย่างงั้น

                    อยู่ในครัวค่ะนายว่านกำลังไปตามค่ะคุณปู่

                    เป็นไงบ้างปู่สิน ย่านวล เสียงของย่าฉันเองที่รีบเดินมาทักทายเพื่อนเก่า

                    สบายดี  แล้วนี่ทำอะไรอยู่หล่ะเนี่ยหอมไปถึงหน้าบ้านเลย คุณย่านวลเอ่ยทักอย่างสนิทสนม

                    กับข้าวปกตินั่นแหละ  มาเหนื่อย ๆ นั่งพักก่อนน่ะแล้วเดี๋ยวค่อยไปทานข้าวกัน ย่าฉันเดินมานั่งที่โซฟาประจำ

                    นี่สายใจ  คนนี้หลานชายฉันลูกเจ้าชัย  ชื่ออิทธิพล เรียกนายอิธ ก็ได้ นายอิธน่าจะแก่กว่าหนูวาสัก 5- 6 ปี นี่แหละ  เขาไปอยู่กับแม่เขาที่เมืองนอกตั้งแต่เล็ก ๆ เพิ่งกลับมาไม่นานนี่แหละ  พอดีวันนี้ว่างฉันเลยพามาด้วย  จะได้รู้จักกันเอาไว้  เจ้าอิธ นี่ย่าสายใจ เพื่อนของปู่กับย่า แล้วนั่นหนูวา  กับนายว่าน หลานของย่าสายใจ

                    สวัสดีครับ  อิทธิพลยกมือไหว้ย่าสายใจอย่างนอบน้อมและหันไปพยักหน้าทักกับนายว่าน  ก่อนจะหันกลับมาที่ฉันแล้วทำหน้ายักษ์  ฉันอุตสาห์ยิ้มให้  เชอะนายคนนี้อย่างหวังว่าฉันจะยิ้มให้อีกเลยตาหน้ายักษ์

               #160;    หลังจากที่ทานอาหารกลางวันกันแล้วย่าก็บังคับให้ฉันพานายอิธหน้ายักษ์เข้าไปเที่ยวซื้อของในเมือง  ฉันเลยต้องจำใจยอมไปพร้อม ๆ กับสมุนของนายนั่นอีกสองคน  รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังคบกับพวกเจ้าพ่อในหนังจีนยังไงก็ไม่รู้

                    อยากไปไหนหล่ะ ฉันเอ่ยถามเขาคำแรกหลังจากที่ต้องนั่งข้าง ๆ เขามาได้สักพักแต่นายหน้ายักษ์ก็ยังไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

                    แล้วเธอ อ่ะไม่ใช่สิแล้วหนูวาอยากไปไหนล่ะ นายอิธหันมาทำหน้าตายตอบฉัน

                    นี่คุณย่าบอกให้ฉันพานายมาซื้อของแล้วถ้านายไม่บอกว่านายอยากซื้ออะไรฉันจะพาไปถูกได้ยังไง  แล้วอีกอย่างไม่ต้องมาเรียกฉันว่า หนูวา เรียกวาเฉย ๆ ก็ได้เพราะหนูวาเอาไว้ให้เฉพาะคนในครอบครัวเรียกเท่านั้น  ฉันตอบไปอย่างโมโห  เชอะทำมาตีสนิทเรียกหนูวา  ทีตอนอยู่ที่บ้านเมื่อกี้แม้แต่คุยสักคำก็ยังไม่มี

                    แล้วหนูวาอยากไปไหนหล่ะ นายอามย้อนถามฉันด้วยสีหน้าเรียบเฉยสนิทไม่ได้รู้สึกเลยว่าฉันกำลังเริ่มโมโหแล้ว

                    ฉันบอกว่า เรียกฉันว่า วา ไม่ให้เรียกหนูวา  แล้วนายอยากไปไหนก็บอกมาฉันจะได้พาไปถูก ไม่ใช่มาย้อนถามฉันแบบนี้  ฉันตอบไปอย่างโมโหแต่นายนั่นก็ยังทำหน้าตาเฉยชาตีหน้ายักษ์ใส่ฉันอีก

                    งั้นนายศักดิ์แวะห้างข้างหน้านี้แหละ   เดี๋ยวผมจะพาน้องหนูวาไปเดินดูของ ว่าแล้วนายอามก็หันมายิ้มด้วยมุมปากให้ฉันนิดเดียว  ขอย้ำว่านิดเดียวจริง ๆ  ตอนนี้ฉันเริ่มเซ็งกับนายคนนี้แล้ว

                    หลังจากที่มาถึงห้างใหญ่แห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ที่อยู่ไม่ไกลบ้านฉันมากนัก   ตอนนี้ฉันเดินวนอยู่ในห้างนี้ประมาณสัก 2 ชั่วโมงน่าจะได้  เพราะนายตัวดีไม่ยอมซื้อหรือดูอะไรสักอย่างพอฉันถามก็บอกว่า หนูวาอยากได้อะไร  หนูวาก็เดินไปดูซิเดี๋ยวพี่เดินเป็นเพื่อน ฉันเซ็ง พอชวนกลับนายหน้ายักษ์ก็บอกว่าฉันยังไม่ได้ของอะไรสักอย่างแล้วจะกลับได้ยังไง   ตอนนี้ฉันเริ่มงงว่าตกลงฉันพานายนี่มาเดินดูของหรือนายนี่พาฉันมาเดินซื้อของกันแน่ 

                    ตกลงนายจะเอายังไง  ซื้ออะไรก็ไม่ซื้อ ชวนกลับก็ไม่กลับ ฉันหันไปถามนายอามที่เดินตามหลังฉันอยู่

                    ก็พี่บอกแล้วไงว่าหนูวา  อยากได้อะไรหนูวาก็ไปดูเดี๋ยวพี่เดินเป็นเพื่อน

                    แต่ฉันไม่อยากได้อะไร  และตอนนี้ก็อยากกลับบ้านแล้วด้วย ฉันเดินหนีนายยักษ์หน้ามึนทันทีที่พูดจบ แต่เอ๊ะ  ใครมาจับแขนฉันไว้น่ะ 

                    แต่พี่ยังไม่อยากกลับ  นายอามพูดออกมาพร้อมกับจับแขนฉันไว้และตอนนี้คนที่เดินผ่านไปมาเริ่มมองพวกเราแล้ว 

                    แล้วนายจะเอายังไง  ฉันหันกลับมาถามทันที

                    ไปดูแหวนกัน นายอามพูดสั้น ๆ พร้อมทั้งลากฉันไปร้านขายทอง  พร้อมกับลูกน้องหน้าโหดเขาอีก 2 คน  ฉันเห็นน่ะว่านายหน้าโหดสองคนนั่นแอบอมยิ้ม

                    แหวนอะไร ฉันไม่ดู ฉันไม่ชอบใส่แหวน ฉันพูดพลางบิดแขนออกจากมือของเขา  แต่ทำไมมือนายนี่ถึงใหญ่อย่างงี้น่ะ  ดึงเท่าไหร่ก็ไม่หลุดสักที 

                    เดิเฉย ๆ ได้ไหม  ไม่เอาแหวนก็เอาอย่างอื่น  พี่ซื้อให้  นายอามพูดพลางลากฉันมาหยุดอยู่หน้าร้านทองร้านนึง

                    สวัสดีค่ะคุณอิทธิพล  วันนี้มีอะไรให้เจ๊รับใช้ค่ะ  ยายเจ๊เจ้าของร้านทองเดินปรี่ออกมาทันทีที่เห็นนายอาม  สงสัยจะพาสาว ๆ มาซื้อทองบ่อย

                    มาสร้อยลายใหม่ ๆ ให้คุณย่ารึเปล่าค่ะ  ยายเจ๊นั่นถามขึ้นมาอีกหลังจากที่นายอามลากฉันเข้ามาในร้านจนได้

                    ไม่ใช่ครับมาดูแหวนใส่เล่น  ให้ว่าที่แฟนครับ นายอามพูดออกมาหน้าตาเฉย  ใครเป็นว่าที่แฟนนายนี่กัน  คงไม่ใช่ฉันหรอกน่ะ

                    หนูวาเลือกซิค่ะ  ว่าอยากได้วงไหน  นายอามบังคับให้ฉันเลือกแหวน

                    ฉันบอกแล้วไง  ว่าไม่ชอบใส่แหวนแล้วย่าก็สอนฉันไว้ว่าไม่ให้รับของจากคนแปลกหน้า  ฉันพูดจบและพยายามจะเดินออกจากร้านแต่นายอามก็ดึงแขนฉันไว้  ไม่พอยังมีนายหน้าโหดอีกสองคนยืนเฝ้าประตูหน้าร้านไว้อีก

                    งั้นพี่เลือกให้เอง  นายอามพูดจบก็บอกให้ยายเจ๊หยิบแหวนที่นายนั่นเลือกออกมา  แล้วก็เอามายัดใส่นิ้วนางข้างซ้ายของฉัน   พอฉันจะถอดออกนายอามก็จับมือฉันซะแน่นแล้วบอกว่า พี่ใส่ให้ห้ามถอด  ถ้าถอดพี่จะบอกคุณย่าว่าหนูวาดื้อกับพี่  ฉันอยากจะกรี๊ดจริง ๆ ทำไมนายนี่ถึงได้หน้ามึนขนาดนี้น่ะ   สรุปแล้ววันนี้ฉันได้แหวนทองมาวงหนึ่ง  สร้อยแขนอีกเส้น  ฉันอยากจะบ้าตายจริง ๆ  ทำไมนายหน้ายักษ์ถึงได้มึนขนาดนี้เนี่ย 

                 

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น