ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : อาณาจักรมหัศจรรย์ ฉันน่ะหรอเจ้าหญิง
"กริ๊งงงงงงงงงงง"เสียงออดซึ่งเป็นสัญญาณของเวลาเลิกเรียนดังขึ้น
"...วันนี้เอาไว้เท่านี้"สตรีวัยกลางคนถอนมืออกจากกระดานที่เขียนอยู่และเอ่ยขึ้น
"นักเรียนตรง"หัวหน้านักเรียนเอ่ยเสียงดัง
"ขอบคุณครับ/ค่ะ"สิ้นเสียงขอบคุณ อาจารย์ก็เดินออกจากห้องเรียนไป
ทันทีที่ขาของอาจารย์ก้าวพ้นธรณีประตูนักเรียนทุกคนต่างพร้อมใจกันเก็บของใส่กระเป๋าและลุกออกจากโต๊ะของตนเองและเดินออกไปจากห้อง
"นี่คาโอริ เมื่อตอนกลางวันทำไมไม่ไปกินข้าวล่ะ"มิมิเอ่ยขึ้น
"นั่นสิจ้ะ แถมยังเข้าเรียนคาบบ่ายสายอีกด้วย"ยูริกล่าวเสริม
"มีเรื่องนิดหน่อยอ่ะ แหะๆ"คาโอริกล่าวพร้อมกับหัวเราะแห้งๆ
"เกี่ยวกับฟูจิมูระคุงล่ะสิ"มิมิว่า
"อืม"คาโอริพยักหน้า
"มีอะไรรึเปล่าจ้ะ"ยูริเอ่ยถาม
"ฟูจิมูระเค้ามีแผลฉันเลยพาไปทำแผลอ่ะจ้ะ แล้วฉันก็เลยบอกให้เขาพักอยู่ที่ห้องพยาบาล"คาโอริอธิบาย
"หา!?"ยูริและมิมิอุทานขึ้นพร้อมกัน
"มีอะไรหรอ"คาโอริหันไปถามเพื่อนรักทั้งสองอย่างงงๆ
"ก็มันแปลกน่ะสิ"คิ้วเรียวสีดำมุ่นเข้าหากัน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองหน้าของคาโอริอย่างประหลาดใจ
"ใช่ แปลกมากเลยล่ะจ้ะ"ยูริเอ่ยเสริม นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววแห่งความประหลาดใจเช่นเดียวกับมิมิ
"แปลก!? อะไรแปลกหรอ"เด็กสาวทำหน้าเหรอหรา
"ก็ฟูจิมูระคุงน่ะ ไม่เคยฟังคำพูดของใครเลยนี่ แถมเวลาเข้าไปพูดด้วยก็จะทำเป็นไม่สนใจ เขาไม่ค่อยจะรับความหวังดีจากใครด้วยล่ะ"มิมิอธิบาย
"เพราะอย่างนั้นฉันก็เลยเหลืออดยังไงล่ะ"คาโอริกล่าว
"หมายความว่าไง???"
"ฉันตบเขาอ่ะ"
"หา!!!!"อีกครั้งที่เพื่อนทั้งสองพร้อมใจกันอุทานเสียงดัง
"คะคาโอริจัง เธอตะตบฟูจิมูระคุงหรอจ้ะ"ยูริย้ำถาม
"อืม"เด็กสาวตอบหน้าตาย
"ให้ตายเถอะ เธอเนี่ย อย่าให้พวกแฟนคลับของฟูจิมูระรู้เชียวนะ ไม่งั้นเธอตายแน่"มิมิกล่าว ก่อนจะหันไปมองรอบๆเพื่อมองดูเหล่าแฟนคลับ ซึ่งท่าทางแถวนี้จะไม่มี จึงหันกลับมา
"เอาน่าๆ ยังไงฉันก็ตายยากจ้ะ"คาโอริเอ่ยพร้อมกับหัวเราะเบาๆ นัยน์ตาสีเงินเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ
"อ๊ะ! ป่านนี้แล้ว วันนี้แม่ใช้ให้ไปซื้อของด้วยอ่ะ ต้องกลับแล้วล่ะ ไปก่อนนะจ้ะ!"คพูดสุดท้าย ก่อนเจ้าของเสียงจะคว้ากระเป๋าและวิ่งออกจากห้องเรียนไปโดยไม่รอคำเอ่ยลาของเพื่อนทั้งสองเลย
****************************
"ว๊าย!ๆๆๆ ลดราคาถึงแค่สี่โมงครึ่งด้วยสิ จะไปทันมั้ยเนี่ยยยย!"เด็กสาวเอ่ยกับตัวเองก่อนจะเร่งฝีเท้ามากขึ้น ทว่า กลับมือบางสิ่งเบื้องหน้ามากีดขวางทางเดิน จนทำให้เจ้าตัวต้องชะลอฝีเท้าเพื่อไม่ให้ร่างของตนเข้าปะทะกับสิ่งนั้น
ประตู!?
ประตูไม้บานใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เรืองแสงนวลอ่อนโยนราวแสงแห่งดวงจันทร์ สวยงามราวประตูสวรรค์ มันดึงดูดให้หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ มือบางยื่นออกไปแตะที่ประตูเบาๆ พลันรู้สึกถึงแรกกระตุกประหลาดที่คอ นัยน์ตาสีเงินเหลือบไปมอง และพบว่า จี้ที่คอตนเองกำลังเรืองแสงแบบเดียวกับประตู และมันพยายามลากพุ่งเข้าไปหารูกุญแจนั้น
คาโอริชั่งใจอยู่พักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจคว้าจี้รูปร่างประหลาดที่คอของตนเองเสียบเข้าไปในรูกุญแจที่ประตู
กริ๊ก!
เสียงสลักกลอนประตูถูกปลด พร้อมกันกับที่ประตูเปิดอ้าออก แสงสว่างสีขาวบาดตาจากข้างในประตู ทำให้ต้องหยีตาลง เด็กสาวเริ่มสาวเท้าเข้าไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ปัง!
ทันทีที่ขาบางก้าวพ้นบานประตู ประตูก็ตีกลับมาปิดเองโดยอัตโนมัติ ราวกับ...มีเวทมนตร์
เด็กสาวรู้สึกเหมือนมันนานมากที่เดินเข้าไปในประตูนั้น แสงสว่างที่แสนจ้าทำให้ไม่อาจมองเห็นสิ่งใด สายลมอ่อนๆที่ไม่รู้ว่าพัดมาจากที่ไหนเริ่มแรงขึ้น สายลมเริ่มหมุนวนรอบร่างของเธอราวกับโอบอุ้มเธอเอาไว้
อบอุ่น อ่อนโยน ความรู้สึกนี้มันอะไรกันนะ
"...ช่วยอาณาจักรนี้ให้ได้นะ"เสียงกระซิบหวานๆดังมากับสายลม ก่อนจะเงียบหายไปราวความฝัน
"ใครน่ะ ใครอยู่ตรงนั้นหรอ"เด็กสาวก้าวไปเบื้องหน้า แสงสว่างที่เจิดจ้าจางหายไปหมด สายลมที่หมุนวนรอบตัวหายไปหมดแล้ว
ที่นี่ที่ไหน!?
เด็กสาวคิดอย่างงงๆ ดูท่าทางเธอจะเข้ามาผิดที่ซะแล้ว
นัยน์ตาสีเงินกวาดมองรอบบริเวณ ดอกไม้หลากสีสันบานสะพรั่งเต็มทุ่งไกลสุดลูกหูลูกตา
ทั้งๆที่เคยมาครั้งแรก แต่ทำไมถึงรู้สึกคุ้นๆ!?
คาโอริมุ่นคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ พลันก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อสัมผัสถึงอะไรบางอย่างเบื้องหลัง เด็กสาวปราดไปมองอย่างรวดเร็ว แล้วก็ต้องผงะ เมื่อสิ่งที่พบคือ คนแคระ!
สตรีร่างเล็กที่สูงเพียงแค่เอวของเธอ นัยน์ตาสีน้ำตาลกลมโตจ้องมองเธอด้วยความสนใจ มือเล็กๆยื่นออกมาสะกิดหลังของคาโอริยังคงถูกยกค้างอยู่ ผมสีน้ำตาลชาถูกมัดไว้เป็นแกละหลวมๆสองข้าง
"เธอเป็นใครน่ะ"คาโอริเอ่ยถามขึ้น
"ข้าชื่อ เฟรี ถูกท่านอาเลียสั่งให้มานำทางท่านจ้า"คนแคระเอ่ยตอบเสียงใส
"นำทางฉัน!?"คาโอริทวนคำ "ทำไมล่ะ นำทางไปไหน"
"นำทางไปปราสาทจ้า องค์หญิง"
"องค์หญิง!? เดี๋ยวก่อน องค์หญิงนี่ หมายถึงฉันหรอ"คาโอริชี้มาที่ตัวเอง พร้อมเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ
"ใช่แล้วจ้า"เฟรีพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของคาโอริ และเริ่มลากเด็กสาวให้เดินตามไป
"ดะเดี๋ยวสิ เดี๋ยว หยุดก่อน นี่ ฉันยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่เจ้าหญิงอะไรนั่นด้วย"คาโอริพยายามสะบัดข้อมือออก น่าแปลก ที่คนแคระเบื้องหน้าตัวเล็กกว่าเธอตั้งเยอะ แต่ทำไมแรงเยอะอย่างนี้
"ท่านมีกุญแจไม่ใช่หรือจ้ะ"คนแคระสาวเบือนหน้ามาเอ่ย นัยน์ตาสีน้ำตาลวาวโรจน์ฉายแววแปลกออกไป มันทำให้คาโอริถึงกับกลืนน้ำลายเอื๊อก
"กุญแจที่เธอพูดถึงเนี่ย หมายถึงอันนี้หรอ"เด็กสาวชูจี้รูปจันทร์เสี้ยวสีเงินซึ่งถูกโอบล้อมด้วยดวงอาทิตย์สีทอง บนจัวจี้มีอักขระประหลาดสลักไว้
"นั่นคือ กุญแจมิติสุริยันจันทรา เป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักรแห่งนี้จ้า"เฟรีตอบเสียงเรียบ
"งั้นทำไมมันถึงมาอยู่ที่ฉันได้ล่ะ"
"เรื่องนั้นไว้ไปถามท่านอาเลียดีกว่าจ้า"เฟรีเอ่ยพร้อมกับหยุดกะทันหัน จนคาโอริแทบจะหยุดตามไม่ทัน
เบื้องหน้าของเฟรีและคาโอรินั้นเป็นแท่นหินรูปวงกลมเกลี้ยงๆ
"ในนามของผู้นำทาง จงเบิกทางให้แก่ข้าและองค์หญิง จุดมุ่งหมายคือ ปราสาท"สิ้นเสียงของเฟรี คาโอริก็รู้สึกถึงแรงกระตุกอย่างรุนแรง สายลมรอบตัวพัดหวือ เพียงพริบตาความรู้สึกทั้งหมดก็หายไป พร้อมกับภาพเบื้องหน้าที่เปลี่ยนไปจากเดิม
ง่า ขออัพไว้แค่นี้ก่อนน้า
"...วันนี้เอาไว้เท่านี้"สตรีวัยกลางคนถอนมืออกจากกระดานที่เขียนอยู่และเอ่ยขึ้น
"นักเรียนตรง"หัวหน้านักเรียนเอ่ยเสียงดัง
"ขอบคุณครับ/ค่ะ"สิ้นเสียงขอบคุณ อาจารย์ก็เดินออกจากห้องเรียนไป
ทันทีที่ขาของอาจารย์ก้าวพ้นธรณีประตูนักเรียนทุกคนต่างพร้อมใจกันเก็บของใส่กระเป๋าและลุกออกจากโต๊ะของตนเองและเดินออกไปจากห้อง
"นี่คาโอริ เมื่อตอนกลางวันทำไมไม่ไปกินข้าวล่ะ"มิมิเอ่ยขึ้น
"นั่นสิจ้ะ แถมยังเข้าเรียนคาบบ่ายสายอีกด้วย"ยูริกล่าวเสริม
"มีเรื่องนิดหน่อยอ่ะ แหะๆ"คาโอริกล่าวพร้อมกับหัวเราะแห้งๆ
"เกี่ยวกับฟูจิมูระคุงล่ะสิ"มิมิว่า
"อืม"คาโอริพยักหน้า
"มีอะไรรึเปล่าจ้ะ"ยูริเอ่ยถาม
"ฟูจิมูระเค้ามีแผลฉันเลยพาไปทำแผลอ่ะจ้ะ แล้วฉันก็เลยบอกให้เขาพักอยู่ที่ห้องพยาบาล"คาโอริอธิบาย
"หา!?"ยูริและมิมิอุทานขึ้นพร้อมกัน
"มีอะไรหรอ"คาโอริหันไปถามเพื่อนรักทั้งสองอย่างงงๆ
"ก็มันแปลกน่ะสิ"คิ้วเรียวสีดำมุ่นเข้าหากัน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองหน้าของคาโอริอย่างประหลาดใจ
"ใช่ แปลกมากเลยล่ะจ้ะ"ยูริเอ่ยเสริม นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววแห่งความประหลาดใจเช่นเดียวกับมิมิ
"แปลก!? อะไรแปลกหรอ"เด็กสาวทำหน้าเหรอหรา
"ก็ฟูจิมูระคุงน่ะ ไม่เคยฟังคำพูดของใครเลยนี่ แถมเวลาเข้าไปพูดด้วยก็จะทำเป็นไม่สนใจ เขาไม่ค่อยจะรับความหวังดีจากใครด้วยล่ะ"มิมิอธิบาย
"เพราะอย่างนั้นฉันก็เลยเหลืออดยังไงล่ะ"คาโอริกล่าว
"หมายความว่าไง???"
"ฉันตบเขาอ่ะ"
"หา!!!!"อีกครั้งที่เพื่อนทั้งสองพร้อมใจกันอุทานเสียงดัง
"คะคาโอริจัง เธอตะตบฟูจิมูระคุงหรอจ้ะ"ยูริย้ำถาม
"อืม"เด็กสาวตอบหน้าตาย
"ให้ตายเถอะ เธอเนี่ย อย่าให้พวกแฟนคลับของฟูจิมูระรู้เชียวนะ ไม่งั้นเธอตายแน่"มิมิกล่าว ก่อนจะหันไปมองรอบๆเพื่อมองดูเหล่าแฟนคลับ ซึ่งท่าทางแถวนี้จะไม่มี จึงหันกลับมา
"เอาน่าๆ ยังไงฉันก็ตายยากจ้ะ"คาโอริเอ่ยพร้อมกับหัวเราะเบาๆ นัยน์ตาสีเงินเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ
"อ๊ะ! ป่านนี้แล้ว วันนี้แม่ใช้ให้ไปซื้อของด้วยอ่ะ ต้องกลับแล้วล่ะ ไปก่อนนะจ้ะ!"คพูดสุดท้าย ก่อนเจ้าของเสียงจะคว้ากระเป๋าและวิ่งออกจากห้องเรียนไปโดยไม่รอคำเอ่ยลาของเพื่อนทั้งสองเลย
****************************
"ว๊าย!ๆๆๆ ลดราคาถึงแค่สี่โมงครึ่งด้วยสิ จะไปทันมั้ยเนี่ยยยย!"เด็กสาวเอ่ยกับตัวเองก่อนจะเร่งฝีเท้ามากขึ้น ทว่า กลับมือบางสิ่งเบื้องหน้ามากีดขวางทางเดิน จนทำให้เจ้าตัวต้องชะลอฝีเท้าเพื่อไม่ให้ร่างของตนเข้าปะทะกับสิ่งนั้น
ประตู!?
ประตูไม้บานใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เรืองแสงนวลอ่อนโยนราวแสงแห่งดวงจันทร์ สวยงามราวประตูสวรรค์ มันดึงดูดให้หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ มือบางยื่นออกไปแตะที่ประตูเบาๆ พลันรู้สึกถึงแรกกระตุกประหลาดที่คอ นัยน์ตาสีเงินเหลือบไปมอง และพบว่า จี้ที่คอตนเองกำลังเรืองแสงแบบเดียวกับประตู และมันพยายามลากพุ่งเข้าไปหารูกุญแจนั้น
คาโอริชั่งใจอยู่พักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจคว้าจี้รูปร่างประหลาดที่คอของตนเองเสียบเข้าไปในรูกุญแจที่ประตู
กริ๊ก!
เสียงสลักกลอนประตูถูกปลด พร้อมกันกับที่ประตูเปิดอ้าออก แสงสว่างสีขาวบาดตาจากข้างในประตู ทำให้ต้องหยีตาลง เด็กสาวเริ่มสาวเท้าเข้าไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ปัง!
ทันทีที่ขาบางก้าวพ้นบานประตู ประตูก็ตีกลับมาปิดเองโดยอัตโนมัติ ราวกับ...มีเวทมนตร์
เด็กสาวรู้สึกเหมือนมันนานมากที่เดินเข้าไปในประตูนั้น แสงสว่างที่แสนจ้าทำให้ไม่อาจมองเห็นสิ่งใด สายลมอ่อนๆที่ไม่รู้ว่าพัดมาจากที่ไหนเริ่มแรงขึ้น สายลมเริ่มหมุนวนรอบร่างของเธอราวกับโอบอุ้มเธอเอาไว้
อบอุ่น อ่อนโยน ความรู้สึกนี้มันอะไรกันนะ
"...ช่วยอาณาจักรนี้ให้ได้นะ"เสียงกระซิบหวานๆดังมากับสายลม ก่อนจะเงียบหายไปราวความฝัน
"ใครน่ะ ใครอยู่ตรงนั้นหรอ"เด็กสาวก้าวไปเบื้องหน้า แสงสว่างที่เจิดจ้าจางหายไปหมด สายลมที่หมุนวนรอบตัวหายไปหมดแล้ว
ที่นี่ที่ไหน!?
เด็กสาวคิดอย่างงงๆ ดูท่าทางเธอจะเข้ามาผิดที่ซะแล้ว
นัยน์ตาสีเงินกวาดมองรอบบริเวณ ดอกไม้หลากสีสันบานสะพรั่งเต็มทุ่งไกลสุดลูกหูลูกตา
ทั้งๆที่เคยมาครั้งแรก แต่ทำไมถึงรู้สึกคุ้นๆ!?
คาโอริมุ่นคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ พลันก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อสัมผัสถึงอะไรบางอย่างเบื้องหลัง เด็กสาวปราดไปมองอย่างรวดเร็ว แล้วก็ต้องผงะ เมื่อสิ่งที่พบคือ คนแคระ!
สตรีร่างเล็กที่สูงเพียงแค่เอวของเธอ นัยน์ตาสีน้ำตาลกลมโตจ้องมองเธอด้วยความสนใจ มือเล็กๆยื่นออกมาสะกิดหลังของคาโอริยังคงถูกยกค้างอยู่ ผมสีน้ำตาลชาถูกมัดไว้เป็นแกละหลวมๆสองข้าง
"เธอเป็นใครน่ะ"คาโอริเอ่ยถามขึ้น
"ข้าชื่อ เฟรี ถูกท่านอาเลียสั่งให้มานำทางท่านจ้า"คนแคระเอ่ยตอบเสียงใส
"นำทางฉัน!?"คาโอริทวนคำ "ทำไมล่ะ นำทางไปไหน"
"นำทางไปปราสาทจ้า องค์หญิง"
"องค์หญิง!? เดี๋ยวก่อน องค์หญิงนี่ หมายถึงฉันหรอ"คาโอริชี้มาที่ตัวเอง พร้อมเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ
"ใช่แล้วจ้า"เฟรีพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของคาโอริ และเริ่มลากเด็กสาวให้เดินตามไป
"ดะเดี๋ยวสิ เดี๋ยว หยุดก่อน นี่ ฉันยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่เจ้าหญิงอะไรนั่นด้วย"คาโอริพยายามสะบัดข้อมือออก น่าแปลก ที่คนแคระเบื้องหน้าตัวเล็กกว่าเธอตั้งเยอะ แต่ทำไมแรงเยอะอย่างนี้
"ท่านมีกุญแจไม่ใช่หรือจ้ะ"คนแคระสาวเบือนหน้ามาเอ่ย นัยน์ตาสีน้ำตาลวาวโรจน์ฉายแววแปลกออกไป มันทำให้คาโอริถึงกับกลืนน้ำลายเอื๊อก
"กุญแจที่เธอพูดถึงเนี่ย หมายถึงอันนี้หรอ"เด็กสาวชูจี้รูปจันทร์เสี้ยวสีเงินซึ่งถูกโอบล้อมด้วยดวงอาทิตย์สีทอง บนจัวจี้มีอักขระประหลาดสลักไว้
"นั่นคือ กุญแจมิติสุริยันจันทรา เป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักรแห่งนี้จ้า"เฟรีตอบเสียงเรียบ
"งั้นทำไมมันถึงมาอยู่ที่ฉันได้ล่ะ"
"เรื่องนั้นไว้ไปถามท่านอาเลียดีกว่าจ้า"เฟรีเอ่ยพร้อมกับหยุดกะทันหัน จนคาโอริแทบจะหยุดตามไม่ทัน
เบื้องหน้าของเฟรีและคาโอรินั้นเป็นแท่นหินรูปวงกลมเกลี้ยงๆ
"ในนามของผู้นำทาง จงเบิกทางให้แก่ข้าและองค์หญิง จุดมุ่งหมายคือ ปราสาท"สิ้นเสียงของเฟรี คาโอริก็รู้สึกถึงแรงกระตุกอย่างรุนแรง สายลมรอบตัวพัดหวือ เพียงพริบตาความรู้สึกทั้งหมดก็หายไป พร้อมกับภาพเบื้องหน้าที่เปลี่ยนไปจากเดิม
ง่า ขออัพไว้แค่นี้ก่อนน้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น