คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #65 : The Phonucorn ฟีนูคอน : มนต์ถัณฑิล – บทนำ
Title :
The Phonucorn
มนต์ถัณฑิล– บทนำ
Author
: พระจันทร์สีทอง
Genre
: Fantasy Romantic Drama
Warnings
: Yaoi – PG 18
Pairing
:
Kai x DO
บทนำ
The Phonucorn ฟีนูคอน : มนต์ถัณฑิล
สองขาเล็กหยุดนั่งบนขอนไม้เก่าตรงหน้ารั้วบ้าน
ดวงตากลมโตทอดมองออกไปไกลเหนือหลังคาบ้านทุกหลังในเมืองโซม่า
ด้วยความที่บ้านเมืองเป็นพื้นที่ต่างระดับคล้ายหุบเขาน้อยๆ
แล้วยังบังเอิญว่าบ้านของเขาตั้งอยู่บนหุบเขาลูกโต
ซึ่งสามารถมองได้ไกลสุดถึงหลังคามหาวิทยาลัยฟีนูคอน
พลันคำพูดเดิมๆของมารดาที่ทำงานหนักจนไม่ค่อยได้กลับบ้านก็ดังขึ้นมาในหัว
“ลูกอยากจะเรียนที่นี่ก็ได้ถ้าลูกต้องการ
แต่ตระกูลเราไม่เคยมีใครเรียนมหาวิทยาลัยบนแผ่นดินฟีนูคอนมาก่อน
แม่ไม่แน่ใจว่าพ่อและคนอื่นๆจะว่ายังไง
ถ้ารู้ว่าลูกยื่นเรื่องไปที่มหาวิทยาลัยฟีนูคอน”
คำพูดนั้นสามารถตีได้สองความหมาย
ว่าผู้เป็นแม่อาจจะอยู่ข้างเขา หรือ
อาจจะเอนเอียงไปทางบิดาที่ยังไม่รู้เรื่องก็ได้
และเขาก็มีเวลาอีกไม่มากมายเท่าไรในการทบทวน เนื่องจากจดหมายตอบรับนั้นมาช้าเกินไป
แล้วเขาก็ส่งจดหมายขอศึกษาในมหาวิทยาลัยศาสตร์แห่งการเป็นฟิสสิเพรสไป
จนได้จดหมายตอบกลับไปให้บิดาดูแล้ว
“จะเอายังไงดีล่ะ”
ร่างเล็กคิดวนไปวนมาถึงวิธีที่จะเอาไปบอกผู้เป็นพ่อมาหลายวัน
โชคดีที่บิดาทำงานอยู่ในโลกของฟิสสิเพรส เลยไม่ค่อยได้กลับบ้านพอๆกับมารดา
จึงไม่มีใครโผล่หน้ามากดดันเขาเรื่องใกล้ถึงเวลามอบตัวในไม่กี่อาทิตย์นี้นัก
...แต่วันนี้บิดาของเขาก็จะกลับมาแล้ว...
“คุณหนู แม่ผมให้มาตามไปทานอาหารเย็น”
“อือ เดี๋ยวไปครับ”
ถึงจะรับคำออกไปแล้ว แต่เขายังรู้สึกได้ถึงขาของเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาปีหนึ่งร่วมบ้านเข้ามาใกล้
ตากลมโตกลอกมองขึ้นฟ้าอย่างรู้ว่าไม่อาจเลี่ยงได้ ตัดสินใจลุกขึ้นเตรียมจะเดินไป
แต่พอลุกแล้วเห็นแค่ความว่างเปล่าจึงนั่งลงใหม่
“เห้ย!”
เสียงหวานร้องขึ้นด้วยความตกใจ
เมื่อข้างกายมีเด็กหนุ่มคนที่หายไปนั่งอยู่ เขาส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับความซุกซนนี้
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาให้หมองใจกับคนข้างกาย
“คุณหนูเป็นไรอ่ะ ดูเศร้าๆนะวันนี้
เหมือนไม่ค่อยจะมีความสุขเลย”
“ก็...คิดว่าไม่ค่อยมีหรอก”
“มีไรก็บอกผมได้นะ
ยังไงเราก็เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก อะไรช่วยได้ผมก็ช่วยคุณหนูฟรีๆอยู่แล้วล่ะ
พิเศษเพื่อผู้ว่าจ้างพิเศษเลย”
“เฮ้อ~ เรื่องที่เราอยากพูด
นายยังไม่เข้าใจหรอก แต่ก็ขอบใจที่คิดจะช่วยครับ”
“รู้ได้ไงว่าผมไม่รู้ ผมน่ะเก่งมากนะ
เคยได้ยินฉายาในโรงเรียนของผมรึยัง”
“หึหึ งั้นจะลองปรึกษานายดูดีกว่านะ...”
ร่างบางหัวเราะออกมาอย่างคลายกังวลที่มีเด็กหนุ่มมาคุยด้วย
ก่อนจะมองไปที่ใบหน้านั้นเตรียมจะถามเรื่องที่ค้างคาในใจออกไป
“...ถ้าวันนึงนายต้องเข้ามหาวิทยาลัย
นายจะเข้าที่ไหน และเพราะอะไร”
“ก็ต้องที่นั่นสิ นี่คุณหนูไม่รู้เหรอว่าที่นั่นเป็นที่ในฝันของทุกคนบนแผ่นดินนี้
เด็กทุกคนต่างทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เข้าที่นั่น อะไรกันล่ะเนี่ยคุณหนู
คิดว่าผมจะตอบคำถามง่ายๆแบบนี้ไม่ได้รึไง”
ตากลมโตมองตามนิ้วของเด็กหนุ่มไปแล้วทำได้เพียงกับริมฝีปากของตนเอง
เขาก็อยากจะชี้ไปที่หลังคาของมหาวิทยาลัยฟีนูคอน
แล้วพูดออกไปว่าที่นั่นคือที่ในฝันได้เหมือนกัน
แต่หากทำอย่างนั้นคงถูกประณามจากคนในตระกูลไม่น้อยเลยทีเดียว
“นั่นสินะ
ที่นั่นมันดีที่สุดแล้วสำหรับพวกเรานิ”
“ใช่ ดีที่สุดไปเลย”
ทุกคำพูดของเด็กหนุ่มเหมือนเติมเชื้อความกล้าให้กับร่างเล็ก
จนเผลอพูดเรื่องที่จะเรียนที่มหาวิทยาลัยฟีนูคอนไปกลางโต๊ะอาหารเย็น
ต่อหน้าทั้งบิดาและมารดาที่นิ่งไปเมื่อได้ยิน
หากแต่บทลงโทษที่ตามมาก็เล่นเอาคนพูดถึงกับต้องปล่อยน้ำตาออกมา
“ถ้าอยากอยู่ที่มหาวิทยาลัยฟีนูคอน
ก็ไม่ต้องมาเหยียบบ้านฉันอีก!!!”
ถึงจะรู้ว่าคำพูดนั้นหลุดออกมาแค่แรงโทสะ
แต่ชาวโซม่านั้นถือเรื่องคำพูดแรกเป็นใหญ่
เช้าต่อมาร่างเล็กก็หอบผ้าผ่อนออกไปอยู่กับคุณอานอกคอกที่เข้าใจตนเองในเมืองเดียวกันที่หลังป่าใหญ่แห่งโซม่า
และไม่ได้กลับไปเหยียบบ้านที่จากมาอีกเลย
ไม่รับรู้อะไรเลยนอกเสียจากข่าวคราวเล็กน้อยบนโทรทัศน์
<<<
The Phonucorn…มนต์ถัณฑิล >>>
๒ ปีกว่าต่อมา
“คยองซู หลานควรตื่นได้แล้วนะ
เช้านี้ปาปีโร่ฝึกเก็บผักด้วยล่ะ หลานน่าจะอยากเห็นสินะว่ามันพัฒนาไปเร็วแค่ไหน”
หญิงสาวไวกลางคนเดินเข้ามาปลุกหลานชายที่ยังนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่ม
ออกแรงดึงผ้าผืนนั้นด้วยมือเดียว เพราะอีกมือกำแครอทไว้หลายหัว เตรียมทำมื้อเช้าของโปรดหลานชายให้ได้ทานกัน
คนถูกปลุกเองเมื่อได้ยินแบบนั้นก็แทบจะลุกตาตื่นทันที
เขานึกถึงภาพโทร์ลน้อยกำลังปลูกผักแล้วได้แต่ยิ้มออกมา
“จริงเหรอครับ
ผมว่าแล้วว่าปาปีโร่จะต้องทำได้ดีแน่ๆ”
“ลงไปดูเถอะจ๊ะ
แล้วอย่าลืมถ่ายวีดีโอไว้ด้วยนะ”
“ครับ!”
เสียงหวานรับคำอย่างมีความสุข
ก่อนจะวิ่งตึงตังลงไปทั้งที่ยังสวมชุดนอนตัวโคล่งในแบบของตนเองอยู่
เดินออกทางประตูหลังบ้านไปที่แปลงผักขนาดกลาง
แล้วยิ้มออกมาเมื่อเห็นเจ้าโทร์ลน้อยที่เพิ่งถือกำเนิดได้เพียงอาทิตย์เดียวกำลังปลูกผัก
“โซม่า โมโนส เซดีโอ อเนกราฟี่”
เสียงหวานเอ่ยออกไปด้วยรอยยิ้ม
สองมือผายออกไปบนอากาศ
แล้วก็ปรบมือเบาๆหนึ่งทีเหมือนเป็นการเริ่มบันทึกภาพด้วยกล้องโปร่งแสงอย่างที่ชอบทำ
ในห้องสมุดของบ้านขนาดกลางที่ใหญ่พอสำหรับสองคน
มีห้องหนึ่งสำหรับเก็บวีดีโอพวกนี้จนล้นห้อง
“เก่งมากเลยปาปีโร่”
คยองซูเอ่ยชมโทร์ลน้อยออกไป
เพราะเขาเรียนรู้มาอย่างดีแล้วว่าโทร์ลที่ถูกชมตั้งแต่เด็กจะมีจิตใจบริสุทธิ์
ยิ่งเห็นรอยยิ้มยิงฟันที่คนอื่นอาจมองว่าเป็นรอยยิ้มโง่ๆ
ร่างเล็กก็ยิ่งยิ้มตอบอย่างชอบใจ
...สำหรับคยองซูไม่มีสัตว์วิเศษตนไหนดีเท่าโทร์ลแล้ว...
หลังจากช่วยโทร์ลน้อยปลูกผักจนครึ่งสวน
ก็ปล่อยเวทร่ายรดน้ำแทนไว้อย่างทุกทุก
ส่วนเขาก็เก็บวีดีโอที่บันทึกด้วยเสียงปรบมืออีกครั้ง
ก่อนจะเดินจูงมือปาปีโร่เข้าบ้านไป
ไม่ทันสังเกตว่าตั้งแต่ที่เขาตื่นนอนแล้ววิ่งลงมาที่สวนหลังบ้าน
ก็มีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองตลอดเช่นกัน
“ไหนๆ วันนี้ปาปีโร่ปลูกผักได้เยอะมั้ยนะ”
“โทร์ล~”
“หึหึ ใช่ๆปาปีโร่แกปลูกมันจนเต็มสวนเลย”
คยองซูช่วยเสริมคำพูดนั้นของโทร์ลน้อย
ก่อนจะเดินเอาม้วนวีดีโอที่ได้มาไปเก็บในห้องของมัน
เดินออกมาทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟากลางห้องนั่งเร็วก่อนมื้ออาหารเช้า
กับบรรดาสัตว์วิเศษอีกสองสามพันธุ์ที่อาสาวดูแลอยู่
“ไหนแกเป็นยังไงบ้างเอิร์ก”
มือบางส่งไปจับมังกรน้อยที่ตัวยาวเกือบเท่าแขนเขาทั้งที่อายุเพียงสามวันอย่างเบามือ
ลูบเกร็ดของมันอย่างไม่เกรงกลัวเพราะรู้ว่าทำให้มันสบาย
คยองซูเรียนรู้ที่จะเข้ากับสัตว์หลายพันธุ์บนโลกฟีนูคอน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ คยองฮี
เป็นสัตวะแพทย์ที่เก่งมากเกือบจะที่สุดของโรงพยาบาลฟีนูคอน
แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะความชอบที่มาจากการเกิดเป็นเชื้อสายโซม่า
“คยองซูซุปแครอทของโปรดเสร็จแล้วนะ
มาทานเถอะจ๊ะ”
“ครับ”
ร่างเล็กวางมังกรน้อยลงในเปลข้างโซฟาเช่นเดิม
ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องครัวของเขา
ที่มีแค่อาสาวยืนหันหลังอยู่ที่โต๊ะอาหารเท่านั้น
“ปาปีโร่ล่ะครับ”
“สงสัยจะอยากออกไปทานอาหารเช้ากับครอบครัวน่ะ
กลับไปที่คอกแล้วล่ะ”
“พัฒนาการของมันไวมากกว่าโทร์ลทั่วไป
จะไม่เป็นอะไรแน่เหรอครับ?”
“ไม่หรอกจ๊ะ
มันก็แค่อาจจะโตไวกว่าโทร์ลรุ่นเดียวกันเท่านั้น
แต่โดยรวมมันดีกับสุขภาพของมันมากกว่า อย่างไรพวกโทร์ลก็อยู่ได้ไม่นานอยู่แล้ว
อาคิดว่าไม่น่ามีความผิดปกติเรื่องอายุไขนะจ๊ะ”
“ก็ดีครับ”
คยองซูรับคำอย่างสบายใจมากขึ้น
ก่อนจะนั่งลงเตรียมทานอาหารจานโปรด โดยไม่ทันได้มองตามรางของอาสาวไป
คยองฮีตั้งใจแค่เพียงเอาซุปกลับมาตั้งที่เตาแต่บังเอิญสายตามองผ่านไปพบกับร่างสูงของคนที่คุ้นๆอยู่ไม่ไกล
เขาไม่ได้มองมาทางเธอ แต่เธอก็รู้ว่าเขากำลังมองใครอยู่
เธอหันกลับไปมองหลานชายที่สนใจแต่การทานอาหาร แล้วก็ได้แต่เพียงถอนหายใจออกมาอย่างอดที่จะสงสารไม่ได้
เธอไม่รู้ว่าเขามีเจตนาเช่นไร แต่จากการตามดูมาหลายปีแล้วคยองซูยังปลอดภัย
ก็คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรให้ต้องกังวล
“เมื่อไรจะรู้ตัวสักทีนะตาหลานเอ้ย...ย...ย~”
คยองฮีส่ายหน้าระอาในความใสซื่อของหลานชายอีกครั้ง
ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะเพื่อร่วมทานอาหารเช้า
คยองซูเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้มออกมารับอรุณ
“วันนี้ซุปอร่อยมากเลยครับ
นี่เป็นแปลงแครอทของใครเหรอ”
“ของยอเจจ๊ะ”
“เดี๋ยวต้องไปชมหน่อยแล้ว~”
<<<
The Phonucorn…มนต์ถัณฑิล
>>>
The
Phonucorn – Intro
สวัสดีค่ะนักอ่านทุกคน
ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ ไม่รู้มนต์ถันฑิลสนุกถูกใจมั้ยเอ่ย
แต่อย่างไรฝากติดตามด้วยนะคะ^^
ความคิดเห็น