ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Phonucorn ตอน มนต์ถันฑิล [ KaiSoo , KaiDO : EXO ]

    ลำดับตอนที่ #44 : The Phonucorn ฟีนูคอน : อัสนีสาป - บทนำ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 620
      0
      22 ก.ย. 58

     

    Title : The Phonucorn อัสนีสาป – บทนำ

    Author : พระจันทร์สีทอง

    Genre : Fantasy Romantic Drama

    Warnings : Yaoi – PG 18

    Pairing :  Jongdae x Minseok

     

     

    บทนำ

    The Phonucorn ฟีนูคอน : อัสนีสาป

     

     

     

     

     

    เกล็ดหิมะโปรยปรายหลากลวดลาย ปลิวไปตามสายลมแห่งห้วงอากาศ เหนือม่านเมฆแห่งเมืองปาโกส ที่อยู่ของเหล่าผู้วิเศษที่หลงใหลความหนาวเย็น ก้อนน้ำแข็งไม่ได้เป็นเพียงอาหารของชาวปาโกส แต่มันเป็นที่อยู่อาศัยสุดแสนวิเศษ หิมะสีขาวปรกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ในเมืองน้ำแข็ง มีเพียงจุดๆเดียวในเขตปกครองที่มีหิมะบางตากว่าทุกส่วน

     

    ...เพราะที่นี่ไม่ได้มีเพียงชาวปาโกสเท่านั้น...

     

    เปรี้ยง!

     

    แผ่นดินสั่นไหวตามแรงของสายฟ้าที่ฟาดลงกลางสุสาน สัญลักษณ์ของผู้ล่าที่แข็งแกร่งแห่งโบโลนีได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ในทุกๆเมืองต้องมีผู้ล่าอย่างน้อยสองถึงสามคน ทำหน้าที่ล่าวิญญาณร้ายที่ไม่ยอมอยู่ในที่ของตนเอง โดยเฉพาะในเมืองเนโรดูเหมือนจะเป็นงานหนักที่สุดของผู้ล่า วิญญาณร้ายใต้สายธารแห่งชีวิตเป็นเรื่องที่ยากเกินควบคุม ผู้ล่าที่ทำงานในเมืองเนโรจึงทำงานแบบไม่เป็นสุขเท่าไร ต่างจากผู้ล่าที่ทำงานในเขตอื่น

     

    “อาทิตย์หน้านายก็จะเปิดเทอมแล้วนิ”

     

    “อ่า~ จริงด้วย”

     

    “ทำไมพูดงั้น ดูเหมือนนายไม่อยากเรียนเลยนะ ใครๆก็อยากเรียนที่ฟีนูคอน”

     

    “อาจไม่ใช่สำหรับฉัน”

     

    เสียงทุ้มเอ่ยออกไปอย่างไม่เห็นด้วยกับคำพูดนั้น เขาไม่ได้ยินดีอะไรกับการได้เป็นหนึ่งในรายชื่อนักศึกษาอันทรงเกียรตินั้น การเข้าไปอยู่ในมหาวิทยาลัยฟีนูคอนหมายความว่าเขาต้องย้ายที่ทำงาน แถมกลายเป็นงานที่หนักจนสามารถทำให้หัวโตได้ไม่ยาก

     

    ...ที่มหาวิทยาลัยมีแต่วิญญาณอาจารย์รู้มาก...

     

    “นายกลัวเหรอ ผู้สิ้นชีพที่นั่นฤทธิ์มากนิ”

     

    “ทำไมต้องกลัว ก็แค่พวกแก่ไม่รู้จักแก่เท่านั้น”

     

    “จริงด้วย นายมันผู้ล่าระดับท็อปเลยนิ”

     

    คำชื่นชมนั้นไม่อาจทำให้จิตใจที่แข็งแกร่งพองโตได้เลยสักนิด ขายาวก้าวผ่านป้ายคริสตัลของผู้สิ้นชีพอย่างเชื่องช้า ไม่อยากจะให้มีวิญญาณตนใดตื่นขึ้นมาอาละวาทในวันที่เงียบสงบนี้ เขาทำงานให้เมืองปาโกสมานาน ชาวปาโกสหลายคนเข้าใจว่าเขาคือเด็กปีกซ้ายของเมือง ส่วนคนที่อยู่ทางฝั่งปีกซ้ายก็เข้าใจตรงข้ามกัน

     

    ...อยู่มานานจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของปาโกส...

     

    “แล้วถ้างั้นอะไรทำให้นายไม่อยากไปจากปาโกสล่ะ”

     

    ตาคมวาดกลับไปมองคนถามด้วยคำถามเดียวกันในใจ นั่นดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ค้างคาในใจของเขาเช่นกัน อะไรที่ทำให้เขาไม่อยากเติบโตไปมากกว่านี้ อาจเป็นเพราะเขาเริ่มหลงใหลในความหนาวเย็น บ้านเรือนทีขาวโพลนไร้ชีวิตชีวา ที่นี่ไม่คล้ายกับบ้านของเขาในเมืองโบโลนีเลยสักนิด แต่มันกลับตราตรึงในใจของเขาอย่างประหลาด

     

    “ไม่รู้สิ...”

     

    “หือ?”

     

    คำตอบนั้นถูกเอ่ยออกไปแบบขอไปที ก่อนที่ผู้ตอบจะเลี่ยงเดินหนีไปที่อีกทางหนึ่ง ปล่อยตัวนั่งลงที่ขอนไม้เก่าที่มักจะมานั่งประจำ ในเมืองปาโกสนี้เขาไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวตามพุ่มไม้ เพราะไม่มีใบไม้ใดงอกได้ทามกลางความหนาวเหน็บ

     

    “หึหึ”

     

    เสียงหัวเราะแหบพร่าของผู้ล่าหนุ่มดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบา ในมือของเขากลับขยับเล่นกับคริสตัลใสอย่างนึกสนุก เกล็ดหิมะเหล่านี้คือความงามในแบบที่เขาไม่สามารถพบได้ในเมืองอื่น เพราะหากเป็นเมืองอื่นมันคงละลายเป็นเพียงน้ำเท่านั้น

     

    กึก!

     

    คริสตัลใสค่อยๆแข็งเกร็งและแตกสลายลงในที่สุด เมื่อมือหนาที่ไร้สิ่งบดบังแตะต้อง สร้างความตกใจให้กับร่างสูงที่กำลังเพลิดเพลินกับมันได้ไม่น้อย ตาคมเบิกขึ้นอย่างรู้สึกผิดรีบซ่อนร่างกายของตนเองภายใต้เสื้อคลุมตัวยาวอีกครั้ง

     

    ...ผิวหนังแห่งผู้ล่า...

     

    “เฮือก!

     

    ความหวาดกลัวเกาะกินทั่วร่าง ตาคมพยายามเพ่งมองไปทางอื่นเพื่อหาความสงบ ความรู้สึกเหมือนสูญเสียเหล่านี้เริ่มทำร้ายเขาอีกครั้ง มันเป็นความจริงที่ว่าเมื่อชาวโบโลนีต้องสาปสาบาน ให้ร่างกายนี้เป็นทาสรับใช้ต่อสายเลือดแห่งเทพีโบโลนี เนื้อกายจะเป็นกรดสาปแสนร้ายของผู้ล่าทันที แต่มันกลับแลกมาด้วยเลือดเนื้ออมตะที่จะมีเพียงสายเลือดแห่งสายฟ้าที่ได้ครอบครอง ความพิเศษในวันแรกที่ได้รับจึงนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานจนกว่าจะสิ้นชีพ

     

    ...เขาเลือกผิดไป ทั้งที่ไม่ได้ชี้นิ้ว...

     

    “น่าสมเพช...”

     

    “หุบปากซะ อากอร์ส!

     

    “ทำไมล่ะ แทงใจดำเหรอผู้ล่า”

     

    “คำพูดเน่าหนอนของแก ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”

     

    “แน่นอนท่านผู้ล่า ท่านสามารถจองจำข้าได้นิ หึหึ”

     

    เสียงหัวเราะนั้นเหมือนการเยาะเย้ยจากวิญญาณร้าย ร่างสูงหันไปมองอย่างไม่ชอบใจนักที่ต้องมาทนฟังอะไรเช่นนี้ หากเป็นวิญญาณตนอื่นเขาคงจับใส่ถุงแล้วเอาไปถ่วงสายน้ำแห่งชีวิตแล้ว หากเพียงวิญญาณตนนี้ไม่บังเอิญเป็นวิญญาณเจ้าที่ของสุสาน

     

    “ขอแค่มีโอกาส รับรองว่าแกจะต้องถูกขังไว้ใต้น้ำแข็งนี้แน่”

     

    “ผู้ล่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกหลังสิ้นชีพ ทำได้แค่นี้เหรอ อ่อ! ข้าลืมไปว่าพวกเจ้าไม่ค่อยมีความสามารถนิ ขนาดแค่จะมีความสุขกับหิมะยังทำไม่ได้”

     

    มือหนากำแน่นเพื่ออดทนต่อคำพูดถากถางนั้น พยายามซ่อนร่างกายของตนเองใต้ผ้าคลุมสีทะมึน แม้ไม่อยากจะยอมรับว่าคำพูดจากวิญญาณร้ายนั้นเป็นจริง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามีตรงไหนที่เป็นเท็จ

     

    “คำพูดของข้า ทำท่านโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้วเหรอผู้ล่า”

     

    “ฉันไม่ใช่ผู้พิทักษ์”

     

    คำพูดเชิงหยอกล้อถูกส่งกลับไปแต่ไม่แฝงแววความหยอกล้อเลยสักนิด ร่างสูงจงใจสะบัดผ้าคลุมของตนเองใส่วิญญาณหยาบคายนั้น เพื่อลดเกียรติที่เขากำลังทระนงอยู่

     

    ...เจ้าก็แค่วิญญาณ...

     

    “โอ้! ถึงขนาดต้องทำเช่นนี้กับข้าเลยเหรอสหาย?”

     

    “ใครเป็นสหายเจ้า เจ้าวิญญาณเลือดเย็น”

     

    “นี่มันถือเป็นการดูหมิ่นเกียรติแห่งปาโกสเลยนะ”

     

    อากอร์สไม่มีแววสลดต่อสิ่งที่ถูกกระทำสักนิด เขาเป็นวิญญาณร้ายมาหลายชั่วการถือกำเนิด แถมยังลอยไปลอยมายียวนอารมณ์ของผู้ล่าหนุ่มไม่ล้างลา เขาชอบที่จะได้ยั่วโมโหเด็กหนุ่มคนนี้เป็นพิเศษ

     

    “จะไปไหนก็ไปเสีย อากอร์ส”

     

    “ทำไมข้าต้องไป ข้าชอบเจ้าจะตาย”

     

    “แต่ฉันเกลียดแก ถ้าอยากเล่นสนุกก็ไปหาผู้ล่าตนอื่นไป”

     

    “ข้าไม่ใช่หมานะ ที่จะต้องรับคำสั่งจากเจ้า”

     

    “อย่ามายั่วโมโหฉันอากอร์ส ฉันมีงานมากมายต้องทำ”

     

    “เช่น...การนั่งเล่นเกล็ดหิมะน่ะเหรอ?”

     

    “อากอร์ส!!!

     

    ปึ้ง!!!

     

    สิ้นเสียงคำรามปรามนั้น เสียงเหมือนระเบิดก็ดังขึ้นไม่ไกลนักจากที่เขาอยู่ ขายาวออกวิ่งไปตามทางเดินยาวของสุสาน ตัดลัดผ่านหิมะไปอย่างยากลำบากจนต้องตัดสินใจปีนขึ้นไปบนต้นไม้สูงใหญ่ไร้ใบนั้น กระโดดจากต้นไม้หนึ่งไปอีกต้นอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะมาถึงที่เกิดเหตุที่กลายเป็นหลุมใหญ่

     

    “เกิดอะไรขึ้น!

     

    เสียงของผู้ล่าอีกตนถามขึ้นด้วยท่าทางร้อนรน นี่มันไม่ปกติเลยสักนิดสำหรับสุสานยามค่ำคืน ตาคมกวาดมองไปรอบๆอย่างหาต้นเหตุ แม้แต่อากอร์สที่ลอยตามมาด้วยก็ยังแสดงสีหน้ากังวล

     

    “ใครทำวะ?”

     

    “ฉันไม่รู้...”

     

    เสียงทุ้มตอบออกไปอย่างคิดไม่ตก ไม่เคยมีใครกล้ามาท้าทายอำนาจของผู้ล่าเช่นนี้ มันคงไม่ใช่ฝีมือของผู้วิเศษแน่ หากแต่คนที่ทำคงมีพลังมากมายมหาศาลไม่ใช่น้อย ถึงได้ก่อร่างลูกไฟใหญ่ถึงเพียงนี้ได้

     

    “เราต้องรายงานท่านหัวหน้า”

     

    “รบกวนนายด้วย ฉันขอสำรวจแถวนี้ก่อนเพื่อความแน่ใจ”

     

    “อืม แล้วตามไปล่ะ”

     

    เพื่อนผู้ล่าเดินนำอากอร์สที่อยู่ในห้วงแห่งความกังวลไป ปล่อยให้ร่างสูงก้าวเข้าไปใกล้หลุมใหญ่นั้นมากขึ้น ตาคมยังคงมองไปรอบๆเพื่อตรวจดูให้แน่ใจ แล้วก็พบสิ่งที่ไม่คิดว่าจะพบตรงปลายเท้า

     

    ...ขนนกไหม้...

     

    “ฟินิกส์?”

     

    ดินแดนฟีนูคอนนั้นเต็มไปด้วยผู้วิเศษมากมาย พวกเขาสามารถทำได้ทุกสิ่งที่อยากทำ และ มีความเชื่อว่าตนเองนั้นคือสิ่งที่วิเศษวิโสเหนือใครเปรียบ แต่หากได้อ่านตำราแห่งการถือกำเนิดอย่างแท้จริงแล้ว เหล่าผู้ล่าต่างรู้ดีว่าสิ่งที่น่ากลัวกว่าวิญญาณก็ยังมีอยู่

     

    ...เช่นเหล่าสัตว์วิเศษที่โมโหร้ายไงล่ะ...

     

    “แกมาที่นี่ทำไมนะ”

     

    ตาคมกวาดมองไปทั่วท้องฟ้าที่มีเพียงหิมะ เขารู้ว่าตนเองไม่มีทางประเมินผิดไปอย่างแน่นอน แต่การที่มีฟีนิกส์อยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยหิมะเช่นนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน และ หน้าที่ของผู้ล่าคือหาความจริงทั้งหมดนั้น

     

    ...มนต์สาปแห่งโฟเธีย...

     

    “เป็นไปได้มั้ยนะ”

     

    มือหนากำขนนกในมือแน่นอีกครั้งอย่างใช้ความคิด บางอย่างบอกเขาว่ามันใกล้ถึงเวลาของจุดเริ่มต้นแล้ว หากแต่เพียงเขาเจอสายเลือดเทวาแห่งโฟเธียเท่านั้น ทุกความสงสัยก็จะจบลงในทันที

     

    “ชีวิตมหาลัยของฉัน มีสีสันขึ้นมาหน่อย”


    <<< The Phonucorn…อัสนีสาป >>>

     

    The Phonucorn – Chapter 3.1

    สวัสดีค่ะนักอ่านทุกคน

    หายไปเกือบสองเดือนกลับมาแวนะคะ ไม่รู้ว่าทุกคนยังอยู่ด้วยกันมั้ย แอมอาจไม่ค่อยมีเวลาด้วยแอมทำเรื่องขอทุนไปเรียนญี่ปุ่นผ่าน หลายๆอย่างในชีวิตมันเลยยุ่งยากมากเลยค่ะ แต่แอมจะพยายามลงให้เป็นเวลาเหมือนเดิมนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ยังเป็นกำลังใจห้กันค่ะ^^


     © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×