ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Phonucorn ตอน มนต์ถันฑิล [ KaiSoo , KaiDO : EXO ]

    ลำดับตอนที่ #38 : The Phonucorn ฟีนูคอน : ตรวนกาฬวาต – บทที่ ๑๕

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 409
      3
      3 เม.ย. 58

     

    Title : The Phonucorn ตรวนกาฬวาต – บทที่ ๑๕

    Author : พระจันทร์สีทอง

    Genre : Fantasy Romantic Drama

    Warnings : Yaoi – PG 18

    Pairing :  Sehun x Luhan

     

     

    บทที่ ๑๕

    The Phonucorn ฟีนูคอน : ตรวนกาฬวาต

     

     

     

     

     

    เพราะคำพูดของแบคฮยอน ทำให้ผมต้องรีบเดินกลับมาที่ห้องของผมด้วยความเร็วสูง ตั้งใจจะมาอ่านช่วงของสายเลือดเทวาแห่งอเนโมสที่เปิดข้ามทวนดูอีกครั้ง แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเอาเสียเลย เมื่อเซฮุนดันนอนขัดแร่นักรบอยู่บนเตียงของเขา ผมผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นดังนั้น แต่ก็ทำเนียนเดินไปหยิบถุงหนังสือมานั่งอ่านที่โต๊ะของตนเอง

     

    “เสี่ยว ลู่ฮาน อ่านหนังสือทั้งที่ยังไม่เปิดเทอมเนี่ยนะ?”

     

    “...”

     

    คำพูดประชดประชันนั้นผมได้ยินมันทุกอย่าง แต่ก็เลือกที่จะไม่ตอบโต้อะไรออกไป ผมแค่ก้มหน้าทำเป็นเหมือนโกรธเขาเท่านั้น ทั้งที่ในใจตอนนี้มันกลัวเขามากกว่าทุกสิ่งแล้ว กลัวว่าถ้าเซฮุนเข้ามาใกล้แล้วจะรู้ว่าผมรู้อะไร ถ้าเขารู้ว่าผมรู้แล้วว่าเขาเป็นสายเลือดเทวาแห่งอเนโมสมันจะเกิดอะไรขึ้น

     

    “นายว่ายังไงนะ!

     

    เสียงทุ้มแผดขึ้นท่ามกลางความเงียบ จนลู่ฮานอดไม่ได้ที่จะหันไปมองว่าร่างสูงกำลังพูดคุยกับใครอยู่ เพราะนับตั้งแต่เขาเดินเข้าห้องมานั้น ยังไม่ได้ปริปากเอ่ยคำใดออกไปเลย

     

    “อะไรของนาย ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย?”

     

    ร่างบางถามกลับด้วยใบหน้าที่ไม่เข้าใจ เซฮุนจึงรีบกุมขมับแน่นแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่น ตาคมพยายามมองออกไปให้ไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่ให้ตนเองสนใจกับสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวนัก ลู่ฮานส่ายหน้าด้วยความระอาในความพาลของอีกคน ก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับหนังสือตรงหน้าต่อ แต่ก็อดจะเหลือบมองใบหน้าหล่อที่ไม่สู้ดีเป็นระยะ

     

    ...มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่านะ?...

     

    “นะ...”

     

    “นายมันโง่รู้รึเปล่าลู่ฮาน”

     

    “หือ?”

     

    “นายมันโง่ที่เอาตัวเองเข้ามายุ่งกับเรื่องพวกนี้ ถ้าคนฉลาดเขาจะไม่มีวันยุ่งกับฉันกันหรอก แต่เพราะนายมันโง่!

     

    อยู่ๆร่างสูงก็พูดขึ้นมาด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด ตาคมจ้องใบหน้าสวยแววตาซ่อนความเว้าวอนไว้อย่างเห็นได้ชัด แต่ที่ลู่ฮานไม่เข้าใจคือภายใต้คำพูดร้ายกาจเหล่านั้น อะไรคือสิ่งที่เซฮุนกำลังพยายามขอร้องเขาอยู่กันแน่

     

    ...เขาไม่เข้าใจ และ ไม่อยากจะเข้าใจ...

     

    “นายอยากจะพูดอะไรก็เรื่องของนายเถอะ แต่รู้ไว้เลยว่าคนโง่ๆอย่างฉันจะต้องรู้มันให้ได้ ทั้งความลับทั้งหมดของนาย ทั้งความจริงที่ว่านายเป็นใคร ฉันจะต้องรู้ทั้งหมดนั่นแหละ!

     

    ลู่ฮานยืนขึ้นประกาศกร้าวราวกับประกาศสงครามกับเซฮุน ก่อนจะหันหลังกลับไปนั่งลง แล้วอ่านคัมภีร์แห่งการถือกำเนิดต่อ โดยไม่สนใจเสียงโหยหวนของเซฮุน ที่เปล่งออกมาด้วยความทรมานอย่างไม่มีสาเหตุ

     

    “ฉันจะไม่มีวันสงสารนายอีกแล้ว!

     

    มือเรียวกำแน่นพยายามควบคุมสมาธิตนเองไม่ให้วอกแวกไปหาร่างสูง แล้วในที่สุดเขาก็สามารถหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ได้จริงๆ

     

    ...ความจริงของสายเลือดเทวาแห่งอเนโมส...

     

    “นี่มันจริงเหรอเนี่ย...”

     

    เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อกับข้อมูลที่เขาเพิ่งอ่านมัน ความลับทั้งหมดของเซฮุน มันบอกให้เขารู้ว่าร่างสูงนั้นเป็นใคร และ สำคัญแค่ไหนกับฟีนูคอน เลือดในกายอันศักดิ์สิทธ์แห่งเทพเจ้า คือต้นเหตุของสิ่งทั้งหมดที่เซฮุนกำลังเป็นอยู่ ความสงสารที่พยายามโยนทิ้งตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง ตากลมโตทอดมองร่างที่หลับไปด้วยความทรมานอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ที่ข้างเตียงของเซฮุน

     

    “นายคงต้องทรมานกับมันมากใช่มั้ย”

     

    คนนิทราไม่อาจได้ยินคำถามแสนเศร้านั้นได้ หากแต่ลู่ฮานก็เลือกที่จะจุมพิตลงที่หน้าผากหนานั้นอย่างแผ่วเบา หวังว่าศีลของเขาจะชโลมหัวใจแห่งวายุให้สงบได้ หวังว่าคืนนี้เซฮุนจะหลับฝันดี

     

    “เรื่องร้ายๆจะต้องผ่านไป นายจะต้องมีความสุขกับมันแน่นอนเซฮุน”

     

    <<< The Phonucorn…ตรวนกาฬวาต >>>

     

    “อื้ม...ม...ม~”

     

    เสียงทุ้มครางออกมาอย่างเหนื่อยล้า เขานอนหลับสนิทตลอดคืนก็จริง แต่เป็นการหลับลึกที่ทรมานที่สุดในชีวิต เซฮุนไม่เคยฝันเป็นเรื่องราวต่างๆชัดเจนเท่าเมื่อคืน ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเขาได้ยินเสียงของลู่ฮานจนหลับไป ได้ยินสิ่งที่เขาหลีกหนีมาตลอดหลายเดือนที่ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับตนเอง

     

    ...ไม่เคยคิดว่าเวลาที่ต้องยอมรับจะมาถึงเร็วขนาดนี้...

     

    “อื้ม~ หือ? ทำไมวันนี้นายตื่นไวจัง?”

     

    แต่ทุกอย่างดูเหมือนจะผิดคาดกว่าที่เซฮุนคิดไว้ ลู่ฮานยังคงทำเหมือนทุกวันที่ตื่นมา คือมองมาทางเตียงเขาแล้วพูดทักทายแปลกๆ แถมเนื้อเสียงก็ดูเหมือนว่าร่างบางจะยังไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ แต่เท่าที่จำได้ทั้งหมดก่อนจะหมดแรงต่อสู้แล้วหลับไป เขาคิดว่าร่างบางควรจะเข้าใจมันทั้งหมดแล้วสิ

     

    ...ลู่ฮานก็ไม่ได้โง่ขนาดที่เขาพูดจริงๆสักหน่อย?...

     

    “อ่า...กะ...ก็นอนไม่ค่อยหลับน่ะ”

     

    “เหรอ? ฉันว่าเมื่อคืนก็เย็นสบายดีนิ”

     

    “ฝันร้ายน่ะ”

     

    “คงเป็นเพราะนายหน้าตาไม่ดี เทวดาเลยลงโทษน่ะ”

     

    เสียงหวานเอ่ยออกไปอย่างกวนประสาท ก่อนจะทำเดินมึนออกไปอาบน้ำอย่างที่เป็นประจำ เล่นเอาเซฮุนที่ทำใจเจอเรื่องหนักใจ ได้แต่อ้าปากค้างไม่รู้จะเถียงออกไปว่ายังไงก่อนดีเลย

     

    “อาบน้ำก่อนนะ นายก็ไปดูห้องซิ่วหมินด้วยล่ะ เดี๋ยวไปเรียนสาย”

     

    “อ่า~”

     

    สุดท้ายเลยกลายเป็นว่าเซฮุนรับคำออกไปอย่างเชื่องๆ มองตามลู่ฮานที่กระโดดร่าเริงออกไป แล้วได้แต่เกาศีรษะอย่างไม่รู้จะบรรยายด้วยคำพูดว่าอะไรดี สุดท้ายก็ทำตามที่รับปากร่างบางมา แล้วก็แต่งตัวลงมานั่งรอลู่ฮานที่มักจะเป็นคนที่ทำกิจกรรมส่วนตัวนานกว่าคนอื่นเสมอ เพื่อนทุกคนลงความเห็นว่าการอาบน้ำอย่างจริงจังตามฉบับชาวเนโรเป็นเรื่องน่ารำคาญ เพราะแค่พวกเขาร่ายเวทที่เดียวก็สดชื่นเหมือนได้อาบน้ำใหม่แล้ว โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาร่วมครึ่งชั่วโมงในการชำระร่างกายเลยด้วยซ้ำ

     

    “สายตลอด”

     

    “สายแบบสมบรูณ์แบบ ดีกว่าเร็วแต่ไม่เคยเรียนรู้การอาบน้ำแบบพวกนายแล้วกัน”

     

    “ฉันไม่เห็นว่าการอาบน้ำจะสำคัญอะไรกับผู้วิเศษ”

     

    “เพราะตั้งแต่เกิดมานายมันไม่เคยอาบน้ำไง เลยไม่รู้ว่ามันดียังไง”

     

    ใบหน้าสวยลอยหน้าลอยตาเถียงเซฮุนออกไปอย่างนั้น ก่อนจะถูกซิ่วหมินห้ามทัพเพราะกลัวว่ามันจะสายไปกันใหญ่ ทั้งห้าถึงได้เดินออกมาเพื่อเดินทางไปที่ตึกเรียน แต่ดูเหมือนเช้านี้มันจะไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เมื่อรุ่นพี่คนดังมายืนรอบางอย่างที่หน้าหอพักฝั่งเย็นแต่เช้าเช่นนี้

     

    ...รู้ว่าหล่อแต่จำเป็นต้องยืนพิงน้ำพุทำเท่มั้ย?...

     

    “พี่คริส...?”

     

    เสียงของอี้ชิงที่คิดว่าอุทานออกมาเบาแล้ว เรียกให้เซฮุนและแบคฮยอนที่เดินมาข้างกันหันไปมองได้ไม่ยาก ตาคมเสกลับไปมองใบหน้าหล่อที่ก็มองมาที่เพื่อนของเขาเช่นกัน ความรู้สึกไม่ชอบใจผุดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่ว่าเพราะเขากำลังตกหลุมรักอี้ชิงแต่อย่างใด ทั้งหมดมันก็แค่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ของชาวเผ่าเท่านั้น

     

    ...อเนโมสจะไม่มีวันญาติดีกับพวกลูกอกตัญญู...

     

    “เซฮุน เราลืมของน่ะ เดี๋ยวเดินกันไปก่อนเลยนะ”

     

    “ลืมอะไรของนาย? รีบไปเอาไปเดี๋ยวรออยู่เนี่ยแหละ”

     

    เซฮุนรู้ดีว่านั่นก็แค่ข้ออ้างที่อี้ชิงยกขึ้นมา เพียงเพื่อจะได้เข้าไปคุยกับรุ่นพี่ร่างสง่านั่น แต่เขาไม่อยากให้เพื่อนกลายเป็นที่วิจารณ์ของคนอื่น แค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้อี้ชิงก็มีปัญหามากพออยู่แล้ว

     

    “ไม่เป็นไรจริงๆ ไปกันก่อนเลย”

     

    “อะไรของนะ...”

     

    “นายนั่นแหละอะไร อี้ชิงเขาโตแล้วนะ จะไปเซ้าซี้เขาทำไมเนี่ย?!

     

    เป็นลู่ฮานที่พูดขึ้นขัดจังหวะ ทำให้เซฮุนหันความสนใจมาเถียงกับรูมเมทของเขาแทน ร่างบางก้าวเท้าหนีคำพูดเดิมๆของเซฮุน หลอกล่อให้ร่างสูงเดินตามมาอย่างที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว ลู่ฮานรู้ว่าอี้ชิงคงมีเรื่องที่อยากจะพูดกับคริสจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่เลือกข้ออ้างที่ไม่แนบเนียนแบบนั้น เขารู้ว่าชาวอเนโมสไม่ควรจะเสวนากับพวกโฟเธีย แต่ถ้ามองในมุมของมิตรภาพ ลู่ฮานก็ไม่คิดว่ามันจะเสียหายตรงไหน

     

    <<< The Phonucorn…ตรวนกาฬวาต >>>

     

    “เป็นอะไรของนาย?”

     

    เซฮุนที่นั่งอยู่ข้างๆอดที่จะถามอี้ชิงออกไปไม่ได้ หลังจากที่อี้ชิงตามมาทีหลัง ก็เอาแต่นั่งเหม่อ จนแทบไม่ได้มองไปที่อาจารย์วิชาเรือนชะตาตรงหน้าเลย เซฮุนชอบวิชานี้นะแต่ก็จะยอมเบนความสนใจมาให้อี้ชิงสักนิดแล้วกัน อีกอย่างคือความอยากรู้อยากเห็นในใจเขามันเรียกร้องให้ถามออกไป

     

    “ถามฉันเหรอ?”

     

    “ฉันคงถามไอ้ลู่ฮานที่นั่งหน้าหงิกเป็นตูดอยู่นั่นมั้ง”

     

    อี้ชิงส่ายหน้าด้วยความระอา ในขณะที่ใบหน้าหล่อหันไปมองบุคคลที่สามในประโยคด้วยความหมั่นไส้ นับตั้งแต่ที่เขาเดินเถียงกับลู่ฮานมาตลอดทาง ร่างบางก็ทำเป็นเมินเขาอย่างไม่ใยดี แล้วหนีไปนั่งถึงอีกฝั่งโดยไม่หันมาเถียงอีกเลย เซฮุนเลยต้องกำศักดิ์ศรีมานั่งที่อีกฝั่งของเพื่อน เพื่อไม่ให้เสียฟอร์มไปมากกว่านี้

     

    “พูดจาไม่ดีกับเพื่อนอีกแล้ว”

     

    “อย่างกับเจ้านั่นพูดดีกับฉันมาก”

     

    ร่างสูงว่าพร้อมอดหันไปทำปากขมุบขมิบด่าลู่ฮานไม่ได้ จนกระทั่งลู่ฮานรู้ตัวแล้วหันมามองด้วยความสงสัย เซฮุนถึงกับหันกลับมาหาอี้ชิงแทบไม่ทัน แต่เพราะอี้ชิงยังคงมองอย่างไม่ชอบใจ เซฮุนเลยต้องหาเรื่องเบี่ยงประเด็นกลับมาในเรื่องของเพื่อนต่อ

     

    “เอาเรื่องที่ถามนายก่อน เป็นอะไรวะ?”

     

    “ก็เปล่า”

     

    “นายเหม่อขนาดนี้ยังจะมาบอกว่าเปล่า”

     

    “จริงๆก็ไม่เปล่าหรอก แต่ฉันไม่อยากเล่าน่ะ”

     

    “ฉันเป็นผู้มีพระคุณของนายนะ คิดดูว่านายจะลำบากแค่ไหนถ้าไม่เจอฉัน แล้วขนาดนี้ยังกล้ามีความลับมาปิดฉันอีกเหรอ”

     

    อี้ชิงกลอกตาให้กับคำพูดประชดประชันของร่างสูง เซฮุนมักจะพูดแบบนี้บ่อยๆหลังจากที่พูดครั้งแรกแล้วได้ผล ที่ยิ่งกว่านั้นคือสายตาตัดพ้อที่ส่งมาให้จนเขาทนไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องพูดออกไปจริงๆ

     

    “เรื่องนี้เอาไว้อยู่กันสองคนนะเซฮุน”

     

    “แล้วฉันไม่ใช่เพื่อนนายเหรอ ทำไมถึงพูดให้ฟังไม่ได้ล่ะ”

     

    เป็นซิ่วหมินที่นั่งถัดจากเซฮุน ชะโงกหน้าออกมาถามบ้าง เล่นเอาอี้ชิงถึงกับชะงักเพราะไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เซฮุนมองใบหน้าสวยนิ่งอย่างเข้าใจว่ามีอะไรที่ซ่อนอยู่ในใจนั้น เขารู้สึกถึงความลำบากใจมากมายของเพื่อนร่างเล็ก จึงเลือกที่จะนิ่งและรอดูว่าอี้ชิงจะบอกเรื่องราวทั้งหมดว่ายังไงดี

     

    “ว่าไงล่ะ?”

     

    “ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะซิ่วหมิน ฉันแค่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง”

     

    “เริ่มต้นที่ความจริงไง”

     

    เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง เรียกสายตาของอี้ชิงให้หันไปมองได้ทันที บางทีความจริงอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของทางออก แต่บางครั้งการพูดความจริงออกไปมันก็ไม่ใช่ทุกอย่างของทางออก ในคนหนึ่งคนย่อมซ่อนความจริงมากมายไว้อย่างไม่รู้ตัว พออยู่ๆจะให้พูดแต่ความจริงออกมา มันก็ยากเกินกว่าจะเลือกได้แล้ว ว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่ควรจะพูดมากกว่ากัน

     

    ...บางคนเลือกจะปล่อยไว้จนมันสายเกินกว่าจะพูด...

     

    “ความจริงที่ทำให้นายกลัวที่สุดก่อน พวกเราเป็นเพื่อนของนายนะ ถึงจะไร้ประโยชน์ที่จะพูด แต่นายไม่ควรเก็บมันไว้ สักวันนายอาจเสียใจที่ไม่ได้พูดออกมา”

     

    “ถ้าอย่างนั้น...เที่ยงนี้ฉันมีเรื่องอยากพูดกับทุกคนนะ”

     

    อี้ชิงเอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น ก่อนจะหันไปสนใจกับบทเรียนอย่างที่มันควรจะเป็น ต่างจากเซฮุนที่ไม่อาจละสายตาจากใบหน้าเรียบเฉยของเพื่อนได้เลย เขารู้ว่าในกายนั้นมีเรื่องมากมายที่ควรจะพูด แต่ที่ไม่รู้คืออี้ชิงเลือกที่จะมองว่าเรื่องไหนที่สำคัญที่สุด ส่วนหนึ่งก็กลัวว่ามันจะเป็นเรื่องแร่นักรบที่เขาให้ไป มันคงไม่ดีแน่ถ้าอี้ชิงพูดมันออกมา เพราะลู่ฮานอาจเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกก็ได้ สุดท้ายเรื่องที่เขาโกหกอี้ชิงออกไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ก็จะถูกเปิดเผยออกมา

     

    ...หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องเดียวกับที่เขาคิด...

     

    หลังพักเที่ยงร่างเล็กเดินนำเพื่อนไปในที่ๆซึ่งความลับจะคงอยู่ตลอดไป อี้ชิงเชื่อว่าเพื่อนของเขาจะไม่ทำร้ายเขา เพราะฉะนั้นที่นี่คงปลอดภัยที่สุดจากคนอื่น

     

    “มีอะไรรึเปล่าถึงเรียกเรามาที่นี่?”

     

    เป็นลู่ฮานที่พูดขึ้นมาก่อนด้วยสายตาที่หวาดระแวง ลู่ฮานไม่ชอบสถานที่พูดคุยของอี้ชิงสักเท่าไร เขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นที่สุสาน ที่ซึ่งมีเพียงความเงียบของสายลม กับ เสียงหวีดร้องที่จะสามารถดำรงอยู่ได้ แต่เพราะมันเป็นที่ของสายลมนั้นแหละ ถึงเป็นที่ๆชาวอเนโมสเลือกที่จะเป็นที่ของความลับ

     

    “อย่ามาปอดแหกน่ะ ไหนใครว่าพวกเนโรเป็นผู้ชุบชีวิต อย่างนายเจอแค่วิญญาณหมาเน่าตาย คงช็อคตายก่อนจะได้ชุบชีวิตมันล่ะมั้ง”

     

    เซฮุนเลือกจะพูดสบประมาทออกไปเพื่อให้ร่างบางคลายความกลัว แล้วหันมาให้ความสนใจกับคำพูดกวนประสาทของเขาแทน เซฮุนกลัวว่าลู่ฮานจะสติแตกก่อนที่จะรู้เรื่องทั้งหมดจากอี้ชิง

     

    “เซฮุน!

     

    “พอก่อนๆนะลู่ฮาน เซฮุน ถือว่าครั้งนี้เราขอ”

     

    มือเรียวถูกยกขึ้นห้ามเพื่อนทั้งสองที่ยืนอยู่ตรงข้ามกัน เมื่อแบคฮยอนเข้ามาดึงลู่ฮาน และ ซิ่วหมินเข้ามาดึงเซฮุนแยกจากกัน อี้ชิงก็กำมือเข้าหากันอีกครั้งเตรียมใจที่จะพูดเรื่องของตนเองเสียที

     

    “พูดมาเถอะอี้ชิง”

     

    “คือ...ฉันมีความลับของฉันที่อยากจะบอกทุกคน”

     

    “ความลับ?”

     

    “คือฉัน...มีสองสายในตัวเอง และ ยังไม่มีข้อสรุปสำหรับสิ่งที่เป็นอยู่ มันเลยทำให้อาจารย์โซราคิดว่าฉันไม่ปลอดภัย เธอสั่งให้ฉันปิดเรื่องนี้ไว้ เธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าฉันประหลาด”

     

    ร่างสูงลอบถอนหายใจออกมาอย่างนึกโล่งอก ที่อี้ชิงเลือกจะพูดออกมาแค่นั้น มันเป็นเรื่องที่เขาเองก็รู้ดีมาตั้งแต่ต้น และ มันก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เซฮุนเลือกที่จะให้แร่นักรบนั่นกับอี้ชิง เป็นเหตุผลที่เขายังคาใจอยู่จนถึงวันนี้เช่นกัน

     

    “นี่มันเจ๋งออก นายทำให้เราดูได้มั้ย?”

     

    เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนในชีวิต ไม่เคยได้ยินว่ามีใครมีถึงสองสายในร่างเดียว และ ลืมสนใจเรื่องการเป็นภัยที่อี้ชิงพูดถึงได้เสียสนิท อี้ชิงยิ้มให้บางๆอย่างโล่งอก ก่อนที่จะเลือกกำจี้แร่นักรบอันแรกของตนเองไว้ เตรียมแสดงให้เพื่อนๆได้เห็นในสิ่งที่พูด

     

    “ข้าแต่เทพอเนโมสผู้ศักดิ์สิทธิ์ ร่างกายนี้ข้าขอมอบเพื่อป้องปักษ์ ขอแร่นักรบจงโปรดคุ้มครองกายข้าราวกับเป็นดวงจิตของมัน ข้าขอสาบานจะผูกพันธะสัญญากับเจ้าชั่วนิรันดร์”

     

    สายลมพัดหวีดกว่าครั้งไหนที่เซฮุนเคยเห็น เขาคิดว่ามันรุนแรงกว่าครั้งแรกที่มันถูกเลือกเสียอีก แม้แต่สายลมที่ตอบรับก็ดูรุนแรงและเกรี้ยวกราด ตาคมกวาดมองไปโดยรอบเหมือนรู้ว่ามันไม่ปกติ ในขณะที่เพื่อนๆต่างตั้งใจดูด้วยคิดว่ามันเป็นเพียงอำนาจของแร่นักรบ เซฮุนถือว่าเป็นคนหนึ่งที่คุ้นเคยกับแร่นักรบของเผ่าอเนโมสเป็นอย่างดี ดีพอที่จะมั่นใจว่ามันไม่มีอำนาจใดทำได้ขนาดนี้

     

    ...ต่อให้เป็นอัญมณีแห่งเทพก็ไม่มีทางทำได้...

     

    “เกิดอะไรขึ้นกับนายน่ะ อี้ชิง!

     

    “ฉันไม่รู้!

     

    บทสนทนาสั้นๆเริ่มทำให้เพื่อนทั้งสามที่เหลือหน้าเสีย ร่างเล็กเริ่มลอยไม่ติดพื้นตามกระแสลม พัดเอนซ้ายทีขวาที่จนอี้ชิงหน้าตาเหยเก ก่อนที่แร่นักรบจะก่อร่างอย่างสมบรูณ์ ปลายแซ่ตวัดไม่หยุดทั้งที่อี้ชิงไม่ได้ตั้งใจขยับ เหมือนทุกอย่างก็แค่ตอบรับเพื่อปกป้องร่างกายของผู้ผูกพันธะไว้เท่านั้น

     

    “นี่ไม่ดีแน่ ทุกคนหลบเร็ว!!!

     

    ซิ่วหมินตะโกนขึ้นมาเป็นคนแรก เพราะรู้สึกได้ถึงสิ่งที่ทำให้เกิดแรงสั่นไปทั้งพื้น มีบางอย่างกำลังวิ่งตรงมาทางพวกเขาอย่างเร็ว ร่างกายของมันใหญ่โตกว่าพวกเขาน่าจะเจ็ดถึงสิบเท่าตัวได้ ไม่มีทางที่พวกเขาจะสูมันได้แน่

     

    ปึก!!!

     

    “โอ้ย!!!

     

    ร่างสูงมองทุกอย่างด้วยความรู้สึกไม่สู้ดีนัก ร่างของอี้ชิงที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ถูกอัดเข้ากับต้นไม้ใหญ่ไร้ใบ ก่อนจะร่วงลงมาอย่างหมดแรง ตาคมมองไล่ไปที่ผู้ปองร้ายร่างยักษ์อย่างพยายามตั้งสติ แต่เพียงแค่เห็นดวงตาสีเขียวกลมโตกลางใบหน้ายับยู่ยี่ของมัน สติของเซฮุนก็หมุนเวียนไม่เป็นระบบไปหมด เขาอ่านเรื่องของเจ้ายักษ์โง่นี่มามากมาย แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเจอตัวจริงแบบนี้

     

    “โทร์ล!!!

     

    เสียงคำรามลั่นของเจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ตรงหน้า สร้างความสั่นไหวให้กับพื้นดินและต้นไม้ในสุสานได้อย่างชัดเจน มันกระทืบท้าวราวกับโกรธเคืองบางอย่าง เซฮุนรีบปล่อยลู่ฮานที่เขาคว้าหลบมาด้วย พุ่งเข้าไปช่วยเพื่อนร่างเล็กโดยไม่ลืมที่จะเรียกแร่นักรบของตนเองออกมาด้วย ขวานด้ามยาวก่อร่างขึ้นบนมือหนา ก่อนที่เซฮุนจะฟันมันลงไปกับท่อนขาของโทร์ลยักษ์นั้น แต่มันเป็นความคิดที่โง่มากที่สุด ผิวหนังของโทร์ลนั้นหนาและเหนียวมากจนหัวขวานติดกับขามันแน่น ร่างสูงโดนเหวี่ยงออกมาจนไปกระแทกที่ต้นไม้อีกต้นไม่ไกล

     

    ปึก!!!

     

    “เซฮุน!!!

     

    เสียงหวานแผดขึ้นด้วยความหวาดกลัว เขาเห็นร่างสูงที่ลอยหลุดจากด้ามจับของแร่นักรบ จนกระทั้งไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ แล้วร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วง สลบลงไปคาพื้นจนเลือดไหลอาบใบหน้าข้างหนึ่ง ลู่ฮานคิดว่าเลือดนั้นคงเกิดจากการที่ร่างสูงต้องเกี่ยวกับกิ่งไม้หลายกิ่ง ก่อนที่จะร่วงลงมาถึงพื้นมากกว่า

     

    ...ภาวนาให้เป็นอย่างที่คิด...

     

    ขาเล็กลืมความกลัวทั้งหมดสิ้น คิดแค่ว่าอยากจะเข้าไปดูร่างสูงที่ไร้สติไปแล้วตอนนี้ เพราะหากไม่มีเซฮุนช่วยดึงเขาไว้ ลู่ฮานอาจจะโดนเหยียบไปตั้งแต่คราแรกที่เจ้ายักษ์นี่วิ่งเข้าใส่กลุ่มของพวกเขาแล้วก็ได้

     

    “เซฮุน...เซฮุน”

     

    มือเรียตบเบาที่ข้างแก้มสากพยายามเรียกสติ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยเวลานี้ เสียงของโทร์ลยักษ์ที่คำรามก้องยังดูแผ่วเบาไปถนัดตา เมื่อเทียบกับความกลัวของร่างบางในเวลานี้

     

    ฟึด!!!

     

    ตุ้ม!!!

     

    “โทร์ล!!!

     

    เสียงโหยหวนของเจ้าโทร์ลยักษ์ดังขึ้นดังกว่าครั้งไหน หลังจากที่มันล้มลงด้วยปลายแซ่ตวัดเกี่ยวมันไว้กับต้นไม้ใหญ่ พาร่างของลู่ฮานให้ไหวไปตามแรงสั่น แต่ถึงจะไม่มีแรงพอจะทรงตัว มือเรียวก็ยังกอดรัดร่างสูงที่ไร้สติไว้แน่น กลัวว่าหากปล่อยมือจากเซฮุนไปแล้ว จะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับร่างไร้สตินี้อักครั้ง

     

    ...อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปเลยนะ...

     

    อย่างน้อยถึงจะต้องเป็นอะไรไปในตอนนี้ ก็ขอให้ลู่ฮานได้เจ็บด้วยก็พอ เขาคงไม่รู้สึกดีนัก ถ้าร่างสูงที่ช่วยเขาไว้ต้องเป็นอะไรไป

     

    “โทร์ล!!!

     

    เสียงของโทร์ลยักที่คำรามด้วยความเจ็บปวดทำให้น้ำตาหยดน้อยไหลลงด้วยความกลัว กระทบใบหน้าหล่อที่เริ่มได้สติจากเสียงที่ดังสนั่นสุสานนั้น ตาคมกระพริบเปิดขึ้นด้วยแรงที่เหลืออันน้อยนิด ยกมือหนาขึ้นกอดร่างบางที่ก้มหน้าซุกกับไหล่ของเขาอย่างปลอบประโลม เซฮุนไม่อยากเป็นอะไรจนกว่าจะเห็นลู่ฮานปลอดภัย

     

    “มะ...ไม่เป็น อะ...อะไรนะ”

     

    “ฉันกลัว”

     

    “นะ...นายต้องปลอดภัย”

     

    “นายก็ด้วย ห้ามทิ้งฉันนะ”

     

    ...คำขอนั้นของลู่ฮาน เซฮุนรับคำสัญญาแล้วด้วยชีวิต...

     

    “นักศึกษา!!!

     

    เสียงอาจารย์หนุ่มที่เข้าไปเห็นเหตุการณ์ร้องขึ้นด้วยความตกใจ เซฮุนที่เริ่มมีสติถูกลู่ฮานพยุงขึ้นยืน แบคฮยอนกับซิ่วหมินก็กำลังพยุงตนเองที่บอบช้ำเล็กน้อยเดินเข้าไปใกล้เจ้าโทร์ลยักษ์ที่คำรามไม่หยุด ทุกคนต่างเรียกแร่นักรบออกมาครบมือ พร้อมที่จะสู้เพื่อการมีชีวิตอยู่แม้จะไม่ใช่สายต่อสู้ก็ตาม

     

    “นักศึกษาทุกคนออกไปก่อน คุณชานยอลเดี๋ยวช่วยไปประกาศตามนักศึกษาเผ่าโซม่าทุกคนไปพบผมที่โรงเลี้ยงด้วย!

     

    พวกเขาถูกพาไปที่ห้องพยาบาล และ ถูกร่ายเวทให้สลบไปเพื่อง่ายต่อการตรวจร่ายกาย ร่างสูงที่แม้จะคิดว่าเขายังแข็งแรงดีก็เช่นกัน ถึงเวทร่ายจะเริ่มออกฤทธิ์ แต่ก็ยังคงมองร่างบางที่นอนบนเตียงถัดไปตลอดเวลา แม้แต่ก่อนจะหลับไปเพราะฤทธิ์ของเวทร่ายนั้นก็ตาม

     

    ...เขายังอยากแน่ใจว่าลู่ฮานจะไม่เป็นอะไร ในความฝันดี...

     

                         <<< The Phonucorn…ตรวนกาฬวาต >>>

     

    The Phonucorn – Chapter 2.15

    สวัสดีค่ะนักอ่านทุกคน

    หายไปนานอีกแล้ว ไม่รู้ยังจำแอมกันได้รึเปล่า เดือนมีนาแอมเต็มไปด้วยเรื่องหดหู่ค่ะ ทั้งน้องชายและคุณปู่ที่เสียติดๆกัน มันทำแอมไม่มีเวลาเขียนเท่าไรเลยค่ะ แต่ก็ตอนนี้พยับชลาสินธุ์ใกล้จบแล้วค่ะ ยังไงจะพยายามให้บล็อกเซ็ทเสร็จไม่เกินสิ้นเดือนค่ะ สู้ๆ หวังว่าทุกคนจะยังอยากอ่านฟิคน้อยๆของเค้าน้าาาาาาา~

     

     



    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×