ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Phonucorn ตอน มนต์ถันฑิล [ KaiSoo , KaiDO : EXO ]

    ลำดับตอนที่ #22 : The Phonucorn ฟีนูคอน : เพลิงพิทักษ์ - บทที่ ๒๐ {จบบริบรูณ์}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.02K
      9
      6 ต.ค. 57

    Title : The Phonucorn เพลิงพิทักษ์ – บทที่ ๒๐

    Author : พระจันทร์สีทอง

    Genre : Fantasy Romantic Drama

    Warnings : Yaoi – PG 18

    Pairing :  Yifan x Yixing

     

     

    บทที่ ๒๐
    The Phonucorn ฟีนูคอน : เพลิงพิทักษ์

     

     

     

     

     

    “เดี๋ยว อย่าเพิ่งไปสิอี้ชิง!

    .

    .

    .

    ขายาวก้าวตามมาจนเกือบถึงจัตุรัสกลางเขตปกครองโฟเธีย โชคดีที่ร่างบางชะงักหยุดที่ซุ้มประตูใหญ่ก่อนทางเข้า ตอนนี้ขางในจัตุรัสมีการเรียนการสอนอยู่ หากขาเล็กก้าวเข้าเขตจัตุรัสคงถูกเล่นงานแน่ๆ

     

    ...ชาวโฟเธียเป็นผู้พิทักษ์ไม่ใช่มิตร...

     

    “จับได้แล้ว เกือบไปนะ!

     

    “ครับ?”

     

    ใบหน้าสวยหันมามองอย่างไม่เข้าใจในความหมายของคำพูด เขายังไม่ทันทำอะไรที่เป็นอันตราย แล้วเกือบจะเกิดอะไรขึ้นกัน

     

    “ถ้านายก้าวเข้าไปในจัตุรัสต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่ๆ”

     

    “ทำไมล่ะครับ?”

     

    “ผู้พิทักษ์ก็ไม่ต่างอะไรจากผู้ล่าหรอกนะอี้ชิง พวกเราเกิดมาเพื่อที่จะเป็นนักรบ แต่เราต่างตรงที่ชาวโฟเธียเกิดมาพร้อมมนต์สาป พวกเราถูกสั่งสอนให้หวาดระแวง ไม่ไว้ใจชาวเผ่าอื่นมารุ่นต่อรุ่น”

     

    “โดยเฉพาะกับชาวอเนโมสแบบผม”

     

    ใบหน้าหล่อพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ คริสรู้ว่ามันดูแปลกที่จะพูดแบบนั้นออกไป แต่อย่างไรเสียคนที่นำมนต์สาปมาแก่ชาวโฟเธีย ก็หนีไม่พ้นเทพอเนโมสอยู่ดี ถึงมนต์สาปจะถูกลบล้าง แต่มันไม่เคยล้างลาในความรู้สึกที่สั่งสมมานานของสายเลือดแห่งไฟ

     

    “นายเข้าใจฉันมั้ย”

     

    “ผมเข้าใจทุกคนครับ”

     

    “เราต้องรีบกลับ ก่อนที่จะมีใครมาเห็นนายที่นี่ อุณหภูมิของนายมันเย็นจนขึ้นไอแล้ว ใส่เสื้อของฉันอำพรางไว้ก่อนนะ”

     

    เสื้อโค๊ทตัวหนาของคริสถูกสวมทับลงไปบนร่างบาง เก็บซ่อนธาตุแท้ในกายของอี้ชิงที่เริ่มแสดงอาการต่อต้านความร้อนของเมืองไฟ คริสพยายามพาอี้ชิงหลบสายตาผู้คนผ่านสวนเล็กๆที่มีแต่ต้นไม่ที่ดูไร้วิญญาณ แต่เมื่อร่างบางเดินผ่านเหมือนมันกำลังถูกกระตุ้นด้วยอุณหภูมิที่เข้ากันได้ดีของชาวอเนโมส ร่างสูงต้องคอยระแวดระวังตลอดอยู่ตลอดเวลาว่าจะมีใครบังเอิญเห็นมั้ย

     

    ...ไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับร่างบาง...

     

    “เดี๋ยวเลี้ยวตรง...!

     

    ยังไม่ทันที่เสียงทุ้มจะเอ่ยได้จบประโยค ก็ต้องเบิกตากว้างที่เห็นชายคนหนึ่งตรงเข้ามาทางที่เขากับอี้ชิง แววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยนั้นบอกว่าคนพวกนั้นคงรู้ตัวแล้ว ว่าอี้ชิงนั้นไม่ใช่ชาวโฟเธีย

     

    “พี่คริส...”

     

    “อย่ากลัวนะ นายมีฉันอยู่นะ”

     

    มือหนากุมมือเรียวแน่น พยายามเอาร่างบังร่างบางไว้จนมิตร หากแต่ตอนนี้กิ่งใบของใบไม้ใกล้เคียงเริ่มแต่งรับอุณหภูมิของอี้ชิงที่แผ่ออกมาแล้ว ใบหน้าสวยที่เหมือนจะเข้าใจดีหันไปมองใบหน้าหล่อจัดสีหน้าเครียดไม่ต่างกัน

     

    “ทำยังไงดีครับ”

     

    “ฉันจะพานายออกไปจากที่นี่ให้ได้”

     

    “เขาจะทำอะไรผมมั้ย”

     

    “อย่ากลัวไปเลยคนดี”

     

    คริสเลือกพูดประโยคล่อหลอกนั้นออกไป ก่อนจะแอบร่ายเวทย์ใส่อี้ชิงจนสลบลงไปในอ้อมกอดเขา อุ้มร่างบางไปนอนอยู่บนม้านั่งไม่ไกล แล้วเลือกเดินเข้าไปหากลุ่มคนก่อนที่พวกนั้นจะได้ประชิดตัวคนรัก

     

    “เพื่อนของนายเป็นอะไร”

     

    “เขาป่วยนิดหน่อย เดี๋ยวผมจะรีบพาเขากลับครับ”

     

    เสียงทุ้มเอ่ยออกไปอย่างไม่ให้พิรุธ หากแต่นิสัยหวาดระแวงของชาวโฟเธียนั้นช่างยากจะปล่อยไป ชายคนนั้นไม่สนใจคำพูดของคริสอีกเลย เขาเดินตรงเข้าไปหาร่างบางด้วยแววตามาดร้าย

     

    “เขาเป็นชาวอเนโมส!!!

     

    คำประกาศก้องของชายคนนั้นทำให้พวกอีกสี่ห้าคนด้านหลังเริ่มวิ่งเข้ามาใกล้ร่างที่หลับใหลมากขึ้น คริสไม่ได้อยากจะทำร้ายชาวเผ่า หากแต่เขาก็ไม่สามารถทนมองคนรักตกอยู่ในอันตรายได้จริงๆ

     

    “ขอโทษนะครับ”

     

    “อ๊ะ!!!

     

    ปึก!

     

    เสียงหวีดดังขึ้นเมื่อมือหนาล็อคท่อนแขนใหญ่ของชายคนหนึ่งไว้ได้ พร้อมออกแรงเหวี่ยงร่างนั้นขึ้นฟ้า แล้วกดร่างทั้งร่างลงไปที่พื้นอิฐสีน้ำตาลจนแตกออกจากกัน ทุกสายตาหันกลับมามองร่างสง่าด้วยความเกรงกลัวไม่น้อย คริสสามารถยกร่างของชายที่ใหญ่กว่านเองแล้วทุ่มลงไปได้อย่างไม่ยาก แสดงว่าฝีมือการต่อสู่ก็มีอยู่ไม่น้อย

     

    ...หากแต่นักรบก็ต้องต่อสู้จนกว่าจะไม่มีแรงสู้...

     

    “อย่ายุ่งกับเพื่อนของฉัน!

     

    แม้คริสจะคำรามใส่เพื่อห้ามปรามขาที่ยังก้าวเข้าไปคุกคามร่างบาง แต่มันอาจไม่ได้ผลในเวลานี้ ชาวโฟเธียถือทิฐิเป็นใหญ่และจะไม่ยอมลงให้เพราะตนเองอ่อนแอเด็ดขาด ชายคนหนึ่งที่มาพร้อมคนที่เขาเพิ่งทุ่มลงไปกับพื้น เรียกแร่นักรบออกมาพร้อมจะทำร้ายพวกเขาเต็มที่ แต่คริสยังไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำแบบนั้น

     

    “อย่าทำแบบนี้เลย มันไม่มีอะไรจะดีขึ้นหรอก เดี๋ยวพวกเราก็จะไปจากที่นี่แล้ว”

     

    “พวกแกบุกรุกยังกล้าพูดเช่นนี้ ไม่รู้เหรอว่าดินแดนโฟเธียไม่อนุญาตให้พาชาวเผ่าอื่นเข้ามา เราไม่ต้อนรับโดยเฉพาะอย่างยิ่ง...พวกอเนโมส!

     

    “เรามีความจำเป็น...”

     

    “ไม่มีข้อยกเว้น แสดงบทลงโทษของคู่พิทักษ์ให้กับอฟาไตรตนนั้นซะ!

     

    เสียงของชายผู้เป็นผู้นำเอ่ยออกไปอย่างเด็ดขาด ก่อนที่ชายอีกสี่คนพร้อมแร่นักรบที่เรียกออกมาพร้อมต่อสู้ตรงเข้าใส่ คริสส่ายหน้าอย่างไม่ชอบใจนักที่พวกผู้ใหญ่ทำตัวพูดไม่รู้เรื่อง สุดท้ายเขาก็จำใจต้องเรียนแร่นักรบของตนเองออกมา

     

    ...ขวานด้ามยาว...

     

    “อ๊าค...ค...ค!!!

     

    เสียงทุ้มคำรามเหมือนเรียกกำลังทั้งหมดออกมา ง้างมือไปด้านหลังก่อนจะเหวี่ยงมันลงพื้นอิฐสีน้ำตาล เกิดเป็นวงเพลิงใหญ่กั้นบุคคลเหล่านั้นไว้ เขาไม่อยากให้ใครต้องมาเจ็บตัวเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง เอาแค่ไม่สามารถเข้ามายุ่งได้ก็พอ ตาคมหันกลับไปมองชายอีกคนที่อยู่ในวงล้อมของเปลวไฟด้วย และ เห็นว่าชายคนนั้นกำลังร่ายเวทย์คลายนิทราที่เขาทำใส่อี้ชิงไว้ ร่างบางสะลึมสะลือชันตัวลุกขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ถูกมือใหญ่กระชากจนร่วงลงมาจากม้านั่งเสียก่อน

     

    “แก!

     

    ร่างสง่าคำรามออกมาอย่างไม่ชอบใจนักเหวี่ยงขวานออกไปอย่างไม่ทันคิด เขาลืมสติไว้นับตั้งแต่ได้ยินเสียงหวานเอ่ยร้องด้วยความเจ็บ ในคราแรกที่ร่างบางร่วงลงมาจากม้านั่งแล้ว ขนาดเขาเคยคิดทำร้ายอี้ชิง ยังไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เขาทำให้อี้ชิงต้องเจ็บตัว

     

    ...แล้วมันเป็นใคร!...

     

    ขวานใหญ่เฉียดแขนของชายผู้นั้นไปเพียงเล็กน้อย เรียกแววตาเคืองโกรธให้หันมาทางคริสเสียเอง แต่คริสต่างจากอี้ชิงเขาเรียกแร่นักรบนั้นกลับมา แล้วเปลี่ยนพันธะสัญญาเป็นแร่นักรบชิ้นใหม่ ที่เป็นมีดสั้นสองอันบนมือทั้งสองข้าง วิ่งเข้าใส่อย่างไม่เกรงกลัวความเจ็บปวดที่อีกคนจะมอบให้สักนิด ยิ่งเห็นอี้ชิงถูกเหวี่ยงลงไปกับพื้นอีกครั้ง เขายิ่งเหมือนอยากจะฆ่าชายตรงหน้าเสียให้ได้

     

    “เด็กน้อย!

     

    คำพูดหยามเหยียดดังขึ้นออกมาแสดงความชั่วร้าย พร้อมทั้งมีดดาบด้ามยาวที่ก่อร่างขึ้นจากเปลวเพลิงไม่ต่างกัน ร่างสง่ากระโดดกายสูงขึ้นแล้วเรียกเปลวเพลิงเก็บมีดดาบสั้นที่ทำให้ชายตรงหน้าชะลาใจ ใช้ขาที่ยาวกว่ากระโดดเตะที่คอพับจนคนที่ตั้งรับไม่ทันถึงกับเซลงไปเกือบนั่งลงกับพื้น

     

    ...หากแต่นักรบจะไม่ยอมก้มหัวให้อีกฝ่ายโดยง่าย...

     

    ศักดิ์ศรีที่ค้ำคออยู่ของสายเลือดโฟเธียทั้งสอง ทำให้ตาดุดันยังมองกันอย่างไม่ลดละ ร่างสง่าไม่คิดหยุดยั้งแล้วในตอนนี้ เขาต้องการให้คนตรงหน้าเจ็บเหมือนที่ร่างบางเจ็บ เอาแค่เท่าเทียมกันก็พอใจแล้ว

     

    “อย่าคิดว่าอฟาไตรจะเป็นแค่ผู้ดีเหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อสิวะ!

     

    ปลายรองเท้าของคนที่เด็กกว่าเหยียบลงตรงกลางอกของผู้วาดร้ายในคราแรก ก่อนจะถูกมือใหญ่ดึงรั้งจนล้มลงไม่ต่างกัน ร่างที่ใหญ่กว่าพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างของคริสไว้ ออกแรงบิดเหมือนอยากจะฉีกแขนของคริสออกจากร่าง มันโชคดีที่แค่แขนขาดก็ยังพอต่อเข้าไปใหม่ได้ไม่ยาก

     

    ...แต่ศักดิ์ศรีที่เสียไปใครจะเรียกคือให้...

     

    “พี่คริส!

     

    “อย่าเข้ามาอี้ชิง!

     

    แม้แต่ในตอนที่เจ็บกายที่สุด คริสก็จะไม่ยอมให้อี้ชิงต้องมาเจ็บไปด้วยกับเขาด้วย ตาดุหันไปมองใบหน้าสวยที่เริ่มร้องไห้อย่างห้ามปราม ก่อนจะหันกลับมาพร้อมรับหมัดหนักไปเต็มๆ ใบหน้าหล่อเหยเกเจ็บร้าวไปทั้งสันกราม จนอดคำรามร้องแสดงความเจ็บออกมาไม่ได้

     

    “อ๊าค!!!

     

    “พี่คริส!!!

     

    เสียงหวานหวีดตามดังไม่แพ้กัน อี้ชิงปิดปากส่ายหน้าร้องไห้ไม่หยุด ความกลัวของร่างบางเริ่มเป็นตัวกระตุ้นที่ดีที่สุดของร่างสง่า คริสออกแรงเรียกเอาแร่นักรบอีกชิ้นที่เขาพกติดตัวประจำออกมา เปลวเพลิงก่อร่างที่มือขวาเป็นแส้ที่ปลายยาวเป็นเพลิงร้อนทั้งสิ้น ข้อมือแกร่งสะบัดพัดให้ปลายแส้เกี่ยวรอบคอของชายที่คร่อมอยู่ได้สำเร็จ ออกแรงถีบไปที่หน้าท้องนั้นอย่างยากลำบาก แต่สามารถทำให้ร่างนั้นหลุดออกไปได้

     

    “อ๊ะ!!!

     

    ร่างที่ใหญ่กว่าลงไปนอนอยู่ด้านหลัง ขายาวหยัดลุกขึ้นยืนอีกครั้ง อยากจะเล่นวิถีขาวสะอาด อย่างตรงเข้าไปต่อยหน้ามันให้ร้าวไปทั้งกรามเหมือนกัน แต่เพราะเสียงหวานที่บอกร้องบอกว่ากำลังตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง ทำให้คริสไม่มีเวลาก้มตัวลงไปทำได้อย่างใจหวัง

     

    “เอาเท้ากูไปก่อนแล้วกัน!!!

     

    หมดสิ้นแล้วภาพของเด็กหนุ่มผู้มีหลักการ ตอนนี้คริสก็เป็นแค่ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยโทสะ เขาเหยียบเท้าลงไปที่คอของชายคนนั้น แล้วออกแรงขยี้จนใบหน้าครึ่งหนึ่งจมลงไปกับพื้นอิฐ ก่อนจะสะบัดเอาปลายแส้ออก พร้อมโบกมันขึ้นเหนือศีรษะออกแรงมากกว่าเดิม จนปลายของมันสะบัดเกี่ยวร่างใหญ่อีกร่างมาได้สำเร็จ ออกแรงเหวี่ยงอีกครั้งก็พัดเอาร่างนั้นกระเด็นไปไกลอีกคน ตอนนี้เหลือเพียงชายอีกสองคนที่เกือบจะถึงตัวอี้ชิง ครอสเดินเข้าไปดักหน้าไว้แล้วมองนิ่งไม่เกรงกลัว

     

    “คิดรึยังว่าอยากให้ตัวเองจบแบบไหน?”

     

    เสียงทุ้มเอ่ยถามกวนประสาท เรียกเก็บแร่นักรบของตนเองอีกครั้ง เหลือเพียงมือเปล่าทั้งสองข้างที่พร้อมต่อสู้ สายเลือดเทวาแห่งโฟเธียของเขาแข็งแกร่ง และ คริสก็ถูกฝึกฝนที่จะใช้ธาตุเพลิงในกายมา มากกว่าการใช้แร่นักรบที่มีติดตัวนับสิบชิ้น เพราะมันคือสิ่งเดียวที่ไม่ว่าเวลาใดก็จะปกป้องเขาได้เสมอ

     

    ...เกิดจากเพลิงและจะอยู่กับเพลิงนี้ไปตลอดชีวิต...

     

    มือหนาที่มักสวมถุงมือที่เห็นเฉพาะปลายนิ้วเสมอตั้งแต่คืนล้างมนต์สาปถูกถอดออก อาจจะจริงที่มนต์สาปนั้นหายไปแล้ว แต่ร่างกายของคริสยังมีร่องรอยของเรื่องราวในอดีต รอยไหม้รูปขนนกเป็นทางยาวเผยออกมาให้เห็น นี่เป็นเหตุผลที่คริสมักใส่ถุงมือป้องกันไว้เสมอหลังจากวันนั้น โดยอ้างว่าเป็นเพราะเขาต้องเรียนต่อสู้อย่างหนัก ทำให้มือมีแต่ร่องรอยของการต่อสู้

     

    ...มันเป็นรอยต่อสู้ที่ขาวสะอาด...

     

    “หมดเวลาจะหนีแล้ว”

     

    “พี่คริส?”

     

    อี้ชิงครางเรียกชื่อร่างสง่า เมื่อมือที่ตกลงข้างลำตัวข้างขวามีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่อยู่ รอยไหม้ที่แสนเจ็บปวดของต้นตระกูลโฟเธียถูกประทับยืนยันตั้งแต่คืนสิ้นมนต์สาป

     

    “ถ้านายได้เห็น คงรู้ไปนานแล้วว่าฉันเป็นใคร”

     

    ใช่!...หากมีใครได้เห็นแผลเป็นนี้คงรู้ไปแล้วว่าใครคือสายเลือดเทวาที่ซ่อนอยู่ หากแต่มันก็ไม่ใช่เวลาที่คริสจะเอามาพูดเล่น ถ้าชายอีกสองคนที่ยังมีสตินั่นเห็นล่ะจะว่ายังไง อี้ชิงไม่อยากเห็นคริสต้องถูกวาดร้ายอีกแล้ว เขาคิดแต่เพียงอยากอยู่กับคนที่เขารักอย่างสงบสุข เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ฟีนูคอน

     

    “รับรองว่าฉันจะปลอดภัย เชื่อมั้ยว่าฉันคือผู้พิทักษ์”

     

    “....”

     

    “ฉันคือผู้พิทักษ์ของนายนะอี้ชิง”

     

    รอยยิ้มขบขันจากใบหน้าหล่อถูกส่งไปให้ร่างบางผู้แสนอ่อนแอ คริสไม่ได้เรียกแร่นักรบชิ้นไหนออกมาอีก เขาแค่ผายมือออกพร้อมกล่าวคำร่ายธรรมดาเท่านั้น

     

    “โฟเธีย โออีล ซายโนเดียร์ เมทาโฟร่า”

     

    เปลวเพลิงพวยพุ่งออกมาจากมือหนา เคลื่อนกายเข้าหาทั้งสองร่างที่กำลังเข้ามาหา เกี่ยวพันร่างทั้งสองให้ท่วมไปด้วยเปลวเพลิง ก่อนจะสลายเป็นเถ้าถ่านพร้อมสองร่างที่ร่วงลงหมดสติไปเท่านั้น คริสยักไหล่ใส่อี้ชิงเหมือนจะบอกว่าเขาบอกไปแล้ว ก่อนจะหันกลับมาเก็บกวาดสิ่งที่ตนเองทำไว้

     

    “โฟเธีย โออีล ซายโนเดียร์ เอสฟิลิม่อน”

     

    “หือ?”

     

    คำร่ายที่อี้ชิงไม่เคยได้ยินดังขึ้น พร้อมเปลวเพลิงที่ไหลออกมาจากร่างของชายทั้งห้าที่หมดสติในเวลานี้ ร่างสง่ารับเพลิงนั้นมาไว้ในอุ้งมือ ก่อนที่จะอัดมันจนหายไปในอากาศอีกครั้ง คริสกุมหน้าอกของตนเองเหนื่อยหอบจากสิ่งที่ทำ

     

    ...เวทย์ร่ายต้องห้าม...

     

    “พี่คริส”

     

    เสียงหวานครางเรียกอย่างโล่งอก ก่อนจะรีบเข้าไปช่วยประคองร่างสง่าไว้ มองไปรอบๆก็เห็นว่าเปลวเพลิงและร่องรอยของการต่อสู้ค่อยๆหายไป ไม่มีแม้แต่รอยฟกช้ำตามตัวของชายทั้งห้า เหมือนพวกเขาแค่นอนอยู่บนพื้นเท่านั้น

     

    “อะไรกันครับเนี่ย”

     

    “มันเป็นวิธีโกงเพื่อนของฉันน่ะ”

     

    ตาคมขยิบให้อย่างไม่อยากบอกความลับของตนเอง เขาอาจจะเป็นนักศึกษาที่มีผลการเรียนในขั้นดีด้วยตนเอง แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเขาจะดีอะไรมากมาย บางครั้งหากเราอยากจะเป็นคนที่จำได้มากที่สุด ก็เพียงแค่ต้องรู้จักเรียนรู้เวทย์ร่ายต้องห้าม ที่ทำให้คู่แข่งคนอื่นลืมไปเสียบ้าง

     

    “พี่ดูเหนื่อย พักก่อน...”

     

    “เรามีเวลาไม่เยอะก่อนพวกเขาจะฟื้น ต้องไปเดี๋ยวนี้”

     

    “แต่พี่...”

     

    “ไปกันเถอะ”

     

    ร่างบางจนปัญญาจะฉุดรั้งร่างกายที่ดื้อรั้น จึงทำได้เพียงแค่เตรียมเดินทางในแบบของตนเอง ที่นี่เป็นที่ของคริสเขาเดินทางได้อย่างสะดวกสบายอยู่แล้ว แต่ก่อนที่ร่างของอี้ชิงจะสลายไปกับลม คริสกลับดึงแขนเล็กให้ลืมตาขึ้นเสียก่อน

     

    “จะทำอะไร”

     

    “จะกลับไงครับ?”

     

    “รู้เหรอว่าพี่อยากพาไปไหน”

     

    “หือ?”

     

    “พี่อยากลองพิสูจน์บางอย่าง ไปพิสูจน์กับพี่หน่อยนะ”

     

    เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเหมือนออดอ้อน ใบหน้าสวยดูลังเลแต่สุดท้ายก็พยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ คริสถกแขนเสื้อของตนเองออกแล้วมองรอยไหม้ที่กลายเป็นแผลเป็นแล้ว อยากรู้เหมือนกันว่าสิ่งที่สงสัยจะเป็นจริงมั้ย มือหนาลูบลงที่รอยแผลเป็นรูปขนนกบนหลังมือขวา พร้อมเอ่ยคำผูกพันธะสัญญาเช่นเดียวกับแร่นักรบ

     

    “ข้าแต่เทพีโฟเธียผู้ศักดิ์สิทธิ์ ร่างกายนี้ข้าขอมอบเพื่อป้องปักษ์ ขอจงโปรดคุ้มครองกายข้าราวกับเป็นดวงจิตของท่าน ข้าขอสาบานจะผูกพันธะสัญญากับเจ้าชั่วนิรันดร์”

     

    “หือ?”

     

    ตาเรียวย่นลงอย่างไม่เข้าใจว่าคริสพยายามจะทำอะไร เขาไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงหลังสิ่งที่คริสพยายามทำ ขายาวทรุดลงไปกับพื้นอย่างที่อี้ชิงก็ไม่ทันตั้งตัว ทำได้เพียงแค่เอาร่างเข้าไปรับเพราะคิดว่าคริสกำลังเจ็บ แต่แล้วสิ่งที่ทำให้ร่างบาต้องเบิกตากว้างก็แสดงออกมา

     

    “ไม่จริง...”

     

    เพลิงกลุ่มน้อยกำลังก่อร่างบนแผ่นหลังกว้าง ทะลุผ่านเนื้อผ้าทอชั้นดีออกมาจนกลายเป็นกลุ่มเพลิงขนาดใหญ่ มันสยายออกกลายเป็นปีกเพลิงขนาดใหญ่ พร้อมเสียงคำรามรับของเจ้าของร่างเอง

     

    “อื้อ...อ...อ...อ~”

     

    เสียงทุ้มไม่แสดงความเจ็บปวด หากแต่กลายเป็นความรู้สึกที่ดีจนต้องครางรับมากกว่า คริสหอบเหนื่อยแต่ใบหน้าหล่อก็ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เคลื่อนใบหน้าเข้าไปหาอี้ชิง แล้วประทับจูบลงที่อุ้งแก้มเนียนเบาๆ

     

    “คงไม่รังเกียจกันใช่มั้ย คนดี”

     

    “พะ...พี่คริส”

     

    “สายเลือดแห่งไฟ อย่างไรฉันคงต้องเป็นฟีนิกซ์ไปตลอดกาล”

     

    คำสารภาพที่รู้ดีอยู่แก่ใจถูกเผยออกมา คริสสงสัยมาตั้งแต่คืนที่แผลไหม้นี้เกิดขึ้นแล้ว ว่ามนต์สาปนั้นอาจไม่ได้สลายไป แต่อาจเปลี่ยนรูปแบบเป็นความยินดีเสียแทน เขาคุ้นเคยกับรอยแผลนี้และจำมันได้ไม่มีวันลืม ต่างก็แค่ตอนนี้เขาเลือกได้ว่าจะโบยบินด้วยปีกเพลิงนี้เมื่อไร

     

    “อาจไม่ได้กลายเป็นนกทั้งตัวแบบเมื่อก่อน แต่ที่แน่นอนคือคงเป็นแผลน่าเกลียดนี่ไปตลอดชีวิตแน่ๆ รังเกียจแผลเป็นของฉันมั้ย รังเกียจมั้ยที่ฉันไม่ได้เป็นอฟาไตรที่ไร้ที่ติอย่างที่คิด เสียใจมั้ยที่ต้องมาเป็นฟีนูคอนของสายเลือดเทวาแห่งโฟเธีย”

     

    คำถามมากมายมีแต่คำถามที่หมายความว่า อี้ชิงเสียใจมั้ยที่จะเป็นของคริส อฟาไตรธรรมดาที่มีเรื่องแย่มากมายกว่าที่คนอื่นคิด ไม่ใช่สายเลือดสูงศักดิ์ที่ไร้มลทิน ทั้งที่ตนเองเป็นถึงฟีนูคอนแห่งนครนี้ สัตว์วิเศษที่ถูกเลือกแล้วโดยพระบิดา ว่ารวมเอาทุกสิ่งอย่างที่ดีงามไว้กับตนเอง

     

    ...จะรับได้มั้ยที่ต้องแปดเปื้อนเพราะเขา...

     

    “ถ้าพี่บอกว่าพี่เป็นแค่อฟาไตรที่ไม่ดีพอสำหรับผม พี่คงลืมไปแล้วว่าผมก็เป็นแค่ฟิสสิเพรสเหมือนกัน แล้วผมดีพอสำหรับพี่มั้ยครับ”

     

    คำถามที่ถูกส่งกลับไปยังผู้ถาม ทำให้คริสได้แต่ยิ้มรับมันด้วยความเต็มใจ หากฟีนูคอนต้องสิ้นสลาย สิ่งสุดท้ายที่คริสจะมองว่าไม่เหมาะสมสำหรับชีวิตเขาก็คืออี้ชิง แสงสว่างเดียวที่ส่องผ่านความหวังมาที่เขา จะเป็นคนที่ไม่คู่ควรกับเขาไปได้อย่างไร

     

    “พูดจาไร้สาระ!

     

    ถึงจะยิ้มแต่ก็ยังแกล้งตะคอกกลับไปเสียงเข้ม ร่างสง่ากอดร่างที่ยืนเผชิญหน้าเข้ากับอกแน่น พรมจูบลงไปที่ขมับชื้นของอี้ชิงเบาๆ แต่ทั้งสองคงลืมไปว่าที่นี่ไม่เหมาะสมสักเท่าไรสำหรับการพลอดรัก

     

    “อื้อ...อ...อ...อ~”

     

    เสียงแสดงความเมื่อยล้าของชายคนแรกที่คริสทุ่มลงไปกับพื้นดังขึ้น เตือนสติให้ทั้งสองรู้ว่าเขาควรจะไปจากที่นี่ได้แล้ว คริสหันไปค้อนชายที่กำลังจะลืมตานั้นอย่างอดเคืองไม่ได้ เขากำลังจะได้ขออี้ชิงเป็นคนรัก ไม่รู้ว่าจะรีบตื่นขึ้นมาทำไม

     

    “ไปกันเถอะครับ”

     

    “ไปด้วยนี่นะ”

     

    “ครับ?”

     

    “ไปกับฉัน ไว้ใจฉัน”

     

    ร่างสง่ามองตรงไปหาร่างบางอย่างเอาคำตอบ พออี้ชิงพยักหน้ารับวงแขนแกร่งก็กอดร่างบางไว้แน่นแนบอก กระพือปีกไฟสองสามทีอย่างแรงเพื่อเรียกลมพยุง ก่อนจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยมีร่างของอี้ชิงที่กัดฟันแน่นอยู่ในอก เมื่อออกมาพ้นเขตปกครองโฟเธีย คริสก็เปลี่ยนเป็นให้อี้ชิงขี่หลังแล้วพาขึ้นบินอีกครั้ง ลอยร่องอยู่บนท้องฟ้าด้วยลมใต้ปีก และ หัวใจดวงน้อยที่หัวเราะชอบใจอยู่บนหลัง คริสพาอี้ชิงหลบสายตาของผู้คนเหนือม่านหมอก และ รุ้งกินน้ำของฟีนูคอน

     

    “ชอบมั้ยอี้ชิง”

     

    “ขอบครับ”

     

    “หมายถึงฉันนะ”

     

    “กะ...ก็ชอบเหมือนกันครับ”

     

    “แล้วจะเป็นอะไรมั้ย ถ้าฉันจะใช้ปีกเพลิงนี้โอบกอดนายไปตลอดชีวิต ให้ฉันได้เป็น เพลิงพิทักษ์ ไปชั่วนิรันดร์นะ”

     

    ร่างบางไม่ได้ตอบรับด้วยคำพูด หากแต่เชิดตัวสูงขึ้นเหนือใบหน้าหล่อจัดราวรูปปั้นของคริส ประคองใบหน้านั้นให้เงยตาขึ้นสบกัน จรดริมฝีปากแนบชิตแทนการฝากชีวิตนี้ให้ร่างสง่าได้ดูแลตามคำมั่น

     

    “ขอให้คำสัญญานี้ อยู่กับเราทั้งสองตราบสิ้นฟีนูคอน”

     

    <<< The Phonucorn…เพลิงพิทักษ์ >>>

     

    The Phonucorn – Chapter 20

    สวัสดีค่ะนักอ่านทุกคน

    อะไรที่ค้างคาหรือสงสัยจงเก็บไว้ จะแถลงไขให้ทราบไม่ผิดเพี้ยน ขอเพียงเวลาเวียนผ่านไปสับร้อยยี่สิบตอน 555 พยายามจะให้เป็นกลอนแต่มันไม่เป็นค่ะ ใครที่อยากดูปกเข้าไปดูได้ในเพจเฟสบุ๊ค และ ทวิตเตอร์นะคะ^^

    เตรียมพบกับ ตรวนกาฬวาต ในอีก 2 สัปดาห์นะคะ อาทิตย์หน้าแอมสอบค่ะ รับรองว่าฮุนฮานจะมาทำให้ตัวสั่นไปทั้งกายเลยค่ะ เพราะคู่นี้จะกัดกันแบบมวยผิดคู่ 555

     

     

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×