คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทเรียนที่ 8
บทเรียนที่ 8
ผมกลับมาอยู่ที่หอพักตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น
และตอนนี้ก็ได้เวลาที่ต้องเดินทางไปยังห้องเรียนอีกครั้ง... ทั้งๆ ที่ผมยังไม่หายคิดถึงบ้านเลยแท้ๆ
“ชักช้าอะไรของมึงวะมะม่วง”
...โชคดีที่ผมไม่ต้องเดินลำพังแล้ว...
ผมยิ้มแหยให้อัพ
“โทษทีๆ” รีบสาวเท้าตามหลังอีกคนไปเร็วๆ ...ใกล้จะสายแล้วนี่นา
“มัวแต่คิดถึงบ้านอยู่ล่ะสิ”
ผมทำตาโต
“อัพรู้ได้ไงอะ”
“ฮะๆๆๆ”
คนที่เดินข้างผมหัวเราะ “ตอนกูมาเรียนที่นี่แรกๆ ก็เป็นเหมือนมึงนี่แหละ เดี๋ยวอีกหน่อยก็ชิน”
พูดจบ เขาก็ยักไหล่ “กลับบ้านครั้งแรก คนที่บ้านคงต้อนรับเต็มที่เลยล่ะสิ”
“ใช่ๆๆ มีของกินเพียบเลย”
“ก็พอเดาได้อะนะ”
อัพผงกหัว “ต่างจากกูฉิบหาย กลับบ้านไปมีแต่คนใช้งาน”
“...”
“แล้วได้ไปเที่ยวไหนบ้างป้ะ?”
คำถามถูกส่งมาต่อ โดยไม่รอให้ผมคิดคำตอบกลับเขาก่อน
“ไปสิ”
ผมตอบพร้อมรอยยิ้ม “เราไปเที่ยวดรีมเวิลด์มาแหละ”
อัพชะงักฝีเท้าชั่วขณะ
“ดรีมเวิลด์? ถามจริง? นี่มึงอายุสามขวบหรือไงวะ”
“ฮะๆๆๆ”
ผมขำเบาๆ “แต่มันก็สนุกดีนะ ไว้ว่างๆ อัพลองไปเที่ยวดูสิ”
คิ้วของอัพขมวดเข้าหากัน
“ไม่เอาหรอก”
“น่า...
แล้วจะติดใจ ถ้าไม่มีใครไปด้วย อัพไปเที่ยวดรีมเวิลด์กับเราก็ได้นะ” ผมยิ้มกว้าง
“จีบกูป้ะเนี่ยมะม่วง”
“หา?”
เป็นผมบ้างแล้วที่หยุดฝีเท้า “เปล่านะ จะบ้าเหรอ เราไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลย”
“ฮ่าๆๆๆๆ”
อัพหัวเราะร่าพร้อมกับหยุดเดินอยู่ไม่ไกล “กูพูดเล่นไหมล่ะ ทำเป็นจริงจังไปได้”
ผมยู่ปาก
“เลิกทำหน้าหมาชิสุแล้วเดินต่อเหอะ
เดี๋ยวก็ได้สายกันพอดี”
“...อื้อ”
แล้วผมก็ก้าวขาต่อ
“รู้ไหมห้องกูเค้ามีธรรมเนียมห้ามไปสายกว่าไนท์กว่าคิงด้วย
เพราะงั้นรีบไปเหอะ กูยังไม่อยากมีปัญหาตอนนี้” อัพบ่นพึมพำ
และคำพูดของอัพก็ทำให้ผมนึกอะไรขึ้นมาได้
“อัพ”
ผมจับข้อแขนของคนที่เดินนำอยู่
“อะไร?”
อัพหยุด หันมองหน้าผมด้วยท่าทางงุนงง “แต๊ะอั๋งกูป้ะเนี่ย” สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่แขนตัวเอง
ผมรีบปล่อยมือฉับพลัน
“ไม่ใช่อย่างนั้น...”
“ฮ่าๆๆๆ เออๆ
ไม่แกล้งแล้วก็ได้ เรียกกูทำไมล่ะ”
“อัพเรียนห้องเดียวกับฟ้าลั่นใช่ไหม”
ผมถามเพื่อความแน่ใจ
“อือ”
อัพพยักหน้า “ทำไมวะ?”
“ฝากบอกฟ้าลั่นให้เลิกบล็อกไลน์เราหน่อยสิ”
น้ำเสียงของผมจ๋อยลง “ทำแบบนี้นิสัยไม่ดีเลยนะ”
“หืม...”
คิ้วของอัพเลิกขึ้นสูง “นี่มึงมีไลน์ไอ้ฟ้าลั่นด้วยเหรอ?”
“อื้อ”
“โห...
สนิทกันขั้นไหนแล้ววะเนี่ย ขนาดรูมเมทอย่างกูยังไม่มีไลน์มึงเลย”
ผมทำตาโต
“เอ้อ ใช่ งั้นเราขอไลน์อัพหน่อยได้ไหม”
“เนี่ย
มึงจีบกูอะมะม่วง”
“...”
คราวนี้ผมไม่ตอบโต้ เพราะรู้ว่าเดี๋ยวอัพก็จะหัวเราะได้ใจอีก
“ฮ่าๆๆๆๆ”
...นั่นไงล่ะ...
“มึงแม่งตลกว่ะมะม่วง”
อัพพูดต่อ “เออๆ เดี๋ยวเย็นนี้ค่อยแลกไลน์กัน แต่ตอนนี้รีบไปห้องเรียนก่อนเหอะ
กูจะสายจริงๆ แล้วเนี่ย”
“เดี๋ยวสิ”
ผมค้าน “อัพยังไม่สัญญาเลยว่าจะบอกฟ้าลั่นให้เรา”
อัพทำสีหน้าเอือมระอา
“คือกูก็ไม่ได้สนิทกับมันขนาดนั้นไหมล่ะ”
“น่า...นะ
อย่างน้อยๆ ก็บอกให้เขาเลิกบล็อกไลน์เราก็พอ แต่ถ้าจะให้ดี ฝากบอกเขาว่า ‘ฟ้าลั่นนิสัยไม่ดี’
ด้วยเลย”
“ก็บ้าและ”
อัพหันซ้ายทีขวาที “ใครจะไปกล้าพูด”
“อ้าว”
“มึงก็ด้วย
อย่าพูดดังนัก เกิดไปเข้าหูลัทธิบูชาไนท์แล้วจะงานเข้า” อัพอธิบาย “ไปเหอะ กูต้องรีบไปเรียนแล้ว
ห้ามพูดต่อ” หลังจากนั้น อัพก็ไม่เปิดโอกาสให้ผมเริ่มบทสนทนาอีก เขาสาวเท้าฉับๆๆ
ไปยังห้องเรียนตัวเอง ส่วนผมก็ทำได้เพียงก้าวขาเร็วๆ ตามหลังเขา แล้วเมื่อถึงระเบียงพวกเราก็เดินแยกย้ายกันไปคนละทาง
“...”
ทันทีที่มาถึงห้อง...
ผมก็พบว่าการเสียเวลาฝากฝังกับอัพเมื่อซักครู่มันช่างไร้ความหมาย
“ฟ้าลั่น”
เพราะคนคนนั้น
กำลังนอนฟุบหลับอยู่ตรงหน้าผมแล้วน่ะสิ
“ฟ้าลั่น”
“...”
ไม่มีสัญญาณตอบรับ จากคนที่ยึดโต๊ะและเก้าอี้ของผมไว้
“ฟ้าลั่น”
ผมวางกระเป๋าลงข้างโต๊ะแล้วเรียกชื่อเขาอีกครั้ง
“...”
“ฟ้าลั่น!”
ผมเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นพร้อมกับใช้สองมือเขย่าตัวเขาเบาๆ
“อื้อ...”
และได้ผล ฟ้าลั่นลุกขึ้นมานั่งงัวเงียแทนการฟุบนอนเป็นที่เรียบร้อย เขาขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผม
จ้องอยู่อย่างนั้นซักพักหนึ่ง ก่อนจะว่า “เหมือนไม่เจอมึงนานเลยแฮะ”
ผมเลิกคิ้วขึ้นเพราะไม่เข้าใจ
“แค่สองวันเอง”
“แก้มมึงยุ้ยขึ้นป้ะวะ”
“!!!”
...นิสัยไม่ดี! จู่ๆ ก็ว่ากันโต้งๆ แบบนี้เลยเหรอ...
“กูไม่ได้บอกว่ามึงอ้วนนะ”
เขารีบแก้ตัว
“...เราเองก็รู้ตัวอยู่แล้วแหละ”
พูดพลางก้มมองพุงตัวเอง
...ไม่น่ากินกับข้าวฝีมือแม่นมเยอะเลย...
‘ป๊อก’
หน้าผากของผมถูกทำร้ายด้วยนิ้วมือของคนที่นั่งอยู่
“เจ็บนะ”
ผมยู่ปาก
“หมั่นไส้”
ฟ้าลั่นพูดแล้วลุกยืน “กูยังไม่ทันว่าอะไรเลย แค่บอกว่าแก้มยุ้ยก็น้อยใจซะละ” จากนั้นเขาก็กดไหล่ผมให้นั่งลงแทน
“เราไม่ได้น้อยใจซักหน่อย”
“อยากโดนอีกทีหรอ”
ฟ้าลั่นยกนิ้วขึ้นขู่ “เลิกทำหน้าสโนว์แมนหงอยได้แล้วน่า”
ผมเบะปาก
“เนี่ย นายว่าเราอ้วนอีกแล้วอะ”
“เฮ้อ...”
คนที่ยืนอยู่ถอนหายใจยาว “กูบอกในไลน์แล้วไงว่าน้องไม่ได้อ้วน”
“น้องออกจะน่ารัก”
“น้องออกจะน่ารัก”
ผมกับเขาเอ่ยประโยคนั้นออกมาพร้อมๆ
กัน
ฟ้าลั่นเลิกคิ้ว
“เออ มึงก็รู้นี่ และถ้าทำแล้วรู้สึกดีขึ้น
มึงจะคิดว่าตัวเองน่ารักเหมือนสโนว์แมนก็ได้นะ ตามใจมึงเลย”
“ไม่เอา”
ผมส่ายหัว “ผมไม่อยากคิดไปเองแบบนั้นหรอก”
“หืม...” คิ้วของฟ้าลั่นเลิกขึ้นอีกครั้ง
“จำเก่งนะมึงเนี่ย”
“แน่นอน
และเราก็จำได้ด้วยว่านายอะบล็อกไลน์เรา อย่าลืมอันบล็อกให้เราด้วย”
“ไม่”
เขาปฏิเสธ
“ทำไมล่ะ”
ผมรีบลุกยืนแล้วเกาะแขนเขาไว้ “ทำไมถึงไม่ยอมอันบล็อกเราล่ะ เราทำอะไรให้ฟ้าลั่นรำคาญหรอ
ถ้าอย่างนั้น...”
‘ป๊อก’
“โอ๊ย”
ผมโดนดีดหน้าผากอีกครั้งแล้ว
“อย่าตีโพยตีพาย
กูยังไม่ทันพูดอะไรเลย”
“แต่ฟ้าลั่นไม่ยอมอันบล็อกไลน์เรา...”
“ทำไม?”
ฟ้าลั่นเชิดหน้าขึ้น “ทำไมถึงอยากให้กูอันบล็อกมึง?”
“ก็...”
“มึงอยากคุยกับกูใช่ไหมล่ะ?”
“!!!”
“ตอบมาสิ”
“!!!”
‘ตึกตัก
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก’
...เป็นอีกครั้งที่หัวใจผมเต้นแรง...
“เฮ้ยไอ้ฟ้าลั่น!!!”
...คงต้องขอบคุณเสียงตะโกนนั้น
ผมถึงได้มีเวลาหันมาสงบสติตัวเอง...
“อะไรไอ้ตั๊ก”
ฟ้าลั่นละออกจากผม เดินไปหาคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้อง 4D
“ไอ้แผนเรียกรวมแล้ว
เหลือมึงคนเดียวเนี่ย”
ฟ้าลั่นหันกลับมามองผม
มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย “เดี๋ยวกลับมานะมะม่วง ไว้คุยกันต่อในไลน์” พูดเพียงเท่านั้น
เขาก็สาวเท้ายาวๆ ตามหลังตั๊กไป...
‘ตึกตัก
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก’
...โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า
คำพูดสุดท้ายนั้น ได้ทำให้ใครบางคนกลับมามีจังหวะหัวใจที่ไม่ปกติอีกครั้ง
‘ตึง!!!’
ผมสะดุ้งโหยง
เมื่อจู่ๆ ก็เกิดเสียงดังโครมครามขึ้นในช่วงระหว่างเปลี่ยนคาบเรียนที่สองไปสาม
สายตาของผมตวัดไปหาที่มาของเสียงตามสัญชาตญาณ
“!!!”
‘ตึก
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก’
หัวใจของผมเต้นแรงเป็นครั้งที่สามของวัน
ทว่าครั้งนี้...มันไม่ใช่เพราะความหวั่นไหว
แต่เป็นความหวาดกลัว
...พี่ไนท์
ชั้น ม.5...
ผมจ้องมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บริเวณมุมปากของผู้ชายที่ยืนเต๊ะท่าอยู่หน้าประตูห้อง
เขาเองก็มองสบสายตาผมกลับมา และยิ่งเห็นว่าผมมีท่าทีหวั่นเกรงมากเท่าไหร่
พี่เขาก็ยิ่งได้ใจแล้วฉีกยิ้มกว้างที่ไม่น่ามองออกมามากเท่านั้น
ฟ้าลั่น
ภายในใจผมกรีดร้อง
หัวใจยังคงเต้นแรงขณะที่ผมเหลียวมองทางซ้ายทีทางขวาทีเพื่อหาตัวช่วย...
...แต่ก็ไม่มี
เช่นเคย
เพื่อนร่วมห้องแสร้งทำเป็นไม่เห็นการมีอยู่ของผู้ชายอันตรายที่ยืนจังก้าอยู่ตรงนั้น
ไม่มีใครสนใจสายตาเว้าวอนของผมแม้แต่คนเดียว
“ออกมานี่ดิ๊...”
“!!!” ดวงตาของผมเบิกโต
“...ไอ้แห้ง”
“ฮะ...”
ผมหลุดเสียงออกมาแผ่วเบา หัวใจที่เต้นรัวอยู่เผลอหยุดชะงัก
คำคำนั้น...ไม่ใช่คำที่พี่เขาเคยใช้เรียกผมเลย
‘ครืด’
สายตาของผมหันมองตามเสียงลากเก้าอี้ที่ดังขึ้น
ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะแถวแรกลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหยุดตรงหน้าพี่ไนท์
เขาเป็นคนที่ผิวขาวซีดและตัวผอมเสียจนน่าสงสาร
“คะ...ครับ
พี่ไมเคิล” เสียงของเพื่อนร่วมห้องคนนั้นราวกับเสียงพึมพำของคนใกล้หมดแรง
แต่ด้วยความที่ไม่มีเสียงอื่นใดภายในห้อง ผมจึงสามารถได้ยินคำพูดของคนหน้าห้องอย่างง่ายดาย
“กูหิวขนม”
“ตะ...แต่ใกล้จะ...”
‘เพียะ!’
“!!!”
ใบหน้าของเพื่อนคนนั้นสะบัดไปตามแรงจากฝ่ามือ ท่ามกลางความตกใจอย่างมากของผม...
ที่นี่คือห้องเรียนเลยนะ!
“นี่มึงกล้าขัดใจกูหรอไอ้แห้ง”
พี่ไนท์ ม.5 หรือก็คือพี่ไมเคิล
เอ่ยพลางจับเข้าที่ปลายคางของเพื่อนตัวเล็ก “กูบอกว่ากูหิวไง
และกูต้องการให้มึงไปซื้อขนมมาให้กูกินเดี๋ยวนี้”
“...”
“เข้าใจคำว่าเดี๋ยวนี้ไหมไอ้สัตว์!!!”
“ครับ!” เพื่อนคนนั้นรีบตอบ
“ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”
พี่ไมเคิลหลุดยิ้มออกมา
“เออ... ให้มันได้อย่างนี้สิ เป็นเด็กดีนะแห้งนะ”
แล้วเขาก็ลูบหัวคนตรงหน้าด้วยท่าทางราวกับตัวเองอยู่เหนือกว่าเสียเหลือเกิน “มึงออกเงินไปก่อนนะ
ช่วงนี้กูโคตรจนเลย”
“ครับ...ครับ”
“ครับก็รีบไปดิ”
พี่ไมเคิลกึ่งจะผลักเพื่อนคนนั้นออกจากห้อง
“ครับ!” แล้วร่างผอมบางก็รีบสาวเท้าไปอย่างรวดเร็ว
“หึหึ...”
สายตาของพี่ไมเคิลพุ่งตรงกลับมาทางผมอีกครั้ง
“...”
ผมพยายามหลบสายตาเขา ทั้งๆ ที่รู้ว่าอีกไม่นานก็คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
“ไม่เจอกันนานเลยนะไอ้อ้วน”
เสียงของเขาดังอยู่ใกล้เสียจนน่ากลัว
เพื่อนที่นั่งด้านข้างผม
รีบทำเนียนเขยิบเก้าอี้หนีไปหาเพื่อนอีกคนทันที
“โคตรคิดถึงมึงเลยว่ะ”
ผมเงยหน้าขึ้นมองเขา
“กูคิดถึงเงินมึงฉิบหายเลยอ้วน
ไม่มีมึงแล้วแม่งถุงเงินถุงทองหายหมดเลย” คำพูดของเขาทำร้ายความรู้สึกของผม
“แล้วเงินที่ถืออยู่น่ะ...
ก็ได้มาจากพ่อแม่ของมึงไม่ใช่เหรอ”
ถ้อยคำของฟ้าลั่นวนกลับเข้ามาในหัว...
...มันเป็นอะไรที่รู้สึกแย่...
ผมหลับตาลง
พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ปล่อยโฮออกมาต่อหน้าผู้ชายคนนี้ ...คุณพ่อครับ
คุณแม่ครับ ผมจะเข้มแข็ง...
“คิดจะเมินกูเหรอวะอ้วน”
ไม่พูดเปล่า พี่ไมเคิลยังจับเข้าที่ปลายคางของผมด้วย
ผมรีบหันหน้าหนี
“อย่า...”
“โห!! เดี๋ยวนี้อ้วนของเราแม่งปีกกล้าขาแข็งซะแล้วว่ะ”
จบคำ พี่เขาก็ใช้แรงกดเข้ามาที่คางผมมากขึ้น จนผมเริ่มเจ็บ
“ปล่อยนะ”
“นี่มึงกล้าสั่งกูหรอวะ
คิดว่าเป็นเด็กไอ้เชี่ยฟ้าลั่นแล้วกูจะไม่กล้าทำอะไรหรือไง!!!”
“ทำอะไรกันน่ะ?”
เสียงที่ดังแทรกมา
ทำให้พี่ไมเคิลชะงักมือ
...ผมเกือบถูกเขาตบแล้ว...
“ไม่ได้ทำไรครับจารย์”
ผมเผลอยิ้มอย่างดีใจเมื่อรู้ว่าใครเดินเข้ามา
ถอนหายใจอย่างโล่งอกว่าในที่สุดนรกบนดินก็จะสิ้นสุดลงชั่วคราว
“อ้าว
เธอคือไนท์ชั้น ม.5 ไม่ใช่เหรอ”
อาจารย์เอ่ยถาม
“ครับ”
“มีธุระกับเด็กห้องนี้สินะ”
“ครับ”
“อืม...
งั้นถ้าคุยเสร็จแล้วก็ไปเรียกฉันที่ห้องพักครูด้วยนะ”
“ฮะ!!!” ผมอุทานออกมาเสียงดัง แต่คนที่หน้าห้องก็ไม่สนใจ
อาจารย์ยังคงหันหน้าหนีแล้วเดินออกจากห้องไป ไม่มีใยดีใดๆ ให้กับผมเลย
...นี่มันบ้าไปแล้ว...
“หึหึหึหึ...”
ผมหันกลับมามองคนที่ส่งเสียงหัวเราะน่าขยะแขยงอยู่ไม่ไกล
“มึงคิดว่าไนท์เป็นตำแหน่งเล่นๆ
ของโรงเรียนนี้เหรอวะอ้วน” เขาจุดรอยยิ้มแสยะ “กูน่ะยิ่งใหญ่กว่าที่มึงคิดอีกเยอะ...”
“ถอยไป!!!”
เสียงตะโกนดังลั่นก่อนที่พี่ไมเคิลจะทันได้แตะผมอีกรอบ
ผมหันขวับไปมองตามเสียงที่เฝ้ารอ
“...ฟ้าลั่น...” และน้ำตาของผมก็ไหลลงมาทันที
“เชี่ยเอ๊ย”
คนที่เพิ่งมาถึงสบถ เขาสาวเท้ามายืนแทรกกลาง
หันหลังให้พี่ไมเคิลแล้วกดใบหน้าของผมลงกับเสื้อนักเรียนของเขา “ขี้แงเอ๊ย...
ให้ห่างตาไม่ได้เลยหรือไง”
“มาเร็วดีนี่หว่าไอ้ฮีโร่”
เสียงน่าขนลุกของพี่ไมเคิลดังขึ้นอีก
แต่ฟ้าลั่นไม่ตอบโต้
เขาทำเพียงจับหัวผมไว้ ลูบไปมาเบาๆ
“อย่ามาทำเป็นเมินกูอีกคนนะไอ้สัตว์!”
ฟ้าลั่นตัวเอียงเล็กน้อย
คาดว่าคงเป็นเพราะแรงจากคนด้านหลัง “ไม่เป็นไร” เขาพึมพำบอกผม
มือยังคงกดผมไว้กับบริเวณหน้าอกของตัวเขา “ไม่ต้องสนใจมัน”
“ไอ้เชี่ยฟ้าลั่น! นี่มึงอยากลองดีกับกูนักใช่ไหม!”
“...”
“ไอ้ฟ้า...”
“พี่”
ฟ้าลั่นเอ่ยแทรก เสียงเบา ทว่ากลับมีพลังอย่างน่าประหลาด
“อะ...อะไรวะ”
“ผมเหนื่อย”
“ฮะ?”
“ผมไม่มีแรงต่อปากต่อคำกับพี่หรอก”
“หึ!! ทำเป็นปากเก่ง ที่แท้ก็ดีแต่พูด...”
“ให้คุยกับพี่
ผมเก็บแรงไว้แผ่ส่วนบุญให้...จะไม่ดีกว่าเหรอ?”
“!!!”
“หึ...”
“ไอ้สัตว์ฟ้าลั่น!”
“แล้วเป็นเหี้ยอะไรไอ้ไมเคิล!!!”
“!!!”
ไม่ใช่แค่พี่เขาที่ตกใจ...
ผมเองก็ตกใจไม่แพ้กัน
ฟ้าลั่นจับผมให้ถอยออกจากตัว
ตรวจเช็คว่าน้ำตาของผมเหือดแห้งจนหมดแล้ว เขาจึงหันหลังกลับไปสบตาอีกคน
“คิดว่าการกดคนอื่นลง จะทำให้พี่ดูสูงขึ้นหรือยังไง”
“!!!”
“ชั้นต่ำ”
“อะ...ไอ้...”
“เงียบ!” ฟ้าลั่นตะโกน “ที่พี่กล้าทำตัวต่ำ...
ก็เตรียมใจรับผลกรรมของตัวเองไว้ด้วยแล้วกัน”
“!!!”
“ไสหัวไปได้แล้ว”
“ไอ้...ไอ้สัตว์ฟ้า...”
“กูบอกให้ไปไง!!”
“!!!”
“ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!!!”
ผมไม่เคยได้ยิน ฟ้าลั่นตะโกนดังเท่านี้มาก่อนเลย...
ความคิดเห็น