คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทเรียนที่ 1
บทเรียนที่ 1
ผมภาวนาให้ไม่มีใครสนใจผม...
“เงียบๆ
หน่อย” อาจารย์ที่เดินนำผมเข้าสู่ห้องเรียนใหม่ ส่งเสียงดังกลบบทสนทนาของเหล่านักเรียนที่กำลังจะกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของผม
“อย่างที่บอกไปแล้วเมื่อวันก่อน ว่าจะมีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามากลางเทอม”
“...”
จบคำของอาจารย์
เสียงเซ็งแซ่ที่เคยกระหึ่มอยู่ก็ชะงักลงฉับพลัน
“แนะนำตัวสิ
จีรภัทร”
ผมพยายามฉีกยิ้มให้กับคนรอบห้อง
“สะ...สวัสดีครับ” ผมสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ “เราชื่อจีรภัทร เมษชัยเดช
ชื่อเล่นว่ามะม่วง ย้ายมาจากโรงเรียนสุธิรักษ์ศึกษา
ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนเลยนะครับ”
“...”
“...”
“...”
ไม่มีเสียงใดตอบรับกลับมา...
...โอเค...
...แบบนี้แหละดีแล้ว...
“จีรภัทร”
“ครับ”
ผมหันไปรับคำอาจารย์
“ไปนั่งที่ตรงนั้นนะ”
นิ้วถูกยกชี้ไปยังโต๊ะกับเก้าอี้ที่ยังไม่มีใครจับจอง
ผมผงกหัวลงเป็นเชิงเข้าใจ
หุบรอยยิ้มแห้งๆ ลง แล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมห้องที่บ้างก็มองมา
บ้างก็เลิกให้ความสนใจ
“ฝากเพื่อนใหม่ด้วยล่ะ
อย่าทำตัวมีปัญหากันนะ” อาจารย์พูดเพียงเท่านั้นก็เดินออกจากห้องไป
ทีนี้...
จะทำสีหน้ายังไงดี...
“นี่ๆ”
“!!!” ผมสะดุ้งเบาๆ เมื่ออยู่ๆ
ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งตรงเข้ามายังโต๊ะที่ผมนั่งอยู่
“สวัสดีเด็กใหม่”
ผมนิ่งค้าง...
“นายชื่อมะม่วงใช่ไหม
เราชื่อเบลนะ” เธอส่งยิ้มให้ผม
“ชะ...ใช่
เราชื่อมะม่วง” เป็นครั้งแรกที่ริมฝีปากของผมกำลังจะกระตุกรอยยิ้มจริงๆ ออกมา
...ผมกำลังจะมีเพื่อนใช่ไหม...
“นายหนักเท่าไหร่หรอมะม่วง”
ผมงุนงงกับคำถามเล็กน้อย
แต่ก็ตัดสินใจตอบกลับไปตามตรง “92 อะ ทำมะ...”
“เห็นไหมล่ะกิ๊ฟท์!!” เบลหันกลับไปวี้ดลั่นกับเพื่อนด้านหลัง
“ฉันบอกแล้วว่าหมอนี่ต้องหนักกว่าฉันแน่” เธอยิ้มร่า ก่อนที่สายตาจะตวัดกลับมาหาผมอีกครั้ง
“ขอบใจนะที่ย้ายมาทำให้ฉันไม่ได้อ้วนสุดในห้อง”
“...”
“อิอิอิอิอิ”
เบลหัวเราะคล้ายจะสะใจ ขณะเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง
โดยมีกลุ่มเพื่อนผู้หญิงรอเม้าท์มอยกันอยู่หลายคน “ฮี่ๆๆๆ ได้ไอ้อ้วนคนใหม่มาแล้ว”
...นั่นสินะ...
...ผมไม่ควรคาดหวังตั้งแต่ต้น...
ผมก้มหน้าลงกับพื้น
มองมือตัวเองที่กำลังบีบเค้นเข้าหากัน...
ไม่มีใครเข้ามาคุยกับผมหลังจากนั้น
และคาบเรียนที่หนึ่ง ที่สอง ที่สาม ก็ผ่านพ้นไป...
ไปถึงช่วงเวลาที่ทำให้ผมต้องใจเต้นรัวอีกครั้ง
พักกลางวัน
สำหรับคนอื่นๆ
ทั่วไป เวลานี้อาจเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาเฝ้ารอคอย
แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเข้ากับใครได้อย่างผม
เวลานี้...มันกลับเพิ่มความโดดเดี่ยวได้มากเป็นเท่าทวีคูณ
ผมเดินอย่างเหม่อลอยไปตามเส้นทางที่ฝูงชนพากันเคลื่อนไป
ทันทีที่ก้าวเข้าสู่โรงอาหารขนาดใหญ่ ผมก็แอบชะงักเล็กน้อย
ผู้คนจำนวนมากจากทุกชั้นปีทุกห้องเรียน ถูกปล่อยอย่างพร้อมเพรียงมาที่นี่
พวกเขาและเธอต่างกำลังสนทนากันเสียงดังด้วยรอยยิ้ม ขณะที่ตัวผมเอง ทำได้แค่เฝ้ามองเพียงเท่านั้น
‘ปึ้ก!’
ร่างหนาของผมสะเทือนเบาๆ
เมื่อถูกแรงจากบางคนกระแทกเข้าจากด้านหลัง
“เฮ้ย!”
และเสียงของเขา
ทำให้ผมสะดุ้งได้มากกว่า
“คะ...ครับ”
ผมรีบหันไปยิ้มแหยให้
“อย่ามายืนเกะกะขวางทางได้ไหม
กูยิ่งหิวข้าวอยู่ไอ้สัตว์”
หน้าผมหดเล็กลงกว่าเดิม
“ขอโทษนะ ขอโทษ”
“ชิ! เสียอารมณ์ฉิบหาย”
โชคดีที่เขาคนนั้นไม่ถือสาหาความต่อ
ผู้ชายที่ตัวสูงใหญ่คนเมื่อครู่เดินจากไปด้วยท่าทางงุ่นง่าน
ผมหันมองซ้ายทีขวาทีเพราะกลัวว่าจะไปขวางทางเดินของใครอีก
จากนั้นจึงรีบสาวเท้าเร็วๆ ไปยังร้านอาหารร้านหนึ่งแล้วสั่งแฮมเบอร์เกอร์มาหนึ่งชิ้น
“ขอบคุณครับคุณป้า”
ผมจ่ายเงินแล้วรับของมาด้วยรอยยิ้ม
“จ้ะ
ได้แล้วก็รีบหลบนะ หนูตัวใหญ่มันบังคนข้างหลังที่เค้าจะสั่งบ้าง”
ผมหุบยิ้มลงฉับพลัน
“...ขอโทษนะครับ” รีบก้าวขาให้เร็วหนีออกจากบริเวณโรงอาหาร
...ทำไมถึงเหนื่อยขนาดนี้กันนะ...
ไม่รู้ว่าผมต้องทำแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่...
แบบที่ผมต้องซื้อของมาแอบกินลำพังอยู่ในที่ที่คิดว่าจะไม่มีใครสนใจ
ใต้บันไดอาคาร
“ว้าว...”
ผมเผลออุทานออกมาเบาๆ เพราะเบอร์เกอร์ที่เพิ่งกลืนลงคอไปนั้นรสชาติดีกว่าที่คิดไว้มาก
ผมอมยิ้มพลางคิดในใจ...
...น่าจะซื้อมามากกว่านี้...
ตกเย็น
เมื่อเวลาเลิกเรียนมาถึง ผมก็เก็บข้าวของลงกระเป๋า วิ่งออกจากห้องเพื่อไปลงทะเบียนเข้าหอที่ได้รับแจ้งจากอาจารย์ตั้งแต่ก่อนเข้าห้องเรียนตอนเช้า
ผมลากกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่ฝากไว้กับพี่ยามของหอพัก
เข้าไปยังตึกแรกที่ตั้งตระหง่าน ด้านหน้ามีป้ายแสดง ‘หอพัก 1’ ชัดเจน
บอกไปหรือยังครับ?
...ที่นี่เป็นโรงเรียนประจำ
“นักเรียนใหม่ใช่ไหมเรา?”
ยังไม่ทันได้แนะนำตัว
พี่เจ้าหน้าที่ในห้องทะเบียนก็เอ่ยถามขึ้นก่อน
ผมพยักหน้าลงพร้อมยิ้มให้
“ครับผม”
“เอานี่กุญแจห้อง”
เธอยื่นของส่งมา
“ขอบคุณครับ”
ผมรับไว้อย่างยินดี
“แค่นี้แหละ
เดี๋ยวเสาร์นี้ค่อยลงมากรอกประวัติเพิ่มเติม”
ผมผงกศีรษะลง
“ขอบคุณครับ” แล้วตั้งท่าเตรียมเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยวนะ
เธอน่ะ”
ผมชะงัก
หันกลับไปหาพี่เจ้าหน้าที่ด้วยความสงสัย “ครับ?”
“เข้าห้องแล้วก็ขอรูมเมทนอนเตียงชั้นล่างนะ”
“...?”
“บอกเขาว่าเธอนอนชั้นบนไม่ได้หรอก
เดี๋ยวเสาเตียงหัก”
“...”
“แค่นี้แหละที่จะบอก”
“...”
“ไปได้แล้วไป”
“...ครับ”
ผมเดินออกจากห้องนั้น ฝีเท้าเร็วขึ้นกว่าตอนเดินเข้าไปหลายเท่า
...ทำไมผมถึงเหนื่อยอีกแล้วล่ะครับ...
“ไอ้สัตว์เอ๊ย!!”
ตัวผมกระตุกแรง...
ไม่มีเวลาให้พักหายใจเลยหรือไง
“คิดว่ารู้จักมาสเตอร์แล้วจะหือกับกูได้หรอวะ!”
ผมลอบถอนหายใจ
อย่างน้อยๆ ถ้อยคำรุนแรงเหล่านั้นก็ไม่ได้ถูกเอ่ยมายังผม ผมรีบหันหลังกลับทันที
ตั้งใจว่าจะไปใช้บันไดของอีกฝั่งขึ้นอาคารแทน
‘ผัวะ!’
เท้าของผมหยุดลง
...มีความรุนแรงเกิดขึ้นบนขั้นพักบันไดตรงนั้น...
‘ผัวะ!’
...แต่ผมจะช่วยอะไรได้ล่ะ...
ผมหลับตาลง
พยายามไม่นึกถึงว่ามีใครกำลังต้องการความช่วยเหลือ สองขาค่อยๆ ขยับไป... ที่บันใดนั้น
ผมเดินกลับเข้าไปหาความรุนแรงที่ควรหลีกหนี
“ขะ...ขอทางหน่อยได้ไหมครับ” ผมส่งเสียงเพียงเพื่อจะให้กำปั้นที่ใกล้จะพุ่งเข้าใส่ใครซักคนหยุดชะงัก
“หา?
มึงเป็นใครวะ”
สายตาสี่คู่จับจ้องมายังผม
สามคนในนั้นคือกลุ่มที่ยืนล้อมหนึ่งคนที่ปากแตกอยู่
“เชี่ยอ้วนนี่
มึงอยากมีปัญหาเหรอไงฮะ!”
ถ้อยคำไม่น่าพิสมัยถูกส่งมาหาผมแทน
“เปล่านะครับ”
ผมปั้นยิ้มส่งไป “พอดีผมเพิ่งย้ายโรงเรียนมา ก็เลยกำลังจะเอาของขึ้นไปเก็บ”
ว่าพลาง ส่งสายตาไปหากระเป๋าเดินทางที่ผมกระเตงมาด้วย
“เชี่ย...
นี่มึงใช้กระเป๋าบาลองเลยเหรอวะ” แต่หนึ่งในนั้น กลับไม่ได้มองไปตามสายตาของผม
สายตาของเขาจับจ้องอยู่กับกระเป๋าสะพายข้างของผมแทน “ของแท้ป้ะเนี่ย”
“...”
“ถามก็ตอบสิไอ้สัตว์!” เขาง้างมือขึ้นจนผมหลับตาปี๋
‘เพียะ’
...?
ทำไมล่ะ?
...ทำไมถึงไม่เจ็บ...
ผมลืมตาขึ้นแล้วพบว่าคนที่โดนฟาดลงกลางกระหม่อมคือคนที่ยืนปากแตกอยู่ตรงนั้นต่างหาก
“อย่ากวนตีนกู
ถ้ากูถามก็ต้องตอบ” สายตาของเขาที่มองมา น่ากลัวจนผมต้องหันหน้าหนี
“หรือว่ามึงอยากเป็นเหมือนไอ้เชี่ยนี่”
ผมรีบส่ายหน้ารัวๆ
...ไม่น่าเลย...
“เออดี
งั้นก็รีบตอบมาว่าของแท้หรือเปล่า”
ผมพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“ของแท้ครับ”
“ว้าว...
ของแท้ด้วยว่ะ” เขาคนนั้นยิ้มกริ่ม “งั้นกูขอยืมใช้หน่อยได้ป้ะ”
ราวกับภาพเก่าของตั้มและคนอื่นๆ
จากโรงเรียนเดิม ได้วนเวียนกลับมาหลอกหลอนผมอีกครั้ง...
ผมค่อยๆ
ปลดสายกระเป๋าจากไหล่ยื่นออกไป
“เชี่ย...
อย่างสวยอะ” คนตรงหน้าหันไปพูดคุยกับเพื่อนอีกสองคนด้วยรอยยิ้มกว้าง
ไม่นานนักเขาก็หันกลับมา “ท่าทางมึงจะบ้านรวยสินะ”
“...”
“กูบอกให้ตอบไง!”
“คะ...ครับ!” ผมรับคำเสียงดัง
“บ้านผมค่อนข้างจะมีเงินอยู่ครับ”
มุมปากของคนตรงหน้ายิ้มกริ่ม
“งั้นกูขอยืม...”
“ไม่ต้องยืมหรอกครับ”
ผมพูดแทรก
“หา?”
“ผมให้”
“!!!”
แบงก์สีเทาหลายใบถูกหยิบจากกระเป๋าพร้อมกับยื่นไป
“ผมให้นะครับ”
“!!!”
ผมฉีกยิ้มกว้าง
“ผมให้... และจะให้อีกเรื่อยๆ”
“!!!”
“แต่คุณช่วยดูแลผมหน่อยได้ไหม”
“...”
“อย่าให้ใครมาวุ่นวายกับผม...”
“...”
“...แม้แต่ตัวคุณเอง”
ความคิดเห็น