ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ต้องรอดให้ได้มากกว่าสามตอน (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ ๑.๒ คนของเรือนข้า(รีไรท์ 2)

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 64


    ร่างของบุรุษผู้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคุณชายผู้เอาใจยาก กำลังเยื่องย่างอย่างอารมณ์ดี ส่งผลให้ผู้พบเห็นต่างตะลึงงันพลางกระซิบกับสิ่งที่ได้เห็น บ้างก็ว่าสติฟั่นเฟือนอันเนื่องออกหน้าช่วยบ่าวไพร่ยอมถูกกระทบตีโบยหลายไม้ บ้างก็ว่าเป็นเพราะคุณชายรู้จักเรียนรู้และปรับปรุงตัวแยกแยะผิดถูก

    เจียอินถึงขนาดรู้สึกผิดปกติที่เกิดขึ้น แต่ไม่รู้ว่าเป็นส่วนจุดใด เชื่อว่าคงอยากเห็นคุณหนูซูซ่งปลาบปลื้มการกระทำอันกล้าหาญ

    “พี่ใหญ่ ท่านไปไหนมา ข้าตามหาท่านตั้งครึ่งชั่วยามเชียว”ร่างผู้เรียกเดินปรี่เข้ามาด้วยความกังวล

    “ข้าเพียงเดินเล่นเท่านั้นเอง”เขาโกหกลูกน้องหมายเลขหนึ่งด้วยความสุขุมประหนึ่งแสดงละครจอแก้ว แล้วใช้สายตาเหลือบมองไปยังรอบตัวหาสิ่งวิจิตรใจ 

    “เช่นนั้นมาทานข้าวเย็นกันเถิด วันนี้แม่ครัวของตั้งใจทำของโปรดให้ท่านโดยเฉพาะจะได้บำรุงร่างกายให้หายโดยไว”ฝ่ายนั้นรีบส่งยิ้มประจบแล้วเชื้อเชิญร่างบุรุษผู้สูงส่งในจวนไปยังเรือน ตอนนี้ท้องไส้เริ่มส่งเสียงประท้วงหิว อ่า คุณชายรีบเดินสักหน่อยเถิด เจียอินกล่าวในใจ

    แม้หยางฉือจิ้งจะเป็นคุณชายเจ้าอารมณ์และร้ายกาจเพียงใด แต่เมื่อเป็นคนโปรดของผู้นำตระกูลซู ย่อมต้องรีบประจบเอาอกเอาใจ ยอมหลับตาข้างหนึ่งเพื่อให้เขากระทำรังแกผู้อื่นอย่างสะดวก

    ครั้งหนึ่งตอนที่คุณชายหยางฉือจิ้งโตถึงสิบห้าหนาว เขาได้ใช้อำนาจบาตรใหญ่ประทุษร้ายบ่าวไพร่ในเรือนตนอย่างไร้การปรานี ถึงขนาดมีผู้ล้มตายจนเพราะไม่ไหวกับวิธีกลั่นแกล้ง ทั้งให้กินแต่น้ำเย็นเฉียบประทังชีพทั้งวัน หรือการให้นอนในลานกว้างช่วงฤดูเหมันต์ ความหนาวนั้นแทรกกายจนแข็งตายก็มี ช่างเป็นฆาตกรในร่างของคุณชายรูปงามอย่างแท้จริง

    “ได้สิ”ประโยคสั้นตอบตกลง พร้อมเดิมตามเจียอินเข้าไปในเรือน ห้องอาหารนี้ไม่ได้ใหญ่หากอาหารบนโต๊ะกลับดูล้นเต็ม 

    ตั้งใจขุนให้เขาเป็นหมูหรือ? ในขณะที่พระเอกผอมแห้ง ข้าวก็ถูกลิดรอนเหลือเพียงแค่น้ำซุปถ้วยเดียว แต่ร่างนี้อยู่ดีกินดี กระนั้นมันไม่ต่างอะไรกับชะตาที่จะตายในสามตอนด้วยมือของซานเหวิน ล้วนเป็นเวรกรรมที่ก่อเองมันจึงได้เป็นสิ่งคืนสนองอย่างสาสม แม้ว่าการตายในนิยายที่เหมือนว่ามันจะคุ้มค่า แต่เขากลับรู้สึกว่ามันยากเกินไป บางทีระบบอาจจะแฝงการตุกติกซ่อนไว้...อันที่จริงหากเขารอดไปได้มากกว่าสามตอนตอนก็น่าจะดีกว่า อี้จิ้งคิดแผนเพื่อหาทางรอดของตน บางทีเขาอาจจะต้องหาแผนการสำรองไว้บ้างแล้ว

    เริ่มต้นด้วยการสร้างมิตร

    “พี่ใหญ่ เหตุใดท่านไม่กินล่ะ”

    “เจ้าก็มากินสิ”พอจบคำใบหน้าอีกฝ่าย ฉงนงงทั้งเลิกคิ้วสงสัยพร้อมนั่งลงตรงข้ามด้วยความขัดแย้งในตัว เสียงในหัวดังขึ้น

    [คำเตือน ห้าม OOC เด็ดขาด มิฉะนั้นจะมีบทลงโทษ]

    ดูจะไม่เข้าท่าแล้วสำหรับการสร้างมิตร คงต้องปรับสถานการณ์ด่วนเพื่อไม่ให้ระบบลงโทษ

    “เอ่อ พี่ใหญ่ ท่านไม่เคยชักชวนข้าร่วมโต๊ะสักหน ครานี้ท่าน... ข้า ไม่เข้าใจ” อี้จิ้งอยากเอาศีรษะลงจุ่มน้ำซุปให้รู้แล้วรู้รอดไปเสีย เขาลืมไปได้อย่างไรนะ ว่าไอ้หยางฉือจิ้งมันไม่เคยเห็นใจใคร!

     “ข้าหมายถึง”อี้จิ้งสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะนำถ้วยอาหารนั้นเทลงอีกชาม ยื่นผลักส่งแก่เจียอิน “กินให้หมด”ร่างนั้นจ้องอาหารที่รวมกัน เงยมองผู้กระทำ อี้จิ้งดูด้วยใจที่ด้านชาก่อนใช้ตะเกียบคีบเข้าปาก 

    “อาหารของวันนี้ อร่อยยิ่ง ข้าจะทานให้หมด”ลูกน้องหมายเลขหนึ่งส่งยิ้มเจื่อน เมื่อลิ้นรับรสที่ไม่มีความกลมกล่อม ถ้าไม่กินตามที่บอก คงไม่ดีต่อตัวเอง สู้อดทนกลืนกินอาหารพวกนี้ลงไปไม่ดีกว่าเหรอ... 

    เพล้ง

    อี้จิ้งยืนขึ้นและผลักโต๊ะจนอาหารนั้นหล่นอยู่พื้น เสียงชามแก้วตกกระจายแตก หญิงรับใช้ได้ยินกรูเข้ามาดู เมื่อเห็นสภาพเลอะเละเทะก็ตัวสั่นงกกลัว

    “เกิดอันใดขึ้นเจ้าคะ! คุณชาย”บ่าวรับใช้คาดเดาคงมีคนจุดเพลิงโทสะ จนเกิดเหตุเช่นนี้ พวกนางไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามอง คุณชายจอมเอาแต่ใจ เจียอินตกตะลึงทำอะไรไม่ถูกเสียนอกจากนั่งนิ่งเป็นรูปปั้น

    “ข้าเพียงไม่อยากอาหาร ช่วยเก็บกวาดให้เรียบร้อยที” ร่างของหยางฉือจิ้งเดินผ่านไปแล้ว พวกบ่าวรับใจรีบสูดอากาศหายใจโล่งอก 

    “จานชามพวกนี้คงเทียบไม่ได้กับชีวิตของเรา เจียอินเจ้าโดนคุณชายทุบตีอีกหรือไม่?”พวกนางไถ่ถามเป็นห่วง เพราะเจียอินมักเป็นที่รองรับอารมณ์สม่ำเสมอ แต่ก็ไม่มีใครกล้าห้าม

    “ข้าสบายดี พี่ใหญ่คงอารมณ์ไม่ดีอยู่แน่ พวกเจ้าไม่ต้องกังวล” รอยยิ้มสดใสนั้นทำให้เหล่าบ่าวรับใช้ไม่ซักไซ้ถามต่อ

    “หากไม่มีเรื่องทุกข์ใจใด เจ้าก็รีบไปเปลี่ยนชุดเถิด เปื้อนอาหารหมดแล้ว”

    “ขอบใจที่เตือน”เจียอินว่าแล้วก็ทำตามที่พวกนางบอก

     

                    อี้จิ้งทรุดนั่งลงบนตั่งเตียง เขาไม่ชอบตนเมื่อทำสิ่งเมื่อครู่ แม้รู้ว่ามันเป็นการป้องกันการถูกลงโทษจากระบบก็ตาม หาก OOC ยากเกินคาดเดาบทลงโทษยิ่ง โดยโลกในนิยายเมื่อตัวละครระแคะระคายเจ้าหยางฉือจิ้งขึ้นมา เนื้อเรื่องคงไม่สามารถดำเนินต่อได้ ระบบจึงต้องบังคับมิให้นอกลู่นอกทางเป็นไปตามเดิม “แล้วแบบนี้ฉันจะเปลี่ยนชะตาได้อย่างไรล่ะ”g-kเปรยขึ้นเบาหวิวกับตัว เพราะร่างนี้จะถูกจบชีวิตภายในสามตอน 

    บ้าจริง! ยังอยากสำรวจโลกนี้ให้มากขึ้น อย่างน้อยก็ควรตายด้วยวิถีธรรมชาติสิ เกิดเป็นตัวประกอบชาวบ้านไม่มีชื่อยังดีกว่าซะอีก

    เขาทำเพียงได้แต่บ่นในใจเท่านั้น

    เอาวะเพื่อขวัญใจของเขา ฉะนั้นจะต้องรีบสะสมแต้มเพื่อให้อิ่งผิงรอด หวานใจของเขาจะต้องมีชีวิตที่สบาย ฉะนั้นหากมีภารกิจใดอื่นต่อจากนี้จะไม่เกี่ยงงอน 

    อี้จิ้งสาบานกับตนอย่างแน่วแน่เพื่อจะให้เป้าหมายเขาสำเร็จทุกประการ แม้จะต้องเผชิญกับอะไรก็ตามภายภาคหน้า 

                    ‘ยอดจอมมารแห่งยุทธภพ’ เป็นนิยายแฟนตาซี กำลังภายใน และฮาเร็ม เกี่ยวกับศึกยุทธภพ ระหว่างสำนักทั้งห้ากับซานเหวินพระเอกที่ผันตัวเองกลายเป็นประมุขพรรคมาร อันเนื้อเรื่องเข้มข้นยากที่จะวางลงเป็นนิยายติดท็อปในเว็บ DD ยากที่ใครจะสามารถเทียบชั้นขึ้นไป

    แม้จะใช้เวลารอนักเขียนมาเพิ่มทีละบทก็ตาม  เริ่มจากพระเอกถูกรังแกจนน่าสงสาร เมื่อเติบโต เขาได้นำความแค้นทั้งหมดฝังในอก ก่อนจะถึงจุดที่ล้างแค้นผู้ที่กระทำต่อหยามเหยียดให้สะใจ ยามดำเนินเรื่อง พระเอกมักจะได้ครอบครองหญิงงามทั่วใต้หล้า ฉาก sex ที่ดุเดือดถึงอารมณ์ นิยายเรื่องนี้จึงตอบโจทย์ นักอ่านได้หมดทุกประการจึงมีแฟนนิยายติดตามอย่างมั่งคั่ง

                    เริ่มแรกเขาไม่ได้ตั้งใจจะคลิกอ่านเรื่อง‘ยอดจอมมารแห่งยุทธภพ’หรอกในยามแรก เพราะในนิยายน้ำดีจากเว็บ DD ที่โด่งดังมีเป็นแสนเรื่องให้ได้ลิ้มลองอย่างมากมาย เริ่มแรกกะว่าจะวิจารณ์สำหรับยอดฮิตในห้วงเวลานั้น จนมาสะดุดกับเรื่องของนักเขียนอันมีนามปากกา จางเกียวเสี่ยว ด้วยความเป็นนักเขียนหน้าใหม่ไฟแรงจึงลองอ่านดู

    พบว่าเมื่ออ่านได้ตอนหนึ่งก็ขยับไปถึงตอนที่ยี่สิบเก้าอย่างรวดเร็ว! จากนั้นจึงติดตามนิยายเรื่องนี้เอาไว้ ไม่นานนัก นิยายแนวคล้ายกับ‘ยอดจอมมารแห่งยุทธภพ’ อยู่ทั่วดาษดื่นเกลื่อนออนไลน์ทุกเว็บไซต์สำหรับการเรื่องนิยาย กระนั้นออริจินอลเป็นอย่างไรก็ยังเป็นออริจินอลอยู่วันยังค่ำไม่มีผู้ใดเทียบเคืองได้ เพราะนักเขียนนั้นเติมเต็มรอยโหว่ของนิยายพร้อมใส่ฉากอลังการมากมายดึงดูดใจผู้อ่านให้เลื่อนไปยังหน้าถัดไป

                    นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องยาวที่แต่งมากกว่า 150 ตอน มีฉากร่วมรักมากกว่า 60 ตอน ที่เหลือเป็นเนื้อเรื่องอันเข้มข้น ทั้งแก้แค้น ฝึกวิชา ปราบศัตรู และเชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้งหมดพร้อมคลายปมทั้งหลายให้กระจ่าง

    หากอี้จิ้งไม่ใช่นักอ่านที่มีประสบการณ์โชกโชนป่านนี้คงคิดว่านักเขียน จางเกียวเสี่ยวนั้นเป็นยอดปรมาจารย์ผู้ประพันธ์ ภาษาในตอนแรกของเรื่องไม่ได้หวือหวาออกจะใช้คำทื่อ ๆ ไม่มีลูกเล่นและเทคนิค แต่เมื่อผ่านไปไม่ถึงหนึ่งเดือน จางเกียวเสี่ยวพัฒนาฝีมือราวกับก้าวกระโดด พรรณนาโวหาร บรรยายโวหาร ฯลฯ จนสามารถไต่เต้าอันดับเป็นนิยายที่มียอดผู้เข้าอ่านและติดตามมากที่สุดของเว็บไซต์ DD อย่างไม่อาจมีผู้ใดทำลายสถิติได้

    ซึ่งเขาไม่น่ามารู้จักเรื่องยอดจอมมารแห่งยุทธภพนี้เลยเพราะมันทำให้ขบคิดอย่างหมดปัญญา อันดับแรก เขาจะต้องเก็บคะแนนให้ครบ 10,000 แต้ม เพื่อให้ตัวละครที่เขาชอบรอดพ้นชะตาในนิยายในตอนจบ

    อันดับที่สองคือเป้าหมายอีกอย่างหนึ่งเพราะเขาต้องรอดไปให้ได้มากกว่าสามตอน ในเมื่อทะลุมิติมาในนิยาย สิ่งที่ชีวิตจริงไม่เคยได้รับเขาจะต้องกระทำให้บรรลุ นั้นคือการได้ครอบครองรักกับหญิงสาวที่เขาชอบ เพราะตอนมัธยมหรือวัยทำงานเขาถูกปฏิเสธนับไม่ถ้วนจนก่อเกิดความผิดหวัง จนเขาตั้งตัวเป็นโสดและไม่หักสนใจในความรัก แต่ในนิยายมักตอบโจทย์สิ่งนี้ ตอนที่อ่านมักจะจิตนาการว่าตนเองคือตัวละครเอกที่เคียงคู่กับนางที่เป็นยอดดวงใจ ฉะนั้นจึงเป็นสาเหตุที่เขานำเงินเดือนจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งหมดไปกับการซื้อเล่มนิยาย หรือสมัครใจจ่ายเงินโดเนต พร้อมซื้อนิยายรายตอนในเว็บนิยายออนไลน์อย่างถูกลิขสิทธิ์เพื่อให้นักเขียนได้ผลิตงานต่อ ๆ ไป 

    การรอดไปได้มากกว่าชะตาตามเนื้อเรื่องนี้ อาจจะดีกว่าข้อเสนอของระบบ เขายังทำใจไม่ได้หรอกหากต้องตายตามชะตาที่กำหนด หากเป็นใครเข้ามาในเนื้อเรื่องก็คงทำแบบเดียวกัน แต่เขาจะทำให้มันยืดหยุ่นกว่านั้น เขาจะเก็บคะแนนไปด้วยและคอยหาช่องทางการรอดไปด้วย แม้ว่ามันจะดูหนักหนามากก็ตาม แต่เพื่อนางยอดดวงใจอี้จิ้งจำเป็นจะต้องหาวิธีเพิ่มอีก

    ร่างบุรุษแพรไหมลอบถอนหายใจปลงตก มองออกไปทางหน้าต่างแล้วมองดวงจันทร์สุกสกาว จากนั้นก็ตกสู่ห้วงความคิดภายใน เอาเถิดอย่างน้อยถ้าเขามาอยู่ในเรื่อง ก็น่าจะช่วยเหลืออิ่งผิงรอดพ้นชะตาในตอนท้าย...

     

                    ซานเหวินตื่นแต่เช้าด้วยความเจ็บลดลงแทบไม่รู้สึก คงเป็นเพราะยาดีของคุณชายหยางฉือจิ้งเป็นแน่แท้ ทำให้แผลบรรเทาเจ็บ เขาใช้มือกุมตลับนั้นไว้อย่างมิดชิดก่อนจะซ่อนไม่ให้ผู้ใดเห็น พลันสายตาวูบหนึ่งสะท้อนบางสิ่งอันล้ำลึกเกินกว่าจะพรรณนาได้หมด มันน่าแปลกอย่างยิ่งเพราะตอนนั้นตนยังรังเกียจเดียดชังคุณชายหยางฉือจิ้งผู้เคยกลั่นแกล้งหนักหนา ทว่าสิ่งของเล็กน้อยสิ่งหนึ่งนี้ก็ทำให้ความแค้นก็ถูกชะล้างโดยหมดสิ้น อย่างน่าประหลาด ทั่งที่ซานเหวินสาปแช่งคุณชายหยางฉือจิ้งทุกเนี่องโอกาส

    “ซานเหวิน แผลเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”เด็กหญิงอายุไล่เลี่ยยิ้มหวานถามดู

    “ดีขึ้นมากแล้วขอรับ”เด็กน้อยลุกขึ้นยืนก่อนจะใช้ไม้กวาดมูลม้าบนพื้น ส่งกลิ่นสะอิดสะเอียน

    “งานหนักเพียงนี้ ยังกล้าใช้เจ้า ข้าจะไปฟ้องท่านพ่อ” คุณหนูซูซ่งไม่ชอบความเอาเปรียบ ใช้แรงงานซานเหวินหนักจนนางดูทนไม่ได้ ไหนจะการรังแกสารพัดจากบ่าวรับใช้ด้วยกัน นางไม่ชอบวิธีการเอารัดเอาเปรียบโดยเฉพาะเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน มันสะท้อนถึงขั้นฐานะที่แตกต่างกัน

    “ไม่จำเป็น แค่กวาดของพวกนี้มันไม่ได้หนักอันใดหรอก”เด็กชายปฏิเสธความช่วยเหลือ ก้มหน้าก้มตาทำขะมักเขม้น 

    “ได้อย่างไรเล่า เจ้าไม่ควรทำด้วยซ้ำ ให้ข้าช่วยเถิด”นางกำลังจะคว้าไม่กวาดช่วยแต่ถูกห้าม

    “หากคุณหนูอยากช่วยข้าจริง ท่านอย่าใส่ใจข้าและโปรดออกห่างข้า ที่นี้ต่ำเกินที่คุณหนูจะมาเหยียบเดิน” เสียงเรียบเชียบ ทำให้เด็กหญิงกล่าวไม่ออก ซ้ำยังรู้สึกเสียหน้าอย่างมากจนหน้าขึ้นสีอับอาย

    “ซ...ซานเหวิน ข้าหวังดีกับเจ้านะ!”นางเพียงแค่อยากช่วยเท่านั้นแต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธไร้เยื้อใย จึงตะโกนร้องขึ้น

    “ขอบคุณคุณหนูที่หวังดี แต่ข้าน้อยคงรับไว้ไม่ได้”

                    อี้จิ้งเดินเล่นอยู่ จนเสียงที่อยู่ไม่ไกลเกิดปะทะกันเล็กน้อย ด้วยความอยากรู้จึงเดินเข้าหา วันนี้เขาตั้งใจทำภารกิจเพื่อเอาคะแนน 

    แต่ทำไมต้องมาเจอฉากเด็ดที่...คุณหนูซูซ่งทำทีจะร้องให้เช่นนั้นเล่า!

    ราวกับฟ้าเป็นใจให้พบกับเหตุการณ์ตามกำหนดโดยไม่ต้องเสียเวลารอเลยสักเสี้ยวเดียว เขาจึงรีบหามุมที่จะพลางตัวไว้แล้วจะรอดูเหตุเงียบเชียบ ทว่า ยังไม่ทันคิดจบร่าง เล็กนั้นหันมาหาเขาตอนนี้เช่นกัน

    “พี่ชายหยางฉือจิ้งเจ้าคะ”นางเรียกชื่อร่างที่เขาอยู่

    เวรแล้ว...แม้ว่าเขากำลังจะหลบแม่สาวน้อยเองก็เรียกฉุดเขาขึ้นทันควัน

    “มีอันใดล่ะ น้องซูซ่ง”อี้จิ้งโปรยยิ้มอ่อนโยนมองหญิงเด็กกว่า พร้อมจะเจอการฉุกละหุกด้วยท่าทีสง่า

    “พี่หยางฉือจิ้งเจ้าคะ ซานเหวินได้รับงานหนักเพียงนี้ ข้าเกรงว่าไม่เหมาะ...”นางช้อนสายตากลมโตจ้องมอง

    เขาชักจะอิจฉาพระเอกมากขึ้น ขนาดแค่ซูซ่งเด็กยังมีเค้าโครงสวยขนาดนี้ โตขึ้นคงจะเป็นที่หมายปองของคุณชายตระกูลทั้งหลายแน่แท้ ด้วยเพราะอานิสงค์พระเอกที่บรรยายว่าหล่อนักหล่อหนาไปเกือบหนึ่งหมื่นคำ เหล่าฮาเร็มนี้จะน้อยหน้าได้อย่างไรล่ะ นั่นจึงทำให้อี้จิ้งชอบซูซ่งมาก นางคงจะงดงามกว่าสิ่งทีนิยายบรรยายเอาไว้พอกันกับหญิงงามในฮาเร็มทั้งหมด

    “นั่นสินะน้องหญิง ให้ซานเหวินทำงานที่เรือนข้าดีหรือไม่?” ท่าทางคุณชายหยางฉือจิ้งในเวลานี้ต่างจากที่เคยเห็นมากราวกับพลิกฝ่ามือ

    “ท่านพี่ ท่านใจดีที่สุดเลย”คุณหนูยิ้มร่าดีอกดีใจ

    “ซานเหวิน ต่อไปนี้เจ้าจงทำงานที่เรือนข้า”อี้จิ้งเอ่ยกับเด็กชาย ส่งผลให้เด็กน้อยรู้สึกอบอุ่นวูบหนึ่งในอก

    “ขอรับ ข้าน้อยจะรับใช้คุณชายด้วยความภักดี”ร่างนั้นก้มหน้าโค้งนอบน้อม

    “ดี วางไม้กวาดนั่นและตามข้ามา” ร่างสง่าตามวัยแตกหนุ่มนั้น ยิ่งสร้างความสว่างแก่ใจของซานเหวิน 

    “ข้าต้องรีบกลับแล้ว พี่หยางฉือจิ้งช่วยดูแลซานเหวินด้วยนะเจ้าคะ”ซูซ่งอมยิ้มอย่างเปี่ยมสุขเดินคลอร้องเป็นเพลง

    ในตอนนี้ก็เหลือเพียงเขากับพระเอกเท่านั้น อี้จิ้งเหลือบมองอีกฝ่ายที่อยู่ในอาการประหม่า ใบหน้านั้นจ้องมองที่พื้น ด้วยร่างผอมนี้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสาร แต่เขาจะต้องทำทีกระด้างใส่ใช้น้ำเสียงอันราบเรียบกล่าวกับเด็กน้อย

    “เดินตามข้ามาล่ะ”

    “ขอรับ” เด็กชายก้าวเดินตามแผ่นหลังเขาด้วยท่าทีสงบ ใครพบเห็นย่อมแสดงความประหลาดใจ 

    “เกิดอันใดขึ้นกับคุณชายหยางฉือจิ้ง?”

    “ตอนนั้นยังประกาศทั่วจวนเลย ว่าห้ามให้ความช่วยเหลือเจ้าเด็กนั่น แต่วันนี้เดินตามหลังมุ่งสู่เรือนคุณชาย แปลกจริงเชียว”

    “ข้าว่าคุณชายต้องมีแผนชั่วร้ายแน่นอน”หลากหลายเสียงวิจารณ์ ซุบซิบด้วยกันกับอีกคนอย่างสอดรู้ บ่าวรับใช้ชะเง้อมองตั้งแต่ต้นท้ายจนสุดสายตา 

    อี้จิ้งทำใจให้สงบ ยามก้าวขา พระเอกผู้ว่าง่ายเดินตามอยู่นะ! หากเขามีพิรุธ ระบบต้องลงโทษสถานหนักแก่เขา ฉะนั้นจะต้องทำตัวให้เหมือนร่างเดิม...

     

    “พี่ใหญ่ ท่านมาผู้ใดมาด้วย?”เจียอินเหลือบไปเห็นร่างที่ตนใส่ร้าย บัดนี้ตามหลังของคุณชายจอมเอาแต่ใจ 

    “ที่นี่คือเรือนข้า เจ้าต้องทำงานทุกอย่างตามที่ข้าสั่ง ส่วนที่นอน ข้าจะให้เจียอินเป็นคนจัดไว้ให้ ”เขาไม่ตอบลูกน้องหมายเลขหนึ่ง หากพูดแจงแก่พระเอกแทน

    “ขอรับ”เด็กชายขานรับ

    “พี่ใหญ่ ท่านรับเขามาทำงานที่เรือนนี้หรือ? ” เจียอินเคลือบแคลงสงสัย

    “ใช่ เขาคือคนของเรือนเรา” ร่างคุณชายหยางฉือจิ้งเชิดหน้าสูงก่อนจะหันไปหาซานเหวิน มุมปากของบุรุษผ้าแพรยิ้มมีเลศนัย ใบหน้านั้นดูน่ากลัวต่างจากตอนเมื่อคืนลิบลับราวมิใช่คนเดียวกัน “เจ้าต้องหาบน้ำจากเขาลูกนั้น เจ้าจงมาเติมใส่ถังไม้นี้จนเต็ม เพื่อให้ข้าอาบทุกวันเริ่มตั้งแต่วันนี้”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×