คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ ๑.๑ ไม่น่าไว้วางใจ (รีไรท์ 2)
อี้จิ้ง ในร่างคุณชายหยางฉือจิ้งอดทนอย่างมากที่สุด ยามไม้โบยกระแทกตัวมันทั้งเจ็บและปวดไปพร้อมกัน ในใจอดคิดไม่ได้ว่า เหตุใดเด็กน้อยอย่างพระเอกวัยเพียงสิบขวบยังสามารถกลั้นไม่ร้องโหยหวนเช่นนั้นได้
โอ๊ย! เจ็บฉิบหาย
เขาได้แต่บ่นพร่ำในใจ
เจียอินยิ่งตกใจแล้วใหญ่เมื่อเห็นหยางฉือจิ้งขอรับโทษ เพราะนิสัยที่รู้ดีคือเป็นพวกเห็นแก่ตัวและสวมหน้ากาก ทั้งวันก่อนยังให้ไปขโมยหยกคุณหนูซ่อนไว้ที่พักของซานเหวิน เพื่อวางแผนให้ผู้นำตระกูลซูลงโทษสถานหนัก เนื่องเด็กสาวให้ความสนใจแก่เจ้าเด็กไม่มีหัวน้อยปลายเท้านั่น
หยางฉือจิ้งเป็นลูกติดของฮูหยินรองเมื่อแต่งงานเข้ามาใหม่ได้รับความโปรดปรานนัก ส่งผลให้ถูกเอ็นดูไปด้วย ยามพบคุณหนูซูซ่งครั้งแรกตามได้ยินเลื่องลือสิริโฉมแม้ยังเยาว์ หยางฉือจิ้งตกหลุมรักชอบพอคุณหนูฝ่ายเดียว และรอคอยโอกาสล่วงเกินยามเธอถึงวัยสะพรั่ง ฉะนั้นหากไม่เดือดร้อนหรือต้องการประโยชน์ที่คุ้มค่าจะไม่กระทำตนอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้แน่
เจียอินคิดว่าคนอย่างพี่ใหญ่นั้นมีแผนการซ่อนอยู่แน่
ครบจนไม้สุดท้ายลงร่าง อี้จิ้งมีใบหน้าอิดโรยด้วยอาการทรมานถึงกับขยับไม่ได้ กระทั่งฮูหยินรองรีบโผเข้ามากอดลูกชายวัยแตกหนุ่ม น้ำตานางนองหน้าด้วยพร่ำบอกเป็นห่วง
“หยางฉือจิ้งลูกแม่ เหตุใดลูกจึงโดนโบยเช่นนี้!” อี้จิ้งเงยหน้ามองผู้ที่เป็นมารดาในโลกนิยาย เสียงของนางกึกก้องกังวานยามวิ่งมายังแท่นโบย เขาสายตาพร่าไปชั่วขณะมองเครื่องประดับหลากหลายถูกแดดสะท้อนระยิบระยับ สำอางประทินโฉมทาหนาเตอะ ตามการบรรยายถึงรูปร่างหน้าตาแม่ของหยางฉือจิ้งชอบแต่งหน้าจัด...
ผู้นำตระกูลซูโปรดปราณหญิงผู้ฉาบแป้งเพียงนี้เลยเหรอ?
อี้จิ้งนึกในใจก่อนจิตใต้สำนักเตือนเขาว่านี้คือบุพการี เขาจึงมองหน้านางอีกครั้ง “ท่านแม่...”พอลองเรียกดูพบว่าเสียงแหบแห้งขาดน้ำ
“มัวมองอันใดกัน รีบพาลูกชายข้ากลับเรือนสิ!”ฮูหยินรองตวาดลั่นบ่าวรับใช้
พวกเขาพยุงร่างหยางฉือจิ้งกลับไปยังเรือน พร้อมปิดประตูห้องหับอย่างมิดชิด
“เจ้าลูกคนนี้ จะทำให้ข้าอับอายไปถึงเมื่อไหร่กัน!” แม่หยางฉือจิ้งเริ่มมีโทสะ เดินรอบห้องด้วยอาการร้อนรน “บอกข้าซะ เจ้าโดนลงโทษด้วยเหตุใด?”
“ข้าเพียงต้องการความเห็นใจกับคุณหนูซูซ่ง” อี้จิ้งเลือกตามอุปนิสัยของหยางฉือจิ้งตัวประกอบผู้สวมหน้ากาก
“ยังไม่ทิ้งความตั้งใจนั้นอีกรึ เจ้ากับนางห่างกันถึงเจ็ดปีเชียวนะ อีกไม่กี่ปีข้าจะให้เจ้าไปสู่ขอคุณหนูตระกูลใหญ่มั่งคั่ง เพื่อส่งเสริมตระกูลเรา ฉะนั้นจงเลิกคิดล่วงเกินกับคุณหนูซูซ่งเสีย” นางปรายตามองลูกชายที่นอนคว่ำ
“พวกนางที่ค่อนข้างอัปลักษณ์หรือขอรับ...”เจียอินแทรกขึ้นด้วยหน้าเหยเก
“แม้นางอาจจะอัปลักษณ์ไปหน่อย แลกกับความร่ำรวย ถือว่าได้กำไรนัก”ฮูหยินรองยิ้มสุขสันต์ นางผู้นี้ละโมบโลภไม่สิ้นสุดโดยแท้ ถึงขนาดให้บุตรชายแต่งเข้ากับสตรีที่ไม่เคยเห็นโฉม
“ไม่! ข้าชอบคุณหนูซูซ่ง ข้าจะแต่งงานกับนาง”อี้จิ้งไม่อยากจะแต่งงานกับหญิงบ้านอื่น ถึงอย่างไรนี่คือโลกนิยาย เขาจะต้องครอบครองหญิงงามสักคนบ้างสิ อย่างน้อยที่สุดก็ขอให้เขาได้พบกับอิ่งผิงก่อน
“เจ้าลูกไม่รักดี! หากยังดื้อดึงอีกต่อไป ภายภาคหน้าข้าจะไม่หนุนหลังคอยให้ท้ายเจ้าอีก”ฮูหยินรองสะบัดชายผ้าพลิ้วคลายอารมณ์โกธร นางต้องการความมั่งคั่งในสินทรัพย์
“อย่างไรซะ ข้าชอบแม่นางซูซ่งอยู่วันยังค่ำ ท่านแม่ได้โปรดเข้าใจข้า”อี้จิ้งตั้งใจจะกล่าวเอ่ยเอื้อนเช่นนี้ อันเนื่องไม่อยากให้นางเอาร่างนี้ไปเป็นสิ่งแลกกับเงินตรา เขาจะต้องปกป้องตัวของเขาในเวลานี้ไว้เพื่อภายภาคหน้า
“ยิ่งสนทนาด้วย ยิ่งรู้สึกเปลืองน้ำลายนัก คงต้องปล่อยให้เจ้าเรียนรู้ด้วยตนเองบ้าง”นางทิ้งท้ายก่อนเดินออกประตูด้วยก้าวที่เต็มไปด้วยโกรธาจนรู้สึกว่าจะมีรอยร้าวเพิ่มขึ้น
เจียอินเห็นมารดาของคุณชายหยางฉือจิ้งไปแล้วจึงรีบมาใกล้“พี่ใหญ่ ถ้าไม่มีฮูหยินรองหนุนหลัง ข้าเกรงว่าต่อไปพวกเราทำการใดอื่นจะลำบากเอา”ชายผู้นั้นมีความกังวลเต็มสีหน้า
“แล้วเช่นไรเล่า หากเจ้ากลัวนักก็ไปจากข้าสิ”
“ได้อย่างไรล่ะพี่ใหญ่ ข้าจะไม่มีวันทิ้งท่าน”เจียอินจ้องมองอี้จิ้งด้วยจิตแน่วแน่ด้วยความภักดี
“เช่นนั้นก็ดี”เขาพอใจในคำตอบ เท่ากับว่าตอนนี้เขามีพวกแล้วหนึ่ง
“ท่านรอข้าก่อน ข้าจะนำยามาทาให้”ชายผู้นั้นรีบวิ่งออกไปเพื่อหายานำมาให้ ระหว่างรอก็เอ่ยคุยกับระบบ
ระบบขอดูภารกิจหน่อย
[ใช้ซานเหวินหาบน้ำจากภูเขาแล้วกลั่นแกล้ง สำเร็จจะได้คะแนน 50 หากไม่สำเร็จ -100 คะแนน]
ไหนความสมดุลกัน แม้แต่ระบบยังไม่มี...
ถึงเขาจะไม่ชอบใจกับระบบนัก ใช่ว่าตนจะมีทางเลือกอื่น เพื่อเป้าหมายเขาจะต้องยอมรับภารกิจนี้
ผ่านไปสักไม่ถึงหนึ่งจิบชาก็มีร่างของลูกน้องหมายเลขหนึ่งวิ่งหอบเหนื่อยจนเห็นเม็ดเหงื่อผุด
“พี่ใหญ่ข้าวิ่งเพียงครึ่งทาง หญิงรับใช้นำมาให้จากเรือนผู้นำตระกูลซู เห็นได้ชัดเลยว่าใส่ใจท่านมากเพียงใด” เจียอินยิ้มหน้าบาน ในมือมีตลับยาลวดลายงาม ถือระมัดระวังดั่งชีพ
“เอามาให้ข้า”
“นี่ขอรับ”ลูกน้องหมายเลขหนึ่งส่งให้ เขารับและเปิดออกมาดู กลิ่นหอมโชยสมุนไพรดีแตะจมูก
“มีตลับที่เล็กกว่านี้อีกหรือไม่”จบคำอีกร่างรีบวิ่งไปอีก สงสัยคงจะไปหาตามที่เขาพูดแน่ รอไม่นานนักเจียอินวิ่งตาตั้งชูตลับอันเล็กให้ด้วยรอยยิ้ม
ฝ่ายนั้นหอบตัวโยน“แฮ่ก ได้แล้วขอรับ”
“ขอบใจเจ้ามาก”อี้จิ้งรับตลับอันนั้นมาแล้วจึงใช้มือจับรวบสมุนไพรบดระเอียดมาใส่อีกตลับจนแน่น
“พี่ใหญ่ข้าทายาให้เอง”ไม่ว่าเปล่าเจียอินขยับเข้าใกล้จะเปิดผ้าออก
“ไม่ต้อง เจ้าออกไปก่อน” ถึงแม้แผลจะอยู่ด้านหลัง แต่ก็ไม่อยากให้ใครมาเห็นร่างกายนี้ เพราะยังไม่คุ้นชิน อีกอย่างนี่คือชีวิตเขามีสิทธิ์ที่ปกป้องมิให้ใครได้พบส่วนต่าง ๆ บนร่างกายนี้โดยง่าย แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนสนิทก็ตาม
“พี่ใหญ่ท่านจะทาเองได้หรือ? ยามท่านมีแผล ก็เป็นตัวข้าทำแผลให้ทุกครั้ง วันนี้ท่านกลับไม่ต้องการ”เจียอินตารื้อแดงราวจะร้องให้มองมา
“ข้าโตเป็นหนุ่มแล้ว เรื่องพวกนี้ย่อมต้องทำด้วยตัวเอง” อี้จิ้งใจแข็งกล่าวใจเย็นประกอบเหตุผล
“เช่นนั้น พี่ใหญ่ของข้าก็โตแล้วหรือ? ถ้าเช่นนั้นข้าจะโตตามหลังท่านเอง!”ประกายตามุ่งมั่นทำเอาอยากกุมขมับ เจ้านี่คงไม่ใช่กำลังถูกเขาสร้างความเชื่ออันใหม่แทนที่อยู่ใช่ไหม
“หากรู้แล้ว ก็ออกไปรอข้างนอก”
“ขอรับ!”เจียอินเดินออกไปรอตามที่เขาบอก เมื่ออยู่ลำพัง อี้จิ้งต้องกัดฟันอีกหน เพราะเพียงเหลือบเห็นเลือดที่ซึมตามผ้า คลับคล้ายจะเป็นลมล้มลง ยังดีมีสติจึงใช้มือทาสมุนไพรอย่างว่องไว หวังว่าจะหายผ่านในเร็ววัน...
อี้จิ้งจำตามที่นิยายเล่าไว้ว่า พระเอกถูกกลั่นแกล้งสารพัดโดยเฉพาะการไล่ให้ไปนอนที่คอกม้า แล้วช่วงที่ซานเหวินถูกโบยจนสาหัส เวลาแสนทรมานก็ยังมีคุณหนูซูซ่งนำยามาให้ แต่เจ้าหยางฉือจิ้ง ไอ้ตัวประกอบที่เขาอยู่มาเห็นซะก่อน แถมยังรุมทุบตีเจ้าเด็กน้อยนั้นอีก คำว่าเลว ชั่วช้า ยังน้อยเกินไป สำหรับการกระทำ
แล้วเหตุใด โชคชะตาต้องทำให้เขามาเจอเหตุการณ์ตรงหน้าแบบนี้ได้ล่ะ!
เด็กชายมอมแมมนอนลงอย่างอ่อนแรง สภาพนั้นดูไม่ได้นัก สภาพอากาศบริเวณนี้ไม่ควรให้คนมานอนได้ด้วยซ้ำ แต่ทางเลือกไม่มาก หากไม่นอนนี่ คงต้องถูกแกล้งหนักกว่าเดิมแน่ ฉะนั้นเด็กน้อยจึงเลี่ยงปะทะอยู่ในส่วนของตนดีกว่า
ซานเหวินปวดแสบเจ็บแผลมากนัก เด็กน้อยรู้ดีว่าใครอยู่เบื้องหลังแต่ไม่คาดคิดว่าคนผู้นั้นจะยอมขอรับโทษด้วยกึ่งหนึ่ง ความคิดของพระเอกกำลังยุ่งเหยิงคิดไม่ตก กระทั่งร่างเด็กหญิงวัยไล่เลี่ยกันวิ่งตรงมาอย่างระมัดระวัง พร้อมตลับยากอดไว้อย่างดีในอ้อมอกก่อนหยุดฝีเท้ายามถึงที่หมาย
ครั้นเมื่อพบร่างนั้นอยู่ตรงหน้าในใจนางรู้สึกสงสารยิ่ง มือกำตลับยาแน่นแล้วเม้มปากเล็กแดงกล่าวขึ้น
“ซานเหวิน นี่ข้าเอง”เสียงเล็ก ๆ บอกแก่ร่างที่อยู่ก่อน
“คุณหนู”เสียงอีกฝ่ายตอบรับมาเบาหวิว
“ข้านำยามาให้ ใช้ซะเถิด”มือเนียนนุ่มประดุจปุยฝ้ายแตะกับมือหยาบกร้านของซานเหวินเล็กน้อย แต่หัวใจเด็กหญิงรัวแรง พลันใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ ยังดีที่มืดอยู่ ไม่เช่นนั้นซานเหวินคงสังเกตเห็น
“ขอบใจคุณหนูนัก ยามนี้ดึกแล้วไม่ควรมาผู้เดียว อีกทั้งข้าเป็นบุรุษต้องเว้นระยะห่างไม่ให้คุณหนูเสียชื่อได้ หากไม่มีธุระใดอื่นท่านรีบกลับเสียดีกว่า ยิ่งอยู่นานจะถูกกลิ่นโสโครกพวกนี้ติดกาย” แม้เด็กชายจะวัยเพียงสิบปี แต่คำพูดคำจากลับดูมีวุฒิภาวะและช่างเถรตรงไปตรงมา
“แต่...แผลเจ้าล่ะให้ข้าดูหน่อยเถิด”คุณหนูซูซ่งย่อตัวนั่งข้างด้วยความเป็นห่วง
“กลับไปเถิดคุณหนู เผื่อใครมาพบเข้าท่านจะเสียหายได้ส่วนแผลข้า ข้าดูเองได้” ซานเหวินขยับห่าง
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะมาใหม่”เด็กหญิงลุกขึ้นยืน แล้วจึงรีบวิ่งกลับไปยังเรือนตน
อี้จิ้งมองด้วยใบหน้านิ่งเฉย เพราะเสียงในหัวนั้นดังขึ้น
[ระบบขอเสนอภารกิจโปรโมชั่นตามเนื้อเรื่อง ทำการขัดขวางซานเหวินไม่ให้ใช้ยาที่ซูซ่งมอบให้ ระยะเวลา 30 นาที สำเร็จได้คะแนน 25 หากไม่สำเร็จ –50 คะแนน]
บัดซบยิ่ง! ไอ้ระบบ เอ็งจะให้ไปรังแกพระเอกเช่นนั้นหรือยังอนาถไม่พอสินะ
อี้จิ้งด่าระบบในใจ
ตามบทแล้วนั้นหยางฉือจิ้งคือตัวละครที่ระยำมากที่สุด อย่างที่บอกไปเขาเคยพิมพ์ด่าอย่างดุเดือดถึงสองหน้ากระดาษ และภารกิจเจ้ากรรมดันเข้ามาแทรกราวกับนัดไว้
คะแนนก็อยากได้ แต่ก็ดันสงสารพระเอก
แถมจุดจบของร่างนี้ก็ตายด้วยเงื้อมือพระเอกภายในสามตอน แต่...แค่ไม่ให้พระเอกใช้ยาที่คุณหนูซูซ่งมอบไว้เพียงเท่านั้นเองนี่!
เขาตกลงรับภารกิจ พร้อมการก้าวเดินมั่นคงตรงไปยังคอกม้า จมูกย่นขึ้นหลังสัมผัสกลิ่นมูลสัตว์ บนพื้นยังเปรอะด้วยสิ่งสกปรก ทำเอาคลื่นไส้คล้ายอาการอาเจียน ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะยิ่งกว่าการบรรยายในนิยายหลายเท่าตัว พระเอกน่าสงสารเกินไปแล้วนะ
“นั่นผู้ใด?”เสียงหนักแน่นของเด็กชายตะโกนถาม เมื่อรู้สึกถึงผู้มาใหม่
“ข้าเอง คุณชายหยางฉือจิ้ง ” อี้จิ้งจะได้คุยกับพระเอกครั้งแรก เขาตื่นเต้นมากแต่ก็ควบคุมตนไม่ให้ผิดสังเกต
ร่างภายในชุดแพรไหมราคาสูงเยื่องย่างเดินกิริยาสง่า บุรุษผู้นั้นถือว่าเป็นเด็กหนุ่มแล้วด้วยน้ำเสียงทุ้มแตก ใคร ๆ ต่างรู้วีรกรรมด้านแย่นับไม่ถ้วน คุณชายหยางฉือจิ้งลูกติดฮูหยินรองปีนี้อายุครบสิบเจ็ดพอดี แต่นิสัยเสียยังไม่เคยซาลง ครั้นซานเหวินเข้าจวนตระกูลซูเป็นทาสบ่าวไม่กี่วัน คุณชายก็แผลงฤทธิ์วางแผนให้ซานเหวินเป็นแพะรับบาป
แสงจันทร์กระทบใบหน้าคุณชาย หากมองข้ามนิสัยคงพบว่าเป็นบุรุษรูปงามด้วยวัยขึ้นเป็นหนุ่มคงยากปฏิเสธได้อีก ภายภาคหน้าอาจเป็นบุรุษผู้ต้องใจสตรีทั่วหล้า แต่ข้อเสียนั้นจะกลบสิ่งปรากฏภายนอกจึงถูกรังเกียจจากสตรีงามทั่วเมืองเมื่อได้ยินชื่อของชายผู้นี้
“คุณชายมีธุระอันใดหรือขอรับ”เห็นได้ชัด เด็กน้อยเก็บตลับยาของคุณหนูซูซ่งซ่อนไว้
“เอาตลับยานั้นมา”หยางฉือจิ้งยืดอกทระนงตัวกล่าวเสียงเรียบ
“ข้าไม่มีขอรับ”เด็กน้อยเลือกที่จะไม่พูดความจริง
อี้จิ้งมองพระเอกอย่างจนปัญญา เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเอ่ยพูดอีก“ข้าเห็นคุณหนูมอบมันให้เจ้ากับตา ตอนนี้กลับเหิมเกริม ไม่ยอมปริปากบอกความจริงหรือ!” อี้จิ้งต้องสวมบทบาทให้แนบเนียนที่สุดเลยต้องปล่อยตามอุปนิสัยเจ้าของร่าง
“เอ่อ ข้า ”
“เอามาให้ข้าเดี๋ยวนี้”ฝ่ามือขาวราวน้ำนมแพะยื่นแบไว้เด็กน้อยจำใจวางตลับนั้นคืน
“นี่ขอรับ” ซานเหวินกำชายเสื้ออันมอซอจนเล็บแทบทะลุไปอีกฝั่งผ้า ความรู้สึกอึดอัดปนความแค้นเกาะกร่อนภายใน เด็กชายเกลียดบุรุษตรงหน้าอย่างยิ่ง ทั้งเสียง ใบหน้า กิริยา ล้วนเป็นสิ่งน่ารังเกียจยิ่งกว่าเดรัจฉานชั้นต่ำ ดวงตาซานเหวินหลุบมองมือที่จิกผ่านผ้าไปยังเนื้อหนังของตนอีกฝั่งโดยไร้อารมณ์เจ็บ
[ยินดีด้วย คุณได้รับคะแนน 25 แต้ม โปรดดูร้านค้า หากมีแต้มมากพอจะซื้อของทางระบบ ตรวจสอบให้ดีเพราะมันสามารถช่วยคุณได้!] เสียงระบบดังในหัวอี้จิ้งเขาเผยอรอยยิ้ม
หึ ไม่ให้ใช้ยาของคุณหนูซูซ่ง แต่ไม่ได้ห้ามเขานี่ อี้จิ้งเก็บตลับยาที่ได้ก่อนค้นไปในสาบเสื้อตน นำของบางสิ่งออกมา“เจ้าเอานี้ไปใช้แทนซะ”ตลับยาเรียบ ๆ อันเล็กวางไว้ให้บนฟางตรงหน้าของเด็กชาย
“ท่านให้ข้าหรือ?”ซานเหวินมองเขาด้วยแววตาประหลาดใจ กรอกตาหลุบโปนของตนมองฝ่ายนั้นทันที
“ไม่ ข้าเพียงวางทิ้งไว้ก็เท่านั้น ใครจะใช้มันก็ไม่เกี่ยวกับข้า” ร่างคุณชายหยางฉือจิ้งเดินถอยห่างกลับเรือน ทิ้งให้เด็กน้อยมองตลับยา มือเล็กสกปรกเอื้อมคว้าและเปิดออก มันคือสมุนไพร
ซานเหวินได้สูดดมพลันนึกถึงร่างเมื่อครู่คล้ายกลิ่นกายเฉพาะตัวอัดแน่นในนี้ เด็กชายสูดดมลึกราวจะจดจำกลิ่นนี้ในส่วนลึก แต่ความชังปนแค้นยังปะปนภายในความรู้สึก เด็กน้อยเหยียดยิ้มออกมาด้วยความขมปนหวานในใจ
ความคิดเห็น