ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ต้องรอดให้ได้มากกว่าสามตอน (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ (รีไรท์ 2)

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 64


    คำเตือน!  Warnings!

    • นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
    • มีฉากรุนแรงของการฆ่า ฟัน ของตัวละครในเรื่อง
    • มีฉากที่ไม่เหมาะสมของคำพูด การกระทำ และความคิดของตัวละคร
    • มีฉาก Angst  บีบอารมณ์ อาจรวมถึงเศร้าหรือสะเทือนอารมณ์
    • Graphic Depictions Of Violence มีการบรรยายฉากที่รุนแรง เลือดตกยางออก และทารุณ
    • มีฉากบังคับขืนใจ rape, non con, non consensual
    • มีฉากไม่เหมาะกับเยาวชน เพราะมีการร่วมเพศ
    • major of character death มีตัวละครตัวใดตัวหนึ่งตาย
    • Rimming, anilink, anilingus

    สวัสดีค่ะ ขอเตือนอีกครั้งนะคะ ได้โปรดอ่านคำเตือนก่อนนะคะ เพราะเรื่องนี้มีเนื้อหา 18 + ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน 18 + ในความหมายนี้ไม่ใช่เชิง sex นะคะ แต่หมายถึงฉากเลือดสาดและค่อนข้างรุนแรงอาจก่อการกระทบจิตใจซึ่งขอมาเตือนไว้จริง ๆ ฉะนั้นหากไม่พร้อมที่จะอ่าน กรุณาปิดไปได้เลยค่ะ

    -----

    บทนำ

    อี้จิ้ง ชายหนุ่มเนิร์ดมีเพียงใบหน้าธรรมดา ๆ ผู้หนึ่งที่ทำงานในออฟฟิศด้วยเงินเดือนที่พอเลี้ยงดูตัวเองตัวไปให้รอดพ้นในแต่ละเดือน ตลอดการใช้ชีวิตที่เคลื่อนมายังเลข 3 นั้นเขาไม่เคยออกนอกกรอบเลยสักครั้ง ทำตามกฎบริษัทและสังคมด้วยความเคร่งครัดตลอดมา จึงเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งว่า ทำไมทำงานมาหลายปียังไม่เลื่อนขั้น เพราะว่าการอยู่ในกรอบของตนเองจึงไม่มีความทะเยอทะยานใดเจือปนจึงทำให้เขาพอใจอยู่ในตำแหน่งนี้

    แต่สิ่งที่อี้จิ้งทำได้ดีที่สุดคือการทำงานที่ใช้ความรอบคอบ ตรงต่อเวลา และเรียบร้อยเป็นระเบียบ จึงถูกให้รับผิดชอบงานสำคัญอยู่เสมอ ถึงแม้ว่างานนั้นจะเล็กจะน้อยหรือใหญ่เพียงใดก็ไม่สามารถทำให้อี้จิ้งท้อถอยหรือล่าช้าเกินกำหนด เขามีความตั้งใจและความมุ่งมั่นในคราวเดียว ผู้คนที่อยู่ในบริษัทรับรู้ดีว่าอี้จิ้งคือคนที่ทำงานมาได้สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งนั่นเป็นเพียงแค่คนส่วนนอกเห็นด้านนี้เท่านั้น

    คนทุกคนล้วนมีหลายมุมหลายด้าน เช่นเดียวกับอี้จิ้ง สิ่งเดียวที่ปลดปล่อยความเป็นตัวเองได้ดีสุดคือ ห้องเช่าขนาดเล็กในตัวเมืองหางโจวอุปนิสัยส่วนตัวเนื้อแท้ของชายหนุ่มวัยสามสิบ เริ่มจากสบถคำหยาบคายต่าง ๆ ที่ติดมาจากอินเตอร์เน็ต เห็นท่าทางคนธรรมดาเป็นพนักงานเนิร์ดอย่างนี้ แต่ในโลกออนไลน์ไอดีของเขานั้นค่อนข้างเป็นที่รู้จักเพราะเป็นผู้วิจารณ์นิยายได้ถึงอารมณ์ หากไม่ผ่านสายตาของอี้จิ้งก็ถือว่านิยายเรื่องนั้นก็ควรที่จะปรับปรุง

    การอ่านนิยายของเขานั้นค่อนข้างที่จะมีมากมายหลายเรื่องโดยเฉพาะนิยายเรื่องหนึ่ง เป็นนิยายที่เขาติดตาม มานานกว่า 3 ปีคือ ‘ยอดจอมมารแห่งยุทธภพ’ เป็นนิยายเว็บ DD แฟนตาซี ฮาเร็ม ที่พระเอกโดนทารุณน่าสงสารจนผันตัวสู่สายดาร์กพร้อมรวบรวมสาวงามทั่วอาณาจักรไว้ครอบครอง การผจญภัยแสนสนุกทำให้ติดตามเนื้อหาจนจวบปัจจุบัน ไม่ใช่แค่ขายฉาก 18+ เท่านั้น แต่ยังมีเรื่องแฟนตาซีอันตื่นตาตื่นใจ ยิ่งฉากต่อสู้ยิ่งวางไม่ลงแล้วใหญ่! ไหนจะพระเอกที่ไม่ได้เก่งมาตั้งแต่ตอนแรก สั่งสมวิชาและรีดเค้นพลังออกมา ซึ่งกระนั้นการเป็นพระเอกก็ย่อมมีสิ่งเหนือกว่าคนธรรมดาคือชาติกำหนดอันสูงส่งของพรรคมาร

    แต่ก่อนที่เก่งขึ้นจะต้องฝ่าฟันอุปสรรค ไหนจะรับมือกับพวกตัวร้ายหางแถวที่กลั่นแกล้งพระเอก ความอัปยศอดสูทั้งหลายก่อร่างเป็นขุมพลังงานที่เหนือกว่าใครในใต้หล้า ความสนุกมันเริ่มขึ้นเมื่อพระเอกถูกหักหลัง พอกลับมาก็ฆ่าล้างพวกตัวประกอบทั้งหลายอย่างมันส์มือ ไหนจะเข็ญฆ่าผู้ที่ทรยศตนด้วยความอำมหิต เป็นฉากสยองขวัญ แต่นับว่าเหมาะสมกับสิ่งที่ก่อ รนหาที่ตายเองนี่

    ตอนสุดท้ายกำลงปิดฉากลง เขาขยับแว่นสายตาเพ่งมองตัวอักษรในเว็บ ที่ไม่อาจคาดเดาเนื้อความผลสรุปได้

    “บัดซบเอ๊ย! นี่มันคืออะไรกัน”เขาอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา เมื่อได้พบกับจุดจบเนื้อเรื่องทั้งหมด

    พระเอกที่สู้กับตัวร้ายฝ่ายธรรมมะได้ใช้เวทย์ธาตุที่พระเอกแพ้ทางลอบโจมตี ทำให้อิ่งผิงเข้ามารับการโจมตีและดับอนาถไป... 

    เฮ้ย! นี่มันตัวละครหญิงโปรดของเขาเลยนะ จะให้พระเอกกับตัวละครโปรดเขาอยู่ด้วยกันแต่แรกทำไม ในเมื่อตอนสุดท้ายเธอจะต้องตาย แถมไอ้พระเอกยังถูกลอบทำร้ายทั้งกายและใจอย่างนี้อีก ถึงตอนสุดท้ายพระเอกจะเอาคืนฝั่งนั้นอย่างสาสมก็เถอะ แต่แม่นางอิ่งผิงของเขาล่ะ ตายไปอย่างนั้นสมควรแล้วเหรอไอ้จางเกียวเสี่ยว! เขาด่านามปากกาไอ้นักเขียนที่ทำตัวละครสุดที่รักตาย

    “ไม่ไหวแล้ว…วันนี้แกจะต้องฝันร้าย”ชายหนุ่มวัยสามสิบพูดขึ้นมาอีกครานี้เขาได้แสยะยิ้มร้าย ถ้อยประโยคหยาบคายทั้งปวงถูกพิมพ์ลงสู่การวิจารณ์หน้านิยาย ใช้เวลาไม่นานนักตัวหนังสือเกือบจะท่วมหน้าจอก็เสร็จสิ้นด้วยอารมณ์ผู้กดลงปุ่มอักษร พอจะกดคลิกส่งข้อความ แสงสว่างจ้าเส้นหนึ่งฟาดมาตรงหน้าก่อนที่บางอย่างแล่นแล่นเข้าสู่หัวใจก่อนจะรู้สึกชาไปทั่วร่าง ไม่มีแม้แต่คำโอดครวญ...

     

    เขารู้สึกเวียนหัวปนอยากจะอาเจียนอย่างยิ่ง คลับคล้ายคลับคลาอาการเหมือนเมาไม่สร่างนัก จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ดื่มจนเมามายเหมือนสุนัขคงเป็นครั้งที่เข้าทำงานในบริษัทครั้งแรก เพราะหัวหน้างานต้องการให้สนิทสนมกันกับเพื่อนร่วมงานจึงได้ออกปากเลี้ยงซึ่งแม้ว่าส่วนมากจะเป็นเครื่องดื่มมากกว่าอาหารก็ตาม

    “พี่ใหญ่ตื่นเถิด ข้ามีเรื่องสนุกให้ดู!”เสียงบุคคลหนึ่งใช้มือเขย่าตัว

    “อืม...มีไรวะ?”อี้จิ้งขยับเปลือกตาเพ่งมองภาพตรงหน้า สัมผัสที่ใบหน้านี้แต่พบว่าไม่มีวัตถุที่จะเรียกว่าแว่นสายตาได้ 

    อย่าบอกนะว่าตอนนี้สามารถมองเห็นชัดโดยไม่พึ่งแว่นสายตาอีก

    อีจิ้งจึงรีบเงยมองผู้มาใหม่ พบชายหลุดมาจากโบราณที่ไหนไม่ทราบสวมชุดเหมือนในละครแนวกำลังภายในที่มักเปิดดูระหว่างทำงาน แถมยังมีสภาพแวดล้อมไม่คุ้นเอาเสียเลย จนเริ่มสับสนปวดเศียรหนึบ มองไปยังผู้กำเนิดเสียงเรียกเขาอีกครั้ง

    “เอ่อ พี่ใหญ่ ท่านเป็นอะไรหรือ”ชายผู้นี้มีรูปร่างสูงโปร่งแต่ก็เหมือนจะเตี้ยกว่า ใบหน้าเกลี้ยงเกลาพอดูได้ส่วนน้ำเสียงก็เหมือนจะแตกหนุ่มได้ไม่นาน จึงไม่น่าฟังหรือสนทนาด้วย แม้เขาจะเคยอ่านนิยายแนวเกิดใหม่มาบ้าง แต่มันจะใช่เหรอที่เขาจะไม่ตกใจ สติแทบฟั่นเฟือนเลยนะ!

    น..นี้เป็นความจริงแน่หรือ ไม่อยากเชื่อเลย

    ร่างบุรุษชุดแพรไหมงามค่อนข้างโอนเอนแสดงความไม่เข้าใจโผล่พ้นทางสีหน้า

    “ไม่ ๆ ผมไม่ได้เป็นอะไร เอ่อ ข้าสบายดี”อี้จิ้งเอ่ยถ้อยคำอย่างถูก ๆ ผิด ๆ กระนั้นก็รีบปรับตัวอย่างรวดเร็ว เป็นสิ่งที่เขาทำได้ดีตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคมหรือการเจอสถานการณ์ที่ผิดแปลกไปจากเดิมนั่นคือจุดแข็งที่สุด

    เพียะ ฝ่ามือเขาตบเข้าที่ใบหน้าตนอย่างแรงเพื่อยืนยันว่ามันคือความจริง เจ็บจริงไม่มีตัวแสดงแทน!

    อูย น่าจะยั้งมือซะหน่อย

    “ไอหยา! พี่ใหญ่ใยท่านตบหน้าตนเช่นนั้นเล่า”คนตรงหน้าตกใจมองสิ่งกระทำของนายตน

    “โอ๊ย...แค่อยากทดสอบว่ามันจริงหรือเปล่า แต่ดูท่าน่าจะของจริง”เขาเอ่ยโดยควบคุมคำพูดที่ควรจะปรับตามสถานการณ์แม้ว่าจะยังมึนงงอยู่

    “ข้าว่าท่านไปหาหมอดีหรือไม่?”

    “ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้เป็นไร ข้าคือคนปกติในยุคนี้”เขาพึมพำกับตัวเอง

    “พี่ใหญ่ท่านพูดว่าอันใด?”

    “ข้าไม่ได้พูดนี่”ตีหน้าซื่อเนียนต่อไป หรือเขาจะเข้ามาในนิยายสักเรื่องอย่างตัวเอกที่ชอบทำกัน ซึ่งทุกคนล้วนได้บทบาทยิ่งใหญ่ เขาควรจะถามคำถามพื้นฐานเสียก่อน“ข้าชื่ออะไรนะ?” เขาถามขึ้น

    ถ้าหากคาดการไม่ผิดส่วนมากในนิยายที่อ่านตัวเอกที่โผล่มาอีกโลกมักจะเป็นตัวละครสำคัญ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ได้ในภายหน้า ที่สามารถเปลี่ยนเส้นเรื่องได้มากมาย หรือ...ว่าเขาจะทะลุมิติมาเป็นพระเอก

    “โอ้ พี่ใหญ่ท่านลืมชื่อตัวเองหรือ?” ชายผู้นั้นทำทีจะร้องให้ราวกับเสียบุคคลสำคัญ

    “ข้าพึ่งตื่น ตอนนี้รู้สึกสะลึมสะลืองุนงงนิดหน่อย บอกชื่อข้ามาสิ” อี้จิ้งเร่งถามอีกฝ่าย

    “ท่านคงนอนนานไปหน่อย....นามท่านคือหยางฉือจิ้งไงล่ะ” ในที่สุดชื่อเจ้าของร่างที่ตนอยู่ปรากฏขึ้น

    “ส่วนเจ้าคือ เจียอินสินะ”

    “ใช่ ตอนนี้พี่ใหญ่ท่านจำชื่อข้าได้แล้ว” เจียอินยิ้มกว้างเร่งเช็ดหยาดน้ำตาคลอเมื่อครู่ให้หายไป ผู้ถูกเรียกว่าพี่ใหญ่หน้าซีดเผือดไร้เลือดฝาดทันที

    ให้ตายสิ!

    เขาเป็นตัวประกอบในเรื่อง ‘ยอดจอมมารแห่งยุทธภพ’ตัวประกอบที่มีเพียงไม่กี่ฉากในช่วงแรก ที่รังแกพ่อพระเอกเพราะอิจฉาริษยาหญิงงามหนึ่งในฮาเร็มของพระเอก เขาอยากจะเอาหมัดหนักแน่นอันหนึ่งเข้าไปที่หน้าของไอ้จางเกียวเสี่ยว เพราะร่างนี้มีแต่บททารุณพระเอกอย่างหนัก ไม่ต้องทำนายก็สามารถรู้ชะตาได้ว่าเจ้านี้ไม่อาจอยู่รอดจนจบเรื่องได้แน่

    อี้จิ้งจะไม่ปริปากปากบ่นเลย ถ้าเป็นเพียงตัวประกอบที่ใช้ชีวิตประจำวันตนเรื่อยจนสิ้นอายุขัยปกติ แต่บทของร่างนี้คือจะต้องตายภายใน 3 ตอนแรกโดยจมน้ำตายอนาถโดยฝีมือพระเอกที่เริ่มเดินทางสายดาร์ก

    ใช่แล้ว เปิดประเด็นศพแรกคือไอ้หยางฉือจิ้งไงล่ะ!

    ตอนนั้นเขาเองก็สะใจเป็นบ้าถึงขนาดโดเนต(Donate)เป็นเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้นักเขียน... ตอนนี้เขาเองก็อยากจะหักมือข้างนั้นที่กดส่งของขวัญไป

    [ยินดีด้วย! คุณถูกเลือกเป็นผู้เปลี่ยนชะตาตัวละครในตอนสุดท้าย หากต้องการช่วยเหลือให้บุคคลนั้นในเนื้อเรื่อง ที่จะไม่เหมือนดั่งตอนจบที่ท่านได้อ่าน กรุณาทำตามกฎด้วย ตอนนี้ระบบสุ่มให้ท่านอยู่ในร่าง ‘หยางฉือจิ้ง’ หากต้องการสิ่งใดสามารถซื้อได้ที่ร้านค้าของระบบ โดยต้องแลกคะแนนในการจ่าย คะแนนจะมีได้โดยคุณต้องทำภารกิจให้สำเร็จ มิฉะนั้นนั้นระบบจะติดลบคะแนน หากคะแนนติดลบ ระบบจะทำการลงโทษ ส่วนคะแนนที่ท่านต้องเก็บไว้ใช้สำหรับการปลดล็อคชะช่วยเหลือตัวละคร จะต้องเก็บทั้งหมดจำนวนทั้งสิ้น 10,000 แต้ม ขอให้โชคดี] เสียงหนึ่งแทรกดังขึ้นในหัว อย่าบอกนะว่านี้คือระบบ!

    [ใช่แล้ว]ระบบเหมือนอ่านความคิดได้ตอบกลับ

    เอ่อ แล้วถ้าเก็บได้ 10,000 แต้มจะสามารถช่วยอิ่งผิงได้ใช่ไหม

    [ใช่ แต่ว่าต้องไม่ทำให้ตัวละครที่ท่านอยู่ในร่างนี้ไม่ฝ่าฝืน OOC เด็ดขาด มิฉะนั้นอาจถูกลงโทษสถานหนัก โปรดห้าม OOC เด็ดขาด ย้ำ เด็ดขาด ในระหว่างนี้หากมีเนื้อเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ กรุณาทำตามบทเพื่อให้เนื้อเรื่องดำเนินต่อไปอย่างสมบูรณ์และเพิ่มพูนประสบการณ์ที่ดีสำหรับการดื่มด่ำกับเนื้อเรื่อง]

    ถ้าอย่างนี้แล้ว จะมีชีวิตรอดตลอดฝั่งได้อย่างไรเมื่อห้าม OOC

    อี้จิ้งรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับตัวเขา หากเขาไม่อาจOOCได้ เขาก็จะไม่รอดถึงตอนจบ และหากเขาเก็บแต้มไม่ครบถึง 10,000 จะไม่เป็นการสูญเปล่าทั้งหมดเหรอ?

    [ระบบยังอยู่ในช่วงขัดข้องอยู่ หากท่านตายก่อนจบระบบจะมีส่วนลดให้ท่านด้วย ส่วนเรื่องการ OOC ถือเป็นเรื่องที่ท่านต้องทำตามอย่างเคร่งครัด...ซึ่งหากท่านตายตามเนื้อเรื่องระบบจะให้โอกาสท่านขออะไรกับระบบก็ได้โดยที่ระบบจะไม่มีข้อแม้ ขอให้ท่านไม่OOCทำภารกิจที่ระบบมอบให้ท่านก็สามารถรับสิทธิ์นั้นได้!] ระบบพูดวนซ้ำเกี่ยวกับข้อห้าม OOC

    เขาจึงต้องตระหนักกับเรื่องนี้เช่นกัน เพื่อจะให้อิ่งผิงรอดในตอนจบจะต้องเข้มแข็งไว้เพื่อเธอเขาได้ตั้งปณิธานไว้ว่าต้องเก็บคะแนนให้ครบก่อนตัวเองจะถูกเดินตามเนื้อเรื่องจนต้องตายในตอนที่สาม เมื่อเก็บครบแล้วเขาก็สามารถทำให้อิ่งผิงรอดไม่ต้องตายในตอนจบ แล้วหากเขาตายตามเนื้อเรื่องก็ยังมีสิทธิ์สำหรับขออะไรก็ได้ แน่นอนเขาชอบอิ่งผิง เมื่อระบบให้ข้อเสนอนี้ เขาก็จะขอให้ตนได้ครองรักกับเธอเป็นอันสำเร็จประณิธาน ต้องเริ่มจากทำภารกิจก่อน…

    ระบบผมมีคะแนนอยู่เท่าไหร่

    [ 0 คะแนน ] อืม... มีภารกิจอะไรบ้าง

    [ใช้พระเอก หาบน้ำจากภูเขา แล้วกลั่นแกล้ง สำเร็จจะได้คะแนน 50 หากไม่สำเร็จ -100 คะแนน]

    เฮ้ย! ไอ้ระบบนี่มันจะงกเกินไปแล้วนะ! ให้แค่ 50 แต่ดันติดลบ 100 

    [ระบบมีความยุติธรรม หากไม่พอใจส่วนใด โปรดรายงานไว้ ระบบจะนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น!]

    เออ ปรับปรุงเลย! 

    [ระบบได้นำความคิดเห็นของท่านไปพิจารณา ขอบคุณสำหรับการเสนอความคิดเห็น!]

    “เอ่อ พี่ใหญ่...” 

    “อ่า มีอันไรกันล่ะ”เขาปรับตัวอย่างรวดเร็วใช้ประโยคโบราณที่เคยดูในละคร

    “ข้าได้ยินมาว่า เจ้าซานเหวินถูกลงโทษที่ขโมยหยกของคุณหนูซูซ่ง” ซานเหวินชื่อพระเอก! ฉากนี้มันเป็นฉากเปิดตัวพระเอกก็ว่าได้ ที่บรรยายความเจ็บปวดในการถูกลงโทษ หยกนั้นไม่ได้ขโมยมาเสียหน่อย แต่เป็นหยางฉือจิ้งไอ้ตัวละครร่างนี้ใส่ร้ายพระเอก อิจฉาที่คุณหนูซูซ่งสนใจใยดีมากกว่า เขาเคยด่าตัวละครหยางฉือจิ้งเกือบ 2 หน้ากระดาษเชียว เวรกรรมจริงแท้ที่อยู่ในร่างนี้

    “อยู่ที่ไหนรึ ? ”อี้จิ้งลุกพรวด

    “ทางนี้ขอรับ”

                    

    เมื่อมาถึงลานกว้าง ชายฉกรรจ์กับเด็กน้อยผู้หนึ่งถูกลากจับไว้ ผู้ที่ถูกกระทำนั้นคงไม่ต้องเดาให้ยุ่งยากเพราะนั่นคือตัวละครหลักของเรื่อง พระเอกไงล่ะ!

    “ท่านพ่อข้าไม่ถือเอาความ ได้โปรดอย่าลงโทษเลย”คุณหนูซูซ่ง 1 ในฮาเร็มพระเอกอ้อนวอนพ่อของตน 

    “มิได้หรอก ถึงเช่นนั้นมันก็มีนิสัยขโมย จับมันไปโบยยี่สิบไม้ อดข้าวอีกสามวันให้หลาบจำเสีย!” 

    เหล่าบ่าวไพร่รับคำสั่งจับตัวพระเอกเพียง 10 ขวบ...

    มันอนาถเกินไปนะคนเขียน ดูสภาพพระเอกสิ ผอมกะหร่องยิ่งกว่าขาดสารอาหาร ผมเผ้ากระเซิงหลุดลุ่ย แถมชุดมอซอนั่นอีก เขาไม่อยากคิดเลยว่าเด็กคนนั้นจะทน 20 ไม้ได้อย่างไร! ไอ้หยางฉือจิ้งเอ๊ย! ไอ้ตัวอิจฉา เป็นหนุ่มแล้วยังลอบกัดเด็กน้อยอีก 

    เขาก่นด่าไอ้ตัวละครเฮงซวยนี้ซึ่งตัวละครนั้นมีชีวิตอยู่เพียงสามตอนเท่านั้นเอง... ปัจจุบันก็ตัวเขา บัดซบแท้

    เด็กชายถูกจับลากไว้บนแท่นโบย ถึงเนื้อตัวจะมอมแมมเพียงใด แต่ก็ปิดไม่มิดในออร่าของพระเอกที่กระจายออกมา

    “แผนท่านสุดยอดจริง ๆ ”เจียอินเอ่ยปากชม

    “อืม”เขาได้แต่ปั้นยิ้มขมขื่นเพราะกำลังกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก อี้จิ้งจะทนเห็นสภาพที่พระเอกถูกทารุณต่อหน้าได้อย่างไรกัน 

    ตุบ เสียงไม้โบยกระทบลงบนร่างพระเอก สายเขาก็พลันสบกับร่างนั้น นั้นมันคือบทบรรยายที่ไอ้หยางฉือจิ้งยิ้มเยาะพ่อพระเอกด้วยแววตาอันสมเพชสะใจเหลือล้น

    ฉากความเจ็บปวดทำเอาใจเขากระตุกวูบ เมื่อได้มาดูเป็นภาพจริงซึ่งเทียบไม่ติดกับตอนอ่านเลยสักนิด เพราะตรงหน้าเป็นของจริงทั้ง กลิ่น รูป เสียง ปรากฏตรงหน้าเช่นนี้ คนปกติดีที่ไหนยืนเฉยอยู่ได้!

    ถ้าหากสารภาพผิดต่อผู้นำตระกูล ซานเหวินจะไม่โดนลงโทษไหมนะ?

    [คำเตือน ห้าม OOC มิฉะนั้นจะถูกลงโทษ]

    ไอ้ระบบเวร เอ็งจะมาบอกถี่เกินไปแล้วนะ แต่ใครหน้าไหนมันจะจิตใจโหดเหี้ยมมองดูเด็กน้อยถูกทารุณกันล่ะ

    อี้จิ้งคิดแทบประสาทกลืนกิน แม้ว่าอยากจะยื่นมือไปช่วยแต่เขาก็เกรงว่ามันจะมีผลกระทบต่อเนื้อเรื่องภายภาคหน้า ถ้าเนื้อเรื่องเปลี่ยนไปเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็เปลี่ยน มันจะกลายเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถล่วงรู้ในอนาคต ดีไม่ดีระบบอาจติดลบคะแนนพร้อมลงโทษเขาอีก

    มันก็ไม่ใช่จุดเซฟโซนของตัวเขา ถึงอยากจะช่วยมากเท่าไหร่ก็มิอาจได้ จึงได้แต่ผินมองไปโดยรอบแทนจนปะทะสายตาดรุณีน้อยจ้องขอความช่วยเหลือจากเขา

    “ท่านผู้นำตระกูลขอรับ”เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพคุกเข่าเปรอะฝุ่น

    “มีอันใดหรือหยางฉือจิ้ง”เสียงทรงอำนาจของผู้นำตระกูลซูนั้น ทำเอาเขาขนลุกชั่วขณะหนึ่ง

    “ได้โปรดลดโทษซานเหวินด้วย ข้าจะรับโทษแทนเขากึ่งหนึ่งเองขอรับ”ร่างคุณชายหยางฉือจิ้งยืดอกตรงสง่า พูดด้วยเสียงนุ่มนวล

    เขาวิเคราะห์เบื้องลึกที่ได้จากการคำนวณ ตัวละครหยางฉือจิ้งนี้พบว่าเป็นตัวละครชอบสลับหน้ากาก พออยู่ต่อหน้าคุณหนูซูซ่งก็จะทำตัวอบอุ่น ใจดี ยิ้มเก่ง แต่เมื่ออยู่กับเด็กน้อยซานเหวิน จะรังแกสารพัดจึงใช้อุปนิสัยเจ้าตัวเป็นข้ออ้างลดโทษพระเอกถือเป็นการเริ่มต้นสานสัมพันธ์อันดีกับเด็กน้อยโดยไม่ถูกลงโทษจากระบบในกรณี OOC

    “พี่ใหญ่!”เจียอินตกใจกับการกระทำเขา

    “เห็นแก่เจ้าข้าจะทำตามคำขอ หยุดโบยเสีย!”ผู้นำตระกูลสั่งหยุดแก่ชายฉกรรจ์ที่โบยอยู่หยุด ครบสิบไม้พอดี สายตาคุณหนูซูซ่งเปล่งประกายเลื่อมใส

    เอาน่า ขนาดพระเอกยังทนได้ เขาก็ทนได้ล่ะวะ อี้จิ้งให้กำลังใจตนแม้ว่าจะเคยถูกตีครั้นเด็กที่เกเรมาก่อน แต่ผ่านมาถึงวัยทำงาน เขาก็ไม่ได้ถูกลงโทษเช่นนั้นอีก

    เด็กชายย้ายที่กลับเรือนบ่าวไพร่ กระนั้นพระเอกยังคงจรดมองอยู่ทุกกิริยาคุณชายหยางฉือจิ้ง

    อี้จิ้งไปนอนราบเรียบที่แท่นโบย จากนั้นก็รีบหลับตาไว้เพื่อจะไม่จิตนาการฟุ้ง จนกระทั่งเสียงหวือลมจากไม้โบยกระทบ

    ตุบ เสียงไม้กระทบก้นดังเข้าโสตประสาท พร้อมความเจ็บแล่นพล่านทั่วกาย

    โอ๊ย! เบา ๆ หน่อยได้ไหมพี่ชาย แปลกใจกับซานเหวินแท้เจ็บขนาดนี้ยังไม่ร้องสักแอะเดียว ต่างกับเขาอย่างมากที่ต้องกัดฟันข่ม 

    อ้าก…นี้มันต่างกันเพราะมีสกิลพระเอกเรอะ!

     

    ------

    ถ้าชื่อตัวละครยังเปลี่ยนไม่หมด ขออภัยด้วยนะคะ เราตาลายแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×