ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้อมูลสำหรับแต่งนิยาย

    ลำดับตอนที่ #24 : [char][สรุป] ม้า

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 54



    ม้าเป็นสัตว์ที่ปรากฏตัวออกมาบ่อยมากในนิยายแฟนตาซี นิยายเราใช้ม้าเป็นพาหนะหลักเช่นกัน เพราะงั้นเลยทำสรุปไว้สักหน่อยเพื่ออ้างอิง ^^


    ชนิดและพันธุ์ม้า

    1. ม้างาน (Draft Horse) ใช้ในการทำงานในไร่นาและคอกปศุสัตว์ งานเทียมเกวียนลากของหนัก  ๆ บางครั้งอาจใช้ขี่เข้าเมือง ม้างานเป็นม้าที่มีขนาดใหญ่ สูงประมาณ ๑๕-๑๗ แฮนด์ เมื่อโตเต็มที่มีขนาดน้ำหนัก ๖๑๔-๑,๐๐๐ กิโลกรัม
    2. ม้าขี่ (Riding Horse) สำหรับขี่เดินทาง ม้าแข่ง เป็นม้าที่มีขนาดสูงประมาณ ๑๔-๑๗ แฮนด์ เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนัก ๓๖๔-๕๙๑  ที่กิโลกรัม
    3. โรดสเตอร์ (Roadster Horse)
    4. ม้าเทียมลาก (Carriage or Heavy Harness Horse)
    5. ม้าโพนี่ (Pony Horse) สำหรับการขี่ของเด็ก ๆ หรือเทียม รถลากขนาดเล็ก มีส่วนสูงประมาณ ๑๑-๑๔แฮนด์ และเมื่อโตเต็มที่มีน้ำหนักประมาณ ๑๘๐- ๓๘๖ กิโลกรัม


    สีของม้า


    ม้าขนสีล้วน เป็นม้าที่มีสีขนคล้ายคลึงกันทั่วตัว มีผิดกันเล็กน้อยบางแห่งเท่านั้น สีล้วนแบ่งออกเป็น ๗ ชนิดคือ ๑. สีขาว ๒. สีปลั่ง ๓. สีเหลือง ๔. สีจันทร์ ๕. สีแดง ๖. สีน้ำตาล ๗. สีดำ

    ม้าขนสีแซม คือ ม้าที่ขนขาวขึ้นปนกับขนสีอื่น ม้าสีแซมแบ่งตามสีขนที่ปนอยู่กับสีขาวออก เป็น ๓ จำพวก คือ ๑ แซมดำ ๒ แซมเหลือง ๓ แซมแดง

    ม้าขนสีผ่าน ม้าสีผ่านต้องถือสีขาวเป็นพื้นเดิม แม้จะมีสีขาวน้อยกว่าสีอื่นก็ตาม ส่วนสีอื่นที่ผ่านต้องเรียกสีนั้นเป็นขนสีผ่านเสมอ ม้าบางตัวผ่านจุดโตประมาณเท่าฝ่ามือหรือเท่าฟองไข่ ม้าชนิดนี้เรียกว่า "ม้าสีตลก"ม้าสีผ่านแบ่งออกเป็น ๔ ชนิด คือ (๑) ผ่านดำ (๒) ผ่านแดง (๓) ผ่านเหลือง (๔) ผ่านแซมดำ แดง และเหลือง


    ลักษณะของม้า

    วิธีเลือก (ของไทย) ที่ยอม รับกันมาแต่โบราณจนถึงปัจจุบันก็คือการดูลักษณะ ม้า โดยพิจารณาลักษณะดังต่อไปนี้

    ๑. ผิวม้า ม้ามาจากตระกูลดี และม้าลักษณะดีจะต้องมีผิวหนังบาง ขนสั้น มองเห็นรอยเส้นเลือดได้ชัดเจน เรียกว่า ม้าผิวบาง
    ๒. อวัยวะภายนอก ม้าที่มีกล้ามเนื้อใหญ่โต ขาใหญ่ คอหนา ศีรษะโต ม้าที่มีลักษณะเช่นนี้ เป็น ม้าแข็งแรง แต่ไม่ว่องไว เรียก ม้าทึบ
     ๓. นิสัย ม้าที่มีลักษณะหงอย ไม่ปราดเปรียว ส่วนมากมักจะแข็งแรง เรียกว่า ม้าเลือดเย็น ม้าที่มีลักษณะปราดเปรียว ส่วนมากนิสัยดี และมีสายเลือดดี เรียก ม้าเลือดร้อน
     ๔. ส่วนศีรษะ แบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ
                ส่วนหน้า จากตาถึงปลายจมูก
               ส่วนกระหม่อม จากตาถึงท้ายทอย
                ม้าที่ตระกูลดี ฉลาด ว่องไว และเลือดร้อนส่วนหน้าจะเล็กกว่าส่วนกระหม่อมมาก
                สันจมูก ม้าที่มีสันจมูกตรงหรือแอ่นงอนแสดงว่าเป็นม้าเลือดเย็น ม้าที่มีสันจมูกโค้งและนูนตรงกลางแสดงว่าเป็นม้าเลือดร้อน
                รูจมูก ม้าที่มีรูจมูกกว้าง มักจะเป็นม้าที่ แข็งแรง
                ปาก ม้าปากกว้าง (มุมปากอยู่ใกล้แก้ม) เป็นม้าที่แข็งแรง ม้าปากเล็ก มุมปากเล็ก (มุม ปากตื้น) มักจะเป็นม้าว่าง่าย สอนง่าย
                ตา ม้าตากลมโตจะเป็นม้าเลือดเย็น สอนง่ายม้าตาเล็กจะเป็นม้านิสัยโกง
                ขากรรไกร ม้าขากรรไกรหนาและม้าขา กรรไกรโต มักจะมีนิสัยขี้โกง เกียจคร้าน
                หู ม้าตระกูลดี ได้แก่ ม้าหนู คือ หูเล็ก บางและชิดกัน ม้าตระกูลปานกลาง ได้แก่ ม้าหูกระต่าย คือ หูเล็กแต่ยาว ม้าตระกูลไม่ดี ได้แก่ ม้าหูลา หูใหญ่ยาวปลายเรียว ม้าหูวัว หูจะสั้น หนา
    ๕. คอ
                 สันคอ ม้าที่มีสันคอบาง เป็นม้ามีตระกูลดีวิ่งเร็ว แต่ไม่ค่อยแข็งแรง ส่วนม้าที่มีสันคอหนา เป็นม้าตระกูลไม่ดี วิ่งไม่ค่อยเร็ว แต่แข็งแรง
                 ผมแผง ม้าตระกูลดี ผมแผงจะมีขนเส้นบาง  ๆ ม้าตระกูล ไม่ดีผมแผงคอจะหยาบ เส้น หนา
                 รูปคอ คอม้ามีรูปร่างต่างกันออกไป ซึ่งจะ เป็นลักษณะที่เป็นเครื่องสังเกตว่า ม้าจะดีหรือไม่ แบ่งออกเป็น ๒ ชนิด
                 ม้าคอหงส์ คือลักษณะรูปคอที่โค้ง ตลอด ตั้งแต่ต้นคอจนถึง ปลายคอ ม้าที่มีคอ ลักษณะเช่นนี้ จะเป็นม้าที่วิ่งเรียบและมีฝีเท้าเร็ว ขี่สบาย
                 ม้าคอตรง คือม้าที่สันคอโค้ง ส่วนใต้คอตรง มีรูปคอพอเหมาะ ม้าที่มีลักษณะเช่นนี้ จะแข็งแรง ว่องไว เหมาะแก่การขี่
    ๖. ตะโหงก เป็นสิ่งแสดงความแข็งแรงของม้าม้าที่ว่องไวจะมีตะโหงกสูงเด่น ส่วนม้าตะโหงกเตี้ยแสดงว่าม้าไม่แข็งแรง
    ๗. ส่วนหลัง เป็นส่วนที่รับน้ำหนักของคนที่นั่ง บนหลังม้า ม้าที่มีลักษณะหลังที่ยาว และอ่อน แสดงถึงว่าม้านั้นไม่แข็งแรง เพราะเมื่อใช้ขี่ หรือ บรรทุกของ จะทำให้หลังอ่อนรับน้ำหนักได้ไม่มาก ถ้าม้าที่ส่วนหลังสั้นจะทำให้ม้าเอี้ยวตัวไม่    สะดวก และเป็นเครื่องชี้ให้ทราบได้ว่าปอดม้านั้นจะไม่ใหญ่ เวลาวิ่งจะเหนื่อยเร็ว เราแบ่งลักษณะรูปส่วนหลังม้าออกเป็น :

             -  ม้าหลังโค้ง เป็นม้าที่รับน้ำหนักได้ดีมาก และมีความอดทนต่อน้ำหนักที่รับ แต่ถ้าใช้ขี่จะ กระเทือนมาก ม้าชนิดนี้เหมาะสำหรับใช้บรรทุก สิ่งต่าง  ๆ
              -  ม้าหลังตรง เป็นม้าที่มีลักษณะดี เมื่อเวลา บรรทุกของ หลังจะแอ่นลงเล็กน้อย ม้าชนิดนี้รับ น้ำหนักได้ดี มีความอดทนและขี่สบาย
               - ม้าหลังแอ่น ม้าที่มีลักษณะรูปหลังแอ่นเมื่อบรรทุกของหรือรับน้ำหนักคนขี่จะทำให้หลัง แอ่นมากขึ้น ม้าชนิดนี้จะรับน้ำหนักมากไม่ได้ แต่ใช้ขี่ได้เรียบสบาย
     ๘. ส่วนก้นหรือส่วนท้ายของม้า ม้าที่มีก้นหนาใหญ่ จะเป็นม้าที่มีกำลังมาก แข็งแรงและ วิ่งได้เร็ว
     ๙. หาง มีประโยชน์สำหรับป้องกันยุงและแมลง มารบกวน ฉะนั้นจึงไม่ควรตัดหางม้าให้สั้นเกินไป หางม้ายังบอกตระกูลของม้าได้ โดยดูตำแหน่ง การติดของมัน หางติดสูง คือตำแหน่งของหางจะ ติดได้ระดับเดียวกันกับก้นของม้า แสดงว่าเป็น ม้าตระกูลดี หางติดต่ำหรือหางจุกตูด เป็นม้า  ตระกูลไม่ดีไม่สวยงาม หางติดปานกลาง  แสดงว่าเป็นม้าตระกูลพอใช้ได้
    ๑๐. หน้าอก เป็นเครื่องแสดงให้ทราบว่า ม้านั้น แข็งแรงหรือไม่ แบ่งออก เป็น
              - ม้าอกราชสีห์ คือ ม้าที่มีหน้าอกกว้าง มี กล้ามเนื้อมาก และกล้ามเนื้อนูนเป็นก้อนทั้งสองข้าง แสดงว่าเป็นม้าที่มีกำลังแข็งแรง มีความอดทนดี
              - ม้าอกไก่ คือ ม้าที่มีหน้าอกแคบ กล้าม เนื้อน้อยและอกนูนเป็นสันลงมา ตรงกลางดู คล้ายอกไก่ เป็นม้าที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก
              - ม้าอกแคบหรืออกห่อ คือ ม้าที่มีกล้ามเนื้ออกน้อย เวลายืนขาหน้าจะชิดกันมาก แสดงว่าไม่แข็งแรงและไม่อดทน
    ๑๑. สวาบ สวาบของม้าธรรมดา มักจะกว้างราว ๑ ฝ่ามือ จึงจะนับว่าพอดี ถ้าสวาบกว้างกว่านี้ ส่วนมากนับว่าไม่แข็งแรง มักจะเป็นม้าเอวบาง หรือเอวอ่อน
     ๑๒. สะบัก ม้าที่มีสะบักยาว มักวิ่งได้เร็ว เนื่องจาก ม้าเหยียดขาไปข้างหน้าได้มาก ก้าวขาได้ยาว และเร็ว สะบักม้าที่ดีจะมีความยาวเท่ากับส่วนศีรษะ หรือถ้ายาวกว่าส่วนศีรษะยิ่งดี สะบักควรจะเอน ประมาณ ๕๐-๖๐ องศากับลำตัวจึงนับว่าดี
    ๑๓.  ขาหน้า ขาหน้าจะต้องไม่โก่งหรือแอ่น ขาทั้งคู่ควรจะตั้งตรง จึงจะเป็นม้าที่วิ่งได้ดี ม้าที่ปลายเท้าแคบ หรือยืนบิดปลายเท้า หรือยืนขาถ่าง มักจะวิ่งไม่เร็ว
               ส่วนประกอบของขาหน้าที่ควรพิจารณาได้แก่
               - โคนขา ควรจะมีกล้ามเนื้อแข็งแรง และ ค่อย  ๆ เรียวลงมาตามลำดับ และผิวหนังบาง เห็นเส้นเอ็นได้ชัดจึงจะดี
               - หน้าแข้ง ต้องเรียวเล็กลงตามลำดับ มีผิว หนังบาง ขนละเอียด ไม่ปุกปุยและหยาบกีบ ม้าที่มีกีบเล็กจะวิ่งได้เร็วกว่าม้าที่มีกีบใหญ่ กีบที่ดีจะต้องเรียบไม่เป็นลูกคลื่น หรือมีรอยแตกร้าว
    ๑๔. ขาหลัง เช่นเดียวกับขาหน้า คือ ตั้งได้พอเหมาะ ขาหลังทั้งสองต้องอยู่ห่างกันพอเหมาะ เวลาม้ายืนขาหลังต้องเอนเข้าข้างในตัวเล็กน้อยและ ข้อตาตุ่มของขาหลังโตกว่าข้อตาตุ่มของขาหน้าเล็กน้อย




    อ่านต่อ http://guru.sanook.com/encyclopedia/ม้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×