NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Just a ... | Tonojake

    ลำดับตอนที่ #3 : Just a sins

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.พ. 66


     

     

     

    OneShot Tonojake : Just a sins

    #Avatar #Towajake #Tonojake

     

    Waring : บาปมาก, Dirty talk, Sexually contents

    Note : ต่อจาก Just a crush และ Just a flirt (ทั้งสามOS สามารถแยกอ่านได้ค่ะ)

    Note II : เหมือนมีพล็อต แต่จริงๆแล้วไม่มี..

     


     

    เนย์ทิรีเคยได้ยินเจคสอนลูกๆ ของเรา

    ‘ผู้ที่มาจากฟ้า-- มนุษย์เห็นแก่ตัวที่สุดในจักรวาล’

     

    เจคเห็นสายตาที่โตโนวารีใช้มองตน

     

    แรกเริ่มในแววตามีเพียงประกายของความชื่นชม แต่แล้วสิ่งนั้นก็ปรากฏขึ้นกลางชั้นเรียนขี่ซูนัก สะเก็ดไฟที่เปล่งประกายเหมือนดอกไม้ไฟ เฉิดฉายให้เห็นแค่เสี้ยวนาทีก่อนเลือนหายไปกับอากาศ ใจเสน่หาที่เจ้าของซ่อนเร้นไว้อย่างรวดเร็ว นาวีอื่นอาจมองไม่ทัน แต่ไม่ใช่กับเจค -- ไม่ใช่กับมนุษย์

     

    เขาโยนหินถามทาง

     

    “หรือว่าทะเลาะกับโรนัล?”

     

    ทันเห็นคลื่นละอายไหวระลอก ก่อนโตโนวารีจะสยบมันด้วยการกะพริบตาเพียงครั้งเดียว โอโลเอทานเผ่าเม็ตคายีนาควบคุมตนเองได้ดีเยี่ยม ร่างสูงใหญ่ทอดมองเขาอย่างเป็นธรรมชาติ ส่งยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ เหมือนเมื่อครู่ไม่มีอะไรผิดปกติไปจากทุกวัน

     

    จะหาว่าโทรุคมัคโตยังไม่ทิ้งสันดานเห็นแก่ตัวของมนุษย์ก็ได้ แต่การตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเอาชีวิตรอด ความกลัวที่ไม่รู้ว่าจะถูกพรากครอบครัวไปอีกครั้งเมื่อไร เขาย่อมทำทุกวิถีทางเพื่อหาหลักประกันความปลอดภัยให้เนย์ทิรีกับพวกเด็กๆ

     

    ความรู้สึกสั่นไหวของโตโนวารีคือหลักประกันที่ว่า --- เจครู้ว่าต้องใช้มันอย่างไร

     

    สมองของนักรบผู้หนีจนหลังชนตรอกวิ่งเร็วจี๋ หางยาวสะบัดอย่างผู้ล่าล็อกเป้าหมายที่ต้องการ นิ้วเรียวยาวปัดปอยผมอีกฝ่ายไปด้านหลัง ลูบไล้เครื่องประดับ แสร้งแตะผิวเนื้อราวกับไม่ได้ตั้งใจ อ้อยอิ่งบนกล้ามเนื้อหนาแน่น แสดงภาษากายใกล้ชิดที่ไม่จำเป็น

     

    จะถูกขับไล่ ตีตราว่าเป็นคนบาปก็ช่าง เนย์ทิรีจะโกรธจะเกลียด ลูกๆ จะผิดหวัง...ก็เอาเถิด

     

    หากโตโนวารีปรารถนาเขา ก็จงคุ้มครองครอบครัวเขาให้ปลอดภัย

     

    เงื่อนไขการได้โทรุคมัคโตมีง่ายๆ แค่นี้เอง...

     

    .

    .

    .

     

    โตโนวารีได้แต่ถามตัวเอง ชีวิตมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

     

    จุดที่ไม่สนแล้วว่ากำลังทำบาปต่อคู่ครอง หรือแค่ระบายตัณหาทั่วไป ภรรยาเขาท้อง นางประสงค์ให้สามีระบายความต้องการกับคนอื่น ส่วนเขาแค่ต้องตาเจคเข้าพอดี นาวีป่าผู้ถือครองความหวังไว้ในดวงตา นักรบที่กล้าต่อกรกับเผ่ากำเนิดของตนเพื่อความถูกต้อง

     

    แค่ราคะ แค่ไม่ซาเฮย์ลูก็พอ

     

    บอกกล่าวเอวาเช่นนั้น แม้ทันทีที่ริมฝีปากประกบกันเป็นครั้งแรก กระแสลมร้อนผ่าวจะพัดกระจายไปทั้งใบหน้า หัวใจของมหาสมุทรเต้นดังสนั่น

     

    โตโนวารีคำรามต่ำ สบถยืนยันซ้ำต่อเอวา

     

    ราคะ!

     

    แค่ราคะ แค่ราคะ

     

    ไม่ต้องการซาเฮย์ลู--

     

    แตะลิ้นที่กลีบปากล่าง กัดแล้วดึงรั้งแผ่วเบา อ้อนวอนเจคให้จูบตอบอย่างไร้เสียง แต่ฝ่ายนั้นนิ่งจนเขาพรั่นใจ

     

    อดทนรออย่างกล้ำกลืน เคลียไล้ริมฝีปากบนอวัยวะเดียวกัน อ้อยอิ่งราวกับกำลังภาวนา

     

    หากนี่คือการปฏิเสธ...

     

    แต่แล้วลิ้นเล็กๆ ก็ตวัดตอบสนอง เขารีบเกี่ยวรับแล้วดูดดึงทันที สัญชาตญาณสั่นสะเทือนด้วยความตื่นเต้นยินดีสุดขีด

     

    เอวา

     

    โอ้ องค์เอวา..

     

    รสจูบจากโทรุคมัคโตหวานรัญจวนเกินไป ฉุดผู้ครองมหาสมุทรให้จมดิ่งอยู่กับลมหายใจที่รินรด คล้ายหลงทางอยู่กลางป่าเขา ร่อนเร่ยาวนานกว่าจะเจอแหล่งน้ำ เขาดื่มมันอย่างกระหาย ฉกฉวยเอาแต่ใจอยู่นาน ก่อนหัวไหล่จะถูกทุบ โตโนวารีถอนจูบอย่างช่วยไม่ได้

     

    ความจุปอดของนาวีป่าช่างน้อยเหลือเกิน

     

    “นี่--นี่..คือสิ่งที่เจ้าคิดเวลาอยู่ใกล้ข้าหรือ?”

     

    เจคฉวยโอกาสช่วงพักหายใจถามด้วยเสียงสั่นๆ โตโนวารียิ้มมุมปาก กดจูบซ้ำที่ริมฝีปากบวมเจ่อ

     

    “ใช่”

     

    “อืมม-” นาวีป่าครางต่ำ สั่นและแหบ เสียงที่ทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งกระดูกสันหลัง

     

    “แล้วพี่ท่านอยากทำสิ่งใดกับข้าอีก”

     

    ความใคร่เพิ่มพูนจากสรรพนามที่ถูกเปลี่ยน โตโนวารีพรมจูบจากสันกรามต่อเนื่องถึงลาดไหล่ ลูบไล้ร่างที่มีมัดกล้ามแต่เนื้อกลับนุ่มนิ่ม เอ่ยตอบด้วยเสียงที่แหบต่ำไม่แพ้กัน

     

    “พี่จะกดเจ้าลงกับพื้น แยกสองขานี้ออก เติมเต็มรูเจ้าด้วยตัวตนของพี่ สอดใส่รุนแรงไม่ต่างจากสัตว์--”

     

    สองมือสอดขยุ้มต้นขาด้านใน แรงจนนาวีคนเก่งสะดุ้ง หลุดขู่ฟ่อ

     

    โตโนวารีกดจูบเรียกขวัญลงข้างขมับ กิริยาอ่อนโยนและนุ่มนวลต่างจากนิ้วที่เกลี่ยสะดือบุ๋ม ลูบวนท้องน้อยด้วยสัมผัสวาบหวิว

     

    “กระแทกมันเข้าไปจนกว่าเจ้าจะสลบ หรือทำจนกว่าร่างกายนี้จะฉ่ำแฉะเพียงเพราะนึกถึงพี่...”

     

    เจคตัวสั่น ลมหายใจเริ่มถี่กระชั้น “ทำกับข้าเสมือนเป็นตัวเมีย?”

     

    เขาหัวเราะ

     

    “เปลี่ยนเจ้าเป็นตัวเมียของพี่ต่างหาก”

     

    .

    .

    .

     

    อิกรานร่อนลงเกาะที่ห่างไกล โตโนวารีดึงเขาเข้าไปในถ้ำลับหลังม่านน้ำตก ผนังหินภายในส่องแสงอ่อนๆ เดาจากของใช้ ถ้ำนี้คงเป็นถ้ำส่วนตัวของอีกฝ่าย

     

    เจคคิดว่าเราจะจูบกันต่อ แต่โตโนวารีทำให้เขาแปลกใจด้วยการปล่อยมือหนี เดินนำหน้าทิ้งระยะห่างหนึ่งก้าว ก่อนหมุนตัวกลับมายืนประจันหน้ากันแล้วส่งมือข้างหนึ่งออกมาอีกครั้ง

     

    เขาเลิกคิ้ว ก้มมองพื้นถ้ำที่เรียบๆ ที่ไม่น่าเดินสะดุด ย้อนขึ้นมองฝ่ามือใหญ่ในลักษณะแบมือขอ...

     

    อะไร?

     

    เอียงคออย่างมึนงง ไม่เข้าใจว่าโตโนวารีกำลังขออะไรจากเขา ต้องโทษริมฝีปากชวนคลั่งนั่นด้วยส่วนหนึ่ง อีกฝ่ายจูบเขาจนสมองเบลอไปหมด ตอนนี้จะให้คิดอะไรตามก็ไม่ทันแล้ว

     

    “เจค มานี่สิ”

     

    มองยิ้มของโตโนวารีแล้วเหมือนถูกความหวานซึ้งพรากสติไป ร่างกายเขาขยับไปเองเหมือนถูกเชิด เจคยกมือขึ้น เตรียมวางบนฝ่ามืออีกฝ่าย จังหวะนั้นเองที่มองเลยไปด้านหลัง เสื่อสานและหมอนถัก

     

    เขาชักมือกลับ ขยับเท้าถอยหลังอย่างลังเล

     

    “มาเจค..”

     

    น้ำเสียงที่โตโนวารีใช้เรียกชื่อเขานั้นนุ่มนวลแฝงไว้ด้วยอำนาจสมตำแหน่งโอโลเอทาน ยามนี้อีกฝ่ายจ้องมองเขาอย่างเปิดเผย แก้วตาสีน้ำทะเลลุกไหม้ด้วยเพลิงปรารถนาเด่นชัด ราวกับต้องการแผดเผาเขาให้ตายคาอก

     

    “ในเมื่อเจ้าไม่ได้ต้องการแบบเดียวกัน เช่นนั้นเรากลับกันดีกว่า”

     

    ...แต่มันก็ยังนุ่มนวล

     

    เจคฉุกคิดขึ้นมาเป็นครั้งแรกหลังถูกขโมยจูบกลางเวหา บาปที่เขากำลังทำอยู่ เป็นการทำเพื่อลูกเมียจริงๆ หรือแค่ใช้เป็นข้ออ้างสนองความต้องการอันเห็นแก่ตัวกันแน่?

     

    เขาขยับร่างกายตัวเองอีกครั้ง ก้าวขาประชิดร่างสูงใหญ่ เขย่งปลายเท้ากดจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากอิ่ม ปฏิกิริยาของโตโนวารีเป็นอะไรที่น่าเอ็นดู เจคเห็นอีกฝ่ายสูดหายใจแล้วกลั้นลมกะทันหัน ใบหูลู่เล็กน้อย ขณะสบตากลับอย่างอดกลั้น

     

    “โทรุคมัคโตไม่จำเป็นต้องเอาใจข้า”

     

    “ข้าเปล่า”

     

    กระซิบปฏิเสธ จับมือใหญ่ขึ้นแนบแก้ม ถูไถอย่างเอาใจ โอโลเอทานขมวดคิ้ว นัยน์ตาสีอ่อนมองนิ่ง

     

    “ถ้าพี่ท่านคิดมาก ก็คิดเสียว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนของเรา” จูบเบาๆ กลางฝ่ามือ “คุ้มครองครอบครัวข้าเหมือนที่ท่านคุ้มครองคนในเผ่า ให้ที่พักพิงแก่พวกเขาแม้ในยามที่ข้าจากไป...แล้วจะเปลี่ยนข้าเป็นตัวเมียแบบไหนก็แล้วแต่ท่านเลย”

     

    โตโนวารีหัวเราะ แปลกที่มันฟังดูขื่นขม

     

    “จากไป? เจค ซัลลี่ เจ้าคิดว่าตัวเจ้าจะตายในสงครามนี้หรือ”

     

    เขายักไหล่ “ข้าแค่คิดถึงทุกความเป็นไปได้”

     

    ใช้เวลานานทีเดียวกว่าโตโนวารีจะตอบกลับ “ต่อให้เจ้าตายไปแล้วเม็ตคายีนาก็ยังต้องให้ที่พักพิงแก่พวกเขา...ข้อนี้ข้าค่อนข้างเสียเปรียบนะ”

     

    “ไม่ใช่ตลอดไปหรอก...เนย์ทิรีของข้ามีจิตใจที่แข็งแกร่ง แต่นางสูญเสียมามากเกินไป--”

     

    เมื่อเอ่ยคำว่า ‘เนย์ทิรีของข้า’ รอยยิ้มของโตโนวารีกลายเป็นอะไรที่มองแล้วแสลงนัยน์ตา เจคพยายามไม่ใส่ใจอาการเจ็บแปลบที่ตีขึ้นอกซ้าย กล่าวต่ออย่างมีเหตุผล

     

    “ข้าอยากให้นางมีเวลาตั้งหลัก แค่พอได้พักหายใจก่อนเดินทางต่อก็ได้ ไม่ใช่ถูกบีบคั้นให้เข้มแข็งทันทีที่ข้าจากไป”

     

    โตโนวารียิ้มแล้วมองกันเงียบๆ ราวกับกำลังพิจารณาข้อเสนอ เขาเลยใช้โอกาสนี้ไล่จูบลงมาถึงข้อมือ เสร็จแล้วย้อนกลับไปที่เรียวนิ้ว ก่อนดึงมือนั้นวางทาบบนลำคอของตัวเอง

     

    มือใหญ่กำรอบคอเขาทันที นิ้วโป้งกดเบาๆ ตรงตำแหน่งของหลอดลม

     

    “เจ้าก็ขี้ยั่วเหลือเกิน”

     

    ต่อว่าเสร็จก็ดึงเขาไปจูบ เป็นอันว่าข้อตกลงสัมฤทธิผล

     

    เจคไม่รู้ว่านาวีอื่นร่วมรักกันยังไง ที่แน่ๆ กับภรรยาไม่ใช่แบบนี้ เนย์ทิรีปฏิเสธที่จะถอดเครื่องประดับคอและต้นแขนออก -- สิ่งที่ใช้บอกถึงลำดับและสถานะในเผ่า ในขณะที่เขาอยากถอดให้หมด

     

    เปลือยเปล่า ให้มีแต่ตัวไม่ต่างจากทารกแรกเกิด

     

    ร่วมรักกันโดยไม่ต้องคิดถึงสถานภาพทางสังคม ไม่ต้องพะวงถึงหัวโขน หรืออะไรที่แบกอยู่บนบ่าทั้งนั้น พูดคุยด้วยภาษากาย เชื่อมต่อด้วยสัญชาตญาณใคร่ เคลื่อนไหวให้เป็นราคะบริสุทธิ์

     

    เขาวนนิ้วโป้งกับข้อมือหนา ลากฝ่ามือขึ้นตามลำแขนแกร่ง จัดการปลดเครื่องประดับยศทั้งหมดของโอโลเอทานด้วยตัวเอง

     

    ทั้งหมดที่หมายความว่าทั้งหมดจริงๆ

     

    ขนนกกับเปียถักสีส้มแบกระจายบนพื้น ตามด้วยสายหนังที่คาดบนอก มีดสั้นและผ้านุ่ง แม้กระทั่งสร้อยที่ทำจากเขี้ยวโทคูน กำไลประดับต้นแขนก็ไม่เว้น

     

    “นึกว่าจะห้ามข้าเสียอีก”

     

    “ตอนนี้บนเกาะมีแค่เรา...ข้าค่อยห้ามเจ้าคราวหลังก็แล้วกัน”

     

    โตโนวารีเองก็ช่างตามใจ,

     

    .

    .

    .

     

    พวกเขานัวเนียกันตั้งแต่ปากถ้ำยันกลิ้งลงบนเสื่อ โทรุคมัคโตทอดกายอยู่ใต้ร่างผู้นำเผ่าเม็ตคายีนา ขาเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นสีกับข้างลำตัวหนา โตโนวารีตอบรับการกระทำนั้นด้วยการสอดท่อนแขนเกี่ยวที่ใต้เข่า ปรับองศาตัวให้ส่วนอ่อนไหวแนบชิดสนิทสนม ขยับสะโพกเสียดสีอย่างมีชั้นเชิง

     

    เจคกวาดมองทั่วแผงอกกำยำ เส้นสักลายที่ตวัดประดับบนผิวมีความน่าเกรงขามพอๆ กับชวนให้รุ่มร้อนไปทั้งตัว เขาเลื่อนสายตาลง ช่วงเอวสอบเคลื่อนไหวราวกับทะเลคลื่น แก่นกายร้อนถูไถบดเบียด กระตุ้นประสาทให้อ่อนไหวเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต เจคจิกเล็บลงกับไหล่หนา เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง

     

    โตโนวารีเชยคางเขาขึ้นรับจูบ ไล่ต้อนชิงลมหายใจต่อเนื่อง เป็นอีกครั้งที่ต้องสะบัดหน้าหนีเพื่อโกยอากาศเข้าปอด ได้ยินอีกคนหัวเราะแผ่วๆ แล้วรู้สึกเสียศักดิ์ศรีจนตีหางกับพื้น

     

    “ไม่เอาน่า อย่างอนพี่เลย”

     

    กระซิบเสียงทุ้มผสมเคล้ากับลมหายใจหนักพานให้รู้สึกมวนท้อง โตโนวารีง้อเขาด้วยสัมผัสร้อนชื้นที่ใบหู พรมจูบซ้ำไปมาแล้วลากต่ำ

     

    ไต่ลงมาถึงคอ--

     

    ม่านตาสีอำพันหดวูบ ใบหูบิดลู่ สองมือดันแผ่นอกหนา หางเรียวกระทบพื้นถ้ำแรงขึ้นอีก

     

    “ไม่เอา-”

     

    “พี่ไม่ได้จะกัด”

     

    โตโนวารีครูดฟันเขี้ยวตามรูปคอ เลียวนผิวเนื้อเกลี้ยงๆ เหมือนกำลังชิมรส “จะไม่กัด จนกว่าเจ้าจะอนุญาต”

     

    “ไม่ใช่เรื่องกัดหรือไม่กัด..” แอ่นอกเสนอแทนลำคอที่ถูกรุกราน

     

    โอโลเอทานรับข้อเสนอ จัดการครอบริมฝีปากบนยอดอกแล้วดูดแรงๆ สลับใช้ปลายลิ้นสะกิดเขี่ย นาวีใต้ร่างบิดตัว ครางกระเส่า

     

    “อ่า พ พี่...พี่ จะกัดข้าก็ได้ แต่ห้ามทิ้งรอย”

     

    โตโนวารีหัวเราะ เลียยอดอกชูชัน จูบแล้วงับลงไปเบาๆ

     

    “ให้พี่จูบเจ้าต่อนะ”

     

    “เป็นพวกชอบรักไปจูบไปรึไง-” โตโนวารียิ้มไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไต่จูบกลับขึ้นไป จัดการกลืนคำบ่นว่า

     

    เจคครางอู้อี้ ก่อนยอมเปิดรับลิ้นร้อนเข้ามาท่องเที่ยวในโพรงปาก สองลิ้นเกี่ยวตวัด แข่งกันแย่งชิงความเป็นผู้นำจนกายสีฟ้าเริ่มยวบยาม โตโนวารีดูดลิ้นของเขารุนแรงเหมือนกำลังดูดส่วนล่างที่โยกเสียดสีกันจนส่วนปลายปริ่มน้ำ

     

    แค่นั้นสติเขาก็เตลิด

     

    .

    .

    .

     

    เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเคล้ากับเสียงเสียดสีของเสื่อสาน

     

    “เจ-ค...มาเจค..”

     

    เสียงทุ้มกระซิบเรียกแผ่วเบาข้างหู แตกพร่าเจือความปรารถนาข้นคลั่ก ฟังไม่เหมือนเสียงของโตโนวารีแต่ก็ยังเป็นอีกฝ่าย เขาครางฮือ สองขาเกี่ยวอยู่กับเอวสอบ เหนี่ยวรับแก่นกายของโอโลเอทานที่กระแทกเข้ามาไม่หยุด ความเสียดเสียวพลุ่งพล่านไปกับเลือดในกาย ไม่เหลือสติพอจะตอบรับสักคำ

     

    ร่างสูงใหญ่ยันตัวขึ้นเหนือร่าง เจคไม่แน่ใจว่าตัวเองสบถด้วยความรู้สึกแบบไหนตอนเหนี่ยวคอชาวทะเลให้กลับลงมาหา

     

    โตโนวารีเอนร่างกลับมาทาบทับอย่างว่าง่าย จูบร้อนๆ บดลงมาอีกครา แจกจ่ายทั่วผิวหน้า เน้นย้ำบนเปลือกตาและโหนกแก้ม นุ่มนวลจนหัวใจลุกไหม้

     

    โอโลเอทานเผ่าเม็ตคายีนาเป็นพวกชอบทำรักไปจูบไป คล้ายวานิลลาเซ็กซ์แต่ไม่ใช่ซะทีเดียว

     

    หวานละมุนละไม ขณะเดียวกันก็ดุดันอย่างเผ็ดร้อน

     

    “..วารี-...อึ่ก..ดี!”

     

    ครวญครางใต้รอยจูบ เอวถูกอีกฝ่ายจับกระชับ ก่อนกระชากเข้าใกล้ให้ท่อนกายร้อนแทงเข้าลึกกว่าเดิม

     

    “อ๊ะ!!”

     

    เจคผวาจนเรือนกายแอ่นโค้ง ดวงตาเหลือกสูง ความรุ่มร้อนแผ่ซ่าน หน้าท้องนูนออกมาเป็นกระเปาะ ก่อนโตโนวารีจะดันผิวท้องไม่ยั้ง ความเสียวซ่านโหมเข้าร่างระรัว

     

    “อื้อ!”

     

    เจคสะท้านเทิ้มไปทั้งร่าง ไฟราคะลุกลามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เผาผลาญจิตวิญญาณให้มอดไหม้

     

    “..มาเจค...โทรุค-”

     

    กระซิบเรียกโดยที่ริมฝีปากยังเบียดชิด จูบกระชากลมหายใจดำเนินต่อพร้อมช่วงล่างที่โยกเข้าออกไม่บันยะบันยัง กระแทกโดนจุดกระสันซ้ำๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสักนิด

     

    แล้วเขาจะเอาสติที่ไหนไปตอบรับกัน--

     

     

     

     

     

    ****

     

    คุยกับคุณความรัก ::

    : สรุปว่าพ่อเจคเป็นตัวเมียของป๊าโทยังคะ (/ยื่นไมค์จ่อ)

    T : (ยิ้มหวาน+ดันไมค์ออกนิ่งๆ)

    J : (ส่งนิ้วกลาง+นอนคว่ำให้แม่เนย์ทิรีแปะกอเอี๊ยะ)

     

    28/01/2023

    เหมือนไม่ได้เขียนบทอัศจรรย์ตรงๆ แบบนี้นานเป็นปีแล้วยังไงไม่รู้ค่ะ (ฮา) สารภาพว่าใช้เวลาเคาะสนิมนานมาก ดังนั้นถ้าอ่านแล้วสะดุดตรงไหนขอให้ปล่อยผ่าน อย่าเก็บเป็นอารมณ์นะคะ (ริ้วรอยขึ้นก่อนวัยไม่รู้ด้วยน้า) ปล่อยใจจอยๆ ค่า

    ปล. ยังไม่ได้ตรวจคำผิด

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×