ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประตูที่ปิดตาย (THE DOOR IT’S LOCK)

    ลำดับตอนที่ #5 : แมนชั่นสยองขวัญ

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 50


    ขณะที่วิลเฮล์ม ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลวัยยี่สิบสามปี กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงห้าฟุต สีขาวสะอาดก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเนื่องจากมีเสียงรบกวนการนอนของเขา วิลเฮล์มเงี่ยหูฟังเสียงเหมือนกับมีใครมาเปิดฟักบัวในห้องน้ำทิ้งไว้

     

    เขาออกจากห้องนอนเสียงน้ำไหลก็เงียบหายไปแล้ว แต่พอเขาเปิดประตูห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนของเขาวิลเฮล์มก็ต้องถึงกับเข่าอ่อน กลิ่นเน่าเหม็นปะทะเข้ากับโสตประสาทรับรู้กลิ่นของวิลเฮล์ม และสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของชายหนุ่มตอนนี้คือ เลือดที่ออกจากฝักบัวสาดกระเซ็นเต็มอ่างอาบน้ำ มันทำให้เขานึกถึง ห้องประหารในเรือนจำกลางน้ำที่น่าขยะแขยงอีกครั้ง

         

                แต่ที่ผนังห้องน้ำอุโมงค์ที่เคยมีตอนนี้มันใหญ่ขึ้นและเรียบขึ้นอีกทั้งมีลายอักขระจาง ๆ อยู่รอบ ๆ ปากอุโมงค์มันคล้าย ๆ กับอุโมงค์ในมิติอื่น ๆ ที่เขาเคยเข้าไป แต่อักขระจะชัดเจนกว่านี้ วิลเฮล์มออกไปหยิบปืนที่ลังเก็บของก่อนที่จะเข้าไปในอุโมงค์ เมื่อเข้าไปในอุโมงค์ได้สักพักก็รู้สึกถึงแรงกระชากมหาศาล  พอรู้สึกตัวก็มานอนแผ่หลาบนพื้นแล้ว พอรู้สึกตัวเขาก็หันไปมองรอบ ๆ ตัว นี่มันแมนชั่นเรานี่...

     

    แต่มันไม่เหมือนซะที่เดียว เพราะตอนนี้แมนชั่นที่เขาคุ้นเคยแทบไม่มีเค้าเดิมเหลือ ผนังสีขาวสะอาดถูกย้อมด้วยเลือดแดงฉานบางช่วงก็เป็นลิ่มเลือดด้วย พื้นบางช่วงซีเมนต์ก็กระทอะออกจนเผยให้เห็นเหล็กเส้น วิลเฮล์มเห็นเด็กชายในเสื้อลายผมสั้นสีน้ำตาลคุ้นตา ยืนเคาะประตูห้อง 203 แต่พอมองให้ดี ๆ กลายเป็นชายหนุ่มร่างสูงรุ่นราวคราวเดียวกันกับวิลเฮล์มผมสีน้ำตาลยาวกลางหลัง สวมเสื้อโอเวอร์โค๊ตสีน้ำเงิน เขายืนเคาะได้สักพักก็ละจากประตูห้อง203 แล้วเดินจากไปโดยไม่แสดงท่าทางรับรู้การมีตัวตนของวิลเฮล์ม

     

                    ผู้ชายคนนั้นมาทำอะไรที่นี่วิลเฮล์มคิดขณะเดินตรงไปยังห้อง 203 เขาลองขยับลูกบิดประตูปรากฏว่ามันถูกล็อคอยู่ เขาเดินกลับมายังห้อง 202 ที่เป็นห้องของเขาผนังรอบ ๆ ประตูเป็นสีขาวเหมือนเดิม และเป็นห้องเดียวที่ไม่ถูกทาด้วยสีแดงของเลือด และประตูห้องก็ถูกล็อคเช่นกัน เขาลองไปเปิดประตูห้อง201 ดูปรากฏว่าประตูไม่ได้ล็อค ภายในห้องดูเก่าเหมือนถูกทิ้งร้างมานาน มีหนังสือ หล่นกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด ภายในห้องมีเครื่องใช้ไม่มาก กลางห้องมีโตะทำงานสีขาวเก่า ๆ มีสมุดบันทึกเล่มบาง ๆ วางอยู่ วิลเฮล์มนั่งลงเก้าอีทำงานมีที่พิงหลังสีเทาหมนเพื่ออ่านบันทึก

     

                    สองสามเดือนที่แล้ว เกอเธ่ เบรนทาโน่ ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่แมนชั่นเขาอยู่ห้องข้าง ๆ และเขาได้ให้หนังสือหายากมาก ๆ แนวปลุกใจเสือป่าที่ถูกห้ามขาย แต่เท่าที่ผมดูภายนอกเขาดูไม่ใช่คนลามกเลย ออกแนวบ้างานด้วยซ้ำ และเขาก็บอกอีกว่าถ้ามีอะไรดี ๆ อีกเขาก็จะเอามาแบ่งปันให้ผม

     

                    เขาบอกผมว่าเขาเป็นนักข่าวและยังเป็นนักสืบอิสระอีกด้วย พอรู้จักเขาได้สักพักผมก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างของเขาที่ผมเองก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร.. เขาขังตัวเองอยู่ในห้องหลายวันและบางครั้งผมก็ได้ยินเสียงน่ากลัว ๆ ดังมาจากห้องของเขา

     

    วันที่1 กรกฎาคม วิลเฮล์มละออกจากบันทึก มายังกระดาษสีแดงไร้ตัวอักษรใด ๆ สีมันเหมือนเศษกระดาษที่ถูกสอดเข้าไปในห้องของเขาแต่ตอนนี้เขายังไม่สามารถอ่านมันได้ และเขาคิดว่าถ้าเอามันกลับไปที่ห้องเขาอาจจะอ่านมันออกก็ได้

     

    ว่าแล้ววิลเฮล์มก็จัดการพับกระดาษสีแดงเข้ากระเป๋าเสื้อและออกเดินสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง จนมาถึงห้องนอน ที่มีหนังสือหล่นอยู่ทั่วห้องเช่นกัน แต่ที่ผนังมีรูปพื้นสีแดงจัดสองรูป วิลเฮล์มยืนพิจารณารูปแรกดูดี ๆ หนุ่มวัยรุ่นในภาพคงเป็นผู้ดูแลแมนชั่นคนปัจจุบันซึ่งมีอายุมากแล้ว เขารู้สึกว่าภาพนี้นูนเหมือนมีอะไรอยู่ข้างหลังภาพ

     

    วิลเฮล์มใช้นิ้วลองกด ๆ ดูเบา ๆ มันแข็ง ๆ ชายหนุ่มลงมือแกะภาพออกจากผนังด้วยความระมัดระวังกลัวภาพจะขาด เขาพบกุญแจสองดอกถูกซ่อนอยู่ ที่พวกกุญแจมีปากกาเมจิกเขียนว่า ห้องคนดูแลแมนชั่น ชายหนุ่มคิดถ้าเขาหากุญแจห้อง203ได้เขาอาจจะรู้ได้ว่าผู้ชายผมยาวร่างสูงมาทำอะไรที่นี่ เขามองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้งเขาสะดุดตาเข้ากับบันทึกเล่มหนาถูกเปิดค้างอยู่บนหมอน

     

    ผมกำลังสืบเรื่องสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่อยู่ใกล้ ๆ กับเมืองลินเดอร์ฮอฟ แต่มันมีความไม่ชอบมาพากลบางอย่างสถานเลี้ยงเด็กแห่งนี้ถูกร้องเรียนว่าเป็นที่ๆคุมขังเหล่าเด็ก ๆ ที่ถูกลักพาตัวมาจากที่อื่น และนำมาล้างสมอง สถานที่นี้ได้รับการสนับสนุนจาก สมาคมบ้านแห่งความอวยพรเมืองลินเดอร์ฮอฟ ภาพลักษณ์ภายนอกของสมาคมนี้คือการทำบุญช่วยเหลือสังคม โดยให้ความอุปการะเด็ก ๆ ที่ยากจนไร้บ้าน

     

    เบื้องหลังช่างต่ำช้า มันคือองค์กรอุบาทว์ที่สอนศาสนาผิด ๆ ให้เด็ก ๆ เชื่อตามหลักศาสนาที่ขัดต่อความเป็นจริง

     

    คุณมาทาร์ ที่อาศัยอยู่ใกล้ ๆ กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเธอเล่าให้ผมฟังว่า บางคืนฉันก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ที่วังเวงน่ากลัว และมีเสียงเด็กร้องไห้อย่างเสียขวัญ ผมก็ไปร้องเรียนที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่พวกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจคำพูดผมเลย และเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น พวกผู้สื่อข่าวที่มาทำข่าวที่นี่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือใดๆ ระหว่างที่ผมกำลังสืบดูเรื่องนี้อยู่ก็ต้องพบกับอุปสรรค์เพราะไม่มีใครยอมเล่าให้ผมฟังมากนักเกี่ยวกับสถานที่นี้ พิธีกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามีข่าววงในเล็ดลอดออกมาว่ามีคนบงการอยู่เบื้องหลัง

     

    มันเป็นลัทธิที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับเมืองลินเดอร์ฮอฟ และการบูชาจะเพิ่มความเลื่อมใสมากขึ้นถ้าใช่สิ่งที่มาบูชายันต์ ที่ได้รับการเลือกสรรมาอย่างดี จะมีคณะกรรมการทำการเลือกคนสำคัญที่สุดที่มีด้านมืดยิ่งมากยิ่งดี

     

    ผมจะสืบเรื่องนี้ต่อไปและผมเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง และผมอยากจะช่วยเด็ก ๆ ที่น่าสงสารให้กลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงเสียที

     

    เกอเธ่ เบรนทาโน่ วิลเฮล์มเคยไปที่นั่นมาแล้ว สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ห้องใต้ดินมีโต๊ะและอุปกรณ์สำหรับใช้ในศาสนาจริง ๆ และคงมีเรื่องน่ากลัว ๆ เกิดขึ้นที่นั่นแน่

     

    วิลเฮล์มต้องการไปดูที่ห้อง203ว่ามีอะไรกันแน่ แต่ก่อนอื่นต้องมีกุญแจที่อยู่ในห้องของผู้ดูแลแมนชั่น เขาเดินมาถึงทางลงบันได้ก็พบกับชายผมยาวนั่งอยู่ที่ขั้นบันได ในมือถือตุ๊กตาผ้าเด็กผู้หญิงขนาดเท่าฝ่ามือ วิลเฮล์มกลัว ๆ กล้า ๆ เดินลงบันไปเรื่อย ๆ พอมาถึงขั้นที่ผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่ จู่ ๆ เขาก็ยื่นตุ๊กตาตัวนั้นมาที่วิลเฮล์ม วิลเฮล์มมองหน้าเขาด้วยความไม่เข้าใจ

     

    ผมเอามาจากโฮลี่เมื่อนานมาแล้ว เสียงทุ้มนุ่มของชายหนุ่มผมยาวดังขึ้น

     

    ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก และเดินจูงมือมากับแม่ของเธออย่างมีความสุข สีหน้าของเขาเหมือนลำลึกความหลังส่วนวิลเฮล์มก็เกิดปากหนักขึ้นมาเขาไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่เขาพูดอะไรไม่ออกเลยได้แต่ยืนเงียบทั้ง ๆ ที่มีเรื่องจะถามเขาตั้งหลายข้อ เช่นว่าคุณจะมาพูดเรื่องนี้กับผมทำไม?’ แต่สุดท้ายผู้ชายคนนั้นก็พูดขึ้นมาว่า

     

    นี่...ผมให้คุณ.. เขาวางตุ๊กตาผ้าตัวนั้นลงตรงหน้าวิลเฮล์ม หรือว่าที่เขามาเคาะห้อง 203 ก็เพื่อจะเอาตุ๊กตาที่เอามาจากโฮลี่เมื่อตอนยังเป็นเด็กมาคืนเธอ วิลเฮล์มก้มลงหยิบตุ๊กตาผ้าขึ้นมาเขาคงต้องการให้เอาไปคืนให้แทน วิลเฮล์มเดินลงไปตามทางจนถึงล็อบบี้ต้อนรับที่ชั้นหนึ่ง เป็นพื้นหินอ่อนลายเลขาคณิตหลากสีบางส่วนหลุดหายเผยให้เห็นเหล็กเส้นที่ปูรองพื้น ขณะที่วิลเฮล์มกำลังจะไปห้องของผู้ดูแลแมนชั่น เขาได้ยินเสียงแหวกอากาศเหมือนมีของขนาดใหญ่ตกลงมาพอเงยหน้าก็เห็นร่างผู้ชายตกลงมาจากชั้นสี่จนถึงพื้น

     

    โอ๊ย!!!! ให้ตายสิ...เกิดอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย!” ชายคนนั้นอุทานลั่นหลังจากร่างเขากระทบกับพื้นก่อนที่จะดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเขาก็พยายามลุกขึ้นยืน โดยมีวิลเฮล์มยืนดูห่าง ๆ โดยไม่เข้าไปช่วยเพราะยังไม่แน่ใจว่าชายผู้นี้จะปลอดภัยกับเขาหรือเปล่า พอเขาเห็นวิลเฮล์มเขารีบหยิบปืนลูกโม่ของเขาเล็งมาที่ชายหนุ่มทันที วิลเฮล์มขาแข็งยืนเกร็งอยู่กับที่ทันทีในใจก็คิดว่าเขารู้จักผู้ชายคนนี้ เขาอยู่แมนชั่นเดียวกันกับเขานี่! วิลเฮล์มยกมือสองข้างให้เห็นว่าเขาไม่มีอาวุธ สายตาทั้งสองสบกันเพียงพักเดียว ชายที่อยู่ในชุดทำงานอ๊อฟฟิตก็ลดปืนลง

     

    นายเป็นคนจริง ๆ เสียด้วยสิ..คุณคล้าย ๆ กับผู้ชายที่อยู่ห้องฝั่งตรงข้ามกับผม แกลลิค มาแรส์ ชายวัยสี่สิบกว่า ๆ ผมสีเทาเอ่ยพลางเก็บปืน พลางมองวิลเฮล์มอย่างพิจารณา

     

    ใช่ ๆ นั่นผมเอง!! ผมชื่อวิลเฮล์ม ชายหนุ่มรู้สึกดีใจขึ้นมาทันทีที่คนในแมนชั่นเดียวกันกับเขาสามารถมาที่นี่ได้เหมือนกัน จากที่ยืนห่างกันเป็นเมตรวิลเฮล์มเดินเขามาหาหมายจะจับมือทักทายตามธรรมเนียม แต่แกลลิคจองมองเขาอย่างระวังตัว

     

    ผมแกลลิค มาแรส์ อยู่ห้อง207” เขามองมายังมือที่ยื่นมาทักทายของวิลเฮล์มแต่ก็ไม่จับมือด้วยชายหนุ่มจึงต้องชักมือกลับอย่างเสียหน้า แกลลิคมองไปรอบ ๆ ล็อบบี้ที่ตอนนี้ผนังเต็มไปด้วยคราบเลือดเกราะกรังไปทั่วอย่างไม่เข้าใจ

     

    เกิดอะไรขึ้นกับเราเนี่ย..ทั้งโพรงนั่นและก็เสียงแปลก ๆ ... เขามองมาทางวิลเฮล์มอย่างจับผิด

    แต่คุณก็อยู่ที่นี่ด้วย... แกลลิคเดินไปรอบ ๆ พลางลูบคางอย่างใช้ความคิดโดยมีวิลเฮล์มมองตาม

     

    ถ้าอย่างงั้นก็ต้องมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับแมนชั่นของเราแน่ๆ... วิลเฮล์มมองไปรอบ ๆ อย่างหาสิ่งผิดปกติอื่นนอกจากภาพลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไป

     

    มันต้องเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้ชายคนนั้นด้วย... แกลลิคกำลังนึกย้อนหลังไปถึงชายนักข่าวหัวล้านวัยไล่เลี่ยกันกับเขา แม้ว่าคนหัวล้านจะดูไม่น่าไว้ใจแต่กับชายคนนั้นมันต่างกัน เขากลับมีมนุษย์สัมพันธ์กับคนอื่นดีมากด้วยซ้ำไป

     

    คุณหมายถึงใครเหรอ?” เขาถามด้วยความอยากรู้ แกลลิคนึกก่อนจะตอบว่า

     

    ผู้ชายคนที่อยู่ห้อง202ก่อนคุณ...เขาเป็นนักข่าว...เขาหายตัวไปอย่างลึกลับ แกลลิคหันมามองหน้าวิลเฮล์ม เขาสบกับสายตาอยากรู้ของชายหนุ่มแกลลิคเลยเล่าต่อ

     

    เขาน่ะประสาทสุด ๆ นายรู้มัย? เขาขังตัวเองในห้องตัดขาดกับโลกภายนอกโดยสิ้นเชิงเลย วิลเฮล์มส่งสายตาขัดแย้งประมาณว่า เขาไม่ได้อยากทำอย่างนั้นหรอก แกลลิคจึงโบกมืออย่างไม่สนใจ

     

    จะยังไงก็ตาม...ผมต้องออกจากที่บ้า ๆ นี่ให้ได้คุณก็รู้นี่ว่าต้องทำยังไง แกลลิคเดินไปทางฝั่งซ้าย แมนชั่นที่นี่ถูกสร้างเป็นแบบตัวยู มีสี่ชั้นห้อง1-4 จะอยู่ฝั่งซ้าย ส่วน5-8 จะอยู่ด้านขวา สองด้านจะถูกแยกออกจากกันโดยมีประตูกั้น ส่วนตรงกลางเป็นบันไดวน

     

    เดี๋ยวก่อน!!” แกลลิคหยุดเดินเขาหันมามองหน้าวิลเฮล์มแว๊บเดียว

     

    ระวังตัวจากเด็กผู้ชายคนนั้นด้วย พูดจบแกลลิคก็เดินเข้าประตูฝั่งซ้ายไป วิลเฮล์มยืนทบทวนเรื่องราวอยู่สักพักก็นึกถึงเรื่องที่เขาจะทำต่อ เขาจะไปที่ห้องของผู้ดูแลแมนชั่นที่อยู่ฝั่งขวา

     

    หน้าห้อง105 มีป้ายสแตนเลสเขียนว่าห้องผู้ดูแล วิลเฮล์มใช้กุญแจที่เก็บมาจากห้อง201 ภายในห้องมีกล้องวงจรปิดและทีวีวงจรปิดติดอยู่ที่ผนัง เขาสำรวจภายในห้องพบพวงกุญแจของทุกห้องในแมนชั่น ที่ตู้หนังสือที่เปิดอ้าอยู่มีเศษกระดาษสีแดงสองแผ่นวางอยู่บนหนังสือที่วางระเกะระกะอยู่ในตู้ และก็ยังไม่สามารถอ่านได้วิลเฮล์มเก็บมันเข้ากระเป๋าเสื้อและหวังว่าถ้ากลับไปที่ห้องกระดาษพวกนี้จะต้องมีอักษรปรากฏ พอเก็บกระดาษดีแดงออกไปทำให้เห็นเศษกระดาษเล็ก ๆ มีลายมือเขียนอย่างเร่งรีบว่า

     

    คนที่เอากระดาษสีแดงมาให้คือ นางพยาบาลลีเดีย และมีบางส่วนอยู่กับแฟนหนุ่มของเธอที่ชื่อนิกกี้ เขาเดินไปรอบ ๆ ห้องจนถึงห้องนอน เขามองหาเบาะแสอื่นจนไปพบกับบันทึกส่วนตัวที่อยู่ใต้หมอน

    วันนี้มีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วห้องอย่างไม่มีสาเหตุ แต่ผมว่ามันต้องมาจากกล่องสีแดงที่เก็บเอาไว้มานานทั้ง ๆ ที่ควรจะเอาไปทิ้งเมื่อนานมาแล้ว

     

    จะว่าไปเหตุการณ์มันเกิดขึ้นมานานว่า30ปี มีคู่หนุ่มสาวมาเช่าอยู่ที่แมนชั่นนี้ แต่มาวันหนึ่งพวกเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยและทิ้งทารกเพศชายที่พึ่งคลอดเอาไว้เพียงลำพัง โชคดีที่ผมพบเด็กทันเวลา ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาทำแบบนี้ เป็นเพราะปัญหาทางการเงินหรือเรื่องความปลอดภัยในชีวิต

     

    และตอนนี้ผมกำลังย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องเดิม...เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ห้อง 203 และสายสะดือที่พบในห้อง...และผมยังเก็บมันเอาไว้..    วิลเฮล์มเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวที่ผ่านมาอย่างคราว ๆ เป็นความตั้งใจของใครคนหนึ่ง เด็กผู้ชายที่ถูกทิ้งแต่..เขาทำไปเพื่ออะไร คำตอบอาจได้จากกระดาษสีแดงพวกนี้ก็ได้ ก่อนอื่นเขาต้องหาส่วนที่เหลือก่อน วิลเฮล์มค้นทุกห้องในชั้นนี้และที่ห้อง 107 เขาพบชุดพยาบาลสีขาวเปื้อนเลือด ตกอยู่ในห้องน้ำ ที่ป้ายชื่อบนอกเสื้อเขียนว่า ลีเดีย เทอเมอร์ นี้เป็นห้องของนางพยาบาลคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับกระดาษสีแดงนี่ วิลเฮล์มคนทั่วห้องที่รกรุ่งรังเพื่อหาเบาะแสของแฟนหนุ่มของเธอแต่ก็ไม่พบอะไร เขาค้นที่ชั้นสองทั้งสองฝั่งก็ต้องพบกับความล้มเหลวเขาไม่เจอห้องของนิกกี้

     

    แต่เขาดันเจอดาบเหล็กที่มีดามจับสลักคำว่าดาบสะกดวิญญาณ เขาพกมันติดตัวไปด้วยแม้ว่ามันจะหนักอยู่หลายกิโลก็ตาม มาถึงชั้นสามเขาเริ่มค้นจากฝั่งขวาก่อน ห้อง306-308 ก็ไม่พบอะไรจนมาถึงห้อง305 วิลเฮล์มก็รู้สึกอึดอัด หายใจไม่ค่อยทั่วท้องสักเท่าไหร่ ภายในห้องเหมือนเกิดสงครามกลางเมืองยังไงยังงั้น เครื่องเรือนถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ พวกตู้ โต๊ะ ไม่เหลือสภาพเดิมอยู่เลย วิลเฮล์มรู้สึกเหมือนมีพลังบางอย่างกำลังมาด้านหลัง พอเขาหันหลังก็ต้องผงะ ร่างชายหนุ่มอยู่ในชุดกีฬาสีแดง แต่ที่น่าสยดสยองคือ ที่คอของเขาถูกปาดแทบขาดออกจากร่างมีเพียงเส้นเอ็นสองสามเส้นยึดหัวกับลำตัวเอาไว้

     

    เคร้ง!!!!!!!!!!!!” วิลเฮล์มยืนหมดแรงทำให้ดาบที่ถืออยู่หลุดมือ เขาสะดุ้งเฮือกทันทีและสติสัมปชัญญะก็กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว เจ้าวิญญาณร้ายก็โผเข้ามาหมายบีบคอวิลเฮล์ม ชายหนุ่มรีบวิ่งหนีเข้าห้องนอนสีเขียวหม่น ที่ผนังห้องเขาสะดุดกับภาพถ่ายขาวดำชายหนุ่มหุ่นนักกีฬาและผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อยู่ในชุดพยาบาลสีขาว นี่มันห้องของนิกกี้!!! หรือว่าวิญญาณนั่นคือ...เขา

     

    จู่ ๆ มือซีดก็ตรงเข้ารวบคอวิลเฮล์มแรง บีบมหาศาลทำให้เขาขาดอากาศหายใจ มือที่ไร้เรี่ยวแรงของเขาคลำหาที่พึ่งพายามคับขัน

     

    ปัง!!!!!!!!!ปัง!!!!!!!!!ปัง!!!!!!!!!” วิญญาณนิกกี้ ล้มลงชักดิ้นชักงอด้วยความเจ็บปวดจากคมกระสุน วิลเฮล์มรีบวิ่งไปเอาดาบสะกดวิญญาณที่ตกอยู่นอกห้องนอน

     

    อ๊ากกกกกกกกก!!!!!!!!!!!” เสียงวิญญาณนิกกี้ร้องลั่นด้วยความทรมาน ดาบถูกแทงเข้าที่หน้าอกไปทะลุพื้นตรึงร่างเขาเลือดสีดำไหลนองท่วมร่างของนิกกี้ วิลเฮล์มใช้โอกาสนี้ค้นหากระดาษสีแดงส่วนที่เหลือ เขาเห็นกระดาษสีแดง ๆ แล็บออกมาจากหนังสือเล่มหนึ่งในบรรดาหนังสือหลาย ๆ เล่มที่กองอยู่ตามพื้นทั่วห้องนั่งเล่น ใจของวิลเฮล์มลิงโลดทันทีในที่สุดเขาก็หากระดาษสีแดงส่วนที่เหลือเจอซะที และที่ห้องนี้มีอุโมงค์เชื่อมมิติชายหนุ่มรีบมุดเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว

     

    วิลเฮล์มตื่นขึ้นบนเตียงนอนสีขาวในห้องนอนของตน เขาหยิบกระดาษสีแดงที่เก็บมาจากแมนชั่นต่างมิติ และตอนนี้เขาสามารถอ่านมันได้แล้ว

     

    ในที่สุดผมก็เขาใจความหมายของสัญลักษณ์21 และผมคิดว่าคาลวิน ฮอฟกาซเซอ กำลังวางแผนที่จะฆาตกรรมคนให้ได้ 21 คน แต่สุดท้ายเขาก็ทำไม่สำเร็จ

     

    เขาถูกจับโทษฐานฆาตกรรม เดวอน และ ดาเรน โลเอเลีย พวกเขาเป็นเหยือรายที่เจ็ดและแปด สุดท้ายคาลวินก็ฆ่าตัวตายในห้องขัง

     

    เรื่องการฆาตกรรมต่อเนื่องสิบศพ ของเขาเป็นเรื่องเขย่าขวัญที่คนทั่วไปให้ความสนใจ ว่าใครคือฆาตกร หลังจากการตายของคาลวิน เขาได้ทิ้งปริศนาไว้ให้คนสงสัยอยู่สองเรื่องใหญ่ ๆ เรื่องแรกคือเขาทำไปทำมัย? มีเหตุผมอะไร? ส่วนเรื่องที่สองคือ แล้วทำไมเขาต้องฆ่าตัวตายด้วย หรือเขาจะเป็นแค่เพียงคนบ้าที่ทำอะไรลงไปโดยไร้เหตุผล

     

    2 พฤษภาคม  บันทึกไม่ได้ลงปีค.ศ.ไว้ และวิลเฮล์มเรียงลำดับวันที่เพื่อสะดวกในการอ่าน บันทึกแผ่นต่อ ๆ ไป

     

    สีปีที่ผ่านมานี้เขากลับพบกับร่างที่สลักหมายเลข 12 ผมก็รู้สึกหวาดกลัวจนไม่สามารถเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ได้ ล่าสุดมีเหยือถูกฆ่าเมื่อหกเดือนที่แล้ว แต่นั่นก็หลังจากที่คาลวินฆ่าตัวตายได้เจ็ดปีมาแล้ว

     

    ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นคดีเลียนแบบ คาลวิน  แต่ผมก็ยังติดใจเกี่ยวกับเหยื่อที่ตายหลังจากนั้นอยู่ดี

     

              14 พฤษภาคม วิลเฮล์มหยิบแผ่นต่อมาแล้วอ่านอย่างเร่งรีบ

     

                    ผมเก็บกุญแจห้องของโฮลี่ ที่ตกอยู่หน้าห้อง 203 ผมกะว่าจะเอาไปคืนเธอ แต่เธอดันไม่อยู่ห้อง ผมเลยจะเอากุญแจห้องของเธอไปฝากกับคนดูแลแมนชั่น

     

                    20 พฤษภาคมจากนั้นชายหนุ่มก็หยิบกระดาษแผ่นสุดท้ายขึ้นมาอ่าน

     

                    โธ่....ผมทำกุญแจห้องของโฮลี่หาย และผมจะต้องรับผิดชอบมันให้ได้ แต่ผมนึกไม่ออกจริง ๆ ว่า...เอาไปไว้ที่ไหน ... ผมว่าจะลองหามันดูอีกรอบ ผมว่าจะหาที่ห้องนอนเป็นห้องแรก แต่ต้องหลังจากหลับซักงีบก่อนช่วงนี้รู้สึกปวดหัวอยู่บ่อย ๆ ....

     

                    22 พฤษภาคม วิลเฮล์ม ลองก้มลงมองที่ใต้เตียงเผื่อว่ากุญแจห้องจะมาตกอยู่ในห้องเขา ก็ต้องพบกับความประหลาดใจ เพราะมีอะไรบางอย่างอยู่ใต้เตียงจริง ๆ เขาเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมา สิ่งนั้นคือตุ๊กตาผ้าที่ผู้ชายผมยาวให้เขามา แต่ว่าตอนนี้มีกุญแจร้อยอยู่ที่ตัวตุ๊กตา หรือว่านี่คือกุญแจห้องของโฮลี่.... ชายหนุ่มกลับไปที่แมนชั่นอีกมิติหนึ่ง เขามาโผล่อยู่ที่ห้อง 305 และเขายังได้ยินเสียงของนิกกี้ที่ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่ วิลเฮล์มรีบพุ่งตัวออกจากห้องโดยไม่สนใจ

     

                    ฮู้มมมมมมม!!!!!!!!!!!!” สุนัขปีศาจหกตัวรุมกัดวิลเฮล์มที่ไม่ทันระวังตัวขณะออกจากห้อง 305

     

                    โอ๊ยย!!!!!!!!!!!” เขาร้องเสียงหลงมีสุนัขตัวหนึ่งขย้ำเขาที่แขนซ้ายเข้าเต็ม ๆ ส่วนตัวอื่น ๆ ก็รุมกัดที่ส่วนขาทั้งสองข้างของเขา  วิลเฮล์มดิ้นหนีด้วยแรงทั้งหมดที่มีเขาทั้งถีบทั้งยันจนสามารถสลัดขาให้หลุด แต่ไอ้ตัวที่กัดแขนเขาสลัดมันไม่ออกซะที่ ตอนนี้แขนเขาเหวอะหวะเลือดนองไปทั่วแขนแล้วตอนนี้ เขาใช้แขนขวาข้างที่เป็นอิสระหยิบปืนขึ้นมาระเบิดสมองมัน

     

                    ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!!!!!!” เสียงกระสุนดังหกนัดซ้อน สะท้านดังไปทั้งชั้น วิลเฮล์มนั่งหอบหายใจ ปวดแขนซ้ายตึบ ๆ ร่างสุนัขปีศาจนองนิ่งฝีมือการยิงปืนของวิลเฮล์มแม่นจนน่าตกใจแม้ในสถานการณ์บีบคั้นแค่ไหนก็ไม่เคยพลาดเป้า เพราะกระสุนทุกนัดเจาะกะโหลกสุนัขปีศาจอย่างกับจับวาง ชายหนุ่มพยายามลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบาก ขาของเขาทั้งสองข้างก็ถูกกัดหลายต่อหลายที่ แต่ไม่ลึกเท่ากับแขนซ้ายเพราะกางเกงยีสต์ที่หนาจึงทำให้สุนัขปีศาจสร้างรอยแผลได้ไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็เจ็บเอาเรื่องเหมือนกัน

     

                    วิลเฮล์มโซซัดโซเซมาถึงชั้นสองจนได้ ในมือขวาถือปืนในท่าเตรียมยิง แล้วเขาก็ได้กลิ่นเนื้อไหม้ มาพร้อมกับเสียงร้องอย่างโหยหวน มีควันลอยออกมาจากห้อง 204 ที่ประตูเปิดอยู่ วิลเฮล์มมองเขาไปข้างในอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อเห็นร่างแกลลิค มาแรส์ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไฟฟ้าสีแดงที่กำลังทำงาน ที่หน้าผากของเขาถูกกรีดเป็นหมายเลข 19

     

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก..........................วิลเฮล์มรีบเก็บปืนแล้วตรงเข้าไปช่วยแกลลิคออกมา แต่พอวิลเฮล์มแตะโดนตัวเขาเพียงนิดเดียวก็ถูกช็อตจนกระเด็นออกมา ชายหนุ่มมองเขาอย่างจนปัญญาที่จะช่วยเหลือได้ ตอนนี้แกลลิคตาเหลือกค้าง เห็นเลือดปูดออกมาอย่างเห็นได้ชัดทั่วทั้งร่าง เลือดไหลออกมาทุกทางไม่ว่าจะเป็นที่ปาก หู หรือ ตา เป็นภาพที่น่ากลัวมาก

     

    ดะ!!!ดะ!!!.....เด็ก.....!!” แกลลิคถูกซ๊อตอย่างทรมานทั้งเป็นแต่เขาก็พยายามพูดอย่างยากลำบากวิลเฮล์มขยับเข้าใกล้และตั้งใจฟัง

     

                    นะ!!!!นะ!!!!!!.....นั่นไม่!!!...ใช่!!!.....ดะ!!!!...ดะ!!...เด็กธรรมดา!!!” ร่างของแกลลิคยังสั่นเพราะกระแสไฟฟ้าแรงสูงอย่างน่ากลัว

     

                    มะ...มัน...เป็นเหยื่อ...ระ...ระ!!!..รายที่....สะ!!!...สิบเอ็ด!!!” แกลลิคสั่นไปทั่วร่างอย่างทรมานก่อนที่จะขาดใจตายไปต่อหน้าต่อตา หัวของแกลลิคตกลงในท่าก้มหน้า ที่ร่างของเขายังอยู่บนเก้าอี้ก็เป็นเพราะมือและเท้าทั้งสองข้างถูกล็อคติดอยู่กับเก้าอี้ ควันลอยออกมาจากร่างแกลลิค วิลเฮล์มได้แต่มองด้วยความเวทนาแม้จะใกล้ตายแต่แกลลิคยังคงห่วงที่จะเตือนเขา ขณะที่วิลเฮล์มพยายามเอาร่างไร้วิญญาณของแกลลิคออกมาจากเก้าอี้ที่ตอนนี้ไร้ซึ่งกระแสไฟฟ้าแล้ว

     

                    กรี๊ดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!” เสียงร้องของผู้หญิงดังลั่นขึ้นมาวิลเฮล์มนึกขึ้นได้เขาวิ่งตรงไปที่ห้องของโฮลี่ แต่มันล็อค..เขาใช้กุญแจที่ร้อยอยู่กับตุ๊กตาผ้าไข เมื่อเข้าไปในห้องเขาถึงกับผงะภายในห้องข้าวของกระจัดกระจายจากการต่อสู้ หยดเลือดกระเซ็นเลอะไปทั่วห้อง มีรอยเลือดถูกลากเป็นทางยาวปลายทางมีเด็กผู้ชายผมสั้นสีน้ำตาลเสื้อลายขวางสีน้ำเงินกับกางเกงขายาวสีน้ำตาล ที่เขาเห็นบ่อย ๆ ในมิติอื่น ๆ ที่ผ่านมา  เด็กคนนั้นกำลังกุมมือโฮลี่ที่นอนจมกองเลือด เธอสวมชุดเดรสสั้น สีม่วงคล้องคอเผยแผ่นหลังขาวที่ตอนนี้ มีรอยถูกของมีคมกรีดเป็นหมายเลข 20 เธอยังหายใจรวยรินอยู่

     

    เธอเงยหน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผลและรอยช้ำมองสบตากับเด็กชายที่มองเธออย่างเศร้าสร้อย ขณะที่วิลเฮล์มเดินเข้ามาประคองโฮลี่ให้พลิกร่างขึ้นนอนงายเพื่อให้สะดวกในการหายใจมากขึ้น แต่มือของเธอยังจับกับมือของเด็กชายไม่ยอมปล่อย

     

              เฮ้.....หนูน้อย......ฉัน...ขอบใจมากนะ...ที่..ช่วยฉันไว้... เธอหอบหายใจอย่างไร้เรี่ยวแรงชายหนุ่มมองเธออย่างเป็นห่วง

                    เธอ...มาตาม...หา....แม่ใช่มัย?” เด็กชายพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไร โฮลี่มองหน้าเด็กชายด้วยสายตาเป็นห่วงพร้อมกับดึงเด็กชายเข้ามากอดเบา ๆ

     

                    ที่นี่....อันตราย..มาก...หนู...ต้องรีบออก...ไป..จากที่นี่...ให้ไวที่สุด... เธอพูดอย่างยากลำบาก ด้วยความเจ็บปวด เธอมองเด็กชายก่อนที่จะหมดสติไป ชายหนุ่มรีบเขย่าร่างเธอเบา ๆ เขาสบตากับเด็กน้อยที่มีแววตาเศร้าสลด ก่อนที่เขาจะสลบตามโฮลี่ไป

     

                    ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นเพราะเสียงไซเรนที่ดังลั่น มันดังใกล้มากชายหนุ่มพอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งไปที่หน้าต่างทันที เขาพบรถพยาบาลจอดเปิดไซเรนอยู่ในที่จอดรถของแมนชั่น

     

                    โฮลี่.... วิลเฮล์มเรียกเธอเสียงแผ่ว พร้อมกับที่รถพยาบาลขับออกไปจนลับตา เขาได้ยินเสียงของวิทยุที่ดังอยู่ในห้องนั่งเล่น ชายหนุ่มออกจากห้องนอน

     

                    มีหมายเลข19 อยู่ที่หน้าผากเขาด้วย.. เสียงผู้ชายดังขึ้นเหมือนกับเขาใช้วิทยุสือสาร

     

                    เหมือนกับคดีที่เกิดขึ้นเมือสิบปีก่อนเลย.. ชายคนเดิมเอ่ยต่อ

     

                    ใช่...คดีของ คาลวิน ฮอฟกาซเซอ มีผู้ชายอีกคนโต้ตอบกลับมา

     

                    แต่คาลวินตายแล้วนี่ มีการพบศพแล้วด้วยนะ.. ชายคนที่สองทักทวงขึ้น

     

                    อาจจะมีคนลอกเลียนแบบเขาก็ได้นะ ชายคนแรกให้เหตุผลที่พอจะเป็นไปได้

     

                    ผมก็เห็นด้วยนะ...แต่ถ้า... เสียงพูดคุยจบลงเพียงตรงนี้และเสียงซ่าของวิทยุก็ดังทั่วห้องนั่งเล่นก่อนที่จะดับไปด้วยตัวของมันเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×