คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เมืองโดวิน
“ปัง! ... ปัง! ... ปัง! ...” ชายหนุ่มใช้ปืนพกยิงใส่เหล่าวิญญาณร้าย โดยไม่ยั้งคิดแต่ปรากฏว่า ลูกปืนสามารถทำร้ายวิญญาณได้ พวกมันล้มฟุบลงกับพื้น วิลเฮล์มรีบหันหลังวิ่งจนลงมาถึงชานชลารถไฟฟ้าใต้ดินและมีรถไฟสองคันจอดขนาบข้างกัน และเขาพบ มาเรียถูกขังอยู่ในรถไฟ
“วิลเฮล์ม! ขอร้องช่วยฉันด้วย ....” มาเรียใช้มือทุบประตูพร้อมทั้งตะโกนขอความช่วยเหลือ
“เขากำลังจะมาทำร้ายฉันแล้วเร็วเข้า!!!!!..” มาเรียพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ
“เร็ว ๆ เข้า สิ !...” เธอเร่งเร้า ด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรนมาก ๆ
วิลเฮล์มรีบวิ่งไปที่หัวขบวนรถไฟฟ้าใต้ดินเพราะคิดว่าสวิตเปิดประตูของขบวนรถไฟ ต้องอยู่ที่ห้องของคนขับแน่ เขาเปิดประตูโดยเร็ว ไม่กี่อึดใจเขาก็ค้นหาสวิตประตูเจอ เขากดปุ่มนั้นเสร็จประตูก็เปิดออก มาเรียรีบวิ่งตรงมาหาเขา
“ตามผมมา...” วิลเฮล์มเอ่ยบอกมาเรีย พร้อมทั้งออกวิ่งไปด้วย
เขาวิ่งเข้าไปในตัวรถไฟฟ้า ผ่านประตูทะลุไปเพื่อเข้าประตูของรถไฟฟ้าอีกคันหนึ่งที่จอดขนาบกันอยู่ และออกมาอยู่ที่ชานชลาฝั่งตรงข้าม เขารีบวิ่งขึ้นบันไดทางออก แต่เขาต้องรู้สึกมึนงงเป็นอย่างมากเพราะทางออกทางเดียวนั้นถูกเหล็กเส้นขนาดใหญ่หลายเส้น ถล่มลงมาปิดทางออก เขารีบใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว โดยมาเรียไม่ได้พูดอะไรเพราะไม่อยากรบกวนสมาธิของวิลเฮล์ม
ชายหนุ่มคิดขึ้นมาทันทีว่าข้างล่างนั่นต้องมีทางหนีไฟแน่ๆ วิลเฮล์มวิ่งลงบันไดเพื่อไปยังประตูหนี้ไฟ ทันใดนั้นข้างผนังเก่าๆ ของชานชลา เริ่มมีรอยไหม้สีดำเป็นวงกว้าง วิลเฮล์มไม่ต้องรอให้อะไรออกมานี่ต้องเป็นวิธีการเคลื่อนที่ของพวกวิญญาณแน่ เขาไม่สามารถฆ่ามันให้ตายได้ ทำได้เพียงสกัดการโจมตีของมันเท่านั้น
วิลเฮล์มรีบออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตอีกครั้งเพราะเริ่มอ่อนแรงเพราะการเข้าใกล้วิญญาณร้าย เขาตรงไปที่ประตูทางหนี้ไฟ เปิดประตูเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว พอหันหลังกลับมามองพบว่า มาเรียได้หายตัวไปแล้ว
“มาเรีย!!!!!!!!!....” วิลเฮล์มตะโกนเรียนชื่อเธอ
“..............” แต่ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ กลับมา
พอสำรวจดูรอบ ๆ ห้องก็พบว่านี่ไม่ใช่ทางหนี้ไฟแต่เป็นห้องที่ใช้เก็บของ จำพวกบันไดปีนขนาดต่าง ๆ และที่พื้นเขาเห็นทางลงเฉพาะของช่างเทคนิค ใช้สำหรับลงไปซ่อมไฟฟ้ากรณีฉุกเฉิน วิลเฮล์ม ไต่บันไดลงไปพบทางเลียวไปสู่ ชานชลาใต้ดิน
ในชั้นถัดไป ซึ่งวิ่งคนละเส้นทางกับสถานีด้านบน ทางเดินด้านล่างนี้ฉาบไปด้วยสีแดงด้วยเลือดน่ากลัว มันเหมือนกับห้องนอนในความฝันของเขา และที่ผนังมีวิญญาณของชายชราที่สวมสเวตเตอร์สีน้ำตาลทะลุกำแพงออกมา กระชากคอเสื้อของวิลเฮล์มได้จากด้านหลังและใช้แรงเหวี่ยงเข้าเต็มแรง จนวิลเฮล์มตัวลอยกระเด็นตกลงพื้น
“ผลักกกกกกกกกกกกกกกกกก” เสียงร่างของชายหนุ่มกระทบกับพื้นอย่างแรง และถลาไปชนกับแผงกันสีแดงคาดขาวหลายอัน วิลเฮล์ม รู้สึกจุกอย่างมาก
ในขณะที่สติยังไม่กลับมาดีนัก มือของวิญญาณชายแก่กระซวกเข้ามาที่หน้าอกของวิลเฮล์ม ปลายนิ้วจิกผ่านเสื้อทะลุจนไปถึงผิวหนังของเขา เลือดไหลซึมออกมาอย่างรวดเร็วเพราะบริเวรหน้าออกจะใกล้กับหัวใจความเจ็บเล่นปราดเข้าสู่โสตประสาทอย่างรวดเร็ว ในขณะที่มึนชาเพราะความเจ็บปวดอยู่นั้น วิลเฮล์มคว้าปืนพกขึ้นมา
“เปรี้ยงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!...” คมกระสุนเจาะทะลุใบหน้าของวิญญาณชายชรา มันกระเด็นออกห่างจากร่างของวิลเฮล์มแล้วตอนนี้ โดยไม่รอช้าชายหนุ่มรีบลุกขึ้นวิ่งและใช้มือกุมบาดแผลที่มีเลือดซึมออกมามากแล้วตอนนี้ ประตูอยู่ห่างไม่ไกล เขาเปิดประตูอย่างรวดเร็ว
มีรถไฟฟ้าเพียงคันเดียวจอดเทียบท่าอยู่ที่ชานชลา ซึ่งบรรยากาศในชั้นนี้น่ากลัวมากกว่าชั้นบนเสียอีก ดูทั้งเก่าและโทรมมาก เหมือนถูกทิ้งร้างมาหลายสิบปี เขาเดินมาตามทางด้วยความรู้สึกแน่นที่อกเพราะบาดแผลที่เลือดไหลไม่หยุดแม้จะเอามืออุดแล้ว ตอนนี้ตาเริ่มพร่าเพราะเสียเลือด
“วิลเฮล์ม ... ฉันเจอทางออกแล้ว” นี่มันเสียงของมาเรียนี่ ? เธอประกาศผ่านทางลำโพงของสถานีรถไฟฟ้า
“วิลเฮล์ม ... ฉันเจอทางออกแล้ว” เธอประกาศซ้ำอีกครั้ง ชายหนุ่มเริ่มออกวิ่ง
“ขึ้นกระไดเลื่อนมาเธอก็จะถึงทางออกแล้ว..” มาเรียบอกทางให้กับวิลเฮล์ม
“เร็ว.. เร็วๆเข้า เขากำลังเดินมาทางนี้!!!!” ...เสียงมาเรียสั่นเครืออย่างน่ากลัวแล้วเสียงประกาศก็ดับไป วิลเฮล์มรีบเร่งฝีเท้าทันใดนั้นก็มีสุนัขสัตว์ร้ายออกมาขวางทาง วิลเฮล์มรีบควักปืนขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
“แกร๊ก..” ตายล่ะ...กระสุนหมดเสียแล้วเขาได้แต่นึกอยู่คนเดียว ด้วยความหมดหวังวิลเฮล์มปากระบอกปืนโดนเข้าที่หัวของมันอย่างจัง
“เอ๊งงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!.....”ด้วยความหนักของปืนที่ไม่ใช่ย่อย ทำให้สัตว์ร้ายสลบเหมือดในทันที เขาเหลือบไปเห็นด้ามไม้กอล์ฟตกอยู่ข้าง ๆ กับกองขยะเขาจึงเก็บมันขึ้นมาเอาไว้ป้องกันตัว แล้วรีบออกวิ่งทันทีในใจได้แต่หวังว่าสัตว์ร้ายจะยังไม่ลุกขึ้นมา
ชายหนุ่มรีบขึ้นบันไดเลื่อน เขาไม่รอให้มันค่อยๆ เคลื่อนไปเองชายหนุ่มวิ่งเพื่อให้ไปถึงด้านบนเร็วขึ้นด้วยความร้อนใจเป็นห่วงมาเรีย แล้วจู่ ๆ ผนังที่ชโลมด้วยเลือดทั้งหมดมีร่างที่คล้ายกับคนแต่ก็ไม่ใช่ มีผิวที่ช้ำเลือดช้ำหนองเหมือนกับเป็นฝีอยู่ทั่วตัว ยื่นออกมาจากผนังได้เพียงครึ่งตัวเท่านั้นมันไม่มีใบหน้า แต่ด้วยความเร็วของฝีเท้าทำให้เขาหลบไม่ทัน มันใช้แขนที่ยาวเหมือนขาเหยี่ยวและมีกงเล็บแหลม ตวัดเข้าที่แขนของวิลเฮล์มเต็มแรง
“อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!” วิลเฮล์มร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด เขาถูกแรงเหวี่ยง ของร่างปีศาจที่ติดอยู่บนกำแพงทำร้ายจนเขา ล้มลงกับพื้นบันไดที่ยังเคลื่อนที่อยู่ ไม้กอล์ฟที่เก็บได้กระเด็นหลุดจากมือของวิลเฮล์มไม่ไกลนัก เขารู้สึกปวดที่ไหล่ซ้ายมากเหมือนกับวิ่งชนกำแพงก็ไม่ปาน แต่เขาไม่อยากตายอยู่ที่นี่เขาต้องออกไปให้ได้ ชายหนุ่มรีบเก็บไม้กอล์ฟขึ้นมาใช้มือทั้งสองข้างจับที่ด้ามไม้แน่น กระหน่ำฟาดเข้าที่ส่วนหัวอย่างแรง
“ผัวะ!!....ผัวะ!!.... ผัวะ!!...” เสียงไม้กอล์ฟ กระทบกับร่างปีศาจบนกำแพง
จนมันถึงกับสลบ คราวนี้วิลเฮล์มไม่กล้าวิ่งสุ่มสี่สุ่มห้าแล้ว เขาจ้องมองความเคลื่อนไหวที่กำแพงริมบันไดเลื่อนอย่างจดจ่อ ถ้ามีปีศาจหรืออะไรโพล่มาจากกำแพงอีกเขาจะได้หวดไม่ยั้งเลย ที่กำแพงที่เต็มไปด้วยคราบเลือดมีร่าง ของปีศาจกำแพงพุ่งตัวออกมา
“ผัวะ!!!!!!...” วิลเฮล์มฟาดไม้กอล์ฟเข้าที่หัวมันเต็มแรงเหวี่ยง เพราะได้ตั้งตัวเขาจึงไม่ถูกปีศาจตัวที่สองทำร้าย เมื่อบันไดเลื่อนมาจนถึงชั้นบน เขาเดินอย่างระมัดระวังในความมืดสลัวของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน โดวิลล์ ตอนนี้ใกล้ถึงทางออกแล้ว เขาเดินมาถึงประตูทางออกแล้ว เขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่
มีกระเป๋าถือผู้หญิงสีทองหล่อนอยู่ที่พื้น ของในประเป๋ากระจายไปทั่ว มันเป็นพวกเครื่องสำอางเป็นส่วนใหญ่ แป้ง,บรัชออนสีชมพู,ยาทาเล็บสีแดงสด,บัตรเครดิต,กระเป๋า สตางค์ และของจุกจิกอย่างอื่นอีก แต่ทำให้วิลเฮล์มรู้สึกใจไม่ดีเอาเสียเลย คือรอยเลือดที่กองอยู่ที่พื้น มันยังสดอยู่เลยคงพึ่งเกิดเหตุร้ายขึ้นแน่ ในใจเขาหวังว่าผู้ที่ถูกทำร้ายคงไม่ใช่ มาเรีย แต่ความเป็นไปได้นั้นน้อยเหลือเกิน เพราะตลอดเวลา มาเรียบอกมีชายคนหนึ่งคอยตามมาทำร้ายเธอ
นอกจากกองเลือดที่พื้นแล้วยังมีรอยลากเป็นทางเข้าไปในห้องประชาสัมพันธ์ที่อยู่ติดกับประตูทางออกของชานชลารถไฟฟ้าใต้ดิน วิลเฮล์มกำลังจะเอื้อมมือมาเปิดประตูแต่ก็สะดุดกับใบปลิวสีม่วงเข้มขนาดเท่ากับบัตรเติมเงินโทรศัพท์ แปะอยู่ที่ประตูวิลเฮล์มลองแกะออกมาดูใกล้ๆ มันเป็นรูปผู้หญิงผมยาวที่อยู่ในชุดโบราณ สมัยอียิปเขาจ้องมองมันเหมือนถูกสะกด วิลเฮล์มจัดการสอดมันเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ด้วยความรู้สึกว่ามันอาจมีความสำคัญก็ได้
เมื่อวิลเฮล์มเปิดประตูเข้าไปเขาถึงกับเข่าอ่อนจนแทบทรุดลงกับพื้น เพราะภาพที่สุดสยองที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขาคือ ห้องประชาสัมพันธ์ ที่นองไปด้วยเลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่วห้องข้าวของล้มระเนระนาดไปทั่ว ทั้งไมโครโฟน และเอกสารต่างๆกระเด็นไปทั่วห้อง และมีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นห้อง ใบหน้าที่บอบช้ำแต่ยังจำได้คือ มาเรีย นั่นเอง
“มาเรีย!..เป็นยังไงบ้าง!” วิลเฮล์มพูดพร้อมทั้งประคองศีรษะของมาเรียขึ้นมาด้วยความระมัดระวัง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเลือดที่ออกทางจมูกกับปาก เธอบาดเจ็บมากร่องรอยตามร่างกายของเธอเหมือนถูกของเข็งทุบตีเธอจนน่วมไปทั้งตัวและที่เนินอกด้านซายถูกของมีคมกรีดเป็นหมายเลข 16 บนอกด้านซ้าย
“นี่..เป็นความฝัน..ใช่.......มัย? ..ฉะ..ฉันคงดื่มเหล้ามากไป.........ฉันคงไม่..มี..วัน...ออกไปจาก..ที่นี่ได้..แล้ว..ล่ะ..ฉัน..กำลังจะตาย” มาเรียพูดด้วยความ ยากลำบาก เพราะสำลักเลือดตลอดเวลา
“ไม่! คุณจะต้องปลอดภัย...เพราะนี่มันก็แค่ความฝัน” วิลเฮล์มพูดปลอบใจมาเรีย ทั้ง ๆ ที่รู้สึกว่านี่ไม่ใช่ความฝันแต่มันเหมือนจริงมาก เขาสบตามองกับมาเรียได้เพียงครู่เดียว เธอก็แน่นิ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขาดวงตาของเธอเหลือกค้าง อกของเธอไม่ขยับขึ้นลงนั่นก็แสดงว่าเธอได้ตายไปแล้ว วิลเฮล์มนั่งประคองร่างของมาเรียอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เขารู้สึกเสียใจจนทำอะไรไม่ถูกแม้กระทั้งขยับตัว เขาช่วยเธอไม่ได้เลยสุดท้ายเธอก็ถูกชายบางคนฆ่าเธออย่างทารุณ
ในที่สุดวิลเฮล์มตัดสินใจวางร่างของมาเรียลงกับพื้นห้อง เขาใช้มือลูบปิดดวงตาที่เบิกค้างของเธอให้หลับสนิท เมื่อเขาลุกขึ้นยืนแล้วรู้สึกภาพในห้องหมุนคว้าง แล้วภาพก็เริ่มมืดดับลง
เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมา ตอนนี้เขานอนทอดตัวอยู่บนที่นอนสีขาว ในห้องนอนที่คุ้นตา และพัดลมเพดานสีขาวขนาดใหญ่บนเพดานที่กำลังหมุนคว้าง ใช่แล้วมันเป็นห้องนอนของเขาเอง
“มาเรีย...” มันเป็นชื่อเดียวที่เขานึกถึงในตอนนี้ เขาฝันอีกแล้วหรือนี่ ทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนเกิดขึ้นจริงแบบนี้ และความเสียใจที่ช่วยมาเรีย ไม่ได้เริ่มกลับมาอีกครั้ง
“เสียงอะไรอยู่ข้างนอกน่ะ..” วิลเฮล์มพึมพำกับตัวเองในขณะที่มึนงงอยู่นั้น เขาได้ยินเสียงไซเรนที่ดังอยู่ด้านนอก มันดังอยู่ใกล้ๆกับแมนชั่นนี่เอง ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นตรงมาที่ช่องว่างของหน้าต่าง ภาพที่เห็นคือมีรถพยาบาล และรถตำรวจ 3-4 คันจอดอยู่หน้าทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินโดวิลล์ มันคงจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมาเรียนะ วิลเฮล์มมองออกไปด้านนอกด้วยความเป็นห่วง
ความคิดเห็น