ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic-BEAST] Hide and Seek: หัวใจโป้งแปะ! [DooSeob]

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 ป๊ะป๋า {My Papa!}

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.พ. 62


    1- My Papa!
     
     
     

     
    “ป๊ะป๋าโยซอบ! ตื่นๆๆๆๆๆๆ” 
     
     
    เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกด้วยเสียงเล็กสะดุ้งโหยงแล้วโงหัวขึ้นมาจากกิจกรรมการเฝ้าพระอินทร์บนโซฟาสีเบจนุ่มนิ่ม ที่ข้างแก้มรู้สึกได้ถึงความเย็นวาบซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการกระโดนตะปบของเจ้าเด็กแก้มบวมวัย 5 ขวบ ที่โถมเข้ามาทับเต็มกำลังรบพร้อมกับก้อนน้ำแข็งในมือ ก้อนน้ำแข็งที่ตอนนี้สีไปสีมาอยู่บนหน้าของเขา ดูเหมือนว่าชั่วโมงนอนกลางวันของยังโยซอบจะหมดลงแล้ว
     
     
    โยซอบเชิดคอขึ้นมองดูรอบๆ ห้องที่ถูกจัดไว้เป็นสัดส่วน เพื่อสแกนหาสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากตัวเองและเด็กน้อย เพื่อตอบคำถามว่า เจ้าตัวป่วนอีฮงกี มาถึงที่นี่ได้อย่างไร ห้องพักสีขาวขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำนี้แค่กวาดตาดูสองสามครั้งก็สามารถมองได้ทั่วแล้ว
     
     
     
    เอ อยู่ไหนล่ะเนี่ย?
     
     
     
    “เย็นมั้ยป๊ะป๋า” ถูไม่ถูเปล่า เจ้าตัวยังยกก้อนน้ำแข็งขึ้นมาเลียแผล่บๆ ด้วยก่อนเอากลับมาถูอีกครั้ง ราวกับว่าจะเพิ่มความเย็นขึ้นได้(?) จนโยซอบต้องเผยยิ้มออกมา
     
     
     
    เอ้อ....มันน่าเอ็นดูเหลือเกิน...แล้วก็



    ...ซกมกด้วยล่ะฮงกี 
     
     
     
    “ฮงกีมาถึงเมื่อไหร่ครับ? แล้ว.....”
     
     
    “มาเมื่อกี๊ และฉันอยู่นี่ โอเค้?” ไม่ทันที่โยซอบจะถามคำถามกับไอ้ลูกชายได้จบ ก็มีเสียงนุ่มๆ ที่คุ้นเคยดังออกมาจากห้องน้ำ 
     
     
    โยซอบลุกขึ้นนั่งแล้วจับฮงกีที่ยังเลียน้ำแข็งอยู่ให้หันหน้าออกแล้วนั่งบนตักของเขาแทน พร้อมกับดึงเอาก้อนน้ำแข็งเจ้ากรรมที่ตอนนี้ละลายไหลเยิ้มเต็มแขนเจ้าตัวเล็กไปหมดแล้วมาถือไว้
     
     
    “อ๋า...” เหมือนกับว่าจะเป็นของหวง ฮงกีควานมือเพื่อที่จะคว้าเอาก้อนน้ำแข็งกลับคืนมา และเมื่อดูทีท่าว่าคงไม่ได้คืนซะแล้ว เด็กน้อยก็เริ่มใช้กระบวนท่าพองลมที่ข้างแก้ม ด้วยความเคยชินที่ว่าทำเมื่อไหร่มักได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอ
    คิดจะทำอะไรงั้นรึคุณลูกชาย ไม่คืนซะล่ะ
     
     
    ด้วยภาระงานที่ต้องรับผิดชอบค่อนข้างมาก ทำให้โยซอบไม่ว่างไปรับไปส่งเจ้าตัวเล็ก แต่วันนี้รู้สึกเพลียเลยรีบเลยกลับมานอนพัก ลืมไปเลยถึงเวลาเลิกเรียนของฮงกีแล้ว
     
     
    “หึ...ฮงกี...น้ำแข็งน่ะ ถ้าละลายก็กินไม่ได้แล้วล่ะ ดูสิเนี่ย ละลายหมดแล้ว” คุณป๊ะป๋าโยนก้อนน้ำแข็งเข้าปากตัวแข็งแล้วเคี้ยวดังกรุบๆ ก่อนจะอ้าปากแสดงความว่างเปล่าให้ลูกน้อยดู
     
     
     
    อะไรกันพองลมแอคชั่นไม่สำริดผลเหรอเนี่ย
     
     
     
    ฮงกีไม่พอใจเท่าไหร่นัก เด็กน้อยเลยเปลี่ยนแผนกระทันหันเป็นการตำหนิคุณป๊ะป๋าแทน!?!
     
     
    “อี๋ ป๊ะป๋าโยซอบกินน้ำลายฮงกีอ่ะ” อดีตเจ้าของน้ำแข็งทำหน้าแสดงความ อี๋ ออกมา “เฮ้อ ป่ะป๊าโยซอบแย่จริงๆ” พลางทำท่ากอดอกแล้วส่ายหน้าซ้ายขวา
     
     
     
    ดู๊ ดูมันทำ ยังกับคนอายุสัก 30! แก่แดดแก่ลมจริงๆ
     
     
     
    “นี่แหน่ะ ฮงกี น้ำแข็งยังเหลืออีกหลายก้อนเลย จะไปแย่งป๊ะป๋าทำไม” เจ้าของเสียงเดินมานั่งแล้วตบเบาๆ ข้างแก้วน้ำแข็งที่ตัวเองถือมาวางไว้ด้านข้างตัว ซึ่งก็ได้ผลเมื่อฮงกีคลานต้อยๆ ไปยังแก้วที่เต็มไปด้วยผลึกของน้ำอันล้ำค่า
     
     
    “มาถึงก็เข้าห้องน้ำเลยนะกีกวัง ท้องเสียเหรอไง” โยซอบถามเพื่อนสนิทที่รับหน้าที่ดูแลฮงกีในวันนี้ 
     
     
    “ก็แค่ล้างหน้าน่ะ นี่! เพิ่งรู้นะเนี่ยว่านอกจากแฮมเบอร์เกอร์แล้ว เราก็ปราบเจ้าตัวแสบได้ง่ายๆ ด้วยน้ำแข็งเปล่า” กีกวังรีบคว้าเอาแก้วน้ำแข็งก่อนที่ฮงกีจะมาถึง แล้วชูวนรอบๆ ตัวฮงกีเพื่อแสดงให้เห็นสิ่งที่เขาค้นพบ
     
     
    “อุ๊บ...ป๊ะป๋ากีกวังอ่า ฮงกีจะเอาน้ำแข็ง น้ามแข็งงงง หง่า” เด็กตัวกลมทำหน้าเบ้ไม่พอใจเมื่อพบว่าตัวเองกำลังถูกแกล้ง จะอะไรนักหนากับชีวิตเด็กคนนี้กันนะ เมื่อกี้ป๊ะป๋าโยซอบก็แย่งไปกินไปแล้วหน้าตาเฉย เซ็งได้อีกอ่ะ อีฮงกี
     
     
    “ฮ่ะฮ่ะ ฮงกี ก้อนใหม่ในแก้วน่ะ มันไม่อร่อยเหมือนก้อนเมื่อกี้หรอกนะ” โยซอบหยอกเอินฮงกีด้วยการย้ำถึงสถานการลอบปรงพระชนก้อนน้ำแข็งเมื่อครู่
     
     
    ฮงกีคลายความสนใจจากแก้วน้ำในมือกีกวังทันที ตัวเล็กพยักหน้าเหมือนกำลังเห็นด้วยกับคำพูดของคุณปะป๊าหมายเลข 1
     
     
    “นั่นสิ ก็คนละก้อนกัน งั้นป๊ะป๋าโยซอบคืนฮงกีมาเลย” แบมือมาหน้าโยซอบแล้วทำขยำๆ สองสามครั้ง ตั้งใจจะสื่อว่า เอามานะ!
     
     
     
    ขอฮงกีทวงคืนเถอะ มันเป็นสิทธิอันชอบธรรมของเด็กคนนี้นะ!
     
     
     
    “เอาไงป๊ะป๋าโยซอบ คืนลูกไปสิ” โยซอบเหลือบมองไปทางป๊ะป๋ากีกวัง ที่เหมือนว่าตอนนี้จะแปรพรรคไปแล้วซะแล้ว
     
     
    “อ้าว” คุณพ่อตัวเล็กอึ้งไปชั่วครู่ แล้วจะไปสร้างมาคืนได้จากไหนล่ะเนี่ย ก็มันละลายไปแล้วนี่
     
     
    “ไม่คืนฮงกีกัดหูนะป๊ะป๋า” หนึ่งในกระบวนการท่าฮงกีอรหันต์ กระบวนท่าที่ 8 ‘กัดหูพิฆาต’ ว่าแล้วคุณลูกหัวแก้วหัวแหวนของยังโยซอบก็ตั้งท่าจริงจัง โฟกัสสายตาไปยังติ่งหูของป๊ะป๋า กะระยะแล้วเตรียมกระโจน
     
     
    “ฮงกี…ไปแมคโดนัลกันมั้ย?” โยซอบเปลี่ยนเรื่องขึ้นมาทันทีเพื่อเบนความสนใจของลูกน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหูตัวเองเบาๆ ซึ่งถ้าซูมไปใกล้ๆ จะพบรอยแดงคล้ายฟันขนาดเล็กเปื้อนอยู่
     
     
    “ไปฮะ”
     
     
     
    ถ้าอยากเกิดเป็นพ่ออีฮงกี ก็ต้องเปลี่ยนเรื่องเก่งหน่อยล่ะ ไม่งั้นหูของท่านจะไม่ปลอดภัย 
     
     
     
     
    ++++ Hide and Seek ++++
     
     
     
     
    “พี่ฮยอนซึงครับ นี่ครับเบอร์เกอร์ชุดที่พี่สั่ง” หนุ่มร่างสูงหน้าตาอาหรับเดินหอบชุดอาหารเครื่องดื่มมายังโต๊ะที่ได้ถูกจับจองไว้ก่อนแล้วจากกลุ่มเพื่อนที่มาด้วย หรือจะพูดให้ถูกคือกลุ่มคนที่เขาติดสอยห้อยตามมาด้วยต่างหาก
     
     
    ชายร่างบางหน้าตาสะสวย ริมฝีปากแดง เจ้าของเรือนผมสีส้มเจ็บจี๊ด รับเอาถาดอาหารมาอย่างว่าง่ายโดยไม่ลืมที่จะหันไปยิ้มเชิงขอบคุณกับผู้ที่ซื้อมาให้...ผลตอบรับคือใบหน้าอาลาดินที่ฉีกยิ้มกว้างตอบมา
     
     
    “อ้าว ดงอุน! นี่นายดการมาให้แต่ของฮยอนซึงนี่หว่า แล้วของฉันล่ะ??” ถัดไปข้างๆ ฮยอนซึง คือเจ้าตัวปัญหาที่ดงอุนไม่ได้อยากให้มีตัวตนอยู่ตรงนี้แม้แต่น้อยนั่งอยู่ สำคัญที่ว่าถ้าคนๆ นี้ไม่อยู่ตรงนี้ เขาเองก็คงไม่ได้มีโอกาศมาเจอรุ่นพี่ฮยอนซึงของเขาแบบนี้
     
     
    “โห พี่ดูจุนอยากกินอะไรก็ไม่บอก แล้วผมจะตรัสรู้มั้ยวะครับ” หงุดหงิดนะที่ต้องปรนนิบัติชายร่างโตนิสัยลุง ถ้าไม่คิดว่ามีศักดิ์เป็นญาติผู้พี่ ซ้ำยังมีบุญคุณที่แนะนำให้เขารู้จักกับคนสวยผมส้มที่กำลังนั่งแทะเล็มเบอร์เกอร์อยู่ตรงข้ามนี่ล่ะก็ อย่าหวังจะได้ส่วยจากดงอุนเหมือนอย่างตอนนี้เลย
     
     
    “ฉันขอแค่น้ำอะไรก็ได้แล้วกันนะ คอแห้งละ” ญาติผู้พี่ที่เคารพออกปากขอเพียงน้ำมาดับกระหายเท่านั้น ก็สงสารน้องอยู่บ้าง ยูนดูจุน ก็ไม่ได้อยากจะตักตวงความสบายหรือเอาเปรียบอะไรน้องหรอกนะ ก็แค่ใช้ประโยชน์บ่อยครั้ง จากการที่ดงอุนลงทุนเข้ามาจีบเพื่อนสนิทของเขาอย่างเป็นทางการก็เท่านั้น
     
     
     
    ช่วยไม่ได้ ก็คนมันมีเพื่อนสวยนี่หว่า
     
     
     
    “คร้าบบบ รอสักครู่นะคร้าบพี่ชาย” ดงอุนลากเสียงยาวอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะลุกออกไปปฏิบัติหน้าที่เบ๊อย่างจำยอม ทำไมพี่ฮยอนซึงต้องเป็นเพื่อนกับพี่ดำหน้าล้ำนี่ด้วยนะ
     
     
    “แล้วนี่เด็กนายไปไหนซะล่ะ หืม ฮยอนซึง” ดูจุนนั่งเท้าคางอย่างเซ็งๆ เอียงคอถามเพื่อนคนสวยที่นั่งหม่ำเจ้าขนมปังที่ประกบชิ้นเนื้ออยู่เต็มปาก 
     
     
    “วิ่งไปเล่นโซนเด็กเล่นโน่นแหน่ะ” เหมือนจิตใจจะอยู่แต่กับอาหารฝรั่งตรงหน้า ฮยอนซึงได้แต่ตอบออกมาอย่างขอไปที คิ้วส้มพยักเพยิดไปทางด้านซ้าย ซึ่งถ้ามองตรงไปจะเห็นกลุ่มเด็กๆ วิ่งเพ่นพ่านเต็มไปหมด
     
     
     
    โอ้โห กองทัพปีศาจจากนรกขุมไหนวะนั่น 
     
     
     
    ดูจุนขอยืนยันด้วยเกียรติ์แห่งคนสีผิวเข้มระดับ 2 เลยว่าเขามองเห็นสนามเด็กเล่นย่อมๆ นั่นมีออร่าสีแดงแผ่ออกมาอย่างกับขุมนรกร้อนในหนังเรื่อง Constantine ยังไงยังงั้น เขารู้สึกปวดหัวจี๊ดกับภาพที่เห็น เด็กตัวเล็กๆ วิ่งไปมาเต็มไปหมด ไหนจะเสียงเจี้ยวจ้าวนั่นอีก โอ้โห! โคตรน่ารักครับ (การประชดจากยูนดูจุน) เขาไม่ถูกโฉลกกับสิ่งมีชีวิตพวกนี้เท่าไหร่นัก ในหัวของดูจุนเห็นเพียงว่าที่วิ่งๆ อยู่น่ะ ก็เป็น ไอ้ปีศาจขาสั้น ดีๆ นี่เอง
     
     
    “อ่อ วิ่งอยู่ตรงนั้นเองจางอูยอง” คนตัวดำหรี่ตาเพ่งไปยังเจ้าตัวเล็กที่ตนรู้จัก หน้าขาวใสแก้มป่องกำลังหันมาสบตากับเขาพอดี
     
     
    ดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่อูยองที่หันมา ยังเจ้าตัวเล็กอีก 2 คนที่เบนสายตามาตามที่อูยองมอง...ทิศทางที่ตรงมาทางเขา
     
     
    เหมือนดูจุนจะรู้สึกถึงเหตุการณ์ล่วงหน้า เขาเริ่มจะขาดอากาศหายใจและกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ดวงตาที่หรี่อยู่ค่อยๆ เผยอโตขึ้นเมื่อภาพเด็กสามคนมันเหมือนถูกซูมเข้ามาหาตัวเขาเอง ตอนนี้มีไอ้ปีศาจขาสั้นกำลังวิ่งกรูกันมาทางเขา ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่มาทีเดียว 3 ตัว
     
     
    “คุณลุงดูจุนเป็น” ปีศาจขาสั้นตัวนึงทำท่าเอามือมาเตะที่หน้าขาของดูจุน ที่ตอนนี้นั่งงงเป็นไก่ตาแตก มองหน้าจางอูยองสลับกันกับจางฮยอนซึง 
     
     
     
    ขะ...ขาช้านนนน โอย รู้สึกเหมือนแสบร้อน แล้ว...
     
     
    เป็นอะไรวะ?
     
     
     
    “เป็นยักษ์ไงดูจุน ทำหน้าเหมือนจะร้องอ่ะนาย” ปากบางยังเคี้ยวอาหารอยู่พลางพูดกับดูจุนที่ตอนนี้กำลังมองบริเวณขาของตัวเองที่ถูกอูยองเตะ อย่างกับกลัวว่ามันจะเน่าไปก็ไม่ปาน
     
     
    ฮยอนซึงเองก็รู้อยู่ว่าดูจุนไม่ค่อยถูกโรคกับเด็กๆ นัก หรือจะพูดว่าเกลียดเลยก็น่าจะถูกกว่า แต่เพราะพี่ชายของฮยอนซึงขอร้องให้เขาต้องดูแลหลานชายแทนขณะที่ไปดูงานต่างประเทศ ฮยอนซึงจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพาอูยองไปไหนมาไหนด้วย ดูจุนเลยต้องทนเจออูยองไปอีกพักใหญ่เลยทีเดียว 
     
     
    “นี่อูยอง ลุงเขาจะเล่นกับเราเหรอ” เด็กตาโตอีกคนหันว่าคุยกับอูยอง เมื่อรู้สึกได้ว่าคุณลุงคนนี้มัวแต่นั่งมองพวกเขานิ่งอย่างกับเห็นผี !
     
     
    “ลุงคับ ลุงต้องลุกขึ้นจับพวกเราสิคับ” ตัวเล็กอีกคนเงยหน้าขึ้นมาสบตากับดูจุน ทำตาแป๋วๆ แล้วกระพริบตาสองสามครั้ง...ซึ่งดูจุนก็กระพริบตาตามด้วยจำนวนครั้งที่เท่ากัน...สำหรับดูจุน นี่มันหายนะชัดๆ!!! ตอนนี้เขาแทบอยากจะร้องไห้ให้เสียชาติชายไปให้รู้แล้วรู้รอด
     
     
     
    คนเดียวไม่พอ ไปแตกร่างมาจากไหนอีกสองวะเฮ้ย
     
     
     
    “ไหวมั้ยดูจุน มา...ฉันจัดการให้” ฮยอนซึงเมื่อเห็นท่าว่าดูจุนเริ่มจะไปไม่เป็นแล้ว ก็อาสาแสดงความเป็นฮีโร่เข้ามาช่วย 
     
     
    “อ้าว ฮงกี ฮีชอล มายังไงครับเนี่ย” ร่างบางถามออกไปเมื่อมองลงไปแล้วพบว่าเด็กทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทอูยองที่ตนเองก็รู้จักเป็นอย่างดี
     
     
    ฮงกีและฮีชอลยิ้มร่าเมื่อถูกเรียกชื่อ ฮยอนซึงรับรู้จากเด็กๆ ว่าฮงกีมากับคุณพ่อของเขา ส่วนฮีชอลนั้นมากับคุณแม่ ทุกอย่างดูปกติดี เหมือนว่าจะเป็นภาพครอบครัวที่สุขสันต์ ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีภาพตาลุงแก่ที่ทำหน้าเหมือนอยากตายอยู่ตรงกลางวง
     
     
     
    แม่! หนูเกลียดเด็ก!!! (เสียงตะโกนถึงแม่ที่ล่วงลับไปแล้วของยูนดูจุน)
     
     
     
    “ฮงกี กลับกันเถอะ” ทุกคนรวมถึงตาลุงหน้าป่วยต่างหันไปตามเสียงเรียก 
     
     
    “อ้าว คุณฮยอนซึง พาอูยองมาเที่ยวเหรอครับ” กีกวังกล่าวทักทายไปยังคนเพียงเดียวในกลุ่มนี้ที่เขารู้จักจากการที่ไปรับไปส่งฮงกีบ่อยๆ
     
     
    “ครับ ก็คิดไว้แล้วว่าต้องเจอคุณกีกวัง เพราะฮงกีบอกว่ามากับพ่อ”
     
     
    “ฮ่าฮ่า ไม่เสมอไปหรอกครับ บางทีก็ไม่ได้หมายถึงผมหรอก” กีกวังยิ้มกว้าง แล้วก็ยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าทั้งฮยอนซึงและดูจุนจะดูแปลกใจในคำพูดของเขา
     
     
    “พี่กีกวังน่ะ เป็นแค่ป๊ะป๋าหมายเลข 2 ของฮงกีต่างหากคับ อาฮยอนซึง” ฮีชอลอดไม่ได้ที่จะแสดงความฉลาดของตัวเองออกมา อูยองเองก็พยักหน้าสนับสนุน ในขณะที่ฮงกีนั้นกำลังมองเขม็งไปยังก้อนแฮมเบอร์เกอร์แหว่งๆ ที่เอยู่ในถาดของฮยอนซึง หาได้รับรู้ถึงเรื่องอะไรไม่ 
     
     
    ตอนนี้ผู้ใหญ่อีก 2 คน เหมือนจะมีเครื่องหมายปรัศนีตัวเป้งปรากฏอยู่ข้างหูข้างซ้าย...แล้วคำตอบก็เฉลยออกมาเมื่อคนหนุ่มหน้าทะเล้นเดินเข้ามาสมทบ
     
     
    “เพื่อนเหรอกีกวัง?” โยซอบเลิกคิ้วขึ้นอย่างงุนงง ก่อนที่จะรู้สึกได้ว่าวงสนทนาถึงสีหน้าสงสัยของชายแปลกหน้าทั้งสองคน...ไอ้เครื่องหมายคำถามที่ลอยอยู่นั่นมันอะไรกันวะ? อืม ดี เครื่องหมายคำถามเพิ่มมาอีกหนึ่งอัน
     
     
    “ป๊ะป๋าโยซอบ ฮงกีอยากกินเบอร์เกอร์อีกอ่ะ” ฮงกีเอ่ยทำลายความเงียบแล้วเตรียมตัวจะปีนขึ้นไปคว้าเศษแฮมเบอร์เกอร์ที่ตนหมายมั่น เพื่อนตัวน้อยอีกสองคนต่างพากันส่ายหน้าเบาๆ กับอาการแพ้แฮมเบอร์เกอร์ของฮงกี...สงสัยไอ้ที่จะเล่นยักษ์กินคนกันเนี่ย คงจะอดซะแล้ว
     
     
    “วันนี้พอก่อนเถอะฮงกี ป๊ะป๋าให้ทานไปเยอะแล้วนะ” ฮงกีแสดงอาการหงุดหงิดนิดหน่อย แต่ก็ปล่อยให้โยซอบอุ้มอย่างว่าง่าย จะว่าไปก็แค่อยากอ่ะนะ แล้วตอนนี้ฮงกีก็พุงกางอยู่ด้วย (แล้วยังจะปรารถนาอีกทำไม...อันนี้ก็ไม่เข้าใจเด็กเหมือนกัน)
     
     
    “นี่ต่างหากครับ พ่อของฮงกี” กีกวังตอบคำทำลายเครื่องหมายปรัศนีทั้งหมด โยซอบก็ก้มหัวทักทายทันทีทั้งๆ ที่อุ้มฮงกีอยู่แนบอก ตอนนี้เด็กน้อยกำลังมองตรงไปยังแฮมเบอร์เกอร์อีกลูกที่ตั้งอยู่บนอีกโต๊ะอีกฝั่งหนึ่ง
     
     
    ฮยอนซึงกับดูจุนมองไปที่โยซอบอย่างสนใจ จริงๆ แล้วทั้งกีกวังและโยซอบต่างก็เด็กเกินไปที่จะมีลูกชายโตขนาดนี้ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ฮยอนซึงติดใจ
     
     
     
    เอ คนๆ นี้ เคยเห็นที่ไหนนะ? (ความคิดฮยอนซึง)
     
     
     
    ยังเด็กอยู่เลยนี่ เป็นพ่อคนซะแล้ว (ความคิดดูจุน)
     
     
     
    แต่ หน้าตาน่ารักดีนะ ^w^ (ความคิดของดูจุนอีกครั้ง)
     
     
     
    “อืม ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมโยซอบครับ” 
     
     
    “ยินดีครับคุณโยซอบ ผมฮยอนซึง เป็นอาของอูยอง ส่วนนี่เพื่อนผมดูจุนครับ” ฮยอนซึงแนะนำตัวเองกับคุณพ่อตัวเล็ก สายตาแสดงความสนใจอย่างเปิดเผย จนดูจุนสังเกตุได้
     
     
    “ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” โยซอบบอกลาแล้วพากีกวังและฮงกีเดินออกไปจากร้าน โดยมีอูยองและฮีชอลที่กระโดดโบกมืออำลาเพื่อนตัวน้อยของเขาอยู่เหยงๆ...ฮงกีมองลอดผ่านข้างหูของโยซอบแล้วก็โบกมือตอบกลับมา
     
     
    “เฮ้ย นายจะมองหาอะไรวะ เขาออกไปนานแล้ว” ดูจุนทักขึ้นเมื่อเห็นว่าฮยอนซึงยังคงมองไปยังประตูที่โยซอบเพิ่งเดินออกไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด
     
     
    “ทำไม? นายชอบแบบนั้นเหรอ? ฮยอนซึง” ดูจุนมองตามไป รู้สึกได้ว่ามันต่างกับน้องชายดงอุนของเขาแบบสุดขั้วเลย
     
     
    “เฮ่อะ เปล่าหรอก ฉันแค่คุ้นหน้าน่ะ”
     
     
    “มาแล้วคร้าบบบบ น้ำของพี่ชายสุดที่เลิฟ…อ้าว มองไรกันอ่ะ” ดงอุนมองตามอย่างสงสัย ประตูที่มีรูปตัวเอ็มสีเหลืองนี่มันน่าดูตรงไหน
     
     
    “เฮ้ย ไอ้ดงอุน นายปตั้งนาน ได้น้ำเปล่ามาเนี่ยนะ” ดูจุนมองแก้วน้ำเปล่าอย่างไม่เชื่อสายตา ถึงจะบอกว่าอะไรก็ได้ก็เถอะ แต่ไม่คิดฝันว่ามันจะประเคนน้ำเปล่ามาให้
     
     
    “ก็แถวมันยาวอ่ะ กลัวพี่ชายรอไม่ได้ เลยขอแก้วพนักงานไปกดน้ำมาให้”
     
     
    “กดจากไหนวะ”
     
     
    “ก๊อกน้ำล้างมือ” ตอบอย่างไม่ยินดียินร้ายแล้วหันไปถามฮยอนซึง “พี่ฮยอนซึงอยากได้อะไรเพิ่มมั้ยครับ เดี๋ยวผมจัดให้” ดูจุนมองทั้งสองคนอย่างเบื่อหน่าย
     
     
     
    เวรมากครับไอ้น้อง!
     
     
     
    ดูจุนได้แต่คิดในใจว่าเขาทำอะไรผิดไปนักหนานะวันนี้ ทั้งฝูงปีศาจและทั้งไอ้น้องบ้าผู้ชาย ฮึ่ม! ประสาทจะกินกบาลยูนดูจุน
     
     
    “เฮ้ยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!”
     
     
    “พี่ฮยอนซึง/ไอ้ฮยอนซึง” สองพี่น้องกระตุกตกใจ เมื่ออยู่ๆ ไอ้สวยก็ส่งเสียงดังออกมา
     
     
    “ค...คนนั้น คุณโยซอบคนนั้น” ฮยอนซึงพยายามรื้อความจำของตัวเอง เขาคิดเอาไว้แล้วเชียวว่าคนๆ นี้มันคุ้นตา แล้วเขาก็นึกออกจนได้
     
     
    “ทำไม? อะไร? ยังไง?” เพื่อนตัวโตเริ่มที่จะงงหนักและเขาก็เห็นหน้าของดงอุนที่แสดงความงงไม่ต่างกัน
     
     
    “ดูจุน โยซอบน่ะ ฉันเคยเจอเขาล่ะ” ฮยอนซึงบอกด้วยน้ำเสี้ยงตื่นเต้น
     
     
    “แล้วไงวะ” แล้วไง เคยเจอแล้วยังไง
     
     
    “เด็กคนนั้น เด็กที่ฉันเจอที่งานศพของซูยัง”
     
     
    “…….” 
     
     
    สีหน้าขอดูจุนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ไอ้ที่ว่าหน้าขมวดเพราะมึนงงเมื้อกี้ ตอนนี้ขมวดเครียดยิ่งกว่า เพราะชื่อที่ฮยอนซึงเอ่ยออกมา 
     
     
     
    อีซูยัง!
     
     
     
     
    ++++ Hide and Seek ++++
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×