ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF-BEAST] TENNIS: มาหวดกันสักยก (JunSeung)

    ลำดับตอนที่ #1 : Round 1 - Yoon Doojun VS Jang Hyunseung

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 57


    TENNIS
    #Round 1
    (Doojun VS Hyunseung)
     



     
    “ฮ๊าว ง่วงจังเลย”

     
    ปากบางเปิดกว้างรับอากาศเข้าออกแล้วอย่างเบื่อหน่าย มือไม้ไม่จำเป็นต้องยกขึ้นป้องเพื่อปกปิดความบิดเบี้ยวของหน้าตาเพราะอย่างไรเสียตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในที่ที่พลุกพล่านนัก ชายหนุ่มผอมเพรียวนอนทอดตัวไปกับเก้าอี้ยาวข้างสนามฟุตบอลที่ไร้เงานักกีฬา ดวงตาใสกระพริบมองท้องฟ้าเบื้องบนอย่างเลื่อนลอย ลมเย็นพัดมากระทบพอให้เส้นผมสะบัดพริ้ว บ่ายวันนี้ทำไมมันถึงน่าหลับตานอนนักนะ นี่ถ้าไม่ติดว่ามีเรียนในช่วงเช้า เขาคงนอนห่อตัวมิดอยู่บนเตียงอย่างมีความสุขกว่านี้

     
    “ยู้ฮู ฮยอนซึงจ๊ะจ๋า มานอนอะไรแถวนี้ล่ะจ๊ะที่รัก”
     

    ทั้งที่ตาปรือใกล้จะได้ไปเฝ้าพระอินทร์แล้วแท้ๆ แต่ร่างบางจำต้องโงหัวขึ้นมองหาต้นเสียงที่เรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงแสนกระแดะ พอเจอก็แบะปากใส่พอเป็นพิธีก่อนจะเอนหัวหลับตานอนอย่างไม่อยากจะสนใจ ก็เพื่อนคนนี้มันชอบนำพามาแต่ความไร้สาระ จางฮยอนซึงเลยไม่ค่อยอยากจะคุยด้วยสักเท่าไหร่

     
    ตุ่บ
     

    “เฮ้ ฮยอนซึง นายอย่ามาเมินฉันนะ” 
     

    ฮยอนซึงแกล้งปรือตามองอย่างไม่ใยดีใส่เพื่อนที่ตัวเล็กกว่าเขา มองกราดไปทั่วใบหน้าที่ยิ้มแป้น รอคอยว่าอีกคนมีธุระอะไรจะเอ่ยหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีตอบมากนอกจากปากที่ฉีกโชว์ฟันสวย ร่างบางจึงพลิกตัวไปอีกทางแบบชนิดที่ไม่ใยดีเต็มสูบ
     

    “ย๊า จางฮยอนซึง ไอ้ห่วย
     

    “เฮ่ย เรียกให้สวยดิ๊” ฮยอนซึงสะบัดตัวลุกขึ้นเมื่อสิ้นคำ
     

    “เออ จางฮยอนซึง ไอ้คนสวย พอใจยัง” ถึงคำตอบจะกวนส้น แต่ฮยอนซึงก็พอใจมากกว่าคำแรก 
     


    ไอ้ห่วย เกลียดคำนี้จริงๆ ให้ตาย


     
    “มีอะไรโยซอบ ฉันจะนอน” ไอ้คนสวยว่าพลางทำท่าจะนอนต่อ
     

    “ไปเล่นกันป่ะ” โยซอบออกปากชวนแล้วย่อตัวลงนั่งบนพื้นที่ที่เหลือบนเก้าอี้เพื่อกันไม่ให้ฮยอนซึงได้เอนตัวลงได้
     

    “เล่นอะไรของนายอีก”
     

    ฮยอนมองการกระทำอันไร้มารยาทนั้นอย่างเซ็งจิต แต่เขาก็ไม่คิดจะโกรธเคืองอะไรเพื่อนคนนี้มากมาย เขาและโยซอบเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กชนิดที่ว่าเรียนห้องเดียว นั่งติดกันมาตลอด ถึงขนาดเข้ามหวิทยาลัยแล้วพวกเขาก็ยังเรียนคณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยเดียวกัน และยังเป็นเพื่อนร่วมห้องกันอีก ทั้งสองคนต่างแกล้งกันเสมอเพราะรู้ว่าแต่ละฝ่ายต่างรู้ไส้กันดี


     
    ไส้ของยังโยซอบคือชอบแกล้งจางฮยอนซึง


     
    “เอาน่ะ ด่ะ...”
     

    “เฮ้ โยซอบ นายชวนฮยอนซึงหรือยัง” ฮยอนซึงหันขวับมองหนุ่มร่างโตอีกคนที่วิ่งแร่เข้ามาอย่างขัดจังหวะ กวาดตาเป๋ไปอีกนิดก็เจอร่างสูงอีกร่างที่เดินมาดนายแบบตามมาเนิบๆ
     


    ไอ้บ้าดูจุน กับ ไอ้เก๊กจุนฮยอง


     
    “ตกลงเอาไง ไปมั้ยจางเท็น” 
     

    ดูจุนที่เดินมาถึงก่อนทำหน้ากวนถาม แล้วไอ้จางเท็นนี่มันใคร? วงสนทนาเงียบไปชั่วครู่ ฮยอนซึงหันหน้ามองโยซอบที ดูจุนที
     

    “สรุป ฉันคือจางเท็น?” ฮยอนซึงชี้หน้าตัวเอง
     

    “ก็นายนั่นแหละเท็นเท็น ชอบเลขสิบไม่ใช่เหรอ จางเท็นเพราะดี ฉันตั้งใจ” คนที่มาถึงหลังสุดเฉลยให้ปริศนากระจ่างด้วยสีหน้ากวนอวัยวะที่ใช้เดินมากเสียยิ่งกว่าดูจุน
     

    ฮยอนซึงหันมองเจ้าของคำตอบอย่างไม่พอใจนัก ดูจุนและโยซอบเพิ่งสนิทกันตอนเรียนปี 2 เพราะโยซอบเข้าชมรมดนตรี ส่วนจุนฮยองเป็นซี้ของดูจุน แล้วก็ไม่อาจรู้เวลาที่แน่ชัดได้ จู่ๆ ไอ้สองหน่อนี่ก็เข้ามาร่วมก๊วนกับเขาและโยซอบไปแล้ว ตอนนี้ทุกคนเรียนอยู่ชั้นปีสุดท้ายแล้ว ถ้ามีใครมาถามว่าเหตุการณ์ไหนในชีวิตที่ฮยอนซึงอยากเปลี่ยนแปลง ร่างบางคงตอบได้อย่างเต็มเสียงว่า ‘เหตุการณ์ที่ทำให้รู้จักไอ้สองแสบนี่’
     

    “เอ่อ แล้วเล่นอะไร” ฮยอนซึงจิ๊ปากเคืองชื่อเล่นของตัวเองก่อนถามกลับ
     

    จุนฮยองยิ้มกริ่มพยักพเยิดให้ดูจุนเป็นคนตอบ ส่วนดูจุนก็ส่งทอดสายตาไปยังโยซอบ แต่สุดท้ายทั้งสามคนก็ตอบออกมาพร้อมกัน
     

    “เทนนิส!”
     

     
    
     



     
    ที่นี่ที่ไหน? และฉันมาทำอะไร?
     


    จางฮยอนซึงยืนมึนอยู่กลางคอร์ดเทนนิสที่ศูนย์กีฬาของมหาวิทยาลัย เขาถูกดูจุนและจุนฮยองหิ้วปีกขึ้นรถยนต์มินิคูเปอร์คันน้อยของจุนฮยอง โดยที่โยซอบซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ออโตเมติกของดูจุนตามมาอีกที หลังจากที่เขาเอ่ยปากปฏิเสธไม่เล่นเกมส์นี้เพียงไม่กี่เสี้ยววินาที
     


    แล้วนี่อะไร?


     
    ใบหน้าที่ค่อนข้างสวยไม่สมกับนิสัยแมนๆ มองปริบๆ ไปยังไม้แร็คเก็ตในมือที่ถูดยัดเยียดให้ถือโดยยงจุนฮยอง

     
    “ฮยอนซึงไฟต์ติ้ง!!!”
     

    ยิ่งงงเข้าไปใหญ่เมื่อหันไปเห็นโยซอบยืนเต้นแรงเต้นกาอยู่ติดกับจุนฮยองที่ข้างสนาม มองข้ามตาข่ายด้านหน้าไปเห็นยูนดูจุนชี้ไม้แร็คเก็ตมาเป็นเชิงท้าทาย
     


    อะไรวะ!


     
    “ฮยอนซึงอ่า มาเล่นกันเถอะนะ ฉันให้นายประเดิมก่อนเลย เกมส์นี้แพ้ออก” โยซอบป้องปากตะโกนจากระยะไม่ไกลนัก และถ้าฮยอนซึงตาไม่ฝาด เขาหันไปเห็นคนอีกคู่เดินตามมาสมทบ
     

    “อ้าว มาแล้วเหรอ ดงอุน กีกวัง” จุนฮยองหันไปทักทายปะมือกับทั้งคู่ ถ้าจำไม่ผิดสองคนนี่เป็นเพื่อนของจุนฮยองอีกที


    “อธิบายกติกาก่อนนะ” ดูจุนเอ่ยขึ้น

     
    “เกมส์นี้แค่นับแต้ม ใครได้ 5 แต้มก่อน คนนั้นชนะ คนแพ้เดินออกไป ให้คนที่ต่อคิวมาเล่นต่อ โอเค๊?” 
     

    ฮยอนซึงพยักหน้ารับคำ ท่าทางตอนนี้จะหนีไม่พ้นเสียแล้ว
     

    “เริ่มเลย ปี๊ดดดด” 
     

    สิ้นเสียงของยังโยซอบ ดูจุนก็เริ่มเสิร์ฟทันที
     


    โผล๊ะ!


     
    “1-0 ดูจุนได้แต้ม ฮยอนซึงสู้ๆ” เสียงโยซอบดังขึ้น หันไปแสดงหน้าตาชมเชยดูจุนนิดหน่อยและหันกลับมาส่งเสียงเชียร์ฮยอนซึงเหมือนเดิม
     

    ลูกเทนนิสกลิ้งกลุกมากระทบเท้ารองเท้าบู๊ทคู่สวยของฮยอนซึง เขาก้มลงเก็บมันขึ้นมาก็รู้สึกว่าไอ้กางเกงแฟชั่นเอวต่ำที่สวมอยู่มันหลวมนิดๆ ก่อนจะเบิกตานึกขึ้นได้เมื่อหันไปเห็นดูจุนที่สวมชุดกีฬาเต็มยศ 
     



    ยังโซอบก็ด้วย



     
    จุนฮยองก็ใช่



     
    ไอ้สองคนที่มาทีหลังก็นั่นอีก
     



    นี่ทุกคนเตรียมตัวมาพร้อมเลยนี่หว่า? มีเขาคนเดียวที่ยืนมาดเท่ห์ในชุดโฉบเฉี่ยวนำเทรนด์
     

    “เฮ้ย นี่พวกนายแกล้งฉันป่าวเนี่ย” 

     
    หลังตะโกนถามก็ได้ยินเสียงหัวเราะตามมาจากโยซอบ ประมาณว่าเพิ่งรู้สึกตัวเหรอวะ
     



    ใช่สิ ไส้ของยังโยซอบคือชอบแกล้งจางฮยอนซึง



     
    “เอาน่า เล่นไปเหอะ อย่าสนใจเลย” โยซอบโบกมือปัดความสนใจเรื่องการแต่งกายทั้งที่หัวเราะดังสนั่นหวั่นนไหวกว่าใครเพื่อน จะมีก็เพื่อนของจุนฮยองอีกสองคนเท่านั้นที่ยืนมองนิ่งด้วยสีหน้าว่าขบขันแต่เกรงใจที่จะหัวเราะ
     

    “ก็ได้ อยากเล่นกันนัก ฉันจะเอาจริงล่ะนะดูจุน” ฮยอนซึงยั๊วะจัด ชี้หน้าดูจุนอย่างคาดโทษ จากนั้นเริ่มโยนลูกเทนนิสขึ้นฟ้า
     


    ฟึ่บ


     
    ก้าก...”/ “เฮ่ย”/”พรวดดดด
     

    เสียงตอบสนองที่แตกต่างดังขรม โยซอบขำก้ากเอามือกุมท้องแทบยืนไม่อยู่ ดูจุนมองค้างอย่างไม่เชื่อสายตา จุนฮยองที่กำลังดื่มโคล่าอยู่ถึงกับสำลักพรวด ส่วนฮยอนซึงก็ยืนเอ๋อรับประทานอยู่ที่เดิม

     
    “ไม้ไม่มีตาข่ายป่าววะ” เสียงดงอุนแอบกระซิบกับกีกวัง มันเบาหวิว แต่จางฮยอนซึงก็ได้ยิน


     
    อับ-อาย


     
    ที่นี้รู้หรือยังว่าทำไมเขาถึงไม่ตกลงเล่นแต่แรก ทำไมโยซอบเรียกเขาว่าไอ้ห่วย เพราะพ่อแม่ของเขาไม่ได้อัดเซนส์เรื่องกีฬามาให้ทางรหัสพันธุกรรมเลยน่ะสิ ฮยอนซึงหลับตาปี๋ด้วยความอายหลังโชว์ลูกหวดลม ลูกเทนนิสลูกเดิมกลิ้งมากระทบรองเท้าเขาอีกครั้ง ร่างบางก้มมองอย่างเคียดแค้น
     


    ไอ้ลูกเทนนิส แกสมควรตาย!


     
    “เสิร์ฟเลยฮยอนซึง ลูกอยู่ที่ใครคนนั้นได้เสิร์ฟ สู้ๆ” กติกาบ้านไหนของยังโยซอบกันล่ะหนอ
     

    ร่างบางก้มลงหยิบลูกกลมสีเขียวแล้วเสิร์ฟอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ไม่พลาด


     
    ผั่วะ 


     
    ดูจุนโต้กลับ


     
    โผล๊ะ!


     
    ถ้าเสียงมาประมาณนี้ก็ไม่ต้องสงสัย ยูนดูจุนได้แต้มอีกแล้ว!

     
    “2-0 เย้ นายเก่งจังดูจุน ฮยอนซึง ตีเสมอให้ได้น๊า” หันไปชมดูจุนแล้วหันมาให้กำลังใจฮยอนซึงราวกับภาพเดจาวู นายจริงใจหรือเปล่ายังโยซอบ


     
    ผั่วะ


     
    โผล๊ะ!


     
    ผั่วะ


     
    โผล๊ะ!


     
    “เอ่อ”

     
    “4-0”

     
    โยซอบยิ้มแห้งแจ้งคะแนนอันแสนอัปยศเสมือนเป็นการตอกย้ำใช้ชอกช้ำใจเล่น นี่ยังไม่นับประโยคทำร้ายจิตที่ออกมาจากปากของจุนฮยองนะ
     

    “เฮ้ จางเท็น นายกระจอกจัง”
     

    ฮยอนซึงเม้มปากแน่น อยากจะร้องไห้และบินหายไปจากตรงนี้ ยิ่งหันไปเห็นจุนฮยองที่นั่งอมยิ้มมองอยู่ก็ยิ่งอายเข้าไปใหญ่ เอ๊ะ แล้วทำไมต้องอายเพิ่มด้วยล่ะ ? ฮยอนซึงส่ายหัวสลัดความคิดบ้าบอก่อนจะตีลูกเสิร์ฟ
     


    ผั่วะ


     
    “4-1 เย้ ฮยอนซึงได้แต้มแล้ว เย้”

     
    ฮยอนซึงตะลึงตาค้าง จะว่าดีใจก็ใช่อยู่หรอก ในที่สุดเขาก็ตีไข่แตกเสียที หันไปมองข้างสนามเห็นโยซอบกระโดดแท็คมือกับจุนฮยองแล้วมันก็น่าปลื้มใจนิดนึง ถึงจะแอบเห็นว่าท่าทางตีลูกของดูจุนจะแปลกกว่าเดิมก็เถอะ

     

    โฮ๊ะ

     

    แต่แล้วฮยอนซึงก็ไม่เข้าใจถึงรอยยิ้มแปลกๆ ของดงอุน และท่าทางของกีกวังที่แอบชูนิ้วโป้งให้ดูจุนนั่นมันคืออะไร?
     

    “เฮ้ ฮยอนซึง ฉันจะตีแล้วนะ”
     

    ดูจุนบอกให้ฮยอนซึงเตรียมตัว อืม ช่างเป็นผู้เล่นที่มีจรรยาบรรณ
     


    ผั่วะ
     


    ผั่วะ


    โผล๊ะ!
     


    “ได้อีกแต้ม ฮ่า” ฮยอนซึงกำมือชูเหนือหัวด้วยความฟิน
     


    คึคึ


     
    ฮยอนซึงที่กำลังยิ้มแก้มปริที่ทำคะแนนได้อีกครั้ง ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงคิกคักจากข้างสนาม หันไปก็เห็นจุนฮยองอมยิ้มแปลกๆ ส่งทุกที ชักจะไม่ปรกติซะแล้ว ร่างบางกวาดตาสำรวจตัวเองและรอบข้างอย่างระแวง
     


    คึคึ


     
    “นี่นายหัวเราะอะไร”
     

    เพราะจุนฮยองเป็นคนเดียวที่ทำให้ฮยอนซึงเหม็นขี้หน้าเป็นพิเศษ จึงถูกถามขึ้นมาอย่างหาเรื่อง ทั้งๆ ที่ทุกคนก็หัวเราะกันทั้งนั้น จุนฮยองเหล่ตาไปทางคู่ดวลเทนนิสของเขา ฮยอนซึงมองตามเห็นดูจุนยืนยิ้มหวดไม้แร็คเก็ตไปมาด้วยมือขวา


     
    เดี๋ยวนะ


     
    มือขวา
     


    ยูนดูจุนถนัดซ้ายนี่
     


    ดูจุนยักคิ้วใส่ยกมือขวาโชว์เมื่อทราบแน่ว่าร่างบางคงพบแล้วว่ามีอะไรผิดปรกติไป เล่นเอาอีกคนหน้าขึ้นสีแดงจัด หันไปมองทุกคนราวศัตรูคู่อาฆาต 
     


    ถ้าจะดูถูกกันขนาดนี้ละก็


     
    “อ๊าก....เอาจริงแล้วนะโว้ย”
     



    ผั่วะ


     
    โผล๊ะ!
     


    “5-2 ยูนดูจุนชนะ!”

     
    ภาพโยซอบกระโดดกอดดูจุนมันช่างน่าประทับใจ ดงอุนและกีกวังพยายามหันหลังหลบไม่ให้เขาเห็นว่ามีสีหน้าอย่างไร ว่าแต่ตัวสั่นซะขนาดนั้นมันยังไง แทบไม่อยากมองเลยว่าตอนนี้ยงจุนฮยองจะมีปฏิกิริยาแบบไหน 
     

    ร่างบางทำใจเหลือบไปมองทางที่จุนฮยองอยู่ แต่กลับเจอเก้าอี้ว่าง และก่อนที่ฮยอนซึงจะทันได้ตั้งคำถามว่าอีกคนไปไหนก็หันไปเห็นพอดีว่า
     


    ยงจุนฮยองขำกลิ้งอยู่บนพื้นถัดจากเก้าอี้ตัวนั้นไปติ๊ดนึง
     
     
    ที่นี่ที่ไหน? แล้วฉันมาทำอะไรที่นี่วะเนี่ย?

     
     
    




    TALK

    ฟิคเรื่องนี้มีเพียงฉากกุ๊กกิ๊ก ถือว่าใสกริ๊งเลยแหละ
    ปลอด NC ล้านเปอร์เซ็นต์ *เป็นฟิคเด็กดีเต็มสตรีม*
    เดากันมั้ยว่า Round 2 จะเป็นคู่ของใคร หุหุ เดาไม่ถูกหรอก เชื่อดิ่



     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×