ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FanFic TVXQ] Maybe it's ...

    ลำดับตอนที่ #2 : Track 1 :: My Destiny

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 49


    Track 1 :: My Destiny

    Another day, another night.. Now I'm living without your love..
    ต่างวัน, ต่างคืน.. เวลานี้ ฉันอยู่โดยปราศจากความรักของคุณ..

    แว๊บ!

    ปั่ก! อั๊ก! โครม!

    “เอ้ย!!” ทั้ง 5 หนุ่มซึ่งกำลังทำกิจกรรมต่างๆในห้องนั่งเล่นต้องตะโกนด้วยความตกตะลึงขึ้นพร้อมๆกัน.. เนื่องจาก

    พัชชา..โผล่ไปยืนโงนเงนบนโซฟาข้างๆจุนซุที่กำลังดูทีวี

    และก่อนที่ญาดา.. จะตกลงมากระแทกพื้น เธอได้คว้าหนังสือที่ชางมินกำลังอ่านอยู่ตามลงมาด้วย หนังสือจึงอยู่ในสภาพฉีกขาด..

    เมพิณ.. โผล่ไปอยู่ตรงบาร์จับที่มุมออกแบบท่าเต้นของยุนโฮ

    มาริสา.. ซึ่งมีความสามารถการทรงตัวสูง ตกลงพื้นอย่างนุ่มนวล และ.. บังจอทีวีที่จุนซุกำลังดู.. เต็มๆ

    ส่วนเรมิน.. โผล่ไปนั่งตรงที่เท้าแขนของโซฟาที่ยูชุนกำลังนั่งเล่นเกมบอยอยู่ แต่..จากการเสียหลักเล็กน้อย ทำให้เธอหงายหลังลงไปใส่เกมที่ยูชุนกำลังเล่น..

    สาชล.. แว๊บไปอยู่บนถาดอาหารที่แจจุงกำลังจะยกมาเสิร์ฟพวกกระเพาะใหญ่ทั้งหลาย.. คงจะไม่ต้องบรรยายสภาพที่เกิดขึ้น

    และ สุดท้าย.. ไอริน ไปโผล่ในทำเลทอง บนตู้โชว์ความสูงมากกว่าชางมินที่ตั้งอยู่ข้างๆตำแหน่งที่อาหารของแจจุงถูกทำลาย.......

    “เฮ้ย!! บังเกมหง่ะ ตายเลยง้า!!! =[]=**” ยูชุนโวยวายขึ้นมาคนแรก((ตอนนี้จะเป็นภาษาเกาหลีแต่มีซับไทยบริการฟรีค่ะ - -“))

    “เฮือก =O=” จุนซุหันหน้าเอ๋อๆไปทางขาของพัชชา และ..

    “เฮือก =[]=” จุนซุหันหน้าเอ๋อๆกลับมามองทางจอทีวีที่มีมาริสายืนบังอยู่เต็มๆ!

    “- -“” ยุนโฮยืนอึ้งอยู่หน้าบาร์จับ..

    “..เกิดอะไรขึ้นกับหนังสือ” ชางมินพึมพำพร้อมกับมองลงไปที่พื้น

    “....” แจจุงยืนจ้องเศษซากขนมที่เคยอยู่บนถาด แต่บัดนี้ลงไปนอนเล่นอยู่ภายใต้เด็กผู้หญิงสติแตกคนหนึ่ง..

    “มันเกิดอะไรขึ้น” จุนซุพูดขึ้นอย่างเนิบๆ

    “เฮ้ย! มาได้ไง!” ยูชุนแหกปากโวยวายหลังจากนึกได้ว่าตัวเองต้องเล่นเกมตายเพราะอะไร.. ทำให้ทุกคนเริ่มรับรู้ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบๆตัว..

    after that…
    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกก TOT ขอโต๊ดดดดด โทษค่า!! ฮือๆๆๆ T^T” ((ไทย))

    “เง้อ =O=” ((เกาหลี))

    “…” ((เกาหลี))

    “พ.. พวกแก๊!!!! T_T” ((ไทย))

    “เอ่อ = =”” ((เกาหลี))

    “หนังสือออออออออ!! TOT” ((ไทย))

    “ตอนนี้มันคืออะไรที่ไหนง้า ว้ากกกก T^T” ((ไทย))

    “เฮ้ย!! เกิดอะไรขึ้น!!!!” ((เกาหลี))

    “เดี๊ยว! ทุกคนโปรดฟัง..” ((เกาหลี))

    “ย๊ากกกก ว๊ากกกกกกกกก จ๊ากกกกกกกกกกก!!!!” ((ไทย))

    “อ๊ากกกกกกกก มาได้ยังไง พวกนี้เป็นใคร!!” ((เกาหลี))

    “เฮ้ย!! สงบสติอารมณ์กันก่อน =O=!!” ((ไทย))

    “...” ((เกาหลี))

    “ขอโทษค่า!! อ๊ากกกกก TTOTT” ((ไทย))

    “นี่มันคืออะไร ที่ไหน อย่างไร T_T ทู๊กโค้นนนนนนน” ((ไทย))

    “โปรดฟังงงง!! เงียบๆกันหน่อย! อย่าเพิ่ง..” ((เกาหลี))

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ช่วยด้วย!!!!” ((ไทย))

    เพล้งๆๆๆ!! โครมมมมมมม!!

    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!”

    “โอ๊ยยยย! เงียบกันได้ซะที๊”  นางฟ้าโบอาปรากฏกาย((อีกครั้ง)) พร้อมทั้งเครื่องสำอางค์ครบเซ็ท..

    “แล้วหล่อนจะแหกปากทำไมย้า!” ว่าเสร็จก็หันไปตวาดใส่มนุษย์อ๊ากโครมและได้เห็นสภาพไอรินนั่งร้องครวญครางอยู่ที่พื้น ข้างๆตู้โชว์ที่เธอเคยอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ =__=” ตอนนี้มันกลับกลายเป็นแค่เศษแก้วและเศษไม้ธรรมดากระจัดกระจายอยู่บนพื้นข้างๆเศษซากขนมซึ่งอยู่ในสภาพใกล้เคียงกัน..

    “โอ๊ะ! จริงๆเล้ย พวกนี้นะ..” นางฟ้าโบอาจุ๊ปากพร้อมกับเอามือมากอดอกเต๊ะท่าอย่างเท่ห์ “..จะนอนอยู่ทำไมยะ! ขึ้นไปเซ่!” เธอสะบัดหน้าไปทางตู้โชว์ที่เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วเกือบล้มทับไอริน.. เหมือนรู้หน้าที่.. ตู้โชว์นั้นได้ทำการซ่อมแซมตัวเองพร้อมๆกับลอยขึ้นไปตั้งอยู่ในสภาพเดิมเรียบร้อย สิ่งของอื่นๆที่เสียหายก็ทำการซ่อมแซมตัวเองเช่นกัน สุดท้าย สิ่งที่ยังคงพัง.. เอ๊ย.. นั่งอยู่ ก็คือไอริน

    “อ๊ากกกกกกกกกกก เจ็บ จอร์จจจจจจจจจจจจ TOT” ไอรินครวญครางอย่างหมดสิ้นหนทาง

    “เฮ้อ.. ชั้นคิดผิดรึเปล่าน้า - -“ เธอนอนอยู่อย่างงั้นแล้วกันนะยะ” นางฟ้าโบอาหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจเล็กน้อย

    “เอ้า ฟังชั้นให้ดีๆนะ! พวกเด็กสติแตกที่เข้ามาในบ้านเธอน่ะ ชั้นเป็นคนส่งมาเองย่ะ..” นางฟ้าโบอาเริ่มอธิบายด้วยภาษานางฟ้า? ที่สิ่งมีชีวิตทั่วโลกฟังรู้เรื่อง..

    “เฮ้ย!! โบอา.. มาได้ยังไง” แจจุงซึ่งได้สติเป็นคนแรกถามขึ้นเป็นภาษาเกาหลี ((มีซับไทย))ซึ่งพวกเด็กสติแตกทั้งหลายฟังไม่รู้เรื่อง

    “พวกเธอนี่ยุ่งกันจริงๆเล้ย! ก่อนอื่น ฉันจะทำให้พวกเธอพูดกันรู้เรื่อง..” พอพูดจบเธอก็ดีดนิ้ว((ส่งผลให้สมองของสิ่งมีชีวิตภายในบ้านเกิดเสียงครืดคราดภายในและมีแสงวูบวาบเล็กน้อยส่องผ่านเข้าสู่ม่านตาก่อนจะได้รับภาษาสำเร็จรูปส่งตรงเข้าสู่เซลล์สมอง))

    “..ด้วยภาษาอังกฤษ ไทย เกาหลี ตอนนี้พวกเธอคุยกันได้แล้วนะยะ และ.. ตั้งแต่วันนี้พวกเด็กสติแตก 7 คนนี้จะมาอยู่บ้านพวกเธอ..” นางฟ้าโบอาชี้นิ้วไปที่ 5 หนุ่มด้วยท่าทางกรีดกรายและพูดต่อไปด้วยความเร็วสูงว่า

    “..เมื่อมีเด็กสติแตก 7 คนมาอยู่บ้านนี้ ก็ต้องมีข้าวของเครื่องใช้ด้วย..” สิ้นเสียงตบมือหนึ่งครั้งของนางฟ้าโบอา สิ่งมีชีวิตทั้งหมดภายในบ้านก็แว๊บไปอยู่บนชั้นสอง

    “..สำหรับพวกเธอ 5 หนุ่ม เคยนอนที่ไหนก็นอนที่นั่น ส่วนพวกเธอเด็กสติแตกทั้ง 7 คน ชั้นจัดไว้ให้แล้ว 3 ห้อง ไปดูเอาเองก็แล้วกัน.. อ๊ะ! อย่าแม้แต่จะคิดอ้าปากถาม ชั้นมาเพื่ออธิบาย ไม่ได้มาเพื่อตอบคำถามใครย่ะ เอาหล่ะ ภายใน 100 วัน ห้ามพวกเธอคนใดคนนึง หลายๆคนหรือทุกคน ย้ายหนีหรือฆ่าตัวตายเด็ดขาด!! อืม หมดเวลาของชั้นแล้วสิ แล้วพวกเธอก็จะได้รู้อะไรมากขึ้นเองหล่ะ อีก 100 วันเจอกัน โชคดี..” และ ยังไม่ทันจะสิ้งเสียงคำว่า ‘โชคดี’ นางฟ้าโบอาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย..

    ............เฮือก............

    “Good Luck” ยูชุนพูดขึ้น แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องของตัวเองหน้าตาเฉย

    O__O” แจจุงทำหน้างงๆและพูดว่า “อืม งั้นตอนเช้าฉันจะทำอาหารให้กินนะ หวัดดีครับ ^^” พอพูดเสร็จก็เดินกลับเข้าห้องไปอีกคน

    “ยินดีที่ได้รู้จักครับ ^-^ ผมชิมชางมิน” และชางมินก็เข้าไปหมกตัวในห้องอีกคน

    “เล่นเกมเป็นใช่มะพวกเธอ ^^ พรุ่งนี้มาเล่นด้วยกันนะ หาวววววววว =O=” และจุนซุก็เดินกลับห้องตัวเอง

    “..... ราตรีสวัสดิ์ครับ.......” สุดท้าย.. ยุนโฮก็เดินจากไป.......ฟิ้ว~~.. เหลือไว้แต่เด็กสติแตกที่ยังยืนเอ๋ออยู่ที่เดิม..

    ผ่านไป 10 วินาที..........

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น่ารักมากมาย อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ทำไมทงบังน่ารักอย่างนี้ >O< กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ” พลังความบ้าทงบังถูกปลดปล่อยออกมาทันที.. =_______=

    “แล้วห้องนอน.. ??” ญาดาเริ่มได้สติ และเริ่มจัดการกับชีวิตของตนเองและคนอื่นๆ

    “จะนอนกับพี่สาว =[]=” สาชลเข้าไปเกาะแขนเมพิณ.. “เอิ๊กๆ น้องสาว =O=” และพากันเดินเตาะแตะเข้าไปในห้องไหนซักห้องนั่นแหล่ะ = =”

    เด็กสติแตก 7 คนอยู่ตรงทางเดิน เข้าห้องไป 2 คน เหลือเด็ก 5 คน

    “ฮึ่ม =_=++ อย่าแยกเราจากกัน” เรมินทร์กับมาริสาวิ่งปราดเข้าไปอีกห้อง..

    เด็กสติแตก 5 คนอยู่ตรงทางเดิน เข้าห้องไป 2 คน เหลือเด็ก 3 คน

    “แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม = =” สุดท้ายแล้ว.. ทั้ง 3 คนที่เหลือก็เดินเข้าไปยังห้องที่เหลือ

    เด็กสติแตก 3 คนอยู่ตรงทางเดิน เข้าห้องไป 3 คน เหลือเด็ก 0 คน~~~~~ 

    -----

    13 กุมภาพันธ์ 2007

    “จิ๊บๆๆๆๆๆๆ แว๊บโครมๆๆๆๆๆ!!” เสียงนกร้อง และพระอาทิตย์สาดส่องชนอาคารบ้านเรือนดังขึ้นในตอนเช้า

    “= = เฮ้” มาริสาเชคๆตัวของเรมินทร์

    “=O= หื้อ บาร์เทนเดอร์... เอ้อ สานี่เอง”

    “ตื่นแล้วลงไปข้างล่างกันเถอะเร” พอพูดเสร็จมาริสาก็ทำท่าว่าจะเดินไปอาบน้ำ แต่..

    “หา อือ ตื่น โอเค แกอาบน้ำเสร็จแล้วมาปลุกอีกรอบนะ = =”

    “กำ -__-“”

    ผ่านไป 20 นาที ขณะนี้เวลา 7.30 น. เกาหลี..

    “เฮ้ย! แก แจจุงตื่นแล้ว >O< อ๊ากๆๆๆๆๆๆ อาหารเช้า”

    “แก พูดเบาๆดิ เดี๊ยวคนอื่นเค้าก็ได้ยินหรอก เฮ้ย!! แกดูนั่น ชางมินกำลังวิ่งอยู่ตรงน้าน”

    “เฮือกๆๆๆ ทำไงดี ไม่กล้าลงไปหง่ะสา แต่.. หิว!! เมื่อวานตอนเย็นไม่ได้กินอะไรเลยนะ T^T”

    “อ้าว ทำไมไม่ลงมากันหล่ะ O_O?” ยุนโฮที่กำลังจะเดินไปทานอาหารเช้าฝีมือแจจุงต้องหยุดชะงักอยู่หน้าบันได เมื่อเห็นเด็กสติแตก 2 คน กำลังด้อมๆมองๆสิ่งมีชีวิตด้านล่าง..

    "อ่าค่ะๆ ^^ ก็ว่ากำลังจะลงไป เนอะๆ" มาริสาหันไปส่งยิ้มให้ยุนโฮ และหันมาส่งสายตาประมาณว่า 'ตามมานี่นะเว้ย -_-++' ให้เรมินทร์ - -“ เธอจึงเดินตามมาริสาลงไปอย่างจำใจเล็กน้อย

    ขณะนี้ แจจุงกำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัวอย่างขะมักเขม้น เพื่อให้เพียงพอต่อเจ้าบ้านและแขกบ้านแขกเมืองจำนวนมากที่มาโดยไม่ได้รับเชิญ ชางมินกำลังออกกำลังกายช่วงเช้าโดยการวิ่ง วิ่ง และวิ่งอยู่ในโซนฟิตเนสของบ้าน และยุนโฮ มาริสา เรมินทร์กำลังเดินเข้าไปในครัว.. ส่วนสิ่งมีชีวิตที่เหลือ ก็กำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอนของตัวเอง..

    "หงาววววว =O= เช้าแล้ว =_=" จุนซุน้อยๆนั่งตาปรืออยู่บนเตียง มองไปรอบๆห้องพลางทบทวนว่าวันนี้จะเล่นอะไรดี ในเมื่อเหลืออีกแค่ 5 วันในการพักร้อนครั้งนี้

    ใช่แล้ว.. ตอนนี้มีแขกที่ไม่มีใครเชิญมาเยือน เขาต้องไปสำรวจเสียหน่อยว่าพวกเขาตื่นกันหรือยัง คิดแล้ว คนที่ดูเหมือนจะเด็กสุดในบ้านหลังนี้((ไม่รวมพวกเด็กสติแตก)) ก็เดินเตาะๆแตะๆไปตามโถงทางเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องห้องหนึ่งที่ใกล้ที่สุด..

    "... อรุณสวัสดิ์ครับ ^^" ไม่มีสัญญาณตอบรับจากห้องที่เขาเรียก...

    'สงสัยจะยังไม่ตื่นแฮะ' เขาคิด ทำท่าว่าจะไปห้องต่อไป แต่แล้วก็ได้ยินเสียงงึมงำ จับใจความได้เป็นภาษาอะไรซักอย่าง เหมือน... บทสวดมนต์... สวดมนต์? หรือใครจะทำคุณไสยอะไรใส่เขา เพื่อนๆของเขา หรือว่าเด็กพวกนั้น?!!!!?

    แกร่ก แอ๊ด

    "อ้าว ประตูไม่ได้ล็อคนี่นา เอ้ย!!! ใครพูดอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ!!!!!!" ทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในห้องได้ เขาก็เห็น... หญิงสาวคนหนึ่งนั่งพนมมือและพึมพำอะไรซักอย่างอยู่หน้ากระจก..

    "อ้อ อรุณสวัสดิ์ ^^" เมื่อญาดาเห็นหน้าจุนซุน้อยๆ ((ซึ่งทำหน้าเอ๋อแตก)) ก็หันไปทักทายพอเป็นพิธี ก่อนจะลุกขึ้นยืน ทำท่าจะเดินออกไปนอกห้อง

    "เดี๋ยว เมื่อกี้เธอทำอะไร =_=+" จุนซุรีบวิ่งเข้าไปขวางไว้ ใครจะมาทำอะไรที่บ้านเขา เขาไม่ยอมให้ออกไปไหนแน่นอน!!!

    "อ่า เอ่อ... ก็ คือ"

    "เธอจะทำลายบ้านนี้!!!!!!! เหรอ?"

    "=[]= อ่า คือว่าเราตื่นนานแล้ว แต่ไม่กล้าออกไปง่า ก็ดูสภาพเพื่อนเราสิ" เธอบุ้ยหน้าทางไปเพื่อนสาวทั้ง 2 ของเธอที่ตอนนี้นอนก่ายแข้งก่ายขากันอยู่บนเตียง...

    "เราก็เลย...นั่งสมาธิ แล้วก็แผ่เมตตา ^^”"

    "นั่งสมาธิ? แผ่เมตตา? คืออะไรหรอ •_•?" ก็เขาไม่ใช่ชาวไทย และไม่ใช่ชาวพุทธด้วยนี่นา

    "ก็คือ นั่งเฉยๆ กำหนดลมหายใจเข้าออก อะไรทำนองนั้นน่ะ แผ่เมตตาก็แผ่ส่วนบุญ ก็เอ่อ... ประมาณนั้นแหล่ะ^^" เธอพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจมากที่สุด

    "อ่าฮะๆ^^" ทำท่าเข้าใจไปงั้นแหล่ะ ที่จริงในหัวคิดว่า'มันคืออะไรหว่า =_='

    "ตอนนี้พี่แจจุงคงนั่งรอกินข้าวในครัวแล้ว เธอปลุกเพื่อนแล้วก็ลงไปนะ"

    "อ่า ค่ะๆ ^^""

    แล้วก็เดินออกมาจากห้องนั้น ไปห้องถัดไป

    "อรุณสวัสดิ์คร้าบ ^O^"

    .... เงียบ~~~~

    "สวัสดีตอนเช้าคร้าบ >[]<"

    .... เงียบ.....

    สงสัยจะออกไปกันหมดแล้วมั้ง เขาคิด แต่เพื่อความแน่ใจ เขาก็เลยแนบหูกับประตู

    .... ยังคงไว้ซึ่งความเงียบ.... แต่ก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดี จึงต้องแนบทั้งหูทั้งหน้า ....ผ่านไป 10 วินาทีก็ยังเหมือนเดิม จนเขาต้องแปะทั้งตัวเข้าไปที่หน้าประตู...

    แล้วก็อยู่อย่างนั้นแหล่ะ = =" จนผ่านไป 2 นาทีเศษๆ

    "เห้ยยย นายจะทำอะไร!!!" ยุนโฮที่ออกจากครัวมาเข้าห้องน้ำรีบวิ่งขึ้นมาดึงตัวคนที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่แน่ใจกับความเงียบ - -" ออกจากประตูห้องที่เริ่มจะยุบลงไปนิดหน่อยแล้ว

    "ก็... เห็นห้องเงียบ เลยจะฟังเสียง เผื่อมีใครสาปแช่ง เอ้ยๆ คือกะว่าจะมาปลุก แล้วก็.."

    "พอๆ -_- พวกห้องนี้เขาลงไปทานข้าวหมดแล้ว" ยุนโฮเบรกบทบรรยายของจุนซุที่ไม่ว่าจะฟังยังไงก็ไม่ค่อยจะจับใจความได้ซักเท่าไหร่

    "อ้อเหรอ ^^' งั้นไปปลุกห้องต่อไปนะ" ว่าแล้วก็เดินไปตะโกนคำเดิมๆ ด้วยใบหน้าเดิมๆ หน้าห้องสุดท้ายที่เหลืออยู่

    "=_=" ยุนโฮเหนื่อยใจกับท่าทางไร้เดียงสากับมารยาทการต้อนรับแขกเอ๋อๆของจุนซุน้อยๆจริงๆ เลยปล่อยไว้อย่างนั้นแหล่ะ ปล่อยให้ต้อนรับพวกเด็กสติแตกต่อไป

    "หืม -_-" เมพิณเดินมาเปิดประตูห้องเมื่อได้ยินเสียงใครซักคนมาเอะอะโวยวาย โดยที่มีสาชลเดินเกาะหลังติดมาด้วย.. "พี่ฉาวง่ำๆ-O-" และดูเหมือนว่าจะยังไม่ตื่นเสียด้วยสิ - -"

    "เอ้อ เช้าแล้วครับ ^^ ไปกินข้าวกันนะครับ ^^" จุนซุยิ้มรับทั้งคู่ ((แต่สาชลมองไม่เห็นเล้ย - -))
    เฮือก.. เซีย OoO เมพิณตาสว่างขึ้นในทันใดเมื่อเห็นหนุ่มน้อยยืนยิ้มหน้าแป้น เธอรีบเอามือสางผมให้เรียบร้อย และยิ้มตอบกลับไป

    "^v^ สวัสดีตอนเช้า ไปอาบน้ำก่อนนะ >w<" แล้วก็วิ่งเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้สาชลยืนสะลึมสะลืออยู่หน้าจุนซุซึ่งกำลังงงกับปฏิกิริยาของคนข้างหน้าคนเดียว

    ‘หือ =_=’ เซียคิดได้เท่านั้น เธอก็ไหล((สมชื่อ))ลงไปกองกับพื้นซะงั้น -_-

    "งืม แสบตา T^T" ยังมีละเมอบ่นออกมาอีก - -" จุนซุถอนหายใจกับเด็กสติแตกพวกนี้ แต่ละคน... เฮ้อ~
    เขาพยายามดึง((กึ่งลาก))คนที่สลบไสลไปไว้ข้างๆเตียง ถ้าจะให้อุ้มเขาก็คง...= =" ไม่ไหวมั้ง เพราะเขาก็ไม่รู้เรื่องการอุ้มคนไปวางลงบนเตียงอย่างนุ่มนวลเสียด้วย

    และเมื่อสาชลถูกทิ้งแหม่ะให้พิงอยู่ข้างๆเตียงแล้ว จุนซุน้อยๆก็เดินออกมาจากห้อง ปิดประตู ก่อนจะลงไปหาพวกแจจุงที่ตอนนี้ก็คงกำลังทานข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย..

    แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว มีเพียงแจจุงกับยุนโฮเท่านั้นทีเอร็ดอร่อย ส่วนเรมินทร์และมาริสาได้แต่นั่งดมกลิ่นไส้กรอก ไข่ดาว และขนมปังปิ้ง พร้อมแยม และเนยกระปุกใหญ่ที่ตั้งไว้อยู่ตรงกลางโต๊ะ เหตุผลน่ะเหรอ? มันก็หนีไม่พ้นคำว่า ‘เกรงใจ' น่ะสิ

    "เอ้า นั่งเฉยทำไม กินสิ" แจจุงกล่าวขึ้นหลังจากจัดการกับไข่ดาวเสร็จ เหลือแต่ขนมปังปิ้งที่ว่างอยู่โดด เดี่ยว มือก็ขยับมีดในกระปุกแยมผิวส้มไปมา เพื่อควานเอาแยมก้อนใหญ่มาโปะลงบนขนมปังของตนเอง

    "อรุณสวัสดิ์คร้าบ >w< อ้าว ทำไมไม่กินกันอ่ะ? พี่แจจุงทำไม่อร่อยถูกใจเหรอครับ" จุนซุที่เพิ่งโผล่มาจาก ไหนไม่รู้ ทักทายด้วยคำเดิมๆที่คาดว่าพูดไปแล้วประมาณ 5-6 รอบในวันนี้ พร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ เรมินทร์

    "เอ่อ... รอเพื่อนอ่าค่ะ" มาริสาเอ่ยเสียงเบา พลางมองไปที่อาหารเช้าเซ็ทเดียวกัน อีก... นับก่อน - -" 1 2 3....7.. 7 เซ็ต ((เชียวเหรอ? =O=)) ที่วางเบียดๆกันรอบโต๊ะ

    "โอ้ ดีครับ ^^ กำลังจะกินข้าวกันเหรอ? ผมชิมชา... เอ้ย แนะนำตัวไปแล้วนี่ 55555+ งั้นผมขึ้นไปอาบน้ำ ก่อนนะคร้าบ >[]<" ชางมินวิ่งเข้ามาในครัวเพื่อแร๊พไม่เปิดช่องว่างให้คอรัสตอบ และวิ่งขึ้นบันไดไป  ซะอย่างงั้น =_="

    "เอ้า นั่น เพื่อนพวกเธอมาแล้ว" ยุนโฮบอกเมื่อเห็น ญาดา ไอริน และพัชชา เดินค้อมหัวนิดหน่อยลงมาจาก บันได อย่างกับพวกเธอเป็นนางในอยู่ในวังอย่างนั้นแหล่ะ

    "ไม่มีที่นั่งเหรอ?" ไอรินมองไปรอบๆโต๊ะ เมื่อนับเก้าอี้ทั้งหมดแล้วเห็นว่ามันไม่พอต่อจำนวนประชากรในบ้าน หลังนี้ - -"

    "หือ? ว่าไงเหรอ? ทำไมไม่ยกโต๊ะมาต่อหล่ะ" สาชลเสนอความคิดเห็นเมื่อเดินลงมาจากบันไดพร้อมกับ เมพิณ ตอนนี้มีจำนวนมนุษย์ 10 คนอัดแน่นอยู่ในห้องครัว

    "หา? ยกโต๊ะ อ้อ เรื่องแบบนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอ๊ง >O<" ยูชุนไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนอีกคน วิ่ง กึ่งกระโดดลงมาจากบันไดบ้าน และมุ่งตรงไปที่โต๊ะวางของในห้องนั่งเล่น สาชลกับเมพิณรีบวิ่งเข้าไป ช่วย รวมถึงไอริน ที่ไม่รู้จะทำอะไรด้วย

    "เอ้าคนละมุม >[]< ฮึบ~" ดูท่าทางเขาจะมีความสุขกับการยกโต๊ะเสียจริงจริ๊ง

    กึกๆๆๆๆ

    "เห้ยยยยยยยยย" ไอรินรู้สึกขาพันกันกระทันหัน - -" จึงก้าวสะเปะปะไป.. "โอ้ว!!! อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก" ..เหยียบเท้าของยูชุนที่ดันซวยมายกโต๊ะฝั่งเดียวกับเธอ นึกสภาพว่ากำลังยกโต๊ะที่ค่อนข้างหนัก และการวางเท้าเพื่อทรงตัว คงไม่ต้องบอกว่าการลงน้ำหนักมันมากเท่าไหร่ - -“ และมันทำให้ผู้โชคร้ายต้องปล่อยมือจากโต๊ะด้วยความลืมตัว + เจ็บ

    "จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก O[]O" ยังดีที่สาชลกับเมพิณช่วยกันพยุงโต๊ะไว้ไม่ให้ล้มคว่ำทำข้าวของในบ้านเสียหาย - -" ส่วนไอรินก็ได้แต่พร่ำคำขอโทษที่ฟังไม่ออกว่าเป็นภาษาอะไรบ้างใส่ผู้โดนประทุษร้ายในเหตุการณ์ครั้งนี้ซึ่งกำลังเอามือกุมเท้ากระโดดเหยงๆไปรอบๆบ้าน((แล้วมันจะหายเจ็บมั้ยนั่น))

    สุดท้าย ทุกคนมีโต๊ะและเก้าอี้ให้นั่งกันอย่างครบถ้วนสะดวกสบาย ต้องขอขอบคุณยูชุนผู้น่าสงสาร ซึ่งเสียสละเท้าของตนเองเพื่อความสะดวกสบายในบ้านหลังนี้~~ TvT

    -----

    เมื่ออิ่มท้อง ทุกคนก็มานั่งรวมกันอยู่ที่เดิม((จานอาหารก็แหมะไว้ที่อ่างอย่างนั้นหล่ะ)) โดยที่เหล่า หนุ่มๆนั่งอยู่ฝั่งเดียวกัน เด็กสติแตกทั้งหลายก็นั่งบรื้ออยู่ฝั่งตรงข้าม

    "เอาหล่ะ ถึงเวลาที่พวกเธอจะต้องตอบคำถามเราแล้ว" แจจุงวางท่านักข่าวผู้กระหายอยากรู้เรื่องส่วนตัวของดาราม๊ากกกกกกก

    "เริ่มที่... คุณคิดยังไงกับผลงานใหม่ของคุณครับ ^^" แจจุงพูด พร้อมทำท่ายื่นไมค์ใส่พวกเธออีกแหน่ะ ดูทำเข้า รับมุขคนเขียนซะด้วย

    "พวกเราควรจะเป็นคนถามมากกว่านะ =_=" พัชชาพึมพำ แต่คนที่ปล่อยมุขเกือบแป๊ก ((อย่างน้อยยูชุน ชางมิน และจุนซุน้อยๆก็ยังหัวเราะพรืดอยู่)) ก็ยังได้ยินอยู่ดี

    "เอ้าๆ ก็อยากให้ผ่อนคลาย -_- เอาเถอะ งั้นพวกเราจะถามว่า พวกเธอเป็นใคร มาจากไหน แล้วก็มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง.." - -“ เล่นถามเป็นชุดแบบนี้ เหล่าเด็กสติแตกทั้ง 7 ก็อึ้งสิคะ..

    สุดท้ายแล้วญาดา((ซึ่งคงมีสติดีที่สุดแล้ว))ก็พยายามเรียบเรียงประโยค และตอบไปว่า

    "พวกเราอายุ((โดยเฉลี่ยเกือบ)) 16 เป็นนักเรียนชั้น ม.4...เอ่อ ม.ปลายปี 1 ประเทศไทย แล้วก็ตอนที่เรากินข้าวอยู่ที่โรงอาหารเมื่อวาน...." และเธอก็สาธยายเรื่องที่ทงบังน่าจะรู้แล้ว ให้ฟังอีกรอบว่าพวกเธอถูกส่งมาได้ไง

    "ครับ เข้าใจ แต่ว่าจะทำยังไงกันต่อไปอ่ะ? ถ้าจะอยู่ที่นี่ผมก็ไม่ว่านะครับ แต่เรื่องทางบ้านเขาว่ายังไง แล้วเรื่องเรียนหล่ะ? อีก 5 วันพวกเราก็จะหยุดพักร้อนแล้วนะครับ แล้วจะทำอะไรกัน" ชางมินพ่นแร๊พคำถามใส่อีกคน =O= และคราวนี้ก็เงียบกันไปซักพัก จนมาริสาเอ่ยขึ้น

    "พวกเรา จะกลับก็กลับไม่ได้หรอกนะคะ พวกเราไม่มีพาสปอร์ตหรือวีซ่าหรืออะไรที่ใช้ในการเดินทางกลับประเทศ ทางบ้านเนี่ยพวกเราจะพยายามติดต่อกันค่ะ แล้วก็ถามเรื่องเรียนไปด้วยเลย..."

    "ยังไงซะตอนนี้พวกเราขออยู่ต่อไปก่อนนะคะTT_TT ถ้าพวกเราช่วยอะไรได้ก็จะช่วยเต็มที่เลยค่ะTOT" สาชลแทบจะคลานมาคุกเข่าอ้อนวอนทีเดียวถ้าหากไม่ถูกเพื่อนๆรั้งตัวไปเตือนสติของเธอไว้

    เงียบ....

    ผ่านไปประมาณ 10 นาทีได้

    "เอ้อ ก็แล้วแต่พวกเธออ่ะนะ ว่าแต่คุยกันมาตั้งนานยังไม่รู้จักชื่อกันเลย พวกเธอก็คงจะรู้จักพวกเราแล้ว" ยุนโฮทำลายความเงียบเป็นคนแรก และประโยคหลังที่เขาว่านั้นก็เป็นจริงทีเดียว โดยเฉพาะกับ ชิม ชาง มิน - -"

    "ให้แนะนำอีกรอบก็ได้นะ" แล้วทงบังทั้ง 5 ก็พ่นชื่อของตัวเองออกมา- -" คนละรอบ แต่สำหรับชางมินแล้ว... คงเป็นรอบที่ 3

    "ตาเธอแล้ว" พูดอย่างกับเล่นเกมกันซะงั้นนะยูชุน

    "พัชชาค่ะ -_-"

    "สาชลค่า >[]<"

    "=_= ชลเอ๊ย เรา ไอรินค่ะ"

    "มาริสาค่ะ ^O^"

    "เรมินทร์ค่า ^^"

    "ญาดา =_="

    "เมพิณค่า >w<"

    เฮือก... ชื่อแต่ละคน ทงบังคิด - -"

    "เอ่อ ไม่มีชื่อ... เอ้อ ชื่อคนไทยก็งี้แหล่ะเนอะ - -" จุนซุบ่นพึมพำ - -"

    "แต่ว่าๆ เราก็มีชื่อเกาหลีกันนะคะ >O<" เมพิณเสนอขึ้นมา

    "พวกเธอมีเชื้อสายเกาหลี O_O" แจจุงทำหน้างง เช่นเดียวกับอีก 4 คนที่เหลือ

    "ป่าวค่ะ ก็ พวกเราคิดกันเล่นๆว่าจะเอาชื่อเกาหลีเป็นอะไรดี" เรมินทร์แก้ไขก่อนที่จะถูกซักต่อไปว่ามีญาติโกโหติกาคนใดเป็นคนเกาหลีอีก - -"

    "เอาเถอะ ถ้ามันทำให้เรียกพวกเราได้ง่ายขึ้นนะ" ยุนโอพยักหน้าให้เป็นเชิงว่า'ก็พูดมาดิ =_='

    พัชชา : เราบิพุนยองค่ะ สกุลก็..Rain ไงคะ กร๊ากๆๆๆ

    สาชล : ฮันอีซึล >[]< อีซึลภาษาไทยแปลว่าน้ำค้างค่ะ สกุลฮันก็เป็นนายหญิงของข้าน้อยเอง ><

    ไอริน : =_= มันบ้าฮันซังกุงน่ะค่ะ เราก็ไอริน... สกุลก็...อ่า เอาไรดีอ่ะ - -"

    มาริสา : ... เรคิดไปนะ 555 เรา ชองมิรา ไม่ใช่ชองซังกุงอีกนะ =O= มาจากชองแทซองในเรื่องสาวใสหนุ่มซ่าอ่าค่ะ ><

    เรมินทร์ : ซองเรมินค่ะ ซองหมายถึงเพลง แกก็ลีไอรินไปละกันวะ ดีแล้ว

    ไอริน : ดีก็ได้วะ-_-

    ญาดา : .... ยาดาเหมือนเดิมละกันค่ะ =_= สกุลก็... เอ้อๆ เพลง Dangerous Mind มีท่อน 'ออล มา นา มัน ฮึน นัล ลึล ซา รัง ฮา กี วี แฮ "ซอ ยา ดา" แช อุล ซู กา อี ซึล กา' ซอไปก็ดีอ่ะนะ

    สาชล : ซอจังกึม O[]O

    เมพิณ : ว้อยให้เราต่อเซ่ =[]= มุนมยองนังค่ะ >< มุนก็... มุนกึนยอง 55555 >w< มยองนังก็แจ่มใสเหมือนเราไง กร๊ากๆๆๆๆ

    ทุกคน : ชมตัวเองซะงั้นอ่านะ - -"

    ทงบัง : วุ่นวายแฮะพวกนี้ -_-""

    เพราะฉะนั้นต่อไปนี้จะใช้ชื่อเกาหลีเขียน เพื่อความชิน กร๊ากๆๆๆๆ

    เงียบ.....

    "เอ้อ เที่ยงแล้ว ไปทำข้าวให้กินนะ ^^" แล้วแจจุงก็เดินเข้าครัวเพื่อไปทำหน้าที่เดิมๆ นั่นก็คือ ทำอาหาร =_= ((กินทั้งวันจริงๆพวกนี้))

    เมื่ออิ่มกับมื้อเที่ยงแล้ว ทุกคนก็... เหมือนเดิม คือ นั่งเงียบ.....

    "นี่! เมื่อวานฉันจะชวนเล่นเกมนี่ >[]< ยูชุนไปเล่นเกมกัน" จุนซุน้อยๆโพล่งขึ้นมาคนแรก พร้อมๆกับลากยูชุนที่ทำหน้าตาประมาณว่า'อ่าฮ่า อย่างนี้นี่เอง'ไปด้วย

    "พวกเธอเล่นเกมกันมั้ย ><"ยูชุนหันมาชวน...กึ่งบังคับเล็กน้อย

    "ไปค่า O[]O!!!!" อีซึล ผู้ที่บ้าการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ ลุกขึ้นตามไปในทันที

    "ไปด้วยก็ได้ ^^" ไอรินลุกขึ้นตามไปอีกคน

    เหลือสิ่งมีชีวิตอัตราส่วน เด็กสติแตก : ทงบัง = 5 : 3

    "ไปสนามบาสกันเถอะ = =" ยุนโฮเดินนำออกไปคนแรก ตามด้วยที่เหลือ

    ตูม!!!! เสียงเกมสงครามระเบิดดังขึ้นข้างหลัง ทำให้ทุกคนคิดว่า'คิดถูกแล้วค่ะยุนโฮ =O='

    "ชางมิน =_=" ยุนโฮหันไปมองหน้าคนที่ยืนข้างๆ

    "หึหึ -_- วันนี้ผมจะทำ 3 แต้มให้ครบ100 ลูกให้ได้เลย" ชางมินตอบกลับ...นี่กะว่าจะเล่นกันจนค่ำเลยหรือไง =[]=

    "พวกเธอ ขอบางคน มาร่วมทีมกับฉัน ฉันจะช่วยพวกเธอเอง" เอ่อ นี่ไม่ใช่ขอแล้วหล่ะหล่ะค่ะยุนโฮ มันคือการบังคับต่างหาก =_=

    "แกไปเด่ะวะมิรา มยองนังด้วย =_= แกเล่นบาสที่โรงเรียนไม่ใช่เหรอ" ยาดาดันหลังเพื่อนสาวของตัวเองคนให้ลุกขึ้น

    "แจจุง นายด้วย =_=+++" ยุนโฮช่างเผด็จการจริงๆ

    "งั้นฉันอยู่ทีมเดียวกับชางมินนะ" แจจุงเดินไปอยู่ข้างคนที่เอ่ยว่าจะทำ 3 แต้มให้ครบ 100 ลูก =[]=
    และศึกบาสเกตบอลก็เริ่มต้นขึ้น พร้อมๆกับเสียงระเบิดนิวเคลียร์ที่อยู่ในบ้าน ดังลั่นจนคนข้างนอกได้ยินชัดเจน...

    "เรานั่งดูนะ =_=" เรมินขัดขึ้น ก่อนที่พุนยองจะได้เอ่ยปากอะไร

    "เออๆ รู้โว้ย =O= งั้นไปเดินเล่นกันเถอะ" พูดพลางดึงมือยาดาไปอีกคน

    ซักพักก็เจอ... ทะเล..

    "ทะเล O[]O เห้ย!!!! ทะเลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล >[]<" และคนที่เกือบจะว่างกิจกรรมทั้ง2ก็ลงไปคลุกน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน - -"

    -----

    "ฮันอีซึล!!! ทำอะไรของเธอน่ะ =[]=" ยูชุนโวยวายเมื่อกรงเล็บของตัวละครของอีซึลจิกเข้าให้กลางหลัง

    "เอ๋า ผิดมั้ยอ่ะ นี่เกมนะ" เถียงกลับพลางแปลงร่างเป็นมนุษย์แมวเข้าตะลุมบอนค้างคาวของคนที่หันมาโวยทันที

    สุดท้ายแล้ว... ยูชุนก็แพ้ เพราะทะเลาะกับจุนซุที่จะเข้ามาช่วยซะงั้น = =""

    "เพราะนาย TOT"

    "ขอโทษคร้าบบบบบบบบ ฮือๆๆๆๆๆๆๆ T_T"

    "=_= ตาเราแล้วอีซึล" โดยที่ยังไม่ได้ตอบรับ ไอรินเข้ามาแย่งจอยเกมส์ไปถือไว้ทันที

    "เออๆ ก็ได้วะ =[]= ขอให้แพ้ กร๊ากๆๆๆๆ"

    "อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"

    และทั้งหมดก็ระเบิดเกมส์ขึ้นอีกครั้ง - -"

    -----

    "3 แต้มลูกที่ 20!" ชางมินตะโกนเมื่อลูก 3 แต้มของตัวเองสวบเข้าไปในห่วง

    'แฮ่กๆ นี่คนเหรอT[]T' มิรากับมยองนังคิดในใจ ขณะวิ่งไปอยู่ใต้แป้น พร้อมจะรีบาวนด์

    "มิราคนเดียวก็พอน่ะ!!! มยองนัง เธอมาคอยดักดีกว่า"

    "ไม่ดูหุ่นเล้ยยุนโฮ = =" เรมินพึมพำ ก็มิราตัวออกจะสูงใหญ่ ก็โอเคแล้วที่ให้รีบาวนด์ แต่มยองนังนี่สิ... เล็กกลมเป็นลูกบอลจะกันชางมินที่รักการวิ่งเป็นชีวิตจิตใจได้มั้ย

    "3 แต้มลูกที่ 21!" แล้วก็เป็นจริงอย่างที่ว่า เธอทำได้แต่เลี้ยง รับ ส่ง ตัดลูก เท่านั้นเอง = ="((ก็เยอะแล้วนี่หว่า))

    "=_= นายให้ฉันลงมาทำอะไรห๊ะ" แจจุงเริ่มโวยเมื่อเห็นชางมินฉายเดี่ยวไม่สนใจตัวเองที่นั่งอยู่ใต้แป้นบาส

    "แหะๆ ก็เลี้ยงให้หน่อยละกันฮะ" ว่าแล้วก็ส่งลูกกลับไป...เพื่อไม่ให้ มผ. กิจกรรมบาส....

    ...เกี่ยวมั้ย - -"

    -----

    "5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555"

    มีแต่เสียงหัวเราะดังลั่นทะเลของ 2 คนนั่นเท่านั้น ไร้ซึ่งคำพูดอย่างอื่นจริงๆ...

    -----

    แจจุงก็ต้องทำอาหารเย็นอีกเช่นเคย แล้วก็บรรยากาศคล้ายเดิมๆ เพียงแต่ถึงเวลาที่ต้องล้างจานแล้ว ซึ่งเป็นหน้าที่ของแจจุงในวันนี้ ยังดีที่มิรากับยาดา ผู้ที่มีน้ำใจเข้าไปช่วย

    "พวกเรารบกวนใช่มั้ยอ่าคะ" มิราส่งจานให้แจจุงซึ่งรับไปจัดที่ตะแกรง

    "เอ้อ ถ้าตามมารยาทก็ ไม่หรอกคร้าบ แต่ถ้าจริงๆนี่ก็..."

    "เอาเถอะ พวกเราเข้าใจ T^T ฮือๆๆๆ เรื่องมานเศร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา" ยาดาเกือบจะเอาผ้าเช็ดจานมาเช็ดหน้าตัวเองแล้วไหมหล่ะ - -"

    "=_= ก็ ไม่หรอก มันทำให้พวกเราสนุกดี" ...มั้ง แจจุงแอบเติมเข้าไปในใจด้วย

    "เอ้า เสร็จแล้ว" พูดพร้อมกับเดินนำไปห้องนั่งเล่น.. ที่ยุนโฮซ้อมเต้นรอบดึกอยู่ที่มุมซ้อมเต้น... เต้นตลอดกาลจริงๆ =[]= ชางมินนั่งอ่านแฮร์รีพอตเตอร์เป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้ เพราะว่าอ่านมาแล้วมากมายเหลือเกิน หม่าหม๊า((เรมิน))นั่งมอง((มยองนัง))ผู้มีศักดิ์เป็นลูกคนโตของเรมิน และเป็นพี่สาว((ของอีซึล)) แบบ... ครอบครัวเล่นๆ - -" หลับอยู่แถวๆนั้น พุนยองก็ทำตาเหมือนอีหยด((นางบาป- -")) มองไปรอบๆบ้าน จนแจจุง ยาดา และมิราแทบจะไม่กล้าเข้าใกล้ ((หล่อนต้องการอารายยะ))
    ส่วนจุนซุก็จัดการเซ็ตเกม 'นาร์เนีย' ให้ยูชุนกับอีซึล ที่ท้าเล่นกันตั้งแต่ก่อนมื้อเย็นแล้ว - -" ตอนนี้ทั้งคู่นั่งฟังคำอธิบายของผู้เชี่ยวชาญน้อยๆอยู่

    "เอ้า นางแม่มดขาวก็นางแม่มดขาววะ=[]="อีซึลบ่นงึมงำ พลางเลื่อนกรอบสี่เหลี่ยมไปครอบฝ่ายนางแม่มดขาว

    "5555+ จงเกรงต่ออำนาจแห่งสิงโตเถิด >w<" ยูชุนก็เลื่อนกรอบสี่เหลี่ยมไปครอบเจ้าแห่งสิงโต อัสลาน

    "แล้วข้าจะให้เจ้าได้ประจักษ์ว่า ฤดูหนาวอันยาวนานนั้นเป็นอย่างไร!!!"

    วื่บบบบบบบบบบบบ ตึง!!!!

    และแล้ว มหาศึกแห่งนาร์เนียก็อุบัติขึ้น ณ บ้านหลังใหญ่ๆของทงบังชินกิ............

    -----

    Author's Talk :: อ่านแล้วเม้นท์ด้วยนะคะ- -" ถ้าเป็นนักเขียนด้วยกันก็น่าจะรู้ว่าคอมเม้นท์น่ะสำคัญยังไง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×