ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องที่ 2 พระอาทิตย์กับสายลม
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....
มีเสียงข้อโต้แย้งทุ่มเถียงกันมานานระหว่างดวงอาทิตย์และลมใครจะมีอำนาจมากกว่ากัน และวันนี้ก็อีกเช่นเคย
“ข้าเก่งกว่าท่าน”เสียงเซเฟอร์ตะเบ็งแข่งกับเสียงดนตรีที่กำลังดังลั่นร้านไวน์ของดีโอนีซุส
“เชอะ กระจอก ข้าสิเก่งกว่า หล่อกว่า” อีกฝ่ายกล่าวด้วยน้ำเสียงเนิบนาบราวกับว่าตนเองมีไพ่เหนือกว่า และแน่นอนเขาไม่ลืมสำทับลงไปว่าเขาหล่อกว่าอีกฝ่าย
“หนอย... แค่มีสาวน้อย สาวใหญ่ กระเทย สาวแก่ แม่มาย ผัวตายผัวทิ้งมาติดแค่นี้ บอกว่าได้หล่อกว่าข้า แอนทิรอสมานี่สิ” ด้วยความแค้นฝังหุ่นเขารีบเรียกเพื่อนมาเป็นกองกำลังสนับสนุนทันที อีโรเต้เจ้าของชื่อได้ยินเสียงถึงกับถอนหายใจ แค่ได้ยินน้ำเสียงกราดเกี้ยวของเทพแห่งลมตะวันตก ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเจ้าตัวนั้น คงมีปัญหาด้วยเรื่องเดิมๆที่รู้กันอยู่ เขาขอตัวเดินออกจากวงสนทนาที่กำลังดำเนินไปอย่างออกรสระหว่างบรรดาอีโรเต้กับดีโอนีซุสเจ้าของร้าน
“มีอะไรว่ามา เซเฟอร์” อีโรเต้ถามด้วยน้ำเสียงรำคาญใจ
“ช่วยบอก เทพแห่งดวงอาทิตย์หน่อยซิว่าข้าหล่อกว่า เก่งกว่า มีอำนาจมากกว่า” เทพแห่งลมไม่พูดเปล่ายังยักคิ้วหลิ่วตาประกอบ
อีโรเต้หนุ่มชำเลืองสายตาอย่างเซ็งๆไปยังอีกฝ่ายที่ถูกพูดถึง แน่นอนฟีบัส อพอลโล่ไม่ยอมทิ้งโอกาสที่จะหว่านเสน่ห์ด้วยรอยยิ้มในมุมที่คิดว่าหล่อชนะใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แม่ม่ายผัวเผลอได้ แม้กระทั่งตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่ยอมลดราวาศอกต่อกัน
“เหอะ เซเฟอร์ เก่งกว่า หล่อกว่า และมีอำนาจมากกว่า พอใจรึยัง” เทพแห่งความรักแค่นน้ำเสียงออกมาชม แต่..
“เดี๋ยว แอนทิรอส เจ้าช่วยมองดูข้าใหม่อีกทีซิว่าข้าหล่อกว่า เก่งกว่า มีอำนาจมากกว่าไอ้ลมกิ๊กก๊อกนี่” อพอลโล่ไม่ยอมแพ้ฉีกยิ้มโปรยเสน่ห์ใส่อีโรเต้มากกว่าเดิม เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของวงสนทนาที่อยู่ตรงเคาท์เตอร์บาร์ถัดไป
“เจ้าแอนตี้นะ ไม่รู้ว่าโชคดีรึโชคร้ายที่ได้เจ้าเทพสององค์นั้นเป็นสหาย เวลาสององค์นั้นมีเรื่องกันทีไร มันซวยทุกที” ดีโอนีซุสเปรยขึ้นมา อีรอสหรือที่บรรดาสหายเรียกกันเล่นว่า “ไอ้ปิ๊ก” ที่ย่อมาจากคิวปิกนั้น มองน้องชายอย่างสมเพท ก่อนที่จะหันไปสุมหัวคุยกับเทพแห่งเมรัย
“ซวยรึ ข้าว่าไม่มั๊ง คาดว่าอีกไม่นานคงเป็นพวกเรามากกว่า แต่ว่าเรามาหาทางจัดการขจัดมารยุทธภพสองตัวนั่นกันดีกว่า ” ไอ้ปิ๊กของสหายรุ่นน้องของฟีบัส พอลโล่ พี่ชายของอีโรเต้ที่ตกเป็นเหยื่อ ยกนิ้วโป้งชี้ไปยังเทพสุริยเทพและเทพแห่งลม ดูเหมือนว่าทั้งวงจะตกลงพร้อมใจกัน สุมหัวซุบซิบกันอย่างเคร่งเครียด ในที่สุดดีโอนีซุสก็เดินไปหลังร้านหยิบลังใส่บางสิ่งออกโชว์ให้เหล่าสหายดู
“เราต้องให้แอนทิรอสช่วย”
แต่เสียงคำรามด้วยความโกรธของเซเฟอร์ทำเอาทุกเทพทุกองค์ในร้านรีบหาที่เกาะก่อนที่พายุลูกย่อมๆจะตามมาและข้าวของในร้านก็จะพังยับเยินอีกครั้ง มันเป็นสัญญาณว่าเทพทั้งสององค์เริ่มท้าประลองอีกครั้ง
“เห็นปะ อีกแล้ว”ไอ้ปิ๊กของทุกคนหันไปมอง ในขณะที่เสียงของเซเฟอร์ดังแข่งกับพายุลูกย่อมๆดังหวีดหวิวของตัวเอง เขาเห็นน้องชายยืนกุมขมับอยู่ไม่ไกลในขณะที่ฟีบัสฉวยโอกาสพยายามจะแตะอั๋ง
“เดิมพันละ” เซเฟอร์เกือบตะคอกเมื่อเห็นคู่แข่งไม่สนใจตัวเองดันไปสนใจอีโรเต้
“เอาเป็นอย่างนี้ คงจะดีอย่างยิ่ง ถ้าแอนทิรอสช่วยส่งเสริมความรักของข้ากับไฮยาซินท์ ด้วยการให้ไฮยาซินท์รักข้าตอบเจ้าจะตกลงไหม” ฟีบัสถือโอกาสเชยคางอีโรเต้หนุ่มขึ้นมามองเป็นการเย้ยอีกฝ่าย ท่ามกลางสายตาเป็นเดือดเป็นแค้นของเทพแห่งลม ชวนให้ความดันสูงปรอทแตกอยู่มะรอมมะล่อ
“อีย์... แอนทิรอส ถ้าข้าชนะ เจ้าต้องช่วยให้ข้าเซเฟอร์สมรักกับไฮยาซินท์”
“หุหุ โมโหร้ายไม่พอยังอิจจาข้าอีกด้วย ฮะฮะฮ่า”
ทั้งสองไม่ทันสังเกตเห็นว่าหนุ่มอีโรเต้กำลังคุกรุ่นอยู่ด้วยความขุ่นเคืองใจที่สะสมมานานเหมือนกัน
“ตกลงแข่งกันด้วยวิธีเดิมๆ เหมือนครั้งก่อนๆ ผู้ใดสามารถทำให้นักเดินทางปลดเสื้อคลุมลงได้ก่อนเป็นผู้ชนะ”
“ใช่ ตามนั้นแหละ” ฟีบัสบอก
*-*
และแล้วศึกวันทรงชัยก็มาถึง ท่ามกลางสักขีพยานมากมาย หลังจากรอคอยจนมาถึงเที่ยงวัน นักเดินทางก็ปรากฏตัวขึ้นภายใต้ผ้าคลุมสีดำและชุดประหลาดๆ เขากำลังเดินทางรอนแรมไปยังเมืองทีป แต่ด้วยท่าทางการเดินของนักเดินทางนั้นช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก มือทั้งสองกางไปข้างๆจับผ้าคลุมยกขึ้นยกลงราวกับพยายามให้ผ้าคลุมสีดำกระพรือพริ้วไปตามแรง แม้ว่ามันจะพิสดารแต่ก็หาที่จะครณาฝีมือทั้งสองเทพไม่
“เริ่มจากข้าก่อน” เซเฟอร์ประกาศ ก่อนที่ฟีบัสจะผายมือเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายแสดงอำนาจ เทพแห่งลมใช้อำนาจแห่งลม ก่อให้เกิดลมแรงพยายามพัดให้เสื้อคลุมปลิวหายไปให้ได้ แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไรนักเดินทางยังเกาะกุมห่อตัวไว้ภายใต้เสื้อคลุมแน่น เขาส่งพายุลูกเล็กลูกน้อย ทั้งทอร์นาโด ไต้ฝุ่น ไปยังนักเดินทางก็ยังทำอะไรไม่ได้ เหมือนเช่นเคย
“ทำไมวะ เจ้าพวกนักเดินทางพวกนี้ถึงได้อึดนัก” เซเฟอร์ถึงกับคำรามออกมา
ท่ามกลางเสียงซุบซิบว่ามันมีอะไรแปลกๆ
“ข้าว่าชุดของเจ้านักเดินทางมันเหมือนเคยเห็นที่ไหนหว่า อเธน่าท่านว่าไหม” เฮอร์เมสหันไปถามเทวีแห่งสงคราม
“ข้าว่าคุ้นๆอยู่นะ แต่มันเหมือนมีอะไรสักอย่างที่ผิดปกติ โดยเฉพาะช่วงท้องอยู่น่า”
“ชุดประหลาด ดูตรงหน้ากากที่เขาสวมสิ มีหูแหลมๆชี้ขึ้นด้วย” อาเรสชี้ให้บรรดาพี่น้องดูนักเดินทาง
ในขณะที่บรรดาเทพรุ่นใหญ่กำลังวิเคราะห์อยู่นั้น บรรดาเทพอีโรเต้และดีโอนีซุสกำลังลอบหัวเราะและอมยิ้มกันอย่างสะใจกันอยู่ลึกๆ
“ท่านอพอลโล่เริ่มแล้ว” อโฟร์โรไดร์อุทานเมื่อเห็นสุริยเทพเริ่มเปล่งรัศมีความร้อนทีละนิดไปยังนักเดินทาง และความร้อนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อไหลซกโทรมกาย เหมือนชีสละลายอยู่บนหน้าลาซานญ่าในเตาอบ
แต่กระนั้นนักเดินทางก็ยังทนทานต่อความไม่มีทีท่าที่จะถอดชุดเสื้อคลุมออกมา ถึงแม้ว่านักเดินทางจะทรุดลงกับพื้นเนื่องจากความร้อนและอุณหภูมิที่สูงขึ้นรอบๆตัว เขาก็ยังไม่ถอดเสื้อคลุมออก ตาเขาเริ่มพร่าพรางทำให้เขาหวนคิดไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เสียงอ้อนวอนจากเทวดาที่ต้องการให้ฮีโร่อย่างเขาช่วยเหลือเมืองโอลิมปัสซิติ้จากมารที่ชั่วร้าย ใช่แล้วมันเป็นกำลังใจให้เขายันเข่าขึ้นลุกขึ้นสู้ เขาชี้นิ้วไปยังเทพสององค์ลอยอยู่บนฟ้า
“สุริยเทพฟีบัส อพอลโล่ และ เทพแห่งลมตะวันตกเซเฟอร์ สร้างความเดือดร้อนให้แก่เหล่าเทพและนักเดินทาง วันนี้แหละข้าจะมาขจัดมารยุทธภพ”
ที่แท้ชุดนักเดินทางที่แปลกประหลาดนั้นคือชุดฮีโร่คอมแบทสูทสีดำนั่นเอง ฮีโร่ลึกลับสะบัดเสื้อคลุมออกไปข้างหลังเผยให้เห็นตรากลางหน้าอกรูปค้างคาว พร้อมกันนั้นก็คว้างสายฟ้าออกมาไปที่ เทพดวงซวยทั้งสอง
“เปรี้ยงๆ”
“โอ้ ก๊อตแดม แบทแมน” เสียงอุทานดังลั่นจากบรรดาเทพชั้นผู้ใหญ่ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่
*-*
ในฐานะฮีโร่ผู้ปราบเหล่าร้ายช่วยชาวเมืองโอลิมปัสซิตี้ไว้ได้ ซุสภาคภูมิใจมาก นึกถึงคืนนั้นขึ้นมา คืนที่เขาได้รับมอบหมายภาระและพลังอันยิ่งใหญ่ และช่วยให้ความฝันในวัยเยาว์เป็นจริงขึ้นมา
“ท่านมหาเทพซูส ข้ามีเรื่องมาร้องเรียน ท่านคงทราบความบาดหมางระหว่างสุริยเทพฟีบัส อพอลโล่และเทพแห่งลมตะวันตกเซเฟอร์สร้างความเดือนร้อนให้แก่พวกเรา เหล่าอีโรเต้และร้านของดิออนีซุส และโดยเฉพาะข้าไม่อันเป็นทำงานได้สะดวก ท่านก็เห็นอยู่ว่าข้าไม่สามารถนำพาความรักของสิ่งมีชีวิตสองขาแสนงดงามมายังท่านได้”
“อืม...” คำร้องเรียนของอีโรเต้แอนทิรอสทำให้องค์มหาเทพคิดหนักโดยเฉพาะประโยคสุดท้าย พักหลังๆบรรดาสาวงามพากันปฏิเสธเขา คงเป็นเพราะเจ้าเทพสองตัวนั้นเป็นตัวขัดขวางงานของอีโรเต้
“เจ้าจะให้ข้าทำเช่นไร แอนทิรอส”
“เพียงแต่ท่านสวมชุดนี้ลงไปโลดแล่น ปราบศัตรูยุทธภพ” อิโรเต้ยื่นหีบสีทองข้างในบรรจุชุดคอมแบทสูทสีดำทมิฬพร้อมหน้ากากสีดำมีปลายหูชี้ขึ้นข้างบน
“ชุดแบทแมน” มหาเทพอุทาน อิโรเต้พยักหน้า
“แต่ข้าไม่มีกล้ามเนื้อท้องซิคซ์แพค..”
“จุ๊ๆ...ท่านมี เพียงแต่ซิคแพคของท่านเกือบรวมเป็นหนึ่งเท่านั้น”
*-*-*-*
มุมหนึ่งในร้านไวท์ของดิโอนีซุส เสียงหัวเราะด้วยความสนุกสนานสะใจจากบรรดาอีโรเต้และเจ้าของร้านดังยาวนานไปตลอดทั้งคืน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น