กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...ยังมีหนูน้อยสุดแสนจะน่ารักคนหนึ่ง
“เฮ้ย! ใครบอกว่าข้าน่ารักฟะ” น้ำเสียงหงุดหงิดไม่พอใจบวกกับท่าทางหาเรื่องจากชายหนุ่มผมทองหยักศกสีเพลิงยาวสลวยสวยเก๋ อดีตนายแบบโฆษณาแชมพูยี่ห้อเฮอร์เบิ้ลแชมพูสูตรมั่วสมุนไพรร้อยแปดอย่าง ทำให้ต้องคิดดูอีกทีว่าจะซื้อใช้ดีไหม
“จะเอายังไง.. ฟีบัส ได้บทเด่นแล้วยังไม่พอใจอะไรอีก เดี๋ยวก็เปลี่ยนบทซะเลยนี่” นักเล่านิทานเอ่ยขึ้น
“โอเคๆ น้ำเสียงเขาอ่อนลงนิดเดียว แต่สีหน้าเขายังเคร่งเครียดเหมือนเดิม
“เปลี่ยนเป็นหล่อเหล่าปานเทพบุตรจะได้ไหม เอาแบบพบกันครึ่งทางนะ” สุริยเทพฟีบัส อพอลโล่ยังห้าวรักษามาดแมนไว้สุดฤทธิ์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...ยังมีหนูน้อยหล่อเหล่ามาดแมนที่สุดในปฐพี ทำให้ฟีบัสมีท่าทีพออกพอใจขึ้น ก่อนที่จะเขย่งเท้าก้าวกระโดดออกไปตามทางอย่างร่าเริงตามบทพร้อมกับตะกร้าใบน้อยที่บรรจุไวท์รสเลิศกับขนมปังเลิศรส ชายเสื้อคลุมสีแดงเคลื่อนไหวเป็นจังหวะไปตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย
“โอ้ ลัลล้า ข้าจะไปหาคุณย่า ฝ่าด่านสัตว์ประหลาด ตีมอน ตีมอน” เสียงหนูน้อยหมวกแดงร้องเพลงปลุกใจดังก้องไปทั่วป่า มือหนึ่งถือตะกร้า มือหนึ่งถือดาบคู่กายชูไปข้างหน้า ร้องเพลงไปเดินหน้าตีมอนสเตอร์ไปอย่างร่าเริง
ในขณะอีกด้านหนึ่งของป่า มนุษย์หมาป่าผู้หิวโหยกำลังนั่งจิบชาฝรั่งพร้อมกับของว่างขนมบัตเตอร์สก็อตบิสกิตก่อนที่จะเตรียมตัวออกล่าเหยื่อ มันนั่งดูข้อมูลของเหยื่ออย่างหนักใจยิ่งนัก แต่เหยื่อของมันได้ถูกกำหนดไว้ราวกับชะตาฟ้าลิขิต คือหนูน้อยหมวกแดงนั่นเอง
“ค่าหัวหนูน้อยหมวกแดงนี่ขึ้นถึง 5,000 เหรียญฮิวเมอร์นอย ยังไม่มีมนุษย์หมาป่าตนใดโค่นหนูน้อยหมวกแดงนี่ลงได้ แต่เพื่อปากเพื่อท้องของเรา เพื่อศักดิ์ศรีของมนุษย์หมาป่าเยี่ยงข้าต้องจัดการ ก่อนอื่นต้องว่างแผนเสียก่อน ได้ยินว่าหนูน้อยหมวกแดงกำลังจะไปเยี่ยมคุณย่าที่บ้านเล็กกลางป่าใหญ่” หลังจากได้คิดดีที่สุดในชีวิตแล้ว มนุษย์หมาป่าของเราก็จัดการเก็บชุดชาเครื่องเงินลงหีบปิดแน่นหนาก่อนที่จะขุดหลุมฝังพร้อมทำเครื่องหมายติดป้ายไว้อย่างดีว่า “ของมนุษย์หมาป่าห้ามยุ่ง” มันปัดมือตบฝุ่นออกจากร่างกายก่อนที่จะวิ่งลัดเลาะมุดเข้าพุ่มไม้มองเห็นพวงหางฟูไวๆก่อนที่จะมุดหายไป
ขณะนั้นหนูน้อยหมวกแดงหาได้รับรู้ถึงอันตรายที่กำลังจะเข้ามาใกล้สักนิดเดียว เขายังเดินมุ่งหน้าไปยังบ้านคุณย่าด้วยมั่นอกมั่นใจ เบื้องหลังเขามีมอนสเตอร์ทิ้งร่างนอนตายเกลื่อนกลาดไปตามทาง
กลับมาที่มนุษย์หมาป่า มันกำลังตกอยู่ในภาวะที่สุดแสนจะลำบาก เพราะกำลังหลงทางท่ามกลางป่าใหญ่สุดแสนจะวังเวงและน่ากลัว
“ทำไมคุณย่านั่นต้องมาอยู่กลางป่าลึกแบบนี้ด้วยนะ” มนุษย์หมาป่าเริ่มใจเสีย ขณะนั่นเองที่อยู่พุ่มไม้ข้างหลังก็ไหวขึ้นพร้อมๆกับเงาดำทะมึนที่พรวดพราดออกมาทันที ทำให้มันสะดุ้งตกใจคว้ากระทะคู่ใจฟาดออกไปเต็มแรง ชายร่างใหญ่โงนเงนก่อนที่จะล้มลงราวกับต้นไม้ยักษ์ล้ม เมื่อมันเบิ่งนัยน์ตาสีทองกลมรีราวกับเม็ดอัลมอลจ้องดู จึงรู้ว่าเหยื่อที่ถูกมันจัดการล้มลงไปนั้น
“อูย ฟาดซะเต็มเหนี่ยว แล้วใครจะมาเป็นนายพรานรายต่อไปละ” มันตบหน้าเฮอร์คิวลิสเบาๆ เมื่อเห็นว่าไม่ฟื้นแล้วจึงเดินพละจากไป มันเกาหัวพลางบ่นออกมาดังอย่างไม่กลัวใครจะได้ยินว่า
“แล้วอย่างนี้ จะถามทางใครเพื่อไปบ้านคุณย่าล่ะ”
ขณะนั้นเองเงาดำสี่ห้าร่างได้ปักป้ายบอกทางไปบ้านคุณย่าอย่างรวดเร็วแล้วรีบแยกย้ายกันไปก่อนที่มนุษย์หมาป่าจะเดินโผล่ออกมาจากหลังพุ่มไม้ มันอ่านป้ายก่อนที่จะวิ่งไปตามทางตามที่ป้ายบอกอย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวางใจ มันดีใจอย่างยิ่ง
ในที่สุดมนุษย์หมาป่าก็มาถึงเป้าหมายกะท่อมน้อยสุดเปลี่ยวหลังเล็กกลางป่าใหญ่ มันวิ่งอย่างเงียบเชียบไปเคาะประตูบ้านพร้อมกับทำเสียงเล็กเสียงน้อย
“มีใครอยู่บ้างไหมคะ หนูมีไม้ขีดมาขายค่ะ” มันเอียงหูใบใหญ่ที่มีขนหนานุ่มปกคลุมฟังเสียงจากข้างในบ้าน มีแต่ความเงียบที่เคลื่อนไหวให้ได้ยิน มันลองอีกครั้ง
“รับไม้ขีดไฟ ไว้เผาป่าไหมคะ” มันเอียงหูใบใหญ่ที่มีขนหนานุ่มปกคลุมฟังเสียงจากข้างในบ้าน มีแต่ความเงียบที่เคลื่อนไหวให้ได้ยิน มันลองอีกครั้งแต่คราวนี้มันตะโกนสุดเสียง
“มีไม้ขีดไฟมาขายเปิดประตูให้หน่อย” มันเอียงหูใบใหญ่ที่มีขนหนานุ่มปกคลุมฟังเสียงจากข้างในบ้าน มีแต่ความเงียบที่เคลื่อนไหวให้ได้ยิน คราวนี้มันจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป
“เอ๊ะ ไม่ได้ลงกลอน”
มันแกว่งหางเป็นพวงอย่างดีใจ ก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้าน หลังจากที่ใช้สายตาปรับสภาพให้คุ้นกับความมืดข้างใน ภาพที่เห็นมันถึงกับอ้าปากค้าง ข้างในตกแต่งเหมือนห้องนอนเดอลุกซ์ในโรงแรมระดับห้าดาวครึ่ง สัญชาตญาณเร่งเร้าให้มันรีบหนีออกไปจากที่นี่ ขามันสั่นแต่อีกใจหนึ่งมันก็อยากรู้อยากเห็น
มันเดินสำรวจไปทั่วกะท่อมอย่างระมัดระวัง พร้อมกับกำด้ามกะทะในมือมั่น กะทะสปาร์ต้าทำจากเหล็กกล้าอย่างดีตีขึ้นเพื่อชาวสปาร์ต้าโดยเฉพาะตู้ใบใหญ่ตั้งอยู่เบื้องหน้ามันเปิดประตูตู้ออกมาหวังว่าตู้ใบนี้จะสามารถพามันไปสู่มิติอื่นที่มีสิงโตเป็นผู้พิทักษ์ แต่ผิดหวังภายในตู้มีชุดนอนกรุยกรายประดับด้วยลูกไม้หลากสีสัน พร้อมหมวกคลุมผมเข้าชุดกันมีป้ายเล็กๆแขวนอยู่ “สำหรับใช้ปลอมตัวเป็นคุณย่า”
ทันใดนั้นเสียงร้องเพลงปลุกใจดังแว่วใกล้เข้ามา มันรีบคว้าชุดปลอมตัวเป็นคุณย่าขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็วพร้อมกับรีบซ่อนใบหูไว้ใต้หมวกคลุมผม พร้อมกับรีบกระโดดขึ้นเตียงซ่อนตัวใต้ผ้าห่มทันที
เสียงเพลงปลุกใจใกล้เข้าพร้อมกับเสียงหัวใจของมนุษย์หมาป่าเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้น
ตึกตัก
“ตีมอน”
ตึกตัก
“ตีมอน”
ตึกตัก
“คัมมอน เบบี๋ มาหาเฮียหน่อยเร็ว” ความเงียบเข้ามาเขกกะโหลกฟีบัสทันที แต่แล้วเขาก็นึกได้ว่ารีบร้อนไปหน่อยเสียแล้ว “เอ้ย หนูน้อยหมวกแดงมาแล้วค่า คุณย่า”
“คุณย่า หนูน้อยหมวกแดง เอาไวน์เลิศรสกับขนมรสเลิศมาฝากค่า”
อีกด้านหนึ่งของห้องมนุษย์หมาป่าเพ่งสายตาฝ่าความมืดมองไปยังร่างของหนูน้อยหมวกแดงที่ยืนอยู่กลางประตูท่ามกลางแสงสว่างข้างนอกกระท่อมที่สาดส่องเข้ามาจากข้างหลัง นั่นมันหนูน้อยหมวกแดงแน่รึ ทำไมตัวใหญ่อย่างนั้น มันล้วงกระดาษยับๆขึ้นมาดูอีกครั้ง
“ประกาศจับ หนูน้อยหมวกแดง ค่าหัว 5,000 เหรียญฮิวเมอร์นอย”
ทันใดนั้นใบประกาศจับก็ถูกดึงออกไปจากมือมนุษย์หมาป่าทันที มันเงยหน้ามองเห็นหนูน้อยหมวกแดงแสยะยิ้มยืนค้ำหัวมันอยู่พร้อมกับขยำใบประกาศขว้างทิ้งไปข้างหลัง ด้วยความตกใจมันรีบซุกมือไว้ใต้ผ้าห่มกำด้ามกะทะไว้แน่น นัยน์ตาสีทองของมันเคลือบไปด้วยความหวาดกลัว
“คุณย่า ไม่สบายรึค่ะ”
“ใช่”
“ดูเหมือนว่า เสียงคุณย่าเปลี่ยนไป” หนูน้อยหมวกแดงเสียงเหี้ยม
“ก่อนหน้านี้ ย่ากินบัตเตอร์สก็อตบิสกิตแล้วติดคอจ๊ะ ไอมากเลยเสียงเปลี่ยน”
“คุณย่าน่าจะดื่มไวน์ให้ชุ่มคอท่าจะดี” หนูน้อยหมวกแดงเทไวน์ใส่แก้วส่งให้มนุษย์หมาป่าดื่ม มันมองแก้วไวน์ในมือหนูน้อยหมวกแดงก่อนที่จะรับมาดื่มรวดเดียวหมด มันไม่ทันสังเกตเห็นตัวอักษรข้างขวดที่เขียนว่า ไวน์ดีแอลกอฮอลส์สูง ไม่เหมาะกับเด็กและสตรีมีครรภ์
“แหม คุณย่าเล็บยาวจังนะค่ะ” เสียงหนูน้อยหมวกแดงฟังดูเยาะเย้ยยังไงชอบกลอยู่ ทำให้มันรีบหดนิ้วทันที แต่มันก็ยังยื่นส่งแก้วไวน์คืนให้หนูน้อยหมวกแดง มันเห็นหนูน้อยหมวกแดงยิ้มก่อนเทไวน์ลงมาในแก้วจนเต็ม
“ดื่ม เยอะๆ น่าเสียดายออก หิ้วมาตั้งไกล ฮี่ๆ”
“โอ้ ทำไมคุณย่าหูแหลม” คำถามประหลาดดังขึ้นภายหลังจากที่เจ้าเด็กโข่งเห็นปลายหูข้างหูที่โผล่พ้นหมวกคลุมผมขึ้นมา มนุษย์หมาป่าใช้สติปัญญาครึ่งหนึ่งที่ยังไม่ตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์ไวท์หาคำตอบ
“เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เกิดจ๊ะ หลาน” นี่คือคำตอบจากใช้สมองประมวลผลออกมาในระยะเวลาห้านาทีกว่าๆ นับว่าช้ากว่าปกติ 2.5 นาที แล้วอย่างนี้ มนุษย์หมาป่าจะเอาตัวรอดได้รึนี่
“ แล้วทำไมปากคุณย่ายาว”
เห? ถ้าอย่างนี้มันก็ได้จังหวะแล้วสิ
“ก็เอาไว้กินแกนะสิ” มนุษย์หมาป่ากลั้นหายใจเหวี่ยงกระทะคู่มือไปที่ร่างกำยำของหนูน้อยหมวกแดง แต่ฟีบัส อพอลโล่ในคราบหนูน้อยหมวกแดงเหวี่ยงดาบขึ้นมาตั้งรับได้ทัน
“กะทะดีนี่” ฟีบัสแสยะยิ้ม
มนุษย์หมาป่าหมุนด้ามกะทะในมือให้จับให้ถนัด ก่อนที่จะกระโดดลงจากเตียง “แฮ่ ของดีจากสปาร์ต้าเฟ้ย”
“นานมาแล้วที่ไม่เคยมีหมาป่าตัวใดรอดพ้นเงื้อมมือของข้าได้ แกต้องเป็นรายต่อไป” สายตาของหนูน้อยหมวกแดงจ้องมาอย่างแปลกชวนให้ขนบนหลังคอลุก ฟีบัสกระโดดรวดเดียวข้ามเตียงมา มนุษย์หมาป่าถอยกรูดทันที เมื่อเห็นแววตาหื่นของฟีบัส
“คัมม่อนเบบี๋ วางกะทะลง”
“ไม่มีทางเฟ้ย เรื่องนี้มันผิดตั้งแต่ต้นแล้ว มีอย่างที่ไหนให้อาวุธข้าเป็นกะทะ” เสียงมนุษย์หมาป่าแอนทีรอสโวยวาย “แล้วให้ เจ้าแสงตะเกียงใช้ดาบได้อ๊ะ”
“จุ๊ๆๆ อย่าโวยวายซี่แอนทีรอส เดี๋ยวใครๆที่ได้ยินจะเข้าใจผิด ว่าข้าติดสินบนนักเล่านิทาน” ฟีบัส อพอลโล่ย่างสามขุมเข้าไปหามนุษย์หมาป่าตัวจ้อยอย่างมีเป้าหมาย
เสียงกรีดร้องดังข้ามเขา ในขณะที่กะทะลอยออกนอกหน้าต่าง ชุดนอนถูกดึงทึ้งออกมา ทันใดนั้นนายพรานก็ปรากฏตัวขึ้นภายใต้กรอบประตูที่เปิดอ้างค้างไว้อยู่ กะทะบอมเบอร์ไร้เทียมทานพุ่งไปยังกลางกบาลเป้าหมายทันที ฟีบัส อพอลโล่ ล้มลงอย่างสมศักดิ์ศรี
“ไอ้หนูอย่าได้ดูถูกกระทะคู่มือใบนี้เชียว” นายพรานชี้นิ้วมายังมนุษย์หมาป่าแอนทีรอส
“ครับคุณย่าเฮร่า”
“จำไว้นะ มีลูกสอนลูกมีหลานสอนหลาน อย่าไปวางใจกับอพอลโล่นะจ๊ะ”
ความคิดเห็น